กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: SIC ที่ 03 เม.ย. 2552, 02:24:16

หัวข้อ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SIC ที่ 03 เม.ย. 2552, 02:24:16
วันนี้เจอพระรูปหนึ่งบ่นเรื่องการเมืองบนรถเมล์สายหนึ่ง (สายที่ไป สาธุประดิษฐ์ - เสาชิงช้า)

บ่นอยู่คนเดียว (ท่าทางเป็นสีแดงมั้ง  :002:)
ตั้งแต่ท่านขึ้นบนรถจนกระทั่งผมลงจากรถ ท่านก็ยังไม่ได้หยุดเลย แสดงกิริยาชูไม้ชูมืออีก

แบบนี้ถือว่ามีความผิดหรือเปล่าหรือครับ
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ชลาพุชะ ที่ 03 เม.ย. 2552, 06:29:51
ขอตอบแบบ ไม่ สีแดง  และเหลือง  พระต้องตัดทางโลภเพื่อหาทางหลุดพ้นครับ ไม่ควรไปยุ่ง แต่งานนี้ พระไปร่วมก็ไม่สมควรนะครับ ผิดศีลแน่นอนครับ
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: one ที่ 03 เม.ย. 2552, 06:54:44
ขอตอบแบบ ไม่ สีแดง  และเหลือง  พระต้องตัดทางโลภเพื่อหาทางหลุดพ้นครับ ไม่ควรไปยุ่ง แต่งานนี้ พระไปร่วมก็ไม่สมควรนะครับ ผิดศีลแน่นอนครับ

เคยเห็นหลวงพี่ท่านนึงที่จำวัดอยู่วัดปรินายก กทม เดินขบวนบ่อยๆๆ องค์ที่มา วันไหว้ครู อ้วนๆๆ ที่ลงทองอะค่ะ   :017:
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ชลาพุชะ ที่ 03 เม.ย. 2552, 07:35:15
ขอตอบแบบ ไม่ สีแดง  และเหลือง  พระต้องตัดทางโลภเพื่อหาทางหลุดพ้นครับ ไม่ควรไปยุ่ง แต่งานนี้ พระไปร่วมก็ไม่สมควรนะครับ ผิดศีลแน่นอนครับ

เคยเห็นหลวงพี่ท่านนึงที่จำวัดอยู่วัดปรินายก กทม เดินขบวนบ่อยๆๆ องค์ที่มา วันไหว้ครู อ้วนๆๆ ที่ลงทองอะค่ะ   :017:
เคารพกับความคิดเห็นท่านนะครับ แต่ผมว่าเราไม่ควรเจาะจงขนาดนี้นะครับ
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: St.Pipo ที่ 03 เม.ย. 2552, 08:38:03
อาบัติครับ ถ้าว่ากันตามพระวินัย
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 03 เม.ย. 2552, 10:14:06
พระยุ่งการเมืองต้องแบบพระพม่า บวกกับทหารเลยย   :005: :005:

ทุกสังคมมีทั้งส่วนดีและส่วนดีน้อยหน่อย ปนๆ กันไปครับ

หลวงพี่ท่านคงอินกับสังคมรอบข้างมากไปหน่อย   :005: :005:

งานนี้ไม่ปลื้มเื่่ท่าไรครับ  ถ้านิ่งไว้จะดีกว่าครับ ยิ่งนิ่งยิ่งโดนใจ  :054: :054:


หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: พุงโต ที่ 03 เม.ย. 2552, 10:29:10
พระท่านสามารถยุ่งได้ทุกเรื่อง  ถ้าไปในการไปโปรดมนุษย์ ผู้เต็มไปด้วยกิเลส ให้พ้นจากการจองเวรซึ่งกันและกัน   แต่ถ้าเข้าไปเพิ่มวิบากกรรม  ก็คงเป็นกรรมหนักของท่าน   เพราะพระถ้าทำกรรมแล้วจะหนักกว่า

คนธรรมดาทั่วไปสองเท่า กรรมหนักมาก ๆ  สรุปแล้วก็กรรมใครกรรมมัน ครับ เราเองก็พยายามไม่ไปร่วมวิบากกรรมนี้  เพราะมันเป็นกรรมที่ใหญ่มาก ๆ และจำนวนคนก็เยอะ

หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: cho presley ที่ 03 เม.ย. 2552, 10:43:21
พระท่านสามารถยุ่งได้ทุกเรื่อง  ถ้าไปในการไปโปรดมนุษย์ ผู้เต็มไปด้วยกิเลส ให้พ้นจากการจองเวรซึ่งกันและกัน   แต่ถ้าเข้าไปเพิ่มวิบากกรรม  ก็คงเป็นกรรมหนักของท่าน   เพราะพระถ้าทำกรรมแล้วจะหนักกว่า
คนธรรมดาทั่วไปสองเท่า กรรมหนักมาก ๆ  สรุปแล้วก็กรรมใครกรรมมัน ครับ เราเองก็พยายามไม่ไปร่วมวิบากกรรมนี้  เพราะมันเป็นกรรมที่ใหญ่มาก ๆ และจำนวนคนก็เยอะ

มีความหมายดีค่ะ พี่พุงโต้โต...

สำหรับคุณโชว ขอโง่ๆ ง่ายๆ... 'สีเขียว' ปายค่ะ... 

(เอาเหลืองกะแดงมาผสมรวมกันจะได้สีเขียวนะฮ่ะ..ติสแตกไปหน่อยนะคะ )

หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ต้นน้ำ~ ที่ 03 เม.ย. 2552, 10:51:15
ถ้าความคิดของผมนะพระก้อเป็นประชาชนคนนึงเหมือนกันแต่...อยุ่ในเพศบรรชิตก้ออาจจะติดตามข่าวสารบ้านเมืองบ้างอ่ะครับ
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 03 เม.ย. 2552, 11:04:12
ถ้าความคิดของผมนะพระก้อเป็นประชาชนคนนึงเหมือนกันแต่...อยุ่ในเพศบรรชิตก้ออาจจะติดตามข่าวสารบ้านเมืองบ้างอ่ะครับ
ติดตามได้ไม่ผิด แต่ก็ไม่ควรยินดี หรือยินร้าย ... ควรไปตามทางสายกลาง ใช้ศิล สมาธิ ปัญญา เป็นที่ตั้ง  
พระภิกษุ คือผู้แสวงหาธรรม และความสงบมิใช่ ความสุขควาสบาย... คือผู้เจริญทางพ้นทุกข์ ตามพระพุทธองค์
ของแบบนี้ต้องดูที่เจตนา ครับ พระภิกษุควรสอนธรรมมะ เพื่อให้ทุกท่านอยู่อย่างสงบ มิใช่ปลุกระดมให้เขาตีกันทะเลอะกัน

แต่ถ้าพระรูปใดได้ประกาศว่าจะเสกจะเป่าแล้วจะทำให้การเมืองดีขึ้น หรือหลอกหลวงวังผลประโยชน์ในช่วงสังคมกำลังแย่ ก็ปาราชิกหละครับ

ดูที่เจตนา ครับ คิดดี ทำดี พูดดี ก็เป็นศรีแก่ตน แต่จริงๆเขาห้ามนะครับ  ไม่ใช่กิจของสงฆ์  
เหมือนพระดื่มเบียร์เมาไปขับรถเล่น (ขนาดไม่เมาไปขับรถก็ยังไงอยู่) คิดเอาเองนะครับ ... พระประชาชนคนนึงก็ดื่มเบียร์ได้ดิ ขับรถได้ดิ
ท่านคือผู้แสวงหาทางนิพพาน ไม่ใช่ความสุขความสบายแก่ตน
ผมเลือกทางสายกลางหวะเพื่อนต้น 5555++ ก็แค่หวังๆ ให้ยุตติสักทีน่าเบื่อ การเมือง ของเมืองไทย

ผมคิดว่า คนไทยที่แบ่งฝ่ายแบ่งพวก ก็เพื่อหวังแต่ผลประโยชน์ทั้งนั้น ผมเสียใจ ทำไมคนไทยไม่นึก ถึงองค์เจ้าเหนือหัวของเรา
ผมไม่เลือกฝ่ายใดฝ่ายนึง .......ผมเลือกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์เหนือหัวของเรา ท่านตางหากเป็นประมุกของเรา

ไม่ว่าฝ่ายใด จะชนะ หรือไม่ชนะ  ผลสรุป คือประเทศหละครับที่พังหละพี่น้อง
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ชลาพุชะ ที่ 03 เม.ย. 2552, 11:25:37
พระยุ่งการเมืองต้องแบบพระพม่า บวกกับทหารเลยย   :005: :005:

ทุกสังคมมีทั้งส่วนดีและส่วนดีน้อยหน่อย ปนๆ กันไปครับ

หลวงพี่ท่านคงอินกับสังคมรอบข้างมากไปหน่อย   :005: :005:

งานนี้ไม่ปลื้มเื่่ท่าไรครับ  ถ้านิ่งไว้จะดีกว่าครับ ยิ่งนิ่งยิ่งโดนใจ  :054: :054:



ชอบคำนี้มากๆ บวกกับทหาร ดู ตลกๆ แต่เป็นตลกร้ายนะท่าน
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: porpar ที่ 03 เม.ย. 2552, 11:44:43
อ้างถึง
ไม่ว่าฝ่ายใด จะชนะ หรือไม่ชนะ  ผลสรุป คือประเทศหละครับที่พังหละพี่น้อง

ท่าน เอ็มพูดถูกครับพี่น้อง........... :002:
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 03 เม.ย. 2552, 12:04:49
เขาบอกว่า การเมือง (สีเหลือง-สีแดง-สีสาวๆ )  ศาสนา(รวมทั้งครูบาอารย์แต่ละสำนัก)  ฟุตบอล (จะผีหรือเป็ดเปื้อนเลือด)

คนรักกันชอบกัน เขาไม่ค่อยคุยกันนะจ๊ะ  งอน.กันมาเยอะแล้ว   :005: :005:

แล้วนี่คุุยกันเรื่องนักบวชยุ่งการเมือง  สองเด้ง เลยครับพี่น้อง  :004: :004:
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: [= Jo_o* =] ที่ 03 เม.ย. 2552, 03:20:12
ดูได้ คิดได้ แต่ต้องสำรวมไว้แต่ผู้เดียวครับผมว่า
เนื่องด้วยมิใช่กิจอันใดของสงฆ์ครับ

หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 03 เม.ย. 2552, 04:31:00
ถามว่าพระภิกษุบวชในพระพุทธศาสนายุ่งกับการเมืองได้หรือไม่ 

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจคำว่า "การเมือง" ก่อนว่าคืออะไร   หมายความว่าอย่างไรกันนะครับ   

การเมืองหมายถึง การปฏิสัมพันธ์หรือพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหรือแบ่งปันสิ่งที่มีคุณค่าเพื่อสังคม  เกี่ยวเนื่องกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆ

ส่วนการปกครอง หมายถึง การปฏิบัติการทั้งหลายทั้งปวงของเจ้าหน้าที่ต่างๆของรัฐ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ด้วยกันอย่างมีระเบียบและได้รับผลประโยชน์จากการอยู่ในรัฐนั้น


ดังนั้นหากเรื่องนั้นเกี่ยวโยงกับเรื่องศีลธรรม  เกี่ยวโยงกับเรื่องปัจจัย 4 แล้ว เกี่ยวกับเรื่องศาสนา  พระสงฆ์สามารถมีส่วนร่วมได้  แต่พระสงฆ์ที่มีส่วนร่วมนั้น  ต้องเป็นผู้ที่มีใจบริสุทธิ์   ไม่เอียนเอียงเพื่อผลประโยชน์เรืองลาภยศทั้งปวง  หวังประโยชน์อันบริสุทธิ์ต่อมวลมนุษยชาติเท่านั้น

ถ้าหากมีอะไรมากระทบกับเรื่องพระศาสนา  มากระทบต่อการปฏิบัติธรรม  ไม่อำนวยต่อการปฏิบัติธรรม  เรื่องที่ขัดศีลธรรมพระสงฆ์สามารถออกมาเดินขบวนด้วยอหิงสาธรรมได้  ออกมาตักเตือนได้ทุกเรื่องที่ท่านเห็นว่าจะพาพลเมือง  หรือมนุษยชาติไปในทางที่ผิด


ตัวอย่างเรื่องที่ 1

ครั้งสมัยพุทธกาล  มีเมืองสองเมือง  ซึ่งทั้งสองเมืองต่างก็เป็นพระญาติของพระพุทธเจ้า  เกิดการแย่งชิงน้ำกัน  จนกระทั่งจะมีการทำศึกสงคราม  พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็ทรงออกมาห้ามศึก  มาเทศนาสั่งสอนให้รู้จักการแบ่งปันกัน  การบริหารน้ำอย่างมีระบบระเบียบ  จนเราได้นำเรื่องนี้มาสร้างเป็นพระพุทธรูป เรียกว่า " ปางห้ามญาติ" เพื่อระลึกนึกถึงพระองค์ในการห้ามศึกของพระญาติในครานั้น


ตัวอย่างเรื่องที่ 2 

ในสมัยพุทธกาลมีการค้าขายสุรากันในเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าพิมพิสาร หรือพระเจ้าปเสนทิโกศล  ผมจำไม่ค่อยได้ครับ    พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า  ท่านก็ออกมาตรัสเทศนายุกาล  เทศนากับระมหากษัตริย์ ซึ่งสมัยนั้นมีอำนาจในการปกครองประเทศชาติ  ว่าให้มีหน่วยงานหนึ่งคอยจับกุม เป็นหูเป็นตาไม่ให้มีการผลิตสุรา  ค้าขายสุรากัน เพราะจะนำประชาชนไปสู่ปากทางเสื่อม  ปากทางแห่งความฉิบหาย เมื่อตายแล้วก็ไปตกอยู่ในอบาย  พระพุทธเจ้าทรงชี้ถึงโทษแห่งน้ำเมาให้ทราบ   

กษัตริย์ที่ได้รับคำเทศนาของพระพุทธเจ้าก็ทรงตั้งหน่วยงานหนึ่งขึ้นมาเรียกว่า  "หน่วยงานสรรพสามิต"  มีหน้าที่จับกุมผู้ที่ลักลอบผลิตน้ำเมา  ค้าขายน้ำเมา หรือดื่มน้ำเมา  มาลงโทษ   มาอบรมให้เข้าใจโทษของน้ำเมาครับ  
   

แล้วเราจะพูดว่าพระกับการเมืองเป็นของที่ยุ่งกันไม่ได้จริงหรือ

หากถ้าพระสงฆ์รูปนั้นมีจิตใจบริสุทธิ์  ประสงค์ดีต่อประชาชน   ปฏิบัติต่อพระธรรมวินัยอย่างครบถ้วน  ออมาเรียกร้องความถูกต้อง เรื่องศีลธรรม  ผมว่าท่านไม่ผิดหรอกครับ  แต่ต้องอยู่ในอาการสงบ  ไม่ใช่ออกมาชูไม้ชูมือ  กล่าววาจาไม่สุภาพ  ผมว่าออกมาตักเตือนได้ แต่ต้องอยู่ในพระธรรมวินัยด้วยนะครับ


ถ้าหากการออกมาด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยความเป็นห่วงเรื่องศีลธรรม  เรื่องพระศาสนา แล้วท่านใด(หมายถึงบุคคลภายนอกทั่วไป) บอกว่าพระสงฆ์ที่มายุ่งต้องอาบัติ  ผมอยากถามกับไปว่าท่านอาบัติในข้อไหนหรือครับ  ปราชิก  สังฆาฏิเสส    ถุลลัจจัย   ปาจิคตีย์  ปาฏิเทสนียะ หรือว่าอาบัติทุพภาษิต   หากอาบัติแล้วทำไมพระบรมศาสนาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่างล่ะครับ

พระตถาคตเจ้าได้ทรงตรัสไว้ว่า  "เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา  เรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง" 
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SIC ที่ 03 เม.ย. 2552, 04:51:43
เอ.......

แล้วพระสงฆ์ต้องไปเลือกตั้งด้วยหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 03 เม.ย. 2552, 05:17:07
เอ.......

แล้วพระสงฆ์ต้องไปเลือกตั้งด้วยหรือเปล่าครับ


ปกติไม่นิยม นะครับ เลือกตั้งเนี่ย  บางวัดห้ามเลย ครับผม
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: N!c ที่ 03 เม.ย. 2552, 06:13:26
เอ.......

แล้วพระสงฆ์ต้องไปเลือกตั้งด้วยหรือเปล่าครับ


ปกติไม่นิยม นะครับ เลือกตั้งเนี่ย  บางวัดห้ามเลย ครับผม
พี่เอ็มครับ ตามกฏหมายแล้ว พระสงฆ์ ไม่ต้องไปเลือกตั้งครับ
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 03 เม.ย. 2552, 06:17:17
เอ.......

แล้วพระสงฆ์ต้องไปเลือกตั้งด้วยหรือเปล่าครับ


ปกติไม่นิยม นะครับ เลือกตั้งเนี่ย  บางวัดห้ามเลย ครับผม
พี่เอ็มครับ ตามกฏหมายแล้ว พระสงฆ์ ไม่ต้องไปเลือกตั้งครับ


ขอบคุณครับ ถูกกก ต้องนะคร๊าบ 55+
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TTTUTTT ที่ 03 เม.ย. 2552, 07:30:30
การเมืองเป็นเรื่องทางโลกครับ...
สิ่งที่พระจะทำได้ในสถานณ์การเช่นนี้ก็คือเทศน์ให้คนในชาติ...
เห็นความสำคัญของความสามัคคีปรองดองกันกันครับ...

ไม่ว่าสีใดก็คนไทย (ผมไม่เข้าข้างฝ่ายใดครับ)...
คำว่าประชาธิปไตย ก็ต้องอย่างนี้แหละครับ...
ถ้าความเห็นไม่แตกต่างก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย...
หากแต่อยู่ที่การประสานประโยชน์แก่ฝ่ายต่างๆอย่างทั่วถึงต่างหากหล่ะครับ...
เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน(บนความแตกต่าง)...{^_^}...



หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 03 เม.ย. 2552, 07:37:09
เอ.......

แล้วพระสงฆ์ต้องไปเลือกตั้งด้วยหรือเปล่าครับ


ปกติไม่นิยม นะครับ เลือกตั้งเนี่ย  บางวัดห้ามเลย ครับผม
พี่เอ็มครับ ตามกฏหมายแล้ว พระสงฆ์ ไม่ต้องไปเลือกตั้งครับ


ตามกฎหมายประเทศไทยแล้ว พระสงฆ์ไม่มีสิทธิที่จะไปเลือกตั้งได้ครับ

ประเทศเพื่อนบ้านเราที่ผมเห็นพระสงฆ์มีสิทธิทางการเมืองคือ ประเทศพม่า ให้พระสงฆ์นั่งในการประชุมรัฐบาลได้ เหมือนกับประเทศไทยในครั้งอดีตที่ให้พระสังฆราช นั่งข้างๆพระมหากษัตริย์ในการออกประชุมท้องพระโรงครับ  และก็มีประเทศกัมพูชา  ประเทศนี้พระสงฆ์สามารถใช้สิทธิในการเป็นพลเมืองของชาติออกไปเลือกตั้งได้ครับ


การเมืองเป็นเรื่องทางโลกครับ...
สิ่งที่พระจะทำได้ในสถานณ์การเช่นนี้ก็คือเทศน์ให้คนในชาติ...
เห็นความสำคัญของความสามัคคีปรองดองกันกันครับ...

ไม่ว่าสีใดก็คนไทย (ผมไม่เข้าข้างฝ่ายใดครับ)...
คำว่าประชาธิปไตย ก็ต้องอย่างนี้แหละครับ...
ถ้าความเห็นไม่แตกต่างก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย...
หากแต่อยู่ที่การประสานประโยชน์แก่ฝ่ายต่างๆอย่างทั่วถึงต่างหากหล่ะครับ...
เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน(บนความแตกต่าง)...{^_^}...





อันนี้ผมเห็นด้วยนะครับ   ขอบคุณครับ
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SIC ที่ 04 เม.ย. 2552, 03:41:07
ขอบคุณครับ :016:
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: โยคี ที่ 06 เม.ย. 2552, 10:55:22
หลวงตา ที่ว่าเป็นพระอรหันต์ ด่าทักษิณ เย้วๆ เมื่อตอนนั้น อาบัติหรือเปล่า
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ที่ 06 เม.ย. 2552, 11:02:36
หลวงตา ที่ว่าเป็นพระอรหันต์ ด่าทักษิณ เย้วๆ เมื่อตอนนั้น อาบัติหรือเปล่า

อันนี้ผมไม่ทราบครับ  อิอิ

แต่ผมทราบว่าพระอรหันต์คือผู้หมดกิเลส ดับโทสะ โมหะ โลภะได้

ถ้ายังมีความโกรธอยู่ก็ไม่ใช่พระอรหันต์สินะครับ

ผมว่าอย่าไปพูดถึงเรื่องการเมืองที่เจาะจงบุคคลเลยครับ มันไม่ดีครับ 
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์กวาง~ ที่ 06 เม.ย. 2552, 11:38:10
เรื่องพระ กับเรื่องการเมืองนี่

กวางก็เคยอ่านในหนังสือ ของพระพยอมนะคะ



ชื่อหนังสือก็.."นรก-สวรรค์ ห่างกันแค่...เจตนา"

ขัดแย้งกับกับ สนธิ ลิ้มทองกุล


ท่านพระพยอมท่านออกมาเทศกล่าวเตือนไม่ให้พ่อแม่นำเด็กมาก่อม็อบด้วย

เด็กเสมือนกับผ้าสีขาว อย่านำเรื่องขัดแย้งของผู้ใหญ่ให้เด็กต้องมารับรู้เลย

แต่สนธิก็โต้กลับเช่นกันค่ะ ไม่ได้ดูเลยว่าท่านเป็นพระ

ว่าท่านเสียๆหายๆเห็นพระเป็นศัตรู

แต่ก็อย่างว่าแหล่ะค่ะ

"นรก-สวรรค์ ห่างกันแค่...เจตนา"
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya ที่ 07 เม.ย. 2552, 07:24:58
พระยุ่งกับการเมืองผิดแน่นอนขอรับ แต่! เอ๊ะ เคยนึกมุมกลับกันบ้างไหมขอรับพี่น้องคร๊าบบบบ

พระถูกการเมืองลากมาเท่าไหร่ ตั้งพระให้เป็นศูนย์ต่างๆ เช่นศูนย์สุขภาพจิตนี่ใครตั้ง

ให้พระมีบัตรประชาชนให้เลือกตั้งได้นี่ใครคิด(ดีที่ยังไม่ผ่าน) ก็พระโดนลากมาซะขนาดนี้

ขนาดจะให้เลือกตั้งได้นี่ แล้วจะไม่ให้รู้ข้อมูลทางการเมืองกันเลยหรือไร

แล้วเมื่อรู้แล้ว จะวิพากย์วิจารย์มันผิดวินัย (แต่มันผิดมากขนาดไหน)

แล้วจะให้ทำเช่นไรขอรับพี่น้องคร๊าบบบ

ก็การเมืองเล่นลากพระไปซะยังง้านนน(ยังมีอีกเยอะนะ) แล้วจะให้พระทำยังไง?

เฮ้อ!! ตอนพระโดนลากลงน้ำไม่เห็นมีใครว่า ทียังงี้ล่ะ เดี๋ยวปั๊ดบวชหนีเมียไปสมัครนายกซะเลย
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อชิตะ ที่ 07 เม.ย. 2552, 08:48:58
ไปอ่านเจอมาครับ

คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.๒๕๓๘

 

อาศัย อำนาจตามความในมาตรา ๑๕ ตรี แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒)

พ.ศ.๒๕๓๕ มหาเถรสมาคม ออกคำสั่งไว้ดังนี้

 

ข้อ ๑ คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ เรียกว่า "คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.๒๕๓๘"

 

ข้อ ๒ คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วัดถัดจากวันประกาศในแถลงการณ์คณะสงฆ์ เป็นต้นไป (คือ วันที่ ๒๖ ม.ค.๒๕๓๕)

 

ข้อ ๓ ตั้งแต่วันใช้คำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้ยกเลิกคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.๒๕๑๗

 

ข้อ ๔ ห้ามพระภิกษุสามเณรเข้าไปในที่ชุมนุม หรือในบริเวณสภาเทศบาล หรือสภาการเมืองอื่นใด หรือในที่ชุมนุมทางการเมือง ไม่ว่ากรณีใดๆ

 

ข้อ ๕ ห้ามพระภิกษุสามเณรทำการใดๆ อันเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่การหาเสียง เพื่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาเทศบาล หรือสภาการเมืองอื่นใดแก่บุคคลหรือคณะบุคคลใดๆ

 

ข้อ ๖ ห้ามพระภิกษุสามเณรร่วมชุมนุมในการเรียกร้องสิทธิของบุคคลหรือคณะบุคคลใดๆ

 

ข้อ ๗ ห้ามพระภิกษุสามเณรร่วมอภิปราย หรือบรรยายเรื่องเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งจัดตั้งขึ้นทั้งในวัดและนอกวัด

 

ข้อ ๘ ให้พระสังฆาธิการตั้งแต่ชั้นเจ้าอาวาสขึ้นไป ผู้มีอำนาจหน้าที่ในทางปกครองชี้แจงแนะนำผู้อยู่ในปกครองของตนให้ทราบคำสั่ง มหาเถรสมาคมนี้ และกวดขันอย่าให้มีการฝ่าฝืนละเมิด

 

ข้อ ๙ พระภิกษุสามเณรรูปใดฝ่าฝืนละเมิดคำสั่งมหาเถรสมาคมนี้ ให้พระสังฆาธิการผู้ปกครองใกล้ชิดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตน

 

ถ้า ความผิดเกิดขึ้นขนอกเขตสังกัด ให้เจ้าคณะเจ้าของเขตที่ความผิดเกิดขึ้นว่ากล่าวตักเตือนแล้วแจ้งให้พระสังฆาธิการผู้ปกครองใกล้ชิดดำเนินการ

 

ข้อ ๑๐ ให้พระสังฆาธิการผู้มีอำนาจหน้าที่ในทางปกครองทุกชั้นปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำสั่งมหาเถรสมาคมนี้โดยเคร่งครัด

 

สั่ง ณ วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๘

 

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม


ขอบคุณที่มา ไว้ ณ ที่นี้ครับผม http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=yuwasong&topic=3&Cate=1 (http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=yuwasong&topic=3&Cate=1)


หลวงพี่ท่านคุยบนรถเมล์คงไม่ถึงกับผิดระเบียบคำสั่ง  แต่คงไม่งามแน่ๆ

ยืนยันคงเดิมครับ พระสงบๆนิ่งๆ เป็นการประกาศธรรมที่ดีครับ 
หัวข้อ: ตอบ: พระยุ่งเรื่องการเมืองนี้อาบัติหรือเปล่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: •••--สายัณ--••• ที่ 07 เม.ย. 2552, 02:00:53
สึก แล้วก็บวชใหม่ ไม่ได้ปราชิก สบายครับ