กระดานสนทนาวัดบางพระ
หมวด มิตรไมตรี => รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) => ข้อความที่เริ่มโดย: ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) ที่ 21 พ.ค. 2552, 11:42:56
-
โทรศัพท์มือถือและเครื่องรางที่เราใช้ เงาประโยชน์ของมันคือสื่อมัจจุราชใช่หรือไม่
โลหะที่เป็นสื่อนำไฟฟ้าได้ดี เรียงตามลำดับได้คือ 1.เงิน 2.ทองแดง 3.ทอง 4.อะลูมิเนียม 5.ทังสเตน 6.เหล็ก 7.สเตนเลส 8.แพลทินัม และ 9.ตะกั่ว
เชื่อกันว่า ใครมีโลหะตัวนี้ประดับกาย ยามฝนฟ้าคะนองพึงระวังไว้ เพราะตัวอย่างมีให้เห็นอยู่เนืองๆ กล่าวกันว่า แม้แต่ที่ทำเป็นเครื่องรางของขลังก็อย่าวางใจ เพราะกลายเป็นศพกลางทุ่งนามานักต่อนักแล้ว
อย่างเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2552 ที่ผ่านมา ระหว่างที่นายวิเชียร นางศรี คิดการ สองสามีภรรยานอนอยู่ในกระท่อม เกิดพายุฝนกระหน่ำหนัก แล้วฟ้าก็ผ่าลงมา ทำให้นายวิเชียรและนางศรีเสียชีวิต
เมื่อค้นหาสาเหตุ เจ้าหน้าที่พบว่า สองสามีภรรยาสวมสร้อยตะกรุดทำจากทองแดง บริเวณลำคอมีรอยไฟไหม้ เรือนกายดำเกือบทั้งตัว เจ้าหน้าที่จึงลงความเห็นว่า ตะกรุดทองแดงที่นายวิเชียรและนางศรีห้อยนั่นเองที่เป็นสื่อมรณะ
ตะกรุดเสตนเลส...ก็เชื่อว่าเป็นสื่อมรณะได้เช่นกัน
อย่างกรณีฟ้าผ่าที่ทุ่งนาหมู่ที่ 11 บ้านท่าเตียน ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรีมีผู้เคราะห์ร้ายถึง 3 ศพ คือ นายจำรูญ นุ่มดี อายุ 57 ปี เป็นอาจารย์ 2 ระดับ 7 นางสมคิด แช่มธูป อายุ 51 ปี น้องสาวของนายจำรูญ และนายสาธิต แช่มธูป อายุ 25 ปี ลูกของนางสมคิด
เจ้าหน้าที่พบว่า ในตัวของนายจำรูญมีโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงด้านขวา นางสมคิดสวมสร้อยสเตนเลส และนายสาธิตห้อยตะกรุดเสตนเลสที่คอ
หลังเกิดเหตุ นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีแสดงทรรศนะในเรื่องนี้ว่า
จากสภาพศพผู้ตายมีทั้งโทรศัพท์มือถือ สร้อย และตะกรุดสเตนเลสอยู่ในตัว เบื้องต้นจึงสันนิษฐานว่า ขณะเกิดเหตุฟ้าผ่าลงมาที่ต้นไม้จนลำต้นแยกจากกัน ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ยืนอยู่ใกล้กับจุดฟ้าผ่า ประกอบกับทั้งสามมีสื่อล่อสายฟ้าที่สามารถดูดกระแสไฟฟ้าที่ผ่าลงมาเข้าหาตัวได้ กระแสไฟฟ้าจึงวิ่งเข้าหาตัวจนเสียชีวิต
ปรากฏการณ์สามีและภรรยาถูกฟ้าผ่าตายในกระท่อม ในทุ่งนาบ้านหนองมะงง ตำบลคำบง อำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ และอีก 3 ศพ ที่อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับนักแสวงหาเครื่องรางของขลังที่ทำมาจากวัสดุล่อสายฟ้าไม่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นตะกรุดทำด้วยสเตนเลสหรือทองแดง และรับมาจากมือหลวงพ่อท่านใด เมื่อฟ้าผ่าลงมารับสายฟ้าด้วยกันทั้งนั้น
เครื่องประดับแม้แต่ลูกประคำเงินก็เชื่อว่าเป็นสายล่อฟ้า
อย่างเหตุการณ์ที่เกิดกับนางสาวบุญรัตน์ อถิชาติไตรสรณ์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2548 ถูกฟ้าผ่าระหว่างฝนตกปรอยๆ ขณะจะล่องเรือที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา สาเหตุมาจากสร้อยประคำเงินที่คล้องคอ
โชคดีที่นางสาวบุญรัตน์เพียงแต่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
โทรศัพท์มือถือ เชื่อกันว่าเป็นสื่อมรณะตัวใหม่ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2550 คนงานชาวกัมพูชากว่า 10 คน ทำงานในไร่มันสำปะหลัง หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ขณะฝนตกมีชาวกัมพูชาคนหนึ่งโทรศัพท์ใต้ต้นไม้ เกิดฟ้าผ่าลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุถึง 3 ศพ และบาดเจ็บสาหัสอีก 6 ราย
ความรู้เรื่องฟ้าผ่านี้ ระหว่างความคิดเห็นของชาวบ้านและความเชื่อที่เชื่อตามๆกันมา กับข้อเท็จจริงทางวิชาการต่างกัน
ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อธิบายว่าฟ้าผ่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากเมฆฝนฟ้าคะนอง หรือเมฆคิวมูโลนิมบัส ภายในก้อนเมฆเองและพื้นดินต่างมีประจุไฟฟ้าที่ต่างกันคือประจุบวกและประจุลบ
เมื่อประจุที่ต่างกันวิ่งเข้าหากันก็จะทำให้เกิดฟ้าผ่าขึ้น
เหตุนี้ฟ้าผ่าจึงเกิดขึ้นได้หลายแบบ เช่น ฟ้าผ่าภายในก้อนเมฆ ฟ้าผ่าจากเมฆก้อนหนึ่งไปยังเมฆอีกก้อน หรือฟ้าแลบ รวมถึงฟ้าผ่าจากเมฆลงสู่พื้นดิน ซ่งเป็นประเภทที่เกิดขึ้นบ่อยและเป็นอันตรายกับคนส่วนใหญ่มากที่สุด
"ฟ้าผ่าจากเมฆลงสู่พื้นดิน เกิดขึ้นเมื่อประจุลบ (อิเล็กตรอน) เคลื่อนที่จากฐานเมฆลงมาที่อากาศผ่านเข้ามาใกล้พื้นดิน ซึ่งประจุลบนี้สามารถเหนี่ยวนำให้วัตถุที่พื้นผิวของโลกซึ่งอยู่ "ใต้เงาเมฆ" มีประจุเป็นบวกได้ทั้งหมด พร้อมทั้งดึงดูดประจุบวกจากพื้นดินให้ไหลขึ้นมาตามต้นไม้ หลังคาบ้านหรือบริเวณใดก็ได้ที่เป็นที่สูง เมื่อประจุลบกับบวกมาเจอกันเคลื่อนที่สวนทางจึงเกิดเป็นกระแสโต้กลับและเกิดเป็นฟ้าผ่าได้ในที่สุด"
ดังจะเห็นได้ว่า วัตถุและพื้นที่ทุกจุดใต้เงาเมฆฝนฟ้าคะนองมีโอกาสเป็นจุดที่ถูกฟ้าผ่าได้หมดแม้ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้าก็ตาม
จุดเสี่ยงที่จะเกิดฟ้าผ่ามากที่สุดคือบริเวณที่สูง เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า หลังคาบ้าน เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ประจุบวกสามารถเชื่อมโยงกับประจุลบได้ง่ายที่สุด ขณะที่ชิ้นส่วนโลหะ เช่น สร้อย แหวน กระดิ่งแขวนคอวัว แทบจะไม่มีผลต่อการเป็นสื่อล่อฟ้าเลย
สาเหตุการเสียชีวิตของผู้ที่ไม่ได้ถูกฟ้าผ่าโดยตรง คร.บัญชาบอกว่า สามารถได้รับอันตรายจากฟ้าผ่าใน 3 รูปแบบ คือ
1.ไฟฟ้าวิ่งเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัสกับสิ่งที่ถูกฟ้าผ่า เช่น หากหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า เสาอากาศ และมีบางส่วนของร่างกายแตะกับสิ่งที่ถูกฟ้าผ่า กระแสไฟฟ้าก็จะไหลเข้าสู่ลำตัวได้โดยตรง
2.ไฟฟ้าแลบจากด้านข้าง (side flash) กล่าวคือ แม้จะไม่ได้แตะจุดที่ฟ้าผ่า กระแสไฟฟ้าก็อาจจะ "กระโดด" เข้าสู่ตัวคนทางด้านข้างได้ (ภาพ Side Flash)
3.กระแสวิ่งตามพื้น (step voltage) คือ กระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งจากจุดที่ถูกฟ้าผ่าออกไปยังบริเวณโดยรอบ เช่น จากลำต้นลงมาที่โคนต้นไม้และกระจายออกไปตามพื้นดิน ซึ่งมักจะเป็นบริเวณที่น้ำเจิ่งนอง หากกระแสดังกล่าววิ่งผ่านเข้าสู่ตัวคน ก็ย่อมทำอันตราย โดยในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดคือ ทำให้ถึงแก่ความตายได้
สำหรับกรณีกระแสวิ่งตามพื้น เคยมีกรณีเหตุการณ์ฟ้าผ่าวัวจำนวนมากตายและสันนิษฐานว่า เกิดจากกระดิ่งโลหะที่แขวนคอเป็นตัวล่อ ซึ่งความจริงแล้วโอกาสที่สายฟ้าจะผ่าลงมาตรงกระดิ่งขนาดเล็กของวัวพร้อมกันหลายๆตัวนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้
อาจารย์ยังแนะนำว่า สถานที่หลบภัยจากฟ้าผ่าคือภายในตัวอาคารหรือรถยนต์ที่ปิดกระจก โดยมีข้อแม้ว่าต้องไม่สัมผัสกับวัสดุที่เชื่อมต่อกับอาคารหรือตัวรถด้านนอกซึ่งอาจถูกฟ้าผ่าได้
ข้อควรปฏิบัติขณะฟ้าฝนคะนองคือ ควรงดการใช้โทรศัพท์แบบมีสาย ถอดปลั๊กโทรทัศน์ และไม่ควรเล่นอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์ เพราะกระแสไฟฟ้าจากอาคารสามารถวิ่งมาตามสายโทรศัพท์ได้
ขณะที่คนซึ่งอยู่กลางแจ้งเมื่อเกิดฟ้าผ่าให้นั่งยองๆ ก้มศีรษะเพื่อลดตัวให้ต่ำที่สุด เท้าชิดกันและเขย่งเล็กน้อยเพื่อลดความเสี่ยงกรณีกระแสไฟไหลมาตามพื้น
เมื่อนักวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่า คลื่นโทรศัพท์มือถือและโลหะที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ไม่ใช่ตัวล่อให้ฟ้าผ่า
ต่อไปนี้จึงเป็นหน้าที่ของแต่ละคนว่าจะเลือกเชื่อใคร .
ที่มาจาก - สกู๊ปหน้า1 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 18748 วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2552
-
ผมเชื่อนักวิทยาศาสตร์ครับ เพราะผมเรียนทางด้านไฟฟ้ากำลังมาครับ :002:
-
ขอบคุณบทความที่"ท่านเก่ง"นำมาให้ความรู้ครับ "จุดเสี่ยงที่สุดคือจุดที่สูงที่สุด นั่นคือสาเหตุที่เราติดสายล่อฟ้าไว้ที่หลังคาตึก หรือ เจดีย์สุงๆครับ ถ้าเกิดฝนตกอย่าอยู่ในที่โล่งครับเพราะท่านจะกลายเป็นเป้าทันที "...{^_^}...
-
ขอบคุณท่านเก่งครับ ...
...ก็ตามที่ผมนำเสนอตั้งแต่กระทุ้คราวก่อนแหละครับ ว่าสิ่งที่แขวนอยุ่มันไม่ได้ใช่สิ่งที่ล่อให้ฟ้ามาผ่า
มันเป็นแค่สื่อตัวนำไฟฟ้าตามปกติทั่วไปเท่านั้น โอกาสที่จะเกิดเหตุแบบนี้แทบไม่มีเลย...
....ปล.. ผมก็จบวิศวกรรมไฟฟ้านะคร๊าบ...
-
ขอบคุณพี่เก่ง ที่นำเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟังครับ
มีความเป็นได้สูงครับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เสมอไปนะ เราไม่ได้อยู่กลางทุ่ง หรือที่ๆมันโล่งจนเกิดไปก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายเท่าใด เดี๋ยวจะกลายเป็นการระแวง ไม่ใช่ การระวัง
-
เกิดมาเป็นสายล่อฟ้า .... :004:
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
-
ผมเด็กช่างกลฯขอฟังเฉยๆครับไม่มีข้อมูล .. :002:
-
ขอบคุณพี่เก่งมากๆค่ะสำหรับข้อมูล
กวางเองเวลาทำงานอยู่ด้านนอกมาร์ทถ้าฟ้าเริ่มมืด ร้องครึมๆ
ก็รีบปิดโทรศัพท์แล้วค่ะ
เพราะถ้าฟ้ากำลังร้อง แล้วโทรศัพท์เข้า ด้วยนี่
มีเสี่ยงค่ะ :075:
-
เป็นภัยที่ต้องควรระวัง
ขอบคุณพี่เก่งสำหรับข้อมูลครับ
-
น่ากลัวอ่ะครับ ตะกรุดก้อห้อย โทรศัพท์ก้อโทร สงสัยต้องติดต่อวิศวกร ต่อสายดินให้ซะหน่อยจะได้ปลอดภัยครับ อิอิอิ :005: :005: :005:
-
คนเราเมื่อถึงเวลาย่อมหนีความตายไม่พ้นครับ :001:
ส่วนตะกรุดที่ผมคาดส่วนมากเป็นตะกั่ว นี่จะนำไฟฟ้าไหมหนอ อิอิอิ :095:
-
อนิจจัง คนเรา หากแม้นถึงคราวกรรม ไม้จิ้มฟันทิ่มเหงือกก็ตายได้เน่อพี่น้อง
ของอย่างนี้ มีองค์ระกอบหลายๆอย่างๆครับ จริงมั้ย
-
คนเราเมื่อถึงเวลาย่อมหนีความตายไม่พ้นครับ :001:
ส่วนตะกรุดที่ผมคาดส่วนมากเป็นตะกั่ว นี่จะนำไฟฟ้าไหมหนอ อิอิอิ :095:
โลหะที่เป็นสื่อนำไฟฟ้าได้ดี เรียงตามลำดับได้คือ 1.เงิน 2.ทองแดง 3.ทอง 4.อะลูมิเนียม 5.ทังสเตน 6.เหล็ก 7.สเตนเลส 8.แพลทินัม และ 9.ตะกั่ว
ตัวนำอย่างดีเลยค่ะ :004:
-
อีกหน่อย พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง ต้องย้อนยุค ใช้แบบหลวงพ่อโอภาสี แล้ว เป็นพลาสติก เช่น เหรียญ
หรือ แบบตะกรุดเซรามิค ก็ปลอดภัย
-
เชือกร่มถักปม คาดกันไปเลย สบายใจดีครับ ... :095:
-
ขอบคุณพี่เก่งสุดหล่อมาก ครับ :053: และพี่แอ๊กด้วย ครับ
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
-
พระก็ห้อยตะกรุดก็คาด ตายเป็นตายละครับงานนี้ :095:
-
ขอบคุณครับท่านเก่งด้วยครับ
บทความข้างต้นตรงกับที่ผมเรียนวิศวะ สาขาไฟฟ้ากำลังมาเลยครับ
เมื่อฟ้าผ่า ถ้าเราอยู่ในรัศมีของกระแสฟ้าผ่า ยังไงก็ไม่มีทางรอดครับ ไม่เกี่ยวกับโลหะใดๆทั้งสิ้น เพราะกระแสไฟฟ้าต้องหาทางไหลอยู่แล้ว มันก็ไหลไปทุกทีจนกว่าจะศักย์ทางกระแสจะหมดไปครับ
ดังนั้นพระเครื่อง สร้อยคอ เลส หรือโลหะอะไร ไม่เกี่ยวกับการที่ถูกฟ้าผ่าทั้งสิ้นครับ เพราะฟ้ามันผ่าลงมาจากก้อนเมฆ มันเลือกที่จะลงตรงไหน มันก็ลงตรงนั้น แต่พอมันใกล้ๆจะถึงพื้นดิน ถ้ามีสายล่อฟ้า มันก็จะเลือกฟ้าและกระแสไหลไปทางนั้น
แต่ถ้าเรายืนอยู่รัศมีของฟ้าผ่า ไม่มีสายล่อฟ้า ตัวเราพกพาโลหะหรือไม่พกพาโลหะ ไม่ต่างกันเลยครับ ฟ้าไม่ผ่าตัวเรา แต่กระแสยังไงมันก็ต้องหาทางวิ่งออกไปรอบๆ วินาทีเดียวมาถึงเรา ยังไงก็ตายครับ
คนเข้าใจผิดกันมานานแล้วครับ เรื่องฟ้าผ่านี่ ศาสตราจารย์ที่สอนผมหลายท่าน ต่อหลายท่านก็บอกเหมือนกันทุกท่านว่ามือถือ สร้อย แหวนไม่ใช่ตัวล่อฟ้า ฝนตกฟ้าร้องคุยไปเถอะ ใส่ไปเถอะ อย่าไปกลัวมัน ถ้ามันจะผ่ามาตรงจุดนี้ เราอยู่ในรัศมีจะคุยโทรศัพท์ หรือไม่คุยโทรศัพท์ก็ตายเหมือนกันครับ (ถ้าบริเวณทีเราอยู่ไม่มีสายล่อฟ้านะครับ)
แต่ถ้าอยู่ในที่โล่ง ก็ทำตัวให้ต่ำๆติดดินเอาไว้ แต่ถ้าบังเอิญฟ้ามันลงตรงนั้นก็ตายเหมือนกันครับ
มนุษย์เกิดจากกรรม ตายก็เพราะกรรมครับ
-
โอ้โหแต่ละคนจบวิศวะไฟฟ้าทั้งนั้น :016: ดูผมซิ พึ่งม.4ยุเลย :075: เรียนสินคำนวนโตขึ้นจะมีงานทำไหมเนี่ย
ในใจที่ผมตั้งความหวังเอาไว้ คือ กรมประมง แล้วก้เป็นครูสอนกีตาร์วันเสาร์อาทิต นี่แหละความหวังของผมแหละ ขอแค่นี้ก้พอละ
ตอนนี้ยังเล่นโฟลคซองอยู่คับ อิอิ มาดูไอ้แถวๆหลักสี่นะครับ เล่นเสาร์อาทิต :003:
อุ้ยโคสะนาไปเยอะเลย
เอาใจช่วยครับ ช่วงนี้ฝนตกระวังตัวละกันครับทุกคน เปนห่วงครับ :090: :090:
-
ขอบคุณครับผม แต่ก็ต้องมีเหตุผลไม่อาจสรุปได้ครับ บรรพบุรุษ ก็เคยใส่ตะกรุดออกรบไม่เห็นได้ยินว่าโดนฟ้าผ่าตาย ไม่เช่นนั้นคงจะทำให้เครื่องรางประเภทนี้ถูกลบเลือนหายไปจากวงการแน่นอนครับ
-
ขอบคุณครับผม แต่ก็ต้องมีเหตุผลไม่อาจสรุปได้ครับ บรรพบุรุษ ก็เคยใส่ตะกรุดออกรบไม่เห็นได้ยินว่าโดนฟ้าผ่าตาย ไม่เช่นนั้นคงจะทำให้เครื่องรางประเภทนี้ถูกลบเลือนหายไปจากวงการแน่นอนครับ
ช่วงของบรรพบุรุษ ไม่มีกล้องถ่ายรูปและนักข่าวนี่คะ เลยทำข่าวไม่ได้
แต่เป็นการระวังตัวเองสืบๆต่อมา และตะกรุดก็ทำได้จากหลายอย่างค่ะ
แต่ไม่แน่ใจว่าเมื่อก่อนใช้อะไรทำตะกรุด
แต่เรื่องพกตะกรุดแล้วทำให้ฟ้าผ่าคนตาย ไม่ทำให้เครื่องรางประเภทนี้ลบเลือนไปหรอกค่ะ
เพราะเรื่องพุทธคุณความเชื่อ กับเรื่องวิทยาศาสตร์ในเรื่องสื่อล่อฟ้า มันคนละประเด็นกัน
-
ขอบคุณท่านเก่งครับ ...
...ก็ตามที่ผมนำเสนอตั้งแต่กระทุ้คราวก่อนแหละครับ ว่าสิ่งที่แขวนอยุ่มันไม่ได้ใช่สิ่งที่ล่อให้ฟ้ามาผ่า
มันเป็นแค่สื่อตัวนำไฟฟ้าตามปกติทั่วไปเท่านั้น โอกาสที่จะเกิดเหตุแบบนี้แทบไม่มีเลย...
....ปล.. ผมก็จบวิศวกรรมไฟฟ้านะคร๊าบ...
[/quo
เชื่อท่านเอ็กส์เถอะ ครับอย่าดันทุรังเลย ว่าแต่เรียนจบยัง 37;
ลองอ่านดู :059:
http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,9189.0.html
-
คนเราเกิดมาต้องตายทุกคนครับ เพื่อนลุงนอนเป่าขลุ่ยอยู่ดีๆ ลุงเดินไปซื้อกาแฟกลับมาจะทักมัน มันยังตายได้เลย ไม่ว่ารวยหรือจน
ทำดีไว้ดีกว่ารวยหรือจนก็ขนสมบัติไปไม่ได้ ตายไปเขาก็ลืมเราแล้ว ขนาดยังไม่ตาย...ก็ยังถูกเขาลืม :089:ถึงเวลาตายก็โลงใบเดียว
เคยมีบ้างไหมที่คนรวยเวลามันตายแล้วลูกหลานมันเปลี่ยนโลง เช้า เที่ยง เย็น ทุกวัน นั่นซิรวยจริง หาโอกาสใส่บาตรเสียบ้าง..จะได้ไม่คิดมาก
ถึงเวลามันก็ตายเองแหละ ..