กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด เส้นทางสายบุญ => เส้นทางสายบุญตามภาคต่างๆ ของไทย และเส้นทางสายบุญในต่างประเทศ => เส้นทางสายบุญภาคกลางและภาคตะวันตก => ข้อความที่เริ่มโดย: ธรรมะรักโข ที่ 19 ธ.ค. 2552, 01:43:44
-
ประวัติวัดสะตือ
วัดสะตือสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ.2400 โดยหลวงพ่อโต หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มาของชื่อวัดนี้ เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณมีต้นสะตือใหญ่เป็นสัญลักษณ์ เลยนำมาตั้งเป็นชื่อวัด ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ประดิษฐานทางทิศใต้ของวัด องค์พระยาว 25 วา เชื่อหรือไม่ว่าหลวงพ่อโตท่านเกิดที่นี่ มารดาของท่านได้ให้กำเนิดท่าน ณ บนเรือที่จอดอยู่ในแม่น้ำป่าสักที่ทอดตัวทางด้านหลังของวัด
(http://img9.imageshack.us/img9/8335/wst1.jpg)
ด้านหน้าวัดสะตือครับ
(http://img6.imageshack.us/img6/3253/wst2.jpg)
องค์หลวงพ่อโต
(http://img69.imageshack.us/img69/2728/wst3.jpg)
ใครบนอะไรไว้แล้วสำเร็จจะแก้บนโดยการรำวงรอบองค์หลวงพ่อ รำร้อยกว่ารอบก็เคยมีนะครับ
(http://img199.imageshack.us/img199/3030/wst4.jpg)
องค์หลวงพ่ออีกซักรูปครับ
(http://img706.imageshack.us/img706/3250/wst5.jpg)
วิหารด้านข้างองค์หลวงพ่อ(http://img97.imageshack.us/img97/2041/359391.jpg)
พระสมเด็จกรุวัดสะตือ
ในวิหารจะมีช้างอธิษฐานเสี่ยงทาย วิธีคือ นั่งคุกเข่าชิดตัวช้างและเสมอด้านหน้าในด้านที่ตนเองถนัด ตั้งใจระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วก็อธิษฐานถามเรื่องอะไรก็ได้ แล้วจึงยกช้าง โดยที่ผู้ชายใช้นิ้วก้อยยกช้าง ผู้หญิงใช้นิ้วนางยก ยกครั้งที่ 1 เรื่องที่อธิษฐานถาม ประสบความสำเร็จ จะยกช้างขึ้น ยกครั้งที่ 2 อธิษฐานเรื่องเดิม ถ้าประสบความสำเร็จ ก็จะยกช้างไม่ขึ้นครับ
(http://img706.imageshack.us/img706/1720/wst6.jpg)
ช้างอธิษฐานเสี่ยงทาย
อภินิหาริย์หลวงพ่อโต วัดสะตือ จ.พระนครศรีอยุธยา
.........ปฐมตำนานการสร้างพระพุทธไสยาสน์ได้กล่าวเอาไว้ว่า พระพุทธไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีดังที่จะกล่าวต่อไปนี้
-พระพุทธไสยาสน์กลางแจ้ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-พระพุทธไสยาสน์ วัดพระนอนจักสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี
เราจะเห็นว่าจังหวัดสิงห์บุรีกับจังหวัดอยุธยามีความใกล้ชิดกันมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนบธรรมเนียมและวัฒนะธรรมประจำท้องถิ่น รวมไปถึงงานบุญต่างๆ จังหวัดทั้งสองมีความละม้ายคล้ายกันมากทีเดียว
พระพุทธไสยาสน์กลางแจ้งที่มีขนาดยาวที่สุด ประดิษฐานอยู่ที่วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตตาราม กทม.ี
.........เจ้าประคุณสมเด็จฯ ถึงแก่มรณภาพในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 เมื่อวันเสาร์ เดือน 8 แรม 2 ค่ำ ปีวอก จัดวาศกจุลศักราช 1234 ตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415 เวลา 24.00 น. บนศาลาใหญ่วัดบางขุนพรหมใน (วัดอินทรวิหาร) สิริรวมอายุ 84 พรรษาที่ 64
.........ในปี พ.ศ. 2413 ก่อนมรณภาพ 3 ปี เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้มาทำการก่อสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนปางพุทธ-
ไสยาสน์ริมแม่น้ำป่าสัก ณ บ้านที่ถือกำเนิด ปัจจุบันคือ วัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มีความยาว 25 วา กว้าง 4 วา สูง 8 วา มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ซ่อมแซม 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2465 โดยหลวงพ่ออุปัชฌาย์บัตร จันทโชติ อดีตเจ้าอาวาสวัดสะตือ ร่วมกับชาวบ้าน ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2499 จอมพล ป พิบูลสาคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต เห็นว่าองค์หลวงพ่อชำรุดทรุดโทรมมาก จึงได้ทำการบูรณะอยู่ 3 เดือน 25 วันจึงแล้วเสร็จ ครั้งที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2531 โดยพระครูพุทธไสยาภิบาล (หมึก) อดีตเจ้าอาวาส ได้ร่วมกับชาวบ้านทำการบูรณะอยู่ 3 เดือน 25 วัน จึงแล้วเสร็จ ครั้งที่ 4 เมื่อ พ.ศ.2540 โดยพระอธิการทองคำ คัมภีรปัญโญ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้ร่วมกับชาวบ้านทำการบูรณะและทาสีใหม่
.........ทางวัดสะตือได้จัดให้มีงานเทศกาล (งานประจำปี) เพื่อปิดทององค์หลวงพ่อโตเป็นประจำทุกปีๆ ละ 2 ครั้ง คือกลางเดือน 5 และกลางเดือน 12 พระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่มาก และมีอายุการสร้างที่ยาวนาน มีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมานมัสการกราบไหว้ มีกรขอพรและโชคลาภต่างๆ ซึ่งมักประสบผลตามที่ตั้งใจขอไว้ หลวงพ่อจะช่วยดลบันดาลอภิบาลรักษาให้ท่านที่เดินทางมานมัสการ มีความอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตัวท่านและครอบครัว
.........อภินิหาริย์หลวงพ่อโต.........เรื่องที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ผู้เขียนได้รับข้อมูลจากคำบอกเล่าของคุณเสงี่ยม ใจซื่อ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.สระแก้ว คุณเสงี่ยมได้เล่าว่าเขามีอาการป่วยเรื้อรัง รักษาแพทย์แผนปัจจุบันหมดเงินหมดทองเป็นจำนวนมากแต่อาการก็ไม่ทุเลา
"แพทย์ลงความเห็นว่าเส้นประสาทของผมอาจจะพลิก รักษาให้หายขาดมีทางเดียวคือ ต้องทำการผ่าตัด ตอนนั้นผมกลัวมาก เพราะมีหมอดูซึ่งเป็นคนเขมรได้ทายเอาไว้ว่า ผมจะต้องเข้าโรงพยาบาล และต้องผ่าตัดแต่ไม่หายและจะต้องตาย ทีแรกผมไม่เชื่อ จนกระทั่งผมมีอาการปวดชาตามขา เดินไม่ไหว ผมจึงไปให้หมอตรวจ ก็ไม่คิดว่ามันจะลุกลามใหญ่โตถึงเพียงนี้"
พวกลูกๆ ของคุณเสงี่ยมพยายามชี้แจงว่า การวงการแพทย์แผนปัจจุบันมีความทันสมัยมาก อย่าไปเชื่อเรื่องหมอดูให้มากนัก แต่คำพูดของลูกๆ ก็ไม่อาจจะทำให้คุณเสงี่ยมเปลี่ยนใจ เขาขอเลือกการนอนรักษาตัวอยู่กับบ้านดีกว่าต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาล
อาการของคุณเสงี่ยมมี "ทรง" กับ "ทรุด" คุณเสงี่ยมเริ่มหันมาศึกษาในคำสอนของพระพุทธองค์ เริ่มท่องคาถาชินบัญชร มีการปฏิบัติธรรม รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด "ไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิด เพราะถือว่าเป็นการเบียดเบียนสัตว์โลกด้วยกัน จากนั้นไม่นานอาการเจ็บป่วยก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคืนหนึ่งผมฝันว่าได้ไหว้พระนอน ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แต่ไม่รู้ว่าพระนอนองค์นั้นอยู่ที่ไหน พอผมกราบท่านเสร็จผมก็ได้ยินเสียงท่านพูดว่า โยมกำลังจะพ้นทุกข์แล้วนะ บรรดาเจ้ากรรมนายเวรเขาเห็นโยมทำดี เขาเลยอโหสิให้ เพียงแต่โยมทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้พวกบ้าง ทุกอย่างมันก็จะดีขึ้น จากนั้นผมก็ตกใจตื่น"
..........คุณเสงี่ยมไม่รู้ว่าพระนอนองค์นั้นอยู่ที่ไหน สอบถามเพื่อนฝูงก็ไม่มีใครรู้จัก จนกระทั่งวันหนึ่งญาติของคุณเสงี่ยม ซึ่งเป็นข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มาเยี่ยมคุณเสงี่ยมที่บ้าน
"ผมถามเขาว่าตอนนี้ทำงานที่ไหน เขาบอกว่าอยู่กรุงเทพฯ แต่ไปได้เมียเป็นคนอยุธยา ตอนนี้เลยต้องเดินสายขึ้นล่องกรุงเทพ ฯ - อยุธยา ทุกอาทิตย์ ผมถามเขาว่าแถวบ้านมีพระนอนองค์โตๆ บ้างหรือเปล่า เป็นพระนอนกลางแจ้ง เขาบอกว่ามีอยู่องค์หนึ่ง ชื่อ หลวงพ่อโต อยู่ที่วัดสะตือ ศักดิ์สิทธิ์มาก พอได้ยินเช่นนั้นมันรู้สึกเย็นวาบทั้งตัว บอกกับตัวเองว่าใช่แน่แล้ว พระองค์นี้แหละที่ผมเห็นในความฝัน ผมก็เลยขอเขาติดรถมาที่จังหวัดอยุธยาด้วยทันที
"
.........คุณเสงี่ยมเล่าให้ฟังว่ายิ่งเข้าใกล้วัดสะตือเท่าใดก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น จนกระทั่งรถได้ขับเข้ามาภายในบริเวณวัด ภาพของพระนอนขนาดใหญ่ที่ปรากฏตรงเบื้องหน้า ทำให้คุณเสงี่ยมถึงกับขนลุกเกลียวเลยทีเดียว
"เป็นพระองค์เดียวกับที่ผมเห็นในความฝัน เป็นเหตุการณ์ที่ต้องบอกว่าเหลือเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้แต่มันก็เป็นไปแล้ว"
คุณเสงี่ยมรีบลงจากรถเพื่อไปมนัสการหลวงพ่อโต อาการปวดที่ขามันค่อยๆ ทุเลาลง ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก คุณเสงี่ยมพักอยู่ที่บ้านญาติ 3 วัน ทุกวันจะต้องนำดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาหลวงพ่อโตไม่ขาด
"อาการปวดเรื้อรังมันดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ผมหายเป็นปกติแล้ว ไปตรวจครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลเมื่อเดือนก่อน หมอคนที่เป็นเจ้าของไข้ยังงง บอกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว"
.........ใครจะเชื่อบ้างว่า อำนาจของพระพุทธคุณจะสามารถรักษาโรคร้ายให้หายได้
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก...http://railway.exteen.com/20050505/entry
http://www.thaluang.go.th/article-315.html
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
ครับ ถ้ามีโอกาสคงแวะไปกราบ
หลวงพ่อโตท่านบ้างครับ :001:
-
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆค่ะ :016: :015:
-
มากันให้ได้นะครับ ผมเป็นคนแถววัดสะตือครับ ไปไหว้หลวงพ่อบ่อย ถ้ามาวันอาทิตย์คนจะเยอะมากนะครับ เพราะมีตลาดนัด ตอนนี้ที่วัดกำลังหาเงินซื้อที่ดินทำเป็นที่จอดรถอยู่ครับ ตารางวาละ 100 บาทครับ ได้่หลวงพ่อโต 1 องค์ เป็นรุ่นบูรณะหลวงพ่อโตครับ (ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเหลือหรือเปล่านะครับ) เป็นการตอบแทนน้ำใจครับ ว่างๆก็มาทำบุญกันนะครับ เร็วๆนี้ที่วัดจะบูรณะองค์หลวงพ่อครับ (องค์หลวงพ่อร้าวครับ) เห็นว่าบวงสรวงไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะบูรณะวันไหนครับ ที่วัดจะมีท่าน้ำ มองไปเห็นเขื่อนพระรามหก(เขื่อนแห่งแรกในประเทศไทย)สวยงามมากครับ มีที่ขายอาหารปลาด้วยครับ ใครผ่านมา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็อย่าลืมแวะมาไหว้หลวงพ่อโตที่วัดสะตือนะครับ
-
เคยผ่านไปแถวนู้นอยู่ครับ วัดสะตือ ไกลจากตัวเมืองอยุธยามากเลยทีเดียว
แต่ไปท่าเรือ ไปวัดวัดแดงใต้ หลวงพ่อเอื้อนเท่านั้นเอง
-
ขอบคุณครับ.......... :090: :090: :114: :090: :090:............