กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: kasidej ที่ 16 มิ.ย. 2555, 09:35:54
-
เรื่องของเรื่องคือ เพื่อนผมคนนี้ดีมาก ผมกับเค้าเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรกัน
แต่แม่ของเค้าเป็นคนที่แย่มากๆ (สมมุติว่าชื่อคุณ x) ชอบมาระรานผม ทำตัวไม่สมเป็นผู้ใหญ่
เคยมีเรื่องกันเมื่อหลายปีก่อน นิสัยของแม่เค้าชาวบ้านเค้ารู้กันทั่ว
แต่ผมก็ไม่ได้ยุ่งกับเค้าอีกเลย คาดว่าชาตินี้คงไม่เจอกันอีก
จนเมื่อเร็วๆนี้แม่ของผมโทรมาบอก ว่าคุณ x โทรมาหาพ่อผม ทำทีเป็นติดต่อธุระ
แล้วพูดเกทับ เยาะเย้ย ทำตัวเหมือนคนไม่มีการศึกษา..
ผมทนไม่ได้จึงด่าไป ว่าลูกเค้าเป็นอภิชาติบุตร มีจิตใจสูงกว่าตัวเค้าอีก
กรณีนี้ผมขอถามว่าผมผิดมั้ย ผมด่าแม่ของเพื่อน แต่เพราะเหลืออดจริงๆ ..ตัวผมกับเพื่อนเราไม่ได้มีปัญหากัน
เพื่อนผมเค้าก็รู้ว่าแม่เค้าเป็นยังไง
ป.ล. แต่ผมไม่ได้ด่าให้เพื่อนคนนี้ฟังนะครับ คือด่ากับแม่เค้าเฉยๆ
ขอบคุณครับ เพราะมันเหลืออดจริงๆกับผู้ใหญ่คนนี้
-
ครูบาอาจารย์ห้ามไม่ให้ด่าพ่อแม่ใคร ไม่ว่าจะเป็นของตัวหรือของผู้อื่น ดังนั้นเราจึงต้องมีสติระลึกได้ ไม่ลืมตัว ถูกผิดเราเอาจิตเราเป็นที่ตั้ง เป็นตัวตัดสิน ตามสัญญาที่เกิดขึ้น ระลึกได้ จำได้ว่ายังงั้นอย่างนี้ เมื่อได้ยินก็เกิดเวทนา เกิดทุกข์คือความโกรธไม่พอใจ เกิดความปรุงแต่งต่างๆนานา โดยมีวิญญานเป็นตัวรับรู้ว่ากูถูก ตัวกูของกู ดังนั้น ครูบาอาจารย์จึงสอนให้มีสติ รู้เท่าทันจิต เมื่อเรารู้เท่าทันจิตก็จะไม่เกิดโทสะครับ
ขอขมาทุกท่านที่เราได้เกี่ยวข้อง ขออโหสิที่ล่วงเกินซึ่งกันและกัน ขอขมาต่อครูบาอาจารย์ครับ
-
การด่า ก็เป็นสิ่งธรรมดาของมนุษย์ครับ...เพราะย่อมที่จะมีอารมณ์ได้เมื่อโมโห้
แต่เราจะระงับอารมณ์ได้แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับสติ เป็นสำคัญครับ....
ผมเองก็ไม่ต่างอะไรกับท่านครับ....เมื่อโมโห้ก็พยายามหาวิธีอื่นที่ไม่ใช่การด่า..(พยายามอยู่เหมือนกัน)
กรณีที่ถามก็คงต้องตีความภาษาไทย กันหน่อย
การที่คุณด่า คุณX เพราะโมโห้ คุณX นั้น...
ก็แสดงว่าคุณด่า คุณX ไม่ได้ด่าพ่อแม่ คุณX (คุณตาคุณยายของเพื่อน)
ก็ไม่ผิดกฎ ข้อที่ห้ามด่าพ่อแม่ คนอื่น (คนที่เรามีเรื่องด้วย)
เพราะคุณไม่ได้ทะเลาะกับเพื่อน แล้วด่าคุณแม่เพื่อนก็คือ(คุณX)
แต่ผิดศีล5ครับ ข้อที่4 คือ
4) เว้นจากการพูดเท็จ คือ ไม่พูดโกหก พูดหยาบคาย หรือพูดให้ผู้อื่นเสียหาย
การแก้ไข ก็ น่าจะทำตามที่คุณ cartoon_2 แนะนำครับ
-
ขอบคุณสำหรับคำตอบของทุกท่านนะครับ
จะว่าไปแล้วผมก็ไม่ได้ด่าตัวเค้าโดยตรงหรอก.. คือแม่ผมโทรมาเล่าให้ฟัง
แต่ด้วยความโกรธ ผมจึงระบายด้วยถ้อยคำหยาบคาย (มากๆ) บนเฟซบุ๊ค.....ตอนแรกกะจะโทรไปด่าด้วยซ้ำ
แต่ผมก็ตั้งสติสงบจิตสงบใจ ถือว่าให้อภัยทานต่อเค้า อันเป็นทานที่สูงสุด
จากนั้นจึงลบข้อความหยาบคายที่ได้โพสต์ แล้วกราบขอขมาครูบาอาจารย์
สำหรับตัวเขานั้น ผมคงไม่ไปยุ่ง ไม่ไปขมาด้วยแน่.. ไม่อยากเจอเลยซะด้วยซ้ำในชาตินี้
ไม่รู้ว่าเค้าจะมายุ่งอะไรกับผม ทั้งๆที่เลิกติดต่อกันไป 3-4 ปีแล้ว
,,,อันที่จริงผมลืมว่ามีเค้าบนโลกนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ ,,แต่ตัวเค้าคงรุ่มร้อนตลอดเวลาที่ผ่านมา
เค้าเป็นผู้ใหญ่ที่มีนิสัยเหมือนเด็ก เวลาทะเลาะกันแล้วชอบด่า ชอบเยาะเย้ย ชอบหาเรื่อง เพื่อให้ตัวเองพอใจ
ชอบคุยโวโอ้อวด ดูถูกคนอื่น ปากตลาด ชอบวางอำนาจกับลูกน้อง ฯลฯ โอ้ย สารพัดครับ... :010:
ผมไม่อยากให้ของดีๆ เสื่อมเพราะคนพรรค์นี้ ดังนั้นผมจึงเลี่ยงที่จะไม่ยุ่งเลย
-
การละทั้งหลายต้องละมาจิต ไม่ใช่คิด เมื่อจิตปล่อยวาง กิเลส 3 ตัวก็หมดแล้วครับ
-
...เหตุทุกอย่างมีปัจจัยทำให้เกิด ...บางทีเราอาจเคยทำกรรมอันใดไว้ แล้วได้ได้ผลของกรรมที่ได้กระทำไว้มาในรูปแบบนี้ ...
เช่นว่า..ชาติก่อนอาจจะไปด่าเขาไว้ ระรานเขาไว้ หรือทำกรรมใดๆที่ทำให้เขารำคาญ ชาตินี้ก็รับผลของกรรมนั้น
หรือคิดอีกแง่...คนแบบนั้น ..เขาเป็นคนน่าสงสารนะค่ะ TT^TT
ลองคิดดูสิ ~ ใครๆเขาก็อยากให้คนอื่นรักคนอื่นชื่นชม
แล้วนี่ถ้าเขาทำไม่ดี คนอื่นไม่ชอบเขา เขาย่อมรู้ตัว
แต่บางที ..บางคน.. ก็เปลี่ยนตนเองยาก หรือมีกรรมบังไม่ให้รู้แจ้งในกรรมของตน :043:
...อโหสิให้เขาเถอะค่ะ ทำนิ่งเสียไม่เป็นไรหรอกค่ะ มีแต่ผลดีน๊าา ^^
จริงๆนะ เขาเป็นคนที่น่าสงสารนะ ...เราก็ควรแก่ให้อภัย ^O^
กรรมใดที่เขาก่อ มันก็ย้อนไปที่ตัวเขา เราอยากไปสร้างกรรมร่วมกับเขาเลย :069:
อย่าสร้างกรรมเพิ่มอีก ทำกุศลผลบุญกันดีกว่า พระพุทธคุณจะยิ่งศักดิ์สิทธิ์ :015:
ถ้าเราระงับตนเองได้ กรรมนั้นก็ไม่ก่อเกิด พุทธคุณก็จะคงมั่น ... อโหสินะ >_< :052:
เหมือนที่ คห. 1 บอก.. มันเป็นจิตปรุงแต่ง จากที่เราคิดว่าตัวเราเป็นของเรา :093:
ความจริงแล้วมันไม่ใช่ของเรา อย่าไปยึดติดในอารมณ์ ท่านพระพุทธทาสท่านก็ได้กล่าวไว้
ถ้าจิตเราว่าง ไม่ไปมีอารมณ์ร่วมกับมัน เราก็นิ่งเฉย สงบเย็นได้นะค่ะ
""..สู้ๆนะ จริงอยู่มันยาก แต่ลองทำดู ไม่เิกินกำลังเราแน่นอน.."" :053:
ถือเสียว่าเขาน่าสงสาร อย่าไปถือเขาเลยค่ะ :026:
อย่าโทษคนบ้า อย่าว่าคนเมา อย่าถือคนพาล ... ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม ถือข้อห้ามของวัด พุทธคุณไม่ไปไหน :054:
... ระงับตนได้เป็นมหากุศลนะจ๊ะ ได้บุญมากกว่าทำบุญด้วยทรัพย์สินเป็นไหนๆ^O^
-
ครูบาอาจารย์ห้ามไม่ให้ด่าพ่อแม่ใคร ไม่ว่าจะเป็นของตัวหรือของผู้อื่น ดังนั้นเราจึงต้องมีสติระลึกได้ ไม่ลืมตัว ถูกผิดเราเอาจิตเราเป็นที่ตั้ง เป็นตัวตัดสิน ตามสัญญาที่เกิดขึ้น ระลึกได้ จำได้ว่ายังงั้นอย่างนี้ เมื่อได้ยินก็เกิดเวทนา เกิดทุกข์คือความโกรธไม่พอใจ เกิดความปรุงแต่งต่างๆนานา โดยมีวิญญานเป็นตัวรับรู้ว่ากูถูก ตัวกูของกู ดังนั้น ครูบาอาจารย์จึงสอนให้มีสติ รู้เท่าทันจิต เมื่อเรารู้เท่าทันจิตก็จะไม่เกิดโทสะครับ
ขอขมาทุกท่านที่เราได้เกี่ยวข้อง ขออโหสิที่ล่วงเกินซึ่งกันและกัน ขอขมาต่อครูบาอาจารย์ครับ
ถูกต้องที่สุดเลยครับ หลวงปู่เคยบอกว่ามี สติครับ
-
สติครับผม..
ข้อนี้เป็นข้อหนึ่งเลยที่ผม เคร่งมาก
เมื่อก่อนสมัยเรียนผมก็เป็นคนชอบเล่นพ่อแม่เพื่อน.
แต่พอเราได้ มีครูบาอาจารย์ผมไม่เคยจะเอ่ยปากด่าทอพ่อแม่คนอื่นเลย
ข้อนี้ผมถือมากครับ.
ในกรณีของคุณ ผมคิดว่าถ้าถามว่าผิดไหม ผิดครับ.
แต่ให้ตัวเราคิดว่า ผิดครั้งนี้จะไม่มีอีกแล้ว ผิดครั้งนี้เป็นความผิดที่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการ
เพื่อความสบายใจให้คิดแบบนี้ครับ แล้วอย่าทำอีก ขอให้ศรัทธาในสิ่งที่เรามีอยู่้ ไม่มีเสื่อมหรอกครับ
-
คือ เผลอ อุทานคำหยาบไป ไม่ตั้งใจอ่าค่ะ คำนี้ค่ะYedddmom ผิดมากไหมค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจิงๆ มีคาถาอะไรแก้ตัวไหม[shake][/shake]
-
ตามที่ คห 1 และ 5 บอกครับ
นิ่งเฉยไหว และให้อภัย