กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: mr.blue-phuket ที่ 21 ก.ค. 2556, 04:59:27
-
ผมเพิ่งสักยันต์เก้ายอดกับหลวงพี่แป๋วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์2556นี้ แต่วันนี้ผมเอารถไปล้าง เผอิญร้าล้างรถมีต้นไม้ผูกเปลอยู่ผมจอดรถเสร็จ ก็ไปนอนในเปลพอมองไปมองมาเห็นลูกมะเฟืองหล่นอยู่ที่พื้น ตกใจมาก! เอาแล้วเราละเมิดข้อห้ามโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดว่าต้องกลับไปหาหลวงพี่แป๋ว แต่ผมบ้านอยู่ภูเก็ต จะกลับกรุงเทพฯปีละครั้งก็ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ผมจึงอยากสอบถามผู้ที่รู้ว่า มีวิธีแก้ไขอย่างไรก่อนชั่วคราวไหมครับ มันไม่สบายใจเลยจริงๆ รบกวนช่วยตอบกลับแจ้งให้หน่อยนะครับ
-
ข้อห้ามเค้าห้ามกินครับ ไม่ได้ห้ามเข้าใกล้ต้นมะเฟืองไปเอามาจากไหนครับช่วยบอกที เค้าห้ามลอดไม้ค้ำกล้วยกับสะพานหัวเดียวนะครับไม่ได้ห้ามรอดใต้ต้นมะเฟืองอย่าเข้าใจผิดนะครับ เอาแค่ข่้อห้ามวัดบางพระพอครับถือมากๆหนักครับ เอาแต่พอดีไม่ตึงและไม่หย่อนเกินไปดำรงชีวิตได้ตามปกติครับ จะเสื่อมไม่เสื่อมอยู่ที่ใจเราครับ อย่าไปผิดลูกผิดเมียใครก็แล้วกัน
-
ไม่ได้มีข้อห้ามนอนใต้ต้นมะเฟืองแค่ห้ามกินน้ำเต้ากับมะเฟืองครับ
-
ไม่ผิดลูกผิดเมีย ไม่ว่ากล่าวบุพการี 2ข้อสำคัญ ก็พอแล้วครับ ทองยังไงก็เป็นทองครับพี่สบายใจได้
-
เท่าที่ผมศึกษา...จากข้อมูลต่างๆ....
ผมสรุปเองได้ว่า มะเฟืองกับน้ำเต้า เป็นพืชผักผลไม้ ที่ใช้ล้างพิษ
สมัยโบราณ หมึกที่ใช้มีส่วนผสมว่านยา เยอะกว่าสมัยนี้...
ถ้ากินน้ำเต้าหรือมะเฟือง ก็จะไปล้าง ว่านยาที่อยู่ในตัวเรา ครับ
ส่วนเรื่องบอกว่า ผลนั้นคล้ายอวัยวะเพศหญิงนั้น ผมว่าไม่น่าใช่ ผมไม่เชื่อว่าจะใช่เหตุผลนั้น
แต่ถ้าใครเชื่อเหตุผลนั้น ก็จะต้องห้ามลอดใต้ต้นมะเฟืองด้วย เพราะก็เหมือนลอดใต้อวัยวะเพศหญิง
(ผลไม้ก็คือผลไม้ อวัยวะของคน ก็คือ อวัยวะของคน มันคนละสิ่งคิดกันไปเอง)
ซึ่งวัดบางพระ ไม่ได้ห้ามลอด แค่ห้ามกิน
ปล. ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ...เท่าที่ศึกษามาผมทราบเท่านี้..ครับ
-
เพิ่มเติม
ผมเคยได้สนทนากับ พระอาจารย์ อภิญญา ท่านบอกว่า
สมัยก่อนหมึกสัก ท่านผสมว่านต่างๆ บางคนสักไปอาจทำให้แพ้ต่างๆ หรือระคายเคือง
ส่วนพวก ดี ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดีงู ดีหมี ดีเสือ อะไรพวกนั้น ผสมไปก็จะอยู่ไม่นานหมึกก็เน่าเสียแล้ว...
ปัจจุบันนี้เลยไม่ได้ผสม ทั้ง 2 อย่างนี้ จากเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว....
-
หายกังวลได้ยังครับ ท่าน :002: :002: :002:
-
มะเฟือง น้ำเต้า เป็นของเย็น เป็๋นธาตุน้ำ ฉนั้น จึงได้ทำเป็นเครื่องราง เช่น น้ำเต้ากันไฟ