แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - NaMaPaTa

หน้า: [1]
1
ที่ผมรุ้จัก  ก็อาจารย์เดือน   แถววัดไผ่ล้อม   ราชบุรี  เป็นฆาราวาส งับ


ปล.ไปทาง  ตลาดน้ำอัมพวา  (แม่กลอง  สมุทรสงคราม) ใกล้กว่า งับ
     ถามคนแถวแม่กลอง รู้จัก งับ

3
เอาคาถาไปเต็มๆ เลย...
   อิระชาคะตะระสา   ติหังจะโตโรถินัง   ปิสัมระโลปุสัตพุท   โสมานะกะริถาโธ
ภะสัมสัมวิสะเทภะ   คะพุทปันทูธัมวะคะ   วาโธโนอะมะมะวา   อะวิสุตนุสสานุติ

4
น่าจะเป็น "นะทรหด" นะครับ :)

ผมก็ว่าตามนั้นเหมือนกานครับ....
ได้บ่อยในเวลาคนมาเยอะๆ....มันเล็กอ่ะครับ
     :005:

5
พาเสือมาเดินเล่น....? :005:

6
มีรอยประมาณอาทิตย์นึง

แต่พ่อแก่ผม 1ปี ผ่านไปยังมองเห็นลางๆ อยู่เลย
ตอนนี้ 2 ปีแล้ว  ถ้าสังเกตุดีๆ  ก็มองเห็น 


ปล. เป็นเฉพาะ  พ่อแก่  อ่ะครับ

7
เห็นใจคนอยู่ไกลๆจิงๆ....(เข้าใจ)
แต่ไปครั้งแรกได้ 2 อย่างก็น่าจะพอล่ะครับ (เพราะหลังเต็ม)
(1) ๙ ยอด 
(2) ๘ ทิศ


ถ้าสักวันแรกทนได้อยากได้อีก (เพราะให้คุ้มค่ารถ) 
ก็ให้นอนพักที่วัด 1 คืน แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยไป สักอีกซักอย่าง
(3) งบน้ำอ้อย 

--  ด้วยรัก  -- 
----------------------------------------

8
คุณปู่เราเป็นเจ้าอาวาสวัดหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม

อยู่วัดอะไรคับ....ผมคนแม่กลอง

9
ถ้าผมมีโอกาสไป ชล จะแวะไปหานะครับ   ;)

10
ต่างกันที่  ลงหน้าผาก-ลงที่ลิ้น  คาถาก็ต่าง
เมตตาเหมือนกาน   :D

11
ใครรู้บ้างว่าเป็นเหรียญที่มาจากไหน....
ใครเป็นคนทำ.... 
?:075:





----------------------------------

12
โอม.....หนุมาน จงตื่น....เพี้ยง..!!!? ? :002:

13
ต้องลง   ยันต์ 9 ยอดก่อนเลยครับ
เสร็จแล้วลง ยันต์ 8 ทิศ  
แล้วจะลงเสือเลยก็ได้
แต่ถ้าอยากได้ทางด้าน เมตตา ด้วยก็ลง  งบน้ำอ้อย

ถ้าลงเสือไปแล้วมัน  ร้อนวิชาเหลือเกินก็มาขอ   พ่อแก่กับหลวงพี่ติ่ง  ( ต้องไปขอวันพฤหัส นะ ) 
    :054:

14
เห็นเสือแล้วอยากไปเอาอีก......

( มีอยู่ครั้งนึกผมไปขอ เสือกับ หลวงพี่ติ่ง? แล้วไปขอ หนุมานเชิญธง กับหลวงพี่นั้น )

เท่านั้นล่ะครับ....ไปไหนไม่กลัวใครเลย? มีวัยรุ่นเดินกันเป็นกลุ่ม 7 คน ผมเดินไม่หลบใครเลย
เดินอยู่ในซอย? มีมอเตอร์ใซค์รับจ้างวัยรุ่นวิ่งเขามาทางผม? ผมก็ไม่หลบจนมันต้องหลบผมอ่ะ


แต่พอไปขอ พ่อปู่ฤาษีเดินดง กับหลวงพี่ติ่งอีกรอบ? ความรู้สึกฮึกเหิมหายหมดเลย พ่อแก่แน่จริงๆ
ไม่เท่านั้น? เวลาไปกินเหล้ากับเพื่อนๆที่ไร? ถ้าได้ที่? พ่อแก่มาทุกที เสือกับหนุมาน จืดไปเลย...

 :100:
ปล.? ประสบการณ์ส่วนตัวอ่ะครับ? ?:079:

15
กว่าจะได้ขนาดนี้......ว้าว..!!!~       :074:

16
งามจริง....โชกันเยอะๆเลยครับ... :054:

17
พึงเข้ามาดูอ่ะ......จะทันไหมเนี้ย     :100:

18
ยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า? ?มีด้านหน้าและด้านหลัง? คาถาด้านล่างเลย ^_^"
ถ้าบวชมาพอ สึกแล้วสักที่กลางศรีษะ  จะok มากเลย

19
ผมเคยสักยันต์ครู  ยันต์แรกเป็น  พระเจ้า 5 พระองค์  (เป็นศิษ อาจารย์หนู ราชบุรี)     :054:

20
 :016:  เอารูปมาใส่ให้เยอะๆเลยนะครับอยากได้  หรือไม่ก็ส่งไป ---->SIT1802@hotmail.Com เลยครับ   :015:
ขอบคุงคร๊าบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ     :054:

21
อาจารย์ผมท่านนึงบอกมา? ?:100:
ถ้าอยากได้? ปรอท? โดยง่าย? และไม่ต้องใช้วิชา คาถา
ให้นำไข่เน่า? ไปทิ้งไว้ในน้ำ คลำ (น้ำเน่า)
เพื่อล่อปรอทให้มาอยู่ในไข่?
แล้วจึงนำไข่ที่มี ปรอท มาใช้ทำประโยชน์ใดๆ...ต่อไป
แต่เราไม่สามารถควบคุม? ปรอท? ได้เพราะ ไม่มีวิชา
? ?:075:

ปล.? วิธีนี้ผมยังไม่มีเวลาลองเลยถ้าใครลองแล้วบอกผมบ้างนะ? ?:086:

22
เคยเห็นแม่บอกว่า      :086:
ถ้าเป็นแล้วอย่าให้มันลามจนชนอีกด้านนึง      :065:
( คล้ายๆ งูกินหางอ่ะ )    :073:
ถ้ามันลามเป็นวงกลมเมื่อไหร่ก็.... ((( ตาย )))       :070:
-------------------------------------------
ปล. ถ้าจำไม่ผิดแม่บอกว่า  ห้ามข้ามคลองด้วย  เพราะมันจะลามเร็วขึ้น    :100:

23
ก็สัก 9ยอด งบน้ำอ้อย สาริกา ให้ครบก่อนสิครับ ต่อจากนั้นจะเอาอะไรก็เชิญตามสบายเลย :) แต่ในกรณีที่สักยันต์พวกสัตว์ต่างๆ หรือที่คุณเรียกว่าหัวใจนี่ล่ะ ถ้าสักพวกนี้ก็จะมีลักษณะอาการของขึ้น เพราะว่าอาจารย์ท่านจะลงอักขระ ลงหัวใจ ลงอาการ32ไปด้วย ...เรื่องคุมตัวเองไม่ได้ ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าเราสักยันต์ครูมาแล้ว 9ยอด งบน้ำอ้อย สาริกา ครบแล้วก็ไม่เป็นไรครับ เพราะยันต์เหล่านี้จะเป็นตัวคุมเราอยู่ครับ :001: :001:
ขอบคุรครับ

ปล.ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ :002:

ถูกต้องนะคร๊าบ ๆ ๆ ๆ......   :095:

งิงิ....    :005:

24
งามจิงๆ ..... พ่อแก่สวยมากเลย      :002:
** แต่ชอบหนุมาน  งิงิ  **   :006:

25
กำ....พึงเข้ามาดู   :074:
รอปีหน้าแล้ว กาน   :074:

26
:)? แอบดู? ?:)

ไปไม่ทันตอนที่ท่านอยู่วัด (อดรู้จักเลย)   :065:

27
มียันต์อะไรมั่ง..ครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

28
ว้าว.....ขุนแผนอีกแล้ว.....  ฮิฮิ        :005:

29

นี่ก็ดี นะ ฟัง ๆ เค้าเล่ากันมาประสบการณ์เยอะ
นางพิมวัดท้องไทร   หรอ        หรือว่า  กุมารลป แย้มวัดสามง่าม 

ทำไม  ผมได้ตะกรุดนางพิม  มาตั้งนานล่ะ  แต่เฉยอ่ะ ไม่มีประสบการณ์  อะไรเลย    :070:

30
อยากได้? (หนุมานท้ารบ) กับ (หนุมานขี้สิงห์แผงศร)?
ที่ไหนมีให้ลงมั่งครับ แถวๆใน กทม. อ่ะ? ?:075:


31
ใช่เลย......ผมอยากไปแต่ผลาดทุกที? ? เจ็บใจจริงๆ.....?   :070:
-------------------------------------------------------------------------------
มีคนบอกว่า? ใครที่ได้เป่าแล้ว?
เมื่อเจอคนที่มี? ตะบะ? เขาจะเห็นรัศมีทองเปร่งประกายเลย
? ?:059:

32
ยันต์สวยจริงๆ........ ? :005:

33
อยากทราบการเดินทางจัง
ผมเคยเข้าไปรับตะกรุด 
แต่ต้องจ้าง  มอเตอร์ไซค์รับจ้าง  แล้วต้องให้เขารอรับเรากลับด้วย
โดนไป 120 แถมยังอยู่ได้แป็บเดี๋ยวเอง

--------------------------------------------------------------------
แถวๆนั้นมี  รถสองแถวผ่านบ้างไหมครับ
จะได้อยู่ที่วัดได้นานๆ กว่านี้

--------------------------------------------------------------------
ไปเหยียบกุฏิไม่ถึง 5 นาที พอหลวงปู่เป่าตะกรุดเสร็จ
มอเตอร์ไซค์ชวนกลับเลย.....แย่จัง
     :070:

34
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: กาฝาก....
« เมื่อ: 23 เม.ย. 2550, 11:51:51 »
มีนกตัวนึงได้ไปกินผลไม้ (เช่น ตะคบ  หรือ ผลไม้ที่มีเม็ด)
เมื่อมันกินเข้าไปแล้ว  มันก็ถ่ายอุจาระออกมา
แล้วตรงที่มันถ่ายไว้  ไปติดที่กิ่งไม้
มันจึงเกิดเป็นต้นไม้  (เรียกว่า  กาฝาก)

(ไม่จำเป็นต้องเป็นนกอีกา   นกอื่นๆ  ก็ฝากได้)
   :005:

35
รักแท้  แพ้ระยะทางจริงๆ  (แต่ส่งใจไปแทนนะ)   :010:

36
NaMaPaTa ............ทำมัยถึงพูดเช่นนี้ละ...รู้มั้ย..ถูกใจน้ามาก...น้าชอบ......555+....ขอโทษก๊าบบบบบบบบบบบ...ที่หัวเสียมารญาติ

ผมก็บรรยายตามความรู้สึกอ่ะครับ น้า   :064:
ไหนๆวัดบางพระก็สิ้นหลวงพ่อเปิ่นไปแล้ว
แต่ผมไม่อยากให้คนเสื่อมศรัทราวัดบางพระ
ศิษย์ที่ดีต้องเกื้อหนุนวัด  ไม่ใช่ทำให้วัดแย่ลง...!!!
   :065:

37
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: vcd
« เมื่อ: 20 มี.ค. 2550, 12:24:04 »
พี่ เอ   ราคาเท่าไหร่หรอครับ...อยากได้มั่งอ่ะครับ 
PM ที่นะครับท่านพี่   :009:

38
ขอแสดงความเสียใจด้วยจริง .... 

  (เส้นทางที่ทุกคนต้องเจอ..ไม่ช้าก็เร็ว)   :067:

39
มีท่านท้าวไว้รักษาบ้าน....สบายไม่ต้องกลัวผีเลย
แต่ถ้าเราเป็นผี  ระวังจะเข้าบ้านไม่ได้นะ  งิงิ :005:

40
เพียงแค่จิตของเรามั่น.....ก็เพียงพอแล้ว   :092:

41
เป็นความรู้มากครับ  แล้วจะนำไปศึกษาครับ.....((แทงยู))

42
ผมว่าถ้า ฆราวาสคนนั้น  ไม่ได้อยู่ที่วัดบางพระ
ก็คงไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นในอนาคต

-----------------------------------------------------------------------
ถ้าอยู่เพื่อร่ำเรียนเพียงอย่างเดียวคงไม่มีปัญหาใดๆ
-----------------------------------------------------------------------
ถ้าจะตั้งสำนักสักเป็นส่วนตัวในที่วัด  ก็ควรจะปฏิบัติทุกอย่างเหมือนหลวงพี่ในวัด
------------------------------------------------------------------------
แต่ถ้าต้องการเก็บค่าครูที่แตกต่างหรือลายสักที่แตกต่างกันออกไป 
ก็ควรมีสำนักเป็น  ที่ส่วนตัว  ที่ไม่อยู่ในบริเวณวัด

------------------------------------------------------------------------
ความรู้สึกของคนที่แวะเวียนพบเห็นจะรู้สึกไม่ดี (( อาจารย์เก็บ 25  ลูกศิษย์เก็บ 200-300 ))
หรือว่ามีอาจารย์หลายท่าน ค่าครู แต่ล่ะท่าน 25 บ้าง 99 บ้าง รวมกันหลายอาจารย์  เลยเป็น ((ร้อย))
สาเหตุที่คนบางพระส่วนหนึ่งไม่ชอบอาจารย์สักท่านนึงแถว ปทุมธานี  ก็เพราะว่า  (((มันเป็นการสักเชิงพาณิชย์)))

-------------------------------------------------------------------------

ที่ผมกล่าวมาถ้าทำให้ใครไม่พอใจก็ขอโทษไว้ด้วยนะครับ   :065:

43
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: หมัดธนู
« เมื่อ: 16 มี.ค. 2550, 11:46:11 »
ว้าว........ของดีจิงๆ ? :053:

ยังไม่เคยสักเลยต้องไปหาสักบ้างแล้ว ?งิงิ
? ? ? :002:

44
จะรอชม......งิงิ   :095:

ไม่รู้จะมีรูปเราติดจอป่าว..น๊า..................
   :005:

46
อยากรู้จังว่า  ((( ศิษย์ 5 อาจารย์ )))  มีคัยเป็นอาจารย์บ้าง.....????   :049:

48
เออ...จะเจาะกันไปทำอะรัยน๊า...   :062: :062: :049:

49
อยากสักมั่งจังเลย......ไปขอหลวงพี่ยังๆก็ไม่สักให้
เลยต้องห้อยตะกรุดตามเคย    :065: :065:

50
ดีจังเลย   เป็นความรู้    เรื่องแบบนี้ผมชอบ...งิงิ   ((สาวๆเยอะ))   :002:

52
มีสักด้วยหรอ.....

53
ถูกต้องนะคร๊าบ ๆ ๆ ๆ

55
http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,1025.0.html

56
เร็วๆนี้? ต้องไปเอาจาก? หลวงพี่นัน? ให้ได้? งิงิ


57
1.? นั่งสาย 12 ไปลงอนุสาวรีย์ ?

2.? นั่งสาย 28? 542? ไปลงที่ เซ็นทรา ปิ่นเกล้า

3.? แล้วเดินไปขึ้นรถตู้เดินไปทางสายใต้อ่ะ? (50 เมตร)? คิวรถอยู่หลังที่สะการะ
? ? ?(พราะอิศวร หรือ พระพรหม หรือ พระนาราย? อะรัยซักอย่างนี้ล่ะ)?
? ? ?แล้วบอกรถตู้ว่าลง? (((( แยกท่านา ))))



4.? แล้วเดินข้ามสะพานลอย? และเดินเข้าไปในแยก ข้ามถนนอีกที ไปรอรถเมล์?
? ? ?(((สีส้ม)))? ต้องดูที่หน้ารถด้วยจะเขียนว่า? ไปวัดบางพระ ? กระโดดขึ้นได้เลย
? ? ?เสร็จแล้ว? บอกกระเป๋ารถว่า? "(ลงวัดบางพระ)? ถึงแล้วบอกด้วย"
?



ปล.ไม่ว่าท่านจะไปสักมาจากอาจารย์ที่ไหน?
? ? ? ? (( พวกเราศิษฐ์หลวงพ่อเปิน? ยินดีตอนรับเสมอ ))? ขอแค่เป็นคนดีก็พอ

อายุ 15 สัก น้ำมันไปก่อนนะครับ? อนาคตอีกยาวไกล? จะทำอะไรต้องคิดให้มาก?
? ? ? ?แล้วชีวิตจะมีความสุข



58
วันนี้มาแนว? สู้เพื่อชาติ? จิงๆเลยนะน้า? ?:004:



รึว่า....น้าจะก่อการปฏิวัต? นายกใหม่? งิงิ ? :006: :005:

59
พระบรมสารีริกธาตุ

อ้างถึง
  http://www.wt81.org/sareerikkatat/page2.htm 


60
แล้วเจอกันครับ.....งิงิ? (รึป่าว? เคน หุหุ)? :006:

61
สักครั้งแรกได้  ๙ ยอด  ก่อนเพราะเป็นยันต์ครู
--------------------------------------------
หลวงพี่ติ่งสักแต่ น้ำมันอย่างเดียวครับ เพราะท่านอายุมากแล้ว
และสามารถขอท่านได้ว่าจะเอายันย์อะรัยต่อไป  แต่เพื่อความเหมาะสมควรให้ได้  ((8 ทิศ - งบน้ำอ้อย))
เพราะเป็นยันต์เสริมพุทธคุณ  งบน้ำอ้อย เสริมทางด้านเมตตา   8 ทิศ  เสริมทางด้านแคล้วคลาด กันภัย

--------------------------------------------
(ถ้าสักน้ำมันแล้ว ไปสักหมึกก็ได้)  (แล้วถ้าสักหมึกแล้ว กลับมาสักน้ำมันอีกก็ได้)
ถ้าสักหมึกตรงส่วนไหนของร่างกายไปแล้ว  จะไม่สักทับ  ((เพราะลายหมึกทับกัน  มันก็มองดูไม่ดี))
แต่ถ้าเป็นสักน้ำมัน  จะสักทับกันได้ไม่เป็นไร  ((เพราะสักไปแล้วมองไม่เห็นหรอกว่าทับกัน))
ความจริงแล้วยันต์สักทับกันได้หมดทั้ง  แต่ถ้าสักหมึกทับกันลายสักที่อยู่บนตัวเรามันก็เละเทะไปหมดล่ะสิ
แล้วอาจารย์ที่สักให้เรา ท่านคงไม่ปลื้มหรอก  จริงไหมเอ่ย

--------------------------------------------
ถ้าสักน้ำมัน  ๙ยอดมาแล้ว    จะไปต่อหมึก อย่างอื่นได้ป่าว  อันนี้ผมไม่แน่ใจอ่ะครับ
เพราะ ๙ยอด  เป็นยันต์ครู   ถ้าอยู่ดีๆแล้วคนที่เห็น มียันต์  8ทิศ  -  งบน้ำอ้อย  หรืออื่น
แต่มองไม่เห็นยันต์ครู    มันก็มองดูไม่ดีอ่ะครับ
ข้อนี้รอถาม  ผู้รู้จริงๆ  อ่ะครับ  ถ้าไม่อยากสัก ยันต์ ๙ยอดเป็นหมึก

--------------------------------------------
ปล. ตัวผมเองก็สักแต่น้ำมันอย่างเดียว
เพราะเลงเห็นว่า  สังคมในปัจจุบันเขารับไม่ได้เรื่องการมีลายสักอยู่บนตัว
มันจะเป็นอุปสรรคในการทำงานผมอ่ะ  (((ขอคมในฝักดีกว่าครับ  งิงิ)))
    :005: :005: :005:

62
เยี่ยมไปเลย.....ว่าแล้วอยากได้มาได้ที่คอซักอัน...   :006:

63
เอาล่ะ  ท่าน เคน  เราเล่นของซ่ะแล้ว  (เล่นวัวเล่นควายซ่ะด้วย)  ตัวใครตัวมันล่ะทีนี้  555+    :006: :003:

64
ใครจะว่ายังไงก็ไม่รู้นะ 
สำหรับผม  การที่เราจะเอาสิ่งต่างๆที่คล้ายอวัยวะ เพศ
มาติดตัว ผมไม่สนใจเลย  มันมองดูไม่ดีอ่ะ
(เหมือนเรามีสิ่งที่คล้ายอวัยวะ เพศ ไว้ป้องกันตัว  ไม่ค่อยภูมิใจเท่าไหร่)


ปล.  เป็นความรู้สึกของผมเพียงอย่างเดียวนะ เดี๋ยวคนที่เค้าชอบๆ จะมาว่ากั
        (ขิก หลวงพ่อยิด ก็ดัง) แต่ได้ยินคาถาปลุกเสกแล้วก็อืม.....นะ

65
เคน  ตอบได้ดีมีสาระจังเลย....(ถูกต้องระคร๊าบ ๆ ๆ ๆ ๆ )    :053:

66
ทุกสิ่งทุกอย่างต้องประกอบไปด้วย?
ดิน(เนื้อหนังมังสา)? น้ำ(เลือดและน้ำในร่างกาย)? ลม(อากาศ)? ไฟ(พลังความอบอุ่นของร่างกาย)
(นะโมพุทธายะ? ? นะมะภะทะ? ?จะภะกะสะ? ?นะมะอะอุ)

ภาวนาเพื่อเพิ่มธาตุ?? ((ภาวนาทุก ๆ?เช้าแค่นี้ก็ดีแล้ว))

เสียงหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ - ธาตุ 4
www.palungjit.com/buddhism/audio/attachment.php?attachmentid=143
ที่มาจากเว็บ  www.palungjit.com ขอขอบคุณ







67
ของสมัยใหม่ทำด้วยเครื่องหมดแล้ว.....   :067:

ของสมัยก่อนกว่าจะทำได้แต่ล่ะอัน  ต้องลงแรงลงใจ
ความรู้สึกของผู้ที่ได้สวมใส่จึงให้ความรู้สึกที่ผิดกัน
(ของดีย่อมมีน้อย)
   :065:

68
น้ำมันขึ้นลงตามเวลาครับ เพราะข้างหลังมีคลอง - ท่วมแค่ทางเดินปูนหน้ากุฏิ  ;) :002:
น้ำมันขึ้นกี่บาทหรอครับ จะได้รีบไปเติม ;D

โดนไปอีก 1 ดอก  อั๊ก ๆ    555+

69
? วิธีการสร้างเบี้ยแก้

เมื่อหาตัวเบี้ยมาได้แล้ว (เบี้ยพวกนี้ไม่ค่อยพบในบ้านเรา สมัยก่อนต้องหาซื้อตามร้านเครื่องยาจีน
เข้าใจว่าเบี้ยที่นำมาใช้นี้จะถูกนำเข้ามาพร้อมกับสินค้าจากประเทศจีนในอดีต.....) คณาจารย์
ผู้สร้างก็บรรจุปรอทที่ปลุกเสกแล้วเข้าไปในตัวเบี้ย แล้วหาวิธีอุดมิให้ปรอทไหลออกมาได้ (ปรอทที่ใช้
นี้เป็นปรอท หรือปรอทดินโบราณมีวิธีการจับปรอทโดยนำไข่เน่าไปทิ้งไว้ในน้ำครำไม่ช้าปรอทจะกิน
ไข่เน่าจนเต็ม)

ปรอทมีคุณสมบัติเป็นของเหลวลื่นไหลการจะนำปรอทมาบรรจุเบี้ยแก้ คณาจารย์ผู้สร้างจำต้องมีพระเวท
เข้มขลัง เพราะต้องใช้พระเวทฆ่าปรอทหรือบังคับให้ปรอทรวมตัวกันอยู่ในเบี้ยบางราย ถึงกับบริกรรมพระเวท
เรียกปรอทเข้าในตัวเบี้ยได้เอง การปิดปากเบี้ยเพื่อกันไม่ให้ปรอทไหลออกมาได้นั้นนิยมเอาชันโรงใต้ดิน
ที่ปลุกเสกแล้วมาอุดใต้ท้องเบี้ยให้สนิทเรียบร้อย แล้วจึงหุ้มด้วยวัสดุอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ผ้าแดง แผ่นตะกั่ว
แผ่นทองแดง วัสดุที่ใช้หุ้มหรือปิดนี้ก็ต้องลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสกกำกับด้วย เช่นเบี้ยแก้หลวงปู่บุญ
วัดกลางบางแก้วจะมีลวดทองแดงขดเป็นห่วง ๓ ห่วง เพื่อให้ใช้เชือกคล้องคาดเอว

เบี้ยแก้ที่ผ่านการบรรจุปรอทจนกระทั่งถักหุ้มเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าเสร็จสิ้นขึ้นตอนกรรมวิธี
เพราะคณาจารย์เจ้าผู้สร้างท่านต้องปลุกเสกกำกับอีกจนมั่นใจว่าใช้ได้จริงๆ แล้วเล่ากันว่า คณาจารย์บางรูป
 และสามารถปลุกเสกเบี้ยแก้จนตัวเบี้ยคลานได้เหมือนหอย


นี้ล่ะความรู้จิง ๆ

70
ปี 2550? วันที่ 23 มีนาคม? ?ปีกุน? ? ? วันศุกร์? ? ? ? ? ?เป็นวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5
ปี 2551? วันที่ 10 เมษายน ปีชวด? ? วันพฤหัสบดี? ?? เป็นวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5
ปี 2552? วันที่ 30 มีนาคม? ?ปีฉลู? ? ? วันจันทร์? ? ? ? ?เป็นวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5
ปี 2553? วันที่ 20 มีนาคม? ?ปีขาล? ? วันเสาร์? ? เป็นวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5
ปี 2554? วันที่ 08 เมษายน ปีเกาะ? ? วันศุกร์? ? ? ? ? เป็นวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5
ปี 2555? วันที่ 27 มีนาคม? ?ปีมะโรง? วันอังคาร? ? ? ?เป็นวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5
ปี 2556? วันที่ 15 เมษายน ปีมะเส็ง? วันจันทร์? ? ? ? เป็นวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5
ปี 2557? วันที่ 04 เมษายน ปีมะเมีย วันศุกร์? ? ? ? ? เป็นวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5



71
เคน  สู้ๆ  เพื่อทุกๆคนจะได้ความรู้.... สู้เข้าไป  ไอ้มดแดง    :002: :002:

72
มันแล้วแต่อาจารย์นาครับบางท่านใส่คาถาเพชชลีก หัวใจหนุมานคลุกฝุ่น หัวใจพระเจ้า 4 (ย้ำว่า4)พระองค์ประกอบกับตัวนะทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกันเช่นนะ ตีมิแตก หรือท้อวิรุณจำบัง แต่สมัยนี้หาหนุมานที่มีอักขระเยอะๆแบบแต่ก่อนไม่ค่อยได้แล้วเพราะอ.ส่วนใหญ่เกรงว่าคนจะลอกตัวยันต์ไปจึงนำสูตรที่เคยลงไว้ให้เห็นเป็นรูปทั้งหลาย ประจุลงในเหล็กสัก น้ำหมึก จึงทำให้หนุมานดูเกลี้ยงๆมาก


เป็นความรู้อีกทางนึงล่ะ  ขอบคุงคับ   :017:

กระทู้ เคน  น่าสนใจด้วย  หุหุ
   :053:

73
   :016: น่าสนใจทั้งนั้นเลย....เคน  สู้ๆ.....   :015:

74
ใช่ครับตอนนี้น้ำกำลังขึ้น ตอนที่ได้ไปสักได้คุยกับหลวงพี่ติ่งท่านบอกว่า ทางอบต.ให้แต่ถุงทรายไม่มีทราย กำ :075:

กำจิงๆ.....ทำไงดีล่ะ   :067: :067:

75
ผมก็อยู่? อพาร์ทเม้นท์? อยู่ชั้น ล่างๆด้วย....อย่าคิดมาก? ? ?:069:
 
โลกเปลี่ยนไป? ?ขอให้ใจเราอย่าเปลี่ยนแปลง? ?:065:

ผมเคยไปไหว้? หลวงปู่ปลอด? วัดโพธ์นิมิตร
ท่านอายุ 80กว่า รึ 90 กว่านี้ล่ะ แล้วพระที่ดูแลท่านก็บอกว่า
? ?:054:

( สมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไป? อย่าไปคิดอะไรกับมันมาก
ตัวเราอยู่ห้องพักยังมีคนอยู่บนหัวเราเลย
อย่าไปสนใจกับเรื่องนี้เลย? ?ของดีอยู่กับตัวมันไม่ไปไหนหรอก
ความศักสิทธิ์อยู่ที่ความศรัทธา? ถ้าเรามั่นใจว่าของเราดีมันก็ดี )
? :054:

(( และแล้วผมก็ได้? ขิก? มา 1 อัน? หลวงพี่พอกว่าถ้าไม่ใช้อย่าทิ้งให้เอาไปคืนแก
แกบอกว่ามันทำได้แต่ล่ะอันมันนาน? ไม้ก็หายาก? ทำนานไม่เท่าไหร่แต่หาไม้ไม่ได้นี่สิ ))
? ?:002: :002:
(( !! ต่อมาก็มีคนบอกผมว่า? ขิก? ที่ผมได้เป็น? ขิก? ที่ทำจากไม้ขนุนมีคนผูกคอตาย !! ))? ? :074: :074:

76
? ปฐวีกสิณ
 
? ? ? ? ? กสิณนี้? ท่านเรียกว่า? ปฐวีกสิณ? เพราะมีการเพ่งดินเป็นอารมณ์ ศัพท์ว่า "ปฐวี" แปลว่า
"ดิน"? กสิณ แปลว่า "เพ่ง"? รวมความแล้วได้ความว่า? "เพ่งดิน"?

อุปกรณ์กสิณ

? ? ? ? ? ปฐวีกสิณนี้? มีดินเป็นอุปกรณ์ในการเพ่ง จะเพ่งดินที่เป็นพื้นลานดิน ที่ทำให้เตียนสะอาด
จากผงธุลี หรือจะทำเป็นสะดึงยกไปยกมาได้ ก็ใช้ได้ทั้งสองอย่าง ดินที่จะเอามาทำเป็นดวงกสิณนั้น
ท่านให้ใช้ดินสีอรุณอย่างเดียว ห้ามเอาดินสีอื่นมาปน ถ้าจำเป็นหาดินสีอรุณไม่ได้มาก ท่านให้เอาดิน
สีอื่นรองไว้ข้างล่างแล้วเอาดินสีอรุณทาทับไว้ข้างบน ดินสีอรุณนี้ ท่านโบราณาจารย์ท่านว่าหาได้จาก
ดินขุยปู เพราะปูขุดเอาดินสีอรุณขึ้นไว้ปากช่องรูที่อาศัย เมื่อหาดินได้ครบแล้ว ต้องทำสะดึงตาม
ขนาดดังนี้ ถ้าทำเป็นลานติดพื้นดิน ก็มีขนาดเท่ากัน

ขนาดดวงกสิณ

? ? ? ? ? วงกสิณที่ทำเป็นวงกลมสำหรับเพ่ง? อย่างใหญ่ท่านให้ทำไม่เกินเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑ คืบ ๔
นิ้ว อย่างเล็กไม่เล็กกว่าขอบขัน ระยะนั่งเพ่งบริกรรม? ท่านให้นั่งไม่ใกล้ไม่ไกลกว่า ๒ คืบ ๔ นิ้ว
ตั่งที่รองวงกสิณ? ท่านให้สูงไม่เกิน ๒ คืบ ๔ นิ้ว? ท่านว่าเป็นระยะที่พอเหมาะพอดี? ?เพราะจะได้
ไม่มองเห็นรอยที่ปรากฏบนดวงกสิณ? ที่ท่านจัดว่าเป็นกสิณโทษ? เวลาเพ่งกำหนดจดจำ? ท่านให้
มุ่งจำแต่สีดิน? ท่านไม่ให้คำนึงถึงขอบและริ้วรอยต่าง ๆ


กิจก่อนการเพ่งกสิณ

? ? ? ? ? เมื่อจัดเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ท่านให้ชำระร่างกายให้สะอาด แล้วนั่งขัดสมาธิที่ตั่ง
สำหรับนั่ง หลับตาพิจารณาโทษของกามคุณ ๕ ประการ ตามนัยที่กล่าวในอสุภกรรมฐาน ต้องการ
ทราบละเอียดโปรดเปิดไปที่ บทว่าด้วยอสุภกรรมฐาน จะทราบละเอียด เมื่อพิจารณาโทษของ
กามคุณจนจิตสงบจากนิวรณ์แล้วให้ลืมตาขึ้นจ้องมองภาพกสิณจดจำให้ดีจนคิดว่าจำได้ก็หลับตาใหม่
กำหนดภาพกสิณไว้ในใจ ภาวนาเป็นเครื่องผูกใจไว้ว่า "ปฐวีกสิณ" เมื่อเห็นว่าภาพเลือนไปก็ลืมตา
ดูใหม่? เมื่อจำได้แล้วก็หลับตาภาวนากำหนดจดจำภาพนั้นต่อไป ทำอย่างนี้บ่อยๆ หลายร้อยหลายพัน
ครั้งเท่าใดไม่จำกัด จนกว่าอารมณ์ของใจจะจดจำภาพกสิณไว้ได้เป็นอย่างดี จะเพ่งมองดูหรือไม่
ก็ตาม ภาพกสิณนั้นก็จะติดตาติดใจ นึกเห็นภาพได้ชัดเจนทุกขณะที่ปรารถนาจะเห็นติดตาติดใจ
ตลอดเวลา อย่างนี้ท่านเรียกว่า "อุคคหนิมิต" แปลว่า นิมิตติดตา อุคคหนิมิตนี้ ท่านว่ายังมีกสิณ
โทษอยู่มาก คือภาพที่เห็นเป็นภาพดินตามที่ทำไว้ และขอบวงกลมของสะดึง ย่อมปรากฏริ้วรอย
ต่าง ๆ? เมื่อเข้าถึงอุคคหนิมิตแล้ว ท่านให้เร่งระมัดระวังรักษาอารมณ์สมาธิและนิมิตนั้นไว้จนกว่า
จะได้ปฏิภาคนิมิต ปฏิภาคนิมิตนั้น รูปและสีของกสิณเปลี่ยนจากเดิม คือกสิณทำเป็นวงกลมด้วย
ดินแดงนั้น จะกลายเป็นเสมือนแว่นแก้ว มีสีใสสะอาดผ่องใสคล้ายน้ำที่กลิ้ง อยู่ในใบบัว ฉะนั้น
รูปนั้นบางท่านกล่าวว่าคล้ายดวงจันทร์ที่ปราศจากเมฆหมอกปิดบัง เอากันง่าย ๆ ก็คือ เหมือน
แก้วที่สะอาดนั่นเอง รูปคล้ายแว่นแก้ว จะกำหนดจิตให้เล็กโตสูงต่ำได้ตาม ความประสงค์
อย่างนี้ท่านเรียกปฏิภาคนิมิต เมื่อถึงปฏิภาคนิมิตแล้วท่านให้นักปฏิบัติเก็บตัว อย่ามั่วสุมกับ
นักคุยทั้งหลาย จงรักษาอารมณ์ รักษาใจให้อยู่ในขอบเขตของสมาธิเป็นอันดี อย่า สนใจใน
อารมณ์ของนิวรณ์แม้แต่น้อยหนึ่ง เพราะแม้นิดเดียวของนิวรณ์ อาจทำอารมณ์ สมาธิที่กำลัง
จะเข้าสู่ระดับฌานนี้ให้สลายตัวได้โดยฉับพลัน ขอท่านนักปฏิบัติจงระมัดระวัง อารมณ์รักษา
ปฏิภาคนิมิตไว้ คล้ายกับระมัดระวังบุตรสุดที่รักที่เกิดในวันนั้น


อากาสกสิณ อากาสกสิณ แปลว่า "เพ่งอากาศ"
อากาสกสิณนี้ ภาวนาว่า อากาสกสิณังๆ ๆ
ท่านให้ทำเหมือนในอาโลกกสิณ คือ เจาะช่องฝาเสื่อหรือหนัง หรือมองอากาศ คือความว่างเปล่าที่ลอดมาตามช่องฝา หรือหลังคา หรือตามช่องเสื่อ หรือผืนหนัง
โดยกำหนดว่า อากาศๆ ๆ จนเกิดอุคคหนิมิตซึ่งปรากฏเป็นช่องตามรูปที่กำหนด
ปฏิภาคนิมิตนั้น ปรากฏคล้ายอุคคหนิมิต แต่มีพิเศษที่บังคับให้ขยายออกให้ใหญ่เล็ก สูงต่ำได้ตามความประสงค์ คำอธิบายอื่นก็เหมือนกสิณอื่น


อาโลกสิณ อาโลกสิณ แปลว่า "เพ่งแสงสว่าง"
ท่านให้หาแสงสว่างที่ลอดมาตามช่องฝา หรือช่องหลังคา หรือเจาะเสื่อลำแพน หรือหนังให้เป็นช่องเท่า ๑ คืบ ๔ นิ้ว ตามที่กล่าวในปฐวีกสิณ
แล้วภาวนาว่า อาโลกสิณังๆ ๆ ๆ อย่างนี้ จนอุคคหนิมิตปรากฏ
อุคคหนิมิตของอาโลกสิณ เป็นแสงสว่างที่เหมือนรูปเดิมที่เพ่งอยู่
ปฏิภาคนิมิตนั้น ปรากฏเป็นแสงสว่างหนาทึบ เหมือนกับเอาแสงสว่าง มากองรวมกันไว้ที่นั่น
แล้วต่อไปขอให้นักปฏิบัติจงพยายาม ทำให้เข้าถึงจตุตถฌาน เพราะข้อความที่จะกล่าวต่อไปก็เหมือนกับที่กล่าวมาแล้วในปฐวีกสิณ

77
เหตุใดทำไมจึงเรียกว่า "มีดหมอ" ทั้ง ๆ ที่หมอไม่ได้มาเกี่ยวข้องสักหน่อย
ผู้ที่สร้างมีดหมอมักจะเป็นพระเกจิฯ ที่มีวิชาอาคมต่างหาก ก็ตามประสาคนช่างสงสัยนั่นแหละครับ
ทำไมจึงเรียกมีดที่กระเกจิฯ สร้างขึ้นมาว่ามีหมอ ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วน่าจะเรียกว่า "มีดพระ" จึงจะเหมาะสม


              หากเรียกว่ามีดพระ ก็จะกลายเป็นว่าพระนั้นสร้างศาสตรวุธ ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง พระท่านมิใช่นักรบ
แต่พระเป็นสาวกขององค์พระศาสดา มีหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์ให้พ้นทุกข์
               สมัยก่อนนั้นเรื่องราวเกี่ยวกับผีเข้า หรือถูกคุณไสย มักจะมีให้เห็นกันอยู่เนือง ๆ ผู้ที่จะปราบหรือขับไล่ภูติผีปิศาจ มีคนอยู่สองกลุ่มด้วยกัน
(กลุ่มแรกคือพระเกจิฯ ที่เรืองเวทย์ มีวิชาอาคม).....(กับอีกกลุ่มหนึ่งคือพวกหมอผี โดยเครื่องมือที่ใช้ในการสยบวิญญาณความชั่วร้าย
จะเป็นพวกมีดที่พระเกจิฯ ทำขึ้นเสียเป็นส่วนมาก) ดังนั้นการเรียกชื่อจึงมักเรียกว่า (มีดหมอ) จนติดปาก"


            อิทธิฤทธิ์อีกประการหนึ่งของมีดหมอนั้นก็คือ "การสังหารฝ่ายตรงข้ามที่มีวิชาอาคมหรือพวกหนังเหนียว พวกที่สักยันต์ตะกร้อ
(อย่างเช่นจอมโจรตี๋ใหญ่) ถ้าจะกล่าวว่าใช้อาคมฆ่าคนที่มีอาคมคงจะได้กระมัง" เชื่อกันว่าสมัยที่เสือขาวจะถูกยิงเป้านั้น
           (เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติเหี้ยมโหดมากฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กแรกเกิด เสือขาวมีของดีที่อยู่กับตัวคือ
"ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จังหวัดฉะเชิงเทรา") หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า "มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร"
เสือขาวตอนนั้นกำลังทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใด ๆ ทำอันตรายเสือขาวได้เลย ปืนก็ยิงไม่ออก มีดก็แทงไม่เข้า ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง
ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งซึ่งเป็นอาจารย์ของตัวเอง ตำรวจชุดไล่ล่าซึ่งประกอบด้วย ร.ต.อ.พจน์ รัตนดิลก จ่าบุญมี แก่นกระโทก
จ่าดวง เดชชาติ ได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า "จริง ไอ้ขาวมันหนังเหนียว
ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารไอ้ขาวได้อย่างไร เพราะมันจะเป็นการผิดศีล"


               ตำรวจชุดไล่ล่าลาหลวงพ่อดิ่งกลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า "ถ้าจะสังหารไอ้ขาว
จะต้องใช้ลูกปืนที่หัวกระสุนทำด้วยใบมีดหมอ มีดหมอต้องเป็นของหลวงพ่อโศก วัดปากคลอง จังหวัดเพชรบุรี
ซึ่งหลวงพ่อโศกเป็นพระสหายของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโศกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน
" สมัยก่อนนั้นมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปาคลองยังพอที่จะหาได้ไม่เหมือนในเวลานี้ ซึ่งหามีดหมอของท่านไม่ได้อีกแล้ว
ซึ่งหาได้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นของแท้หรือเปล่า เพราะของปลอมมีแยะเหลือเกิน ทำได้เหมือนของจริงจนแยกแยะไม่ออก
เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวมันก็เกินพอที่จะทำให้เสือขาว
ถึงกับทรุดท้องทะลุแม้ว่าจะไม่ตายแต่ก็คางเหลืองสิ้นลายของคำว่า "จอมโจรหนังเหนียว"  นับตั้งแต่บัดนั้น
เสือขาวถูกพิพากษาโทษให้ประหารชีวิต (ยิงเป้า) ซึ่งกระสุนที่เพชรฆาตใช้สังหารเสือขาว
หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิงทำจากใบมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองทุกนัด

78
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ฤาษี
« เมื่อ: 03 พ.ย. 2549, 11:23:00 »
ฤาษีต้องเพียรบำเพ็ญตบะกันอย่างหนัก ฉะนั้นผลที่เกิดขึ้นจึงมีแตกต่างกันไปตามความเพียรพยายาม
ใครปฏิบัติได้มากก็ได้รับการยกย่องให้เป็นฤาษีอันดับสูง เท่าที่ทราบเขาจัดฤาษีไว้ ๔ ชั้นดังนี้


๑.ราชรรษี (เจ้าฤาษี)
๒.พราหมณรรษี (พราหมณฤาษี)
๓.เทวรรษี (เทพฤาษี)
๔.มหรรษี (มหาฤาษี)


แต่ในบางแห่งก็จัดฤาษีที่สำเร็จตบะไว้เพียง ๓ ชั้นคือ
๑.พรหมฤาษี คือผู้มีตบะเลิศ ข่มจิตสงบได้จริง ไม่ยินดียินร้ายในสิ่งทั้งปวง
๒.มหาฤาษี คือเป็นพวกฤาษีชั้นกลาง มีตบะ ข่มกามคุณได้หมดสิ้นแล้ว
๓.ราชฤาษี ได้แก่ ฤาษีที่มีตบะฌานสำเร็จเป็นอันดับต้น


การไต่อันดับไม่ได้ใช้ระบบการสอบ ผู้ที่จะเลื่อนชั้นจะต้องปฏิบัติบำเพ็ญตบะจน
ได้ผลตามที่กำหนดไว้ ซึ่งจะต้องใช้ความเพียรพยายามและความอดทนอย่างยิ่งยวด


ในคำไหว้ครู ที่ได้ยกมากล่าวในตอนต้น มีชื่อฤาษีที่คุ้นหูคนไทยส่วนมากอยู่ ๓ ตนด้วยกันคือ ฤาษีนารอด ฤาษีตาวัว ฤาษีตาไฟ
ฤาษีทั้งสามนี้คนระดับชาวบ้านสมัยก่อนรู้จักกันดี มักพูดถึงอยู่เสมอในตำนานพระพิมพ์ที่ว่า
จารึกไว้ในลานเงินก็ได้กล่าวถึงฤาษีตาวัว (งัว) และฤาษีตาไฟไว้เหมือนกัน ดังความว่า


        "ตำบลเมืองพิษณุโลก เมืองกำแพงเพชร เมืองพิไชยสงคราม เมืองพิจิตร เมืองสุพรรณ ว่ายังมีฤาษี ๑๑ ตน
ฤาษีเป็นใหญ่ ๓ ตนๆ หนึ่งฤาษีพีลาไลย ตนหนึ่งฤาษีตาไฟ ตนหนึ่งฤาษีตางัว เป็นประธานแก่ฤาษีทั้งหลาย
จึงปรึกษากันว่า เราท่านทั้งหลายนี้จะ เอาอันใดให้แก่ พระยาศรีธรรมาโศกราช ฤาษีทั้ง ๓ จึงว่าแก่ฤาษีทั้งปวงว่า
เราจะทำด้วยฤทธิ์ทำด้วยเครื่องประดิษฐานเงินทองไว้ฉะ นี้ฉลองพระองค์ จึงทำเป็นเมฆพัตร อุทุมพร
เป็นมฤตย์พิศม์ อายุวัฒนะ พระฤาษีประดิษฐานไว้ในถ้ำเหวใหญ่น้อย เป็นอานุภาพแก่มนุษย์ทั้งหลาย
สมณชีพราหมณาจารย์เจ้าไปถ้วน ๕๐๐๐ พรรษา

            พระฤาษีองค์หนึ่งจึงว่าแก่ฤาษีทั้งปวงว่า ท่านจงไปเอาว่าน ทั้งหลายอันมีฤทธิ์ เอามาให้สัก ๑๐๐๐
เก็บเอาเกสรไม้อันวิเศษ ที่มีกฤษณาเป็นอาทิให้ได้ ๑๐๐๐ ครั้นเสร็จแล้ว ฤาษีจึงป่าวร้องเทวดาทั้งปวง
ให้ช่วยกันบดยา ทำเป็นพระพิมพ์ไว้สถานหนึ่ง ทำเป็นเมฆพัตรสถานหนึ่ง ฤาษีทั้ง ๓ องค์นั้น
จึงบังคับฤาษีทั้งปวงให้เอาว่านทำเป็นผง เป็นก้อน ประดิษฐานด้วยมนต์คาถาทั้งปวงให้ประสิทธิทุกอัน
จึงให้ฤาษีทั้งนั้น เอาเกสรและว่านมาประสมกันดีเป็นพระให้ประสิทธิแล้ว ด้วยเนาวหรคุณประดิษฐานไว้บนเจดีย์อันหนึ่ง
ถ้าผู้ใดให้ถวายพระพรแล้ว จึงเอาไว้ใช้ตามอานุภาพเถิด ให้ระลึกถึงคุณพระฤาษีที่ทำไว้นั้นเถิด"


ดังนี้แสดงว่า แต่กาลก่อนทางภาคพื้นประเทศไทยเราก็มีฤาษีอยู่มาก โดยเฉพาะ ฤาษีตาวัว กับ ฤาษีตาไฟ
ติดปากคนมากกว่าฤาษีอื่นๆ และประวัติก็มีมากกว่า เท่าที่ทราบพอจะรวบรวมได้ดังต่อไปนี้


ฤาษีตาวัว
           นั้นเดิมทีเป็นสงฆ์ตาบอดทั้งสองข้าง แต่ชอบเล่นแร่แปรธาตุ จนสามารถทำให้ปรอทแข็งได้
แต่ยังไม่ทันใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร ก็เอาไปทำหล่นตกถาน (ส้วมของพระตามวัด) เสีย จะหยิบเอามาก็ไม่ได้
เพราะตามองไม่เห็น เก็บความเงียบไว้ ไม่กล้าบอกใคร จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกศิษย์ไปถาน แลเห็นแสงเรืองๆ
จมอยู่ใต้ถาน ก็กลับมาเล่าให้อาจารย์ฟัง หลวงตาดีใจบอกให้ศิษย์พาไป เห็นแสงเรืองตรงไหนให้จับมือจุ่มลงไปตรงนั้น
จะเลอะเทอะอย่างไรช่างมัน
            ศิษย์กลั้นใจทำตาม หลวงตาก็ควักเอาปรอทคืนมาได้ จัดแจงล้างน้ำให้สะอาดดีแล้วก็แช่ไว้ในโถน้ำผึ้งที่ท ่านฉัน
ไม่เอาติดตัวไปไหนอีก เพราะกลัวจะหล่นหาย
           อยู่มาวันหนึ่ง ท่านก็มารำพึงถึงสังขาร ว่าเราจะมานั่งตาบอดอยู่ทำไม มีของดีของวิเศษอย่างนี้แล้ว ก็น่าจะลองดู
จึงให้ศิษย์ไปหาศพคนตายใหม่ๆ เพื่อจะควักเอาลูกตา แต่ลูกศิษย์หาศพใหม่ๆ ไม่ได้ ไปพบวัวนอนตายอยู่ตัวหนึ่ง
เห็นเข้าที่ดีก็เลยควักลูกตาวัวมาแทน
         หลวงตาจึงเอาปรอทที่แช่น้ำผึ้งไว้มาคลึงที่ตา แล้วควักเอาตาเสียออก เอาตาวัวใส่แทน แล้วเอาปรอทคลึงตามหนังตา
ไม่ช้าตาทั้งสองข้างก็กลับเห็นดีดังธรรมดา แล้วหลวงตาก็สึกจากพระ เข้าถือเพศเป็นฤาษี จึงได้เรียกกันว่าฤาษีตาวัว มาตั้งแต่นั้น


ฤาษีตาไฟ
        ที่ตาของท่านจะแรงร้อนเป็นไฟ แบบตาที่สามของพระอิศวร  ฤาษีทั้งสองนี้เป็นเพื่อนเกลอกัน และได้สร้างกุฎีอยู่ใกล้กันบนเขาใกล้เมืองศรีเทพ
ท่านออกจะรักและโปรดมาก มีอะไรก็บอกให้รู้ ไม่ปิดบัง
        วันหนึ่งฤาษีตาไฟได้เล่าให้ศิษย์คนนี้ฟังว่า น้ำในบ่อสองบ่อที่อยู่ใกล้กันนั้นมีฤทธิ์อำนาจไม่เหมือนกัน น้ำในบ่อหนึ่ง
เมื่อใครเอามาอาบก็จะตาย และถ้าเอาน้ำอีกบ่อหนึ่งมารดก็จะฟื้นขึ้นมาได้อีก
        ศิษย์ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ฤาษีตาไฟจึงบอกว่า จะทดลองให้ดูก็ได้ แต่ต้องให้สัญญาว่า ถ้าตนตายไปแล้ว
ต้องเอาน้ำอีกบ่อหนึ่งมารดให้คืนชีวิตขึ้นใหม่ ศิษย์ก็รับคำ ฤาษีตาไฟจึงเอาน้ำในบ่อตายมาอาบ ฤาษีก็ตาย
ฝ่ายศิษย์เห็นเช่นนั้นแทนที่จะทำตามสัญญา กลับวิ่งหนีเข้าเมืองไปเสีย
        กล่าวฝ่ายฤาษีตาวัว ซึ่งเคยไปมาหาสู่ฤาษีตาไฟอยู่เสมอ เมื่อเห็นฤาษีตาไฟหายไปผิดสังเกตเช่นนั้นก็ชักสงสัย
จึงออกจากกุฎีมาตา ม เมื่อเดินผ่านบ่อน้ำตายเห็นน้ำในบ่อเดือด ก็รู้ว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นแล้ว เดินต่อไปอีกก็พบซากศพของฤาษีตาไฟ
        ฤาษีตาวัวจึงตักน้ำอีกบ่อหนึ่งมาราดรด ฤาษีตาไฟก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมา แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฤาษีตาวัวฟัง
และว่าจะต้องแก้แค้นศิษย์ลูกเจ้าเมือง ตลอดจนประชาชนพลเมืองทั้งหมดอีกด้วย
        ฤาษีตาวัวก็ปลอบว่า อย่าให้มันรุนแรงถึงอย่างนั้นเลย ฤาษีตาไฟก็ไม่เชื่อฟังได้เนรมิตวัวขึ้นตัวหนึ่ง เอาพิษร้ายบรรจุไว้ในท้องวัวจนเต็ม
แล้วปล่อยวัวกายสิทธิ์ให้เดินขู่คำรามด้วยเสียงกึกก้ อง รอบเมืองทั้งกลางวันกลางคืน แต่เข้าเมืองไม่ได้ เพราะทหารรักษาประตูปิดประตูไว้
        พอถึงวันที่เจ็ด เจ้าเมืองเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็สั่ง ให้เปิดประตูเมือง วัวกายสิทธิ์คอยทีอยู่แล้วก็วิ่งปราดเข้าเมือง
ทันทีนั้นท้องวัวก็ระเบิดออก พิษร้ายก็กระจายพุ่งออกมาทำลาย ผู้คนพลเมืองตายหมด เมืองศรีเทพก็เลยร้างมาแต่ครั้งนั้น

   
             ถ้าว่าตามเรื่องที่เล่ามานี้ ฤาษีตาวัวก็ดูจะใจดีกว่าฤาษีตาไฟ และคงจะเป็นด้วยฤาษีตาวัวเป็นผู้ช่วยให้ฤาษีตาไฟฟื้น
คืนชีพขึ้นมานี่เองกระมัง ทางฝ่ายแพทย์แผนโบราณจึงได้ถือเป็นครู ส่วนทางฝ่ายทหารออกจะยกย่องฤาษีตาไฟ
ดังมีมนต์บทหนึ่งกล่าวไว้ในตำราพิชัยสงครามว่า "ขอพระศรีสุทัศน์เข้ามาเป็นดวงใจ พระฤาษีตาไฟเข้ามาเป็นดวงตา"




79
กสินไม่จำเป็นสำหรับทุกคนที่ต้องการนิพพาน แต่จำเป็นสำหรับบางคน
กสินไม่ได้เป้นเครื่องมือช่วยให้เกิดฤทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือช่วยปรับคนที่มีจริตต่างๆที่ยังไม่พร้อมสำหรับงานวิปัสนา
ให้ข่มกิเลส นิวรณ์และ สังโยชน์ต่างๆ ให้พร้อมสำหรับวิปัสนากรรมฐาน เพื่อบรรลุมรรคผล


ในสมัยพุทธกาล ก็มีพระอรหันต์หลายองค์ ที่ต้องใช้ กสิน เป็นตัวทำ สมถกรรมฐานก่อน แล้วค่อยเจริญวิปัสนา เพื่อบรรลุอรหัตตผล
เช่น ลูกนายช่างทอง พระสารีบุตรฝึกให้อยู่พรรษาเต็มๆ ยังไม่ก้าวหน้า
เพราะจริตไม่อำนวย พระพุทธเจ้าจึงเป็นผู้ฝึกให้โดยเนรมิต ดอกบัวสีแดง สำหรับฝึกโลหิตกสิน
เป็นเบื้องต้นสำหรับแก้จริต เมื่อพระรูปนั้นเจริญกสินจนเกิดอุคหนิมิต สามารถเห็นภาพติดตา บังคับเล็ก ใหญ่ได้ดังใจ
พระพุทธเจ้าก็เนรมิตให้ดอกบัวเหี่ยวเฉาลง พระรูปนั้นก็ได้สติ พิจารณาถึงไตรลักษณ์ ก็สามารถบรรลุอรหันต์ ได้ภายในวันเดียว


วิธีฝึกกรรมฐาน แนววิธี กสิณ 10
กราบระลึกถึง พระพุทธเจ้า
กราบระลึกถึง พระธรรม
กราบระลึกถึง พระสงฆ์
กราบระลึกถึง คุณพ่อ คุณแม่ (ทุกภพทุกชาติ)
กราบระลึกถึง ครูอาจารย์ (ทุกภพทุกชาติ - ผู้ชายให้ กราบครูอุปัชฌาย์ด้วย)
นั่งหลับตา ทำจิตให้สงบ เพ่งตรงฝ่าความมืดไกลออกไปข้างหน้า ปฏิบัติรอบละ 20 นาทีแล้วพัก
(ถ้าหากปวดเมื่อย สามารถเปลี่ยนท่านั่งได้)


ผลแห่งการฝึกกรรมฐานแนวกสิณปฏิบัตินี้ บังเกิดผลขึ้นตามที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้
และเป็นทางหนึ่งที่นำไปสู่ฤทธิ์อำนาจอภิญญา แต่การอภิญญาในขั้นโลกียอภิญญานี้
ไม่สามารถหลุดพ้นทุกข์ได้ จักต้องเจริญวิปัสนากรรมฐาน พิจารณาความเป็นไปแห่งอารมณ์
และหลุดพ้นจิตใจกาย กายในธรรม สุดท้ายย่อมดับไปสิ้นแล ...


แสดงจริต 6
พึงทราบการรวบรวมจริต โดยมี 6 อย่าง ดังนี้ คือ ราคจริต, โทสจริต, โมหจริต, สัทธาจริต, พุทธิจริต, วิตกจรติ
จริต หมายถึง ความประพฤติ, พื้นนิสัย หรือพื้นเพแห่งจิตของคนทั้งหลาย
ที่หนักไปด้านใดด้านหนึ่ง แตกต่างกันไปคือ......?
ราคจริต คือ ผู้มีราคะเป็นความประพฤติปกติ (หนักไปทางรักสวยรักงาม มักติดใจ)
โทสจริต คือ ผู้มีโทสะเป็นความประพฤติปกติ (หนักไปทางใจร้อน ขี้หงุดหงิด)
โมหจริต คือ ผู้มีโมหะเป็นความประพฤติปกติ (หนักไปทางเหงาซืม งมงาย)
สัทธาจริต คือ ผู้มีศรัทธาเป็นความประพฤติปกติ (หนักไปทางน้อมใจเชื่อ)
พุทธิจริต คือ ผู้มีความรู้เป็นความประพฤติปกติ (หนักไปทางคิดพิจารณา)
วิตกจริต คือ ผู้มีวิตกเป็นความประพฤติปกติ (หนักไปทางคิดจับจดฟุ้งซ่าน)




หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อปานเรียกว่า ? ฤาษีลิงดำ ? วัดท่าซุง )

81
กสิณ ๑๐ กอง? ?:075:

ปฐวีกสิณ? ? ? ? ? ? ? ? เพ่งดิน
อาโปกสิณ? ? ? ? ? ? ? ?เพ่งน้ำ
เตโชกสิณ? ? ? ? ? ? ? ?เพ่งไฟ
วาโยกสิณ? ? ? ? ? ? ? ?เพ่งลม
นิลกสิณ? ? ? ? ? ? ? ? ? เพ่งสีเขียว
โลหิตกสิณ? ? ? ? ? ? ? เพ่งสีแดง
ปิตกสิณ? ? ? ? ? ? ? ? ? เพ่งสีเหลือง
โอทากสิณ? ? ? ? ? ? ? ?เพ่งสีขาว
อาโลกกสิณ? ? ? ? ? ? ?เพ่งแสงสว่าง
อากาสกสิณ? ? ? ? ? ? ?เพ่งอากาศ

-----------------------------------
ปฐวีกสิณ กสิณนี้? ? ? ?ท่านเรียกว่า ปฐวีกสิณ เพราะมีการเพ่งดินเป็นอารมณ์?
ศัพท์ว่า "ปฐวี" แปลว่า "ดิน"?
กสิณแปลว่า "เพ่ง" รวมความแล้วได้ว่า "เพ่งดิน"

-----------------------------------
อาโปกสิณ อาโปกสิณ อาโป แปลว่า "น้ำ" กสิณ แปลว่า "เพ่ง" อาโปแปลว่า "เพ่งน้ำ"?
กสิณน้ำมีวิธีปฏิบัติดังต่อไปนี้?
ท่านให้เอาน้ำที่สะอาด ถ้าได้น้ำฝนยิ่งดี ถ้าหาน้ำฝนไม่ได้ท่านให้เอาน้ำที่ใส แกว่งสารส้มก็ได้ อย่าเอาน้ำขุ่น หรือมีสีต่าง ๆ มา?
ท่านให้ใส่น้ำในภาชนะ เท่าที่จะหาได้ ใส่ให้เต็มพอดี อย่าให้พร่อง?
การนั่ง หรือเพ่ง มีอาการอย่างเดียวกับปฐวีกสิณ จนกว่าจะเกิดอุคคหนิมิต
อุคคหนิมิตของอาโปกสิณนี้ ปรากฏเหมือนน้ำไหวกระเพื่อม
สำหรับปฏิภาคนิมิต ปรากฏเหมือนพัดใบตาลแก้วมณี คือ ใสมีประกายระยิบระยับ
เมื่อถึงปฏิภาคนิมิตแล้ว จงเจริญต่อไปให้ถึงจตุตถฌาน?
บทภาวนา ภาวนาว่า "อาโปกสิณัง"

-----------------------------------
เตโชกสิณ เตโชกสิณ แปลว่า "เพ่งไฟเป็นอารมณ์"?
กสิณนี้ท่านให้ทำดังต่อไปนี้?
ท่านให้จุดไฟให้ไฟลุกโชน?
แล้วเอาเสื่อ หรือหนังมาเจาะทำเป็นช่องกว้าง ๑ คืบ ๔ นิ้ว แล้ววางเสื่อหรือหนังนั้นไว้ข้างหน้า
ให้เพ่งพิจารณาไปตามช่องนั้น การนั่งสูง หรือระยะไกลใกล้ เหมือนกันกับปฐวีกสิณ?
การเพ่ง อย่าเพ่งเปลวไฟที่ไหวไปมา ให้เลือกเพ่งแต่ไฟที่มีแสงหนาทึบ ที่ปรากฏตามช่องนั้นเป็นอารมณ์
ภาวนาว่า เตโชกสิณังๆ ๆ ๆ ๆ หลายๆ ร้อยพันครั้ง จนกว่านิมิตจะเป็นอุคคหนิมิต และ ปฏิภาคนิมิต
อุคคหนิมิตปรากฏเป็นดวงเพลิงตามปกติ?
สำหรับปฏิภาคนิมิตนั้น มีรูปคล้ายผ้าแดงผืนหนา หรือ คล้ายกับพัดใบตาลที่ทำด้วยทอง หรือเสาทองคำที่ตั้งอยู่ในอากาศ?
เมื่อได้ปฏิภาคนิมิตแล้วท่านจงพยายามทำให้ถึงจตุตถฌานเถิด ผลที่ตั้งใจไว้จะได้รับสมความปรารถนา
?
-----------------------------------
วาโยกสิณ วาโยกสิณ แปลว่า "เพ่งลม"?
การถือเอาลมเป็นนิมิตนั้น ท่านกล่าวว่าจะถือเอาด้วยการเห็นหรือจะถือเอาด้วยการกระทบก็ได้
การกำหนดถือเอาด้วยการเห็น ท่านให้ถือเอาการที่ลมพัดถูกต้องปลายหญ้าหรือปลายไม้เป็นอารมณ์เพ่งพิจารณา
การถือด้วยการถูกต้องกระทบ ท่านให้ถือเอาการที่ลมพัดมากระทบตัวเป็นอารมณ์ สมัยนี้
การถือเอาลมกระทบจะให้พัดลมเป่าแทน ลมพัด หรือถือเอาการเห็นต้นหญ้าต้นไม้ที่ไหวเพราะลมพัด
จะใช้ลมเป่าให้ไหวแทนลมธรรมชาติก็ได้?
เมื่อเพ่งพิจารณาอยู่ให้ภาวนาว่า วาโยกสิณังๆ ๆ ๆ? ? ?
อุคคหนิมิตของวาโยกสิณนี้ ปรากฏว่ามีการไหวๆ คล้ายกับ กระไอ แห่งการหุงต้ม ที่มีไอปรากฏมากระทบจักษุ
พูดให้ชัดเข้าก็คือ มีปรากฏการณ์คล้ายตามองเห็นไอน้ำที่ต้มเดือดแล้วนั้นเอง มีอาการปรากฏขึ้นอย่างนั้น
สำหรับปฏิภาคนิมิต มีอาการปรากฏภาพเหมือนไอน้ำที่ลอยขึ้น แต่ไม่เคลื่อนไหวหรือคล้ายกับก้อนเมฆบาง
ที่ลอยอยู่คงที่นั้นเอง อาการอื่นนอกนี้เหมือนปฐวีกสิณ
?
-----------------------------------
นิลกสิณ นิลกสิณ แปลว่า "เพ่งสีเขียว"?
ท่านให้ทำสะดึงขึงด้วยผ้าหรือหนังกระดาษก็ได้แล้วเอาสีเขึยวทา หรือจะเพ่งพิจารณา สีเขียวจากใบไม้ก็ได้ ทำเช่นเดียวกับปฐวีกสิณ?
อุคคหนิมิต เมื่อเพ่งภาวนาว่า นีลกสิณังๆ ๆ ๆ?
อุคคหนิมิตนั้น ปรากฏเป็นรูปที่เพ่งนั่นเอง

-----------------------------------
ปีตกสิณ? ปีตกสิณ แปลว่า "เพ่งสีเหลือง"?
การปฏิบัติทุกอย่างเหมือนนีลกสิณ แต่อุคคหนิมิตเป็นสีเหลือง ปฏิภาคนิมิตเหมือนนีลกสิณ นอกนั้นเหมือนกันหมด?
บทภาวนา ภาวนาว่าเป็น ปีตกสิณังๆ ๆ

-----------------------------------
โลหิตกสิณ โลหิตกสิณ แปลว่า "เพ่งสีแดง"?
บทภาวนา ภาวนาว่า โลหิตกสิณังๆ ๆ ๆ?
นิมิตที่จัดหามาเพ่งจะเพ่งดอกไม้สีแดง หรือเอาสีแดงมาทาทับกับสะดึงก็ได้
อุคคหนิมิต เป็นสีแดง
ปฏิภาคนิมิต เหมือนนีลกสิณ

-----------------------------------
โอทากสิณ โอทากสิณ แปลว่า "เพ่งสีขาว"?
บทภาวนา ภาวนาว่า โอทาตกสิณังๆ ๆ ๆ?
สีขาวที่จะเอามาเพ่งนั้น จะหาจากดอกไม้ หรืออย่างอื่นก็ได้ตามแต่จะสะดวก หรือจะทำเป็นสะดึงก็ได้
นิมิตทั้งอุคคหนิมิต และปฏิภาคนิมิต ก็เหมือนนีลกสิณ เว้นไว้แต่อุคคหนิมิต เป็นสีขาวเท่านั้นเอง

-----------------------------------
อาโลกสิณ อาโลกสิณ แปลว่า "เพ่งแสงสว่าง"?
ท่านให้หาแสงสว่างที่ลอดมาตามช่องฝา หรือช่องหลังคา หรือเจาะเสื่อลำแพน หรือหนังให้เป็นช่องเท่า ๑ คืบ ๔ นิ้ว ตามที่กล่าวในปฐวีกสิณ?
แล้วภาวนาว่า อาโลกสิณังๆ ๆ ๆ อย่างนี้ จนอุคคหนิมิตปรากฏ?
อุคคหนิมิตของอาโลกสิณ เป็นแสงสว่างที่เหมือนรูปเดิมที่เพ่งอยู่?
ปฏิภาคนิมิตนั้น ปรากฏเป็นแสงสว่างหนาทึบ เหมือนกับเอาแสงสว่าง มากองรวมกันไว้ที่นั่น
แล้วต่อไปขอให้นักปฏิบัติจงพยายาม ทำให้เข้าถึงจตุตถฌาน เพราะข้อความที่จะกล่าวต่อไปก็เหมือนกับที่กล่าวมาแล้วในปฐวีกสิณ
?
-----------------------------------
อากาสกสิณ? อากาสกสิณ แปลว่า "เพ่งอากาศ"?
อากาสกสิณนี้ ภาวนาว่า อากาสกสิณังๆ ๆ?
ท่านให้ทำเหมือนในอาโลกกสิณ คือ เจาะช่องฝาเสื่อหรือหนัง หรือมองอากาศ
คือความว่างเปล่าที่ลอดมาตามช่องฝา หรือหลังคา หรือตามช่องเสื่อ หรือผืนหนัง?
โดยกำหนดว่า อากาศๆ ๆ จนเกิดอุคคหนิมิตซึ่งปรากฏเป็นช่องตามรูปที่กำหนด?
ปฏิภาคนิมิตนั้น ปรากฏคล้ายอุคคหนิมิต แต่มีพิเศษที่บังคับให้ขยายออกให้ใหญ่เล็ก สูงต่ำได้ตามความประสงค์ คำอธิบายอื่นก็เหมือนกสิณอื่น
?
---------------------------------------
อานุภาพกสิณ ๑๐
 
? ? ? ? ?กสิณ ๑๐ ประการนี้ เป็นปัจจัยให้แสดงฤทธิ์ต่าง ๆ ตามนัยที่กล่าวมาแล้วในอภิญโญ เมื่อบำเพ็ญปฏิบัติใน
กสิณกองใดกองหนึ่งสำเร็จถึงจตตุถฌานแล้ว ก็ควรฝึกตามอำนาจที่กสิณกองนั้นมีอยู่ให้ชำนาญ
ถ้าท่านปฏิบัติถึงฌาน ๔ แล้ว แต่มิได้ฝึกอธิษฐานต่างๆ ตามแบบ ท่านว่าผู้นั้นยังไม่จัดว่าเป็นผู้เข้าฌานถึงกสิณ

-----------------------------------
? ? ? ? อำนาจฤทธิ์ในกสิณต่างๆ มีดังนี้
ปฐวีกสิณ? ? ? มีฤทธิ์ดังนี้ เช่น นิรมิตคนๆ เดียวให้เป็นคนมากได้ ให้คนมากเป็นคนๆ เดียวได้ ทำน้ำและอากาศให้แข็งได้?
อาโปกสิณ? ? ?สามารถนิรมิตของแข็งให้อ่อนได้ เข่นอธิษฐานสถานที่เป็นดินหรือหรือหินที่กันดารน้ำให้เกิดบ่อน้ำ
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? อธิษฐานหินดินเหล็กให้อ่อน อธิษฐานในสถานที่ฝนแล้วให้เกิดฝนอย่างนี้เป็นต้น?

เตโชกสิณ? ? ?อธิษฐานให้เกิดเป็นเพลิงเผาผลาญหรือให้เกิดแสงสว่างได้ ทำแสงสว่างให้เกิดแก่จักษุญาณ
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? สามารถเห็นภาพต่าง ๆ ในที่ไกลได้คล้ายตาทิพย์ ทำให้เกิดความร้อนในที่ทุกสถานได้?
วาโยกสิณ? ? ?อธิษฐานจิตให้ตัวลอยตามลม หรืออธิษฐานให้ตัวเบา เหาะไปในอากาศก็ได้
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? สถานที่ใดไม่มีลมอธิษฐานให้มีลมได้?

นีลกสิณ? ? ? ? สามารถทำให้เกิดสีเขียว หรือทำสถานที่สว่างให้มืดครึ้มได้?
ปีตกสิณ? ? ? ? สามารถนิรมิตสีเหลืองหรือสีทองให้เกิดได้ ?
โลหิตกสิณ? ? สามารถนิรมิตสีแดงให้เกิดได้ตามความประสงค์?
โอทากสิณ? ? สามารถนิรมิตสีขาวให้ปรากฏ และทำให้เกิดแสงสว่างได้ เป็นกรรมฐาน
? ? ? ? ? ? ? ? ? ?ที่อำนวยประโยชน์ในทิพยจักขุญาณ เช่นเดียวกับเตโชกสิณ?

อาโลกสิณ? ? นิรมิตรูปให้มีรัศมีสว่างไสวได้ ทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้เป็นกรรมฐานสร้างทิพยจักขุญาณโดยตรง?
อากาสกสิณ? สามารถอธิษฐานจิตให้เห็นของที่ปกปิดไว้ได้ เหมือนของนั้นวางอยู่ในที่แจ้ง
? ? ? ? ? ? ? ? ? ?สถานที่ใดเป็นอับด้วยอากาศ สามารถอธิษฐานให้เกิดความโปร่งมีอากาศสมบูรณ์เพียงพอแก่ความต้องการได้?

 -----------------------------------
วิธีอธิษฐานฤทธิ์
1. วิธีอธิษฐานจิตที่จะให้เกิดผลตามฤทธิ์ที่ต้องการท่านให้ทำดังต่อไปนี้ ท่านให้เข้าฌาน ๔ ก่อน
2. แล้วออกจากฌาน ๔
3. แล้วอธิษฐานจิตในสิ่งที่ตนต้องการจะให้เป็นอย่างนั้น
4. แล้วกลับเขาฌาน ๔ อีก
5. ออกจากฌาน ๔
6. แล้วอธิษฐานจิตทับลงไปอีกครั้ง สิ่งที่ต้องการจะปรากฏสมความปรารถนา

 -----------------------------------
? ? (จบกสิณ ๑๐ แต่เพียงเท่านี้)? ?:074:
? ? ?จากหนังสือหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
ที่มาจาก----> www.banfun.com
? ? :075:

82
ภาษาไทยมันดิ้นได้.....ความหวังดีจะกลายเป็นหวังร้าย
ผมก็เคยโดนว่า....แต่ไม่หนักเท่าไหร่......ผมเลยตัดปัญหา...
เลยเป็นผู้ชมบอร์ดที่ดีน่าจะดีกว่า.....
ต่างคนต่างจิตต่างใจ......แล้วยิ่งในบอร์ดยังต่างอายุอีกด้วย
ตอนนี้กลายเป็นคน อมภูมิ ดีกว่า....เก็บข้อมูลอย่างเดียว
บางทีเห็นคำถามก็อยากตอบ....แต่กลัวเดี๋ยวคนอื่นว่าอวดฉลาด
    :065:
------------------------------------------------------------------------------------------
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์                มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลณ์พรรณเกลี่ยวที่เลี้ยวลด     ก็ไม่คตเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน 
    :067:

(ไม่รู้ว่าคำกลอนถูกอ่ะป่าว...มันขุดมาจากสมองลึกๆอ่ะ)    :075:
------------------------------------------------------------------------------------------

83
ช่วยโพสต์ให้หน่อยนะครับ? ขอบคุณมากครับ

ยันต์ห้ายอด
อิทธิฤทธิ์/อานุภาพของยันต์
ยันต์นี้ใช้ลงบนผ้าประเจียดหรือลงบนธงก็ได้ คุ้มกันภัยอันตรายทั้งปวง? ? ? ? ?
คาถาสำหรับปลุกเสกยันต์มีดังนี้
? ? ? ? ? ?อะสังวิสุ โลปุสะพุภะ สังวิทาปุกะยะปะ นะโมพุทธายะ มะอะอุ อะรหังฯ? ? :095:


ดูยันต์รูปอื่นดูที่นี้เลย -----> http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,821.0.html

84
ไปสรรค์หามาจากไหนกาน.......หุหุ   :010:

ดีๆ...สู้ต่อไปเพื่อความรู้ของทุกคน.....(เคน  สู้โว้ย 555+)   :006:

85
บางที่อาการ  ของขึ้น   ใช่ว่าจะดีนะครับ
แต่ถ้าเป็นเหตุคับขันอันนี้  เกิดแล้วดี
    :002:
---------------------------------
ปล.ผมถ้าจากพระท่านนึง ชื่อหลวงพี่ยง (วัดบางแคกลาง  จ.สมุทรสงคราม)
     ซึ่งมีคนไปให้ท่านแก้ของบ่อยๆ  ท่านบอกว่าคนสมัยนี่ไม่ดีเลย
     ทำของกันตลอด โดยเฉพราะผู้หญิง 
     (เอากระดูกผีตายโหง ไปทำพิธีแล้วเอาไปใส่น้ำให้คนที่เราจะทำของให้กิน)
     (เอาเศษบาตรแตกไปทำพิธี  ให้คนอื่นมีอันเป็นไป)
     (เอาใบเต่าล้าง  ไปฝังในทาง 3 แพ่ง)
     และอีกมากมาย.........
   :075:

    และหลวงพี่บอกว่า  สักมาแล้วไปกินเหล้าแล้วของขึ้นอันนี้ไม่ดี
     ถ้ามีของดีก็ให้เก็บไว้ในยามจำเป็น
     ยึดหลักทำความดี  (แต่หลวงพี่ไม่พูดเพราะแบบนี้นะ  ท่านพูด  กู - เอง - มึง)
    :048:

86
ไป10วันได้อะไรบ้าง เล่าให้ฟังหน่อยครับ อยากทราบครับ? :050: :050: :050:

ได้อยู่ที่วัดอะจิ ...... ;D

87
แล้วถ้าตอนที่ ของขึ้น เราจะรู้สึกตัวด้วยเหรอ...

รู้สึกตัวครับ......
แต่เหมือนจิตเราถูกคล้อยตามไปในอีกสิ่งๆ หนึ่ง
และเราก็สามารถ  ควบคุมอาการ  ของขึ้นได้ 
แต่ถ้าเราปล่อยจิต  เราก็สามารถเป็นความรู้สึกต่างๆ
    :075:
----------------------------------------------------------------------
ปล.ผมอธิบายไม่ถูกอ่ะนะ  แต่นี่คือความรู้สึกส่วนนึงที่พอจะบรรยายได้
      แต่ถ้าเกิดเหตุคับขันผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า  ตัวเราจะมีสติหรึอป่าว....
   :005:

89
คัยเค้าไม่เชื่อก็ช่างเค้าเหอะ......? ?:092:
-------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้เป็นส่วนที่ผมศึกษามาบางส่วนนะ
อาจารย์ผู้สักกว่าจะสักได้ต้องฝึกจิต? ฝึกสมาธินาน
และส่วนที่สำคัญคือ? ต้องชำนาญ วาโยกสิณ พอสมควร
เพราะ? ต้องใช้ กสิณลม? อัดพลัง
(ในตอนที่สักเสร็จต้องอัดพลัง? เวลาอาจารย์เป่า พุทธคุณต่างๆ หรืออาการ 32 )
? ?:002:
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปล.? ถ้าคัยอยากของขึ้นทำตามนี้

1. อาบน้ำ? ทำใจให้สบาย? แล้วเตรียมนั่งสมาธิในท่าที่สบายที่สุด
? ? ( ต้องมีความรู้สึกที่สบายไม่ใช่บังคับตัวเอง )? นั่งที่เงียบๆ
2. นั่งหลับตาให้เป็นสมาธิ? แล้วหายจัย? เข้า - ออก? สุดลมหายใจ
3. แล้วเริ่มหายใจเร็วขึ้นเรื่อยๆ? เท่าที่จำทำได้? ( หายใจเร็วแล้วต้องสุดลมหายใจด้วย )
4. ทำแบบนี้อยู่? อยู่ประมาณ 25 นาที (แล้วแต่จิตกับสมาธิ ของแต่ล่ะบุคคล)
5. แล้วตัวเราจะรู้สึกหายใจไม่เป็นจังหวะ? ไม่ต้องฝืนหายใจเร็ว
? ? ?และร่างกายเราจะรู้สึกคล้ายๆกับเป็นเหน็บที่มือ 2 ข้าง จะรู้สึกชา? สั่นๆ
? ? ?แล้วไม่ต้อง? ฝืนความรู้สึกตัวเอง? ปล่อยให้ความรู้สึกแบบนั้นไปเรื่อยๆ
? ? ?(((( แล้วความรู้สึก? ของขึ้น? จะปรากฏ ))))
? ?:032:
-------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อเราต้องการออกจากอาการของขึ้น
1. เอามือ 2 ข้าง? เอามาประกบเข้าด้วยกัน
2. ถ้าใครที่สัก? ?เสือ หรือ สิงห์ มือ 2 ข้าง
? ? จะอยู่ในอาการ? หงิก (เหมือนเสือจะตะปลบเหยื่ออ่ะ)
? ? ให้พยายาม? กางมือ 2 ข้างให้ได้ ให้อยู่ในทางพนมมือ
? ? แล้วพยายามกำหนดลมหายใจ? ให้ช้าลงเรื่อยๆ
? ? :075:
-------------------------------------------------------------------------------------------
เสร็จแล้ว? ต้องอย่าลืม? ตั้ง นะโม 3 จบ
แล้ว? สวดอุทิศ ผลบุญที่เราให้นั่งสมาธิให้? ครู? อาจารย์ ด้วยนะ
? ?:054:
-------------------------------------------------------------------------------------------
ในการนั่งสมาธิแบบนี้? เป็นการนั่งแบบเล่นลม? เล่นวาโยกสิณ
เป็นการนั่งเพื่อ? พิจารณาร่างกายอีกแบบนึงว่าเรามีสิ่งดี หรือไม่ดีอะไรบ้าง
? ?:049:
-------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าสักตัวยันต์ต่างๆ.....ที่ไม่ใช่ยันต์รูป? อาการของขึ้นจะไม่เกิด
จะรู้สึกเพียง? ?อาการมือเป็นเหน็บ? ?เพราะจะเกิดพลังขึ้นที่มือ 2 ข้าง
? ? :074:
-----------------------------------------------------------------------------------------

ไม่รู้ว่าที่บอกมาจะมีคน? ปลื้ม? หรือ ไม่ปลื้ม? แต่ผมขอ? จบ.........? :010:
------------------------------------------------------------------------------------------
กระทู้ข้างล่าง? เคน ? ?ตามมาแซวจนได้.....
พอดีกำลังเปลื่ยนงานใหม่? คงมีโอกาสไปวัดวัน? เสาร์+อาทิตย์ได้?
แล้วไปสักแล้วโทรไปบอก? ?ได้ไปวัดวันอาทิตย์? คงได้เจอ พี่เอ ? แน่ๆเลย
? ?:001:

91
แทงยู     จึ้ก ๆ ๆ   :005:

92
(แทงยู)        จึ้ก ๆ ๆ   :005:

93
อืม............จิงของพี่   :049:
ขอบคุงคร๊าบสำหรับคำตอบ   :002:

94
ที่หัวไหล่น่าจะเป็นงบน้ำอ้อยนะครับที่ว่าเป็นแสบๆน่ะครับเป็นเหมือนอะไรกัดหรือเปล่าแต่ที่จริงไม่มีไรกัดใช่เปล่าครับแต่ของผมไม่เป็นน่ะครับจะเป็นแบบคันๆบางครั้งก็แบบขลุกครับแต่ช่วงนี้เริ่มโมโหเร็วซักหน่อยครับ

แสดงว่าเริ่มร้อนของแล้ว  หุหุ   :005:
เหมือนผมล่ะ   
สติเท่านั้นล่ะที่จะหยุดได้  (อย่าปล่อยให้ความรู้สึกบังคับเรา)   :009:
แต่ถ้ามีเรื่อง  ถึงไหนถึงกัน 
  :075:

95
ติดตรึมแน่ๆ....555+   :005: :006:

96
 :060:  ขอบจัยจ้า.....สุดหล่อ   :053:

97
 :016:  ขอให้ท่านมีความสุข บนแดนสวรรค์   :015:

98
ใครมีรูปยันต์ *-* มหาอุตม์ *-* ช่วยเอามาลงให้ดูทีครับ

แล้วที่สักรอบคอ เรียกว่าอะไรหรอครับ ผมจำไม่ได้ สร้อยสังวาล หรือป่าว

ยันต์มหาอุด (ด้านหน้า)
อิทธิฤทธิ์/อานุภาพของยันต์
           ยันต์นี้มีสองด้าน คือด้านหน้าและด้านหลัง ใช้ในทางคงกระพันชาตรี
           แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ทั้งเป็นเมตตามหานิยมด้วย
           ลงยันต์แล้วท่านให้ปลุกเสกด้วยตนเอง
           คาถาสำหรับปลุกเสกยันต์ให้ใช้คาถาที่เกี่ยวกับคงกระพันชาตรี
          จะเป็นคาถาบทใดก็ได้ เช่น
    :015:

คาถาอุดปืนให้ยิงไม่ออก
อุทธัง อัทโธ นะโมพุทธายะฯ


คาถาอยู่ยงคงกระพัน ยิง ฟัน แทง ไม่เข้า
อิติปิโสภะคะวานะเพชรคงข้างซ้ายโมเพชรคงข้างขวา
ธาเพชรคงข้างหลังเพชรหุนเพชรหันเพชรผันเพชรสู้
เพชรอยู่อย่าไปไหนพุทธังหินทั้งสามพันก้อนตะบอง
ทั้งสามพันท่อนฟันกูบ่มิเข้าปืนนั้นเล่ายิงกูบ่มิออก
ปราบหมู่มนุษย์ทั้งสี่ทวีปรึกลือรึกลืออะนิอะนิมะ
หิละตังสะนะพุทธังอะสุนอะนิพุทธังคงเนื้อธัมมัง
คงหนังสังฆังคงกระดูกสังขะนุริมะธนาอะทนๆ
มะทานๆอะอึๆ
 

ข้อมูลที่มา...www.mahamodo.com
------------------------------------------------------------------------------
ยันต์มหาอุด (ด้านหลัง)
อิทธิฤทธิ์/อานุภาพของยันต์
           ยันต์นี้มีสองด้าน คือด้านหน้าและด้านหลัง ใช้ในทางคงกระพันชาตรี
           แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ทั้งเป็นเมตตามหานิยมด้วย
           ลงยันต์แล้วท่านให้ปลุกเสกด้วยตนเอง
           คาถาสำหรับปลุกเสกยันต์ให้ใช้คาถาที่เกี่ยวกับคงกระพันชาตรี
          จะเป็นคาถาบทใดก็ได้ เช่น
    :015:

คาถาอุดปืนให้ยิงไม่ออก
อุทธัง อัทโธ นะโมพุทธายะฯ


คาถาอยู่ยงคงกระพัน ยิง ฟัน แทง ไม่เข้า
อิติปิโสภะคะวานะเพชรคงข้างซ้ายโมเพชรคงข้างขวา
ธาเพชรคงข้างหลังเพชรหุนเพชรหันเพชรผันเพชรสู้
เพชรอยู่อย่าไปไหนพุทธังหินทั้งสามพันก้อนตะบอง
ทั้งสามพันท่อนฟันกูบ่มิเข้าปืนนั้นเล่ายิงกูบ่มิออก
ปราบหมู่มนุษย์ทั้งสี่ทวีปรึกลือรึกลืออะนิอะนิมะ
หิละตังสะนะพุทธังอะสุนอะนิพุทธังคงเนื้อธัมมัง
คงหนังสังฆังคงกระดูกสังขะนุริมะธนาอะทนๆ
มะทานๆอะอึๆ


------------------------------------------------------------------------------
มีอีกหลาย  ยันต์มาดูที่นี่คร๊าบ ------>  http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,821.0.html


99
 :067: ผมคงไปไม่ได้อ่ะ  อยู่ไกล....    :065: 
 

100
ผมอยากให้  แก้ไข  ให้กระทู้มันเด้งขึ้นไปอยู่อันบน
เวลาที่คนเข้ามาตอบคำถาม  เหมือนกระทู้มันอัพเดท
เพราะบางคำถามเป็นคำถามเดิม....ผู้เยี่ยมชมเข้ามาใหม่
เค้าก็จะดูเพียงหน้าแรก  เค้าไม่ลงไปดูกระทู้หน้าหลังๆ.....
ทำให้เกิดคำถาม  แบบเดียวกันหลายๆ  ครั้ง
   :027:

ปล.คำเสนอแนะของผมอาจจะเป็นประโยชน์บ้างนะคร๊าบ     :075:

101
  ลง 8 ทิศ  ก่อนสิคร๊าบ 
ลายเส้นที่สวยงาม
พุทธคุณ  รอบด้าน
เสริมยันต์อื่นให้มีพลังมากขึ้น

102
เบอร์มีบอกอยู่ในกระทู้นิครับ ผมมาบอกเผื่อลุงไม่สังเกตุ

เบอร์ที่เค้าให้ไว้  ติดต่อไปแล้ว  ติดต่อไม่ได้คร๊าบ

103
ไปคนเดียว  ฉายเดี่ยว  เก่งแล้ว คร๊าบ   :015:

ครั้งแรกที่ผมไป ผมก็ไปคนเดียว ถ้าไม่ได้  พี่ เอ   ผมก็คงแย่
ไปครั้งแรก  ก็ได้หลวงพี่ติ่งเป็นครู  และเป็นครูตลอดไป  พอผมสักเสร็จ 
ผมก็ไปซื้อดอกไม้แล้วก็ไปต่อแถวใหม่อีกรอบ
พอถึงคิวผม  แกก็บอกว่า ((( อะรัยว่ะ  เอาอะรัยเยอะ  ไปกุฏิอื่นก่อนไป )))
เท่านั้นล่ะครับ ไหว้แก  แล้วเดินออก  นั่งรถกลับเลย  ~_^ ....!!!!!

 :075:
ปล. 55555555555   :005:

104
การทำผิดข้อห้าม นอกจากของจะเสื่อมแล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า เช่นของเข้าตัวเป็นต้น :o ???

ทำผิดแล้ว? ของจะคืนครู? ?ไม่เข้าตัวหรอก? ?:049:

แล้วสังเกตุดีๆ? คนที่สักน้ำมัน? อาจารย์ที่สักให้? ท่านเหมือนจะรู้ว่าเรามีอะรัยอยู่บ้าง
และเหมือนจะรู้ว่า? เรารักษาของ? ประพฤติตัวดีแค่ไหน
? ? :075:

ปล.เหมือนกับ  พ่อแม่  ยังไงๆ  ก็ยังจำลูกของตัวเองได้
      ครู อาจารย์  ย่อมรู้ว่าคนไหนเป็น ศิษฐ์

105
 :053:? ขอบจัยมากเลย? เคน  เคยอ่านเจอทีนึงแล้วไปหาใหม่? หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ?
อยากได้มานานแล้ว........
:053:
? ?
แทง ยู? ?:060:

106
คาถา? คุ้นๆ....เหอๆ...... :095: :095:

107
 :016:? ยันต์ท้าวเวสสุวรรณ ? ?:015:
อิทธิฤทธิ์/อานุภาพของยันต์
? ? ? ? ? ?ยันต์นี้ลงแล้วให้แขวนไว้หน้าบ้านกันภูตผีปีศาจร้ายทุกชนิด กันและแก้คุณไสย (โดนของ)


และยันต์อีกมากมาย....ที่นี่ ---->   http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,821.0.html

108
ยันต์หอมเชียง ครับ...    :053:
ยันต์แต่ล่ะอย่างที่ แก่มีไม่ธรรมดาเพราะเลือกลง
คัดที่แรงๆ.....
   :074:

110
 :054:  เลื่อมใส  จิงๆ   :054:

111
เคยดูหนังเรื่อง  คนเล่นของ  ป่ะ  มีอยู่ตอนนึงเขาบอกว่า   :005:
(((((  ของที่มรึงได้  จะติดตัวพวกมรึงไปจนกว่าพวกมรึงๆๆๆจะตาย)))))   :074:

มันเปงหนังนะคร๊าบ  อย่าเคลียด      :075:

112
ว้าว...เป็น  (ปา ศพ การ)  ต้อง ไป หา มา ไว้ ติด ตัว บ้าง แล้ว    :049:

113
ผมก็อยากสักคับ....ไม่ทราบว่าอยู่แถวไหนบ้างบอกหน่อยคับ   :075:

114
กลัวถ้าของขึ้น แล้ว จะปีน พวกเสาไฟอะครับ ปีนต้นไม้
เวลาลง ลงไม่ได้อีก กลัวแบบนั้น

ผมกลัวสักแล้วจะไปปีนขึ้นบ้าน  น้องคนโน้น คนนี้  หุหุ   :005:

115
จากที่ได้ยินมา เมื่อสมัย 40-50 ปีก่อน ตอนที่หลวงพ่อท่านธุดงค์ไปที่ป่าแถวกาญจนบุรี หลวงพ่อท่านได้ไปพบเสือบ่อยครั้ง และได้แผ่เมตตาให้ และเสือก็ไม่ทำร้ายหลวงพ่อแต่อย่างใด เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้งหลายครา และเสือก็จะคอยมาวนเวียนเฝ้าหลวงพ่ออยู่ไม่ห่าง เลยเป็นนิมิตให้หลวงพ่อเปิ่นท่านนำรูปเสือมาสัก และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ประตัวหลวงพ่อเปิ่นนั่นเอง
:017: :017: :017: หลวงปู่ท่านชอบเสือ ท่านเคยบอกว่า เสือนั้น ใครเห็นก็กลัว สัตว์ต่างๆได้กลิ่นสาบเสือก็ไม่กล้าเข้าใกล้ ดุร้าย แต่เต็มไปด้วยความสวยงาม
ถูกต้องนะคร๊าบ ๆ ๆ ๆ ๆ.........

116
มีหนังสือเล่มเดียวกับผมเลย.....
ยันต์กลางๆ เล่ม  มียันต์ ทำคุณหนังควายด้วย  ไม่ดีอย่าศึกษา
  (หนังสือของผม  ยันต์108) แล้วยังมี นะ108 และอะรัยอีกก็ไม่รู้  จำไม่ได้    :075:

118
ซึ่งผมก็อยากทราบ ข้อมูลหรือความหมายของแต่ละยันต์ พุทธคุณของแต่ละยันต์ และก็อยากเห็นรูปด้วย
เอายันต์ที่ใช้สักกันในวัดบางพระครับ หรือยันต์ทั่วๆไปที่ เค้าสักกันอะครับ
ถ้าช่วยกันเอามาเผยแพร่ก็จะมีประโยชน์มากเลยอะครับ
จะได้ช่วยกันศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมด้วย

? ยันต์ทั่วๆไปอ่ะนะ
----->
? http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,821.0.html ? ?:059:

119
ผมได้ไปเช้า วัตถุมงคล? สาริกา ที่กุติใหญ๋ หลวงพ่อเปิ่นมา? เปนไม้อ่านะ ใส่กรอบเรียบร้อยแร้วว
ผมเช่ามาใส่ .......ได้ระยะนึง ประมาณ 3 อาทิด.... ขอบอกว่าดีจิงๆครับ ......ตอนนี้ปัจจุบัน ผมก้อคล้องอยู่
ราคาที่ผมเช้า มา 100 บาท เอง
 :053: :052: :008:

ดียังไงอ่ะ........   
ทำให้ยาก แล้วจากไป.......   :-[ ???

120
ยันต์ที่นำรูปมาลงมีพุธทคุณทางด้านใดครับ ผมไม่เคยเห็นเลยช่วยอธิบายทีครับ เพื่อผู้ที่เข้ามาชมจะได้รู้(ตัวผมเองก็อยากรู้ครับ) ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ตามไปดูในเว็บเลยคับ? มียันต์อีกหลายแบบ...
ส่วนพุทธคุณด้านใด? ผมก็ไม่รู้หรอกคับ? ไปเจอมาเลยเอาให้ดูกัน
? ?:075:
เข้าไปดูในเว็บเขาแล้วเข้าไปดูยันต์แต่ล่ะรูป  ก็จะบอกพุทธคุณ คับ

121
ตามนี้เลย -----> http://www.cm77.com/hongpra/yanlanna.php




122
มันก็ดีนะ  บางที่อาจจะมีรูปเราเป็นส่วนหนึ่งด้วย...เอาไว้พาลูกมาดู   :005:

123
ตามนี้เลย ?:048:
http://sak-yant.com





124
เดินเล่นบนเน็ทแล้วแว็บไปเจอมาเลยเอามาให้ดู ? ?:010:
http://www.sak-yant.com/archive/hlwongporphern/







http://sak-yant.com/

ปล.? ถ้ารูปมันเยอะไปต้องขออภัยด้วย? แล้วผมจะเอาไปแปะไว้ที่หมวดรูป
? ? ? ?ถ้าไม่มีคัยว่าผมไม่ขอย้ายนะ....แฮะๆ....
:009:

125
? :016:? รูปยันต์ต่างๆ...เข้าไปดูนะ...? :015:
บางทีที่วัดอาจจะเรียกไม่เหมือนกัน
ลองเข้าไปดูเป็นความรู้? เห็นหลายท่านบอกอยากดูรูปยันต์ต่าง
แต่ผมหามาได้เท่านี้เองลองดูแล้วกาน
? ? ?:048:
http://www.bp-th.org/webboard/index.php/topic,821.new.html#new

126
 :016:  ยินดีต้อนรับครับ   :015:  :053:

127
แหม...พ่อรูปหล่อโทรศัพท์หายเป็นว่าเล่นเลยน่ะ....
วันนั้นโทรไปก็ไม่รับเซ็งเลย....ท่านอาจารย์แถวๆคลองเตยบ่นคิดถึงน่ะ 8)
ท่านอาจารย์แถวคลองเตยบ่นถึงนาฬิกา   ตกลงกันยังไง คุยกันเองแล้วกัน
อนาคต มึ                ง                         ต้องเป็น    เ                อ                            ด                                ด์
แน่ ๆ เลย   55555555   

 :074: :074: :074: :074: :074:

128
ฤาษีตาไฟเท่าที่ทราบ คือเด่นด้านบู๊นะครับ ทหารหลายๆคนก็นับถือฤาษีตาไฟ
ผิดกับฤาษีตาวัวที่ส่วนใหญ่ผู้ที่นับถือจะเป็นพวกนักวิทยาศาสตร์ หมอ หรือเภสัช เพราะท่านเก่งด้านปรุงยา ด้านธาตุต่างๆ และท่านก็ใจดีด้วย

ฤาษีตาไฟเท่าที่ทราบ คือเด่นด้านบู๊นะครับ ทหารหลายๆคนก็นับถือฤาษีตาไฟ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

และสมเด็จพุทธาจารโต พรหมรังสี  ท่านก็ทรงเชียวชาญ  ด้านกษิณไฟ  เช่นกัน
และหลวงพ่อเปิ่น  ของเรา  ก็เคยเดินธุดงไปเยี่ยม  สมเด็จพุทธาจารโต 
และได้ร่ำเรียนวิชาจนสำเร็จมาเหมือนกัน 
(คำว่าสำเร็จผมไม่แน่จัยว่าสำเร็จถึงขั้นไหนเพราะ มีความยากลำบากมากให้การเรียนให้แตกฉาน)
แต่ถามจากคนที่รู้ที่ศึกษามา  เขาก็บอกว่า หลวงพ่อเปิ่นเป็นเลิศด้าน  เตโชกษิณ (กษิณไฟ)

129
เคยลงหมัดธนูกะหลวงพี่แป๊วมาด้วยดิ 55555555555555  ;D ;D ;D

อ่ะนะ......  :074:
เดี๋ยวรอบหน้าต้องรองทาบทาม  กับหลวงพี่ติ่งมั่งล่ะ...   :048:

130
[size=36pt]เห็นๆที่นิยมกันและเช่าหากันมีราคาก้จะเป็น  เหรียญรุ่นแรกปี19    เหรียญหล่อรุ่นระฆังแตก   พระผงรุ่นแรกๆ   ส่วนเครื่องรางของขลังก็จะเป็นพวก   เบี้ยแก้   ตระกรุดหนังเสือ   ตระกรุดยันต์หอมเชียงอุดเทียนชัยปี44(อันนี้สุดยอดมีรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่หลวงพ่ออนุญาติให้ใช้ยันต์นี้ทำตระกรุดและทันหลวงพ่อเสก)  ลูกอมเสืออาคม  ลูกอมหนุมานกันภัย  ที่กล่าวมาไม่แน่ใจว่าที่วัดยังมีเหลือให้บูชารึเปล่านะต้องลองไปดูที่วัดเอาครับ  หรือมีท่านใดมีเยอะจะแบ่งให้เพื่อนๆได้บูชาก็ไม่ว่ากันครับ.....[/size]

ตระกรุดยันต์หอมเชียงอุดเทียนชัยปี44 (อันนี้สุดยอดมีรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่หลวงพ่ออนุญาติให้ใช้ยันต์นี้ทำตระกรุดและทันหลวงพ่อเสก)
อันนี้ ดีจิงๆ....ผมลองให้  อาจารย์ท่านนึงตรวจพลัง  แกบอกว่าไม่ธรรมดาเลย  ( แต่ตอนใส่ให้ระวังนิดนึง  มันร้อน )

131
อันนั้นยันต์ทับกัน.....   :002:

แต่ของผม...อาจารย์เก่าอาจารย์ใหม่  ทับกันนุงเลยล่ะ 555+
อาจารย์แรกผมเป็น ฆราวาส 
แต่ตอนนี้  อาจารย์ผม  คือหลวงพี่ ติ่ง (ชอบตรงที่ท่านมือหนักนี่ล่ะได้จัยดี)

ปล. คติผมก็คือ   สักไปแล้วเมื่อใดที่ยันต์เริ่มลบเลือน
      ผมก้จะมาหาอาจารย์อีก  เพราะอาจารย์จะได้รู้ว่าเราเคยมาสักแล้ว
   :048:
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่ที่เปลกก็  คือ หลวงพี่นัน  ผมนั่งต่อรอสักอยู่พอถึงคิวผม
ยังไม่ทันที่ผมจะถอดเสื้อเลย  หลวงพี่ หยิบเข็มสักน้ำมันออกมาเลย
ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้บอกเลย และยังไม่ได้ถอดเสื้อด้วย  งง  เลย
ผมก็ไปไม่บ่อยนะ 1 เดือนต่อครั้ง บางที่ก็ 2-3 เดือน
เพราะว่าลายสักของ หลวงพี่ติ่ง  อยู่นาน 2 -3 เดือนเลย
    :059:
--------------------------------------------------------------------------------------------------
วันนั้น  ขอพระรามแผงศร  กับหลวงพี่นัน ของเกือบขึ้นเลย
ดีที่นั่งกัดฟันอยู่  เลยได้แค่หายจัยแรงเท่านั้นเอง.....
   :075:
     

133
ขอความกระจ่างชัดเจน  นิดนึง....ไม่รู้ทีมาที่ไปเลย

135
หลวงพี่ติ่งท่านใจดีมากครับ ถามได้ครับ
 :)

ถูกต้องนะคร๊าบ ๆ ๆ ๆ ๆ   ;D

136
มีครับ เยอะด้วยนะ แต่เหนียวไม่เหนียวนั้นขึ้นอยู่กับ คนที่ได้ไปนั้นจะรักษาของอยู่ไหม จะทำตัวดีแค่ไหนที่จะให้ของที่อยู่ในตัวเรานั้นคุ้มครองเรานะครับ

ถูกต้องนะคร๊าบ ๆ ๆ ๆๆ ๆ ๆ

137
พ่อแก่  ก็คือ  พ่อปู่ฤาษี  (ความหมายเดียวกัน)
พ่อแก่  หรือ  พ่อปู่ฤาษี   ก็จะมีหลายตน โดยที่เรียกกันก็มี 108 ตน

ก็จะเรียกไปกันหลายชื่อเพราะมีหลายตน
ฤาษีนารอด
ฤาษีนาราย
ฤาษีตาวัว
ฤาษีตาไฟ
และฤาษี อีก108 ตน

138
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: happy day
« เมื่อ: 15 พ.ค. 2549, 10:38:42 »
อวยพรด้วย     เหมือน freeland เลย        :002: :002:

139
งอนไปเลย...  เขาขอโทษ 
แค่เลข ห้า    สาม ตัวแท้ๆเลย (555+)

140
   :006: 555+   เจ้าหนู  จำไม   ขี้สงสัย   555+    :005:

141
ฝันว่า  ตายเป็นเรื่องดี  จิงอย่างที่พี่  เอ  บอกเลย    :017:
แต่ถ้าฝันว่า  ฟันหัก   ไม่ดี 100% เจอมากับตัวหลายรอบแล้ว     :048:
(ถ้าฟันหักเยอะ  คนใกล้ชิดเช่น พ่อแม่  พี่น้อง  หรือคนที่มีความสำคัญเราจะ  เสีย)   :065:
(ถ้าหักน้อย  ก็จะเป็นคนที่มีความสำคัญกับเรา   น้อยลงไป)
    :010:

142
 :092:  มาแอบดู     :092:

143
 :092: ผมเคยสักกับ (ฆราวาส) <---  เขียนผิดแน่เลย   ยันต์ครูเป็น :059:   (พระเจ้า 5 พระองค์)   :059:
 :003: (อาจารย์เดือน วัดไผ่ล้อม   ราชบุรี)
   :052:

144
 :095:  ห้ามใช้ ลิ้น  ต่ำกว่าสะดือด้วย       :075:

145
ไม่แน่จัยคับต้องไปให้พระท่านตรวจพลังให้   ของผม ๔๔

146
 :073:  มีคนเสนอมาอ่ะจิ....ร้ายกาจ  จิงๆ   :073:

148
ได้กับ  หลวงพี่ติ่ง  มาก็ok แล้ว  (เมตตาแกดี   มีเมตตาก็แคล้วคลาดทุกอย่างแล้ว)   :002:

149
คิดซ่ะว่า? ?คนเขามีพ่อมีแม่? อย่าไปทำเขาโดนที่เราไม่จริงจังและจริงใจ
? ? ? ? ? ? ? ?เพราะถึงเวลาเราเป็นพ่อคนแล้ว? ?ลูกเราเป็นแบบนี้จะน้ำตาตก (ไม่ได้ว่านะ? แต่เตือนสติ อ่ะ)
? ?:031:
-------------------------------------------------
ผิดลูกเมียคือ? ? ? คนที่เขาอยู่ด้วยกันมีอะรัยด้วยกันแล้วไม่ว่าจะแต่งานหรือไม่ก็ตาม
? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? แล้วเราเป็นบุคคลที่ 3 ที่ไปมีอะรัยกับแฟนเขา? ?(เขาต้องโสดไม่มีคัยอ่ะ)?
? ? :069:
--------------------------------------------------
ปล. ถ้าเขาเสนอ? ?เราก็สนอง?
? ?:002:
? ? ? ? ? ? ? ? ?

150
ครู อาจารย์ ให้แต่ของดี
ของไม่ดี  ครู อาจารย์ เขาไม่ให้หรอก
ถ้าของไม่ดีแล้วทำไม  คนถึงสักกันเยอะล่ะ
---------------------------------------------

ไปก่องล่ะ  ซะแว็บ....   :027:

151
สวยจิง...
แล้วก็แรงๆ  ขอบอก   :054:
ผมได้นำตะกรุด  ไปให้พระตรวจพลังมาแล้ว ต้องบอกว่าแรงจิง
(พระท่านบอกว่าดุมาก) :059: :059:
ขนาดผมห้อยอยู่  ยังเหมือนคนล่ะคนกับก่อนหน้าห้อยเลย
เมื่อก่อนผมขี้อาย  ไปไหนมาไหนก็ไม่กล้า เวลาอยู่ในกลุ่มคนมากๆก็เขิน
แต่ตอนนี้ คัยแรงมาผมแรงกลับเลย  กล้าคิดกล้าทำให้สิ่งที่คนอื่นเข้าไม่กล้าทำเพราะอาย
  (แต่เป็นสิ่งที่ดีนะ)    :005:
ข้อเสีย    ก็คือบางครั้งคุมสติให้ใจเย็นไม่ค่อยได้ (ใจร้อนว่างั้นเหอ)   :075: :075:

152
กำ....
ว่าจะไม่เข้ามาตอบอันนี้ล่ะ 
chaiwart   ใจเย็นๆจ๊ะ  ของขึ้นล่ะ
ผู้ที่ไม่รู้ย่อมไม่ผิด     แต่ถ้ารู้แล้วทำ (แบบนี้เรียกว่าผิด)
คนเราเกิดมาประสบการณ์ชีวิตไม่เหมือนกัน
บางคนผ่านร้อนหนาวมามาก 

-----------------
แค่นี้ดีกว่าไปล่ะ        :002: :002:
-----------------

153
1. ดอกไม้ - ธูปเทียน - บุหรี่ - ค่ายกครู 25 บาท  (ที่วัดมีขาย ถ้าอยากซื้อเอาไปเองก็ได้)
2. เจอคนที่วัดก็ถามรายละเอียดเอาก็ได้คับ  (แล้วเขาจะบอกและแนะนำให้ไปสักที่กุฎิไหน)
3. รูปแรกยัต์ครู 9 ยอด ต้องสักก่อนเลือกไม่ได้ (ส่วนรูป2-3-4....ต้องแล้วแต่อาจารย์  บางท่านก็เลือกรูปสักได้  บางท่านก็ห้ามขอเดี๋ยวท่านให้เเอง)
4. วันธรรมดาคนน้อย แต่มาสักเข้าๆจะดีเริ่มประมาณ 8.30 เวลาเริ่มแต่ละกุฎิไม่เท่ากัน (วันเสาร์กับวันอังคารเป็นวันแข็ง) (ถ้าสักปู่ฤาษีต้องวันพฤหัส)  


--------------------------------------------------------------
ส่วนเส้นทาง รอพี่ๆตอบนะครับ   :002: :002: :002:
--------------------------------------------------------------

154
เห็นไหมพี่ เอ..มีแต่คนไปวันเสาร์   (พี่เอ  มาวันเสาร์กันเถอะ) น๊ะ นะ นะ นะ นะ

155
ตอบตามข้อเลยนะ
1. ผู้หญิงสักทางเมตตาดีกว่า  ผมขอแนะนำ (หลวงพี่ติ่ง) ไม่มีรูปให้ดูอ่ะ ไปที่วัดแล้วถามคัยก็ได้เดี๋ยวเขาก็แนะนำให้
2. หลวงพี่ทุกท่านใจดีหมดล่ะ (แต่ผมชอบหลวงพี่ติ่งอ่ะ) -----> http://img240.imageshack.us/img240/7393/dsc012678dl.jpg   <-----คลิกที่นี่
3. ไม่ว่าจะหมึกหรือน้ำมัน  ต้องเริ่มยันต์ครูก่อนคับ
4. สักได้คับ  หลวงพี่เขาจะไม่ถูกตัวเรา
5. พอได้ยันต์ครูแล้ว  ขอยันต์ตัวอื่นได้ (แต่หลวงพี่ท่านนึงจะให้ยันต์วันละ 1 ตัว  นอกจากขอกับท่านเพราะบ้านไกลหรืออะรัยก็แล้วแต่ที่นานๆเราจะได้มาที)
6. ส่วนใหญ่หลวงพี่ท่าน 1 ให้ยันต์ 1 ตัวถ้าอยากได้อีกก็ไปหา หลวงพี่อีกท่านนึง
7. สักทางคงกระพัน คลาดแคล้ว  หลวงพี่สักให้ได้  แต่สักน้ำมันดีกว่าคับ (ผมเองสัก10กว่าตัว  ยังสักน้ำมันเลย  เพราะถ้าเป็นหมึกแล้วจะลบก็ยาก) แต่ถ้ายากสักเพราะชอบลายสัก  (แนะนำหลวงพี่แป้ว)
8. หลวงพี่ติ่ง  เก่งด้านเมตตา  ไปสักยันต์ครูแล้วหลวงพี่ก็ลงนะให้เลย  (ซื้อดอกไม้ธูปเทียนบุหรีแล้วก็ (ทองเปลว) ที่ข้างกุฏิเลย)
9. คำว่า (ถูกโฉลก) ก็เหมือน ถูกชะตาล่ะคับ  ไปหาอาจารย์ท่านไหนแล้วเราถูกใจเราชอบเราศรัทธา  ก็ท่านนั้นล่ะที่เรียกว่า (ถูกโฉลก)
10.เป็นผู้หญิงเดินทางไปคนเดียว ถ้ายังไงพาเพื่อนไปด้วยดีกว่า มีปัญหาอะรัยได้อุ่นใจมีเพื่อนอยู่ด้วย
11.ถ้าเป็นหลวงพี่บางท่าน (ขอยันต์ไม่ได้  แล้วแต่ท่านจะให้) แต่ถ้าหลวงพี่ติ่ง  ขอได้
12.โทรมาหาดีกว่าอธิบายนาน   ( 02-4341892 ) ขอสาย สิท เบอร์ที่ทำงาน
13.ต้องศึกษาเอาอ่ะคับ  (เมตตา  นะหน้าทอง  สาริกาลิ้นทอง)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แค่นี้ก่องนะ 

156
 :016:ว้าว ! !  !   !.... :015:
 :054:สวยขนาดนี้  ผู้สร้างและผู้ที่มีส่วนร่วม  บุญกุศล  มากมาย   :054:

157
ผมก็ไม่รู้อ่ะว่าสู้อ่ะป่าว.....
แต่ก็อาจจะมี 2 กรณี
1.เจอแล้วสู้
2.ของสู้  ( แต่คนไม่สู้ )
    :006: :006:

อย่าคิดมากคับ   ขำขำ 555+
(ผมมันบุคคลไร้สาระประจำบอร์ด)

159
โยนน้ำวัน    วัน เสาร์  29  เมษา  ไหม
อากาศร้อนๆ   แต่จับให้ได้นะ 
-
-------------------------------------------
ว่าแต่  ลงตอนกลางวันปลาจะกัดป่าวหว่า  วันที่เราลง  มัน4-5ทุ่ม  ปลามันหลับ
แต่ถ้ากลางวัน   อาจจะเป็น หมัน ได้นะ 555+
    :006: :006: :006:

161
เออ....เคน  เดี๋ยววันเสาร์นี้จะไปที่วัดอ่ะ   เคนไปด้วยไหม...  เสาร์ 29 เมษา 

ว่าแต่ว่าจะเข้ามาอ่านป่าว  หว่า...นานๆได้เจอกันที   ว่างๆก็มานะ       :002: :002: :002:

162
ไม่มีคัย  ออน  กลางวันเลยหรอ...แหะๆ เล่นที่ทำงานอ่ะ

164
ซื้อมือถือให้ กุมาร สิคับ  ติดต่อได้ 24 ชม.   ;D ;D
ล้อเล่นนะคับ   ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  รอพี่ๆ  มาตอบนะคับ    ;) ;)

165
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ถามคับ
« เมื่อ: 25 เม.ย. 2549, 12:05:39 »
สายมากน่าบูชามาเลยคับ   หนับหนุน   ;D

167
พี่ เอ  ผทติดงานวันอาทิตย์อ่ะ  กะว่าจะไปวันเสอร์อ่ะกั๊บ.... :'( :'(

168
ตามที่บอกมา 
ถ้าเราได้เจอกัน  ผมจะบอกและแนะนำวิธีที่ดีให้
เพราะถ้าฝึกฝนบ่อยๆ...จำทำให้เราสมองปลอดโปร่ง
และถ้าศึกษาลึกลงไป  จะเป็นพื้นของการฝึกอะรัยอีกหลายอย่างคับ
พลังที่เกิดขึ้น พระพุทธเจ้าค้นพบนานแล้ว
แต่ถ้าทางวิทยาศาตร์ค้นพบไม่นานนี้เอง

170
ของขึ้นหรอ.......
ข้อ1.อยู่ที่จิต...
ถ้าจิตอ่อนจิตก็จะคล้อยตามสิ่งใดง่าย

ข้อ2.ถ้าจิตแข็ง....
ต้องนั่งสมาธิ...สมาธิให้เกิดพลัง
(มีวิธีนั่ง  นั่งธรรมดาก็จะได้สมาธิธรรดา)
พอได้พลังส่วนหนึ่งแล้ว
(จะคล้ายๆกับเป็นเหน็บ แต่ไม่ใช่เหน็บ พลังจะเกิดบริเวณมือ2ข้าง)
ถ้าได้ตะกรุดที่วัด(ตะกรุดหอมเชียง ปี44)จะทำให้เรามีพลังเพิ่มขึ้น
(พลังตะกรุดจะทำให้รู้สึกเหมือนเป็นคลื่นวงแหวนวิ่งระหว่างมือ2ข้างขึ้นไปยังแขน)
ที่ผมบอกตะกรุดหอมเชียงเพราะว่า  มีพลังอยู่เยอะจิต แต่ใส่แล้วจะร้อน(อารมณ์ร้อน)
ตะกรุดอื่นยังไม่เคยอ่ะคับ  ว่าจะลองหามาลองเหมือนกัน
--------------------------------------------------------------------------------
ปล.ถ้าจิตแข็งไม่มากก็จะก็ขึ้นเร็ว  ถ้าจิตแข็งมากก็ต้องใช้พลังมากใช้เวลามาก
      ไม่แนะนำให้นั่งคนเดียวในการนั่งครั้งแรก  ถ้านั่งจนจำความรู้สึกได้นั่งคนเดียวก้ไม่มีปัญหา
       ถ้านั่งจนชำนาญสามารถ  ใช้จิตดูวัตถุมงคลทั้งหลายว่ามีพลังเป็นแบบใดได้
       วิธีการนั่งแบบนี้อาจารย์ผมที่สอนเรียกว่า การดูจิตว่ามีสิ่งดีไม่ได้อ่ะรัยอยู่ในจิตเราบ้าง
       ถ้านั่งเสร็จแล้วให้ อุทิศส่วนกิศลด้ยนะ
       ที่ผมได้บอกไปนี้บอกไม่ครบถ้วนแต่อยากชี้แนวทาง  เพราะกลัวไปจะคุมอารมณ์และสติไม่ได้
       อันนี้ผมไม่แน่อาจารย์เตือนมาตอนผมฝึกแรกๆ  แต่ก็ไม่อยากให้ใครเป็นอะรัยไป 
       ถ้าได้คนที่มีความรู้ก็ศึกษากับคนนั้น   
        ผมต้องไปทำงานต่อแล้วแค่นี้ก่อนล่ะกัน

171
ของขึ้นหรอ.......
ข้อ1.อยู่ที่จิต...
ถ้าจิตอ่อนจิตก็จะคล้อยตามสิ่งใดง่าย

ข้อ2.ถ้าจิตแข็ง....
ต้องนั่งสมาธิ...สมาธิให้เกิดพลัง
(มีวิธีนั่ง  นั่งธรรมดาก็จะได้สมาธิธรรดา)
พอได้พลังส่วนหนึ่งแล้ว
(จะคล้ายๆกับเป็นเหน็บ แต่ไม่ใช่เหน็บ พลังจะเกิดบริเวณมือ2ข้าง)
ถ้าได้ตะกรุดที่วัด(ตะกรุดหอมเชียง ปี44)จะทำให้เรามีพลังเพิ่มขึ้น
(พลังตะกรุดจะทำให้รู้สึกเหมือนเป็นคลื่นวงแหวนวิ่งระหว่างมือ2ข้างขึ้นไปยังแขน)
ที่ผมบอกตะกรุดหอมเชียงเพราะว่า  มีพลังอยู่เยอะจิต แต่ใส่แล้วจะร้อน(อารมณ์ร้อน)
ตะกรุดอื่นยังไม่เคยอ่ะคับ  ว่าจะลองหามาลองเหมือนกัน
--------------------------------------------------------------------------------
ปล.ถ้าจิตแข็งไม่มากก็จะก็ขึ้นเร็ว  ถ้าจิตแข็งมากก็ต้องใช้พลังมากใช้เวลามาก
      ไม่แนะนำให้นั่งคนเดียวในการนั่งครั้งแรก  ถ้านั่งจนจำความรู้สึกได้นั่งคนเดียวก้ไม่มีปัญหา
       ถ้านั่งจนชำนาญสามารถ  ใช้จิตดูวัตถุมงคลทั้งหลายว่ามีพลังเป็นแบบใดได้
       วิธีการนั่งแบบนี้อาจารย์ผมที่สอนเรียกว่า การดูจิตว่ามีสิ่งดีไม่ได้อ่ะรัยอยู่ในจิตเราบ้าง
       ถ้านั่งเสร็จแล้วให้ อุทิศส่วนกิศลด้ยนะ
       ที่ผมได้บอกไปนี้บอกไม่ครบถ้วนแต่อยากชี้แนวทาง  เพราะกลัวไปจะคุมอารมณ์และสติไม่ได้
       อันนี้ผมไม่แน่อาจารย์เตือนมาตอนผมฝึกแรกๆ  แต่ก็ไม่อยากให้ใครเป็นอะรัยไป 
       ถ้าได้คนที่มีความรู้ก็ศึกษากับคนนั้น   
        ผมต้องไปทำงานต่อแล้วแค่นี้ก่อนล่ะกัน

172
มาสักครั้งแรก? ต้องเป็น 9 ยอด อ่ะคับ? ? ?:005:
พุทธคุณรอบด้าน? ? :079:
อาจารย์ที่สักน่าจะเป็นหลวงพี่นัน
? ? :075:

173
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: วัดนก?
« เมื่อ: 24 มี.ค. 2549, 04:05:44 »
ผมรู้แค่ว่า เป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดบางพระอ่ะ       :005:

174
 :002:  ไปกุฏิหลวงพี่ติ่งคับ  (ok นะค่ะ)  :002:

178
ผมไปมา 2 - 3 ครั้ง  ยังไม่ค่อยได้สังเกตเลยอ่ะ  :006:
แต่ฤาษีที่มี 3 ตา ไม่น่าจะมีนะ   (แต่อาจจะมี 1ใน108 แฮะๆ)   :004:
 :005: ปู่ฤาษีตาไฟ  (ท่านมี 2 ตา แต่ท่านเก่ง เตโชกสิณ)  :095:

179
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ไปสักมา
« เมื่อ: 22 มี.ค. 2549, 09:22:17 »
 :075: มีเราเป็นส่วนหนึ่งใน (บางคน)  อ่ะดิ.....   :075:

180
ลหลวงพ่อคง   ---->  http://www.sartsaksit.com/ganes/somp/index_2.htm

181
ผมเกิด ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5  (แต่วัน ศุกร์) 
ถ้าอยากของขึ้น  ไห้ไปศึกษาการนั่งสมาธิ  ของหลวงพ่อคง  ดูนะ  แต่นี้ล่ะแล้วจะรู้เอง

182
มีมากมายหลายอย่าง 
มีทั้งทัน  และไม่ทัน 
มีทั้งเก่า   และใหม่
มีทั้งใหม่  แต่ทำเหมือนเก่า

ลองดูเอานะคับ    นับถือด้วยจัย   สิ่งศักด์สิทธิ์รักษา
(ทำของให้เป็นของ   กับทำของให้เป็นพระ  ให้พุทธคุณแตกต่าง  แต่ดีเหมือนกัน)
 

183
 :005:ผมว่า  คงต้อง  ปีหน้า   ล่ะคับ   :005:

184
ถ้าอยากสำรวจ  ว่าสิ่งศักสิทธิ์  อยู่กับตัวไหม
ลองค้นหา  วิธีนั่งสมาธิ สิ 
 
ตอนนี้ผมกำลังศึกษา  พลังอำนาจ  ของวัตถุมงคล  อ่ะ
ขอบอกว่า  ตะกรุดยันต์หอมเชียง  ที่วัด รุ่นปี 44  พลังแรงมาก
   :032:

185
ปู่ฤาษีตาไฟ  มีตาปกติ  แต่ท่านสำเร็จ   (เตโช กสิน) กสินไฟ  เลยได้ชื่อว่า ฤาษีตาไฟ 
หลวงพ่อโต  พรหมรังสี  ก็เก่ง  เตโช กสิน  เหมือนกัน   :P

186
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ขอเชิญ
« เมื่อ: 16 มี.ค. 2549, 09:46:03 »
 :o   ซ่ะงั้นอ่ะ    ???

187
คำตอบของ ----> waterman43  ถูกต้องนะคร๊าบ ๆ ๆ  ๆ    ๆ      ๆ       ๆ   ;D

189
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ขอเชิญ
« เมื่อ: 15 มี.ค. 2549, 01:38:08 »
 :049: :049: :049: :049:

190
ผมติดงานจิงๆ อ่ะ เคน   :075:
แต่ก็ดีจัยที่ยังได้ไปครอบเศียรอ่ะนะ
    :079:

192
กราบไหว้  เสด็จพ่อ ร.5 แล้วชีวิตจะดี

193
กาลเวลาแตกต่าง              จริงเท็จพิจารณ์
เป็นได้ยากในปัจจุบัน       พลังธรรมน้อยลง


       :005:   คงเข้าจัยนะ   :005:

ถ้าอยากให้ค้าขายดีจิง (แต่ราศีตัวเองจะลดลง)
แนะนำ ชูชก แต่ราศีหมองลงเยอะ (คนเห็นเป็นยาจกแบบนั้นอ่ะ)
ให้ไปหา  พระที่เก่ง   ขอจากท่าน

194
ว่าไง  เคน    ^_^" 
 :075:รอบหน้า  ไปโดดน้ำหน้าวัดตอนเที่ยงคืนกันอีกรอบไหม  งิงิ   :005:

196
(stern) = จิงสิ  พระรูปไหนเอ่ยอยากรู้จัง... ???

198
? จะไปวันไหน ดีหว่า? 9 หรือ 11 ดี? ?ลางานได้วันเดียว เอง ...งุงิ? ?:-\? ???

199
ที่วัดมี สักพระพรหม ป่าวคับ      :054:
คัยรู้ตอบหน่อยคับ
   :054:

200
 :070: :070: ดาว ไม่ ขึ้น อ่ะ  แง แง    :070: :070:

201
 :075: ขอบคุงจ๊ะ   :075:

202
พอดีผมทำงานในมหาลัย 
มีอาจารย์บอกมาว่า 
วันพฤหัส  (เมตตาดี)
วันเสาร์+อังคาร  (คงกระพัน+มหาอุด+แคล้วคลาด ดี)
ไม่รู้จิงป่าว !!!

203
 :092: อยากได้ประสบการณ์  :054: จากผู้ที่เคยสักอ่ะคับ  :086:
 :002: ว่ายันต์ตัวไหนที่  :095: แรงที่สุด
    :002:

206
วันพฤหัส        (เพราะเป็นวันครู)    :043:
          :100:     หรือว่า    :100:
วันเสาร์กับวันอังคาร    (เพราะวันแข็ง)     :043:
 :010: :010: :010: :032: :032: :032: :002: :002: :075: :075: :075:

209
 :D :D

214
ถ้าเราสัก น้ำมัน ทั้งตัว? แล้ว อาจารย์จะรู้ไหมคับว่าเราสักอะรัยไปมั่งแล้ว .... :075:

215
 ;D ;D ;D ;D

216
ไม่มีคัยตอบ เยย     
แย่ คุง   555+     :'( :'( :'( :-[ :-[

219
 ::) ::) ::)

223
 ;D ;D ;D

225
 :D  สุด ยอด เยย  :D

226
 ;D ;D

228
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 10/02/2549
« เมื่อ: 11 ก.พ. 2549, 01:42:45 »
 ??? ???

230
 :016: :016: :016:  น่าสนจัย  เปงความรู้มากเยย.....    :016: :016: :016:

231
(การภาวนา 108 คาบ)       :067:

ใช่การสวด 108 จบใช่เปล่าคับ      :062:
เช่น           อิติปิโสวิเสเสอิ             อิเสเสพุทธะนาเมอิ   
                 อิเมนาพุทธะตังโสอิ     อิโสตังพุทธะปิติอิ

แล้วสวดวนเป็นคาบที่ 2 ต่อ     :073:
                อิติปิโสวิเสเสอิ            อิเสเสพุทธะนาเมอิ   
                อิเมนาพุทธะตังโสอิ     อิโสตังพุทธะปิติอิ
     :010:
จนครบ 108 จบ ใช่เปล่าคับ     :009:
------------------------------------------------------------------------------------------------

232
พี่ เอ   จะติดต่อไงดีเอ่ย...ผมเมล์ไปแล้วนะ กั๊บ :065:
mail ผม SIT1802@hotmail.com    :075:
หรือ 06-6294778  ยิงมาก็ได้ คับเด๋วผมโทรกลับ :086:
อยากไปสักก่อนวัน ไหว้ครู อ่ะคับ :009:
ไม่รู้จะทันหรือป่าว..!! :049:
ผมก็ทำงานทุกวัน    หยุดวันเสาร์วันเดียวเอง แย่จัง... :070:
ขอบคุง พี่ๆ ทุกคนเลยที่ช่วยกันตอบ :054:
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

233
เข้าระบบได้ แล้วขอบคุณนะคับ    :054:
ผมอยู่  จรัญ 56 แล้ว ต้องนั่งรถ สายอะรัยถึงไป จรัญ 13 ได้ล่ะคับ   :079:
108 หรือเปล่า ... :067:

หน้า: [1]