หลักการปฏิบัติในพรหมวิหาร ๔ นี้ เป็นพื้นฐานของการสร้างบารมีทั้ง ๓๐ ประการ
และต้องปฏิบัติพร้อมกันทั้งองค์ ๔ มิใช่เลือกปฏิบัติเพียงข้อใดข้อหนึ่ง ต้องมีพร้อมกันทั้งองค์๔
และมีความเหมาะพอดี ไม่หวังผลตอบแทนกลับคืนมา จึงจะไม่เกิดทุกข์ ข้อที่ถือปฏิบัติได้ยากที่สุด
ก็คือ..อุเบกขา การวางเฉย ซึ่งถ้าไม่เข้าใจในธรรมอย่างแท้จริงแล้ว มันจะกลายเป็นการทอดทิ้งธุระ
อุเบกขานั้นต้องมีพื้นฐานมาจาก เมตตา กรุณา มุทิตา เป็นเบื้องต้น อุเบกขาคือการไม่หวังผลในกรกระทำ
ทำไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้นหรือจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องของเวรกรรม ใจไม่ไปยึดติดในการกระทำ หรือคาดหวัง
ว่ามันต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ ตามที่ใจของเราปรารถนาให้เป็น
อุเบกขานั้นต้องเกิดจากใจที่บริสุทธิ์ เห็นทุกข์ เห็นภัย เห็นโทษ เห็นประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ เห็นธรรม
ทำหน้าที่ของตนสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว ใจจึงวางเฉยต่อผลที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นในทางที่ดีหรือในทางที่ร้าย
ไม่ใช่เกิดจากการที่ไม่ได้ดั่งใจ ไม่ถูกใจ แล้วจึงวางเฉย อย่างนั้นเรียกว่าการทอดทิ้งธุระ จึงต้องกลับไปพิจารณา
ถึงที่เกิดของอารมณ์อุเบกขา ว่ามันมาจากเหตุและปัจจัยอะไร ใจนั้นจึงวางเฉย
อุเบกขาการวางเฉย กับ การทอดทิ้งธุระนั้น อาการภายนอกและภายในนั้นคล้ายกัน แต่แตกต่างกันตรงที่
เหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดการวางเฉย การทอดทิ้งธุระ ซึ่งมาจากเหตุปัจจัยที่แตกต่างกัน และให้ผลแตกต่างกัน
การทอดทิ้งธุระนั้น เกิดจากอคติจิต ไม่สบอารมณ์ ไม่ถูกใจ ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว กลัวความวุ่นวายที่จะตามมา
และความน้อยใจเพราะไม่ได้ดั่งใจ จึงไม่สนใจวางเฉย ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
อุเบกขาการวางเฉยนั้น เกิดจากการที่เข้าใจในธรรม เกิดจากกุศลจิต เข้าใจในกรรมของสัตว์โลกทั้งหลาย
และได้ทำหน้าที่ของตนสมบูรณ์แล้ว ในเมตตา กรุณา มุทิตา แล้วจึงวางใจให้เป็นอุเบกขา