ตอนกลางวันทำงานตามปกติ
เจริญสติพิจารณาธรรมตามกำลังเท่าที่สติจะระลึกได้
ใช้เวลาที่ผ่านไปให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งเพื่อประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ต่อส่วนรวม...
มองภาพภายนอกแล้วย้อนกลับเข้ามาสู่ภายใน
ถามตัวเองว่าเข้าใจกฏของธรรมชาติได้ดีเพียงใด
ทำใจได้หรือไม่กับสิ่งที่แปรเปลี่ยนไปทุกขณะ
จึงได้รู้ว่าบางครั้งเรายังหวั่นไหวสะเทือนใจบ้างเล็กน้อย
แต่ก็ปรับจิตพิจารณาได้ทัน ไม่เสพในอารมณ์นั้นนานเกินไป...
เราจะฝืนกฏของพระไตรลักษณ์นั้นไม่ได้
ทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามกฏของธรรมชาติ
"สูงสุดย่อมร่วงโรย"นั้นคือสัจจธรรมของสรรพสิ่ง
สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือการเตรียมใจไว้สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
และพร้อมที่จะยอมรับซึ่งความเป็นจริงของสรรพสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เราไม่ใช่วีรบุรุษผู้กอบกู้ทุกสิ่งได้
จงอย่าให้ความสำคัญต่อตนเองมากจนเกินไป
มันจะทำให้เราหลงตัวเองได้ถ้าหากเราประมาท
จึงต้องพยายามควบคุมความรู้สึกนึกคิดไม่ปรุงแต่งจิตจนเกินไป
ควบคุมได้มากเท่าไหร่ ความเข้าใจในเรื่องจิตก็จะมากขึ้นตามลำดับ...
:059:ขอบคุณวันเวลาที่ผ่านไปที่ให้โอกาศได้มีลมหายใจ
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๑ กันยายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๗.๐๖ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย