ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓
ช่วงนี้ก็ใกล้จะเข้าพรรษาแล้ว ไปไหนมาไหนก็พบแต่คนชวนกันทำบุญ
ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็จะเน้นไปในเรื่องการบริจาคทานกันเป้นส่วนมาก ชวนกันไปทำบุญ
ถวายเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน เพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ก็ขออนุโมทนาในกุศลจิตศรัทธาของท่านทั้งหลาย ที่ขวนขวายในสิ่งที่เป็นบุญกุศล
วิธีการทำบุญนั้น ภาษาพระ ภาษาธรรมะ เรียกว่าบุญกิริยาวัตถุ คือเหตุที่ทำ
ให้เกิดบุญ หรือวิธีที่จะได้บุญนั้นเอง หมายถึงวิธีที่กระทำแล้วได้ชื่อว่าทำบุญและจะได้รับ
ผลบุญคือการนำมาซึ่งความสุข ซึ่งพอจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆได้ ๑๐ วิธี หรือที่เรียกว่า
บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อันประกอบด้วย
๑.ทานมัย คือการทำบุญด้วยการให้ทาน
๒.สีลมัย คือการสร้างบุญด้วยการรักษาศีล
๓.ภาวนามัย คือบุญที่ทำด้วยการอบรมจิตใจให้มีสติ
๔.อปจายนมัย คือบุญที่เกิดจากการอ่อนน้อมถ่อมตน
๕.เวยยาวัจมัย คือบุญที่เกิดจากการขวนขวายช่วยเหลือผู้อื่น
๖.ปัตติทานมัย คือบุญที่เกิดจากการแผ่ส่วนบุญ
๗.ปัตตานุโมทนามัย คือบุญที่เกิดจากการอนุโมทนากับความดีที่ผู้อื่นทำ
๘.ธัมมัสสวนมัย คือบุญที่ได้จากจากรับฟังธรรม
๙.ธัมมเทสนามัย คือบุญที่ได้จากการแสดงธรรม แนะนำสั่งสอนผู้อื่น
๑๐.ทิฏฐุชุกรรม คือบุญที่เกิดจากการทำความเห็นให้ตรง
ซึ่งวิธีที่จะได้มาซึ่งบุญนั้น มีเพียงทานมัยอย่างเดียวที่ต้องใช้วัตถุสิ่งของและปัจจัยเงินทอง
ในการให้ได้มาซึ่งบุญ ส่วนวิธีที่จะได้มาซึ่งบุญส่วนอื่นนั้น เป็นการกระทำที่กายและใจ เพื่อจะได้
มาซึ่งบุญ ทุกคนสามารถที่จะทำบุญได้สร้างบุญได้ ตามความเหมาะสมของ เวลา จังหวะ โอกาศ
สถานที่และตัวบุญคน ทุกเวลาเราสามารถที่จะสร้างบุญให้เกิดขึ้นแก่ตัวเราได้เสมอถ้าเราคิดจะทำ
และมิใช่เป็นเรื่องยากเลยที่จะทำ เพราะบุญนั้นสำเร็จได้ด้วยใจ ไม่ได้หวังซึ่งคำสรรเสริญยกย่อง
จึงไม่ต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ ซึ่งเราจะรู้ิอยู่แก่ใจ ว่าในสิ่งที่เราทำไปว่าเป็นบุญรึเปล่า โดยการมาดูใจ
ของเราว่ามีความสุขหรือไม่ เพราะบุญนั้นนำมาซึ่งความสุข ถ้าทำแล้วใจเป็นทุกข์ บุญนั้นก็หายไป
บุญจะเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น สำคัญที่ใจคือเจตนา ว่าเราหวังประโยชน์ตอบแทนในสิ่งที่เราทำหรือไม่
เพราะเราไปมุ่งหวังสิ่งตอบแทนในการกระทำ เมื่อไม่ได้ดั่งที่หวัง ย่อมเกิดความน้อยใจและเสียใจ
หรือถ้าได้ดั่งที่เราหวัง เราก็จะเกิดความลำพอง หยิ่งผยองและถือดี ซึ่งก่อให้เกิดมานะทิฏฐิ อัตตา
สิ่งที่จะได้มาซึ่งบุญนั้น คือการกระทำที่บริสุทธิ์ใจ ทำแล้วสบายใจ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น บุญนั้นจะสมบูรณ์ได้ด้วยจิตที่อยู่ในพรหมวิหาร ๔ มีความปรารถนาดีเป็นที่ตั้ง
ไม่ได้มุ่งหวังการตอบแทนจากผู้อื่นเขา ในลาภ ยศสรรเสริญ สักการะ ไม่ใช่ภาระ แต่เป็นหน้าที่ของ
มนุษย์ผู้หนึ่งที่ต้องสร้างความดีตอบแทนสังคมและสร้างกรรมดีให้กับตนเอง...
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๕๒ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย