กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 26 ต.ค. 2553, 08:13:07

หัวข้อ: คิดไป เขียนไป...เรื่องเล่าหลังออกพรรษา
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 26 ต.ค. 2553, 08:13:07
(http://img219.imageshack.us/img219/803/s1035552.jpg)

ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
  ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๓
         เช้าหลังวันปวารณาออกพรรษา ( แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ) ออกไปรับบิณฑบาตร
ข้าวสารอาหารแห้ง งานบุญประเพณีตักบาตรเทโวฯ ซึ่งจัดในหมู่บ้านเป็นประจำมาทุกปี
นิมนต์พระทั้งตำบลมารับบาตร ไปฉันข้าวต้มรวมกันที่วัดในหมู่บ้าน เพื่อที่รอความพร้อม
ทั้งของพระและของโยม กว่าจะได้ออกบิณฑบาตรก็ ๐๗.๓๐ น. ซึ่งถือว่าตะวันสายแล้ว
และกว่าจะรับบาตรเสร็จก็ ๐๘.๔๕ น. ปีนี้มีญาติโยมมาร่วมตักบาตรเทโวมากเหมือนทุกปี
แต่มีพระมารับบาตรน้อยกว่าทุกปี เพราะถูกเกณฑ์ให้ไปรับบาตรที่วัดของเจ้าคณะจังหวัด
บนเขามโนรมณ์ มีพระมารับบาตรเพียงสามสิบกว่ารูป โยมมาตักบาตรพันกว่าคนและโยม
เตรียมของมาเยอะ พระน้อยโยมเลยใส่เยอะ รับได้ไม่เกินสามคนก็เต็มบาตรแล้ว ต้องรีบ
ถ่ายบาตร มีพวกเด็กๆฝีพายมาช่วยรับบาตร พระ ๗ รูป ได้ของบิณฑบาตรมาล้นรถกะบะ
กลับมาถึงวัดมีญาติโยมมาช่วยกันแยกของ ได้น้ำตาลประมาณ ๗๐ ก.ก. ข้าวสารเหนียว
ประมาณ ๑๐๐ ก.ก. ข้าวสารเจ้าหอมมะลิประมาณ ๕๐ ก.ก. ขนมประมาณ ๑๐ กระสอบปุ๋ย
พริกแห้งประมาณ ๑๕ ก.ก. เกลือประมาณ ๑๐ ก.ก.น้ำปลา น้ำมัน อย่างละประมาณ ๑๐ โหล
หอม กระเทียมอีกประมาณ ๒๐ ก.ก. บะหมี่สำเร็จรูปอีกประมาณ ๑๐ กระสอบ นมกล่อง น้ำดื่ม
น้ำหวานอีกประมาณ ๑๐ กระสอบ ซึ่งกว่าจะคัดแยกกันเสร็จก็เกือบเที่ยง แจกถุงให้โยมและเด็กๆ
คนละใบ ใส่ขนมแบ่งๆกันไป เพราะมันมากเกินไปและพระท่านก็ไม่ได้ฉัน แยกของเสร็จพระท่าน
ไปเที่ยวเมืองสะหวันนะเขต ประเทศลาวกัน เพราะเป็นวันที่ข้ามไปมาหากันได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือ
เดินทาง ไม่ต้องเสียค่าเหยียบดิน  ไม่ได้ข้ามไปฝั่งลาวกับเขาเพราะว่าข้ามไปมาบ่อย เลยอยู่เฝ้าวัด
นั่งถอดแบบวัสดุอุปกรณ์ที่จะทำที่สรงน้ำพระปริวาส คำนวนวัสดุและประเมินราคาค่าวัสดุ ระยะเวลา
สามวันที่ผ่านมานี้ยุ่งอยู่กับเรื่องการก่อสร้าง ออกไปสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ ช่วยกันทำงานเพื่อเร่งให้เสร็จ
ก่อนงานกฐิน เพราะหลังจากรับกฐินแล้วจะออกเดินทางไปปลีกวิเวกเก็บตัวแต่ผู้เดียวในป่าสักสองเดือน
จึงเร่งเก็บงานที่ค้างคาเสียให้เรียบร้อย จะได้ไม่กังวลใจ (กัมมะปลิโพธ) เมื่อออกไปเก็บตัวปฏิบัติธรรม
ดั่งสุภาษิตที่ว่า" อนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง " การทำงานไม่คั่งค้างเป็นมงคลของชีวิต
ซึ่งตามแผนงานการบูรณะสร้างวัดทุ่งเว้าขึ้นมาใหม่นั้นยังเหลืองานอีกไม่กี่อย่างที่ยังทำไม่เสร็จตามที่ตั้งใจไว้
เหลือระบบไฟฟ้าของพระธาตุเจดีย์และอุโบสถ ซึ่งตอนนี้วัสดุอุปกรณ์นั้นเตรียมไว้ครบแล้ว รอช่างมาดำเนินการ
งานทาสีเสนาสนะทั้งหมด (รอให้สร้างเสร็จหมด ทาทีเดียวพร้อมกัน จะได้ใหม่เหมือนกันและเก่าพร้อมกัน )
ซึ่งตอนนี้สีที่จะใช้ทั้งหมดก็เอามาเตรียมไว้แล้ว รอแต่เพียงจังหวะเวลาดินฟ้าอากาศที่เหมาะสมจึงจะได้ลงมือทำ
กับงานชิ้นสุดท้ายก็คือ งานเขียนผนังภายในพระอุโบสถ ซึ่งจะเขียน ยันต์ ๑๐๘  นะ๑๐๘ หัวใจ ๑๐๘ และบทสวด
มนต์พระปริตทั้งหมด ไม่ได้เขียนรูปภาพพุทธประว้ติ รูปภาพพระเจ้าสิบชาติหรือพระเวสสันดรชาดก เพราะวัดอื่นเขา
เขียนกันเขามีกันเกือบทุกวัดแล้ว เลยต้องหาเอกลักษณ์ให้แก่วัดทุ่งเว้าใหม่ ฉีกแนวจากวัดอื่นไป เป็นทางเลือกใหม่
ให้แก่ผู้ที่จะมาเยี่ยมชม และมีรายได้พอที่จะเลี้ยงวัดเมื่อเราไม่อยู่ ไปอยู่ที่อื่นแล้ว
             นับวันเวลาที่เข้ามาบูรณะสร้างวัดทุ่งเว้าขึ้นมาใหม่นี้ เป็นเวลา ๖ ปี ๓ เดือน จากไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรเลย
มีเพียงเนินดิน กองอืฐ กองหินและป่าไม้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ ๒๐ ล้าน ยอมรับว่ามีบ้างที่เหนื่อยล้า
ทั้งกายและใจ แต่ไม่เคยท้อและถอย หกปีกว่าที่ผ่านมานั้นได้อะไรมากมาย ทั้งในสิ่งที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมทั้งหลาย
และสิ่งที่จับต้องไม่ได้แต่รู้ได้ด้วยใจ อันเป็นนามธรรมทั้งหลาย คุ้มค่ากับวันเวลาที่ผ่านไป เมื่อสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้นั้น
มันบรรลุผลตามที่วางไว้ ก็คงถึงเวลาที่จะต้องไป " ทำให้ดู อยู่ให้เห็น สอนให้เป็น แล้วก็ไป " ซึ่งถ้าเราไม่ไปพวกเขา
ก็ไม่โต เมื่อเราไม่อยู่ เขาต้องคิดเองเป็นและทำเองเป็น เพื่อที่จะพาสำนักให้ไปรอดได้ " ไม่มีเราเขาก็อยู่กันได้ อย่าให้
ความสำคัญต่อตัวเองมากไป มันจะกลายเป็นการยึดติด " ชีวิตนั้นต้องเดินต่อไป ตราบที่ยังมีลมหายใจและยังไม่สิ้นกิเลส
ไปเพื่อสร้างเหตุและปัจจัย ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายเจตนารมณ์ที่ตั้งใจไว้ "ฝันให้ไกล ไปให้ถึง ซึ่งความฝัน "......
                                เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                                    รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
                                         ๒๖ ต.ค.๕๓ /๒๐.๑๓ น.
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...เรื่องเล่าหลังออกพรรษา
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 26 ต.ค. 2553, 08:20:49
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:
ศิษย์ขอร่วมบุญอนุโมทนากุศลในครั้งนี้ด้วยครับ  :054:
กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องเล่าหลังออกพรรษา รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ไหว้ครูปีหน้าคงได้มีโอกาศได้มนัสการพระอาจารย์นะครับ  :054:
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...เรื่องเล่าหลังออกพรรษา
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 26 ต.ค. 2553, 08:21:55
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ พระอาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...เรื่องเล่าหลังออกพรรษา
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 26 ต.ค. 2553, 08:48:25
"ฝันให้ไกล ไปให้ถึง ซึ่งความฝัน "
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ได้อ่านบทความนี้แล้วคงไม่นานคงได้อยู่ใกล้กับพระอาจารย์มากขึ้นน่ะครับ
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...เรื่องเล่าหลังออกพรรษา
เริ่มหัวข้อโดย: หลังฝน.. ที่ 26 ต.ค. 2553, 11:38:51
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ศิษย์ขออนุโมทนาบุญครั้งนี้ด้วยนะครับผม
พระอาจารย์จะออกปรีกวิเวกผมคงคิดถึงมากๆเลยครับ ไม่ได้อ่านบทความดีๆหลายเดือนเลย พระอาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะครับผม
ด้วยความเคารพอย่างสูงครับผม... :054: :054: :054:
หัวข้อ: ตอบ: คิดไป เขียนไป...เรื่องเล่าหลังออกพรรษา
เริ่มหัวข้อโดย: รันตี ที่ 27 ต.ค. 2553, 07:58:44
กราบนมัสการและอนุโมทนากุศลครับ การทำงานไม่คั่งค้างเป็นมงคลของชีวิต อันนี้สำหรับผมคงต้องเขียนไว้ข้างฝาตัวใหญ่ๆ เลยครับ

ผนังพระอุโบสถเมื่อเลือกภาพประดับแตกต่างจากเขา ถ้ามีข้อมูลอธิบายตั้งไว้ให้เป็นความรู้ด้วยผู้มาเยือนจะยิ่งได้ประโยชน์ครับ