ผู้เขียน หัวข้อ: ลูกแก้วพญานาค  (อ่าน 52026 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Maliwan

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ลูกแก้วพญานาค
« เมื่อ: 05 เม.ย. 2552, 05:46:47 »
สมาชิกท่านใดที่บูชาลูกแก้วพญานาค กรุณาให้คำแนะนำด้วย

ออฟไลน์ ชลาพุชะ

  • เราอาจไม่รู้มากนัก แต่เรารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1526
  • เพศ: ชาย
  • ที่นี่คือเว็บวัดบางพระ เราก็ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 05 เม.ย. 2552, 06:49:51 »
ผมพยายามหาข้อมูลมาให้ หากเป็น เพชรนาคคาก็ตามนี้นะครับการบูชาด้วยอามิสบูชา
กรณีที่ได้มาครั้งแรก มีเครื่องสักการบูชา ดังนี้

1. ธูป 9 ดอก

2. เทียนสีชมพูหรือสีขาว 5 เล่ม

3. ผลไม้ 9 อย่าง มีมะพร้าวอ่อน 1 คู่ กล้วยน้ำว้า(ควรมี) เป็นต้น ส่วนขนมหวานไม่ควรนะคะ เพราะเหล็กไหลมหาลาภ ท่านปู่ฤาษีท่านอธิษฐานจิตไว้ ขนมหวานบางอย่างมีส่วนผสมของคาวด้วย

4. พวงมะลิหรือพวงมาลัยอื่นๆ

5. จุดธูปเทียนตั้งนะโม 3 จบ ,ท่องไตรสรณะคม , อาราธนาศีล 5 , บทพุทธคุณ , ธรรมคุณ , สังฆคุณ

คาถาบูชาเพชรพญานาค

(นะโม๓จบ)

ปุรัสมิง ทิสาภาเค สันตินาคา
พะหิตถิกา เตปิตุมเห อนุรักขันตุ
อาโรคะเย นะสุเขนาจะ
ได้ข้อมูลมาจาก http://www.watcharathath.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=512

เพชรนาคาหรือเพชร 7 สีมณี 7 แสง เป็นของศักดิ์สิทธิ์มีอาถรรพ์พลังลึกลับอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เกิดขึ้นมา
ด้วยบุญญาธิการแห่งการบำเพ็ญเพียรพระโพธิญาณขององค์มหาพระโพธิสัตว์ที่ตั้งจิตอธิษฐานปราถนาที่จะได้ลงมา
ตรัสรู้เป็น?องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า?นับว่าเป็นความยากลำบากมาก เพราะจะต้องประกอบไปด้วยการบำเพ็ญเพียรการสร้างสมบารมีให้ครบ 30 ทัศ และต้องลงมาสร้างบารมีขั้นปรมัตถบารมีอีก 10 ชาติถึงจะสมบูรณ์ทุกประการ การสร้างบารมีบำเพ็ญเพียรนั้นจะแบ่งออกมาได้อีก 3 ประเภทคือ1.พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ต้องบำเพ็ญสร้างบารมีถึง 4 อสงไขยกำไรแสนกัป , 2.พระพุทธเจ้าสัทธาธิกะ ต้องบำเพ็ญเพียรบารมีถึง 8 อสงไขยกำไรแสนกัป ,3.พระพุทธเจ้าวิริยาธิกะ ต้องบำเพ็ญเพียรบารมีถึง 16 อสงไขยกำไรแสนกัป แค่เพียงแสนกัปนั้นก็มิอาจคาดคะเนคำนวณได้ถ้าจะนับก็เป็นล้านล้านล้านปี??.


เป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะคาดคิดคะเนได้ ที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์บรมครูได้ทรงตรัสกล่าวเอาไว้มิให้ครุ่นคิดตรึกตรองคาดคะเนเพราะเป็นเรื่อง?อจินไตย?นั้นก็คือพุทธวิสัย,การกำเนิดของโลก,ณาน,กรรมเป็นต้น เพราะเกินกำลังความรู้ความคิดคาดคะเนของมนุษย์ปถุชนคนธรรมดาที่สามารถจะกระทำได้ จะทำให้เกิดเป็นบ้าใบ้เสียสติฟุ้งซ่านเป็นความรู้ที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น มันเป็นการสร้างโลกขึ้นมา โลกแห่งความวุ่นวายในการเวียนว่ายในวัฏสงสารและไม่สามารถหาเหตุผลของทางโลกได้เลย


สิ่งที่สำคัญในปัจจุบัน จงระมัดระวังการเกิดเหตุของ?วิบัติ?ซึ่งจะแบ่งออกได้หลายข้อ แต่จะกล่าวถึงความ
?วิบัติแห่งทิฐิ?นี้ได้แก่ความวิบัติเพราะทิฐิแห่งตน ที่เกิดมีความคิดผิดเห็นผิดของตนอันไม่ถูกต้อง เพราะไปคบค้าสมาคมกับชนมิจฉาทิฐิเข้า หรือจะเป็นเหตุแห่งการไปพบสัมผัสกับอีกภพภูมิหนึ่งๆหรือว่าจะเป็นเพราะเหตุอื่นก็ตาม แล้วทำให้เกิดความคิดความเห็นที่วิปริตนอกลู่นอกทางจน?สติปัญญา?ของตนเองตามไม่ทันและไม่สามารถรู้แจ้งเห็นจริงตามสภาวะของธรรมชาติของ?เหตุและผล,เกิดและดับ?ทำให้เกิดมีความคิดความเห็นว่า? องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มี!เป็นเรี่องที่แต่งขึ้นมา , หลัง2,500 ปีหมดยุคพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน , ยุคนี้เป็นยุคพระศรีอาริยเมตไตรย , พระพุทธเจ้าแบ่งภาคจากพระนารายณ์ , พระอรหันต์ไม่มีในโลกนี้ , มรรคผล นิพาน นรก สวรรค์ บุญบาปไม่มี , สิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพพรหมเทวดาไม่มีจริง , คำสอนในศาสนาไม่มีคุณค่าไม่สามารถที่จะทำให้โลกมีสันติได้ , ตายแล้วสูญ !? ไปกันใหญ่แล้ว เพียงแค่ตนเองเกิดมาทำไม อยู่เพื่ออะไร ทำไมจะต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย หาคำตอบให้ตนเองได้ไหม! จนทำให้เกิดมีความคิดเห็นที่ไม่เข้าท่าเข้าทาง เลยทำให้ไม่มีความศรัทธาจิตที่จะเลื่อมใส ไม่มีโอกาสที่จะปฏิบัติตามกระแสพระพุทธฏีกาธรรมะอันหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงที่หาได้ยากในโลกนี้ หรือไม่ก็นำไปปฏิบัติได้ให้เกิดผลเพียงนิดหน่อย ก็คิดเข้าข้างตนเองหลงตนเองไปเปลี่ยนแปลงธรรมะคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าไปเสียนี้ นี้แหละที่เรียกว่า?วิบัติทิฐิ?ที่ต้องประสบความฉิบหายอย่างใหญ่หลวงแห่งชีวิตของตนทั้งที่ได้เกิดมาพบกับพระพุทธศาสนา


ถึงแม้สมเด็จบรมศาสดาจารย์จะเสด็จปรินิพพานไปนานแล้วก็ตาม แต่ศาสนธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ยังปรากฏอยู่ และถ้าประพฤติปฏิบัติตาม?มรรคแปดประการ?โลกย่อมไม่ว่างเว้น?พระอรหันต์?หรือเป็นแนวทางที่พาให้ตนเองก้าวพ้นสู่อบายภูมิโดยมี?นรก,ภูมิสัตว์เดรัจฉาน?เป็นที่ตั้ง ย่อมถือได้ว่าพ้นแล้วแห่งความวิบัติความฉิบหายอย่างใหญ่หลวงแล้วในชาตินี้ ย่อมไม่เสียชาติที่เกิดมาทนทุกข์ทรมาน


ตำนานการก่อกำเนิดเพชรนาคา.

นับย้อนหลังนานแสนนานไปในสมัยพุทธกาลแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป ซึ่งได้ลงมาตรัสรู้พระโพธิญาณเพื่อรื้อขนสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏะสงสารในมหาภัทรกัปนี้(ที่มีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ 5 พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่.4) ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนกึกก้องไปทั่วหมื่นโลกธาตุอนันตจักรวาลด้วยพระบารมีแห่งพระ
โพธิญาณองค์มหาพระโพธิสัตว์ เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์บังเกิด?ฝนโบกพัท?ตกลงมา ใครใคร่ให้เปียกก็เปียกใครใคร่ไม่เปียกก็ไม่เปียกด้วยพระบุญญาธิการแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป เมื่อได้ตกลงมาสู่พื้นพสุธาบางส่วนได้ประมวลตัวรวมธาตุดึงดูดธาตุทั้งสี่คือธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จนบังเกิดก่อกำเนิดเป็น?เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง?ธาตุกายสิทธิ์ขึ้นมา มีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกายรัศมีถึง 7สี ส่องแสงสว่างไปทั้งกลางวันและกลางคืนนับเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน รัศมีแห่งเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนี้ส่องสว่างครอบคลุมจนไปถึงนครใต้บาดาลดลบันดาลทำให้เกิดแสงสว่างเป็นรัศมี 7 ประการกลบรัศมีแสงสว่างอัญมณีพลอยอันมีค่าต่างๆที่อยู่ในนครบาดาลทั้งหมด จนเกิดความแตกตื่นโกลาหลไปทั่วทั้งนครบาดาล จนเหล่านาคีนาคาผู้ที่มีฤิทธิ์ต่างหาสาเหตุต่างๆนาๆถึงเหตุการณ์อันอัศจรรย์ใจนี้
จนทำให้กษัตริย์ผู้ครองเมืองนครบาดาลทั้ง 7 เมืองนามว่า?พญานาคราชสุนันโท?กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ผู้ครองเมืองนครบาดาล ที่มีเหล่าบริวารนาคีนาคาผู้มีฤทธิ์อำนาจกำลังแห่งตนมากมายนับไม่ถ้วน ได้ใช้กำลังบุญฤทธิ์ของตนอธิษฐานขอให้รู้ถึงสาเหตุของปรากฏการณ์อัศจรรย์ใจในครั้งนี้ ด้วยเหตุของกำลังบุญฤทธิ์ที่ได้สร้างสะสมมานานในสมัยอดีตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนาและได้บวชเรียนเป็นพระภิกษุสาวกแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตกาล ซึ่งได้ตั้งจิตอธิษฐาน?จะขอทะนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา?ก่อนที่จะละสังขารตายลง(ขอเว้นในเหตุของกฏแห่งกรรมที่ทำให้กำเนิดเป็นพญานาคผู้มีฤทธิ์)
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ล่วงรู้ถึงการก่อกำเนิดแห่ง?เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง?ด้วยอำนาจผลบุญบารมีแห่ง?พระโพธิ ญาณขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า?และรู้ถึงหน้าที่ของตนเองที่ได้อธิษฐานเอาไว้ พญานาคราชสุนันทโทผู้เป็นใหญ่ได้แสดงฤิทธิ์อำนาจแทรกแผ่นดินขึ้นมาพร้อมกับเหล่าบริวารทั้งหลาย ขึ้นมาสู่พื้นปัฐพีมาดูต้นเหตุอัศจรรย์อันที่ทำให้เกิดความอัศจรรย์ไปทั่วพื้นพิภพใต้บาดาล ท่านพญานาคราชสุนันโทได้มีคำสั่งให้เหล่าบริวารทั้งหลายต่างแสดงฤิทธิ์อานุภาพอัญเชิญไปเก็บรักษาเพื่อประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
เหล่านาคีนาคาบริวารทั้งหลายต่างก็อัญเชิญไปเก็บตามถ้ำตามภูเขาหมวดหมู่ที่พวกตนได้สิ่งสถิตย์พักอาศัยอยู่ ส่วนหนึ่งก็ได้นำดินสีต่างๆมาพอกหุ้มเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงเอาไว้ เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาหรือน้ำมือจากพวกมนุษย์ใจคิดคดไม่อยู่ในศีลในธรรมหรือจากเหล่าเทพพรหมที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้เห็นเป็นเพียงก้อนดินก้อนหินธรรมดา อีกกลุ่มหนึ่งได้นำไปไว้ในถ้ำที่ลึกลับที่ยากจะเข้าไปได้นำไปประดิษฐสถานเอาไปไว้ในแอ่งน้ำต่างๆภายในแต่ละถ้ำที่เห็นสมควรพร้อมกับทั้งอธิษฐานบดบังรัศมีแห่งแก้วนี้เสีย จนรอเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป



.หลวงปู่เทพโลกอุดร เกี่ยวข้องกับเพชรนาคา!.


ตามความเป็นจริงแล้วผมไม่ต้องการที่จะกล่าวถึงหลวงปู่เทพโลกอุดรหรอกนะครับ แต่มีเหตุที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง?เพชรนาคา?ที่ผมได้รับและสัมผัสเป็นครั้งแรก ถ้าไม่กล่าวถึงเลยมันก็จะข้ามขั้นตอนไปเสียในความเป็นจริงที่เกิด
กับตัวผมเองและที่สำคัญผมเคารพสักการะบูชาหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์
ในวันหนึ่งผมเดินทางไปพบพี่จิม(นามสมมุติ)ที่บ้าน เพราะว่าพี่จิมได้บูชาเพชรนาคามาจากบุคลท่านหนึ่งก่อนหน้านี้หลายปีผมได้อ่านข่าวที่ลงทางหน้าสื่อพิมพ์เกี่ยวกับเพชรพญานาคว่าเป็นการหลอกลวงเรียกเงินกันเป็นแสนๆว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์เป็นของอาถรรพ์ จึงทำให้ผมไม่ค่อยจะเชื่อถือเท่าใดนักนี้นับเป็นครั้งที่จะได้เห็นของจริง
เมื่อได้สัมผัสเห็นของจริงแวบแรกที่สัมผัสเห็น ภายในจิตบอกว่า?เป็นของศักดิ์สิทธิ์?แต่ในความที่ผมได้อ่านข่าวคราวมามันเลยทำให้จิตผมขุ่นมัวต่อต้านอยู่บ้าง ผมจึงขออนุญาตินั่งเข้าสมาธิสัมผัสดู ช่วงจังหวะนั้นเองปรากฏเห็น
ภาพหนึ่งขึ้นมา?เห็นเป็นลักษณะมองเห็นทิวยอดไม้เห็นภูเขาสูง เหมือนดึงซูมภาพเข้าไปจนถึงปากถ้ำเมื่อมองลงไปด้านข้างภูเขามองเห็นสายน้ำไหลคดเคี้ยวยาวมากอยู่พื้นดินด้านล่าง ?ก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำผมถอยออกมาจากสมาธิเสียก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ( มีเนื้อเรื่องต่อ )

.รูปร่างสัณฐานสีสันของเพชรนาคา.

เพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนั้น มีรูปร่างหลายสัณฐานหลายขนาดหลายสีสัน เพชรนาคาสามารถที่จะแบ่งออกได้เป็น 3 สัณฐานใหญ่คือ


1.สัณฐานลูกรักบี้ จะมีรูปร่างกลมยาวเรียวหัว-ท้ายเรียวมนคล้ายหัวจรวด จะมีความยาวประมาณตั้งแต่ 2-3 ซ.ม.จนถึง 9-10 ซ.ม. สามารถแบ่งเป็นประเภท1.1เป็นเพชรนาคา , 1.2.เป็นเหล็กไหลชนิดดูดติดเหมือนแม่เล็ก หรือแบบดูดไม่ติด
2.สัณฐานเหมือนพลอยหลังเบี้ย จะมีรูปร่างสัณฐานแบ่งออกได้อีก 2 แบบคือ 2.1. รูปกลม(แฮม
เบอเกอร์) จะมีรูปลักษณะทรงกลมตรงกลางจะนูนขึ้นมาดังหลังเบี้ยทั้งสองด้าน ด้านข้างจะสามารถมองเห็นคล้ายขอบรอยเชื่อมของเพชรนาคา จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์ตั้งแต่ 7 มิลลิเมตรถึง 1 ซ.ม.กว่าๆ , 2.2.รูปวงรี จะมีรูปทรงเป็นวงรีตรงกลางจะนูนขึ้นมาดังหลังเบี้ยทั้งสองด้าน จะมีขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรจนกระทั่งมีความถึงยาว 1-2 นิ้ว
3.สัณฐานกลมแบบลูกแก้ว จะมีลักษณะกลมเป็นลูกแก้ว แต่สังเกตุดูดีๆแล้วบางเม็ดจะมีรอยขอบ รอบๆ มีตั้งแต่ขนาดเม็ดเท่าปลายนิ้วก้อย( ประมาณ 1 ซ.ม.)จนถึงขนาดเท่าไข่ไก่
4.สัณฐานพิเศษที่หายาก จะมีคือ?..
4.1.ลักษณะลูกสมอจันท์ จะมีลักษณะออกจะกลมคล้ายดังลูกแก้วเหมือนกับสัณฐานกลมหลังเบี้ยแบบที่.2.1 จะมีขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณเกือบ 2 ซ.ม. หรือขนาดเท่านิ้วหัวแม่โป้ง
4.2.ลักษณะเป็นเขี้ยวแก้ว จะมีลักษณะรูปทรงสัณฐานเป็นเขี้ยว จะมีความยาวประมาณหนึ่งข้อนิ้วก้อยนิดๆจนกระทั่งมีความยาว 6 - 7 นิ้ว
4.3.ลักษณะรูปหยดน้ำ จะมีลักษณะรูปทรงคล้ายหยดน้ำขนาดใหญ่ประมาณปลายนิ้วก้อย
4.4.ลักษณะเป็นฟันกราม จะมีลักษณะรูปทรงคล้ายฟันหน้าหรือฟันกรามของคน จะมีส่วนที่ยื่นออกมาดังรากฟัน จะมีหลายขนาดทั้งฟันกรามเล็กฟันกรามใหญ่
4.5.ลักษณะรูปหัวใจ
4.6.ลักษณะรูปดอกบัว
4.7.ลักษณะรูปหงอนพญานาค
4.8.ลักษณะเป็นไข่

ซึ่งเพชรนาคานั้นจะมีสีสันที่สวยงามส่องแสงเป็นประกายมาก ยิ่งเอาไปส่องด้วยแสงไฟจะส่องเป็นประกายสีถึง 7 สีและจะมีความมันเงาแวววาว บางสัณฐานภายในคล้ายกับมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่หรือคล้ายกับมีดวงตาซ้อนอยู่ภายใน แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจนนั้นจะเป็นสัณฐานเหมือนพลอยหลังเบี้ย จึงนับว่าแปลกอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
มีผู้ที่มีความชำนาญในการดูพลอยบอกว่า ถ้าพลอยดีชั้นดีเวลาส่องดูจะเห็นเป็นแถบสายรุ้งถ้าเป็นพลอยรองลงมาเวลาส่องดูจะเห็นเป็นประกายของสี ทั้ง 7 สี เมื่อนำเพชรนาคานำมาส่องดู(แบบสัณฐานที่2)บางเม็ดด้านหนึ่งส่องดูเห็นเป็นแถบสีพอพลิกดูอีกด้านหนึ่งส่องดูเห็นเป็นประกายสีเหมือนมีชีวิตเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก


ซึ่ง หลวงปู่พวง สุวีโร วัดป่าปูลูสันติวัฒนา จ.อุดรธานีได้เล่าให้ฟังว่า?ลูกศิษย์ท่านได้นำไปตรวจสอบตรวจดูที่ต่างประเทศ ซึ่งผลปรากฏว่ามีคุณค่าเกือบจะเท่าอัญมณี แต่ก็ถือว่าเป็นแร่รัตนชาติชนิดหนึ่งที่มีคุณค่า?
การแบ่งสีสันของเพชรนาคานั้นสามารถที่จะแบ่งออกได้ 3 ประเภทก็คือ 1.สีอ่อนแต่ใส 2.สีเข้ม 3.สีเข้มออกโทนเทาดำ จะมีอานุภาพพลังที่แตกต่างกันไปตามสีสันและตามขนาดสัณฐานด้วย ยิ่งออกเป็นสีในประเภทที่ 3.ยิ่งมีพลังลึกลับอาถรรพ์เพิ่มมากขึ้น


การแบ่งตามวรรณะตามโทนสีของเพชรนาคา สามารถแบ่งออกได้คือ1.สีน้ำเงิน วรรณะกษัตริย์ 2.สีฟ้าน้ำทะเล วรรณะเชื้อพระวงศ์ 3.สีเขียว วรรณะนักบวช,ผู้ทรงศีล 4.สีแดง วรรณะนักรบ,ขุนพล 5.สีม่วง วรรณะขุนนาง 6.สีขาว วรรณะ กลาง 7.สีเหลือง,สีส้ม,สีชมพู วรรณะทั่วไป

ความหมายตามสีสันของเพชรนาคา ก็คือ

1.สีขาว หมายถึง พลังบารมีพุทธคุณหรือบารมีขององค์มหาพระโพธิสัตว์ ที่ได้ทรงบำเพ็ญเพียรถือศีลภาวนาปฏิบัติธรรมลดละกิเลสตัณหาอุปทาน ให้วางจิตให้อยู่ในสายกลางไม่มีบุญไม่มีบาป มีสติเป็นผู้รู้(เกิดปัญญา)เท่าทันในสภาวะปัจจุบัน เกิดความใสสะอาดบริสุทธิ์ มีจิตใจเยือกเย็นหนักแน่นมั่นคงไม่หวั่นไหวง่ายๆ เหมาะกับผู้ที่มีจิตใจอ่อนไหวรวนเรไม่มีความมั่นใจ


2.สีแดง หมายถึง สีแห่งกำลังฤทธิ์อำนาจ กล้าหาญเด็ดเดียวความคิดฉับไหวเฉียบคมดุดัน ตัดสินใจรวดเร็วตรงเป้าหมายทันอกทันใจ เป็นที่เคารพน่าเกรงขาม ผู้ที่ได้ครอบครอบเพชรนาคาสีแดงนี้จะต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมฝึกฝนให้จิตมี?สติ?รู้เท่าทันอารมณ์มิเช่นนั้นจะเกิดผลกระทบที่ไม่ดีเกิดขึ้นทั้งตนเองและผู้อื่น สีแดงเป็นสีที่บ่งบอกถึง?โทสะ
จริต?ที่มีความต้องการให้ทันอกทันใจรวดเร็ว บางครั้งไม่เป็นตามที่เราต้องการก็จะเกิดอารมณ์โมโหโกรธขึ้นมานี้ละตัวร้าย ยิ่งเพชรนาคาที่มีสีเข้มขึ้นมากเท่าใดยิ่งจะมีพลังทางลบมากเท่านั้น มันจะเผาผลาญทั้งกายและจิตใจให้เกิดความหม่นหมองมืดมัวเศร้าสร้อยไปทางทุคติที่ไม่ดี


2.1.สีแดงพิเศษ?จะมีเฉพาะเม็ดขนาดใหญ่จัมโบ้ รูปวงรีความยาวประมาณ 3 ซ.ม.ขึ้นไป จะเป็นสีที่พลังอานุภาพฤทธิ์อำนาจสูงกว่าสีปกติมาก เพราะจะเป็น?เพชรนาคาสีแดงขอบดำ?ครูบาอาจารย์บอกว่า?เป็นพลัง
อนันตจักรวาล? ผู้ที่สามารถที่จะครอบครองได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนาบารมีที่ได้สร้างสมมาจากอดีตชาติไว้มาก
หรือและต้องเป็นผู้ที่มี?จิต?เป็นฤทธิ์เดชตบะมหาอำนาจที่ฝึกฝนมาทางนี้ มิเช่นนั้นไม่สามารถที่จะรองรับพลังอานุภาพของเพชรนาคาที่มีพลังอนันตจักรวาลได้


3.สีเขียว หมายถึง อำนาจจิตที่มีความเมตตาเย็นกายเย็นจิต มีเดช ตบะบารมีของผู้ทรงธรรมที่มีจิตสัมผัสทาง
โลกลี้ลับเหล่าเทพพรหมเทวดา มีพลังอำนาจลี้ลับไหลเวียนเป็นกระแสล้อมรอบตัว ทำให้จิตมีความสงบเยือกเย็นมั่นคงแคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ ยิ่งสีเข้มยิ่งมีอานุภาพของพลังที่สื่อผ่านมาจากเพชรนาคาจนเย็นยะเยือก เป็นที่เคารพนอบน้อมเป็นที่น่าเชื่อถือไม่ว่าจะทำสิ่งใดพูดจาอะไร เป็นเหตุที่เกิดมาจากการบำเพ็ญเพียรตบะบารมี?สัจจะอธิษฐาน?ที่ไม่พูดปดมดเท็จหลอกลวงตลบแตลง และเป็นสีของกายทิพย์ผู้เป็นจอมเทพใหญ่ในสวรรค์ชั้นฟ้าทรงช้างเอราวัณ 3 เศียรที่มีอำนาจฤิทธานุภาพจ้าวแห่งสรวงสวรรค์แห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์


4.สีเหลือง หมายถึง ความนุ่มนวลมีสง่าราศีสีที่แสดงถึงความมั่งคั่งมีโชคมีลาภไหลมาเทมา มีความเจริญสดใสรุ่งเรืองดัง?ทองคำ?ที่มีคุณค่าในตัวเอง กระแสแห่งสียิ่งสีสดใสเท่าใดยิ่งมีกระแสแห่งโชคลาภทรัพย์สินเงินทองเปล่งประกายมากขึ้นเท่านั้น เป็นกระแสที่ทำให้น่าเกรงขามเคารพศรัทธาในความมีสง่าราศีดังเจ้าขุนคุณนายเจ้าพระยาผู้มีศักดิ์มีศรี จะได้รับการช่วยเหลืออนุเคราะห์สงเคราะห์ทำให้หน้าที่กิจการเจริญก้าวหน้าราบรื่น


หมายเหตุ?ผู้ใดได้เพชรนาคาสีเหลืองไว้ครอบครองจะต้องมีจิตใจที่ชอบทำบุญทำทานเป็นนิจวัตร มีน้อยทำน้อยมีมากเท่ามากตามกำลังของตนเองและต้องเป็นผู้ที่อยู่ในศีลในธรรม ยิ่งจะส่งผลให้เกิดกระแสแห่งทานบารมีที่บริสุทธิ์ส่งเสริมพลังเพชรนาคาสีเหลืองและองค์เทพที่รักษาดูแลมีบุญบารมีเพิ่มขึ้น


5.สีส้ม หมายถึงพลังแห่งการป้องกันภัยจากอาวุธภัยอันตรายต่างๆ เป็นพลังที่มีความคิดเด็ดเดียวกล้าหาญกล้าคิดกล้าทำกล้าที่จะเผชิญและเป็นผู้ที่มีความคิดก้าวหน้ายุติธรรมไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เป็นกระแสพลังที่ป้องกันและลดสลายอุปสรรคพลังที่ไม่ดีที่เข้ามากระทบ กระทำให้บุคคลใดผู้ใดที่คิดจะมาเบียดเบียนต้องพ่ายแพ้ตนเองไปในที่สุด มีเทพที่มีคุณธรรมดูแลปกปักรักษา และเป็นสีแห่ง?พระบารมีขององค์พระสยามเทวาธิราช?องค์มหาเทพที่ดูแลปกปักรักษาคุ้มครองประเทศชาติ,ศาสนา,พระมหากษัตริย์ จากภัยอันตรายจากศัตรูผู้ไม่เป็นมิตรที่คิดมากระทำย่ำยี


6.สีม่วง หมายถึง พลังที่มีอำนาจลึกลับยากที่จะหยั่งถึงได้ ดังคำว่า?รู้หน้าไม่รู้ใจ? เกี่ยวข้องจิตวิญญาณโอปาติกะภูติผีปีศาจทำให้เกิดความเกรงกลัวไม่กล้าที่จะคิดไม่ดีกระทำไม่ดี เหมือนมีพลังลึกลับจ้องมองอยู่ ยิ่งสีที่เข้มจนเกือบดำไม่ต้องพูดถึงมีพลังลึกลับอานุภาพมากขึ้นเป็นทวีคูณ ป้องกันภูติผีปีศาจคุณผีคุณคนคุณไสยการกระทำย่ำยีต่างๆให้เสื่อมสลายหายไป และเป็นสีที่สามารถดูดซับพลังอำนาจลึกลับทั้งดีและไม่ดีได้ขึ้นอยู่กับผู้ที่เป็นเจ้าของ


หมายเหตุ?บุคคลที่มีวาสนาครอบครองเพชรนาคาสีม่วงนี้จะเป็นคนที่มีพลังลึกลับหรือมีสัมผัสพิเศษเรื่องลึกลับบางคนอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้และเป็นคนที่ช่างคิดช่างตรึกตรองเจ้าวางแผน ถ้ามีมากจนกระทั่งออกไปทางหน้ากลัว อาจจะเกิดผลเสียหรือเกิดพลังที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น ควรที่จะฝึกปฏิบัติจิตให้มีความเมตตาหนักแน่นปล่อยวางจากอารมณ์ที่มากระทบ ให้จิตมีแต่ความโปร่งใสบริสุทธิ์จะทำให้อานุภาพของเพชรนาคาสีม่วงนี้จะเปล่งประกายออกมาครอบคลุมทั่วร่างตลอดเวลา เสมือนเกราะแก้วคุ้มครอง


6.1.สีม่วงพิเศษ? จะมีเฉพาะเม็ดขนาดใหญ่จัมโบ้ รูปวงรีความยาว 3 ซ.ม.ขึ้นไป จะเป็นสีที่มีพลังฤทธิ์อำนาจแห่งความลึกลับแห่งจิตวิญญาณโอปาติกะ ป้องกันอาถรรพ์การกระทำคุณไสยคุณผีคุณคนการกระทำย้ำยีต่างๆผูก
พยนต์ฝังรูปฝังรอย ทำให้เกิดการสลายเสื่อมอานุภาพ ศัตรูหมู่มารต่างสยบไม่กล้าที่จะคิดร้ายกระทำไม่ดี มีอานุภาพแผ่พลังครอบคลุมเป็นปริมณฑลได้ทั้งบ้าน แต่ก็ขึ้นอยู่ผู้ที่เป็นเจ้าของครอบครองมีจิตสะอาดอยู่ในศีลในธรรมหรือไม่เป็นหลัก ยิ่งที่เป็นผู้ที่ปฏิบัติทางจิตจะยิ่งเปล่งประกายของอานุภาพรัศมีกว้างขึ้น


7.สีฟ้า หมายถึง ถึงผู้ที่มีบุญวาสนาที่ได้สร้างสมมาในอดีต มีน้ำใจกว้างขวางใสสะอาด น่าเคารพนอบน้อมดังเพื่อนสนิทมิตรสหายสนิทชิดเชื้อกันมานาน พูดจาเจรจาพาทีเข้าทีเข้าท่าติดต่อค้าขายคล่องตัวลื่นไหลสะดวก เป็นผู้ที่
มีบุญฤทธิ์ที่เหล่าเทพยดาดูแลค้ำชู เดินทางไปไหนมาจะมีความสะดวกสบาย


8.สีน้ำเงิน หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจวาสนาบารมีสูงมีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์บารมี เป็นผู้นำผู้ปกครองมีทั้งเดชตบะบารมีเป็นที่เคารพน่าเกรงขามมีขุมทรัพย์มหาศาลที่ซ้อนเร้นอยู่ ดังร่มโพธิ์ร่มไทรที่แผ่กิ่งก้านร่มเย็นที่พักพิงแก่สรรพ

สัตว์ มีพลังที่ป้องกันศัตรูภัยอันตรายต่างๆทั้งแปดทิศ จะต้องมีเทพพรหมเทวดาดูแลปกปักรักษาตลอดเวลาเสริมสร้างบารมียิ่งขึ้น


หมายเหตุ?ผู้ที่บุญวาสนาได้ครอบครองจะต้องเป็นผู้ที่บุญวาสนาบารมีมาในอดีตชาติที่สร้างสมมานาน และต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมประจำใจ มิฉะนั้นจะเกิดอาถรรพ์ที่ไม่ดีแก่ผู้ที่ครอบครองเกิดความวิบัติ อย่าหลงอดีตอย่าบ้าอำนาจอย่าอวดเก่งหลงตัวเอง จงทำจิตให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดคือการปล่อยวางจากกิเลสตัณหาอุปทาน


9.สีชมพู หมายถึง สีแห่งพลังอานุภาพเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์มหานิยมนิ่มนวลอ่อนโยน มีความโดดเด่นสะดุดตาดึงดูดสำหรับเพศตรงข้ามและผู้คนรอบข้างผู้ที่เกี่ยวข้อง จะทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความเมตตาช่วยเหลืออย่างน่าอัศจรรย์ใจ ยิ่งสีชมพูเข้มออกสดใสยิ่งมีพลังมหาเสน่ห์ดึงดูดเป็นที่รักใคร่เป็นที่พึงปรารถนาดังนางพญาที่สูงศักดิ์สง่างดงามอย่างน่าประหลาด


หมายเหตุ?ผู้ที่ได้ครอบครองจะต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจที่ดีงาม ไม่นำพลังไปใช้ในทางไม่ดีดัง?ปากหวานก้นเปรี้ยวเลี้ยวตลบแตลง?ยิ่งกระทำกับเพศตรงข้ามจนกระทั่งผิดศีลในข้อที่ 3 จนเกิดความทุกข์กายทุกข์ใจ บั้นปลายท้ายสุดแล้วจะอเน็จอนาถน่าสังเวชเป็นอย่างมาก เมื่อผลกรรมนั้นมาตอบสนอง


10.สีชา(สีพิเศษ) หมายถึง สีที่มีพลังอานุภาพสามารถที่จะยับยั่งอารมณ์ความคิดที่ใช้แต่อารมณ์ ทำให้สติปัญญาความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ถูกที่ควรที่ตามไม่ทัน จนกระทำพลาดพลั้งผิดพลาดไปจนเกิดความเสียหาย เหมาะกับผู้ที่ขาดแหล่งพึงพิงทางจิตใจหรือผู้ที่มีจิตใจเลื่อนลอยเสร้าเสียใจผิดหวังท้อแท้ และมีความพิเศษก็คือจะมีอานุภาพทางมีโชคมีลาภอย่างที่คาดไม่ถึง ( เป็นสีที่หาพบได้ยาก )
แต่ตามความเป็นจริงแล้วในการบูชาเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนั้น มิใช่บูชาตามความหมายของสีว่าสีนี้ดีอย่างนี้แบบนั้นหรือสีที่เหมาะกับวันเกิดเดือนเกิดแล้วจะได้ตามนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับบุญวาสนาบารมีที่ได้สร้างสมกันตั้งแต่ในอดีตชาติและเคยได้เป็นเจ้าของกันมาก่อน ผนวกในปัจจุบันเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในศีลในธรรมเป็นที่ตั้ง มิฉะนั้นแล้วจะเกิดอาถรรพ์เพทภัยไม่ดีกับตนเอง จึงจำจะต้องมีการอธิษฐานจิต?เสี่ยงบารมี?ตามกำลังบุญวาสนาบารมีของตนเองว่า?สีใดแบบใด?จะคู่ควรกับบุญวาสนาบารมีของตัวเรา หรือได้คำแนะนำจากครูบาอาจารย์ผู้รู้เท่านั้น.

.การอธิษฐานจิตบูชา.

การอธิษฐานจิตบูชา?เพชรนาคา?นั้นมีเครื่องสักการะบูชา 1.ธูป 5 ดอก ,2.เทียน 2 เล่ม ,3.พวงมะลิหรือพวงมาลัย จุดธูปเทียนตั้ง?นะโม 3 จบ ,ท่องไตรสรณคม , อาราธนาศีล 5 , บทพุทธคุณ , ธรรมคุณ , สังฆคุณ และคาถาบูชา อม อุ อะ มะ นะ โม พุท ธา ยะ ยะ สะ สุ มัง ? ต่อด้วยการตั้งจิตอธิษฐานตามที่ต้องการ(ไม่เกินกำลังของกฏแห่งกรรม)
ต้องการทำนำมนต์ โดยการหาขันใส่น้ำสะอาด อัญเชิญ?เพชรนาคา?ลงแช่ในน้ำ พร้อมกับการจุดธูปเทียนบูชาท่องคาถา พร้อมกับสำรวมกายวาจาใจให้สงบนิ่งสักอึดใจหนึ่ง แล้วตั้งจิตอธิษฐานด้วยความแน่วแน่ตั้งมั่นจบด้วยบทแผ่เมตตา เมื่อสำเร็จสมหวังดังที่ได้อธิษฐานทุกครั้ง จะต้องทำบุญใส่บาตร,ถวายสังฆทาน,ถวายพระพุทธรูป เป็นต้น อุทิศถวายให้?พระแม่ธรณี,หลวงปู่เทพโลกอุดร,ปู่ทวดนาคราชสุนันโท,นาคานาคีเงือกบริวารทั้งหลาย ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรเป็นที่ตั้ง? ซึ่งจะเป็นการสร้างกุศลผลบุญบารมีไปในตัว
การอธิษฐานเพชรนาคา 9 สี?นำมาบรรจุรวมกันในภาชนะเดียวกัน แล้วอธิษฐานและหมุนตามเข็ม
นาฬิกา คือหมุน 1 ครั้งป้องกันภัย ,หมุน 2 ครั้งป้องกันภูติผีปีศาจ ,หมุน 3ครั้งขอโชคลาภ ,หมุน 4 ครั้งสะท้อนป้องกันสิ่งไม่ดี( ป้องกันการทำร้ายจากศัตรู ) ,หมุน 5 ครั้งป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน ,หมุน 6 ครั้งรักษาโรค ,หมุน 7ครั้ง

ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ( สามี,ภรรยารัก ) ,หมุน 8 ครั้งถ้าไม่สบายรักษาตนเอง ,หมุน 9 ครั้งชนะศัตรูหมู่มาร
หลังจากเสร็จสิ้นจากการที่นำเพชรนาคาติดตามตัวเช่น เป็นเครื่องประดับเป็นหัวแหวน,เป็นจี้ห้อยคอ,เป็นสร้อยข้อ
มือก็ตาม หรือนำมาบูชาเอาไว้ที่บ้าน ควรที่จะจัดหาพานรองรับตามความเหมาะสมวางผ้าแดงผ้าขาวรองพื้นก่อนที่นำเพชรนาคาหรือเครื่องประดับที่มีเพชรนาคาวางลงบนพาน และจัดหาขันหรือถ้วยใส่น้ำสะอาดโรยมะลิร่วงวางบูชาไว้ตรงด้านหน้าพานที่วางบรรจุเพชรนาคาอยู่ ควรจะเปลี่ยนน้ำสะอาดทุกวันหรือวันเว้นวันตามความเหมาะสม น้ำที่วางบูชาเพชรนาคานี้เป็นน้ำมนต์ที่มีพลังอานุภาพ ใช้ดื่มกินอาบราดทั่วตัวไล่สิ่งไม่ดีสิ่งไม่ดีเสนียดจัญไรที่มาเกาะติดตามตัวเรา เพื่อเป็นสิริมงคลเป็นเกราะคุ้มกันปกป้อง พร้อมระลึกขอบารมีปู่ทวดนาคราชสุนันโทกำหนดเห็นเป็นรูปองค์พญานาคมาขดล้อมรอบตัวของเราส่องแสงสว่างเป็นรัศมีกระจายรอบตัวประมาณ 1 วา
หรืออาจจะหาขันหรือภาชนะที่ใส่น้ำสะอาด พร้อมขันหรือภาชนะเล็กที่ลอยน้ำได้เพื่อนำเพชรนาคาหรือเครื่องประดับมีเพชรนาคาวางอยู่ในขันหรือภาชนะที่ลอยน้ำได้อีกทีหนึ่ง

.บ่งบอกลักษณะผู้เป็นเจ้าของ.

?เพชรนาคา?นั้นสามารถบ่งบอกลักษณะนิสัยหรือข้อติดขัด(วาระกรรม)ของผู้ที่ครอบเป็นเจ้าของ เพราะธาตุกายสิทธิ์นี้ เมื่อได้เลือกผู้ใดบุคคลใดจะ?เชื่อม?กำลังบารมีซึ่งกันและกันคล้ายดังเป็นดวงจิตเดียวกัน มีพลังอำนาจที่จะบ่งบอกจุดบกพร่องจุดที่จะต้องพัฒนาเพื่อยกระดับภูมิจิตภูมิธรรมและเพื่อแก้ไขสภาวะกรรมที่เป็นอกุศลที่ได้ตามติดมาจากอดีตที่จะส่งผลในชาติปัจจุบันนี้(ไม่เกินกฎแห่งกรรมที่หนัก)
ที่สำคัญเพชรนาคานี้สามารถ?ขยายโตใหญ่และเล็กลงได้ เกิดความขุ่นใสเปลี่ยนสีได้?ตามระดับภูมิจิตภูมิธรรมของผู้ที่ครอบครองประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรมแค่ไหน
เพชรนาคามีพลังงานของธรรมชาติที่สะสมประมวลธาตุมานานหลายล้านล้านปีประมาณมิได้ ย่อมสามารถที่จะ ?เปิดสภาวะกรรม?ให้รู้ให้เห็นได้และมีพลังที่สามารถลดกระกรรมหนักให้สลายเป็นเบาได้ แต่ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสภาวะกฏแห่งกรรมได้ นอกจาก?จิต?ผู้เป็นเจ้าของต้องเป็นผู้พฤติปฏิบัติในแนวทาง? ศีลอริยะมรรค?ก่อกำเนิดพลัง?โลกุตระ?ยกภูมิจิตยกภูมิธรรมให้จากอบายภูมิมีสัตว์และสัตว์เดรัจฉานเป็นการ?อโหสิกรรม?กันไป



.พิสูจน์.

วันที่ 26 มกราคม 2544 เวลาประมาณเกือบบ่ายสองโมง มีคนผู้หนึ่งโทรมาคุยเรื่องเพชรนาคาและเรื่องพญานาค (ต้องขออภัยจำชื่อมิได้ แต่มีเบอร์หมายเลขโทรศัพท์ 01 315-5571) คุยกันถึงรูปภาพพญานาคของนายทหารอเมริกันที่จับปลาประหลาดได้ที่แม่น้ำโขงฝั่งประเทศลาว ซึ่งจะมีลักษณะลำตัวแบนและยาวมากก็ยังมีข้อถกเถียงเป็นอย่างมากฝ่ายหนึ่งบอกว่าเป็นปลาโบราณ อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าเป็นเผ่าพันธุ์พญานาคที่จะแสดงให้ชาวโลกรู้ว่ายังมีเผ่าพันธุ์พญานาคมิใช่เรื่องงมงาย เรื่องจะจริงเท็จเพียงใดก็ไม่ทราบ แต่ทุกวันเข้าพรรษาและวันออกพรรษาชาวริมแม่น้ำโขงจะเห็นปลาประหลาดพวกนี้ว่ายกันมาเป็นฝูง แล้วก็ว่ายหายตัวไประหว่างที่เห็นตัวนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไรคงจะกลัวอาถรรพ์ ดังเรื่องบั้งไฟพญานาคที่ทุกปีของวันออกพรรษาของลาวจะเกิดมีลูกไฟหรือดวงไฟพวยพุ่งขึ้นมาจากลำน้ำโขงสู่อากาศแล้วหายไปเลย ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้จนกระทั่งบันนี้เพราะหาข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้
มาถึงเรื่องเพชรนาคา บุคคลผู้นี้บอกว่าเพชรนาคามิใช่เป็นแก้ว แต่จะเป็นหินที่ใสเป็นแก้วเพราะเขาได้ทดลองใช้ไฟเผาดู ถ้าเป็นแก้วจะหลอมละลายมีการหดตัวของเนื้อแก้ว ส่วนเพชรนาคานี้เมื่อโดนไฟเผารนจะไม่มีการหดตัวหรือละลายเหมือนแก้ว แต่จะกลายเป็นสีแดงจากการทนความร้อนสูงที่เผาไหม้จนกระทั่งในสุดท้ายแตกออกมาเป็นเสี่ยงเสี่ยง
ผมจึงถามว่าคุณทดลองเผาเพชรนาคาเองใช่ไหม เขาตอบว่าใช่ผมจึงต้องบอกเขาให้จุดธูปเทียนบูชาเพื่อขอขมาในสิ่งที่กระทำไปแล้ว โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์มิเช่นนั้นจะมีโทษในภายหลัง หลังจากที่กำลังบุญดวงชะตาบารมี
ของตนเองตกต่ำลงมา อาจจะเกิดในลักษณะผีซ้ำด้ามพลอยหรืออาจจะมีเหตุการณ์ที่จะทำให้ดวงชะตาชีวิตหน้าการงานกำลังรุ่งเรืองกับติดขัดไม่สมบูรณ์เกิดสะดุดอยู่ตลอดเวลา เพราะไปลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามก็ยังมีผลที่ติดตามมา ( มีเนื้อเรื่องต่อ )

.ผลมณีนาคราช.


และอีกอย่างที่แปลกประหลาด เมื่อดูก้อนดินที่แข็งคล้ายหินดูจากภายนอกดูแล้วจะมีความรู้สึกว่าเก่าคงมีอายุนานมาก พอนำมากระเทาะดูเนื้อภายในแล้วไม่น่าที่จะมีอายุตามที่คิด แต่ก็คงมีอายุนานมากพอสมควรซึ่งกลายสภาพแข็งคล้ายหินได้ และที่สำคัญถ้าคิดว่าเป็นการทำขึ้นมาจะทำได้อย่างไรที่จะทำให้ภายในกลวงและมีผงติดรวมกับเพชรนาคาได้?! คล้ายดังผลมณีโคตรที่มีขนาดตั้งแต่ลูกมะพร้าวกระทั่งเท่าไข่ไก่ ภายในจะมีผงสีเหลืองบางสีขาวบางและสามารถที่จะละลายน้ำได้ อธิษฐานกินเป็นยารักษาโรคได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ บางก้อนเมื่อกระเทาะออกมานำผงไปละลายน้ำจะมีบางส่วนที่ไม่ละลาย จะมีลักษณะคล้ายเม็ดกรวดเป็นแก้วขาวใสสัมผัสได้ว่าเป็น?พระธาตุ?มิใช่จะมีอยู่ในทุกก้อน ( มีเนื้อเรื่องต่อ )

.ลูกแก้วเสด็จหรือเพชรนาคา !.

เป็นวัตถุธรรมชาติที่มีพลังอานุภาพอยู่ในตนเองต้องอาศัยระยะเวลานานหลายพันหลายหมื่นปีในการรวมธาตุ
ทั้งสี่จนแปรสภาพให้มีความแข็งแกร่งสดใสงดงามเช่นนี้ ได้ดูดซับแร่ธาตุต่างๆและพลังสุริยันจันทราสะสมจนเกิดมี

พลังอานุภาพในตนเอง และมีเทพเทวดารักษามาสถิตย์ดูแลรักษาเพราะเป็นทรัพย์สมบัติของพระศาสนาที่รอเวลาปรากฏขึ้นมาทำประโยชน์ให้กับพระศาสนา ซึ่งเทพเทวดาในแต่ละองค์ย่อมมีอิทธิฤทธิ์บุญฤทธิ์และคุณธรรมที่แตกต่างกันไป ก็ยังมีนิสัยในกมลสันดานของจิตอยู่บ้างคล้ายกับมนุษย์เดินดินธรรมดาอย่างคนเรา
ผู้ที่ได้มีวาสนาครอบครองควรพึงสังวรระมัดระวังให้ดีอยู่ในศีลในธรรมอย่าให้ออกนอกลู่นอกทางจะไม่เป็นมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เพราะอานุภาพของเพชรนาคาที่จะเปล่งอานุภาพได้เต็มที่นั้นจะต้องประกอบไปด้วยคุณธรรมและบารมีของผู้ที่ครอบครอง
เพชรนาคานั้นเมื่อนำมาโดนแสงสว่างยิ่งส่องแสงเป็นประกายสวยงามแวววาวจับตามากขึ้น นับว่าเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก และมีความแข็งแรงทนทานต่อการตกหล่นกระทบกัน เมื่อนำเพชรนาคามาลองกรีดบนแก้วน้ำจะทำให้แก้วน้ำเป็นรอยกรีด ส่วนเพชรนาคาจะไม่เป็นรอยขูดขีดและที่สำคัญตรงรอยขอบของเพชรนาคาแบบ

สัณฐานที่.2 จะมีความมันลื่นไม่สากมือเหมือนรอยเจียระไนหรือขอบรอยอัดของพลอยอัด(มีการทำเลียนแบบแล้วนำเข้าพิธีปลุกเสก)
เพชรนาคานั้นจะมีความพิเศษซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับบุญวาสนาบารมีและการประพฤติปฏิบัติของผู้ที่ครอบครองเพชรนาคา เพราะสามารถที่จะเปลี่ยน?สี?จากสีอ่อนเป็นสีเข้มหรือเปลี่ยนเป็นสีต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจและเปลี่ยนเป็นขุ่นหรือใสตามสภาวะจิตของผู้ครอบครอง ที่สำคัญไปกว่านั้นสามารถที่จะ?เสด็จ?ไปมาเพิ่มขึ้นได้คล้ายดัง
?พระธาตุเสด็จ? คงเคยจะได้ยินคำกล่าวจากผู้เฒ่าผู้แก่หรือครูบาอาจารย์ที่ได้พบเห็น?ลูกแก้วเสด็จ?ผุดมาจากพื้นดินแล้วพุ่งลอยขึ้นไปเป็นดวงแสงสว่างไสวลอยวนเวียนไปมาแล้วก็หายไป แต่ก็มีครูบาอาจารย์บางองค์ที่มีลูกแก้วเสด็จไว้ครอบครองเช่น พระอาจารย์บรรลังก์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทยโสธร จ.ยโสธร เป็นศิษย์เจ้าคุณโฮมอดีตเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯสายพระกรรมฐานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มีลูกแก้วเสด็จมาปรากฏไว้ให้ท่านพระอาจารย์ครอบครองไว้จำนวนหนึ่งนับว่าเป็นบุญวาสนาบารมีธรรมของพระอาจารย์บรรลังก์
?ลูกแก้วเสด็จ?อาจจะเป็นหนึ่งใน?เพชรนาคา?แบบสัณฐานที่.3 (กลมเป็นลูกแก้ว) ก็เป็นไปได้ เพราะเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่มีอานุภาพมีเหล่าเทพเทวดาดูแลรักษา ที่จะนำมามอบให้กับผู้ที่มีบุญวาสนาบารมีธรรมหรือเคยเป็นเจ้าของดังเดิมมาจากในอดีตชาติปางเก่า
ที่มาของข้อมูล :  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=162588
หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 05 เม.ย. 2552, 08:09:17 »
ขอบคุณข้อมูลมากครับผม สมัยนี้มิจฉาชีพมีมากนะครับ ระมัดระวังไว้บ้างก็ดีครับ  :001:

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 05 เม.ย. 2552, 08:52:08 »
ขอบคุณครับพี่ชลาฯ  เป็นข้อมูลที่ควรศึกษาให้ชัดเจนจริงๆ ก่อนจะตัดสินใจหามา  :095: :095:

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ต้นน้ำ~

  • ลูกบางพระ
  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 3234
  • เพศ: ชาย
  • แก้งค์ ศาลา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 05 เม.ย. 2552, 09:24:26 »
เยี่ยมๆๆๆพี่ศักดาสุดยอดจริงเลยขอบคุนนะครับ

ออฟไลน์ Pig_Never_Die

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 264
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 05 เม.ย. 2552, 11:12:21 »
หวังว่าคงได้จากคนที่คุณเชื่อถือได้นะครับ ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าอภินิหารเยอะเกินไป สัมผัสและเข้าใจได้ยาก ขอเลี่ยงละกัน

porvfc

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 05 เม.ย. 2552, 11:20:47 »
ขอบคุณพี่ชลาฯสำหรับข้อมูลนะคะ :054:  สวยดีค่ะ ชอบลูกสีม่วงอ่า  อยากด้ายยยยยยๆๆๆจั๊กลูก อิอิ  02;

ออฟไลน์ porpar

  • ......... ขอคุณพระคุ้มครอง ........
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1274
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 06 เม.ย. 2552, 12:07:56 »
ขอบคุณพี่ชลาฯสำหรับข้อมูลนะครับ............. :002:

ออฟไลน์ น้องลิงน้อย

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1127
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 06 เม.ย. 2552, 12:35:15 »
น่าสนใจมากค่ะ :053:  ขอบคุณพี่ชลาพุชะมากค่ะ น่ารักจริงๆ  :080:
น้องลิงน้อยชอบสีเขียว กะ สีชมพู ค่ะ  :090:

ออฟไลน์ Maliwan

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 06 เม.ย. 2552, 02:14:49 »
   ขอขอบคุณชลาพุชะมากที่ให้คำแนะนำ  น้อมนำมาปฏิบัติเพื่อศิริมงคลของชีวิต :054:

ออฟไลน์ kaitip

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 468
  • เพศ: หญิง
  • ความดีไม่มีขาย...อยากได้ทำเอาเอง..
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 06 เม.ย. 2552, 04:48:02 »
 :095: ขอบคุณพี่ชลาฯมากนะค่ะ..ได้ความรู้ปึกจิงๆค่ะ..งดงามมากเลยค่ะ..


อย่าเจ็บ อย่าจน อย่าต่ำกว่าคน อย่าจนกว่าใคร....