กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 18 ก.ค. 2552, 09:43:21

หัวข้อ: บันทึกธรรม...๑๗ ก.ค.๕๒
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 18 ก.ค. 2552, 09:43:21
 :054:ตั้งแต่รู้สึกตัวและตื่นลืมตา จนถึงเวลาหัวถึงหมอนก่อนจะหลับ เราต้องพบกับเรื่องราวมากมายหลายหลาก และถ้าหากเราไม่รู้จักคิด
และพิจารณา  มันก็จะพาให้ใจเราสับสนและวุ่นวายกลายเป็นทุกข์ เพราะใจเราไปเก็บเอามาทุกเรื่องที่เจอะเจอ  เราจึงต้องหมั่นฝึกจิตฝึกคิด
และฝึกจบเป็นเรื่องๆไป ฝึกจัดข้อมูลเสียใหม่ในส่วนความจำของเรา  ฝึกคัดแยกข้อมูลข่าวสารที่รับรู้ สิ่งไหนมีสาระ สิ่งไหนไม่มีสาระ สิ่งไหน
เป็ยขยะ สิ่งไหนที่เอากลับไปใช้ได้ สิ่งไหนมีความหมายและเป็นประโยชน์ เราต้องรู้จักแยกแยะมีประโยชน์เก็บไว้ ส่วนที่ใช้อะไรไม่ได้ก็ทิ้งไป
จัดเรียงข้อมูลไว้เป็นหมวดหมู่ ว่าสามารถอยู่ในหมวดหมู่ใด ด้วยการสงเคราะห์เทียบเคียงกับหลักธรรมทั้งหลาย ว่าสงเคราะห์กับธรรมในข้อใด
จนเราเข้าใจ แล้วจึงจัดเก็บ สมองส่วนที่เก็บความจำมันก็จะทำงานของมันเอง
 :054:การทำงานของจิตนั้น เหมือนเรากำลังทำปริญญา...เทียบเคียงได้ว่า
ปริญญาตรี...คือการฝึกความจำและฝึกตีความ เพื่อทำความเข้าใจ
ปริญญาโท...คือการฝึกหาข้อมูล หาที่มาที่ไป เพื่อให้เข้าใจในกระบวนการเหล่านั้น
ปริญญาเอก...คือการวิจัย การทดลอง ลงมือปฏิบัติ เพื่อให้รู้ชัดและเห็นจริง
    ซึ่งเทียบเคียงได้กับหลักดำเนินการทางจิต...คือ
ปริยัติ....คือการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ การฟัง การอ่าน การพูดคุย การดู คือการเรียนรู้
ปฏิบัติ...เอาความรู้ทั้งหลายมาทดลองทำ ตามที่รู้ ตามที่เห็น  และตามที่เข้าใจ ว่ามันใช่หรือมิใช่ เหมาะสมหรือไม่ รู้ได้ด้วยการปฏิบัติ
ปฏิเวท...คือบทสรุปในข้อมูลทั้งหลายที่ได้นำมาทดลองทำมาแล้ว และออกมาเป็นผลสำเร็จ
 :054:ในวันหนึ่งๆเราต้องรับรู้เรื่องราวมากมาย  ทั้งทางดีและทางร้าย ทั้งความวุ่นวายและความสงบนิ่ง ทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริง
ถ้าเราไม่นิ่ง ไม่มีสติสัมปชัญญะ เราก็จะตามมันไม่ทัน เขาไปมีส่วนร่วนในเรื่องราวอารมณ์เหล่านั้น มันก็จะวุ่นวาย สับสน และทกข์ไปด้วย
เราคือผู้ดู ผู้ชม ไม่ใช่ผู้แสดง ไม่ใช่ผู้กำกับ...ฉะนั้นจงอย่ากระโดดเข้าไปเป็นผู้แสดงเสียเอง  ปล่อยให้เขาแสดงกันไป เรามีหน้าที่เป็นผู้ดู
ดูจนจบ และจบแล้วให้มันจบไป ดูเรื่องใหม่ต่ออีก...ดูให้จบเป็นเรื่องๆไป และเรื่องที่จบไปแล้วก็ไมต้องไปสนใจ ดูเรื่องใหม่ที่กำลังแสดง
ดูไปวิเคราะห์ไป ทำความเข้าใจกับมันไป และเมื่อมันจบ เราก็ต้องจบด้วย แต่ถ้าเรายังไม่จบ ยังค้างคาใจ พอเรื่องใหม่แสดงเราก็จะไม่มีสมาธิ
ที่จะดู เลยทำให้ไม่รู้เรื่อง และบางครั้งเอาทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่มาปนกัน  มันจึงไม่ได้เรื่องและไม่รู้เรื่อง สิ้นเปลืองพลังสมองโดยใช่เหตุ
ไม่เกิดประโยชน์ ซ้ำยังเป็นโทษต่อตัวเอง....
 :059:คือข้อคิดและหลักการดำเนินชีวิตที่จะทำให้ไม่สับสนและวุ่นวาย ไม่เป็นทุกข์ :059:
                   :054:แด่สภาวะธรรมในยามเช้าและเรื่องราวที่ได้รับรู้ :054:
                     :016:แด่ทุกอย่างที่เป็นครู สอนให้รู้อารมณ์ธรรม :015:
                                         รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๙.๔๒ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง  ชายแดนประเทศไทย
หัวข้อ: ตอบ: บันทึกธรรม...๑๗ ก.ค.๕๒
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 18 ก.ค. 2552, 10:59:47
กราบนมัสการพระอาจารย์ ขอบพระคุณสำหรับข้อคิดและหลักการดำเนินชีวิตที่จะทำให้ไม่สับสนและวุ่นวาย ไม่เป็นทุกข์ ครับ
หัวข้อ: ตอบ: บันทึกธรรม...๑๗ ก.ค.๕๒
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 18 ก.ค. 2552, 03:50:54
กราบนมัสการขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาสอนสั่งแนวคิดในการดำรงค์ชีวิตครับ...
หัวข้อ: ตอบ: บันทึกธรรม...๑๗ ก.ค.๕๒
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวเล็ก ที่ 18 ก.ค. 2552, 11:53:41
 02;054:กราบนมัสการ......ขอขอบคุณมาก

บทความนี้ให้แง่มุมหลากหลายมากในการดำเนินชีวิต....และการทำงาน....

จัดหมวดหมู่...เรียงลำดับความคิด...มีสติในการแก้ปัญหา....

เพราะวันหนึ่งๆเรารับรู้เรื่องราวมากมาย...ไม่ว่าเรื่องดีหรือเรื่องร้าย...

แม้ว่าเราจะเป็นผู้ดู....แต่ไม่วายเรื่องก็วิ่งเข้ามาหาเรา.....จึงต้องใช้สติ... :023: