ผู้เขียน หัวข้อ: กฎแห่งกรรม ภพภูมิมนุษย์ ตอน ธนาคารบุญ โดยเรืองตะวัน  (อ่าน 2248 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายธรรมะ

  • ดีชั่วอยู่ที่ตัวทํา สูงต่ำอยู่ที่ทําตัว
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 615
  • เพศ: ชาย
  • เหนื่อย ได้แต่อย่า ท้อ
    • ดูรายละเอียด
กฎแห่งกรรม ภพภูมิมนุษย์ ตอน ธนาคารบุญ โดยเรืองตะวัน

--------------------------------------------------------------------------------

กฎแห่งกรรม ภพภูมิมนุษย์ ตอน ธนาคารบุญ โดยเรืองตะวัน


มนุษย์เราเกิดมาบนโลกใบนี้ มีบุญสะสมมากันทุกท่านบ้างมีบุญสะสมมามากก็เกิดมามีความสุขอยู่บนกองเงินกองทอง บ้างบุญน้อยหน่อยก็เกิดมาพอได้อยู่ได้กินไม่ขัดสน สุดแล้วแต่บุญนำพาครับ นาๆการจุติของบุญ ขึ้นชื่อว่ามนุษย์นั้นเกิดมาย่อมมีบุญและบาปติดตัวมากันทุกท่าน ภพภูมิมนุษย์ในสมัยเริ่มพระพุทธกาลมนุษย์นั้นมีบุญสะสมมาก สูง7ศอก7วา มีอายุอยู่ได้ประมาณ700-800 ปี แต่มายังปัจจุบันกึ่งพระพุทธกาล มนุษย์เริ่มถดถอย

ในบุญ สร้างบาปตัดบารมีตนเองจนเหลือส่วนสูงและอายุประมาณที่เห็นในปัจจุบัน ถ้ายังเป็นดังเช่นนี้อยู่มนุษย์สร้างแต่กรรมไม่ดี ตามที่คำโบราณได้กล่าวไว้ว่า ตัวแทนพระพุทธเจ้า พระสงค์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า จะเห็นเพียงแต่ชีวรสีเหลืองห้อยติ่งหู กล่าวได้ว่าถ้ามนุษย์มีความโลภเข้ามาครอบงำ มนุษย์ก็คงจะเหลือตัวเล็กเท่าชีวรที่ติดติ่งหู ตามโบราณที่เล่ากันสืบมาละครับ มนุษย์เกิดมาเพื่อต่อบุญ เกิดมาเพื่อชำระกรรมเก่า ขอเพียงอย่า

สร้างกรรมใหม่ หมั่นทำกรรมดีภพภูมมนุษย์ก็จะสูงขึ้นครับ การใช้มีวิตของมนุษย์นั้นใช่ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆก็หาไม่ วันหนึ่งมี 24 ชั่วโมงคุณต้องใช้บุญตลอด กล่าวได้ว่าเกิดมาก็ต้องมีบุญติดตัวมา มีชีวิตอยู่ได้ก็ต้องอยู่ด้วยบุญ ถ้าคุณหมดบุญ ก็คือ อะไรก็คงไม่ต้องให้บรรยายนะครับมันจะยืดยาว ทุก วันนี้มนุษย์มนุษย์ส่วนมากอยู่กับการแก่งแย้งแข่งขัน เพื่อที่จะได้มาในผลประโยชน์ของตนเอง ใช้ชีวิตอยู่บนความประมาท สร้างแต่กรรมไม่สร้าง

บุญ ใช้บุญเก่าจนหมดไม่ มีบุญหนุนในตัวตน (ดวงไม่ดี) ก็ไม่มองตนเองว่าได้สะสมบุญหรือไม่ โทษสิ่งเร้นลับ สิ่งมองไม่เห็น ว่าเทวดาว่าไม่ช่วย คุณต้องมองพิจรนาตัวคุณว่า เราได้สร้างบุญเก็บไว้บ้างไหมที่กล่าวถึงเรื่องธนาคารบุญมนุษย์มีธนาคารบุญสะสมมา ตั่งแต่เกิดทุกคน และต้องเปิกใช้ทุกๆวันเพื่อให้ชีวิตนั้นดำรงอยู่ได้ กล่าวได้ว่า ทุกลมหายใจนั้นต้องใช้บุญก็ว่าได้ไม่ผิด ผู้เขียนจะเปรียบบุญดั่งปัจใจต่างๆ เช่น อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษา

โรค การจับจ่ายใช้สอยก็ต้องเปิกเงินจากธนาคารที่เราทำและสร้างสะสมไว้(เบิกเพื่อ มาจับจ่าย) บุญก็เช่นกันเราก็ต้องเปิกมาใช้ จากธนาคารบุญที่เราสะสมมาใช้เช่นกัน สักแต่เบิกมาใช้และไม่สร้างใหม่บุญนั้นก็ต้องมีวันหมดครับ ให้หมั่นสร้างบุญ การสร้างบุญของศาสนาพุทธทำไม่ยากใครๆก็ทำได้ สวดมนต์ ภาวนา สมาธิกรรมฐาน ปฎิบัติ แต่กรรมดีถือ ว่าเป็นการสร้างบุญครับ หาช่องว่าง เวลาโอกาสสร้างบุญก่อนจะไม่มีเวาสร้างนะครับ กึ่ง

พระพุทธกาลนี้มนุษย์มีความเสื่อมมากถดถอยต่อศาสนา ละบุญสร้างแต่เวร เรามาเป็นผู้สร้างบุญกันเถิด คำสอนของพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้ว พระองค์ ท่านทรงตรังไว่ว่า ให้เดินสายกลาง อย่าได้ตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไป ปฎิบัติตึงมากทำให้เหนื่อยล้า ปฎิบัติหย่อนมากเกินไปก็จะทำให้ขี้เกียจ ขาดความเพรียรในการปฎิบัติ

เดินสายกลางครับ ไม่ตึงเกินไป และไม่หย่อนจนเกินไปสุดท้ายนี้ขอให้ญาติธรรมทุกๆมีกองบุญสะสมติดตัวทุกๆภพชาติ เจริญบารมี ทั้งทางโลกและทางธรรม อนุโมทนาบุญ

บอล เรืองตะวัน คนปิดกรรม
[shake]ศรัทธา ไม่ใช่ ไสยศาสตร์ ศรัทธา เพื่อ ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีความ ศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเกิด ปาฏิหาริย์[/shake]