เวลามีคนมาใส่บาตรเราจะต้องสวดคาถาอะไร?
พึงใช้บทพิจารณาอาหารในบท"ธาตุปฏิกูลปัจจเวกขณปาฐะ"ที่ว่า
"ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธาตุมัตตะเมเวตัง,ยะทิทัง ปิณฑะปาโต ฯตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล ธาตุมัตตะโก นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญฯ สัพโพ ปะนายัง ปิณฑะปาโต อะชิคุจฉะนิโย,อิมัง ปูติกายัง ปัตวา อะติวิยะ ชิคุจฉะนิโย ชายะติ ฯ"
คำแปล(พึงพิจารณาคำแปลตามไปด้วย)
"สิ่งเหล่านี้ เป็นสักแต่ว่าธาตุตามธรรมชาติเท่านั้น กำลังเป็นไปตามเหตุปัจจัยอยู่เนื่องนิจ สิ่งเหล่านี้ คือ บิณฑบาต
และผู้บริโภคบิณฑบาตนั้น เป็นสักว่าธาตุตามธรรมชาติ มิได้เป็นสัตวะอันยั่งยืน มิได้เป็นชีวะอันเป็นบุรุษบุคคล ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน
ก็บิณฑบาตทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นของน่าเกลียดมาแต่เดิม ครั้นมาถูกเข้ากับกาย อันเน่าอยู่เป็นนิจนี้แล้ว ย่อมเป็นของน่าเกลียดอย่างยิ่งไปด้วยกัน"
เวลาสวดศพเราจะต้องสวดคาถาอะไร?
ขึ้นอยู่กับว่าเป็นบุญพิธีใด อาทิ พิธีสวดพระอภิธรรมหน้าศพ มี ๒ แบบ ถ้าสวดมนต์ธรรมดาใช้บท "สัตตัปปกรณาภิธรรม"(คือพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ เริ่มต้นด้วย "นโม..."นำขึ้นแล้วสวดตั้งแต่บทธัมมสังคณีไปจนจบมหาปัฏฐาน) อีกแบบหนึ่งใช้บท "พระอภิธรรมมัตถสังคหะ ๙ ปริเฉท" หรือ พิธีสวดมาติกา ก็จะใช้บทสวดมาติกาไปตามลำดับ.(พึงพิจารณาคำแปลตามไปด้วยเช่นเดียวกัน)
*ศึกษาเพิ่มเติมได้ใน"ศาสนพิธีนักธรรมโท หมวดบุญพิธี"
เวลาไปสวดทําบุญบ้านหรือแต่งงานต้องสวดคาถาอะไร?
ข้อนี้แล้วแต่หัวหน้าสงฆ์จะนำสวด โดยทั่วไปมักจะใช้บทสวดพระปริตร ๗ ตำนานบ้าง ๑๒ ตำนานบ้าง แล้วแต่ความเหมาะสม
ส่วนในงานแต่งนั้นที่นิยมกันคือ ตัวตำนานต้องสวด"อังคุลิมาลปริตร"และสวด"วัฏฏกปริตร"ไปด้วย (พึงศึกษาที่มาของพระปริตรแต่ละบทและความหมายประกอบไปด้วย)
บทสวดทั้งหมดที่ถามถึงนี้ มีในมนต์พิธีครบถ้วนบริบูรณ์อยู่แล้ว ลองศึกษาดูครับ.