ผู้เขียน หัวข้อ: นำมาฝากครับพี่NaMaPaTa  (อ่าน 1501 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เค็น

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 189
  • เพศ: ชาย
  • หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ "เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำนครชัยศรี"
    • ดูรายละเอียด
นำมาฝากครับพี่NaMaPaTa
« เมื่อ: 25 ต.ค. 2549, 03:35:16 »
อาโปกสิณ

การเพ่งนํ้า





นํ้าเป็น1 ในธาตุ 4 คือ ดิน นํ้า ลม ไฟ

นํ้านั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต เพราะนํ้านั้นช่วยต่ออายุให้กับสิ่งมีชีวิตและยังความชุ่มชื้น สดชื่นมาให้กับโลก

ดังนั้น

นํ้ามีธาตุเย็นอยู่ในตัวโดยธรรมชาติ

นํ้าจึงสามารถดับความกระหาย

ระบายผ่อนคลายความร้อนได้

หน้า150

เมื่อเพ่งกสิณไฟแล้วเกิดอาการร้อนใน ตาแดง และมีอาการไข้ขึ้นแล้ว ก็อาจจะอาศัยการเพ่งกสิณนํ้าเป็นอารมณ์ ก็จะช่วยบรรเทาอาการร้อนในนั้น ผ่อนคลายลดเบาบางลงได้

วิธีเพ่งนํ้าทำดังนี้

ตักนํ้าสะอาดบริสุทธิ์ใส่ลงในขันหรือบาตรทรงกลมแล้วนำมาตั้งห่างจากตัวเราประมาณ 1 ศอก

ผู้ฝึกนั่งในท่าขัดสมาธิ เพ่งมองลาดตํ่าในลักษณะตาจ้องมองนํ้าทั้งวงกลมที่บรรจุอยู่ในภาชนะเพื่อจับเป็นนิมิต โดยตาเราจับจ้องที่นํ้านั้น ให้นึกถึงนิมิตนั้น คือ นํ้าและให้นึกถึงสภาพของนํ้านั้นมีความเย็นเป็นธาตุแท้ เมื่อเราเพ่งมองจนจำนิมิตได้แล้ว ก็พยายามเอาตัวเรากลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นํ้าคือตัวเรา เราคือตัวนํ้า นํ้านั้นก็จะชะล้างจิตของเราให้คลายจากความเร่าร้อนได้ แล้วความเย็นของนํ้ายังแผ่ซ่านทั่วกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าให้เย็นสบายสดชื่น

หน้า151

นิมิตกสิณนํ้าที่ได้นี้

ใหม่ๆจะเห็นเป็นวงกลมที่มีนํ้ากระเพื่อมๆไหวๆ เหมือนมีคลื่นแผ่มาเป็นระลอกๆอยู่พักใหญ่

แต่เมื่อจับจ้องเพ่งมองไปมากๆเข้า

นํ้าที่มีคลื่นนั้นจะค่อยๆนิ่งสงบลง

แต่ยังมีประกายระยิบระยับคล้ายลมเป่าผิวนํ้า

ต้องปรับจิตจับจ้องเพ่งพิจารณาให้นํ้าสงบมากขึ้น

ต่อมาผิวนํ้านั้นก็จะสงบเรียบเป็นสีขาวสนิท

ใสสะอาดดังนํ้าทิพย์จากฟากฟ้าแดนสุขาวดี

ผู้ฝึกถึงภาวะนี้จะมีจิตใจสงบแช่มชื่น

เหมือนดังนํ้าทิพย์นั้นได้ชโลมกายทั้งใจให้ปลอดโปร่ง

เป็นที่ร่าเริงสุขใจยิ่งนักท่ามกลางความสงบสุขนั้น



หลวงปู่ท่านหนึ่งท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า

ท่านได้บรรลุฌานญาณขั้นสูงด้วยการเพ่งกสิณนํ้า คือ เมื่อได้เพ่งกสิณนํ้าจนได้นิมิตเป็นรูปฌานในระดับ

หน้า152

ปฐมฌานเจริญถึงจตุตถฌานแล้วก็เข้าพิจารณาสภาวะของนํ้าว่าที่เกิดที่ดับ ตั้งแต่ละอองนํ้ามีอยู่ในอากาศรวมตัวเป็นก้อนเมฆจนตกลงมาเป็นฝนรวมตัวเป็นลำธาร แม่นํ้า ทะเล มหาสมุทร แล้วก็ระเหยขึ้นไปเป็นละอองนํ้าอีกครั้งหนึ่งที่ลอยๆอยู่ในอากาศเป็นการพิจารณามองเห็นวงจรของนํ้าที่ไม่ยั่งยืนจีรัง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่เป็นบุคคลตัวตนเราเขาที่จะให้ยึดมั่นถือมั่นได้

การได้พิจารณาเช่นนี้

ผู้ปฏิบัติย่อมมองเห็นวัฏฏะของนํ้า แล้วเมื่อมองเข้ามาพิจารณาตน ก็จะเห็นร่างกายก็เป็นไปดังเช่นนํ้าที่เมื่อเกิดขึ้นก็เดินไปสู่การดับ จิตก็สามารถคลายจากการยึดมั่นถือมั่นในตนที่เคยหลงว่าเที่ยงแท้

จิตจึงสามารถลอยอยู่เหนือสังขารที่เกิดมา

สามารถพัฒนาจิตเข้าสู่สภาวะนิ่งสงบอย่างสมบูรณ์


ออฟไลน์ NaMaPaTa

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 90
  • เพศ: ชาย
  • { ลูกหลวงพ่อบ้านแหลม }.....(((ศิษฐ์หลวงพ่อเปิ่น)))
    • MSN Messenger - SIT1802@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: นำมาฝากครับพี่NaMaPaTa
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 26 ต.ค. 2549, 10:06:25 »
(แทงยู)        จึ้ก ๆ ๆ   :005:
อิติปิโสวิเสเสอิ�� � � อิเสเสพุทธะนาเมอิ
อิเมนาพุทธะตังโสอิ� � � อิโสตังพุทธะปิติอิ

ออฟไลน์ นาย วัชรพล น้ำใจดี(###เปียกปูน###)

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 433
  • เพศ: ชาย
  • ***มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุระนารี***
    • MSN Messenger - w_nai2525@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.sut.ac.th/sutweb/index.html
    • อีเมล
ตอบ: นำมาฝากครับพี่NaMaPaTa
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 31 ต.ค. 2549, 11:13:49 »
ขอถามต่อคราบ...กสิณดิน และ กสิณลม ละคราบ....ขอเพิ่มอีกคราบ..
*** คิดดี ทำดี พูดดี สิ่งดีๆ ต่างๆ ก็จะทำให้เราได้ดี***
     คนเราจะดีได้...ต้องทำที่ชั่วให้ดีก่อน
     ที่ดีอยู่แล้ว อย่าไปทำราย...