กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด ผู้ทรงวิทยาคุณ (เกจิอาจารย์) => ผู้ทรงวิทยาคุณ (เกจิอาจารย์) ภาคต่างๆ => เกจิอาจารย์ภาคเหนือ => ข้อความที่เริ่มโดย: โยคี ที่ 30 มี.ค. 2550, 04:36:53
-
รายละเอียด เดี๋ยวน้อง กุ๊งกิ๊ง คงจะนำมาลงเสนอ นะครับ
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
-
หลวงพ่อเต๋ คงทอง
ประวัติโดยย่อ
ประวัติและเกียติคุณ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม
หลวงพ่อเต๋ คงทอง เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน 2434
ณ บ้านสามง่าม หมู่4 โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ บู่ นามสกุล สามง่ามน้อย ท่านมีพี่น้อง 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 5 เมื่ออายุครบ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่กับหลวงลุงแดงซึ่งเป็นลุงของท่าน พร้อมกับร่วมกันจัดสร้างวัดใหม่ไปพร้อมกัน รวมทั้งได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงลุงแดงไปด้วย เมื่อ พ.ศ.2454 ท่านมีอายุครบ 21 ปี จึงได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี พระครูอุตตรการบดี ( หลวงพ่อทา) วัดพระเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์เทศ วัดทุ่งผักกูด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการจอม วัดลำเหย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า คงทอง เมื่ออุปสมบทแล้วได้ไปศึกษาเล่า เรียนทั้งทางธรรมและวิชาอาคมกับหลวงพ่อทา วัดเพียงแตก ต่อมาเมื่อหลวงลุงแดง ก่อนมรณภาพลงได้ฝากฝังวัดสามง่ามให้หลวงพ่อเต๋ ดูแล
หลวงพ่อเต๋ เริ่มออกธุดงค์ระหว่าง พ.ศ.2455-2477 รวมเป็น 17 ปี รวมทั้งการศึกษาอาคมเพิ่มเติ่มนอกเหลือจากการศึกษาจากหลวงลุงแดงและหลวงพ่อทาวัดพะเน
ียงแตก ต่อมาได้ไปศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องจากนั้นก็ธุดงค์ไปเรื่อยๆ ในสถานที่ต่างๆและได้ไปเรียนเพิ่มกับพระอาจารย์รูปอื่นๆรวมทั้งอาจารย์ฆราวาสที่เป็น
ชาวเขมร ซึ่งเคยเป็นอดีตแม่ทัพเขมร และเป็นอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ให้ความนับถือมาก ( ในสมัยท่านมีชีวิตหลวงพ่อเต๋จะทำการไหว้ครูเขมรมิขาด) ภายหลังที่กลับมาพำนักได้ 3 ปีท่านได้ทำการปฏิสังขรณ์วัดสามง่าม อย่างมานะอันแรงกล้าอย่างหาที่สุดเปรียบมิได้ รวมทั้งการพัฒนา โรงพยาบาล สถานีอนามัย โรงเรียน สถานีตำรวจ ฯลฯ
หลวงพ่อเต๋ เป็นผู้กอปรด้วยความเมตตาปราณี ท่านจะให้ความรักแก่ศิษย์ทุกคนโดยไม่เลือกที่รักที่ชัง นอกจากนี้ท่านยังให้ความเมตตาแก่สัตว์เลี้ยง ก่อนท่านจะฉันภัตตาหาร ท่านจะต้องให้ข้าวสัตว์เหล่านี้เป็นนิล เมื่อ พ.ศ.2475 กรรมการสงฆ์จังหวัดได้พิจารณาแต่งตั้งให้หลวงพ่อเต๋เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่าม และปี พ.ศ.2476 แต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าคณะตำบล ปกครอง 5 วัด
การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเต๋
ท่านจะสร้างไว้หลายแบบหลายชนิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้ วัตถุมงคลของท่านไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามแต่เน้นเรื่องพุทธคุณเพราะท่านตั้งใจสร้
างเพื่อให้บูชาพกติดตัวป้องกันภัยต่างๆ ส่วนมากเป็นเนื้อ ดินผสมผงป่นว่าน เนื้อดินอาถรรพณ์ที่นำมาเป็นมวลสารนั้นได้แก่ ดิน 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น ด้านหลังพระทุกพิมพ์จะประทับชื่อ หลวงพ่อเต๋ กดลึกลงเนื้อพระ ส่วนวัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านจนทุกวันนี้คือ ตุ๊กตาทอง ( กุมารทอง) ตำราการสร้างได้จากหลวงลุงแดง นำดิน7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้นมาปั้นแจกชาวบ้าน นำไปเพื่อคุ้มครอง การปลุกเสกนั้นหลวงพ่อเต๋ จะปั้นแล้วเอาวางนอนไว้แล้วทำการปลุกเสกให้ลุกขึ้นมาเองตามตำรา ผู้ที่ได้รับไปบูชามักจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเป็นมี่อัศจรรย์ทางต่างๆ หลวงพ่อเต๋ คงทอง มรณะภาพลงโดยอาการสงบเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2524 รวมสิริอายุได้ 80 ปี 6 เดือน10วัน พรรษาที่ 59 ปัจจุบันทางวัดเก็บรักษาสังขารท่านไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหารวมทั้งผู้เคารพศรัทธาไปกราบไ
หว้จนทุกวันนี้
-
55555 .ท่านพี่โยคี ไม่ส่งซิกก่องน่อ... ไม่งั้นป๋มมาเป็นคนแรก 5555 ;D
-
พี่ๆน้องๆท่านใดมีเสือหลวงพ่อเต้บ้างครับขอชมหน่อยครับ
-
(http://img292.imageshack.us/img292/9968/68348447kr2.png) (http://imageshack.us)
์หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม
การสร้างวัตถุมงคลของ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดอรัญญิการาม หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม หลวงพ่อท่านได้สร้างไว้หลายแบบ มาตั้งแต่ครั้งสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีทั้งแบบพระเนื้อดิน เนื้อผง เนื้อว่าน เหรียญรูปเหมือน พระกริ่ง รูปหล่อ และเหรียญหล่อ
นอกจากนี้ ท่านยังสร้างเครื่องรางของขลังอีกด้วย เช่น ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ แหวนแขน ตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดสามห่วง สีผึ้ง เป็นต้น แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้
พระเครื่องและเครื่องรางของท่านไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงาม แต่เน้นเรื่องพุทธคุณ เพราะท่านตั้งใจสร้างให้บูชาติดตัว เพื่อป้องกันภัยต่างๆ มีทั้งทางมหาอำนาจ เมตตามหานิยม แคล้วคลาด เนื้อพระส่วนมากเป็นแบบเนื้อดินผสมผงปนว่าน เนื้อดินอาถรรพณ์นำมาจัดสร้างวัตถุมงคล ได้แก่ ดินโป่ง ๗ โป่ง ดิน ๗ ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น ผสมลงไปในพระทุกพิมพ์ ด้านหลังองค์พระจะประทับชื่อ หลวงพ่อเต๋ กดลึกลงไปในเนื้อพระ
วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านมาจนทุกวันนี้ คือ ตุ๊กตาทอง หรือที่นิยมเรียกกันว่า กุมารทอง ตำราการสร้างได้จาก หลวงลุงแดง ประกอบด้วย ดินโป่ง ๗ โป่ง ดิน ๗ ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น นำมาปั้น ตุ๊กตาทอง (กุมารทอง) แจกชาวบ้าน นำไปไว้เป็นเครื่องคุ้มครอง เพราะดินดังกล่าวจะมีเทวดารักษา จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อปั้นแล้วเอาวางนอนไว้ จึงทำการปลุกเสกให้ลุกขึ้นเองตามตำรา ตุ๊กตาทองนี้นิยมกันมาก ใครได้ไปบูชามักจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเป็นที่อัศจรรย์ ต่อมาทำรายได้มหาศาล สามารถขออะไรสำเร็จทุกอย่าง
ในปี ๒๕๐๕ ท่านได้จัดสร้างพระเครื่องเนื้อดิน พิธีใหญ่อีกครั้ง เพื่อฉลองอายุครบ ๕ รอบ เนื้อดินที่ใช้ยังได้นำดินทวารวดีที่ชำรุดหัก และผงว่านผสมลงไปด้วย สังเกตเนื้อองค์พระเมื่อเผาแล้วเนื้อดินจะนุ่มเมื่อถูกเหงื่อถูกสัมผัส ปรากฏมวลสารและว่าน แลดูเก่ามาก พิมพ์ที่จัดสร้างมีดังนี้
๑.พระรูปเหมือนซุ้มเรือนแก้ว
๒.พระปรกโพธิ์ใหญ่
๓.พระปรกโพธิ์เล็ก
๔.พระตรีกาย (พระสาม)
๕.พระทุ่งเศรษฐี
พระเครื่องเนื้อดิน ๔ พิมพ์แรก ด้านหลังจะมียันต์อักขระนูน เรียกกันว่า ยันต์สามง่าม เนื่องจากด้านหลังมีรูป ตรี เป็นสัญลักษณ์ของวัดสามง่ามนั่นเอง ส่วนพระทุ่งเศรษฐี ด้านหลังมียันต์และชื่อฉายา คงทอง กดประทับลึกลงไปในเนื้อ
อย่างไรก็ตาม หากประมวลคาถา หรือยันต์หลังเหรียญรุ่นต่างๆ ของหลวงพ่อเต๋ จะพบว่า ไม่มียันต์ตัวใดเป็นยันต์เอกลักษณ์ หรือยันต์เฉพาะประจำตัวของท่านเลย
คาถา หรือยันต์ ที่พบส่วนใหญ่จะเป็นยันต์หลักๆ เช่น คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ ที่ว่า "นะ โม พุท ธา ยะ" คาถาหัวใจธาตุสี่ ที่ว่า "นะ มะ พะ ทะ"
ส่วนยันต์ที่ปรากฏบนเหรียญรุ่นวางศิลาฤกษ์โรงเรียน ปี ๒๕๑๒ คือ คาถาหัวใจพระเจ้า ๔ องค์ "นะ กะ อะ ปิ" สันนิษฐานว่า คาถาตัวนี้ท่านน่าจะได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หรือหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน
สำหรับพุทธคุณของวัตถุมงคลของหลวงพ่อเต๋ ถ้าพิจารณาจากคาถาและตัวยันต์ รวมทั้งมวลสารที่นำมาใช้สร้างแล้ว พุทธคุณน่าจะเด่นทางด้านป้องกันภัย และคงกระพันชาตรี ส่วนพระที่เป็นเนื้อผง สร้างจากดิน ๗ ป่าช้า ดินโป่ง ขุยปูอุด จะเน้นด้านเมตตามหาลาภ ซึ่งปัจจุบันนี้หลวงปู่แย้ม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ซึ่งเป็นศิษย์เอกของท่าน ยังคงรักษาตำรับการสร้างวัตถุมงคลแนวของหลวงพ่อเต๋อยู่
หลวงพ่อเต๋ คงทอง มรณภาพโดยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๒๔ รวมสิริอายุได้ ๘๐ ปี ๖ เดือน ๑๐ วัน พรรษา ๕๙ ปัจจุบันทางวัดยังคงบรรจุสังขารของท่านไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหา รวมทั้งผู้ที่เคารพศรัทธา ได้ไปกราบไหว้บูชาจนทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณ คุณสมศักดิ์ ศกุนตนาฏ บรรณาธิการอำนวยการ สำนักพิมพ์คเณศ์พร ที่เอื้อเฟื้อภาพและข้อมูลจากหนังสือ "หลวงพ่อเต๋ คงทอง"
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
-
อืม....เจอตัวแล้ว คุณจรัสกุล วันนี้ไปเอ่ของดีวัดท้องไทรมาด้วยกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
-
อืม....เจอตัวแล้ว คุณจรัสกุล วันนี้ไปเอ่ของดีวัดท้องไทรมาด้วยกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ขอบคุณครับ