:059:กลับมาสู่อ้อมอก ที่ป้องปกและคุ้มครอง
ซุกกายริมชายคลอง ลมหนาวต้องสะท้านกาย
อ่อนล้าเพราะแรมรอน ได้พักผ่อนให้เหนื่อยคลาย
หลับลงอย่างสบาย ที่ริมชายน้ำแห่งเดิม
กลับมาเพื่อเติมฝัน ถึงคืนวันที่ริเริ่ม
ทบทวนเพื่อต่อเติม กลับมาเสริมกำลังใจ
กราบร่างไร้วิญญาญ ครูอาจารย์เพื่อเติมไฟ
เพื่อก้าวเดินต่อไป ที่หวังไว้อุดมการณ์
ร่อนเร่และแรมรอน หยุดพักผ่อนเพียงไม่นาน
คิดชอบประกอบการ สร้างตำนานนักเดินทาง
" วจีพเนจร " ฝากกาพย์กลอนที่สรรค์สร้าง
บอกเล่าเรื่องรายทาง ถึงทุกอย่างที่พบมา
เดินทางมายาวไกล ตามที่ใจปรารถนา
ก้าวผ่านกาลเวลา เจอปัญหาสารพัน
ให้คิดให้แก้ไข ผ่านพ้นไปหลายครั้งนั้น
ก่อเกิดสายสัมพันธ์ ช่วยเหลือกันตามเส้นทาง
ฝึกกายและฝึกจิต ฝึกความคิดเพื่อสรรค์สร้าง
ลดละและปล่อยวาง เดินตามทางแห่งมรรคา
มรรคาสมณะ คือลดละซึ่งตัณหา
กิเลสและอััตตา สติมาปัญญามี
ใช้หลักของพุทธะ ในการละสิ่งเหล่านี้
ศีลธรรมนำชีวี เป็นสิ่งชี้คุณธรรม
ลมพัดโพธิ์พริ้วไหว สายน้ำไหลใจเย็นฉ่ำ
ก่อเกิดบทลำนำ อุทานธรรมริมสายธาร...
.............................
" อ่อน เมื่อพบลมแรงอย่างแข็งขืน
น้อม แล้วยืนขึ้นสู้สู่จุดหมาย
ถ่อม ลงหาประชาอย่างมงาย
ตน ควรมีความหมายแห่งตัวตน "
........................................
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิตแด่มวลมิตรทุกผู้คน
รวี สัจะ-วจีพเนจร-สมณะชายขอบ
๖ พฤศจิายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๖.๔๘ น. ณ กุฏิทรงไทยชายน้ำนครชัยศรี วัดบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม