แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ชลาพุชะ

หน้า: [1] 2
1
ผ้ายันต์ พ่อรอด สุขแสงจันทร์ เชิญชมครับ
 

2
รูปรอยสักของรุ่นพี่ ที่สักมาจากหลายๆวัด ก็ มารวมกันก็เป็นรอยสักที่สวยครับเชิญผม







    การสักหลายที่ก็ข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ผมขอพูดถึงแต่ข้อดีนะครับ ตามความคิดผม วัดแต่ละวัดสำนักแต่วัด ย่อมมีวิชาเอกแต่ต่างกัน ความสวย ลายเส้นก็ไม่เหมือนกันแล้วแต่คนชอบ แต่มีอย่างหนึ่ง ใกล้เคียงกัน นั้นคือสอนให้ทุกคนเป็นคนดี สามัคคี เคารพผู้อื่น ไม่ใช้วิชาทำร้ายคนอื่น การมีคุณธรรม อยู่ในศลีในธรรม รู้จักตัวเอง และสอนให้เป็น ลูกผู้ชาย ไม่ใช่แค่เกิดมามีเพศชายครับ ครับ

3
ตะกรุด หลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง อยุธยา อย่างที่เห็นเป็นดอกสีดำ พุทธคุณ ด้านคงกระพัน เหนียวสุดยอด
หนุมานหลวง หลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม นครปฐม ที่จริง ตามที่เจ้าของเล่าให้ฟังเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ แล้วเอาไปชุบเงิน ผมเห็นว่าสวย เลย ขอมาพุทธตามที่ท่านผู้เป็นเจ้าของเดิมเล่าว่า ขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี เรื่องรัก เรื่องเมตตา เรื่องบู๊ อยู่ในตัวนี้หมดเลยชอบครับ

4
        อาจเป็นที่อากาศ ของของที่กินเข้าไป โดนขับเป็นเงื่อทำปฎิกิริยากับ น้ำมัน   ที่สักครับ สบายใจได้ แต่หากมัน คัน หรือ อักเสบมาก ก็ค่อยไปหาหมอครับ
        

ปล.น้ำมันที่สักแต่ละสำนัก จะมีส่วนผสม ต่างกัน บางคนแพ้ บางคนไม่แพ้ครับ

5
งั้น ผมจัดสร้อยแบบนี้เหมาะสมไหมครับ

6
ใส่เมื่อไหร่ ผมจะ วิ่งล้านช้าง(ลาว)พี่ทันที

7
ประวัติหลวงพ่อเกษม เขมโก (โดยสังเขป)

"ท่าน เขมโกภิกขุ” หลวงปู่เกษม หรือ หลวงพ่อเกษม เขมโก ที่เราท่านเคารพบูชา และรำลึกภาวนา ขอบารมีจากท่านช่วยคุ้มครอง ปกป้องจากอันตราย ยามเมื่อเกิดความทุกข์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เพราะบารมี หลวงพ่อที่เพียรเจริญวิปัสสนากรรมฐานด้วยความมานะบากบั่น ยากที่จะมีผู้ปฏิบัติได้เสมือนนั้น สร้างศรัทธาและความเชื่อมั่นสูงยิ่งนัก" หลวงพ่อเกษมท่านเจริญวิปัสสนาด้วยถือสันโดษเป็นที่ตั้ง ใช้อำนาจจิต ควบคุมร่างกายเข้าสู่สมาธิภาวนา เบื้องหน้าเชิงตะกอน ท่านไม่ติดรสอาหารเมื่อมีผู้นำมาถวาย แม้อาหาร จะเสียจนราขึ้น ถ้าหลวงพ่อท่านยังมิได้แผ่เมตตา ท่านก็จะรับประเคนบาตรแล้วแผ่เมตตาให้ หลวงพ่อ เป็นผู้มีศีลอันบริสุทธิ์ และเมตตาธรรมสูงส่ง ท่านหมดสิ้นแล้วซึ่งกิเลส และเปี่ยมล้นด้วยบารมี ทุกวันนี้ หลวงพ่อยังเป็นดุจร่มโพธิ์ร่มไทรที่ให้ความร่มเย็นแก่พวกเราทุกคน

        ประวัติและเรื่องราวต่าง ๆ ของท่าน จึงถูกบันทึกเพื่อให้อนุชนรุ่นหลัง ได้รับรู้ถึงในยุคปัจจุบัน ประวัติบางตอนของ ครูบาศรีวิชัย ตอนหนึ่งกล่าวว่า ท่านครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ว่า จะมีตนบุญมาเกิดที่ลำปาง ครั้นต่อมาครูบาศรีวิชัยได้มรณภาพไป โดยทิ้งคำพยากรณ์นี้ไว้ให้ชาวลำปางได้เฝ้ารอคอยการมาจุติของตนบุญ ที่ครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ จนเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี ก็ยังไม่ปรากฏ แต่ชาวลำปางก็ยังเชื่อในคำพยากรณ์ของครูบาศรีวิชัย

        เมื่อปี  พ.ศ.2455  ได้มีครอบครัว เชื้อเจ้าผู้ครองนครลำปาง หรือเขลางค์นครในอดีต หัวหน้าครอบครัว คือ     เจ้าหนูน้อย ณ ลำปาง ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น มณีอรุณ รับราชการเป็นปลัดอำเภอ ภรรยาชื่อ เจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง ทั้งสองเป็นหลานเจ้าของพ่อบุญวาทย์ วงศ์มานิตย์ เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย

        ครอบครัวนี้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ บ้านท่าเก๊าม่วง ริมแม่น้ำวัง อ.เมือง จ.ลำปาง อยู่กินกันมาอย่างมีความสุขในที่สุดเจ้าแม่บัวจ้อนได้ตั้งครรภ์  และพอถึงกำหนดคลอด ตรงกับวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ.131 ค.ศ.1912 เจ้าแม่บัวจ้อนให้กำเนิดทารกเพศชาย เป็นลูกคนแรกของครอบครัว

        ขณะนั้นไม่มีใครทราบกันเลย ตนบุญ ที่ครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้นั้นได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว บิดามารดาก็ได้ตั้งชื่อทารกนั้น เกษม ณ ลำปาง เพราะเด็กชายเกษม ณ ลำปาง ได้เกิดมาในเชื้อสายของเจ้าทางเหนือ จึงได้รับการยกย่องของคนทั่วไป ทุกคนต่างเรียกกันว่า เจ้าเกษม ณ ลำปาง หลังจากที่ได้คลอดบุตรมาได้ไม่กี่ปี เจ้าแม่บัวจ้อนได้ให้กำเนิดทารกอีกคน แต่เป็นเพศหญิง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องของ เจ้าเกษม สืบสายเลือด แต่ทว่าเจ้าแม่น้อยคนนี้วาสนาน้อย ได้เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก จึงไม่มีโอกาสได้รูว่าพี่ชายของเธอคือ ตนบุญ ที่ชาวลำปางรอคอยเป็นสิบ ๆ ปี

        ข้อมูลตรงนี้ คุณพัลลภ ทิพย์วงศ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานหลวงปู่เกษม โดยคุณแม่ของคุณพัลลภ เป็นพี่สาวแท้ ๆของโยมแม่หลวงปู่ ได้ทักท้วงมาว่า ที่แท้จริงแล้ว เจ้าแม่บัวจ้อน ได้ให้กำเนิดทารกน้อยอีกคนหนึ่ง เป็นเพศชาย ชื่อ "สวาสดิ์" และได้เสียชีวิตแต่เล็ก โดยมีหลักฐานใบเกิดเก็บไว้กับญาติใกล้ชิด ระบุชื่อ เพศ วันเดือนปีเกิด คือ เกิดเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ ร.ศ. ๑๓๔ ตรงกับวันพุธ แรม ๗ ค่ำ จุลศักราช ๑๒๗๗ จึงได้ทักท้วง เพื่อให้ผมแก้ไขข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง จึงต้องขอขอบคุณ คุณพัลลภ ไว้ ณ ที่นี้ (อ.เล็ก  พลูโต - ๓๐  ตุลาคม ๒๕๔๗)

        เมื่อวัยเด็ก เจ้าเกษม ณ ลำปาง เป็นคนมีลักษณะค่อนข้างเล็กบอบบาง ผิวขาวแต่ดูเข้มแข็ง คล่องแคล่ว และมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เป็นเด็กที่ชอบซน คืออยากรู้อยากเห็น เมื่อถึงวัยเรียน เจ้าเกษม ณ ลำปาง ได้รับการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนบุญทวงศ์อนุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ อ.เมือง  จ.ลำปาง สมัยนั้นเปิดเรียนชั้นสูงสุดแค่ชั้นประถมปีที่ 5 เท่านั้น เจ้าเกษม ณ ลำปาง ได้ศึกษาจนจบชั้นสูงของโรงเรียน คือชั้นประถมปีที่ 5 ใน พ.ศ.2466 ขณะนั้นอายุ 11 ปี

        เมื่อออกจากโรงเรียนก็ไม่ได้เรียน อยู่บ้าน 2 ปี ใน พ.ศ.2468 อายุขณะนั้นได้ 13 ปี เจ้าเกษม ณ ลำปาง ก็ได้มีโอกาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ โดยบรรพชาเป็นสามเณร เนื่องในโอกาสบรรพชาหน้าศพ (บวชหน้าไฟ) ของเจ้าอาวาสวัดป่าดั๊ว ครั้นบวชได้เพียง 7 วันก็ลาสิกขาออกไป ต่อมาอีก 2 ปี ราว พ.ศ.2470 ขณะนั้นมีอายุ 15 ปี เจ้าเกษม ณ ลำปาง ก็ได้มีโอกาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้งหนึ่ง โดยบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดบุญยืน จ.ลำปาง เมื่อบรรพชาแล้วสามเณรเจ้าเกษม ณ ลำปาง ก็ได้จำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดบุญยืนนั่นเอง สามเณรเจ้าเกษม ณ ลำปาง เป็นคนที่ทำอะไรจริงจัง เรียนทางด้านปริยัติศึกษาธรรมะจนถึง ปี พ.ศ.2474 สามเณรเจ้าเกษม ก็สามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ ครั้นมีอายุได้ 21 ปี อายุครบที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุได้แล้ว จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ.2475 ณ พัทธสีมาวัดบุญยืน โดยมีพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณพระ ธรรมจินดานายก (ฝ่าย) เจ้าอากาสวัดบุญวาทย์วิหาร ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอในขณะนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ พระคุณเจ้าท่านพระครูอุตตรวงศ์ธาดา หรือที่ชาวบ้านเหนือรู้จักกันในนาม ครูบาปัญญาลิ้นทอง เจ้าอาวาสวัดหมื่นเทศ และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมือง จังหวัดลำปางในขณะนั้น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และยังพระเดชพระคุณ ท่านพระธรรมจินดานายก(อุ่นเรือน) เจ้าอาวาสวัดป่าดั๊วเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เขมโก แปลว่า ผู้มีธรรมอันเกษม

        หลังจากได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว พระภิกษุเกษม เขมโกก็ได้ศึกษาทางด้านภาษาบาลี ซึ่งเป็นการศึกษาปริยัติอีกแขนงหนึ่ง ที่สำนักวัดศรีล้อม สมัยนั้นก็มีอาจารย์หลายรูป เช่น มหาตาคำ พระมหามงคล เป็นครูผู้สอน และยังได้ไปศึกษาที่สำนักวัดบุญวาทย์วิหาร ซึ่งมีพระมหามั่ว พรหมวงศ์ และพระมหาโกวิทย์ โกวิทญาโน เป็นครูสอน

        ในเวลาเดียวกันนั้น พระภิกษุเจ้าเกษม เขมโก ก็ได้ไปศึกษาทางด้านปริยัติ ในแผนกนักธรรมต่อที่สำนักวัดเชียงราย ครูผู้สอนคือ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระเทพวิสุทธิโสภณ  ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดลำปางสมัยนั้น  ปรากฎว่าพระภิกษุเจ้าเกษม เขมโก ก็สามารถสอบนักธรรมชั้นเอกได้ในปี พ.ศ.2479 ส่วนทางด้านการศึกษาบาลีนั้น ท่านเรียนรู้จนสามารถเขียนและแปลได้เป็น (มคธ) เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ยอมสอบเอาวุฒิ จนครูบาอาจารย์ทุกองค์ต่างเข้าใจว่า พระภิกษุเกษม เขมโก ไม่ต้องการมีสมณศักดิ์สูง ๆ เรียนเพื่อจะนำเอาวิชาความรู้มาใช้ในการศึกษาค้นคว้าพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาเท่านั้น

        เมื่อสำเร็จทางด้านปริยัติพอควรแล้ว สามารถนำไปปฏิบัติได้โดยไม่หลงทาง ท่านจึงหันมาปฏิบัติต่อไปจนแตกฉาน แค่นั้นยังไม่พอ พระภิกษุเกษม เขมโก ได้เสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ ที่มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ จนกระทั่งได้ทราบข่าวภิกษุรูปหนึ่งมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนา ภิกษุรูปนี้ คือ ครูบาแก่น  สุมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดประตูป่อง

            ครูบาแก่น สุมโน เป็นพระภิกษุสายวิปัสสนา ถือธุดงค์เป็นวัตร หรือที่เรียกกันว่า พระป่า หรือภาษา ทางการเรียกว่า พระภิกษุฝ่ายอรัญญวาสี ตอนนั้นครูบาแก่น ท่านได้ธุดงค์แสวงหาความวิเวกทั่วไป ยึดถือป่าเป็นที่บำเพ็ญเพียร นอกจากมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนาแล้ว ท่านยังเก่งรอบรู้ในด้านพระธรรมวินัยอย่างแตกฉานอีกด้วย

     พระภิกษุเกษม เขมโก จึงเดินทางไปขอฝากตัวเป็นศิษย์ และได้อธิบายความต้องการที่จะศึกษาในด้านวิปัสสนาให้ครูบาแก่นฟัง ครูบาแก่น สุมโน เห็นความตั้งใจจริงของภิกษุเกษม เขมโก ท่านจึงรับไว้เป็นศิษย์ และได้นำภิกษุเกษม เขมโก ออกท่องธุดงค์ไปแสวงหาความวิเวก และบำเพ็ญเพียรตามป่าลึกตามที่ภิกษุเกษม เขมโก ต้องการ จึงถือได้ว่า ครูบาแก่น สุมโน รูปนี้เป็นอาจารย์ทางวิปัสสนากรรมฐานรูปแรกของ พระภิกษุเจ้าเกษม เขมโก

        ดังนั้น พระภิกษุเกษม เขมโก จึงได้เริ่มก้าวไปสัมผัสชีวิตของภิกษุฝ่ายอรัญญวาสี ประกอบกับจิตของท่านโน้มเอียงมาทางสายนี้อยู่แล้ว จึงไม่ใช่เป็นเรื่องลำบากสำหรับในการไปธุดงค์ กลับเป็นการได้พบความสงบสุขโดยแท้จริง กับความเงียบสงบ ซ้ำยังได้ดื่มด่ำกับรสพระธรรมอันบังเกิดท่ามกลางความวิเวก พระภิกษุเกษม เขมโก จึงมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง โดยมีครูบาแก่นแนะอุบายธรรมอย่างใกล้ชิด ระหว่างท่องธุดงค์แสวงหาความวิเวกในที่สงัดตามป่าเขาและป่าช้าต่าง ๆ การฉันอาหารในบาตร คือ อาหารหวานคาวรวมกัน เรียกว่า ฉันเอกา ไม่รวมอาสนะกับสงฆ์อื่น ฉันมื้อเดียว ช่วงบ่ายก็จะเดินจงกรม เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ พร้อมกำหนดจิตจนกระทั่งถึงเย็น เมื่อเสร็จจากการเดินจงกรม ก็กลับมานั่งบำเพ็ญภาวนาต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงประมาณ 5 ทุ่ม เสร็จจากการบำเพ็ญภาวนาก็สวดมนต์ทำวัตรเย็น ในตอนดึกก่อนจำวัดท่านก็ไม่นอนเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ท่านจะหมอบเท่านั้น และท่านจะทำเป็นกิจวัตร คือการกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล แผ่เมตตาไปให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย

        จนกระทั่งถึงช่วงเข้าพรรษา ที่พระภิกษุจำเป็นต้องยุติการท่องธุดงค์ชั่วคราว ต้องอยู่กับที่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง จะเป็นวัดอาราม หรือถือเอาป่าช้าเป็นวัด โดยกำหนดเขตเอาตามพุทธบัญญัติ ดังนั้นภิกษุเจ้าเกษม เขมโก จึงต้องแยกทางกับอาจารย์ คือ ครูบาแก่น ตั้งแต่นั้นมาภิกษุเจ้าเกษม เขมโก กลับมาจำพรรษาที่วัดบุญยืนตามเดิม พอครบกำหนดออกพรรษาภิกษุเกษม เขมโก ก็ติดตามอาจารย์ของท่าน คือครูบาแก่น ออกธุดงค์บำเพ็ญภาวนา ท่านถือปฏิบัติเช่นนี้เรื่อยมา

        ต่อมาเจ้าอธิการคำเหมย เจ้าอาวาสวัดบุญยืนถึงแก่มรณภาพลง ทำให้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืนว่าง ทางคณะสงฆ์จึงต้องเลือกภิกษุที่มีคุณสมบัติมาปกครองดูแลวัด เพื่อเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อไป คณะสงฆ์จึงได้ประชุมกันและต่างลงความเห็นพ้องต้องกันว่า ควรจะเป็นภิกษุเกษม เขมโก เพราะเป็นพระที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อท่านได้รับเลือกเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืน ท่านก็ไม่ยินดียินร้าย แต่ท่านก็ห่วงทางวัด เพราะท่านเคยจำวัดนี้ ท่านก็เห็นว่าบัดนี้ทางวัดบุญยืนมีภารกิจต้องดูแล ก็ถือว่าเป็นภารกิจทางศาสนาเพราะท่านเองต้องการให้พระศาสนานี้ดำรงอยู่ จึงไม่อาจจะดูดายภารกิจนี้ได้ จึงยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืน

        ครูบาเจ้าเกษม เขมโก อยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืนเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ.2492 ท่านก็ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ทำหนังสือลาออกกับพระเดชพระคุณท่านเจ้าพระอินทรวิชาจารย์ (ท่านเจ้าคุณอิน อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง) แต่ก็ถูกท่านเจ้าคุณยับยั้งไว้ ครูบาเจ้าเกษม เขมโก จึงจำใจกลับไปเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืนอีกระยะหนึ่งนานถึง 6 ปี ท่านคิดว่าควรจะหาภิกษุที่มีคุณสมบัติมาแทนท่าน เพราะท่านอยากจะออกธุดงค์ ดังนั้นท่านจึงตัดสินใจสละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญยืน โดยยื่นใบลากับคณะสงฆ์ในเขตปกครอง ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงเดินทางไปลาออกกับเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งอยู่ที่วัดเชียงราย แต่ท่านเจ้าคณะจังหวัดก็ไม่อนุญาต

        เรื่องการลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสของครูบาเจ้าเกษม เขมโก นี้ดูค่อนข้างจะเป็นเรื่องแปลกพิสดาร แม้แต่การสละตำแหน่งลาภยศ ท่านยังต้องประสบกับอุปสรรคต่าง ๆ นานา ไม่เหมือนกับพระองค์อื่น ๆ ที่ฟันฝ่าเพื่อแสวงหาลาภยศ เมื่อท่านลาออกไม่สำเร็จประมาณปี พ.ศ.2492 ก่อนเข้าพรรษาในปีนั้น หลวงพ่อก็หนีออกจากวัดบุญยืนก่อนเข้าพรรษา เพียงวันเดียวโดยไม่มีใครรู้ พอเช้าวันรุ่งขึ้นเข้าพรรษา หมู่ศรัทธาก็นำอาหารมาเตรียมถวายในวิหาร ทุกคนรอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นหลวงพ่อเกษม จึงเกิดความวุ่นวายเที่ยวตามหาตามกุฏิก็ไม่พบหลวงพ่อเกษม พอมาที่ศาลาทุกคนเห็นกระดาษวางบนธรรมาสน์ เป็นข้อความที่หลวงพ่อเกษมเขียน ลาศรัทธาชาวบ้านยาวถึง 2 หน้ากระดาษ

        ข้อความบางตอนที่จำได้มีอยู่ว่า ทุกอย่างเราสอนดีแล้ว อย่าได้คิดไปตามเรา เพราะเราสละแล้วการเป็นเจ้าอาวาส เปรียบเหมือนหัวหน้าครอบครัวต้องรับผิดชอบภาระหลายอย่าง ไม่เหมาะสมกับเรา เราต้องการความวิเวกจะไม่ขอกลับมาอีก แต่พวกชาวบ้านก็ไม่ละความพยายาม เพราะชาวบ้านเหล่านี้ศรัทธาในตัวหลวงพ่อพอรู้ว่าหลวงพ่ออยู่ที่ไหนเมื่อรวมกันได้ 40-50 คน ก็ออกเดินทางไปตามหาหลวงพ่อเกษม และไปพบหลวงพ่อที่ศาลาวังทาน หลวงพ่อเกษมได้ปฏิบัติธรรมที่นั่น พวกชาวบ้านได้อ้อนวอนหลวงพ่อขอให้กลับวัด บางคนร้องไห้เพราะศรัทธาในตัวหลวงพ่อมาก แต่หลวงพ่อเกษมท่านก็นิ่งไม่พูดไม่ตอบ จนพวกชาวบ้านต้องยอมแพ้ ตลอดพรรษาปี 2492 หลวงพ่อเกษมท่านก็อยู่ที่ศาลาวังทานโดยไม่ยอมกลับวัดบุญยืน

        พวกชาวบ้านจึงพากันเข้าไปพบโยมแม่ของหลวงพ่อ โยมแม่รักหลวงพ่อเกษมมาก เพราะท่านมีลูกชายคนเดียว จึงให้คนพาไปหาหลวงพ่อที่ศาลาวังทาน โดยมี (เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง) ตอนนั้นยังบวชเป็นสามเณรอยู่ โยมแม่ได้ขอร้องให้หลวงพ่อเกษมกลับวัด แต่หลวงพ่อกลับบอกโยมแม่ว่า

        แม่เฮาบ่เอาแล้ว เฮาบ่เหมาะสมกับวัด เฮาชอบความวิเวก เฮาขออยู่อย่างวิเวกต่อไป เฮาจะไปอยู่ที่ป่าเหี้ยว แม่อาง จนทำให้โยมแม่หมดปัญญา ไม่รู้จะขอร้องยังไง ผลที่สุดก็ต้องตามใจหลวงพ่อ วันรุ่งขึ้นหลวงพ่อเกษมก็ออกจากศาลาวังทานเดินทางไปบ้านแม่อางด้วยเท้าเปล่า เช้ามืดไปถึงป่าเหี้ยวแม่อางก็ค่ำพอดี ฝ่ายโยมมารดาพอกลับมาบ้านก็เกิดคิดถึงพระลูกชาย เพราะเกรงว่าพระลูกชายจะลำบากจึงออกจากบ้านไปตามหาพระลูกชาย โดยมีคนติดตามไปด้วยชื่อ โกเกตุ โยมแม่สั่งให้โกเกตุขนของสัมภาระเพื่อจะไปอยู่บนดอย ของที่เหลือในร้านเพชรพลอยแจกให้ชาวบ้านจนหมดเกลี้ยง ไม่เอาอะไรเลย นอกจากของใช้ที่จำเป็นบางอย่างเท่านั้น

        เกตุ พงษ์พันธุ์ ซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดก็พาโยมแม่ไปส่งที่แม่อาง และพวกชาวบ้านเห็นโยมแม่ของหลวงพ่อมาก็สร้างตูบกระท่อมอยู่ข้างวัดแม่อาง ส่วนหลวงพ่อเข้าบำเพ็ญภาวนาในป่าช้าบนดอยแม่อาง บำเพ็ญภาวนาบารมีวิปัสสนาปฏิบัติธรรมได้หนึ่งพรรษา ทิ้งให้โยมแม่ซึ่งอยู่กระท่อมตีนดอยก็คิดถึงพระลูกชาย โดยแม่ก็ตามไปหาที่ป่าช้าข้างเนินดอย ก็มีชาวบ้านแถวนั้นอาสาสร้างตูบกระท่อมให้โยมแม่พักใกล้ ๆ ที่หลวงพ่อปฏิบัติ ธรรม โดยมแม่บัวจ้อนได้พำนักที่ข้างเนินดอยได้พักหนึ่ง ก็ล้มป่วยลงด้วยโรคไข้ป่า ชาวบ้านก็ไปตามหมอทหารมาฉีดยารักษาให้ แต่โยมแม่ท่านมีสติที่เข้มแข็ง และยังได้สั่งเสียเณรเวทย์ว่ามีเงินซาวเอ็ดบาท ให้เก็บไว้ถ้าโยมแม่ตายให้เณรไปบอกลุงมา เมื่อสั่งเสร็จโยมแม่ก็หลับตา เณรเวทย์ก็ไปบอกหลวงพ่อเกษม หลวงพ่อก็มา ท่านได้นั่งดูอาการของโยมแม่ท่านนั่งสวดมนต์ เป็นที่น่าแปลกใจขณะที่หลวงพ่อสวดมนต์ มีผึ้งบินมาวนเวียนตอมไปตอมมาสักครู่ใหญ่ ๆ โยมแม่ก็ถอดจิตอย่างสงบ นัยน์ตาหลวงพ่อเกษมมีน้ำตาค่อย ๆ ไหลขณะที่ท่านแผ่บุญกุศลให้กับโยมแม่ ท่านยังเอ่ยว่า “แหม เฮาว่า เฮาจะบ่ไห้(ร้องไห้) แล้วนา…”

        ศพของโยมแม่บัวจ้อน มีเณรเวทย์และชาวบ้านได้มาช่วยจัดการจนเสร็จพิธี ชาวบ้านช่วยเป็นเงินในสมัยนั้นได้ 700 บาท ถือว่ามาก ศพของโยมแม่บัวจ้อนเผาที่ป่าช้าแม่อาง หลังจากที่เสร็จพิธีงานศพโยมแม่จ้อนแล้ว หลวงพ่อก็สั่งเณรเวทย์ให้กลับไปเรียนธรรมที่วัดบุญยืน อยู่มาไม่นานหลวงพ่อก็จากป่าช้าแม่อางกลับมาบำเพ็ญภาวนาที่ป่าช้าศาลาวังทานอีก เพียงหนึ่งพรรษาท่านก็เดินทางไปอยู่ที่ป่าช้านาป้อ และกลับมาอยู่ประตูม้า ซึ่งก็คือ สุสานไตรลักษณ์ ในปัจจุบัน

        หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านได้ปฏิบัติธรรมจนเป็นพระที่ขาวสะอาด และเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วประเทศ ศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเป็นพระไม่ติดยึดใคร ต้องการอะไร ขออะไร ไม่เคยปฏิเสธ จนสังขารของท่านดูแล้วไม่แข็งแรง แต่จิตของหลวงพ่อแข็งแรง และท้ายที่สุด หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ละสังขาร ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลศูนย์ภาคเหนือ จังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 19.40 น. ของวันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2539 ซึ่งตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 2  ยังความอาลัยเศร้าโศกเสียใจมายังหมู่ศานุศิษย์ทั่วประเทศ…

                                  
………………………………………………
[/size]
ที่มาhttp://www.usagreencardthai.com/kasem.php

8
แม่ให้มาดีใจมากครับจ้องมานานแล้ว เป็นหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่น 2 ปี 26 วัดนางเหลียว จังหวัดลำปาง หากเป็นรุ่น1 น่าจะเป็นปี 14 ใครมีรุ่นนั้นบ้างอยากเห็น แม่ว่าคล้ายๆกัน ช่วยโพสด้วยครับ

9
สิ่งที่ท่านเจ้าของกระทู้ทำ จัดเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องคิดมากครับ การดื่มเหล้าสังสรรค์บ้างคงไม่มีปัญหาอะไร ยิ่งการทำงานบางครั้งการสร้างยอดอาจต้องพูดเกินจริง แต่ ทั้ง 2 ข้อที่ทำจะเกิดผลตามมานะ ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาจริงๆ ดื่มเหล้า อาจโดนข้อหาเมาแล้วขับหรือขาดสติผิดศีลข้ออื่นๆได้เพราะเมาก็จะขาดสติ อย่างพูดเกินจริงแล้วลูกค้าซื้อของ หากมันเกินในระดับรับได้ก็คงไม่เป็นไร แต่ ลูกค้าบางคนคำพูดสำคัญอาจเกิดความเสียหายตามมาจนไม่เป็นลูกค้ากับคุณตลอดไป ทางบริษัทที่ทำงาน อาจทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่คุณไม่ชอบก็ได้
การเคร่งครัดทำตามกฎเป็นสิ่งดี แต่ต้องดูการอยู่ร่วมสังคมด้วย หากเราไม่สังสรรค์กับใครเลย แล้วเราจะอยู่ร่วมกับเพื่อนยังไง แต่อย่าตามเค้ามากไปจนเกิน ความเป็นตัวท่าน
หากเราไม่พูดเกินจริงหรือสร้างภาพโดยคำพูดโอเวอร์ แล้วไม่มียอด แล้วท่านจะอยู่ในงานยังไง เซลล์ขายใสๆ มีอะไรบอกหมด ก็คิดดูนะว่ายอดล่ะ แต่โกหกจนเกินงาม  รับผลที่ตามมาให้ได้ก็แล้วกัน
ของดีหากเสือมง่ายจะเรียกของดีรึท่าน หากท่านรู้สึกว่ามันเสื่อมก็ไปลงใหม่เค้าก็ทำกันทั่ว จงมองความจริงกันนะครับ ขอบคุณ
                  ตอบจากประสบการณ์จริงอาจทิ่มแทงใจพวกมือถือสากปากถือศีลบ้างต้องขออภัย
                                                                                                                       ชลาพุชะ

10
ขอบคุณมากครับ................. ครั้งตอบไปจะได้เก็บลงตลับได้ถูกครับ

11
         กระผมได้รับเมตตา มาจากหลวงพี่ท่านหนึ่ง เป็นพระสมเด็จพิมพ์นิยม ชุดใหญ่ ได้ ดี ของวัดบางพระ ซึ่ง ในตลับเขียน ว่า พิมพ์ประธานใหญ่ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ทรงเจดีย์ แต่ผมดูยังไงก็แยกทั้ง 3 องค์ไม่ออกครับ ขอพี่น้องช่วยอธิบายด้วยครับ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่กระผม และ ผู้ไม่รู้คนอื่นๆ

----------------


----------------


----------------


ขอรบกวนด้วยนะครับ

12
      ขอนำรูปมาให้ชมเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ ไม่โพสมานานแล้ว น้องคนนี้ทนเอาเรื่องเลย สักบทกระทู้เจ็ดแบกเป็นแถวรอบสะดือ เจ็บเอาเรื่องเลย ชมความตั้งใจน้องเค้า





ต้องขออภัยใช้กล้องมือถือความชัดเลยไม่มากครับ

14
ท่านครับ ผมว่า มีคนเอ่ยถึงหลวงพี่ทุกๆรูปพอกัน ผมก็เป็นคนนึงที่ได้รับเมตตาจากท่าน และผมสักแรกกับหลวงพี่ด้วย ผมเห็นท่านก็สักทุกลายนะครับ ตั้งแต่ยันต์ครู เก้ายอด พุดซ้อน แม่ทัพ เสือ หมี จรเข้ เจ็ดยอด ไปที่ไรก็ได้หลายยันต์ไม่เคยซ้ำ แต่ต้องกวาดรอบโบสถ์ก่อนนะครับ ของดีอยู่ตรงนี้บำเพ็ญประโยชน์ก่อนได้รับของดี

15
หากเป็นพระที่หลวงพ่อไม่ได้สร้างแต่ มีรูปและชื่อของหลวงพ่อ ผมว่าให้เก็บไว้เถิดครับ แท้ไม่แท้แต่มีรูปครูบาอาจารย์

17
ส่วนผมและภรรยาไปลอยที่โรงเรียนพิบูล แถวดินแดง และได้ดูวงเสียงอีสานด้วย :004: :004: :004:

18
เคยเห็นกับตาว่า หลวงพี่แป๋วสักให้ศิษย์ตรงแขนครับ

20
ไหว้ครูปีหน้าคงได้เห็นของจริงนะครับ
ปล.ชอบสายเซ็นต์ น้องกวางมากๆ ได้ใจจริงๆ

21
ยินดีด้วยนะครับได้ขอดีมาอยู่กับตัว

22
อนุรักษ์ลายสักยันต์ไทย บนผิวหนังคนไทย อยู่คู่คนไทยตลอดไป...เยี่ยมไปเลย!

ปล. ไม่ชอบบุรุษนิสัยสตรีที่ชอบด่าพระ ด่าครูบาอาจารย์เลย... ตายไปมันต้องตกนรกอเวจี แทนสวรรค์ชั้น 7...
เอ พี่สาว น้องงง มีอะไรกันนี้ แบบตามไม่ทัน

23
ก็มีของดีเยอะๆอยู่กับตัวก็ต้องดีสิครับ

24
ท่านครับ มันคงไม่ร้ายแรงขนาดนั้นเป็นแน่ครับ เอาจริงเลยนะท่านเมาอ้วกที่ชักโครกก็ผิดแล้วนะครับ การเป็นปอบไม่ได้เป็นกันง่ายเหมือนหวัด 2009 นะครับตามที่รู้มา ก็มีต้องเลี้ยงปอบแล้วเอาไม่อยู่เลยเข้าตัว เจ้าของเลี้ยงไม่ดี ปอบเลยออกไปหากินโดยสิงกินชาวบ้าน มันก็ความเชื่อของแต่ละบุคคลนะครับ แต่เรื่องผิดกฎข้อสาริกานี่ไม่เคยรู้จริงครับ

25
แดงเก นี่ หลวงพ่อ ท่านใดเมตตามาให้ครับ  :074:
อาจารย์ประโยชน์ดินแดงครับ

พี่ครับ ใช่รูปของพี่หรือเปล่าครับ  เห็นเหมือนในนี้เลยอ่ะครับ 

ที่มา
http://www.tumnansakyun.com/webboard/index.php?PHPSESSID=17fbbb9802ca40d916169ffadd2d005e&topic=113.0
ไม่รู้ว่าท่านไหนเอาไปลงครับ แต่ก็เพื่อเป็นการอนุรักษ์ลายสักแบบไทยครับไม่คิดมาก
จูงนางง อยากได้จัง :095: ของที่ไหนหรอครับ แปลกตาดี
จูงนางหลวงพี่ตูนท่านเมตตาให้มาครับ

26
       ๑ ปีที่เข้าสู่ศาตร์นี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้จักตัวเองและรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ผมอยากอนุรักษ์การสักยันต์และอยากเห็นการสักยันต์อยู่คู่กับคนไทยตลอดไป
      
       ๑ ปีของการที่ได้เป็นศิษย์วัดบางพระได้รับความรู้ และ มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตมากมาย และรู้ว่าอะไรควรไม่ควร บางทีก็อาจทำอะไรในสิ่งที่ผิดทั้งเรื่องใหญ่ และ เล็ก แต่รับรู้ได้สิ่งหนึ่ง ถึงคำว่า อาจารย์ กับ ศิษย์ ยอมรับเลยว่า ไม่สามรถเขียนออกมาเป็นคำพูดได้ครอบคลุมคงพูดได้ว่า

ชลาพุชะ บูชาครูบาอาจารย์ไว้เหนือหัวตลอดมา ขอกราบนมัสการทุกๆพระอาจารย์และกราบขอบคุณอาจารย์ทุกๆท่านที่ประสิทธิประสาทวิชา มอบของดีไว้คุ้มกาย ครับ
       
       ๑.ขอบคุณการต้อนรับที่ดี ของพี่น้องชาวเว็บ ความรู้ที่ท่านให้เป็นวิทยาทานแก่ผมจริงๆ ขอบคุณครับ

27
อาจารย์ประโยชน์ดินแดง



สาริกา



ห้าแถวสักที่หัวไหล่

อาจารย์เหน่ง อ่อนนุช



เสือสมิง



ราหูทั้ง อมตะวันและอมพระจันทร์



พ่อแก่หน้าวัวเดินดง



หัวใจขุนแผน



นะรึชา

28
นานๆน้องมาทีมันเกิดอะไรขึ้นครับ ตามไม่ทันเลย แต่ก็ ข้อความดี จะเอาไปปรับให้เข้ากับชีวิตนะพี่สาว

29
อาจารย์อั้น



แม่พิมพ์ สักที่วัดท้องไทร
อาจารย์หนวด





ข้อศอกทั้ง 2 ข้าง

อาจารย์เอ ตำหนักวิวานทิพย์



ท้าวเวชสุวรรณ



พ่อแก่หน้าเสือ



เศียรพ่อแก่นารอด



6แถว

วัดสว่างอารมณ์



ตาข่ายเพชร


อาจารย์เม้งขุนแผน



ยันต์น้ำเต้าครูโป้งเมตตาสักให้

อาจารย์ประโยชน์ดินแดง



พระรามแผงศร



จิ้งจกล้อม



พญาหมี



แดงเก

30
สวยและสุดยอดมากเลยครับพี่ชายเรา
แต่เอ๊ะ ไหนว่าจะขึ้นมาเชียงใหม่ล่ะครับ
จะมาเมื่อไหร่อย่าลืมโทรมาหากันนะครับ
ว่าจะไปอยู่ครับ ตอนนี้ยังหาเวลาไปไม่ได้ คงไปก่อนหมดหนาวต้นปีหน้าครับ
ต่อนะครับ
หลวงพี่นัน



พุทธซ้อน





ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรเหมือนกันครับ

หลวงพี่ตูน



บัวบังใบ



เศียรพ่อแก่



จูงนาง(น้อยใจที่ได้จูงแค่คนเดียวแต่ก็แรง )



หน้าเสือ ลายนี้หลวงพี่ตูนสักให้วันไหว้ครูปีนี้ครับ

พ่อทองตลาดพลู



ยันต์ครูพ่อทองครับ



ยันต์นี้ไม่ทราบชื่อ สักสีข้าง ได้น้ำตาเลย

พ่อป่อง(พ่อเที่ยง)[/u]



อาจารย์ต้อยวัดกำพร้า



องคต ตรงสีข้างครับ



พ่อแก่เดินดงครับ



หนุมานอมพลับพลา



ยันต์ตะกร้อ




หงษ์คู่
อาจารย์ณรงค์ สำนักอยู่ที่ ซอยสวนผัก50 สายพ่อทองตลาดพลู





อาจารย์ถึงคงทน



นะตรงข้อมือ
[
img]http://img385.imageshack.us/img385/9676/200909120.jpg[/img]

สามจุด



ไม่รู้ว่าท่านสักอะไรให้แต่ต้องเป็นของดีแน่นอนเจ็บเอาการเลยบนหัว ทั้ง3 ที่ลูกศิษย์อาจารย์ถึงต้องมีทุกคน



ยันต์นี้บริเวณก้นกก



พระลักษณ์หน้าทองต้องขอบคุณท่านเปรี้ยวที่ช่วยส่งที่อยู่มาให้ขอบคุณครับ

อาจารย์พล พยัคราช

มีต่ออีกนะครับกลัวหลุดเลย ส่งก่อน

31
        ชลาพุชะ อยากสักยันต์มานานแล้วตั้งแต่เด็ก เห็นตามตัวของตาและปู่ แต่แม่ไม่ให้สัก พ่อโตหน่อยเรียนจบมีแฟน แฟนก็ไม่ให้สัก ว่าจะไปสักน้ำมัน ก็ ไหนๆก็ไหนแล้ว สักหมึกดีกว่า รอจังหวะให้ดีๆ จนอายุ 30 ปี เอาไงก็เอา ลองขอแม่ดู แม่ก็อนุญาตแบบ ไม่เต็มใจ ขอแฟนซึ่งอยู่กัน มาหลายปีแล้ว เค้าคงสงสาร ไปก็ได้แต่อย่าสักพวกสายเสน่ห์นะ รับปากในวันนั้น(วันนั้นวันเดียว)16 ตุลาคม 2551 ตรงไปวัดบางพระครับ มีพี่ชายที่ทำงานใกล้ๆกันไปด้วยครั้งแรกเข้า
กุฏิหลวงพี่แป๋ว ยกพานเสร็จ หลวงพี่ทานให้ไปกวาดรอบโบสถ์ ตามนั้นครับไปก็ไปครับ รีบกวาดรีบเสร็จ นั่งรอพักใหญ่ ก็ถึงเวลาเพล อ้าวรอยาวอีกแล้วงานนี้ ไม่เป็นไรของดี กว่าถึงคิวก็ได้นั่งใกล้หลวงพี่ หลวงพี่ก็ถามว่ามาจากไหน มากับ ใคร ทำงานอะไร แล้วก็ให้ถอดเสื้อ หลวงพี่ว่าน้ำมันใช่ไหม ผมตอบหมึกครับ หลวงพี่ยิ้มแล้วว่าเจ็บนะ เจ็บก็เอา หลวงพี่ท่านก็เมตตา สักเก้ายอดให้ สมใจเลยครับงานนี้


สักเสร็จ ก็15.00 น. คุยกับพี่ที่พาไป ทำไงดี ยังไม่สมใจอยากได้เยอะๆ พี่ก็พาไป
กุฏิพระมหาสมชายครับ ครั้งนี้ ขอท่านเลย ว่าขอเต็มหลัง หลวงพี่ว่ากลัวทนไม่ไหว แต่ผมบอกงานที่ผมทำลาไม่ได้ครับ เป็นงานต้องรักษาความปลอดภัยในการทำงาน ก็เล่า ให้ท่านฟังท่านว่า ทนไหวก็ลองดู คนไม่เคยกลัวหักโหมแบบนี้กลัวพรุ่งนี้จะป่วยเอา ผมรีบกราบแล้วรีบไปสักที่ชั้น2 วั้นนั้นที่กุฏิท่านมหาสมชาย เป็นฆารวาสสักให้ ก็ มี 3 ท่าน ยันต์ที่สัก ก็มี




งบน้ำอ้อย

C:\Documents and Settings\COM10\Desktop\รอยสัก\พระอาจารย์สมชาย\2009_09110082.JPG

แม่ทัพ



พุทธซ้อน



แปดทิศ



หนุมานและเสือคู่

ในวันนั้นผมก็สามารถทนได้เท่านี้สักเสร็จให้ท่านพระอาจารย์มหาสมชายเป่าแทบเป็นลม กลับบ้าน 21.30 น.ตอนเช้า ตื่นขึ้นมา มาอยู่ในโรงพยาบาลมหาชัย มีแฟนนั่งตาแต่อยู่ ตามที่แฟนเล่าให้ฟัง ผมแหกปากร้องกลางดึกวิ่งทั่วห้อง แฟนตกใจโทรเรียกคนงานช่วยกันจับ อยู่พักใหญ่ แล้วก็ส่งโรงบาล มหาชัย ผมก็หัวเราะๆแล้วว่าจะเป็นไปได้ไง หมอเจ้าของไข้ลงความเห็นว่าเป็นผลกระทบจากการสักและจิตใจ คิดถึงการสักเยอะไปหน่อย แล้วให้น้ำเกลือนี้คือวันแรกครับ ต่อไปคงเรียงลำดับไม่ไหวแต่ขอเสนอรอยสักของพระอาจารย์ และ อาจารย์แต่ละท่านก็แล้วกันนะครับ

หลวงพี่ญา



เสือตีนโต



จิ้งจก



สาริกา



เกราะเพชร ยันต์นี้ผมขอเลิกเหล้าตลอดชีวิตถวายหลวงพี่ญาครับ



กวางเหลียว ยันต์กลับบ้านแฟนเห็นไปบ้านแทบแตก แต่ก็เคลียได้ของแรงจริงๆ



ลิงแต่ไม่รู้ชื่อเต็มว่าอะไรครับ



สิงห์


หลวงพี่ต้อย





จิ้งจก





ที่เหลือไม่แน่ใจว่าเป็นยันต์อะไร แต่เป็นของดีที่หลวงพี่เมตตาครับ
ยังมีต่ออีกนะครับขอตัวไปทำงานก่อน วันนี้เย็นๆจะม่ลงต่อครับ

32
น่าจะมีรูปประกอบนะพี่สาว  ขอบคุณข้อมูลครับ

33
ท่านสายัณ รู้ใจผมจังครับ :004:งานนี้รู้ทันครับ :002:

34
          กราบนมัสการครับหลวงพี่ได้อ่านอะไรดีๆก่อนไปทำงานประเทืองปัญญาครับ กราบขอบคุณครับ
       เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ผมยังเคยนำพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น1ไปปล่อยที่ท่าพระจันทร์ 5000 บาทอยู่เลยครับ ในตอนนั้น ว้าวทำไมมันเยอะอย่างนี้ เด็ก ปวชปี 2 มีเงิน ครึ่งหมื่นฮ่าๆๆๆๆ แม่ไม่รู้ จนถึงทุกวันนี้ ว่า ที่ในลิ้นชักแม่ลูกชายได้ขโมยพระที่แม่จะให้ตอนเป็นบวชไปขายแล้วตอนแรกแค่เอาพระไปเช็ค ว่าเป็น รุ่น1 หรือ 4 แต่กลับเจอคำหว่านล้อมของเซียนท่าพระจันทร์ที่ว่า ขอช่วยน้องนะ พี่ต้องทำใจเลย รุ่นนี้เค้าไม่ค่อยเล่น 5000 นี่ไปที่ไหนไม่ได้ราคานี้แล้วตอนนี้มาราคานี้ อนาคตอาจลงนะพี่อยากเก็บไว้พอดี ของแบบนี้ทำมาทุกปี ผมยังจำหน้าเซียนพระนั้นได้อยู่เลยหลังจากนั้น ก็เริ่มซื้อหนังสือพระมาดู พอดูราคาที่เค้าเล่นกันในตอนนั้น  รีบไปหาคนรับซื้อ ใจ จะไปคืนเงิน แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ที่จุดเดิม เดินวนยังไงก็หาไม่เจอ ทุกวันนี้หากผ่านไปท่าพระจันทร์ก็จะมองหา ถึงเจอเค้าก็ไม่ได้คืนแน่ๆ ก็อยากได้เห็นหน้า คนที่สอนเราให้รู้ถึงความโง่-โลภเป็นยังไง

35
ใครช่วยแปลที่เถิดครับ บางคำอ่านออก บางคำอ่านไม่ออก เรื่องแปลนี่กลัวผิดครับ ได้โปรด

36
เทพที่รักษาบ้านมีเครื่องบูชาอะไรบ้างครับ
ขอผู้รู้บอกทีครับ 07; 11;

รูปดูไม่ชัดเลยครับ เทพอะไรยังไง ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ถ่ายใหม่ได้ไหมครับ

37
เนื้อเงินด้วย สวยมากเลยครับ

38
กราบนมัสการอาลัย หลวงปู่กาหลง ด้วยความเคารพ ศรัทธายิ่ง
ปล.พี่สาวไปวัดเขาแหลมเมื่อไหร่ไปด้วยนะครับ

39
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: to lemon
« เมื่อ: 17 ก.ย. 2552, 01:23:49 »
อ่ะนะลุงต้อ.. ลากหนูไปกะลุงด้วย ไม่ช่วยซักกะบาทค่ะ :008:
หากไปไหนมาไหน บอกน้องด้วยนะพี่โชว์

40
        กระผมได้รับเมตตาพระอาจารย์และอาจารย์เกือบทุกรูปทุกท่านสักให้ เข็มสักมีหลายเล่มนะครับ แต่หลังสักทุกครั้งจะทำความสะอาด ด้วยการล้างน้ำแล้วเช็ดแอลกอฮอล์ก่อนทุกครั้งแล้วจะพักเข็มไว้ ตัวผมมั่นใจว่าสะอาด เกือบ 1ปีมาผมก็ตรวจเลือดหลายครั้ง บริจาคเลือด 2 ครั้ง ตรวจเลือดฟรีตอนบริจาคอวัยวะ ก็ผ่านฉลุย  กังวลว่าจะติดโรคจากอย่างอื่นมากกว่าครับ
        
 

41
ใช่หลวงพี่นันรึปล่าวครับ พอดีผมไปสักกับท่านมาครั้งเดียว เลยจำท่านไม่ค่อยได้อ่ะครับ  :049:
หลวงพี่ หนึ่งครับ ปกติท่านจำพรรษาที่วัดห้วยขวาง กระผมเคยยกพานกราบนมัสการเป็นศิษย์เมื่อวันไหว้ครู ปีนี้เองครับ

42
เชื่อว่ามีจริง และ ศรัทธา กราบไหว้ บูชา ครับผม

43
กระทู้นี้ไม่คำบรรยายมีแต่รูปครับ :004: :004: :004:

44
ขอลงรูปต่อนะครับ







ผมชอบที่เอาผ้ายันต์มาเป็นฉากรอบพิธี ยันต์ทุกแบบสวยมาอลังการงานสร้างเหลือหลาย







ขอบคุณที่ติดตามครับ

45
ตั้งนโม 3จบ กะระมะธะ กิริมิธิ กุรุมุธุ เกเรเมเถ เถเกเรเม อะหังนุกา กันหะเนหะ มะอะอุ


ทำใจให้เป็นสมาธิก่อนใช้หรือก่อนท่องจะได้ผลมากๆครับ

46
12.00 น. มีเสียงพี่สาวโทรมาบอกเก็บของไปวัดสุทัศน์ ขนาดตอบว่าขอกินข้าวก่อน พี่ท่านก็ไม่ยอม มากินที่นี้บัดเดี๋ยวนี้ อ่ะไปก็ไปถึงพี่สาวเลี้ยงข้าว พาขึ้นเบ๊นซ์ขับเหมือนรู้ทางพาหลงซะ แหมไปกับเด็กแพร่ด้วย กว่าจะไปถึง666 ไปถึงคนเยอะมาก งานนี้ผมถ่ายรูปยากมากคนเยอะครับและใช้กล้องพี่สาวด้วย กล้องผมถ่านหมดเชิญชมครับ



เข้าสู่พิธีขั้นตอนการครอบครูครับ




ขอตัวไปนอนก่อนนะครับพรุ่งนี้ขะทำการลงรูปเพิ่ม
ปล.พี่สาวช่วยลงข้อมูลด้วยนะงานนี้อะไรเป็นอะไร แต่งานนี้หลวงปู่กาหลงไม่ได้มาครับเสียดายมากๆ

47
อยากรู้ 2 เรื่องมากๆ
1.ไปทำอะไรให้ช้างมันๆถึงได้วิ่งไล่ขนาดนี้
2.หากมันไล่ทันภาพออกจะเป็นไง

48

หลวงพี่ต้อยท่านเมตตามอบให้ครับ เลยเอามาให้ชมครับ

49
นึกออกแล้ว อีกหน่อยชลาพุฯ คงต้องเขียวปื้ดทั้งตัวแบบอาจารย์ประโยชน์ดินแดงแน่ๆ เลย.. แล้วจะไปทำงานได้ไหมเนี่ย? เลยมาถึงแขนแล้วหน่ะ!

Thank You สำหรับภาพข่าว... เสือบนผนัง Art ไม่เบา.. ฝีมือใครคะ?....cho paul smith..

      พี่ครับก็ผมมีตัวอย่างที่ดีอย่างอาจารย์ประโยชน์ เลยต้องเอาอย่างครับ พี่โชวพี่เชื่อไหมผมได้รางวัลแต่งกายไปทำงานได้เรียบร้อย ใส่แขนยาวผูกไททุกวันเลยพี่ครับไม่ต้องห่วงเรื่องงานครับ
      ภาพเสือที่เห็น พระอาจารย์พงษ์ท่านวาดให้ หากกล่าวถึงพระอาจารย์พงษ์ ท่านคือพระอาจารย์ที่อาจารย์ประโยชน์ได้กราบตัวฝากเป็นศิษย์และและอาจารย์ประโยชน์ก็ทำพิธีรับเข็ม ผมก็หาโอกาสไปกราบพระอาจารย์พงษ์อยู่ครับรอหมดฝนก่อน

50
งามมากครับพี่ศักดิ์ดา แต่ภาพไม่ค่อยชัดเลย................ :075: :002:
เหรียญหลวงพ่อคูนปี 17 น่าจะสวยมากนะคะ..เอ.. ไม่สวยหรือเบื่อแล้ว.. มาฝากพี่โชวนะ
อยากชมรายละเอียดของเหรียญให้แจ่มกว่านี้ค่ะ.. อย่ารีบมากจนมือสั่นสิ.. ดูสิ.. น้องปอร์ปาร์พูดแทนแล้ว
..  :008:
ขอลงภาพใหม่นะครับแก้ตัว มือสั่นไปนิดดีใจได้พระ และ ข้าน้อยมือใหม่กำลังพัฒนาฝีมืออยู่ครับ


51
         ปีนี้ลุงพงษ์ให้ของขวัญวันเกิดเป็นพระหลวงพ่อคูณ ไม่ยักรู้ว่าลุงพงษ์สะสมพระทางอีสานด้วย กราบขอบคุณลุงพงษ์ครับ แต่ให้ช้าไปนิดนะครับนึกว่าลืมเสียแล้ว เหรียญนี้ผ่านการใช้งานมาแล้ว เหลี่ยมทองเฉพาะขอบแบบเปิดหน้าหลัง คนโบราณบางท่าน เชื่อว่าเหลี่ยมแบบปิดหมดพระจะออกมาช่วยไม่ได้ ยิ่งกันน้ำหมดสิทธิ์ออกมาช่วยเลย ก็ฟังไว้เพราะผมขอใส่กรอบแบบปิดหมดครับ สะดวกดี  
เพราะผมได้มาเป็นเหรียญเปล่าๆนะครับ ทองไปไหน???!!! คงไม่สนใจอะไร ได้พระก็ดีแล้วครับ



52
ศรัทธา แต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน และ ไม่ตรงกัน ผมว่าต่างคนต่างลีลาครับ รูปเลือดๆๆๆว้ายกรี๊ด เป็นลม

53
มาเป็นบทปลุกเสกเลยนะท่านสุวัจชัย

54
     ไปเยี่ยมอาจารย์ประโยชน์ อาจารย์ทาสีสำนักใหม่ด้วย สวยดูสว่างดีครับ  เชิญชมครับ



ไปก็ได้เจอภาพนี้เป็นภาพแรกเลย เสือตีนโตพระอาจารย์พงษ์ยังดุเหมือนเดิม สีสวยดีครับ

 

พี่คนนี้คุ้นๆ



เสือตีนโต คู่เลย สักที่เดียว 2 ทนได้ไง สักไปวันเสาร์ นี้วันจันทร์พี่ท่านจะมาเอาอะไรอีกนะ



หนุมาน สี่กร ที่ท้องด้วย พี่ท่านเยี่ยมมากๆ สุดๆๆ



สักเสร็จไป1



เอาคนต่อไปยกพานเลยครับ ไม่เคยสักยันต์เลย เคยสักแต่กราฟฟิก งั้นต้องขึ้นเก้ายอดก่อน แล้วค่อยคุย จะเอาเสือตัวใหญ่ๆเข้ม ได้สักให้....สักเสือต้องทำใตให้เป็นเสือนะครับ อาจารย์ประโยชน์จะพูดไปสักไปให้กำลังใจตลอด



มาครั้งแรก เก้า ยอด กับเสือ ตัวค่อนหลัง ว้าวๆๆๆ ลูกผู้ชายตัวจริง



ตอนเสกต้องจิกเล็บ



ชลาพุชะ วันนี้ ไม่อยากเจ็บอย่างมีความสุข แต่ขอรบกวนอาจารย์ช่วยเมตตาจารเขี้ยวเสือ ที่ได้ จากจ่าธง(ศิษย์พี่)ครับผม จารเสร็จแล้วกราบขอบคุณ ขอตัวลากลับเลยนะครับ อาจารย์พักผ่อนบ้างนะครับ


ปล.บางคนอาจกลัวที่อาจารย์ประโยชน์สักแรง สักเจ็บ แต่ทุกอย่างขอได้นะครับ สักเบาสักแรงบอกได้นะครับ เดี๋ยวจะว่าผมนำภาพมานำเสนอมีแต่ ลึกๆ เลือดๆ เส้น ใหญ่ เบาๆอาจารย์ก็สักได้นะครับ บอกท่าน ท่านใจดีตามใจลูกศิษย์

55
 :074:เตียงนั้นไปที่ไรนอนทุกที งั้นงานนี้เปลี่ยนเป็นนอนพื้นดีกว่าครับ   

56

บัวบังใบ

จูงนาง สงสัยว่าทำไมคนอื่นหลวงพี่ให้จึง2 ทำไมเราได้จึงคนเดียว 07;

57
ผมเองเคยไปแค่ช่วงตอนเข้าเรียนที่เทคโนพระรามหกปี1 ที่ต้องไปเข้าประพฤติธรรม ที่วัดสวนแก้ว เกิดมาไม่เคยนั่งสมาธินานๆ ยิ่งเดินจงกลมก็ยิ่งไม่เคยใหญ่ แล้วก็แค่เคย จากนั้นไม่เคยอีกเลย 21;

58
ขอบคุณครับ ที่นำภาพมาฝาก แต่ถึงกลับรูดบัตรทำบุญเลยรึพี่ท่าน :073:

59
      
สักตรง น่องเลอครับ โหดเลยนะครับ ขอบคุนที่นำมาให้ชมครับ :114:
 สักที่แขนครับ วันเสาร์ 5 ส่วนใหญ่ ก็ นำวันนี้ มาเป็น วันปลุกเสกเครื่องรางของขลังพระเครื่องกันอยู่แล้ว คงไม่แปลกอะไรที่จะถือเอาวันนี้เป็น ฤกษ์งามยามดี สักยันต์ เพราะรอยสักจะอยู่กับเราไปจนตาย หากเราคิดดีมันก็ดี ควรคิดดีพูดดีทำดี เพื่อมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ไม่หลงกับสิ่งยั่วยุ หลงอะไรที่มันไม่สร้างสรร ชีวิตก็จะดีตาม หากเมื่อก่อนไปทำในสิ่งไม่ดีก็เลิกทำเพื่อจะได้อยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุข อย่างแท้จริง

60
          นมัสการครับ พระบวชใหม่กับผีในวัดเป็นของคู่กันครับ อาจมาเพราะหากมาให้พระที่มีพรรษาเยอะๆ พระรูปนั้นคงเฉย แล้ว คิด ปลงถึงการเกิดแก่เจ็บตาย และสวดแผ่เมตตาอคทิศส่วนกุศลให้ แต่หากมาหาพระใหม่ เพื่อเป็นการทดสอบจิต 17;แต่พระเก่งถ่ายรูปออกมาได้น่ากลัวมากๆเลยนะครับ ได้มุมได้อารมณ์มากๆ ไปวัดแต่ล่ะครั้งไม่มีถาพแบบนี้เลย ไปครั้งนี้ ตื่นกลางดึกมาฉี่คนเดียวต้องรีบลุกรีบนอนแล้วครับ  26;

61
        วัน เสาร์ 5 แรม 1 ค่ำ เดือน 10 ที่ผ่านมา เป็นวันแรงที่ในรอบปีจะมีไม่กี่วัน กระผมจึงขอเมตตาจากอาจารย์เหน่งอ่อนนุช ช่วยสักจรเข้ ที่ผมอยากได้มานานแล้วครับ สมใจเลยครั้งนี้

62
กราบนมัสการ และขอน้อมรับไปปฎิบัติครับ

63
ขอให้หลวงปู่หายไวไวนะครับ
                                  ขอบคุณท่านGearmourที่มาแจ้งข่าวครับ

64
วันนี้เห็นของจริงแล้วใหญ่ไปไหมพี่ โชว  15;
ผมว่ามันไม่เหมาะกับคอสาวสวยบอบบางอย่างพี่เลย  :069:
มันเหมาะกับพวกทึกๆอย่างผมเชื่อสิ
 20;

65
       พี่โชวครับ อยากมีน้องเขยเป็นศิษย์ร่วมสำนักหล่ออย่างผมไหม :004: :004: :004:ล้อเล่น ไปไหนครั้งหน้าชวนด้วยนะจะไปถ่ายรูปให้ ไม่เอาค่าตัว ออกค่าเครื่องบิน ค่าหนังสือเดินทางออกค่ารถค่ากินค่าที่พักเท่านั้นล่ะพี่

66
          นมัสการหลวงพี่ครับ อยากไปกราบหลวงพี่ตูนแต่ ช่วงนี้ งานเยอะครับ ผ้ายันต์บัวบังใบที่หลวงพี่ให้มาได้งานทุกที ผมต้องหาเบี้ยแก้ให้เมียห้อยเลย หึงเกินมนุษย์ช่วงนี้ไปไหนมาไหนลำบากครับ

67
ถ้าไม่ยึดติดกับสำนักแนะนำลองหาที่ใกล้ที่สุดครับแถวอ่อนนุช แต่ถ้าแนะนำให้ผมเลือกวัดบางพระหมดหัวใจครับ มีของดีให้ศึกษามากมายครับ เชิญชวนครับผม
หากเป็นย่านอ่อนนุช ก็อาจารย์เหน่ง อ่อนนุช

68
    ด้วยความเคารพ ท่าน lnwnacub ผมว่าไปบูชาตามวัดง่ายกว่าไหมครับ ที่วัดบางพระ วัดนกก็มี แต่หากเป็นวัดสามง่ามที่ออกทีวีต้องจองรอเกือบสิ้นปี รึ ต้นปีหน้าโน้น หากไปเอาผีที่มีตัวอย่างท่านว่าผมว่าบาปเอาการอยู่ จะได้เกิดอยู่แล้วก็ยังมาโดนฆ่าก่อนได้เกิด ตอนเป็นผีก็จะต้องมาโดนเรียกมาเป็นกุมารอีก สงสารผีตัวนี้จัง

69
แต่ละชิ้นสวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ ศิษย์ทางสายอาจารย์ประโยชน์และอาจารย์เหน่งก็รวมตัวกันจะไปกราบท่านอยู่ก็ว่ากัน รอให้หมดฝนก่อน เพราะได้ข่าวเส้นทางโหดเอาการ ขอบคุณที่ท่านเจ้าของกระทู้ให้ข้อมูลทางพีเอ็มมานะครับ มีโอกาสต้องไปแน่ๆครับ

70

หมาอเมริกันพิบลูเชียวนะท่าน หลายตังห์เลยนะ ผมอยากมีไว้สักตัว แต่ไม่มีตังห์ซื้อครับ  ขอบคุณบทความนะท่าน
 
 

71
ขอบคุณชลาพุชะครับ ประวัติท่านโดยละเอียดเลยครับ แต่ลิงค์แหล่งที่มา ลองดูแล้วไม่มีข้อมูลอ่ะครับ อยากติดตามอ่านต่อครับ เรื่องของหัวใจที่เข้มแข็ง เรื่องของคาถาอาคมที่แข็งกล้า เรื่องของความที่เป็นคนตรงไม่รับสินบนไม่มีการทุจริต เป็นตัวอย่างที่ดีมากครับ 
คนที่มีคุณความดีในตัว เป็นที่ปรากฏชัดนี่เทวดาคุ้มครองครับ ถึงแม้ท่านจะเจอพวกคนไม่ดีให้ร้าย หรือพูดว่ากล่าวไปในทางที่เสื่อมเสีย มากสักเพียงไร ก็ไม่หวั่นไหวครับ เพชรยังไงก็เป็นเพชรจริงๆครับ
รบกวนของลิงค์แหล่งที่มาด้วยครับอยากติดตามอ่านต่อครับ
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%8A
ที่นี้ไม่ผิดแน่ๆครับลองแล้ว แต่ลิงค์อันแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมครับต้องขออภัยนะครับ

72
นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรชายคนที่ 9 ของ ขุนพันธรักษ์ราชเดช เปิดเผยวีรกรรมที่บิดาเคยเล่าให้ฟังว่า โจรหรือเสือร้ายในสมัยก่อนมีพฤติกรรมปล้นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา เช่น ขุนโจรอะแวสะดอ ตาและ หรือ ?เจ้าพ่อเขาบูโด? ทั้งกระสุนปืน คมหอก คมดาบ ที่ตำรวจระดมสาดเข้าใส่ร่างของมัน แต่ทำอะไรมันไม่ได้ พอ กระสุนหมดทั้งคู่ คุณพ่อก็วิ่งไล่จับขุนโจรชื่อก้องได้ด้วยมือเปล่า กระโจนเข้าไปชกต่อยพัลวัน ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็จับเจ้าพ่อเขาบูโดใส่กุญแจมือ ลากคอเข้าคุกได้ และจากการตรวจสอบพบว่ากระสุนที่ยิงใส่ตามลำตัวไม่ถูกมันเลย และที่ยิงบริเวณปาก 9 นัด มันอมกระสุนไว้ในปากโดยไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ ฟันก็ไม่หัก มันคายหัวกระสุนทั้ง 9 เม็ดลงกลางโต๊ะสอบสวน !!?? นับเป็นเรื่องที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้จนทุกวันนี้

การสยบขุนโจรแห่งขุนเขาบูโดด้วยมือเปล่า โดยไม่รู้ว่าใช้คาถาอาคมอะไร ทำให้ขุนพันธ์ได้รับการยกย่องสรรเสริญจากคนไทยมุสลิม และพวกแขกมลายู (มาเลเซีย) เสียงดังกระหึ่มไปทั่ว จึงตั้งสมญานามให้ขุนพันธ์ ว่า ?รายอกะจิ? หมายถึง ราชาร่างเล็ก หรืออัศวินพริกขี้หนู

?คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าการปราบเสือแต่ละคนไม่ง่ายเลย สมัยก่อนต้องใช้เวลาติดตามด้วยความยากลำบาก ไม่สะดวกเหมือนสมัยนี้ เพราะต้องบุกป่าฝ่าดงไล่ล่ากันเป็นเดือนเป็นปี พ่อบอกว่าเสือภาคใต้ปราบยากกว่าเสือภาคกลางเพราะเสือภาคใต้มีวิชา มีของดี ของขลังติดตัว ผิดกับเสือภาคกลางที่อาศัยสมัครพรรคพวกมากเป็นสำคัญ บรรดาชุมโจรหรือขุนโจรที่เกรงกลัวขุนพันธรักษ์ราชเดช เนื่องจากเป็นคนเอาจริงเอาจังกับการปราบปราม ไม่ท้อ จิตใจทรหดอดทน หากมันไม่ตายเราก็ตาย? บุตรชายคนที่ 9 ของขุนพันธ์ กล่าว

ปี พ.ศ.2485 ขุนพันธรักษ์ราชเดช ย้ายไปเป็นผู้กำกับการตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานี ก็ดำเนินการปราบ ?เสือสาย? ผู้มีอิทธิพลในเมืองสุราษฎร์ฯ มานานกว่า 8 ปี จากนั้นบุกทลายซ่อง ?ไม้ไผ่งาช้าง? ของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จนถูกย้ายไปเป็นผู้บังคับกองเมืองพิจิตร พอไปอยู่เมืองพิจิตร ก็ปราบเสือโน้ม อ.พรานกระต่าย และได้รู้จักกับ ?หลวงกล้ากลางณรงค์? นายทหารลูกหลานตระกูล ?พระยาพิชัยดาบหัก? ที่มารับราชการที่เมืองพิจิตร ขุนพันธ์จึงฝากตัวเป็นบุตรบุญธรรม หลวงกล้ากลางณรงค์ได้มอบดาบคู่เหล็กน้ำพี้ให้กับขุนพันธ์ จนกลายเป็นอาวุธประจำตัว ดังฉายา ?ขุนพันธ์ดาบคู่?

ถัดมาในปี พ.ศ.2489 ขุนพันธ์ย้ายไปเป็นผู้กำกับการตำรวจเมืองชัยนาท ลุยปราบชุมโจรสุพรรณบุรี โดยเฉพาะ ?เสือฝ้าย? ถือเป็นก๊กเสือร้ายที่มีอิทธิพลมากที่สุด มีสมุนอยู่ทั่วใน จ.สุพรรณบุรี ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักคือ 4 เสือสุพรรณ ประกอบด้วย เสือฝ้าย เสือใบ เสือมเหศวร และเสือดำ ทางกรมตำรวจจึงคัดเลือกนายตำรวจ เพื่อตั้งเป็น ?กองปราบปรามพิเศษ? ต่อสู้กับเสือร้ายภาคกลาง มี พ.ต.อ.สวัสดิ์ กันเขต เป็นผู้อำนวยการ และขุนพันธ์ เป็นรองผู้อำนวยการ จนชุมโจรเมืองสุพรรณถูกปราบปรามอย่างราบคาบ ส่วนเสือฝ้ายตัดสินใจเข้ามอบตัวในที่สุด

เมืองพัทลุงร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้งในปี พ.ศ.2490 ปัญหาโจรผู้ร้ายชุกชุม คดีปล้นฆ่าผุดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก จึงมีการทำหนังสือขอตัวขุนพันธ์กลับพัทลุง มาต่อกรกับโจรร้ายก๊กใหม่ กระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 จ.นครศรีธรรมราช และเกษียณอายุราชการเมื่อปี พ.ศ. 2511
  ยิ่งผมหาข้อมูลของท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช  ก็จะเจอข้อมูลของเสือทุกๆคนที่ท่านปราบ เสือบางคนโดนบีบจากผู้มีอิทธัพลเถื่อนและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเลวๆให้เป็นเสือ เสือบางคนปล้นคนเลวที่รวยที่มีอำนาจเพื่อมาช่วยคนจน :037: กระผมกลัวเหลือเกินหากนำประวัติการปราบเสือและประวัติเสือเหล่านั้น จะไม่ผ่านเซ็นเซอร์ครับ

74
ทุกเรื่องราวที่ผ่านมาคือบทพิสูจน์จิตใจนะครับท่านผ่านมาแล้ว ท่านก็ผ่านการทดสอบจิตใจ ยินดีด้วยครับ

75
คงคิดถึงอาจารย์แย่เลย รีบกลับมานะครับ

76
ก็ตามท่านว่าที่นี่ยอมมีกฏ ข้าน้อยน้อมรับในกฏของที่นั้นๆ งั้นเอาใหม่
          การที่จะยกย่องใครนั้นต้องดูถึงคุณงามความดี เกียรติประวัติ เพื่อให้สังคมไทยคงไว้ซึ่งสังคมแห่งการอยู่ร่วมกันแบบ ใช้คุณความดี ไม่ใช่ยกย่อง ที่ยศ  ที่อายุ และที่วงศ์ตระกูล
          ขอให้มองถึงจุดประสงค์การนำเสนอและข้อมูลความเป็นประโยชน์มากกว่า ใครเป็นผู้นำเสนอ ไม่ผิดที่ ต้องมองว่าใครนำเสนอ และควรมองถึงข้อมูลนั้นด้วย ขอบคุณที่ช่วยตักเตือน
          

78
ย้ายกลับพัทลุง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2491 ทางจังหวัดพัทลุงมีโจรผู้ร้ายกำเริบชุกชุมขึ้นอีก ราษฎรชาวพัทลุงนึกถึงขุนพันธ์ฯ นายตำรวจมือปราบ เพราะเคยประจักษ์ฝีมือมาแล้ว จึงเข้าชื่อกันทำหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมตำรวจ ผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขอตัวขุนพันธ์ฯ กลับพัทลุงเพื่อช่วยปราบปรามโจรผู้ร้าย กรมตำรวจอนุมัติตามคำร้องขอ ขุนพันธ์ฯ จึงได้ย้ายมาเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุงอีกวาระหนึ่ง ได้ปราบปรามเสือร้ายที่สำคัญๆสิ้นชื่อไปหลายคน ผู้ร้ายบางรายก็หนีออกนอกเขตพัทลุงไปอยู่เสียที่อื่น นอกจากงานด้านปราบปรามซึ่งเป็นงานที่ท่านถนัดและสร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นพิเศษแล้ว ท่านยังได้พัฒนาเมืองพัทลุงให้เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยปรับปรุงชายทะเลตำบลลำปำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และให้มีตำรวจคอยตรวจตรารักษาความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารรถไฟที่เข้าออกเมืองพัทลุง ทำให้เมืองพัทลุงในสมัยที่ท่านเป็นผู้กำกับการตำรวจ มีความสงบสุขน่าอยู่ขึ้นมาก ตำรวจที่ทำหน้าที่ดังกล่าวได้เลิกไปเมื่อกรมตำรวจจัดตั้งกองตำรวจรถไฟขึ้น ด้วยความดีความชอบในหน้าที่ราชการ ท่านจึงได้รับพระราชทานเลื่อนยศ เป็นพันตำรวจโทในปี พ.ศ. 2493 ท่านอยู่พัทลุงได้ 2 ปีเศษ จนถึง พ.ศ. 2494 จึงได้รับการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2503 จึงดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 และได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็นพลตำรวจตรี จนกระทั่งเกษียณอายุในปี พ.ศ. 2507
ครั้งหนึ่งเคยมีคำขวัญอันคมคายของกรมตำรวจอยู่ประโยคหนึ่งว่า "ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้" นี่เป็นถ้อยคำที่เกิดขึ้นในยุคอัศวินแหวนเพชรเฟื้อง ในสมัยของท่านอธิบดีฯ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ปกครองกรมตำรวจ วีรบุรุษผู้สร้างเกียรติประวัติให้กรมตำรวจนั้นมีอยู่มาก มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่ในยุคสมัยที่ท่าน อธิบดีกรมตำรวจหลวงอดุลย์เดชจรัสนั้น...นามของ"ขุนพันธรักษ์ราชเดช" ระบือลือลั่นสุดยอดแผ่นดินด้ามขวานทอง แม้ท่านขุนพันธ์จะปลดเกษียณราชการไปนานปี แล้วก็ตาม แต่ชื่อของท่านยังอยู่ในความทรงจำของกรมตำรวจและประชาชนทั่วไป นั่นเป็นเพราะผลงานอันน่าอัศจรรย์ของท่าน กลายเป็นผลงานอันยากยิ่งที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน ควรค่าแก่การบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คนเมืองใต้และคนของแผ่นดิน
พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ที่บ้านในซอยราชเดช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช อายุได้ 108 ปี
เกียรติประวัติ
ชีวิตของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นชีวิตที่มีค่าของแผ่นดินเมืองใต้และเมืองไทย ลมหายใจของท่านเคยโลดแล่นอยู่ท่ามกลางหมู่โจรผู้ร้าย ไม่เฉพาะแต่ผู้ร้ายในภาคใต้เท่านั้น แต่ที่ไหนประชาชนเดือดร้อนจากโจรผู้ร้ายชุกชุม ตำรวจคนอื่นปราบปรามไม่สำเร็จ กรมตำรวจจะต้องส่งตัวขุนพันธ์ฯ ไปปราบปรามทุกถิ่นที่มีครั้งหนึ่ง พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดชเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 8 ท่านเคยเดินทางมาตรวจสืบราชการลับที่เกาะสมุย ขุนพันธ์ฯท่านชอบดูมวย วันนั้นท่านไปยืนดูมวยอยู่ข้างเวที บังเอิญถอยหลังไปเหยียบเท้านางพล้อยเข้าโดยไม่ตั้งใจ ป้าพล้อยแกเป็นคนปากจัด ใครแตะเป็นด่าไม่ไว้หน้า แกก็ด่าขุนพันธ์ฯ ขุนพันธ์ฯก็วางเฉยไม่โต้ตอบอะไร มีคนรู้จักกันเข้าไปเตือนสติป้าพล้อยว่า "คนที่ป้าด่าอยู่นั้นรู้มั๊ยว่าเป็นใคร...นั่นแหละขุนพันธ์ฯ" พอได้ยินชื่อขุนพันธ์ฯเท่านั้น ป้าพล้อยแกเงียบเป็นเป่าสาก รีบก้มหน้างุดๆ เดินมุดผู้คนหนีไปโดยไม่เหลียวหลังมาอีกเลย คำบอกเล่าสั้นๆนี้ทำให้เห็นว่า ขุนพันธ์ฯ ท่านมีตบะสูง เพียงได้ยินว่าเป็นขุนพันธ์เท่านั้น ใครๆก็ขยาดทั้งนั้น เพราะรู้กิตติศัพท์ของท่านมาก่อนนั่นเอง
สมัยที่ขุนพันธ์ฯกลับมาอยู่เมืองนครศรีธรรมราช ก็มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนนั้นมีเสือใหญ่อยู่ 10 ตัว ในจำนวนเสือร้าย 10 ตัวนั้น มีเสือข่อย เสือจ้อย เสือหวน ฯลฯ รวมอยู่ด้วย เสือทั้ง 10 คนนั้น ล้วนเคยเป็นศิษย์หลวงพ่อช่วย เมืองนครศรีธรรมราช ผู้ซึ่งเป็นพระมีวิชาเก่งกล้าทางไสยศาสตร์ หรือกฤตยาคม ขุนพันธ์ฯ เคยเรียนวิชาด้วยผู้หนึ่ง เมื่อท่านขุนพันธ์ฯกลับมาอยู่ในตำแหน่งสำคัญระดับภาค ท่านมีประกาศิตสั่งให้ผู้ร้ายทั้ง 10 คนนั้น เลิกประพฤติเยี่ยงโจร ให้กลับใจเลิกเป็นเสือเสีย โดยให้บวชเป็นพระภิกษุ ถ้าหากไม่ทำตามคำขอร้องนั้น ขุนพันธ์ฯ ก็จะยิงทิ้งทุกคน เล่ากันว่าประกาศิตของขุนพันธ์ฯทำให้เสือร้ายส่วนใหญ่ปฏิบัติตามแต่โดยดี มีเพียงเสือข่อยเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ไม่ยอมทำตามคำของขุนพันธ์ฯ เสือข่อยไม่ยอมเลือกทางเดินที่ขุนพันธ์ฯเลือกให้ ซ้ำร้ายยิ่งท้าทายอำนาจของกฎหมายบ้านเมือง ด้วยความเชื่อว่า ตนนั้นเป็นศิษย์หลวงพ่อช่วย ผู้เรืองวิชาอาคมแก่กล้า เป็นลูกศิษย์อาจารย์เดียวกับขุนพันธ์ฯ จึงคิดว่าขุนพันธ์จะยกเว้นไว้สักคนหนึ่ง แต่ปรากฏว่า ขุนพันธ์ฯ ทำตามที่พูด ว่ากันว่าท่านยิงเสือข่อย แต่ยิงไม่เข้า จึงสั่งให้ลูกน้องฆ่าด้วยศูลแทงสวนทวารจนถึงแก่ความตาย คำเล่าลือเหล่าเสือร้ายในหมู่บ้านของชาวเมืองปักษ์ใต้ มีทั้งเรื่องจริงบ้าง หรือต่อเติมเสริมแต่งของผู้เล่าอ่านเองบ้าง มันคือตำนานอมตะของวีรบุรุษเล็กพริกขี้หนู ที่มีนามว่า "นายร้อยบุตร์ พันธรักษ์ราชเดช" หรือขุนพันธรักษ์ราชเดช ขุนพันธ์ฯ เป็นบุคคลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ว่าตำแหน่งใด ยศใด ยกย่อง นับถือ และกล่าวถึง เนื่องจากท่านเป็นแบบอย่างที่ดีของตำรวจนั่นเอง
ขุนพันธ์ในฐานะนักการเมือง

ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช เคยเป็น ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ จ.นครศรีธรรมราช ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2512[1]

ขุนพันธ์ในฐานะนักวิชาการ
 
ขุนพันธ์กับบุตรชาย คุณณสรรค พันธรักษราชเดชนอกจากเกียรติคุณทั้งในและนอกตำแหน่งหน้าที่ราชการดังกล่าวมาแล้ว ขุนพันธ์ฯ ยังมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่สำคัญซึ่งควรกล่าวถึงคือ เป็นนักวิชาการที่สำคัญคนหนึ่ง ท่านเป็นทั้งนักอ่านและนักเขียน ได้เขียนเรื่องราวต่างๆ ลงพิมพ์ในหนังสือและวารสารต่างๆ หลายเรื่อง ขุนพันธ์ฯ เป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจในเรื่องไสยศาสตร์อยู่มาก เรื่องที่เขียนส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อทางไสยศาสตร์ นอกจากนั้นก็มีเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทั้งประวัติบุคคลและสถานที่ ตำนานท้องถิ่น มวย และเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง ข้อเขียนต่างๆของท่าน เช่น ความเชื่อทางไสยศาสตร์ในภาคใต้ สองเกลอ ช้างเผือกงาดำ หัวล้านนอกครู ศิษย์เจ้าคุณ มวยไทย เชื่อเครื่อง กรุงชิง เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่องกรุงชิงนั้น ท่านเล่าว่าเป็นเรื่องที่ท่านเขียนทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันตามพระบรมราชโองการ และต่อมามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีได้ขออนุญาตนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ใน "รูสมิแล" วารสารของมหาวิทยาลัยปีที่ 6 ฉบับที่ 3 เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม พ.ศ. 2526 งานเขียนของท่านส่วนมากจะลงพิมพ์ใน สารนครศรีธรรมราช หนังสืองานเดือนสิบวิชชา (วารสารทางวิชาการของวิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช) รูสมิแล (วารสารทางวิชาการของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) และหนังสือที่ระลึกในโอกาสต่าง ๆ ของโรงเรียนและหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมทั้งเป็นผู้ริเริ่มให้มีการบวงสรวงพระธาตุนครศรีธรรมราช อันเป็นที่มาของการสร้างจตุคามรามเทพรุ่นแรกในปี พ.ศ. 2530 ด้วย

ในด้านชีวิตครอบครัว ขุนพันธ์ฯ มีภรรยาคนแรกชื่อ เฉลา ตอนนั้นท่านมีอายุได้ประมาณ 30 ปี ขณะที่รับราชการอยู่ที่จังหวัดพัทลุง มีบุตรด้วยกัน 8 คน ต่อมาภรรยาเสียชีวิต ท่านจึงได้ภรรยาใหม่ชื่อ สมสมัย มีบุตรด้วยกัน 4 คน
งานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช

        กว่าจะมาเป็นพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่เราท่านรู้จักได้ต้องผ่านการทำความดีไว้มากมายใช่ว่าจะเลียนแบบกันง่ายๆครับ ต่อไปผมจะนำข้อมูลการจับผู้ร้ายมาให้ชมในตอนหน้านะครับ

ที่มาของข้อมูล : วิกิพีเดีย
นำรูปภาพจากองค์จตุคามดอทคอม www.ongjatukarm.com

79
ศิษย์พี่บางท่านของสายพ่อทองจะมีที่ด้านหลังครับ อาจารย์ต้อยท่านที่สักให้ผมก็มีด้านหลัง แต่ผมหลังไม่มีพื้นที่ว่างขนาดยันต์นี้ได้จึงขอวางด้านหน้าครับ

80
      เป็นยันต์ตระกร้อครับ ซึ่งอาจารย์ต้อยท่านเมตตา ซึ่งอาจารย์ต้อยท่านรับเข็มกับพระอาจารย์วิรัช สายพ่อทองตลาดพลู อาจารย์ต้อยอยู่ข้างวัดกำพร้า สมุทรสาคร

81
อยากให้ลงเกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่านขุนพันธ์ด้วยครับ
เท่าที่ได้ยินก็ เป็นเจ้าพิธืจตุคามปี 30 อันโด่งดัง แต่ผมไม่มีที่ผมมีก็ เหรียญปิดตาพังพระกาฬ นวโลหะ ปี 32


ขอบคุณครับ ผมชอบมากที่ได้อ่านประวัติของบุคคลที่ควรยกย่องเช่นนี้ :053:
กระผมจึงอยากที่รู้ถึงประวัติและคุณความดีของคนที่น่านับถือเช่นพลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช  

พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดชนี่สิของจริงและยากที่จะมีคนไหนเลียนแบบได้

82
       ปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ  เสือ หลวงพ่อปาน หนุมาน หลวงพ่อสุ่น  วัวธนู หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง เบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง
     ใจจริงผมก็อยากมีไว้มี 2 เหตุผลที่ไม่สามารถหามาบูชาได้ 1.ราคาสูง แต่ไม่ใช่แพง 2.ไม่รู้ว่าของจริงนั้นดูที่ตรงไหน เป็นอะไรที่ดูยากมากๆครับ
        หากพูดถึงวัวธนูก็มีทางเลือกที่ดีครับผมก็ไปบูชาวัวธนูของวัดกลางบางพระที่หลวงพ่อพุตที่สร้างไว้ อันนี้ทันหลวงพ่อแน่นอน ขอบคุณท่าน สัวัจชัยนะครับ ที่นำให้อ่านเพิ่มความรู้นะครับ

83
นี่รูปท่านเกษตร รึนี่!!!!! หน้าเหมือนชาคิตเลย

84


ขุนพันธรักษ์ราชเดช
            พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446-5 กรกฎาคม พ.ศ. 2549) อดีตนายตำรวจชื่อดังของวงการตำรวจไทย ซึ่งท่านมีชื่อเสียงเป็นอันมากในการปราบโจรร้ายในภูมิภาคต่างๆของไทย ในภาคกลางเช่น เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสืออ้วน เสือดำ เสือไหว เสือมเหศวร ที่พัทลุง ปราบ เสือสังหรือเสือพุ่ม ที่นราธิวาส ปราบผู้ร้ายทางการเมือง ในปี พ.ศ. 2481 หัวหน้าโจรชื่อ ?อะเวสะดอตาเละ? จนท่านได้ฉายาว่าจากชาวไทยมุสลิมว่า ?รายอกะจิ? ซึ่งแปลว่า อัศวินพริกขี้หนู จากผลงานที่ท่านสามารถปราบโจร เสือร้ายต่างๆ ได้มากมาย จึงได้รับฉายา ดังต่อไปนี้
-นายพลตำรวจหนังเหนียวผู้จับเสือมือเปล่า
-นายพลตำรวจหนวดเขี้ยว
-ขุนพันธ์ฯ ดาบแดง (เชื่อกันว่าเป็นดาบที่ตกทอดมาจาก พระยาพิชัยดาบหัก ฝักดาบมีถุงผ้าสีแดงห่อหุ้ม ตัวดาบมีความคมกล้ายิ่งนัก )
-รายอกะจิ (อัศวินพริกขี้หนู) ฯลฯ
-จอมขมังเวทย์
ประวัติ
พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช หรือชื่อเดิมว่า บุตร พันธรักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ที่บ้านอ้ายเขียว หมู่ที่ 5 ตำบลดอนตะโก อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายอ้วน นางทองจันทร์ พันธรักษ์ เริ่มเข้าเรียนในชั้นประถมปีที่ 1 ที่โรงเรียนวัดสวนป่าน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เนื่องจากท่านมีความรู้ในวิชาเลขและหนังสืออยู่แล้วก่อนที่จะเข้าโรงเรียน ดังนั้นเมื่อเข้าเรียนในชั้นประถมปีที่ 1 ได้ 1 วัน ทางโรงเรียนก็เลื่อนชั้นให้เรียนในชั้นประถมปีที่ 2 และวันรุ่งขึ้นก็เลื่อนชั้นให้เรียนชั้นประถมปีที่ 3 เป็นอันว่าท่านเข้าโรงเรียนได้เพียง 3 วัน ได้เลื่อนชั้นถึง 3 ครั้ง
เมื่อครั้งเรียนชั้นประถมปีที่ 3 โรงเรียนบ้านสวนป่าน มีพระภิกษุอินทร์ รัตนวิจิตร เป็นผู้สอน เรียนอยู่ประมาณ 2 เดือน โรงเรียนนั้นก็ถูกยุบ ท่านจึงเข้าเรียนในชั้นเดิม ที่โรงเรียนวัดพระนคร ตำบลพระเสื้อเมือง (ปัจจุบันคือตำบลในเมือง) อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช มีครูเพิ่ม ณ นคร เป็นครูประจำชั้น เรียนจบชั้นประถมปีที่ 3 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน ในปี พ.ศ. 2456 ได้เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมปีที่ 1 ที่โรงเรียนวัดท่าโพธิ์ (โรงเรียนเบจมราชูทิศในปัจจุบัน)
พอเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 ได้ไม่กี่เดือนก็ต้องออกจากโรงเรียนเพราะป่วยเป็นโรคคุดทะราด ต้องพักรักษาตัวปีกว่า เมื่อหายจึงคิดจะกลับมาศึกษาต่อที่โรงเรียนเดิมแต่ปรากฏว่าเพื่อนๆ ที่เคยเรียนด้วยกันเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และปีที่ 3 แล้ว จึงเปลี่ยนใจเดินทางเข้าไปศึกษาที่กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2459 โดยไปอยู่กับพระปลัดพลับ บุณยเกียรติ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้า ที่วัดส้มเกลี้ยง (วัดราชผาติการาม) ได้เรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร (โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตรในปั้จจุบัน)ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ขณะเรียนที่โรงเรียนนี้ท่านได้เรียนวิชามวย ยูโด และยิมนาสติกจากครูหลายคน เช่น ครูย้อย ครูศิริ ครูนก ครูมณี จนมีความชำนาญในเชิงมวย ท่านสอบไล่ได้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 ในปี พ.ศ. 2467
ต่อมาในปี พ.ศ. 2468 จึงได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจห้วยจระเข้ จังหวัดนครปฐม ขณะที่เรียนได้เป็นครูมวยไทยด้วย เรียนอยู่ 5 ปี สำเร็จหลักสูตรในปี พ.ศ. 2472
พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นคนสุดท้ายของประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานทินนาม ซึ่งพลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ถึงแก่อนิจกรรมด้ายโรคชรา ในวันที่ 5 เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช 2549 เวลา 23.27 น. ที่บ้านเลขที่ 764/5 ซ.ราชเดช ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
การทำงาน
ในชุดเจ้าพิธีกรรมในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราชหลังจากจบการศึกษาแล้ว ทางราชการได้แต่งตั้งให้ไปรับราชการในตำแหน่งนักเรียนทำการนายร้อย ที่กองบังคับการตำรวจภูธรมณฑลนครศรีธรรมราช ประจำจังหวัดสงขลา ในปี พ.ศ. 2473 เป็นนักเรียนทำการอยู่ 6 เดือน ได้เลื่อนยศเป็นว่าที่ร้อยตรี
ในปี พ.ศ. 2474 ได้ย้ายมาเป็นผู้บังคับหมวดที่กองเมืองจังหวัดพัทลุง ที่พัทลุงนี่เองท่านได้สร้างเกียรติประวัติในตำแหน่งหน้าที่ จนเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงราชการและคนทั่วไป โดยการปราบปรามผู้ร้ายสำคัญของจังหวัดพัทลุง คือ เสือสัง หรือเสือพุ่ม ซึ่งเป็นเสือร้ายที่แหกคุกมาจากเมืองตรัง ขุนพันธรักษ์ราชเดช เล่าว่า เสือสังนี้มีร่างกายใหญ่โต ดุร้าย และมีอิทธิพลมาก มาอยู่ในความปกครองของกำนันตำบลป่าพยอม อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง นอกจากนั้นแล้วยังมีคนใหญ่คนโตหลายคนให้ความอุ้มชูเสือสัง จึงทำให้เป็นการยากที่จะปราบได้ แต่ท่านก็สามารถปรามเสือสังได้ในปีแรกที่ย้ายมารับราชการ โดยท่านไปปราบร่วมกับ พลตำรวจเผือก ด้วงชู มี นายขี้ครั่ง เหรียญขำ เป็นคนนำทาง การปราบปรามเสือสังครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงของท่านโด่งดังมาก ตอนนั้นจเรพระยาศรีสุรเสนา ไปตรวจราชการตำรวจที่พัทลุงพอดี ผู้ปราบเสือสังจึงได้รับความดีความชอบ คือ ว่าที่ร้อยตำรวจตรีบุตร พันธรักษ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นร้อยตำรวจตรี พลตำรวจเผือก ชูด้วง เป็นสิบตรี และนายขี้ครั่ง ได้รับรางวัล 400 บาท
หลังจากนั้นมาอีก 1 ปี ท่านก็ได้ปราบผู้ร้ายสำคัญอื่นๆ 16 คน เช่น เสือเมือง เสือทอง เสือย้อย เป็นต้น ด้วยความดีความชอบ จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช" และในปี พ.ศ. 2478 ได้รับเลื่อนยศเป็นนายร้อยตำรวจโท และในปีนี้ได้อุปสมบทที่วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีท่านเจ้าคุณรัตนธัชมุนี (แบน) เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชอยู่ได้ 1 พรรษา จึงลาสิกขา ในปี พ.ศ. 2479 ท่านได้ย้ายไปเป็นหัวหน้ากองตรวจ ประจำกองบังคับการตำรวจภูธรมณฑลนครศรีธรรมราช ประจำจังหวัดสงขลา ได้ปราบโจรผู้ร้ายหลายคน
การปราบโจรครั้งสำคัญและทำให้ท่านมีชื่อเสียงมากคือ การปราบผู้ร้ายทางการเมืองที่นราธิวาส ในปี พ.ศ. 2481 หัวหน้าโจรชื่อ "อะแวสะดอ ตาเละ" นัยว่าเป็นผู้ที่อยู่ยงคงกระพัน เที่ยวปล้นฆ่าเฉพาะคนไทยพุทธเท่านั้น ในที่สุดก็ถูกขุนพันธ์ฯ จับได้ ท่านได้รับการยกย่องจากทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมเป็นอันมาก ท่านจึงได้รับฉายาจากชาวไทยมุสลิมว่า "รายอกะจิ" หรือแปลว่า "อัศวินพริกขี้หนู" และได้เลื่อนยศเป็นร้อยตำรวจเอกในปีนั้นเอง พ.ศ. 2482 ขุนพันธ์ฯ ได้ย้ายมาเป็นผู้บังคับกองเมืองพัทลุง ปี พ.ศ. 2485 ย้ายเป็นรองผู้กำกับการตำรวจภูธรที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ปราบปรามโจรหลายราย รายสำคัญ คือ เสือสาย และเสือเอิบ
ขุนพันธรักษ์ราชเดช ถือดาบและเหน็บกริช แสดงลายนายตำรวจมือปราบหนวดเฟิ้มหลังจากนั้นขุนพันธ์ฯ ได้ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดในภาคอื่น คือ ในปี พ.ศ. 2486 ได้ย้ายไปเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรที่จังหวัดพิจิตร ได้ปฏิบัติหน้าที่มีความดีความชอบเรื่อยมา และได้ปราบปรามโจรผู้ร้ายมากมาย ที่สำคัญคือการปราบ เสือโน้ม หรืออาจารย์โน้ม จึงได้รับพระราชทานยศเป็นพันตำรวจตรี พ.ศ. 2489 ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท ได้ปะทะและปราบปรามเสือร้ายหลายคน เช่น เสือฝ้าย เสือย่อง เสือผ่อน เสือครึ้ม เสือปลั่ง เสือใบ เสืออ้วน เสือดำ เสือไหว เสือมเหศวร เป็นต้น กรมตำรวจได้พิจารณาเห็นว่า ผู้ร้ายในเขตจังหวัดชัยนาทและสุพรรณบุรี ชุกชุมมากขึ้นทุกวันยากแก่การปราบปรามให้สิ้นซาก จึงได้ตั้งกองปราบพิเศษขึ้น โดยคัดเลือกเอาเฉพาะนายตำรวจที่มีฝีมือในการปราบปรามรวมได้ 1 กองพัน แต่งตั้งให้ พ.ต.ต. สวัสดิ์ กันเขตต์ เป็นผู้อำนวยการกองปราบ และ พ.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นรองผู้อำนวยการ กองปราบพิเศษได้ประชุมนายตำรวจที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2489 เพื่อวางแผนกำจัดเสือฝ้าย แต่แผนล้มเหลว ผู้ร้ายรู้ตัวเสียก่อน ขุนพันธ์ฯ ได้รับคำสั่งด่วนให้สกัดโจรผู้ร้ายที่จะแตกเข้ามาจังหวัดชัยนาท
ครั้งนั้นขุนพันธ์ฯ ใช้ดาบเป็นอาวุธคู่มือแทนที่จะใช้ปืนยาว ดาบนั้นถุงผ้าแดงสวมทั้งฝักและด้าม คนทั้งหลายจึงขนานนามท่านว่า "ขุนพันธ์ดาบแดง" ฝีมือขุนพันธ์ฯ เป็นที่ครั่นคร้ามของพวกมิจฉาชีพทั่วไป แม้แต่เสือฝ้ายเองก็เคยติดสินบนท่านถึง 2,000 บาท เพื่อไม่ให้ปราบปราม แต่ขุนพันธ์ฯ ไม่สนใจ คงปฏิบัติหน้าที่อย่างดีจนปราบปรามได้สำเร็จ ท่านอยู่ชัยนาท 3 ปี ปราบปรามเสือร้ายต่างๆ สงบลง แล้วได้ย้ายมาเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรที่อยุธยา อยู่ได้ประมาณ 4 เดือนเศษก็เกิดโจรผู้ร้ายชุกชมที่กำแพงเพชร ขณะนั้นเป็นระยะเปลี่ยนอธิบดีกรมตำรวจ และขุนพันธ์ฯ ก็ถูกใส่ร้ายจากเพื่อนร่วมอาชีพว่าเป็นโจรผู้ร้าย พล.ร.ต. หลวงสังวรยุทธกิจ อธิบดีกรมตำรวจยังเชื่อมั่นว่าขุนพันธ์ฯ เป็นคนดี จึงโทรเลขให้ไปพบด่วน และแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อปี พ.ศ. 2490 ขุนพันธ์ฯ ได้ปรับปรุงการตำรวจภูธรของเมืองนี้ให้มีสมรรถภาพขึ้น และได้ปราบปรามโจรผู้ร้ายต่างๆ ที่สำคัญคือ เสือไกร กับ เสือวัน แห่งอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ทำให้ฝีมือการปราบปรามของขุนพันธ์ฯยิ่งลือกระฉ่อนไปไกล

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ

ปล.จากที่ได้อ่านเกียรติประวัติขุนพันธรักษ์ราชเดชแล้วได้ข้อคิดดีหลายอย่าง แต่ เนื้อหามีความยาวมากๆขอแบ่งเป็นตอนๆนะครับ

[shake]ที่มาของข้อมูล:http://go.microsoft.com/fwlink/?LinkId=74005[/shake]

85
แหมผมกับหยกก็รีบไปแล้วนะยังไม่ทันอีก ท่านสุวัจชัย มาก่อนเวลานัด แล้วกับเร็วอีกนะน่าจะยกความผิดให้ BTS ที่สร้างยังไม่ถึงแยกท่าพระไม่งั้นคงได้กิน ฟูจิ ฟรีแล้ว 666

86


ไม่ต้องมองมาก ตั้งใจหน่อยน้องลีลาวดี



อ้าวพี่เราได้ผ้ายันต์แม่พิมพ์จากใครครับนี่มีลายมือหลวงพ่อด้วยบอกมาเลยนะ



ว้าว น่าจะครบทุกวัดเลยนะพี่นะ สุดยอดจริงๆ



ระหว่างรอฝั่งเข็ม อ่ะโพส นั้นนาฬิกาใหม่ยี่ห้ออะไรพี่สาว



ตาเราแล้ว เจ็บนิดๆนะครับ เราก็เป็นศิษย์ พระอาจารย์หนุ่ม และ อาจารย์ประคองแล้วสิครับงานนี้มาแล้วคุ้มจริงๆ
   ขอทำความเข้าใจก่อนนะครับ มีหลายครั้งที่พี่น้องชาวเว็บขอให้ผมไปถ่ายรูปนั้นรูปนี้ให้ ซึ่งยินดีมากๆและต้องบอกก่อน ว่าไม่ใช่มืออาชีพนะครับแค่ชอบเก็บภาพงานที่ไปร่วม ซึ่งมีหลายคนเข้าใจผิดว่าผมจะไปตามถ่ายรูปคนๆนั้น บอกได้เลยว่าผมจะถ่ายในสิ่งที่ควรถ่ายและคนที่ควรถ่าย ผมรู้ว่าอะไรควรไม่ควร สิทธิ์ของคนผมก็รู้ผมก็คน คนเราศักดิ์ศรีสร้างได้ แต่เกียรติเป็นสิ่งที่ผู้อื่นมอบให้ จงเก็บเกียรตินั้นไว้ให้เป็นเกียรติ อย่าให้กลายเป็นเกียจ เลยท่าน ไม่ต้องมาห้ามถ่ายรูปท่าน กันอีกนะครับ ไม่เข้าใจเลย คิดไปได้ไงว่าผมอยากไปถ่ายท่าน งงมากๆ บางทีการนำเสนอของผมอาจไม่เข้าตาบางท่านแต่ก็มีหลายท่านเข้าใจ นั้นผมก็พอใจเป็นอย่างมาก จุดประสงค์การนำเสนอของผมไม่ใช่แสดงว่า ผมได้ไปร่วมงาน ผมอยากถ่ายทอดบรรยากาศงานโดยร่วมเท่าที่จะทำได้ จึงขอแจ้งให้บางท่านเข้าใจด้วยเพราะมีหลายกลุ่มที่ผมได้คุยได้เจอตามงานต่างๆเข้าใจแล้วครับ
                                                                                                                                       ชลาพุชะ

87
    งานบูชาครูเข็มทอง หลวงปู่พิมพ์มาลัย โดยพระอาจารย์มนตรี ฐิตโสภโณ (พระอาจารย์หนุ่ม) และอาจารย์ประครอง ณ. วัดบางแวก ปีนี้ ตรงกับ แรม 10 ค่ำเดือน 9 ปีฉลู หรือ วันที่ 16 สิงหาคม 2552



เป็นครั้งแรกของผมครับ เป็นบุญเหลือเกินที่ได้มาร่วมพิธี จะได้ฝังเข็มไหมนี่คนเยอะมากๆเลยครับ
เอาพี่สาวเราวันนี้มาก่อนเราอีกนะนี่ อ่ะๆพาไปหน่อยไปไม่ถูกขอสักรูปนะพี่นะเดี๋ยวว่าไม่ได้มาฮิฮิ เอ้าเซสวีส










กราบนมัสการพระอาจารย์ญา กราบนมัสการหลวงพี่ตูน และ กราบนมัสการพระเก่งด้วยนะครับ รับนำมนต์จากพระอาจารย์ญา สดชื่น เฮงๆนะครับ





อาจารย์ประคองเริ่มฝังเข็มแล้วครับ


งานนี้พี่สาวเราฝัง ตะกรุด  3 อย่าง ทั้ง สาลิกา ตัวผู้ตัวเมีย เสน่ห์มอญอีก ว้าวๆๆๆ แรงไปไหมพี่ จะเอาอยู่ไหม.........หุหุ ทำมาน้ำคาซึมเปลี่ยนใจก็ไม่ทันแล้ว เจ็บ 3 ที แป๊บๆ ดูที่ตาอ้อนคนที่ฝังน่าดูอ้อนยังไงก็เจ็บครับพี่ๆๆๆๆๆๆๆ [/size]
มีต่ออีนะครับ
1/2

88
ผมไม่แปลกใจหรอกครับ ว่าทำไมพี่โชว์ถึงได้ไปต่างประเทศ และได้กราบพระที่ดังๆอยู่บ่อยๆ เพระผลบุญของพี่ที่ได้ทำไว้นั้นเอง ขอให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปนะครับ... (แอบติดตามผลงานของพี่อยู่เสมอ) :058:
:008:

ขอบคุณค่ะ...โรนัลโด....โทษฐานที่แอบติดตามผลงานที่อยู่เสมอ(ผลงาน :074:) มารับผ้าผันต์มหาเสน่ห์ไปเลย 1 ผีน
ส่งที่อยู่มาเลย..เด่วจาดให้... แบบอยากให้เฉยๆ หงะ..มะมีไรมากมาย..เนื่องในเทศกาล ควันหลงวันแม่...+ อารมณ์ดีหงะ!  :004::004: อย่าชมเยอะ เด่วคนจาหม่านไส้ :008:

งานนี้ขอรุมท่าน Ronaldo 2007 โดยการขอมอบ หลวงปู่ทวดหลังจตุคามรามเทพ รุ่น หัวใจเศรษฐีเสวยสุข ที่ หลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว เป็นเจ้าพิธี จัดสร้าง โดย สำนักปฎิธรรม พระธาตุหนองพลวง ต. โคกกลาง อ. ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์  ครับเจ้านาย

89


ชอบภาพนี้มากลดอายุไปหลายปีเลยพี่เรา



ฮิฮิ 08;พี่โชว อยากมีน้องเขยเป็นศิษย์ร่วมสำนักไหม 18; 20;

ขอบคุณพี่สาวมากๆ ที่นำโลกกว้างมาให้ชม

90
ขอกราบนมัสการหลวงพ่อคูณ หายจากอาการอาพาธไวไวนะครับ

91

ของชุดนี้ได้มาก็ไม่นานเลยไม่รู้ว่าใช่ของที่หลวงปู่อั๊บท่านสร้าง รึปลุกเสกไหม
เป็นภาพที่คลี่ตะกรุดออกมาเพื่อขอดูลายมือครับ เป็นตะกรุดขวาล่าง

92
          ต่ำลงมาเป็นสาริกาครับ แต่ ลงมาอีกไม่รู้เหมือนกันเดายาก แล้วพระอาจารย์ รูปใด หรือ อาจารย์ ท่านใดเมตตาครับ สวยดี นะครับ นี่ขนาดน้ำมันนะครับ

93
       ตามที่ผมเคยไปเมื่อเข้าพรรษาที่ผ่านมาจึงมีข้อมูลและขอเพิ่มเติมท่านโคมแก้วนะครับ ที่วัดนี้ จะมี จุดไหว้ ทั้งหมด 5 จุด ทุกจุดได้มีเขียนป้าย บอกราคาตายตัวหากทำตามครบทุกจุด จะต้องใช้เงิน 1500 บาทขึ้นไปต่อคน แต่ขอบบอกก่อนว่าทางวัดไม่ได้บังครับนะครับ แล้วแต่ใครจะทำไม่ทำก็ได้ หากจะทำเพียงจุดเดียวซึ่งของไหว้ก็จะไม่ครบในจุดนั้นๆก็ 100-200 บาท แต่หากจะให้ครบเพียงจุดเดียว 300บาทครับ หากท่านไปบอก ทำ 100 จะได้คำแนะนำแบบชนิดที่ท่านไม่เคยได้เจอที่ไหน ลองดูได้

(1)จุดแรกหากจะถวายเครื่องเซ่นไหว้ ธูปเทียน กระดาษคนละ 300 ครับ

(2)จุดแก้ปีชง เขียนชื่อ ให้ทางวัดทำพิธี ชุดนี้ 300 บาทครับ

(3)จุดนี้เป็นจุดไหว้พระประธาน 3 องค์ ธูปเทียนหากซื้อชุดเล็ก ธูปเทียนจะปักไม่ครบทุกจุดชุดใหญ่300 บาท ครับจะมีเทียนสีแดงในขวดด้วย


(4)จุดนี้ไหว้เจ้าแม่กวนอิมครับ มีชุด ไหว้ 3 ราคาเหมือนเดิม

(5)จุดนี้จะอยู่ ชั้นล่างสุดครับ 3 ราคาเช่นกัน จะมีเทียนไปลอยให้ ที่เจ้าแม่กวนอิมครับ
จุดทุกจุดที่กล่าวมาทางวัดไม่ได้บังคับทำบุญแต่ประการใด เราจะไปไหว้มือปล่าวก็ได้ เพียงแต่มันก็ราคาสูงจริงๆหากจะไหว้ให้ครบทุกจุดครับ
ต้องขอขอบคุณท่านโคมแก้วสำหรับภาพสวยๆนะครับ

94
หลวงพี่ท่านเมตตากับศิษย์ทุกคน  



95
หลังสวยดีครับ ได้รับการเมตตาจากที่ไหนมาครับ

96
กราบนมัสการหลวงปู่ ครับ
                                ขอบคุณข้อมูลและภาพนะครับ

97
มาทีเป็นชุดเลยนะท่านนก ขอขอบคุณทุกๆภาพจากทุกๆท่านครับ

98
มาทีเป็นชุดเลยนะท่านนก ทุกๆภาพจากทุกๆท่านครับ

99
           ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ขอให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า
                                                                                                                 นายศักดา คงทิม

100
ของดีอยู่คู่คนดีครับ

101
อยากไปด้วย ครับ ใครรู้บอกเส้นทางด้วยครับ :054:
บ้านท่านอยู่แถวไหนครับจะได้บอกถูก หากบ้านท่านอยู่สุทธิสาร (ตามชื่อ 666) มาเจอกันที่อนุสาวรีย์ฯ ไหม จะได้นั่ง 108ไปกัน หากอยากมีเพื่อนร่วมเดินทางพีเอ็มมานะครับ

102
กราบนมัสการหลวงปู่ครับ

103
จะพยายยามเป็นคนดีให้ได้ครับ ขอบคุณข้อมูลนี้มากๆครับ

104
เกจิระดับประเทศในสมัยนั้นเลยนะครับแต่ยอมรับว่ารู้จักบางรูปเท่านั้น หรือ บางรูปก็ไม่รู้จักชื่อจริง ขอบคุณมากๆครับข้อมูลดีเยี่ยมเลย

105
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ

107
บทความ บทกวี / ตอบ: ภรรยา 4 คน
« เมื่อ: 04 ส.ค. 2552, 08:50:42 »
คิดได้ไงเนี่ย

110
สวยดีครับ แต่น่าจะลบชื่อศูนย์พระสักหน่อย หากทีผู้ใหญ่ดูแล้วเหมือนโฆษณา แล้ว ลบกระทู้ก็จะเสียดายกระทู้ที่มีภาพดีๆไปครับเป็นห่วง

111
สวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ

112
กราบนมัสการ และ ขอน้อมเอาไปปฏิบัติ

113
ยินดีด้วยที่ได้ของดีอยู่คู่กายไปตลอดชีวิตครับ

114
ของที่ไหนครับ

115
          20;พี่สาวครับ หากเรามีโอกาสทางการเงินที่ดีก็แบ่งบันให้น้องเค้าคงไม่เป็นไรมั่งครับ 18; (เลี้ยงน้องโค)ดูน้องเค้าอดๆอยากๆผอมๆกันทุกคนเลย สงสารน้องเค้าพี่ 20;

116
กราบนมัสการครับ

117
สำนักสักยันต์ อ.ถึง คงทน ซอยเอกชัย109 ปากทางหมู่บ้านพระปิ่นห้า ถนนเอกชัยบางบอน

118
เสียใจมากที่ไม่ได้ไป แต่ก็ต้องทำใจครับติดภาระกิจ อยากได้เห็นภาพจังเลย

119
ขอบคุณสำหรับภาพดีๆครับ
              หากพูดถึงเรื่องงดเหล้า กระผมขอเลิกเพื่อถวายหลวงพี่ญาเลยครับ ตั้งแต่วันที่ท่านสักเกราะเพชรให้ นี่ไม่ดื่มเหล้าเลย

120
นึกว่าไปเอามาใหม่ กำลังจะงอนเลย รอยเดิมนี่เอง มาเอาอีกซักรอยนะพี่ งานหน้าไปเอาอะไรบอกด้วย ขอเกาะล้อไปด้วยนะ

121
เสือสวยมากครับ หมูก็สวยดีครับ ยินดีด้วย

122
ให้ผู้รู้รู้เค้า ถกกันไปกระผมอ่านแล้วตาลายเลยครับ ยาวต่อยาวผมอ่านแล้วเข้าใจได้ยากตามประสา กระผมก็ขอบคุณครับ ยาวได้ใจเลย

123

ของไหว้ เป็น ของดำ 8อย่างทางวัดได้จัดเตรียมไว้ให้ สะดวกมากๆครับ

คาบหญ้าไปทำรังบนนี่เลยนะ น้องนก จะดีไหมนี่ดูปลอดภัยมากเลยนะน้อง

พี่สาวคือว่าไม่ได้เอาตังห์มานะครับ บางอย่างน้องก็อยากได้นะ   ไม่ไม่!!!เธอไม่ต้องมายุ่งกับฉัน:070:


งั้นขอจบกระทู้นี้ ขอบคุณที่ติดตามครับ มีกล้อง 2 ตัว อีก 1 อยู่กับพี่สาว ช่วยลงรูปด้วยนะ

124

ตั้งหน้าตั้งตาไปตั้งแต่ 05.00 น. ตามภาพฟ้าปิดมุมไหนๆก็ไม่เห็นดวงอาทิตย์ สุริยุราคาแท้ๆ
         ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอไปไหว้พระราหูที่วัดศรีษะทอง ซักหน่อยวันนี้วันดี ตามเคยโทรหา เจ๊โชวน้องหยก งานนี้เจ๊ไปได้น้องหยก บาย งานเยอะครั้งนี้ปล่อย 2 แก่ลุย เอเอางี้ชวนอาจารย์เหน่งไปดีกว่า ท่านว่างไหมโทรหาก่อน อ้าวว่างดีเลยเอ้าไปเลยพี่โชวลุย


วัดคนเยอะมากๆหาที่จอดรถอย่างยากเลย



วัดสวยนะครับมาครั้งแรกด้วย



ไหว้หลวงพ่อน้อย ทำสังฆทานก่อนไปกราบพระราหู



ต่อด้วยไหว้พระราหู

1/2
ยังมีต่อนะครับขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อย

125
คุณชลาพุชะเดียวกับกับที่บอร์ดอาจารย์เหน่งไหมครับ พอดีกำลังศึกษาข้อมูลสำนัก อ.ประโยชน์ครับ  ทำงานอยุ่แถวอโศก เพื่อจะได้แวะไปหาท่านครับ แนะนำผมบ้างครับ ยินดีได้รุ้จักครับ

http://www.meeboard.com/view.asp?user=arjanneng&groupid=2&rid=87&qid=83
มีอะไร พีเอ็มมาก็ได้ครับ หากตอบได้ก็จะตอบหากตอบไม่ได้ก็จะไปค้นขว้าให้นะครับ ผมก็ศิษย์รุ่นหลังๆครับ

126
ไปที่วัดเลยท่านกุฏิใหญ่ ไปถามพระที่หน้าตู้เลยผมยังเห็นมีอยู่นะ ของแท้แน่นอน

127
ก็เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ คล้องพระ ทำดี คิดดี พูดดี ก็ได้ดีครับ

128
1.หนุมานเกี้ยวนางสุพรรณมัจฉา
2.ยันต์ลงมงคลวิเศษ
ส่วนอีก 3 ยันต์ที่เหลือต้องรอผู้ที่มีความรู้กว่าผมนะครับ


129
ไม่ได้ไปเป็น 10 ปีแล้วครับ โอ้วเปลี่ยนไปเยอะนะครับ สวยมากๆเลย ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมนะครับ

130
กรานมสัการหลวงพ่อ ด้วยจิตศรัทธายิ่งแล้ว
                                         ขอบคุณท่าน เสือไฟที่เอาเรื่องราวดีๆมาเล่าให้ฟัง เอาเหรียญ ปี 19 ไปแจกตอนนั้นผมยังไม่เกิดเลย

131
ขอบคุณลุงต้อที่นำของดีมาให้ชมนะครับ

132
กราบนมัสการครับ มาแบบมีสาระเช่นเดิม ได้อ่านอะไรที่ทำให้ประเทืองปัญญาเพราะหลวงพี่ทุกครั้งไป

133
ยาวดีครับ อ่านเพลินเลย ขอบคุณนะครับ

134
              หากเป็นผม ต้อง ดู ว่าใครเป็นผู้ปลุกเสก ใครเป็นเจ้าพิธี วัดไหนเป็นหลักครับ แล้วสุดท้ายต้องดูเงินในกระเป๋า ว่าพอบูชาไหม บางที่ของบางอย่างอยากได้มากแต่เหลือกำลัง ก็ไม่บูชา
              ก็ดั่งท่านว่า บางคนมือไม่ถึง หรือ ยังไม่ถึงขั้น ได้ปลุกร่วมปลุกเสกเฉยอาศัยเกาะดังหรือไม่ก็วัดหาใครไม่ได้รึปล่าว ผมก็งงๆ ขำๆอย่าคิดมากเลยท่าน ไม่เชื่อก็ไม่ต้องบูชานะท่าน หลับฝันดี เสาร์นี้ เจอกัน ที่ 66

              

135
แหมๆๆๆ ยอมรับว่ารองเท้าสวยแต่อย่าลืม นันยาง ที่คำมีโฆษณา"เค้าเก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อแล้วนะ" ของไทยแท้จะได้ ส่งเสริมการกินใช้สินค้าไทย และอย่าลืมกินลำใยช่วยชาตินะครับ

136
สรุปว่าไงนี่รูปนี่พี่โชวเคลียเลย ตามที่รู้จักพี่มา ผมว่าพี่คงคิดได้อยู่มั่ง ว่าอะไรเหมาะสมไหม แต่อยากรู้ เคลียด่วน


138
ต้องขออภัยที่ให้ข้อมูลไม่ได้จริงๆนะครับ ไปที่วัดบางพระเลยครับ ได้ของแท้แน่นอน

139
ชอบมีดหมอเหมือนกัน ครับ
ที่วางไว้ให้บูชา ทันหลวงพ่อเปิ่นปลุกเสกหรือหรือเปล่า ครับ
ท่านใดพอทราบรายละเอียดมีหมอของทางวัดบางพระบ้าง ครับ


ผมเคยสร้างกระทู้ไว้แล้วครับ หากยกข้อมูลและภาพมา จะกลายเป็น ทับซ้อนกระทู้ไปhttp://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,11038.html

140
ป้ายสวยดีครับผู้การ จุดวางก็เยี่ยม

141
ท่านผู้การสมกับเป็นตัวอย่างที่ดีกับชนรุ่นหลังจริง มาแต่ล่ะที่นี่สุดยอด รอชมกระทู้ต่อไปนะครับ

142
หากเป็นเขี้ยวกระผมต้องยกให้ท่านแล้ว ท่าน levis  มาให้ดูแต่ละชิ้นงามๆทั้งนั้นเลยนะครับ
 
 

143
ถ่ายออกมายังผมก็ดู  [shake]ผู้ร้ายเห็นๆ[/shake][/glow][/size]
บางมุมผมชอบมากเลย ถ่ายได้ดีนะ ไม่ได้แกล้งชมพี่สาวนะถ่ายออกมาได้สวยดีจริงๆ

144
ผมก็มองผ้ายันต์อยู่ครับ ตรงตามใจผมเลย ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตัดสินใจ เลิกงานไปมหาชัยหาลุงพงษ์ขอรับผ้ายันต์กลับบ้านครับ

145
   วันนี้ลุงพงษ์ท่านนำของ 2 สิ่งมาให้ดู แล้วบอกให้กลับไปคิด 1 คืนจะเอาอะไร งานนี้กระผมต้องขอพึ่งความรู้ของทุกท่านช่วยผมด้วยว่าผมจะเอาอะไรดีครับ
1.ผ้ายันต์

ยันต์นี่หากจำไม่ผิดน่าจะรุ่น 1
2.เสือแกะ ทำจากเรซิ่ง




มีรูปหลวงพ่อเปิ่น ด้านหลัง ครับ
     งานนี้ต้องขอทุกๆท่านช่วยผมทีรบกวนด้วยครับ

146
ดูจากหนังและรอยสักรุ่นพ่อ ทั้งนั้นเลยนะครับ สวยงามเข็มขลังและคงเจ็บเอาการเลยนะครับ

147
           ขนาดเสือ วัวยังเข้าไปดูดนมได้ แล้ว ดูหนูยังเข้าไปดูดนมแมวได้ เมตตานี้คงเหลือประมาณเลย แปลกดีครับ เคยได้ยินแต่เพิ่งได้เห็นเป็นขวัญตาครั้งแรกเลยครับ

148
รอยสักของพี่แมวเซา น้องขอลงนะพี่นะ สวยดี อาจารย์เหน่งเมตตา พี่มากเลยนะ

149
ด้วยความเคารพครับ
  "หมายกำหนดการ"
ใช้กับพิธีการหลวงครับ
อย่างเราๆท่านๆ ใช้คำว่า"กำหนดการ"ก็พอครับ
   
อย่างไรก็ขอบคุณมากครับ
   สำหรับข่าวสาร
ขอแสดงความนับถือ

             กระผมต้องการเห็นการเตือนแบบนี้ครับ คนที่เขียนผิดจะได้รู้สึกไม่แย่ยอมรับและพร้อมปฏิติตาม ผมยินดีอย่างจริงใจ ที่จะใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องครับ ขอบคุณ ท่านGearmour  ด้วยครับ

150
งานนี้ต้องไป เจอกันในงานนะครับ

151
เชี้ยวเสือสวยดีครับ
หากไม่เข้าใจ ส่ง PM มาสอบถามก็ได้นะครับ

152
ตามนั้นเลยครับผู้รู้ให้คำตอบแล้ว

153
          ผมว่าไม่ได้แก้ปัญหาได้และทำทำอะไรให้ดีขึ้นมาได้หรอกครับ ถอดทอนไปก็สมัครใหม่ได้ ยิ่งกลายเป็นมีรายชื่อซ้ำซ้อน ในตอนนี้ บางท่านยังมีหลายชื่อเลย กลุ่มนี้ก็สร้างปัญหาไม่น้อย

154
สำนักสักยันต์ อ.ถึง คงทน ซอยเอกชัย109 ปากทางหมู่บ้านพระปิ่นห้า ถนนเอกชัยบางบอน
***ขอแก้ไขหมายกำหนดการครับ***
กำหนดการไหว้ครู สำนักสักยันต์ อาจารย์ถึง คงทน
วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๒
๗.๓๐ น.- พระสงฆ์ สวดธรรมจักร มงคลคาถา
         - พระสงฆ์ ฉันภัตตาหารเช้า
๙.๐๙ น. ?เริ่มอ่านโองการพระเวทย์
-   อาจารย์ถึง นั่งสมาธิอธิษฐานจิตทำน้ำมนต์ สวดมนต์ชุบตัว ปลุกเสกยันต์
   สวดสรรเสริญบูชาครูเลขยันต์ ครูคาถา
-   อาจารย์ถึง รดน้ำมนต์ปลุกเสก แก่ลูกศิษย์ผู้มาร่วมงาน
-   พานแรกครอบเศียรครูฤาษี โดยอาจารย์ถึง คงทน
-   พานสอง ครอบเศียร พระพิฆเนศวร์
-   พานสาม ครอบเศียร หนุมาน
-   หลังเสร็จสิ้นการครอบเศียร ใครจะขออาจารย์ลงนะหน้าทอง ปลุกเสกรายบุคคล ชุบตัวด้วยอาคมคาถา เป่ากระหม่อม ฝังตะกรุด
ไปเรียนขออาจารย์ได้ หลังจากครอบเศียรเสร็จ
ในงานมีอาหารกลางวันเลี้ยง  ของที่ระลึกงานไหว้ครูปีนี้เป็นเหรียญหลวงพ่อประเทือง (ทันหลวงพ่อปลุกเสก) และ ผ้ายันต์รูปเหมือนหลวงพ่อประเทือง
จัดสร้างโดยสำนักสักยันต์ อ.ถึง คงทน
** เริ่มจัดสถานที่เคลียร์ สถานที่สำนัก ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๕๒**
** ตั้งฉัตร วันศุกร์ ที่ ๓๑ กรกฎคม ๕๒ **
** ขึงสายสิญญ์  ติดยันต์รอบสายสิญญ์ วันที่ ๑ สิงหาคม ๕๒ **
ใครว่าง เชิญไปช่วยงานอาจารย์ได้ตามสะดวก
** ตะกรุดสำหรับฝังในงาน เหลือเพียง ๑๐ ดอก ใครต้องการเรียนขออาจารย์โดยตรง **
**  ผู้ไปช่วยงาน มียันต์พิเศษเป็นนะเมตตา สำหรับผู้มาช่วยงาน เรียนขอได้โดยตรง **

ปล.แหมๆๆๆพีโชว กว่าจะ จบป.ตรี เรายังมี อาจารย์ ตั้งเยอะ และทำไม ผมจะมี ครูบาอาจารย์หลายท่านไม่ได้

155
ทำใจเลยท่าน มาเยือน บ้านเขา กองเชียร์ เค้าเยอะ รีบไปเถิดตลาดจะวายแล้ว คงไม่มีกระทู้ทำนองนี้แล้วนะ

156
กราบนมัสการหลวงปู่ด้วย
                                                                     ขอบคุณสำหรับ ภาพและข้อความครับ

                                                                           

157
วันนี้คล้องกล้องไปไม่ไกลครับ ไปกราบขอพรที่เทวสถาน เสาชิงช้า ใกล้ๆ วัดสุทัศฯและศาลเจ้าพ่อเสือครับ

เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า โบราณสถานที่ประดิษฐานเทวรูปพระพิฆเนศ พระพรหม พระอิศวร พระนารายณ์ อันเก่าแก่ ไปทีได้ไหว้ครบเลยครับ


ที่เทวสถานนี้ไม่อนุญาติให้เข้าไปถ่ายรูปด้านใน จึงได้แค่ขอนำบรรยากาศโดยรอบมาให้ชมครับ

ไปต่อที่ศาลเจ้าพ่อเสือ ที่สามารถไดนไปได้ไม่ไกลจากเทวสถานเท่าไรนัก

ที่ศาลก็ห้ามถ่ายรูปครับเลยเก็บมาได้เท่านี้
จบทริปแบบง่ายๆครับ สวัสดี

158
              ขอเชิญบรรดาศิษย์ของอาจารย์ถึง คงทน มาร่วมงานบูชาครูในวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๒ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น. เป็นต้นไป


:*: กราบขอบคุณ ท่านผู้ดูแลเว็ปวัดบางพระทุกๆท่านที่อนุญาติให้ใช้พื้นที่ครับ

159
    กระผมก็พยายยามไม่ทำปัญหาให้ท่านเสียใจ ยอมรับว่าเมื่อก่อนทำตัวไม่ค่อยดีแต่ทุกวันของผมคือวันทำเพื่อแม่ เลยไม่มีอะไรทำเป็นพิเศษในวันที่12 สิงหา ผมขอตอบว่าจะ พาแม่ไปกินอะไรอร่อยๆนอกบ้าน เพราะบ้านผมแม่ทำกับข้าว ขอวันที่ 9 ช่วยแบ่งเบาภาระแม่ไป 1 อย่าง ครับผม ส่วนวันที่ 12 ต้องไปวัดบางพระครับ

160
ความคิดที่ขัดแย้ง อาจมองมีจุดยืน แต่เท่าที่มองจุกยืนของเจ้าของกระทู้คืออะไร อุดมการณ์เพื่ออะไรมองไม่ออกจริง ช่วย PM ถึงผมได้ไหม อาจจะทำให้ผมเข้าใจท่านมากขึ้น ณ.ตอนนี้ ผมมองว่า พี่นนท์ทำถูกต้องนะครับ เพราะอ่านกระทู้ก่อนหน้า และกระทู้นี้ ท่านตั้งได้น่าจะกระทบกระเทือนหลายฝ่ายอยู่นะ

161
กราบนมัสการครับ จะขอจดจำไว้ใช้นะครับ

162
         อยากรู้อะไรผมว่าต้องไปที่วัดครับ ชั่งใจก่อนสัก อะไรเป็นอะไร คนที่สักต้องคิดเอง ราคาผมว่าไม่สำคัญแต่ที่สำคัญ รอยสักนั้นจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต มาไม่ชอบอยากลบที่หลังลบยังไงก็เป็นรอย
      [shake]   ท่านสายัน อยากสักจริงๆรึครับ ใช้พื้นที่เยอะนะ ยังว่างรึครับ [/shake]

163
สวยครับ น่าจะใหญ่เอาเรื่องเลยนะครับ

164
เหมือนเด็กที่ไปดูของเล่นที่ห้าง ไปจ้องดู ตั้งแต่ไปสักครั้งแรก จนหลวงพี่ที่ตู้จำได้ไปวัดที่ไร กราบนมัสการสังขารหลวงพ่อเปิ่น แล้วไปกราบหลวงพ่อสำอางค์ ต่อจากนั้นทุกครั้ง ต้องเดินไปที่ตู้ แล้วพูดเหมือนเดิม 2 ประโยค ดังนี้
1.หลวงพี่ขอดูมีดอันนี้หน่อยครับ
2.ขอบคุณครับ (แล้วก็ส่งคืนด้วยน้ำตาคลอๆ) 23;

      มาวันอังคารคุยเอ็มกับน้องในเว็ปบางพระ น้องเค้าพึ่งไป ผมเลยถามถึง น้องเค้าว่าไม่เห็น ผมได้ยิน นอนไม่หลับเลย โทรหาพี่สาวให้ไปส่งโดยด่วน ไปก็ยังอยู่ดี แต่ครั้งนี้ ต้องบูชาเลยครับ เป็น มีด ด้ามและฟักทำจากกระดูกช้าง ยาวรวมด้ามฟัก 9 นิ้วครับ งานนี้สมใจเลย 9 เดือนแห่งการรอคอย 33;



            

165
ตั้งใจถ่ายออกมายังไงก็มืดมองไม่ชัด ก็ผมมันมือสมัครเล่นต้องขออภัยครับ เห็นว่าสวยดีเลยนำมาให้ชมครับ

หลวงปู่ทวดด้านหลังเป็นยันต์ 5 แถว




166
บทความ บทกวี / ตอบ: พวกบัวต่ำตม
« เมื่อ: 21 ก.ค. 2552, 12:42:28 »
ทุกกระทู้ของท่านผมชอบหมดเลย ไม่ทำให้เสียเวลาที่จะอ่านจริงๆ

167
       การวางยันต์ขึ้นอยู่กับ พระอาจารย์ที่สักให้ การที่ท่านไปสักเก้ายอดที่อื่นมา แล้วไม่ได้แปดทิศของบางพระนั้น ผมว่าไม่ใช่ เพราะพระอาจารย์ ให้ตามความเหมาะสมของการจัดวางครับ เท่าที่เห็น พระอาจารย์ก็เมตตาท่านมากนะครับ

168
ไม่ต้องมีคำบรรยายเลยครับ ของดีๆทั้งนั้นเลย

169
ขอบคุณครับ ยันต์ที่ ทั้ง 2 ท่าน สัก งดงามมากๆ อาจารย์ท่านไหนเมตตาครับ

170
มาเลยครับ มาลองให้รู้กลับตนเองเลย ผมว่าดีที่สุด

171
ตามที่ท่านโองการยันนะรังสี ตอบไม่มีผิดเพี้ยนครบทุกถ้อยกระทงความครับ

172
กราบนมัสการครับ เข้ามาเพื่ออยากอ่านบทความดีๆ แล้วก็ได้อ่านสมใจ

173
ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ สวยดี หายากด้วย

174
ขอขอบคุณท่านมากครับ

175
จากวัดก็สีนี้รึเพนท์เองครับ ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับสวยดี

176
ผ้าผืนแรก ที่เป็นรูปเกจิเอาออกจะเหมาะสมกว่านะครับ ส่วน ผ้ายันต์กวางเหลียวเอาไว้ได้ครับ

177
เมื่อต้นปี ช่วงก่อน ไหว้ครูทางเว็ปเค้าจัดทำขึ้น หวังว่า คงจัดทำอีกครั้งนะครับ ที่ผมใส่อยู่ก็มีแค่ตัวเดียว  :002:

178
:059:คิดได้แล้ว...และต้องทำให้ได้ด้วย...จงแปรเปลี่ยนความคิดนั้นมาสู่การกระทำ....
ขออนุโมทนาด้วย...สาธุ..สาธุ..สาธุ :016:
กราบนมัสการครับ น้อมรับคำสั่งสอนของ หลวงพี่ครับ

พี่โชวครับ ข้อความนี้ จะขอนำไปใช้นะครับ ผมว่า อะไรอะไรเผื่อจะดีขึ้น

179
ยินดีที่ได้รู้จักครับ วันที่ 12 สิงหา นี้ เจอกกันนะครับ

180
มี ลูกแก้ว แล้ว ยังมี พ่อแก้ว อีก สวยงามมากๆครับ

181
ของดีอยู่กับคนดีแล้ว ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

182
เหรียญสวยมากๆครับ คงต้องรอ ท่านผู้รู้แล้วล่ะครับ แต่ยอมรับว่าเพิ่งเคยเห็น สวยงามมากๆครับ

183
       เมื่อก่อน ผมก็แสวงหาคาถาปลุกเพื่อจะได้ปลุกดังใจ และอยากกำหนดของขึ้น แต่พอได้รับคำสั่งสอนจากพระอารย์ท่านหนึ่ง จึงเริ่มเข้าใจว่า ของจะขึ้น ขึ้นอยู่กับโอกาสและสถานการณ์ จงอย่างให้ขึ้นตามใจเราเป็นการรบกวนครูและสิ่งที่เราสักไปเปล่าๆ
       หากของขึ้นอาจทำให้ดูมีของในตัวสร้างความสบายใจให้ผู้สัก มีจ่ากองร้อย คนหนึ่ง เค้าสักเสือที่บางพระ ท่านนี้ก็ไม่เคยขึ้น โดนยิงที่หัวไหล่ไม่เข้าแตกกระดูกแตก ท่านบอกท่านสักมา 20 ปี ของไม่เคยขึ้นเลย และ กลัวว่าของในตัวไม่มี แต่พอโดนยิงครั้งนี้จึงรู้ว่าของอยู่ในตัวตลอดครูให้ของมาคุ้มครอง บัดนี้เริ่มศรัทธาอย่างสนิทใจแบบไม่ต้อง มีอาการของขึ้น

184
ขอบคุณ บทความดีๆครับ ท่าน นก

185
     สายบางพระไม้กวาดสร้างได้แต่ความเจ็บปวดเล็กแต่ไม่มีอะไรมากและไม่เสื่อม แต่หากเป็น สายชาตรีเก้าเฮ ตีด้วยไม้กวาดกวงๆนอนกอง หรือถึง อาจสลบได้เลย

186
ขอบคุณที่นำมาให้ชมครับ

187
กราบนมัสการ ครูบาสร้อย
ขอบคุณท่านนายที่นำข้อมูลดีๆมาให้รู้ครับ

188
ของดีอยู่กับตัว ย่อมส่งผลดีให้ชีวิตครับ

189
[shake]งั้นผมปลอดภัยทุกเทศกาลแล้ว [/shake] 20; 20; 20;ถึงอ้วนก็ไม่โดนเชือดเพราะตรงทุกข้อ แก่เกินแกงแล้ว
 

ขอบคุณครับ ที่ทำให้นึกถึงตอนวัยรุ่นช่วงต้นๆในชีวิต แต่ตอนนี้ยังวัยรุ่นตอนปลายนะครับ

190
ผมอ่านเจอบทความนี้แล้วมีมุมมองถึงศาสนาพุทธในหลายมุมมองที่น่าสนใจลองอ่านกันดูนะครับ
         หาก จะตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับศาสนาพุทธ ก็คงจะไม่ถูกนัก เพราะแม้แต่นักปราชญ์ชาติต่างๆที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในยุโรป และสหรัฐอเมริกา อาทิ เบอร์ทรันด์ รัสเซล,อัลเบิร์ต ไอนสไตน์,อาร์เธอร์ โชเพนเฮาว์ ฯลฯ รวมทั้งซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก เช่น ริชาร์ด เกียร์, โรเแบร์โต บาจโจ ฯลฯ ก็ยังได้กล่าวคำสดุดีและยอมรับนับถือพระพุทธศาสนา เป็นหลักในการดำเนินชีวิต

         พุทธศาสนาเริ่มเป็นที่รู้จักกันในตะวัน ตกเมื่อประมาณ 150 ปีที่แล้ว โดยในระยะแรกนั้นเป็นเพียงการศึกษาทางวิชาการเท่านั้น แต่เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมาจากความนิยมทางหลักวิชาการ ก็กลายมาเป็นที่นิยมในแง่ของ การปฏิบัติมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวตะวันตกหันมาสนใจปฏิบัติธรรมในศาสนาพุทธมากขึ้นนั้น เป็นเพราะความน่าเลื่อมใสศรัทธาของพระหรือครูผู้สอน ที่ทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี และมีความรู้ความสามารถในการทำให้ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติได้เข้าใจหลักธรรมและ วิธีการปฏิบัติ จนประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ต้องการ

         ประเด็นสำคัญที่ น่าคิดก็คือทำไมที่ผ่านมาชาวตะวันตกจำนวนมากจึงหันมาหาพุทธ ศาสนา คำตอบก็คือพวกเขาคิดว่า ศาสนาพุทธแตกต่างจากศาสนาอื่นมาก ในแง่ที่ว่าชาวพุทธเป็นผู้รักสงบและไม่ใช้ความรุนแรง

         ในประเทศ อังกฤษเองนั้น เป็นที่ทราบกันดีแล้ว จากข่าวของพระเขมธัมโม พระไทยชาวอังกฤษ ศิษย์ของหลวงพ่อชา ซึ่งได้เข้าไปสอนปฏิบัติธรรมให้แก่นักโทษในเรือนจำของอังกฤษกว่า 26 ปี จนเกิดผลดีช่วยลด ปัญหาของเรือนจำได้มาก กระทั่งได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จากสมเด็จพระราชินีอลิซาเบ็ธที่ 2 แห่ง สหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่เท่านั้น ยังมีนักโทษจำนวนมากมายที่หันมานับถือพุทธศาสนา บางรายที่พ้นโทษ ออกมาก็ได้มาเป็นอาสาสมัครในการเผยแผ่พุทธธรรมด้วย พุทธศาสนิกชน ชาวอังกฤษเชื่อว่าศาสนาพุทธจะขยายตัวออกไปเรื่อยๆ และจะเป็นศาสนาที่สำคัญที่สุดในตะวันตก

หากไม่เชื่อ ลองอ่านคำสดุดีที่นักคิดนักเขียน นักปราชญ์ชาวตะวันตก กล่าวไว้ ดังนี้
อาร์เธอร์ โชเพนเฮาว์ (ค.ศ.1788-1860) นักปรัชญาชาวเยอรมัน กล่าวว่า ?ถ้าข้าพเจ้าจะถือเอาผลแห่งปรัชญาของข้าพเจ้าว่าเป็นมาตรฐานแห่งความ จริง ข้าพเจ้าก็ควรมีข้อผูกพันที่ต้องยอมรับพระพุทธศาสนาว่าเด่นเป็นพิเศษเหนือ ศาสนาที่เหลือ อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องเป็นที่น่ายินดีสำหรับข้าพเจ้าที่ได้พบว่า คำสอนของข้าพเจ้าเข้ากันได้อย่างใกล้ชิดกับศาสนาซึ่งมนุษย์ส่วนมากนับถือ การเข้ากันได้นี้ ต้องเป็นที่น่าพอใจมาก เพราะในการคิดปรัชญานั้น ข้าพเจ้ามิได้ตกอยู่ใต้อิทธิพลของศาสนานั้น(พระพุทธศาสนา)อย่างแน่นอน?
แมกซมึลเลอร์ (ค.ศ.1823-1900) ศาสตราจารย์ทางนิรุกติศาสตร์ ชาวเยอรมัน ผู้นำในการศึกษาความรู้เกี่ยวกับตะวันออก กล่าวว่า ?ประมวลศีลธรรมของพระพุทธเจ้า สมบูรณ์มาก ที่สุดที่โลกเคยรู้จักมา?

เอช. จี. เวลส์ (ค.ศ.1866-1946) นักประพันธ์ นักหนังสือพิมพ์ และนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ ผู้ริเริ่มการเขียนนวนิยายทางวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ?พระพุทธศาสนาได้กระทำไว้มาก ยิ่งกว่าอิทธิพลอื่นใดที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เพื่อความก้าวหน้าแห่งอารยธรรมของโลก และวัฒนธรรมที่แท้จริง?

เบอร์ทรันด์ รัสเซล (ค.ศ.1872-1970) นักปรัชญา นักเขียน นักคณิตศาสตร์ และนักต่อสู้คัดค้านอาวุธนิวเคลียร์ ชาวอังกฤษ ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ในปี 1950 กล่าวว่า?พระพุทธศาสนาเป็นการ รวมกันของปรัชญาแบบพินิจความจริง กับวิทยาศาสตร์ ศาสนานั้นสนับสนุน วิธีการทางวิทยาศาสตร์ และติดตามวิธีการนั้นจนถึงที่สุด ซึ่งอาจเรียกได้ว่า เป็นศาสนาแห่งเหตุผล ในพระพุทธศาสนาเราจะได้พบคำตอบที่น่าสนใจ เช่น จิตใจกับวัตถุคืออะไร? ระหว่างจิตใจกับวัตถุนั้นอย่างไหนสำคัญมากกว่ากัน? เอกภพเคลื่อนไปหาจุดหมาย ปลายทางหรือไม่? พระพุทธศาสนาพูด ถึงเรื่องที่วิทยาศาสตร์ยังหานำทางไปได้ไม่ เพราะความจำกัดแห่งเครื่องมือ ของวิทยาศาสตร์ ชัยชนะของพระพุทธ ศาสนาเป็นชัยชนะทางจิตใจ?

ศาสตราจารย์คาร์ล กุสตาฟ จุง (ค.ศ.1875-1961) นักจิตวิทยา ชาว สวิสส์ กล่าวว่า ?ในฐานะเป็นนักศึกษา ศาสนาเปรียบเทียบ ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สมบูรณ์มากที่สุดที่โลกเคยพบเห็น มา ปรัชญาของพระพุทธเจ้า ทฤษฎีวิวัฒนาการและกฎแห่งกรรม (ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว) ยิ่งใหญ่เหนือลัทธิอื่นอย่างห่างไกล?

อัลแบร์ต ชไวเซอร์ (ค.ศ.1875-1965) แพทย์นักสอนศาสนาชาวฝรั่งเศส นักเทววิทยา และนักดนตรี ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในปี 1952 (พ.ศ.2495)บอกว่า ?พระองค์ (พระพุทธเจ้า)ได้ทรงแสดงออกซึ่ง สัจธรรมอันมีคุณค่าเป็นนิรันดร และได้ ทำให้จริยธรรมมิใช่ของอินเดียเท่านั้น แต่ของมนุษยชาติก้าวหน้าไป พระพุทธ เจ้าเป็นผู้หนึ่งในบรรดาอัจฉริยมนุษย์ทางศีลธรรม ที่โลกเคยได้มา?
อัลเบิร์ต ไอนสไตน์ (ค.ศ.1879-1955)นักฟิสิกส์ ชาวเยอรมัน ผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ กล่าวว่า ?ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา (คืออ้างเทวดา เป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้นเมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนความสำนึกทางศาสนาที่เกิดขึ้นจากประสบ- การณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจ อย่างเป็นหน่วยรวมที่มี ความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้ ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระ พุทธศาสนา?
อัลดัส ฮักซลี่ย์ (ค.ศ.1894-1963) นักเขียนนวนิยาย ชาวอังกฤษ กล่าวว่า ?ในบรรดาศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของโลกทั้งหมด พระพุทธศาสนาเพียงศาสนาเดียว ที่ดำเนินไปโดยปราศจากการเบียดเบียนคนทั้ง การตรวจควบคุม และการซักถามสอบสวน (ซึ่งมีลูกขุนหรือเจ้าหน้าที่ดำเนินการ เพื่อจะเอาผิด หรือควบคุมผู้ไม่นับถือ) ในแง่เหล่านี้ทั้งหมด ประวัติของพระพุทธ ศาสนายิ่งใหญ่มากเหนือศาสนาอื่นซึ่งดำเนินไปในระหว่างประชาชน ผู้ติดอยู่ กับระบบทหาร?

เจ.โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ (ค.ศ. 1904-1976) นักฟิสิกส์ ชาวอเมริกัน ผู้นำในการพัฒนาระเบิดปรมาณู กล่าวว่า ?ขอยกตัวอย่าง เช่นเราถามว่า ฐานะของอิเล็กตรอนเป็นอันเดียวกันใช่หรือ ไม่? เราจะต้องตอบว่าไม่ ถ้าเราถามว่า ฐานะของอิเล็กตรอนเปลี่ยนไปพร้อมกับกาลเวลาใช่หรือไม่? เราจะต้องตอบ ว่าไม่ ถ้าถามว่า อิเล็กตรอนหยุดพักใช่ หรือไม่? เราจะต้องตอบว่าไม่ ถ้าเราถามว่ามันเคลื่อนไหวใช่หรือไม่? เราจะต้องตอบว่าไม่ พระพุทธเจ้าก็ได้ประทานคำตอบเช่นเดียวกัน เมื่อทรงได้รับคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวตนของมนุษย์ภายหลังความตาย แต่คำตอบเหล่านั้นมิใช่คำตอบที่คุ้นกับจารีตประเพณีของวิทยาศาสตร์ สมัยศตวรรษที่ 17และ 18?

สำหรับซุปเปอร์สตาร์ที่คนทั่วโลกชื่นชอบ และคลั่งไคล้กันนั้น การที่เขาสนใจและบางรายถึงกับเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ พร้อมอุทิศตนทำงานเพื่อช่วยจรรโลงพุทธศาสนานั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งที่ระลึกของพวก เขาได้อย่างแท้จริง

ทอม ครูซ (Tom Cruise) ชาวอเมริกัน พระเอกหนุ่มเนื้อหอม ผู้มี ชื่อเสียงโด่งดังจากภาพยนต์เรื่อง ?Misson Impossible? ได้กล่าวยกย่องพุทธศาสนา ในการแถลงข่าวงานเปิดรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่องใหม่ที่เขาแสดงนำคือ ?The Last Samurai? ณ โรงแรมริซท์ กลางใจกรุงปารีส ว่า หลังจากที่ตนได้ศึกษาบทนำจากหนังเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะต้อง ทำความเข้าใจในปรัชญาตะวันออก ทั้งพุทธศาสนาและศิลปะบูชิโดของญี่ปุ่น ทำให้ตนได้เรียนรู้หลักการดำเนินชีวิต ที่เรียบง่าย และยืดหยุ่น ซึ่งสามารถนำ มาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นอกจากนี้เขายังได้กล่าวยกย่องศาสนาพุทธว่าเป็นศาสนาที่เป็นรากฐานของวิทยา ศาสตร์ทั้งหมด ซึ่งสอนให้คนรู้จักตนเองและมอบความรักเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้ และถือว่าการได้สัมผัสกับพุทธศาสนาเป็นประสบการณ์ทีี่่มีค่ายิ่งในชีวิตของ เขา

ริชาร์ด เกียร์ (Richard Gere) ดาราชื่อก้องชาวอเมริกัน ได้ชื่อว่าเป็นดาราหนุ่มที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในปี 1980-1990 ภาพยนต์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขามากก็คือ Pretty Woman(1990) และเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา เขาก็คว้ารางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 60 ในฐานะดารานำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนต์เรื่องชิคาโก

ริชาร์ด เกียร์ หันมาสนใจศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจัง จนพบว่าศาสนาพุทธให้คำตอบกับชีวิตของเขาได้ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และใช้เวลานอกจอช่วยเหลืองานขององค์ทะไลลามะ ในการเผยแผ่ศาสนา และเมื่อครั้งที่มีการประกาศรางวัลออสการ์ปี 1993 ท่ามกลางสายตาของผู้ชมนับล้านๆ คู่ ริชาร์ด เกียร์ ก็ใช้เวทีนี้เรียกร้องความรักและสัจธรรมให้กับมวลมนุษย์ และในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ถล่มตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 45 นั้น ริชาร์ด เกียร์ ให้สัมภาษณ์ว่า เขากำลังศึกษาและปฏิบัติธรรมอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์

เกียร์เคยพูด ว่า เราต้องคิดว่าบรรดาผู้ก่อการร้ายนั้นได้ก่อความเลวร้ายให้กับชีวิตภายหน้า ของพวกเขาไว้แล้ว เรียกว่าสร้างกรรมชั่ว และเราจะต้องมองให้กว้างไกลว่าเราทุกคนต่างเกี่ยวโยงกับการกระทำครั้งนี้ เช่นกัน เขาย้ำว่า เราต้องให้ความรักและเมตตากับทุกคน ไม่เว้นแม้พวกที่ก่อการร้าย ถ้าเราทั้งหลายสามารถที่จะมองพวกผู้ก่อการร้าย ด้วยความคิดว่าเขาเหล่านั้นคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา ยาที่จะรักษาพวกเขาได้ก็คือ ความรักและเมตตานั้นเอง ไม่มีอะไรจะดีกว่านั้นอีกแล้ว

สตีเว่น ซีกัล (Steven Seagal) พระเอกนักบู๊ชื่อดังของฮอลลีวู้ด ชาวอเมริกัน โด่งดังขึ้นมาในฮอลลีวู้ดในฐานะพระเอกหนังแอ๊คชั่น หนังเรื่องล่าสุดของเขา คือ Exit Wounds ซีกัลได้ศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนในพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด จนกระทั่งมีลามะในทิเบตบางรูปพูดถึงเขาว่า เขาเป็นอดีตลามะองค์สำคัญที่กลับชาติมาเกิดทีเดียว

โรเแบร์โต บาจโจ (Roberto Baggio) นักฟุตบอลชื่อดังชาวอิตาลี หันมาสนใจพุทธศาสนา หลังผ่าตัดเข่าข้างขวา และต้องหยุดเล่นนานถึง 2 ปี ช่วงนี้เขาต้องฝึกกายภาพ ด้วยความหวังที่เลือนลาง และไม่มีความสุข หงุดหงิด อารมณ์เสียบ่อยครั้ง เมาริซิโอ โบลดรินี เจ้าของร้านขายแผ่นซีดี ซึ่งโรเบอโต้เป็นลูกค้าประจำที่ร้าน จึงได้แนะนำให้เขาสวดมนต์ บาจโจรู้สึกดีขึ้นมาก และหันมาสนใจศึกษาพุทธศาสนา จนนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง กระทั่งอาการบาดเจ็บที่เข่าของ เขาค่อยทุเลาลง และสามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง

บาจโจ บอกไว้เมื่อ พ.ศ.2539 ว่า แม้จะปฏิบัติธรรมได้เพียง 8 ปีเท่านั้น แต่บุญกุศลที่ได้รับนั้นมากมายเกินกว่าจะกล่าวได้หมด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติของตนเอง เพราะก่อนหน้าที่จะหันมาปฏิบัติธรรมนั้น เขาเป็นคนที่จะต้องคิดในรูปแบบที่ตัวเองวางกรอบ หรือกำหนดไว้แล้ว หรือไม่ก็ตัดสินสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยใช้ความคิดของตนเองเป็นหลัก และคิดว่าการกระทำเช่นนี้ของตนถูกต้องเสมอ แต่หลังการปฏิบัติธรรมแล้วมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมากมายในชีวิตจิต วิญญาณของตัวเอง ซึ่งต้องใช้สติปัญญาในการตัดสินใจ แม้จะเป็นเรื่องที่ยากเพราะบางครั้งจิตใจก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลทางกาย

บาจโจบอกว่าสำหรับชาวอิตาเลียน แล้ว พุทธศาสนานั้นอยู่ห่างไกลและไม่เกี่ยวข้องอะไรกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และชาวอิตาเลียนจะมีความเชื่อในความคิดเห็นของตนเองมากและไม่ต้องการศึกษา เรียนรู้ หรือเข้าใจปรัชญาอื่นๆ ที่แตกต่างไปจากที่ พวกเขาเคยรับรู้มา แต่จะตัดสินสิ่งต่างๆ ตามความคิดเห็นของตนเอง สำหรับเขาแล้วการตัดสินใจหันมานับถือพุทธศาสนา ไม่รู้สึกว่าขาดความ เชื่อมั่น และไม่แคร์ว่าใครจะพูดว่าอย่างไร เพราะเป้าหมายของตนคือต้องการจะเป็นบุคคลที่มีความสุขที่สุด
....

ไม่ เพียงแต่คนดังเหล่านี้ที่หันมาสนใจและประพฤติปฏิบัติตามหลักพุทธธรรมเท่า นั้น ยังมีชาวตะวันตกอีกมากมายที่มุ่งหน้าค้นหาสัจธรรมของชีวิต เดินทางเข้าสู่ดินแดนแห่งพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นทิเบต ภูฐาน ศรีลังกา พม่า หรือประเทศไทย เพื่อการศึกษาหลักธรรมคำสอนและปฏิบัติกันอย่างจริงจัง คอร์สอบรมวิปัสสนาที่วัดหรือหน่วยงานบางแห่งในบ้านเราจัดขึ้นสำหรับชาวต่าง ชาตินั้นได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม
คัดลอกมาก-http://www.dmc.tv/forum/lofiversion/index.php/t15679.html

191
หากสักในปี 45 ได้เป่าก็ยากแล้วครับ เรื่องสักผมว่าไม่มีทางครับคิดดูสิครับ หลวงพ่อ มรณะ 30 มิถุนายน 45 คนที่สักยันต์ที่วัดบางพระก็หวังที่จะให้หลวงพ่อสัก หรือ เป่าให้ ไม่แปลกที่จะพูดเกินจริงบ้าง ท่านเจ้าของกระทู้ทำถูกแล้วครับ หากไม่มีอะไรร้ายแรงนักก็ปล่อยไปเถิดครับ

192
    น่ากลัวครับ ขนาดท่านทั้งหลายนำความรู้และตำหนิมาให้ดู ยอมรับเลยว่าแยกไม่ออกงานนี้ไม่รู้ไหนจริงไหนปลอมเลยครับ ต้องขอบคุณทุกๆท่านที่มอบความรู้ให้นะครับ

193
ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

194
ขอบคุณที่นำสาระดีๆมาให้ชมนะครับ

195
พี่สาวครับเก็บให้ผม ด้วยนะ ตอนนี้เหลือกี่ดอกครับ

196
เป็นศิริมงคลอย่างยิ่งครับ

197
ขอบคุณภาพบรรยากาศวัดสามง่ามที่นำมาให้ชม ผมยังไม่เคยไปเลยครับ มีรถประจำทางไหมครับ อยากรู้จะได้ไปสักที

198
ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

200
ขอบคุณท่านที่นำข้อมูลดีๆมาให้อ่านให้คิดกันครับ

201
กระผมทำความเข้าใจถึงข้อความในกระทู้ เมื่อคิดตามยิ่งอ่านยิ่งมีความรู้ครับ

202
กระผมยอมรับเลยว่าไม่ชอบบทความยาว แต่อ่านข้อความในกระทู้ของผู้การแล้ว ยอมรับว่าหากอ่านไม่จบไม่ยอมเลิก

203
มาอ่านกระทู้นี้ได้ความรู้เต็มๆเลยครับ

204
ท่านช่างเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลังได้ดูเป็นแบบอย่างอันดีของการดำเนินชีวิต

205
http://www.zoomhit.com/map/result.jsp?spc=NAzBOTIDNTCB9X0hZkZ49TYy7A7w7kZG9TEBOTIFNTzmZHgPNTzwJmRG9TUw7kZ6b2Pt9Tvu7kZBaW1l9TcwN3CyNAUGNkZw9Xv(&name=%C7%D1%B4%A1%D2%CB%C5%A7&target=LTIANjcFNjUANT1wYWvme3B27j7A73zmeTBFN3CF7jUwJnRpbWUPLTIANjcFNjUANSZw9Xv(&lang=th&addr=6049&loc=7TvyOTC2OTCy7j1wYWvmaWvP7Tzw7TU1JnRpbWUP7TvyOTC2OTCy7iZw9Xv(&maptype=1&notransit=500&nomustsee=520&nogreat=519&nogood=518&nointeresting=517&nohotel100=520&nohotel60=519&nohotel30=518&nohotel0=517
โหลดแผนที่ตามนี้เลยนะครับ จะเอามาให้ลงแล้วครับติดที่ขนาด

206
ผมยังไม่เคยไปกราบนมัสการเลย ทั้งที่ผ่านตั้งแต่เด็ก คงมีโอกาสเข้าไปกราบนมัสการสักครั้ง  ขอบคุณภาพและข้อมูลนะครับ

207
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: สรุป
« เมื่อ: 16 ก.ค. 2552, 05:48:11 »
 ข้อความดีครับได้ความรู้ดีเลยครับ

208
ขอบคุณภาพและข้อมูลครับ

209
  3.การเป่ายันต์เกราะเพชร..ทำเพียงครั้งเดียวพอ..ไม่ต้องซ้ำ ! (ซ้ำ..จะทำให้เสื่อมลง..) จะติดอยู่ตรงหน้าผากและติดไปจนวันตายบางคนเผาแล้วก็ยังเห็นยันต์ที่หน้าผาก ? ผู้การเสือ?  ได้รับการเป่ายันต์เกราะเพชร..โดยตรงกับลพ.ฤาษีลิงดำ จึงไม่ต้องไปเป่าที่สำนักไหนอีก..ครับ
ขอยกข้อนี้มาสอบถามผู้รู้สักหน่อยนะครับ ตอนนี้กระผมตกใจเมื่อได้อ่านอย่างมาก ผมเองเคยเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะห์เพชร เมื่อปีที่แล้ว แล้วทางวัดบอกต้องมาทุกปี ผมเลยไป อีกเป็นครั้งที่ 2 เลยงง กับ ที่ผู้การบอก มันขัดแย้ง และน่ากลัวสำหรับผมครับ อันนี้ ขอความรู้จริงๆนะครับ ใครจ้องจะป่วน กระทู้นี้ผมขอนะครับ กังวลใจมากครับตอนนี้ จึงขอเรียนถามผู้การ 2 ข้อครับ
1.กระผมได้เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะห์เพชร มา 2ครั้ง หากเป็นดังท่านว่า ก็ไม่ต้องไปอีกแล้วใช่ไหมครับ
2.ขั้นตอนจองพิธีสวกยันต์เกราะห์เพชรนี้เป็นไงครับ ผมจะได้มาเปรียบเทียบที่ผมได้ร่วมพิธีมาครับ
                                                                                                ได้โปรดให้ความรู้กับผมด้วยครับ
                                                                                                                   ชลาพุชะ

210
ขอบคุณครับ บทนี้แปลงได้อีกหลายบทนะครับ เกราะเพชร วางแบบนี้แต่ต่างที่มีการโยงระหว่างอักขระ

211
แหมสอน ลูก สอน หลานให้โพสท่าเมื่อเห็นกล้องแต่น้อย ไม่ทิ้งเชื้อเลยนะ รูปสวยดี สมกับเป็น สาวนายก

212
ไปไหนมาไหนถ่ายรูปมาให้ดูแบบนี้ดีหน่อย ขอตินิดนึง ของฝากล่ะครับ

213
ยอมรับว่าอาจารย์หนวดท่านใจดีกับศิษย์ทุกคน เสียดายที่ท่านมา เสาร์-อาทิตย์-จันทร์เช้า ครับ

215
ชอบเสือมากๆครับ สวยดี ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

216
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่นำสิ่งดีๆมาเสนอครับ

217
        ตะกุรดมีเยอะครับหลายดอกทันหลวงพ่อสุด บางดอกไม่ทันบ้างไปดูเลยครับมีตู้ให้บูชา มีดอกหนึ่งพระที่ตู้บอกเป็นตะกรุดรุ่นเดียวกับที่ตี๋ใหญ่ใช้ ราคาสูงครับสำหรับผม
        ผมเคยได้รับความรู้จาก น.ท.มงคล ทัศมาลี ซึ่งท่านเคยบวชที่วัดกาหลง แล้ว หลวงพ่อสุดเป็นพระคู่สวดให้ ท่านกล่าวว่า"สักยันตะกร้อเหนียวทนแบบตะกร้อ ยันต์ตะกร้อพุทธคุณด้านเหนียว คงทนต่ออาวุธทุกชนิด"

218
ตามนั้นเลยครับ อย่างท่านก๊อต ท่านโจร ท่านปลัดว่า
                                               ว่าแต่จะเบิก 3ตาแล้วได้อะไรครับ ขอความรู้ได้ไหม ไปได้ข้อมูลมาจากไหนครับเพิ่งเคยได้ยิน

219
อารมณ์แบบนี้ผมก็เคย อ่านแล้วเข้าใจเลย

220
   หลวงพ่อสุดเป็นอาจารย์ ของนายทหารยศสูงๆ นายตำรวจยศใหญ่ๆก็มี ทำไมมาจำได้แต่เป็นอาจารย์โจรก็ไม่รู้ มีนายทหารเรือตอนนี้ลาออกเป็นอาจารย์สอนวิธีรักษาโรคด้วยสมุนไพร มีทหารตอนนี้ยศนายพลอีกหลายคนก็ศิษย์หลวงปู่สุดนะครับ
   เหรียญสวยมากๆครับทั้ง 2 เหรียญเลย

221
ปากหนุมานเฉียดสะดือนิดเดียวเองเจ็บเอาเรื่องแน่เลย
เสือตีนโตดูดุมากๆเลยครับ สวยมากเลยเหมือนมีชีวิตเลยครับ
หลังท่านสวยมากครับใกล้เต็มแล้วครับ

222
มีประโยชน์สิครับ จะแสนแล้วรึ ดีนะนี่ช่างสังเกตุมากๆ

223
            แหมๆๆๆ ก็หมาแพนดี้ หมีแพนด้า มันของนอกนี่ ใครๆก็สนใจเป็นธรรมดา จุดขายสวนสัตว์เค้า หาเงิน เข้าสวนสัตว์ได้เงินปีหลายกระบุ้งโกย เอาเห่อะช่วยหาเงินอีกหน่อยก็ปล่อยกับบ้านเอง

226
หนุมานเชิญธงครับ สวยงามมากครับ

227

ผมมีรุ่นเหมือนท่านล่างสุดด้านขวาไม่ทราบว่าเป็นรุ่นอะไรปีอะไรครับ ขอความรู้ด้วยครับ ขอบคุณ

229
ฮาครับ คิดได้ไง ตรงมากๆ

230
ถ่ายภาพได้มีอารมณ์กับสถานะการณ์จริงๆ เหมือนเดินไปด้วยกับท่านเลยครับ ขอบคุณภาพและข้อมูลนะครับ

231
ขอบคุณครับสำหรับ

คำตักเตือน ของพวกพี่ๆ ครับ


ผมจะนำไป ปรับปรุง ครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ

232
ไม่ได้เห็นรูปนี้มานานแล้ว นำมาโพสกี่ทีก็สวยครับ

233
        ผมแปลกใจมากเลย สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี รัตนโกสินตอนต้น ข้าราชการ ต้องมีรอยสัก บางรอยสัก ต้องเจ้านายใหญ่ๆถึงจะสักได้ด้วยซ้ำ มาหายไปช่วงไหนผมก็ไม่ทราบแต่เสียดายในความเป็นไทย ก็อย่างที่หลายๆท่านตอบ สักได้แต่ต้องอยู่ในร่มผ้าครับ

234
กราบนมัสการหลวงพี่ปุญฺญานุสฺสติ

235
     งานนี้ไม่ได้ไปต้องกราบขออภัยหลวงพี่ด้วย เอาไว้วันที่12 สิงหา จะไปหาที่วัดนะครับ กว่าจะได้มาดูกระทู้นี้หาแทบแย่ ถึงต้องพึ่งท่าน ปอ ช่วยหาให้  :075:

236
มีครับ หลวงพี่ญาวัดเหลียว จังหวัดลำปางครับ ตอนไหว้ครูวัดบางพระหลวงพี่ท่านก้มาครับ แต่ไม่มีโอกาสไปสักกับท่าน ลองไปดูนะครับ

237
ขอกราบนมัสการ หลวงพ่อ หลวงปู่ ทุกรูป
                                                 ขอถวายพระพรขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
                                                                                                     ขอบคุณที่นำภาพดีๆมาให้ชม

239
มีต่ออีกนิดหน่อยครับ


พอเย็นผมก็เวียนเทียนที่วัดนี้ มีชาวต่างชาติมาเวียนด้วย
ขอจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีโชคดีมีชัยจงมีแก่ทุกๆท่านครับ

240
7.วัดอมรินทรารามวรวิหาร
     วัดอมรินทรารามวรวิหาร หรือ วัดบางหว้าน้อย ตั้งอยู่เลขที่ 566 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดราชวรวิหาร ต่อมาได้ถูกจัดเป็น ชั้นตรีชนิดวรวิหาร ตามประกาศลงวันที่ 30 กันยายน 2548
ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ แล้วสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 กรมพระราชวังหลังได้โปรดสถาปนาวัดนี้ขึ้นใหม่ได้เป็นผู้สถาปนาขึ้นใหม่หมดทั้งพระอาราม คือ สร้างพระอุโบสถ พระระเบียง วิหาร กำแพงแก้ว ศาลาราย หอระฆัง หอไตร หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ กุฏิ เสนาสนะ และ ถนนในพระอาราม รัชกาลที่ 1 ได้พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอมรินทราราม" คู่กับวัดบางหว้าใหญ่ ที่เปลี่ยนชื่อเป็นวัดระฆังโฆสิตาราม




แก้บนด้วยไข่ต้มสอบถามส่วนใหญ่จะขอเรื่องลูก น้องสาวที่ห่างกัน17ปีกับผมก็ขอที่นี่ครับ แม่เค้าว่ามานะ

8.วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
                     เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดบางว้าใหญ่อยู่ในพระอุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและเป็นพระชนนีของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงมีตำหนักที่ประทับอยู่ติดกับวัด ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า ?วัดระฆังโฆสิตาราม? นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ ?วัดระฆังโฆสิตาราม? เป็น ?วัดราชคัณฑิยาราม? (คัณฑิ แปลว่าระฆัง) แต่ไม่มีคนนิยมเรียกชื่อนี้ ยังคงเรียกว่าวัดระฆังต่อมา
วัดระฆังโฆสิตารามมีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก







9.วัดอรุณราชวราราม            
         เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ว่ากันว่าเดิมเรียกว่า วัดมะกอก และกลายเป็นวัดมะกอกนอกในเวลาต่อมา เพราะได้มีการสร้างวัดขึ้นอีกวัดหนึ่งในตำบลเดียวกัน แต่อยู่ในคลองบางกอกใหญ่ ชาวบ้านเรียกวัดที่สร้างใหม่ว่า วัดมะกอกใน (วัดนวลนรดิศ) แล้วจึงเรียกวัดมะกอกซึ่งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ว่า วัดมะกอกนอก ส่วนเหตุที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งนั้น เชื่อกันว่า เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรีใน พ.ศ. 2310 ได้เสด็จมาถึงหน้าวัดนี้ตอนรุ่งแจ้ง จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่าวัดแจ้ง แต่ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเพลงยาวหม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปยังเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดนี้ไว้ว่าชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังที่ประทับนั้น ทรงเอาป้อมวิชัยประสิทธิ์ข้างฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งตัวพระราชวัง แล้วขยายเขตพระราชฐานจนวัดแจ้งเป็นวัดภายในพระราชวัง เช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์สมัยอยุธยา และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ใน พ.ศ. 2322 ก่อนที่จะย้ายมาประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามใน พ.ศ. 2327
ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แต่ยังไม่ทันสำเร็จก็สิ้นรัชกาลที่ 1 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระองค์ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแจ้งต่อมา และพระราชทานนามใหม่ว่า ?วัดอรุณราชธาราม? ต่อมามีพระราชดำริที่จะเสริมสร้างพระปรางค์หน้าวัดให้สูงขึ้น แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เสริมพระปรางค์ขึ้นและให้ยืมมงกุฎที่หล่อสำหรับพระพุทธรูปทรงเครื่องที่จะเป็นพระประธานวัดนางนองมาติดต่อบนยอดนภศูล ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ และให้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์เสร็จสิ้นลง พระราชทานนามวัดใหม่ว่า ?วัดอรุณราชวราราม?





       อ้าว!!!!! เครื่องเป็นอะไรก็ไม่รู้ครับ มีจรเข้มาตรง จะดึงรูปเฉยเลย เอาไว้คอมผมดีแล้วจะมาโพสเพิ่มนะครับ

241
ยินดีตัวนะครับ งดงามมากเลย

242
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: where2
« เมื่อ: 09 ก.ค. 2552, 11:20:12 »
ไปไหนกันรึครับเล่าให้ฟังหน่อยสิครับ

243
ชลาพุชะไปอยู่ไหนนี่ ตกข่าวใหญ่ไป 1 นั่งน้ำตาคลอ อดของดีเสียแล้ว แต่ไม่เป็นไรครับของดีไปอยู่กับคนดี ผมยินดีด้วยครับ

244
4.วัดใหม่อมตรส
แม้ว่าตามธรรมเนียมของวัดโบราณ หลายวัดนั้นมักจะสร้างให้อยู่ติดริมน้ำเพื่อที่จะให้พระสงฆ์องค์เจ้ารวมทั้งผู้มีจิตศรัทธา ได้สัญจรไปมาได้โดยสะดวกในยุคที่บ้านเมืองเรายังไม่มีถนนนั้น จะมีวัดหลวงอยู่บางวัดเหมือนกันที่ไม่ได้สร้างติดกับริมน้ำ ส่วนหนึ่ง น่าจะมาจากเหตุที่ว่าวัดบางวัดเหล่านี้ สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวบ้าน ก่อนที่จะได้รับการบูรณะ โดยพระมหากษัตริย์หรือเจ้าฟ้าองค์อื่นๆ จนกลายมาเป็นวัดหลวงตามธรรมเนียมนี้อย่างเช่นที่ วัดเอี่ยมวรนุช , วัดอินทรวิหาร หรือแม้แต่ วัดใหม่อมตรส ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ตรงบริเวณแยกบางขุนพรหมนั้น ก็เป็นอีกวัดที่สร้างกันมานาน ตั้งแต่ก่อนที่ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจะสถาปนา บางกอกให้เป็นเมืองหลวง วัดใหม่อมตรสนี้ แต่เดิมเป็นวัดใหญ่มีชื่อว่า วัดบางขุนพรหม ซึ่งมีชื่อตามตำบลที่ตั้ง ต่อมา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำริ ให้มีการสร้างถนนขึ้น แล้วผังเมืองในการสร้างถนนในคราวนั้นปรากฏออกมาว่า ต้องผ่าวัดออกเป็น 2 พื้นที่ โดยมีถนนตัดผ่านกลาง วัดบางขุนพรหมนี้ จึงได้กลายเป็น 2 วัดพร้อมทั้งมีชื่อใหม่ที่ ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานนามให้ โดยวัดที่ตัดออกมาทางทิศเหนือนั่นเรียกว่า วัดอินทรวิหาร ส่วนวัดทางทิศใต้มีชื่อใหม่ว่า วัดใหม่อมตรส ซึ่งแปลว่า รสที่ไม่เปลี่ยนแปลง โดยทรงตั้งให้เป็นไปตามพุทธภาษิตที่ว่า สัพพะ รสัง ธัมม รสัง ชินาติ รสทั้งปวง ธัมมรสชนะรสทั้งปวง


5.วัดชนะสงครามวัดชนะสงคราม เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง เดิมเรียกว่าวัดกลางนา เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นให้คล้ายคลึงกับกรุงศรีอยุธยามากที่สุด วัดที่ตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ ตลอดจนเปลี่ยนชื่อวัดให้เหมาะสม โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดกลางนาเป็นวัดตองปุ และให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เช่นเดียวกับวัดตองปุที่กรุงศรีอยุธยา เพื่อเทิดเกียรติทหารชาวรามัญในกองทัพสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับพม่าในสงครามเก้าทัพ เมื่อ พ.ศ. 2328 สงครามที่ท่าดินแดงและสามสบ เมื่อ พ.ศ. 2329 และสงครามที่นครลำปางป่าซาง เมื่อ พ.ศ. 2330 สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดตองปุแล้วถวายเป็นพระอารามหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดชนะสงคราม เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงมีชัยชนะต่อพม่าในการรบทั้ง 3 ครั้ง
วัดชนะสงครามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทรงเริ่มดำเนินการก่อสร้างที่บรรจุพระอัฐิเจ้านายฝ่ายพระราชวังบวรสถานมงคลที่เฉลียงพระอุโบสถด้านหลังตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวงทรงพระราชอุทิศพระราชทรัพย์ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ดำเนินการ แต่การก่อสร้างมาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งพระราชทานพระราชทรัพย์ให้ราชบัณฑิตยสภาดำเนินการก่อสร้าง ขณะนั้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเป็นนายกราชบัณฑิตยสภาและสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงดำเนินการก่อสร้างจนเสร็จสิ้น ได้มีพิธีอัญเชิญพระอัฐิจากพระราชวังบวรสถานมงคลไปประดิษฐานใน พ.ศ. 2470




6.วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
         วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 2350 เดิมพระราชทานนามว่า ?วัดมหาสุทธาวาส? โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย แต่สิ้นรัชกาลก่อนที่จะประดิษฐานเป็นสังฆาราม จึงเรียกกันว่า วัดพระโต วัดพระใหญ่ หรือวัดเสาชิงช้าบ้าง จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อ และทรงจำหลักบานประตูพระวิหารด้วยพระองค์เอง แต่ก็สิ้นรัชกาลเสียก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ การก่อสร้างวัด มาเสร็จบริบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. 2390 และพระราชทานนามว่า ?วัดสุทัศนเทพวราราม? ปรากฏในจดหมายเหตุว่า ?วัดสุทัศนเทพธาราม? และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผูกนามพระประธานในพระวิหาร พระอุโบสถ และศาลาการเปรียญ ให้คล้องกันว่า "พระศรีศากยมุนี" "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" และ "พระพุทธเสรฏฐมุนี"
ภายในวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้อัญเชิญ พระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ มาบรรจุที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนีเมื่อ พ.ศ. 2493 และมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรในวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี







ปาท่องโก๋นอนเอาแรง มีต่ออีก3วัดนะครับ
             2/3

245
      ตอนแรกวางแผนจะไปไหว้ที่อยุธยา โดยขับรถไปเส้นเอเชีย แต่แม่ว่าขากลับหากดึกกลัวแก๊งปาหิน เลยเปลี่ยนแผนเอาแถวบ้าน งั้นก็ตามใจแม่เลยครับไปไหนไปกัน แม่ออกเงินค่าน้ำมัน [shake]ไปเลย งานนี้มีน้องปาท่องโก๋ขอไปด้วย[/shake]
1.วัดสามัคคีสุธาวาส
วัดในซอยบ้านผมครับ
2.วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่)
วัดตั้งอยู่ไม่ไกลกับตลาดบางบัวทองครับมีป้ายบอกตลอดทางครับ ไปถึงที่จอดรถสะดวกสบายดีครับ คนเยอะพอให้รู้ว่าวันหยุด



ลอยเทียนรูปดอกบัวที่อ่างน้ำฐานเจ้าแม่กวนอิมครับ



ท้าวจตุโลกบาล (ท้าวธตรฐ /ท้าววิรุฬหก /ท้าววิรูปักษ์ /ท้าวกุเวรหรือท้าวเวชสุวรรณ) แหมของจีนก็มีความเชื่อตรงกันกับไทย ต่างที่รูปร่างกับอาวุธ






กำลังจะกลับมีป้ายบอก ปีจอชงกับปีวัว น้องปาท่องโก๋เลยร้อนใจขอนิดนึงนะเพื่อความสบายใจ
3.วันอินทรวิหาร
เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปี พ.ศ. 2295 เดิมชื่อ "วัดไร่พริก" อยู่ในบริเวณสวนผักของชาวจีน อุโบสถก่ออิฐสร้างแบบเตาเผาปูน ไม่ปรากฏนามผู้สร้างวัด

ต่อมาสมัยกรุงธนบุรี ปี พ.ศ. 2321 พระเจ้าสิริบุญสาร ผู้ครองนครศรีสัตนาคนหุต ได้ยกทัพรุกรานมาถึงบ้านดอนมดแดง (จังหวัดอุบลราชธานี-ปัจจุบัน) ได้จับพระลอ ผู้สวามิภักดิ์ในพระบรมโพธิสมภารของพระเจ้ากรุงธนบุรี แล้วทำการประหารเสีย เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงทราบก็ขัดเคืองพระทัย จึงโปรดฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเป็นแม่ทัพ พร้อมด้วยพระยาสุรสีห์ กรีฑาทัพขึ้นไปปราบปราม และสามารถตีเมืองเวียงจันทน์แตก ส่วนพระเจ้าสิริบุญสารได้ลี้ภัยไปอาศัยในแดนญวน ภายหลังเสร็จศึกสงคราม สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้นำตัวเจ้าอินทวงศ์ โอรสในพระเจ้าสิริบุญสาร ลงมากรุงธนบุรีด้วย และโปรดเกล้า ฯให้เจ้าอินทวงศ์และคณะพำนักตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ ณ บริเวณ ตำบลไร่พริก (แขวงบางขุนพรหม-ปัจจุบัน) เจ้าอินทวงศ์มีศักดิ์เป็นน้าชายของเจ้าน้อยเขียว เจ้าเมืองเวียงจันทน์ ธิดาคนหนึ่งของเจ้าอินทวงศ์ นามว่า เจ้าทองสุก กับ เจ้าน้อยเขียว ได้เป็นพระสนมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เจ้าอินทวงศ์เป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เมื่อได้มาอยู่ใกล้วัดอินทรวิหาร จึงได้เข้าดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์เปลี่ยนรูปทรงเสียใหม่ ก่อด้วยอิฐถือปูน ดังแบบที่ปรากฏมาถึงปัจจุบัน ได้สร้างศาลาการเปรียญ ขุดคลองเหนือ-ใต้วัด และด้านหลัง เมื่ออารามมั่นคงดีแล้ว จึงได้อาราธนาท่านเจ้าคุณอรัญญิก(ด้วง) ผู้เรืองในวิปัสสนาธุระและใจดี มาช่วยเป็นธุระในกิจการของคณะสงฆ์ และถือเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกที่มีหลักฐานปรากฏยืนยัน ในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 พระองค์เจ้าอินทร์ ในกรมพระราชวังบวรมหาศักดิ์พลเสพย์ ได้บูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ซึ่งปรากฏมากระทั่งปัจจุบัน
ชื่อวัดอินทรวิหาร
- ตั้งชื่อตามที่สถานที่สร้าง คือ วัดไร่พริก สร้างขึ้นในสวนผักของชาวจีน
- ชื่อวัดอินทาราม เปลี่ยนตามนามผู้ปฏิสังขรณ์วัด คือ เจ้าอินทวงศ์ กษัตริย์ของลาว
- ชื่อวัดอินทร์หลวงพ่อโต เพราะท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหฺมรํสี)ได้ มาสร้างพระยืนใหญ่ คือ หลวงพ่อโต
- ชื่อวัดอินทร์บางขุนพรหม เพราะอยู่ในแขวงบางขุนพรหม (ขุนพรหมเป็นชื่อของหมู่บ้าน ที่ "ขุนพรหม" อยู่)
- ชื่อวัดอินทรวิหาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้คณะสงฆ์เปลี่ยนนามวัดที่มีชื่อพ้องกัน ซึ่งวัดอินทารามไปพ้องกับวัดอินทาราม(วัดใต้) ที่บางยี่เรือ ตลาดพลู สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ( ม.ร.ว. ชื่น) แห่งวัดบวรนิเวศวิหารเป็นผู้เปลี่ยนนาม เป็น "วัดอินทรวิหาร" ในปี พ.ศ.2470 และคงใช้ชื่อนี้ตราบถึงปัจจุบัน


บ่อน้ำมนต์ที่ว่ากันว่าเป็นบ่อที่สมเด็จฯโต ท่านใช้ปลุกเสกในพิธีต่างๆ


มีการเสี่ยงท้ายยกพระครับผมไม่กล้วกลัวยกไม่ขึ้น วันนี้มาไหว้พระ ของดเสี่ยงทายทุกชนิด



ยังมีอีก 6 วัดนะครับ(วัดใหม่อมตรส วัดชนะสงคราม วัดสุทัศ วัดหลวงพ่อโบสถ์น้อย วัดระฆัง วัดแจ้ง)
1/3

247
นมัสการครับหลวงพ่อ.....................
                                           ...........................ขอบคุณท่าน levis   ที่นำภาพมีให้ชม
 

248
    ชวนทำบุญร่วมกันผลบุญจะได้ส่งผลให้เป็นเนื้อคู่กันทุกชาติ ทุกชาติไป [shake]!!!!! [/shake] ไม่ใช่ [/color]
           จะส่งผลให้เจริญ ด้วย อายุ วรรณ สุขะ พละ ลาส ยศ สรรเสริญ สติปัญา ปฎิภาน ธนสานสมบัติ สาธุ

249
     ไปถึงวัดก็ไปกราบสังขารหลวงพ่อเปิ่น และไปกราบหลวงพ่อสำอางค์ ก่อนสัก ผมก็ทำแบบนี้ทุกครั้ง ทีนี่หากเข้ากุฏิไหนว่างก็เข้าไปเลยครับ หากวันเสาร์-อาทิตย์-วันหยุดก็คนเยอะหน่อย วันธรรมดาก็คนน้อยเป็นบางวันนะครับ แล้วแต่ดวงครับ  ขอให้โชคดีนะครับ

250
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: again
« เมื่อ: 07 ก.ค. 2552, 08:36:06 »
สวยครับอย่างที่ท่านสมาชิกทั้งหลายออกความเห็น แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือว่านอกจากความสวยงามในแง่แบบศิลปะแล้ว มีประโยชน์อะไรอย่างอื่นอีกบ้างครับที่พอจะเห็นเป็นรูปธรรมได้ อาทิเช่น สักแล้วอยู่ยงคงกระพัน มีเมตตามหานิยม 100%อะไรทำนองนี้ และที่สำคัญสักเต็มตัวแล้วหลุดพ้นจากความทุกข์ได้มั๊ยครับ คือผมอยากทราบนะครับ ไม่ใช่ลบหลู่....
ขอตอบแบบ ชลาพุชะนะครับ การสักยันต์คือเอาสิ่งที่เราศรัทธา บูชา หรือ เป็น สิ่งดีมาอยู่กับตัวการสักติดตัวเพื่อไม่ให้หายไปไหน เรื่องได้อะไรจากการสักนี่ ไม่เจอกับตัวเองคนยากที่จะบอก แต่อย่างหนึ่ง คนสักยันต์ที่ต้องการให้ของที่อาจารย์มอบให้มาเป็นของดีคุ้มตัว ไม่ว่า ทางคงกระพัน รึ ทางเมตตา ต้องเป็น คนดีถือศีล และ ต้องสวดมนต์ไหว้พระ หมั่น ทำบุญ ต่างๆ
สรุป การสักยันต์ก็คือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แบบเดียวกับ พระเครื่อง ผ้ายันต์ วัตถุมงคลต่างๆ (แต่ก็อยู่ที่ความเชื่อและศรัทธาของแต่ละบุคคลครับ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องไม่ลืมและปฏิบัติตามคำสอนของบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ครับ)

251
หาชมได้ยากทั้งนั้นเลยครับ ด้านล่างใช่ภูธราวดี ปี 06 หรือเปล่าครับ ขอความรู้ครับ.
นมัสการครับหลวงพี่ ตามนั้นเลยครับ ขอให้ข้อมูลเพิ่มคือ ขุนพันธ์เป็นเจ้าพิธีปลุกเสกด้วยครับ
      ผมเห็นบางกระทู้ ตั้งชื่อ ล่อแหลม รึ ให้คิดแนวสนุกๆ แต่ก็พองาม ซึ่งกระทู้นี้ก็เช่นกัน และ กระผมก็ได้ชี้แจงปิดท้ายแล้ว ว่าเป็นการสร้างชื่อเพื่อให้คิดติดตลก ไม่ได้ส่อไปในทางว่าของทั้งหมดเป็นของผม แต่ประการใด ผมว่าน้อยคนนักที่จะได้ถ่ายรูปแบบนี้ ซึ่งเป็นความภูมิใจของผม ใครจะคิดยังไงผมไม่ทราบแต่ได้โปรดดูก่อนจะตำหนิ ดูข้อความให้จบ บทสรุปต่างๆก่อนนะครับ ตามเคยต้องมีคนป่วนให้กระทู้นี้โดนทำให้ผิดจุดประสงค์การตั้งกระทู้ แต่กระผมทำใจและเข้าใจ  ขอช่วยดูที่จุดประสงค์และส่วนรวมได้ประโยชน์มากกว่า ใครเป็นคนตั้งกระทู้

252
เมตตาจากหลวงพี่ต้อยและผู้การเสือให้  ..................
ที่หลวงพี่ต้อยพกติดตัวเชิญชมครับ

เขี้ยวเสือทำเป็นที่เก็บยานัด


มาชมของผู้การเสือบ้างครับ
ถ่ายรวมก่อนเลยครับ

เป็นรูปที่หลวงพ่อเปิ่นใช้ทำพาสปอร์วีซ่าและบัตรต่างๆ มีจีวรและเกศา ของหลวงพ่อเปิ่นด้วย
หลวงพ่อพิมพ์ มาลัย ด้านหลังมีเข็มทอง อัจฐิและตะกรุด

พระนางพญา ที่ผู้การว่าบูชามา ราคาสูงที่สุดที่อยู่ในคอของท่านครับ

หลวงพ่อเปิ่น รุ่นพิเศษ 19 ด้านหลังมีเกศาหลวงพ่อ ท่านผู้การเสือบูชาจากซุ้มหน้าวัดตอนปี 49

เหรียญหลวงปู่ศุข เหรียญนี้ท่านผู้การว่าเจอข้างถนน ไปเดินแถวไหนครับอยากไป
ปล.หลวงพี่ต้อยและผู้การเสือให้.....................(ที่เว้นไว้คือ คำว่าถ่ายรูปครับ 666)

253
ประเสริฐแท้ ดีครับ เอาของดีมาแบ่งกันครับ ทำดีได้ดีครับ

254
     แหมๆๆๆ เหรียญหลวงพ่อคุณรุ่นพิเศษ ปี 17 ไงครับ เหรียญก็ระบุไว้ แต่เนื้อนี่ไม่ทราบครับ หากจะว่าแท้ไหม ต้องรอท่านอื่น ผมก็มีรุ่นนี้เป็น นวโลหะ

255
นมัสการครับหลวงพี่

256
ตอนนี้ 400 แล้วครับ เพิ่งไปบูชามาครับ

258
กระผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ หากมีวันไหนที่ไหน กระกรุณา แจ้งด้วย กระผม ยินดีให้ความร่วมมือเท่าที่จะทำได้ครับ

259
ขอบคุณที่นำภาพบรรยากาศในงานมาฝากครับ

260
ชลาพุชะ กราบขออภัยศิษย์พี่ ศิษย์น้องวัดบางพระ
 
กระผม ชลาพุชะ กราบขออภัยศิษย์พี่ ศิษย์น้องวัดบางพระ ทุกท่าน ที่ได้รับข้อความของผม แบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ซึ่งอาจทำให้พี่น้องหลายท่านสับสน และไม่สบายใจ

สุดท้ายนี้  หากไม่ได้กล่าวคงไม่สบายใจ และไม่ใช่ตัวตนแท้จริงของชลาพุชะ กระผม? ชลาพุชะ ถือโอกาสนี้กราบขออภัยหลวงพี่ญา ท่านต่าย หลวงพี่นรินทร์ (ท่านเว็บ) พี่โชว และศิษย์พี่ ศิษย์น้องทุกท่าน ที่กระผมออกมาปัดป้อง ปกป้องครูบาอาจารย์ในวิถีที่ไม่เหมาะไม่ควร... และขอได้โปรดอภัยให้กระผมชลาพุชะ (สักดา) ด้วยครับ


ขอแสดงความนับถือ


ชลาพุชะ


(กรุณาเมตตาล๊อคกระทู้เหมือนกับของท่านต่าย เพื่อจุดประสงค์เดียวกันครับท่านโองการยันนะรังสี)


หมายเหตุ:แก้ไขเนื้อหา เนื่องจากเนื้อหามีการกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่สองที่สาม... ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

               และอาจเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก


               หลวงพี่เว็บ...

261
พระธาตุช่อแฮ

ปีขาล เกิดปียี (เสือ) พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุช่อแฮ อ. เมือง จ. แพร่
ตำนานเล่าไว้ว่า พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปจะมีเมืองชื่อเมืองแพร่ พระอรหันต์และพระยาอโศก ได้ทูลขอพระเกศาธาตุไปบรรจุโกศแก้ว นำไปไว้ที่ถ้ำด้านตะวันออกของดอยที่ประทับ และพระพุทธเจ้าทรงมีรับสั่ง ให้นำพระธาตุข้อศอกข้างซ้าย มาประดิษฐานที่นี่หลังจากพระองค์ปรินิพพานแล้ว

ประวัติความเป็นมา

พระธาตุช่อแฮประดิษฐานอยู่ ณ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ ๙ กิโลเมตร
องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ย ๆ เช่นเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง สำหรับชื่อที่เรียกนี้ บางท่านอธิบายว่า เดิมมาจากชื่อว่า ช่อแพร และเมืองแพร่ก็คือเมืองแพร่ ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้ประทานพระเกศธาตุองค์หนึ่ง แก่พระอรหันต์ และพระเจ้าอโศกมหาราช ให้แก่ชาวลัวะ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระอรหันต์ได้นำพระธาตุส่วนข้อศอกด้านซ้าย มาประดิษฐานไว้ในพระสถูป ที่ดอยโกสัยชัคคบรรพต หรือดอยช่อแพร หรือช่อแฮแห่งนี้ ตามประวัติกล่าวว่า สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าลิไท แห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งอยู่ในพุทธศตวรรษที่ ๑๙ หัวหน้าชนชาวละว้าได้สร้างองค์พระธาตุสูง ๓๓ เมตร ฐานเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง กว้างด้านละสิบเมตร องค์พระธาตุ บุด้วยทองดอกบวบ เป็นศิลปแบบเชียงแสน ภายในบรรจุพระเกศธาตุ  การได้ชื่อว่าช่อแฮได้มาจากการที่ชาวบ้าน ได้นำแพรชั้นดีจากสิบสองปันนา มาผูกบูชาพระธาตุ ซึ่งได้ชื่อว่า ช่อแพร และได้กลายมาเป็นช่อแฮในปัจจุบัน

262
ด้วยความเคารพครับท่าน โจรสลัดครับ และ จะลงหมวดไหนดีครับ
ชมรูป ชมภาพ
โพสต์รูปภาพต่างๆ เกจิอาจารย์, สักยันต์, ยันต์, วัตถุมงคล, เครื่องรางของขลัง

ช่วยแจ้งด้วยครับ กระผมจะได้ทำตามให้ถูกต้อง

263
    บางรอยสักในตัวกระผม จางมากโดยอาจเป็นที่หมึกของแต่ละสำนัก สีจะเข้มต่างกัน หรือ ผมอาจจะรักษาไม่ดี เคยมีความคิดว่าจะไปให้อาจารย์ท่านเดิมที่สักเติมโดยยกพานใหม่ แต่ทุกท่านก็ว่าตรงกันว่าแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ให้คงไว้ซึ่งของเดิม แล้วผมก็ล้มเลิกที่จะไปเพิ่มเติมหมึกแล้วครับ

264
มาดูพระคู่บ้านคู่เมืองบ้านเกิดผมนะครัน เชิญครับ

พระธาตุช่อแฮ เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ ห่างจากจังหวัดแพร่ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 8 กิโลเมตร

องค์พระธาตุช่อแฮเป็นที่รู้จักและเคารพนับถือแก่ประชาชนทั่วไปมาเป็นเวลาช้านาน องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นรูปแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะแบบเชียงแสน บุด้วยทองดอกบวบสูง 33 เมตร ฐานมีเหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร

พระครูวิมลกิตติสุนทร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแฮ พระอารามหลวง กล่าวถึงความเป็นมาของพระธาตุช่อแฮ ว่า พระธาตุช่อแฮสร้างขึ้นระหว่างจุลศักราช 586-588 (พ.ศ.1879-1881) ในสมัยที่พระมหาธรรมราชาลิไทย ยังทรงเป็นพระมหาอุปราช พระราชบิดาทางโปรดให้ไปครองเมืองศรีสัชนาลัย สวรรคโลก

พระองค์มีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทรงสั่งสอนศีลธรรมแก่ประชาชน และทรงวางแบบแผนแก่คณะสงฆ์ ตามลังกาทวีป จัดให้มีพระสงฆ์ 2 ฝ่าย คือ คามวาสี ศึกษาวินัยเพื่อสั่งสอนคน อรัญวาสี ศึกษาวิปัสสนา มุ่งความสงบแห่งจิตใจ

นอกจากนี้ ยังทรงทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยโปรดให้สร้างสถานที่ที่ปรากฏในพุทธประวัติไว้ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้คณะสงฆ์ตลอดชาวเมืองทั้งหลาย ศึกษาวิปัสสนา

พระองค์ได้โปรดพระราชทานพระบรมธาตุแก่ "ขุนลัวะอ้ายก๊อม" ให้นำไปบรรจุฐานเจดีย์ที่จะสร้างให้คนทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา ในการนี้ขุนลัวะอ้ายก๊อม ได้กล่าวชักชวนหัวเมืองต่างๆ ให้มาร่วมสร้างพระเจดีย์ โดยช่วยกันสำรวจสถานที่จัดสร้าง

เมื่อขุนลัวะอ้ายก๊อมมาถึงบริเวณโกสิยธชัคบรรพต เห็นเป็นทำเลที่เหมาะสมจึงกำหนดให้สร้างเจดีย์ขึ้น

ขุนลัวะอ้ายก๊อมได้สร้างสิงห์ทองคำขึ้น 1 ตัว เอาผอบที่บรรจุพระบรมธาตุไว้ในท้องสิงห์ทองคำตัวนั้นแล้วหล่อเงินและทองคำเป็นแผ่นแล้วมาก่อเป็นแท่นสำหรับตั้งสิงห์ทองคำ นำสิงห์ทองคำนั้นบรรจุในองค์พระเจดีย์เรียบร้อยให้โปกปูนปิดช่องทับเจดีย์ เอาแผ่นทอเหลือง (ทองจังโก) บุรอบองค์พระเจดีย์ตั้งแต่ฐานถึงคอระฆังสูง 2 วา

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขุนลัวะอ้ายก๊อมและมิตรสหายจัดงานสักการะบำเพ็ญกุศลฉลองอย่างมโหฬารเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน โดยรอบองค์พระเจดีย์ประดับประดาด้วยผ้าแพรสีต่างๆ พระเจดีย์องค์นี้ จึงได้ชื่อว่า "พระธาตุช่อแฮ" คำว่า แฮ คงเป็นคำที่เรียกมาจาก แพร

ที่วัดพระธาตุช่อแฮนี้มีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่กับวัดพระธาตุช่อแฮมาช้านานแล้ว ชื่อว่า "พระเจ้าทันใจ" ตั้งประดิษฐานอยู่ในซุ้มเจดีย์ด้านทิศใต้ขององค์พระธาตุช่อแฮ

พระเจ้าทันใจ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด ใครเป็นผู้สร้างแต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างมาพร้อมการสร้างพระธาตุช่อแฮ

พระเจ้าทันใจ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดหน้าตัก 2 ศอก สูง 4 ศอก องค์พระเจ้าทันใจจะมีทองคำเปลวเหลืองอร่ามจากชาวบ้านปิดบูชา เอาไว้ตลอด

จากตำนานที่เล่าสืบกันมาว่า พระเจ้าทันใจ หรือ พระเจ้าตันใจ๋ มีความศักดิ์สิทธิ์หากใครได้ไปกราบไหว้และอธิษฐานให้ดลบันดาลให้พบกับความสำเร็จในชีวิตก็จะได้สมตามความประสงค์

เช่น ในปี พ.ศ.2533 ประเทศไทยมี นางสาวไทย ชื่อ ภัสราภรณ์ ชัยมงคล ซึ่งเป็นนางสาวแพร่มาก่อน โดย น.ส.ภัสราภรณ์ได้มากราบอธิษฐานขอให้การประกวดนางสาวไทย ประสบความสำเร็จได้ตำแหน่ง และเธอก็ได้เป็นนางสาวไทยสมความปรารถนา

ทุกวันนี้ที่วัดพระธาตุช่อแฮ จะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวแวะไปกราบนมัสการองค์พระธาตุช่อแฮ และพระเจ้าทันใจ

รวมทั้งบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เดินทางมารับตำแหน่งใหม่ประจำจังหวัดแพร่ ล้วนแล้วแต่ต้องมากราบขอพรจากพระเจ้าทันใจ เพื่อความเป็นสิริมงคลในอาชีพรับราชการ

ทั้งนี้ ที่วัดพระธาตุช่อแฮยังได้จัดสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่น เศรษฐีทันใจ ด้านหน้าเป็นรูปพระเจ้าทันใจ ด้านหลังเป็นองค์ท้าวจตุคามรามเทพ และยังมีเหรียญของ พระเจ้าทันใจ อีกหลายรุ่น

รุ่นล่าสุด คือ พระเจ้าทันใจ รุ่นมหาโชค มหาลาภ ซึ่งด้านหลังจะเป็นรูปขององค์พระธาตุช่อแฮ โดยเกจิอาจารย์ชื่อดังนั่งปรกอธิษฐานจิตภาวนา สำหรับให้ชาวบ้านที่มีศรัทธาได้ไว้บูชาอีกด้วย วัตถุมงคลของพระเจ้าทันใจ นับว่าเป็นสิริมงคลยิ่ง

นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเดินทางไปเมืองแพร่ แวะไปนมัสการพระธาตุช่อแฮและกราบขอพรพระเจ้าทันใจจะได้สิ่งที่ท่านปรารถนาทันใจ

คาถาบูชาพระเจ้าทันใจ "นะโม นะมะ สะขัง โกธะมัง ใจจะคุ" กล่าว 3 จบ จะเป็นสิริมงคลนักแล
ได้ข้อมูลมาจาก-http://www.navy22.com/smf/index.php/topic,14758.msg12838.html

265
อาจารย์ทุกๆท่านเมตตาท่านมากเลยนะครับ

266
ขนาดน้ำมันนะนี่ ดีใจด้วยครับ

267
ของดีอยู่กับคนดีครับท่าน ขอบคุณที่นำภาพดีๆมาให้ชม

268
ได้ความรู้เลยครับกระทู้นี้ ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้และทุกๆท่านที่ตอบนะครับ

269
  ท่านผู้การเป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกเราชาวบางพระ ขอให้ท่านอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของเรานานๆนะครับ

270
ขอบคุณที่นำของดีมาให้ชมครับ หาดูได้ยากครับ

271
บทความ บทกวี / ตอบ: มอง มอง มอง
« เมื่อ: 04 ก.ค. 2552, 08:41:47 »
ได้อ่านอะไรที่ทำให้มีมุมมองที่ดีอีกแล้ว ขอบคุณครับ

272
ยินดีด้วยนะครับท่าน สวยงามเลยครับ

273
          ในเมื่อตัวผมผิดผมก็ขออภัยครับ และขออภัยจากใจจริง ซึ่งผมยอมรับว่าผมไม่ได้ใช้สติอย่างท่านว่าจริงแท้ ผมคงรู้แล้วว่าจะควรทำตัวอย่างไรและจะทำนับจากนี้ ขอบคุณที่ท่านให้ผมได้พบแสงสว่าง ผมขออภัยจริงๆครับ ขอโทษทุกๆท่านด้วย และดีใจที่ทุกๆท่านรัก ครูบาอาจารย์ กันทั้งนั้น

274
หวังว่าใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น จริงๆครับ สาธุ

275
     ด้วยความเคารพ ซึ่งเคารพท่านโองการยันนะรังสีจริงๆจากใจไม่เคยคิดเป็นอื่น ข้อความบางข้อความก็แจ้งให้รู้ถึงจุดหมายในตัวข้อความนั้นและบางข้อความก็ส่งเพื่อดำรงค์ไว้ด้วยศักดิ์ศรีครูบาอาจารย์ และวัดบางพระ ข้อความดีก็คือข้อความดี ข้อความที่ปกป้องศักดิ์ศรีก็คือข้อความที่ปกป้องศักดิ์ศรีครูบาอาจารย์ ขอให้เน้นที่ สาระของข้อความ ไม่ใช่คิดว่าข้อความนี้ใครส่งและใช่คนที่เราชอบไหม ขอให้มองถึงความจริงของข้อความมากกว่าตัวผู้ส่ง และ คิดดูถึงหลักความเป็นจริงว่า ข้อเท็จจริงที่ได้รับข้อความนั้นเป็นยังไง ผมแปลกใจที่บางคนยอมฟังคำที่กล่าวว่าอาจารย์ตัวเองแล้วไม่ทำอะไร ยอมรับว่ามีคำสอนต่อๆกันมาว่า เวรต้องระงับด้วยการไม่จอเวร แต่หากแกล้งทำหูไม่ได้ยิน หลายคนได้ยินข้อความที่ผิดๆไม่จริงไป แล้วไหนล่ะคือความจริง ความจริงต้องพิสูจณ์ได้ ความจริงก็คือความจริง และไม่ต้องหลบซ้อน

277
ของดีอยู่คู่คนดีครับ ยินดีด้วยนะครับ

278

แหมให้ทำหน้าแบบท่านซัมซุงเพื่อการนี้นี่เอง ทำกันได้นะ  รูปสวยๆก็ไม่ลง นะพี่สาว

279
เด็กคนนี้โตมารุ่งแน่ๆขึ้นกล้องเชียว ขอบคุณภาพสวยๆนะครับ

280
        วันที่29-30 ที่ผ่านมากระผมไปวัดบางพระเพื่อเข้าร่วมงานร่วมงานทำบุญวันคล้ายวันมรณะภาพ พระอุดมประชานาถ ( หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ )ครบรอบ ปีที่ ๗ และถือโอกาสนี้กราบครูบาอาจารย์ ทุกรูป ทุกท่าน เพื่อเป็นศิริมงคล
29/06/52  09.00-22.00น

เข้าวัดเข้าไปกราบสังขารหลวงพ่อเปิ่น ไปกราบหลวงพ่อสำอ่งค์ แล้วตรงไปกุฏิหลวงพี่ญา


เข้าไปกราบหลวงพี่ญาหลวงพี่นัน และก็พบท่านผู้การเสือ ท่านพาว่าที่คุณหมอ จากชิคคาโก้ มาสัก หมอยังสักเลย หมอนอกเสียด้วย

หลังท่านเสือขาวครับ มาช่วยงานโดยเฉพาะ ชอบหอมเชียงมากๆครับ

พระในคอท่านเสือขาว ที่หลวงพ่อเปิ่นท่านเมตตาจารให้ สวยมากๆครับ

พอผมเห็นพระท่านผู้การเสือ ชอบเลยครับ เลยขอถ่ายและขอสอบถามประวัติพระแต่ละองค์ท่านก็เมตตาให้ข้อมูลอย่างละเอียด ซึ่งจะลงข้อมูลในกระทู้ต่อไป[/size]30/06/52  04.30-16.00น

ได้ถ่ายภาพดีๆครับที่กุฏิหลวงพี่ต้อย

พอเริ่มสายนิดๆเริ่มห็นพี่น้องชาวเว็ปมากันได้ข่าวมีลูกชิ้น งานนี้รอกินครับ





ใครเป็นใครดูเองครับท่านมากันเยอะครับ

ชอบลูกสาวท่านคนรักษ์พระครับ น่าเกลียดน่าชังมากๆขอบอก ไม่งอแงเลย

ระดับบิ๊กของเว็ปเรา

คิดได้ไงเอาหมีมาถวายหลวงพี่ ไม่กล้านะ




หลวงพี่ญาให้ของแจก มีของ สิบทัศน์ และของผู้การด้วย โดยผู้การเสือเป็นผู้แจก


มาชมที่กูฏิใหญ่บางนะครับ

ปล.มีรูปอีกเยอครับ แต่เน็ทที่ร้านที่ทำงานแพงมากๆ ชัว่โมง 60 คิดได้ไง


282
      ยอมรับจากใจเลยว่า มันเยอะมากและทำงานเป็นทีมครับ หากไม่ได้ มุ้งจากหลวงพี่ ผมว่า ไม่ได้นอนแน่ๆครับ ขอกราบขอพระคุณหลวงพี่ที่เมตตา ชลาพุชะครับ
ปล. กย.15 ก็เอาไม่อยู่ครับพี่น้อง

283
            เส้นคมสวยมากครับ หลังขาวเนียน หมึกดูเข็ม สวยครับ หากจะสักเพิ่ม ก็น่าจะถามอาจารย์ที่สักนะครับ ท่านวางแบบไว้สวยแล้ว

284
      ผมก็เป็น ลูกศิษย์ คนหนึ่ง ที่หลวงพี่ญา ท่านเมตตา สัดยันต์เกราะเพชรให้ ยอมรับ ว่าหากเป็นท่านอื่นสักให้ จะไม่มีความสุขเท่าหลวงพี่ญา เนื่องจากใจครับ ใจ ศรัทธาในหลวงพี่ญาครับ เรื่อง เจ็บ คงไม่ คิดถึง

285
การเกิด จำแนกเป็น ๔ ลักษณะ คือ ชลาพุชะ อัณฑชะ สังเสทชะ โอปปาติกะ
        ชลาพุชะ คือ สัตว์ที่เกิดในครรภ์ ได้แก่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหลาย
       อัณฑชะ คือ สัตว์ที่เกิดในไข่ ได้แก่ สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลานบางชนิด
       สังเสทชะ คือ สัตว์ที่เกิดในเมือกในไคล เช่น แมลง
       โอปปาติกะ คือ สัตว์ที่ผุดขึ้นทันใดไม่ต้องอาศัยที่ตั้ง เช่น เทวดา มาร พรหม สัตว์นรกเปรตและมนุษย์ในยุคแรกของวัฒนาการ
    การที่ผมตั้งชื่อแบบนี้ มาจากให้นึกถึง มารดา บิดา
   กระผมก็ใช้เว็ปอาจารย์เหน่ง เป็น คนๆเดียวกัน เพราะผมกับ ท่านอาจารย์เหน่ง เป็นศิษย์ของอาจารย์ประโยชน์ ครับ

286
   มาที่วัดบางพระตรงไปกุฏิใหญ่ กราบสังขารหลวงพ่อเปิ่น ต่อด้วย เข้าไปกราบหลวงพ่อสำอางค์ให้ท่านลงนะหน้าทอง แล้วตรงไปที่ตู้จำหน่ายวัตถุมงคลของวัด ก็บูชาเลยครับ ของแท้ทุกดอก ก็ถามหลวงพี่ที่ดูแลตู้เลยว่า มีตะกรุดดอกไหนทันหลวงพ่อเปิ่นปลุกเสกบ้าง ง่ายๆท่าน รับรองตามนี้ดีที่สุด

287
สวยงาม เส้นคม ตามแบบท่านอาจารย์หนวดครับ ช่วงนี้ไม่ได้ไปวัดช่วงท่านอาจารย์หนวดอยู่เลย ต้องหาเวลาไปครับ

288
ท่าน เปรี้ยวปี๊ด ครับมี 2 องค์ แบ่งผมองค์จะได้กุศลเหลือคณานับ 20;

289
ขอบคุณมากๆเลย ครับท่านปอ

291
    วันนี้ไปวัดสว่างอารมณ์ เพื่อ เข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อแป๊ะเจ้าอาวาสและเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ไปแต่เช้า พอมองป้ายประกาศบ่ายโมงโน้นงานนี้รอหลายชั่วโมงเลย งั้นเดินดูรอบวัดและขอเก็บภาพมาให้ชมครับ เชิญชมครับ

เข้ามาก็เจอด่านแรกทำบัตรก่อนเลยครับ เล่นมาซะเช้ายังไม่แจกพานครู รอก่อนเลย รับบัตรไปก่อน 666

พอลงทะเบียนแล้วก็ไปกราบนมัสการหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านเมตตาให้ยันต์กับมะรุมทอง-เงิน ต่อเงินต่อทอง



โล่งเลยครับ มีเศียรเยอะมา ดูเองนะครับ บรรยายกลัวผิด 666

มีนอนโลงด้วย ผมกลัวเหมือนในหนัง ผมขอผ่านครับ


ทีมจู่โจมเตรียมทำงาน

ผมชอบพ่อแก่ปางนี้มากๆโหดดีชอบครับ

มาแต่เช้าเลยยังเงียบ ดีครับถ่ายรูปเต็มที่เลย
ภาพนี้สงสารเด็กๆจัง โดนใช้แรงงาน ผมล่ะยืนดูจนขนเสร็จ [shake]อ้าว!งงทำไมไม่ไปช่วยน้องเค้า
ทั้งคอกเลย น่า กิน ไม่ใช่ น่าสงสาร

จะได้ลอดโบสถ์ครั้งแรกในชีวิต

นี่ใต้โบสถ์นะนี่ เหมือนเขาวงกต


ทางออกครับ โชคดีไม่อุปสรรคในชีวิตแล้วเรา

หอระฆัง สูง และ สวยดีครับ

เริ่มมากันแล้ว คนอย่างเยอะ




กราบตามจุดตามขั้นตอน ครับ
 
ตอนนี้ต้องเข้าสู่พิธีและคงจะไม่สะดวกถ่ายรูปนะครับ ขอบคุณครับ



292
บางครั้ง คำว่า ขอโทด มันก็พูดกันง่ายครับ
แต่จะขอโทดด้วยใจจริงนั้น ทำได้ยากกกก  [/color] :093:
แหมโดนใจเหลือ คนานับ ชอบวลีนี้ครับ
        
       บางที่การทำผิดบางอย่างขอโทษคงไม่ทำให้อะไรๆมันดีขึ้นครับ ยิ่งเป็นการขอโทษแบบส่งๆขอไปทีด้วยแล้ว ยกตัวอย่าง หากทำผิดในที่สาธารณะแล้วมาขอโทษในที่ลับ นั้นไม่แสดงถึงความจริงใจในการขอโทษ
        
       ล้านนาไทยใหญ่บ้านผม มีพิธี ขอขมา (ไม่รู้เขียนยังไง) แบบ ตาต่อตาฟันต่อฟัน ดังประกาศ สร้างกฏหมายล้านนาซึ่งจะแปลใจความบางท่อนที่ผมชอบ "ไอ้อีผู้ใดไม่ว่าวรรณะ หรือ ยสใดก็ตาม กระทำการกล่าวหาต่อว่า พระครูบาอาจารย์ ในทางเสื่อมเสีย รึ ไม่ให้เกียรติ ไม่ใช้คำ นำหน้าให้เหมาะสม ไอ้อีผู้นั้นต้องถูกมัดหลักประจานหน้าที่โล่งกลางชุมชน ถอนฟันหน้าจำนวน 4 ซี่ "

293
แหมๆๆเก็บเงียบเลยนะ สุขสันต์วันเกิดนะท่านครับ

294
      ขอบคุณที่นำข้อมูลมาให้ชมนะครับ มีรูปลายสักแบบโบราณไหมครับ ผมเคยเห็นพระบุตร-พระลบที่สำนักอาจารย์ถึง คงทน เป็นยันต์ใหญ่จะต้องบายศรีหัวหมูดูวันอีกไม่รู้จะมีบุญได้สักไหม

295
ของดีๆทั้งนั้น อยากได้เป็นของตัวเอง เพียงแต่จะไปหาที่ไหนล่ะครับ

296
ดูดุดีครับ น่ากลัว มากๆ

297
1.พี่ที่เคยสักกับบางพระพามาเพื่อสัก
2.มากกว่า50ครั้ง
3.ไม่ทันหลวงพ่อเปิ่น
4.ด้านหลังของผมเป็นบางพระทั้งหมด มีสะโพห กับแขน
5.ไปสักที่กุฏิหลวงพี่ญา แล้ว ติดอยู่ที่ฝนัง

299
ของดีนะครับแปลรูปออกมาก็คงสวยนะครับ

300
 11.00 น.ถวายเพลพระครับ

301
สวยดีครับ

302
ฮามากๆครับบรรพบุรุษเราก็ มีอารมณ์ขันนะนี่ ขอบคุณท่านอชิตะนะครับ

303
ขอบคุณที่เข้ามาเตือนสติครับ

304
ของผมทาไม่คงไม่อยู่ เล่นพอกเลยครับ ทั้งตัวก่อนนอน และก่อนไปทำงาน หากคันก็ใช้แป้งตางูครับ

305
สวยดีนะครับ

ได้ของที่ดีแล้วก้อควรปฎิบัติตัวดีตามด้วยนะครับ

ขอบคุณที่ให้ดูเป็นวิทยาทานนะครับ

             ทุกวันนี้กระผมก็ไม่ได้ปฎิบัติตัวอะไรที่ผิดนี่ครับ ของดีก็ต้องเสาะหาเพราะเคารพ ด้วย กาย วาจา ใจและศรัทธาในอาจารย์ท่านนั้นๆ ต้องศรัทธามากด้วยจึงจะได้มาสักในตัวกระผม กระผมก็ทำได้ทุกข้อที่อาจารย์ท่านสอนสั่งอย่างเคร่งครัด ครูบาอาจารย์ บิดามารดา กระผมบูชาไว้เหนือหัว

306
ของผม แขวน
-หลวงพ่อเปิ่น ปี 35 ท่านเอ็ม ให้มา
-ตะกรุดฝาบาตรของหลวงพ่อเปิ่น
-เหรียญจอบ พ่อทองรุ่น 1
ใช่พกแบบหนีบ
-วันธนู หลวงพ่อพุตวัดกลางบางพระ
-ลูกอมเสือที่หลวงพี่ญาท่านเมตตาให้

307
สวยดีครับ คงจะออกแนวเมตตา ครับ

311
งามจับใจมากๆ

312
ตามความเหมาะสมและความชอบของเจ้าของพื้นที่ ที่สำคัญคือตามกำลังเงินครับ

313
ว่าไงว่าตามกันครับ

314
แล้วแต่ดวงจริงๆครับ

315
สวยดีครับท่านได้มายังไงครับ

316
เก็บรักษาได้ดีมากๆครับ สภาพยังดีมากๆเลย สวยครับ

317
อ่านง่ายเข้าใจง่ายได้ความรู้ดีตามแบบกระทู้ของท่าน อชิตะ จริงๆ

318
ก็มองได้หลายมุมนะครับท่าน นก  20;

319
บทความ บทกวี / ตอบ: ...หลงลืม...
« เมื่อ: 23 มิ.ย. 2552, 12:03:10 »
ขอบคุณครับ

320
ผมกลัวเข็มมากเลยครับแค่ฉีดยายังกลัวเลยนี้ เล่นฝั่งให้เห็นเลยเสียวสุดน่ากลัวด้วย ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

321
ก็ได้ความรู้ดีนะครับ ขอบคุณครับ

322
เขียนวิธีเลี้ยงส่งไปด้วยนะครับหวังว่าพีที่อังกฤษ คงรู้วิธีเลี้ยงนะครับ ผมเคยเจอเศียรพระวางไว้ใต้บันได หดหู่ที่ได้เห็น ไม่ได้ป่วนนะครับเป็นห่วงของดีๆจะไปอยู่ที่ไม่ควร

323
สวยกันทั้งนั้นเลยนะครับ

324
งานนี้ต้องไปครับ ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
                                                  ในความคิดผมคือบทพิสูจน์ ที่ได้เกิดมาเป็น

                                                       ลูกผู้ชายเต็มตัว     

325
ขอบคุณที่นำภาพสวยๆมาให้ชมนะครับ

327
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: มาแล้ว
« เมื่อ: 20 มิ.ย. 2552, 03:55:09 »
งั้นวันนี้ไปวัดบางพระดีกว่า

329
สวยครับ เน้นจุดเพิ่มสีอย่างตั้งใจสวยจริงๆ

330
         ผมก็เคยครับ แต่พ่อแม่บางคนก็ยากที่จะขอ แล้วหากโกหกหนีมาสักนี่ก็ผิดนะครับ ขอไปตรงๆไม่ให้ ก็ไม่ต้องสัก รอโตก่อน ผมเองอยากสัก ขอแม่ แม่ไม่ให้สักบอกเรียนอยู่หาเงินก็ไม่ได้ จบก่อนค่อยสัก กว่าผมจะได้สักก็ อายุปาไป 30 ขวบ ที่นี้สักเต็มที่ครับ ความตั้งใจดีรอได้

331
   วันนี้ไปขอให้อาจารย์ ถึง คงทน เมตตามาครับ โชคดีมากๆที่ได้สักกับท่าน ได้คุยและได้รับความรู้จากท่านมากมาย วันนี้ท่านสักผมคนเดียวเลย ไม่มีใครมาก็ดีไปอย่างนะครับ แต่ อาจารย์ว่าน่าจะมีคนมาช่วยขึงจะได้เร็วและสวย สำนักเงียบสงบมากๆ นี่ล่ะครับพระลักษณ์หน้าทองที่ผมไปสักมาครับ นี่ขนาดอาบน้ำแล้วทองคำเปลวยังติดอยู่เลยครับ
ปล.ขอบคุณท่าน เปรี้ยวปี้ด มากๆนะครับ ที่ให้แผนที่และที่อยู่อย่างละเอียดครับ

332
ขนาดน้ำมันยังงดงามขนาดนี้ ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมนะครับ

333
ก็แปลกดีนะครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ

334
ว่าไงว่าตามกันครับ

335
ของดีย่อมอยู่กับคนดี สวยมากๆครับ

336
เริ่มต้นได้ดีครับ สวยครับเป็นกำลังใจให้นะ

337
   วันนี้คิดถึงอาจารย์ต้อย วัดกำพร้าสมุทรสาครมากๆ ตื่นนอนแต่เช้ารีบไปหาท่านเลย ไปถึงบ้านท่าน 06.30 น.ไม่น่าเชื่อมีลูกศิษย์ชาวมอญมารอสักก่อนเราอีก ขยันมาจัง พอ 09.00 น.อาจารย์ก็เริ่มสัก พอท่านเมตตาสักให้กระผมเสร็จแล้ว กระผมจะขอตัวกลับ กราบลากะเดินทางกลับโดยรถตู้ นั่งรถสองแถวได้ยินคนคุยกันเรื่องรถไฟฟรี ไปลงวงเวียนใหญ่เลยอยากลองดูไม่ได้นั่งรถไฟมานานแล้ว น่าจะ10 ปีได้พอไปถึงสถานีรถไฟ มีป้ายบอกที่จุดขายตั๋ว รถออก 13.15 น. ดูเวลา
          อีกเป็นชั่วโมงว่าแล้วก็ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองดีกว่า ไม่ได้ไหว้ศาลมานานแล้วได้แต่ผ่านไปมา


    ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย เป็นแผ่นไม้รูปแกะสลัก ขนาดสูงประมาณ 1 เมตร เรียกว่าเทพเจ้าจอมเมือง เป็นเทวดาหัตถ์ขวายกประทานพร หัตถ์ซ้ายถือพระขรรค์ มีกุมารน้อย 2 คน เป็นบริวารอยู่ด้านข้าง มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า แผ่นไม้สลักนี้ลอยน้ำผ่านคลองมหาชัย ชาวบ้านได้อัญเชิญขึ้นสักการะสร้างเป็นศาลเล็กๆ ไว้ที่ป้อมวิเชียรโชฎกเรียกศาลเทพเจ้าจอมเมืองตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น      ต่อมาสร้างอาคารทรงไทยใน พ.ศ. 2460 แต่อาคารนี้ถูกรื้อหลังการก่อสร้างศาลหลัก เมืองใน พ.ศ. 2525 เชิญเจ้าพ่อหลักเมืองไปประดิษฐานบนด้านเหนือศาลหลักเมือง แต่มีการประทับทรงเจ้าพ่อวิชียรโชติ จึงสร้างอาคารใหม่เป็นศิลปกรรมจีนสวยงามมาก เป็นที่นับถือกราบไหว้ของชาวไทย ชาวจีน โดยเฉพาะชาวประมงมักขอพรบนบานขอให้ทำกิจการปลอดภัยและร่ำรวย จะมีการแก้บนด้วยฝิ่นเสมอ โดยนำมาป้ายที่บริเวณปากส่วนศาลหลักเมืองอยู่ถัดออกไป เป็นหลักเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ ส่วนการบนบานขพรนั้นโดยส่วนใหญ่จะเป็นชาวประมงเพราะชาวสมุทรสาครส่วนใหญ่จะปรักอบอาชีพประมงดังนั้นชาวประมงจะมาขอพรก่อนจะนำเรือออก นอกจากนี้ยังมีคนมาไหว้ขอพรในเรื่องการค้าขาย ถือได้ว่าเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวสมุทรสาครโดยแท้


สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต 2 โทรศัพท์หมายเลข 0 3247 1005 ? 6 หรือที่ E-mail : tatphet@tat.or.th[/color]
  แล้วก็มาเดินชมตลาดต่อ ที่นี่ของทะเลขึ้นชื่อว่าสด-ใหม่-ราคาถูก ขอนำภาพตลาดมาให้ชมนะครับ

ปลาทูตัวเท่าศอกเลยครับใหญ่มาก
ปูเฉพาะก้ามก็สดๆ

มองนาฬิกาใกล้เวลารถไฟออกแล้วไปดีกว่า
รับตั๋วฟรีขึ้นรถไฟ รถสะอาดมากครับว่างด้วยเลือกที่นั่งตามสบายเลย
เดินทางกลับแบบไม่เสียเงินค่าโดยสารจาก สมุทรสาคร-กทม ครั้งแรกเลยนะนี่ดีจัง

นำข้อมูลศาลหลักเมืองมาจาก-สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต 2 โทรศัพท์หมายเลข 0 3247 1005 ? 6 หรือที่ E-mail : tatphet@tat.or.th

338
สวยเหลือเกินครับ

339
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: photo
« เมื่อ: 17 มิ.ย. 2552, 09:28:14 »
ขอบคุณครับที่นำภาพดีๆมาให้ชม

341
ได้ความรู้มากมาย ที่ได้เขามาอ่านขอบคุณครับ

343
จะแจกตอนไหนผมจะได้ไปต่อคิว 20;

344
แมวนี่นานๆได้ชมนะครับ ขอบคุณครับ

345
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 003
« เมื่อ: 17 มิ.ย. 2552, 04:00:53 »
ขอสอบถามว่าพระอาจารย์ในภาพนี้ ท่านชื่ออะไร และสักที่ไหนครับ
มุมกล้องมองแล้วไม่คุ้นเลย

346
เต่านี่พุทธคุณด้านไหนครับ............
                                           ขอบคุณสำหรับภาพของทุกท่าน

347
ของดีย่อมมาหาคนดี

348
ยินดีด้วยที่ท่านได้ของดีมาอยู่กับตัว.......
                                                ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมนะครับ

349
ขอบคุณครับ...........
                         
               

350
ขอบคุณสำหรับกลอน+บทความนะครับ เป็นประโยชน์ได้แง่คิดครับ

351
พี่น้องกันขอลัดครั้ง สองครั้งก็คงไม่เป็นไรมั่งครับ ได้มามีแต่ของสวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ

352
สวยมากๆครับว่าแต่สักที่ไหนมาครับ

353
มีคนลงความหมายและพุทธคุณแล้วงั้นผมลงรูปนะครับ



หลวงพี่ญาท่านเมตตาครับ

354
อันนี้ใช่ไหมที่น้องตั้นอยากได้ แหมได้เห็นภาพแล้ว ผมก็อยากได้เช่นกัน ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ รอดูของ พรุ่งนี้นะครับ

355
     มันแปลกที่ผมไม่คิดแบบนั้น ยักษ์ภายนอกอาจดูดุร้ายเป็นพวกกินเนื้อ
                                     
                  ผมว่าเป็นที่การก่อสร้างมากกว่าครับ

356
   เมื่อ 3-4 วันก่อนเจอสาวๆมากกว่า 8ท่านยกพานหลวงพี่นัน ทุกท่าน สัก ห้าแถวหลวงพี่ก็เมตตาตามขอ พอไปหลวงพี่ต้อย ก็มีหญิงใจชายท่านหนึ่งอย่างน่ารักเลย สักห้าแถวอีก ผมว่าลองขอดูนะครับ พระอาจารย์-อาจารย์ที่บางพระทุกท่าน เมตตาทั้ง ศิษย์เก่าใหม่ เท่าๆกัน ลองดูครับ เป็นกำลังใจให้ไม่ลองไม่รุ้

357
อย่าพึ่งออกอากาศดีกว่าครับ ขอผมไปก่อนครับเดี๋ยวหมด

358
เข้มขลังครับ คนรุ่นเก่าๆสักไม่เยอะแต่เหนียววว :002:
แลดูเป็นของดั้งเดิม original ดีมากครับ ขนาดใหญ่ชัดเจน สักเน้นพุทธคุณมากกว่าสวยงาม  แต่เหนียวได้ใจ  :016: :016:
เหนียวจริงๆครับ...ช่วงหลังๆนี้ผมขอตังค์แก..แกไม่ค่อยให้เท่าไร...อิอิ :058:
มันคนละเหนียวกันมั่งครับ

359
ยินดีด้วย ดูขลังดีครับ

360
ฮาดีครับ อันสุดท้ายขอบ้านผมด้วย อายจัง

361
สวยงามมากๆครับ เห็นน้องตั้นก็อยากได้เห็นหาๆอยู่ มีหอมเชียง ปี 44 อีกได้ยังครับน้องรัก

362
       สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกศรัทธากับหลวงพี่แป๊ว คือท่านจำศิษย์ทุกคนได้ ผมสักกับท่าน 9ครั้ง ห่างๆกัน แต่ท่านก็จำได้และยังถามถึงรุ่นน้องที่พาผมมาสักอีกทั้งที่เค้าไม่ได้มาวัด เกือบ ปีแล้ว ชื่ออะไรทำงานอะไรบ้านอยู่ไหน ท่านจำได้

363
นี่น้ำมันนะนี่โหดเอาเรื่องเลย สวยมากๆครับ

364
           ในความคิดผม ท่านซัมซุงคงช่วยบอกคนที่บ้านเมืองเค้าถึงเรื่องราวของบางพระได้ดีผมไม่รู้ถึงจุดประสงค์อันแท้จริงของท่าน แต่ท่านก็อดทนมากๆนับถือ  มา 3ครั้งๆละเดือนตามอายุหนังสือเดินทางเลยนะ

365
      มาเช้าให้เป็นคนแรกก็ได้สักก่อน ก็เท่านั้น บางทีมา 6 โมง ดันมีคนมาตี5 บางทีมาตี5 ก็เจอพวกนอนวัด แหมไปเช้าๆก็พอครับอย่าคิดมาก

366
       งานนี้ผิดจริงๆก็เตือนแล้วว่า"ใช้คำแรงจังเด็ก ควรมีผู้ปกครองให้คำแนะนำ" โดนแนะนำและตักเตือนจริงๆ ก็คงต้องน้อมรับผิดแล้วนะพี่เรางานนี้:069:
           
        รับทราบและพร้อมปฎิบัติตามความถูกต้องและมารยาทครับ

367
หนุมานอาจารย์หนูสักให้เองเลยรึครับ หายากนะครับ

368
ใช้คำแรงจังเด็ก ควรมีผู้ปกครองให้คำแนะนำ

369
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 002
« เมื่อ: 15 มิ.ย. 2552, 04:24:33 »
สุดยอดเลยครับ

370
ขอกราบนมัสการ ครับหลวงพ่อ ภาพคงถ่ายมานานมากแล้ว ว่าแต่งานอะไรครับ

371
ทำดีครูบาอาจารย์คุ้มครองครับ

372
      กระผมไปวัดหลายครั้งที่โดยสารรถโดยสาร ดอนตูม-นครปฐม ตามปกติ รถคนสุดท้ายจะผ่านหน้าวัดบางพระ 18.00-19.00น. ซึ่งผมจะนั่งไปลงแยกท่านาเพื่อต่อรถ มีหลายครั้ง รถหมดก่อนเวลา หรือไม่วิ่งต่อ 3 วันก่อน ผมมารอรถ 17.30-19.30น.  นั่งไป รถดอนตูมก็วิ่งผ่าน 4 คัน ทุกคันไม่วิ่งต่อ แม่ค้าขายของว่าประจำเลยหากดูแล้วไม่คุ้มบางทีก็ไม่วิ่ง งงครับ แต่เข้าใจ

ที่มาสร้างกระทู้นี่ไม่ใช่จะว่าใครผิดแต่ประการใด เพียงแค่อยากให้หลายๆท่านเผื่อเวลานิดนึง


373
ขอบคุณมากๆครับ ได้อ่านบทความดีๆ

374
[shake]ว่าไงว่าตามกันครับ กระผม[/shake]

375
แล้ว ทุกสิ้นเดือนโดนปล้นตอนเข้าบ้าน โดย ภรรยานี่จะคิดในแง่ดียังไง 07;

376
สักสวยมากครับ นับถือจริงๆครับ ใจ คอไม่ลงชื่ออาจารย์หน่อยรึครับ

377
มาแต่ละท่าน ผมล่ะชออ่านอย่างเดียวดีกว่า สนทนาแบบกวีไม่เป็นแต่ชอบอ่านครับ ขอบคุณครับ

378
ทำไมถึงไม่ได้อะครับ

อยากรู้เหตุผลจริงๆครับ เพราะแม่ผมท่านก็บอกประมาณว่า วิญญาณบรรพบุรุษจะเข้าบ้านไม่ได้ด้วย

ใช่ไหมครับ

ใจจริงๆ ผมอยากเช่ามากๆ... :054:
ก็ดูจะแปลกในสายตาหลายๆท่านและกลัวจะได้อ่านข้อความที่รู้สึกไม่ดี เหตุผลที่พ่อผมให้ ก็คือ ปู่เพิ่ง่เสียได้ไม่นานแล้ว 100 วันจะทำบุญก็กลัวผีปู่ผมเข้ามาเอาส่วนบุญที่ทำให้ไม่ได้ ผมก็จนใจ แล้วบอกว่า ครบ100วันล่ะพ่อก็บอกเก็บกระดูกปู่ไว้บ้าน ปู่จะเข้าออกลำบากครับ นี่คือเหตุผลของพ่อผม ซึ่ง ท่านคือพ่อ ก็เลยไม่เถียงและรอวันที่มีบ้านของตนจึงจะได้บูชาครับ

379
ได้ความรู้เลยครับ ผมก็ไปมาแล้ว 3 แห่ง งั้นก็อีก 6 แห่งสิท่าน งานนี้ต้องไปให้ได้ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆแน่นๆและภาพสวยๆนะครับ

380
           ผมก็ไปวัดนกหลายครั้งได้เข้าไปในจุดที่ให้บูชาวัตถุมงคล ซึ่งมาจากหลายๆวัดดัง ในนั้นก็มีวัตถุมงคลจากวัดบางพระ และมีหลายอย่างที่ผมชอบ แต่ยังขาดองค์ประกอบในทางเศรษฐกิจส่วนตัวของผม แต่มีท้าวเวชสุวรรณที่ผมอยากได้ไปบูชาที่บ้านมาก ตั้งใจหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ลังเลในการตั้งบูชา เดินไปเดินมา เห็นรูป หลวงพี่ญา ร่วมเป็น พระคณาจารย์นั่งปรกบริกรรมปลุกเสกด้วย ก็มีพระอาจารย์รูปอื่นๆหลายท่านแต่ผมศรัทธาในตัวหลวงพี่ญาและรู้จักท่านเพียงรูปเดียวซึ่งท่านเมตตาสักให้กระผมหลายต่อหลายครั้ง เลยตัดสินใจบูชาเลย โทรหาแม่ ขอนำท้าวเวชสุวรรณขนาด 19 นิ้ว เข้าบ้านโทรสั่งเมียเตรียมห้องเตรียมโต๊ะหมู่ เอาแยกเดี่ยวเลย วางหูไป 5 นาที ขณะนั้นกำลังคิดว่า จะบูชา เนื้อโลหะรมดำ รึ เนื้อโลหะปิดทองเพ้นท์สีดี เสียงโทรจากพ่อก็ดังขึ้น ท่านขอว่าไม่บูชาได้ไหม ซึ่งฟังเหตุผลแล้ว ไม่สามารถ บอกต่อได้อายครับ ผมเศร้าและขอต่อรองเป็น รูปหล่อองค์เล็กๆได้ไหม กว่าจะได้เกือบเสียน้ำตา ในที่สุดก็ได้บูชาเข้าจนได้ ดีใจมากๆครับ ขอลงรูปสักนิดนะครับถ่ายทอดความภูมิใจ







ปล.ไว้ผมแยกครอบครัวก่อนจะนำขนาดบูชาเข้าบ้านให้ได้ครับ ถึงตอนนั้นจะหาที่ไหนนี่

381
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: yesterday
« เมื่อ: 14 มิ.ย. 2552, 11:52:33 »
บางครั้งภาพก็บรรยายความรู้สึกมากกว่าคำพูด ขึ้นอยู่ว่าจะเข้าใจไหม ถ่ายมาได้ดีครับ ขอนิดนึงนะครับ ภาพงานอะไรและที่ไหนครับ

382
นมัสการครับหลวงปู่ ได้ดูรูปแล้วถ่ายและตัดต่อได้ดี ขอบคุณครับ

383
สวยคมเส้นพริ้วไหว เหมือนมีชีวิตเลยครับ สวยจริงๆ

384
สวยดีครับ ผมก็อยากไปสักกับท่านแต่คนเยอะมากๆเลยครับ

386

      ผมมีพระราม แต่แบบหมึกนะครับ ถ่ายไว้ นานแล้วตอนนั้นยังไม่มีกล้อง ใช้มือถือถ่าย เลยถ่ายไม่ค่อยชัดต้องขออภัย เรื่องจะถามว่าอาจารย์ท่านไหนในบางพระสักได้บ้างผมว่าพระอาจารย์ทุกรูปและอาจารย์ทุกท่านในบางพระสักได้อยู่แล้วครับ  แต่จังหวะคนเยอะ-น้อยและเหมาะสมกับจุดวางไหมก็เท่านั้น

ส่วนเก้ายอดก็ไม่มีแบบเดี่ยวๆนะครับ แบบนี้คงพอไหวนะ
อยากได้ เข้าไปกราบเรียนถามท่านเลยครับ แล้วท่านจะได้คำตอบที่
ถูกใจและเหมาะสมที่สุด เพราะ
ส่วนมาก กุติที่ค่าครู 25 บาท ผมไม่ค่อยเห็นพระอาจารย์ท่านสักให้
ศิษย์ซักทีครับ สำหรับรูปพระราม เหอๆๆ :095:
ผมก็ สักมาในค่าครู 25 บาท รวมบุหรี่ ดอกไม้แล้ว 85 บาทครับ(ในตอนนั้น)ส่วนกุฏิไหนนั้น ขอบอกทีเดียว เมื่อพร้อมนะครับ  :002: :004: :007: :006: :005: :108: :021: 16; 38; 20;
:054: :054: :054:

387
 
ประวัติศาสตร์สมานฉันท์
โดย : อารีย์ ศรีวิเชียร   เมื่อ : 21/04/2008 03:28 PM
ประวัติศาสตร์ หมายถึงข้อมูลที่สะท้อนประโยชน์จากการเรียนรู้ความจริงในอดีตของมนุษย์ เพื่อสร้างเสริมพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงของชีวิตและชุมชนของชาติและภาษา รวมทั้งของโลก โดยหวังที่จะให้วิถีทางสามารถดำเนินไปได้อย่างมั่นคง ถ้าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดกระทำการใดๆ ก็ตามซึ่งทำให้ข้อมูลดังกล่าวมีการปนเปื้อนหรือเกิดการตัดทอนแม้แต่เพิ่มเติมอย่างขาดเหตุผลไม่ว่าจะเจตนา หรือไม่ก็ตามย่อมถือว่ามีพฤติกรรม

ทำลายรากฐานของคนในชุมชนท้องถิ่นและของชาติ รวมทั้งของโลกอย่างปฏิเสธเสียมิได้ หรืออีกนัยหนึ่ง ถ้าคนในชาติมีความรู้ ความเข้าใจประวัติศาสตร์ของชาติตนเองอย่างลึกซึ้งถึงระดับหนึ่ง ย่อมมีผลทำให้ชาติมีความมั่นคงเข้มแข็งอยู่ได้ ส่วนความคิดในการสร้างความมั่นคงของชาติโดยใช้กำลังพลและอาวุธเป็นเรื่องผิวเผิน แม้ได้ผลก็เป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ส่วนในระยะยาวกลับหวนมาทำร้ายตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก

การศึกษาประวัติศาสตร์นั้น นอกจากต้องตีความแล้วยังต้องศึกษาให้รอบด้าน ไม่ใช่ตัดตอนเฉพาะช่วงใดช่วงหนึ่ง มิเช่นนั้น ความรู้ส่วนนี้ก็มิอาจส่งต่อตกทอดต่อไปยังรุ่นหลังได้ครบถ้วน เช่น เรารับประวัติศาสตร์ทางเชียงใหม่ได้ทุกอย่าง เรานับถือเจ้าหลวงของเชียงใหม่ได้ แต่เมื่อพูดถึงปัตตานี กลับใจหายแผ่นดินตรงนี้เคยรุ่งเรือง บัดนี้มิมีร่องรอย ทำไมเรารับความยิ่งใหญ่ของแผ่นดินตรงนี้ไม่ได้ พื้นที่หนึ่ง คนไทยกลุ่มหนึ่งที่อยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันมายาวนาน เพียงแต่ต่างกันที่ศาสนา อยากให้ผู้คนในพื้นที่อื่นๆ ได้รับรู้และรู้จักว่า คนกลุ่มนี้จริงๆ แล้ว เขามีอดีตของเขา และเขาอยู่ที่นี่ เติบโตสืบทอดทายาทมาหลายรุ่นแล้ว และก็อยู่บนผืนแผ่นดินนี้เหมือนกัน ไม่ใช่คนที่มาจากที่อื่น ดังนั้นการก่อเหตุร้ายรายวันที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จึงไม่น่าจะเกิดจากการแบ่งแยกดินแดน อาจจะเป็นเรื่องผลประโยชน์หรือเพื่อจุดประสงค์ใดก็ต้องหาคำตอบหรือรอคอยคำตอบที่แท้จริงกันต่อไป และเมื่อนั้นคำตอบที่ชัดเจนก็จะกลายเป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้กันต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน

สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อันประกอบด้วยจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส ก่อนการจัดตั้งเป็นจังหวัด ดินแดนแถบนี้มีประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของตนเองที่ยาวนาน มีชื่อเสียงตั้งแต่ยุคอดีต ผ่านอารยธรรมมาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีหลักฐานการอยู่อาศัยของชนพื้นเมืองมาตั้งแต่ก่อน 3,000 ปีที่ผ่านมา, สมัยเริ่มประวัติศาสตร์ ประมาณ 2,000 ปีที่ผ่านมาถึงราว พ.ศ. 700 , สมัยอาณาจักรโบราณลังยาซูหรือลังกาสุกะ ราว พ.ศ. 700 - 1400 , สมัยลังกา สุกะภายใต้การปกครองของศรีวิชัย ราวพุทธศตวรรษที่ 14 - 15 , สมัยลังกาสุกะภายใต้อำนาจของโจฬะแห่งอินเดีย ตั้งแต่ พ.ศ. 1535 , สมัยลังกาสุกะภายใต้อำนาจของสุโขทัย-อยุธยาและมัชปาหิต ในปี พ.ศ. 1838 , สมัยลังกาสุกะล่มสลายและกำเนิดเมืองปัตตานี, สมัยการปกครอง 7 หัวเมือง ตั้งแต่ พ.ศ. 2351 เป็นต้นมา, สมัยมณฑลเทศาภิบาล ในปี 2449 และมาถึงในปัจจุบัน สมัยสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรายละเอียดของประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงมานี้ ผู้ที่สนใจก็สามารถที่จะศึกษาและหาอ่านได้เพราะในปัจจุบันมีนักเขียน นักวิชาการ ได้เขียนประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ขึ้นมามากมายหลายเล่ม และจากลำดับการพัฒนาของประวัติศาสตร์ดังกล่าว ทำให้เห็นได้ว่าพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยมีความเจริญรุ่งเรืองถึงระดับที่เรียกขานกันว่าอาณาจักรมาตั้งแต่ก่อนสมัยสุโขทัยซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของราชอาณาจักรไทย ต่อมาอำนาจของเมืองหลวงคือ สุโขทัย ได้แผ่ขยายลงมาทางใต้ ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ โดยแต่ละช่วงสมัยความสัมพันธ์ระหว่างสยามหรือรัฐไทยกับปัตตานี หรือสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ได้แตกต่างกันไปตามยุคสมัย ตามพลังอำนาจทางการเมืองและความเข็มแข็งของแต่ละฝ่าย ทำให้ประวัติศาสตร์ไทยที่เกี่ยวกับปัตตานี และประวัติศาสตร์ปัตตานีที่เกี่ยวกับรัฐไทย ยังมีความคลุมเครือไม่ชัดเจน ดังนั้นการทำความเข้าใจ การเรียนรู้ การศึกษาประวัติศาสตร์ให้ชัดเจนถ่องแท้ ตามลำดับพัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์อาจจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถที่จะสอน อธิบาย ให้ลูกหลานเยาวชนคนรุ่นหลังให้เข้าใจในสิ่งที่ถูกต้องได้

จะขอนำบทกลอนของ รศ.ดร.ครองชัย หัตถา ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งได้ประพันธ์บทกลอนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ปัตตานีและเกี่ยวเนื่องมาจนถึงปัจจุบันไว้ดังนี้      



นับเนื่องมากว่าพันปีมีหลักฐาน
พบร่องรอยเมืองโบราณน่าฉงน
แถบท่าสาป ยะรัง หลายตำบล
ฮินดูดลพราหมณ์พุทธามหายาน

 คาบสมุทรสองฝั่งทั้งตก-ออก
ล้วนบ่งบอกลังกาสุกะแผ่ไพศาล
ไทย ชวา มลายู อยู่มานาน
ซาไกนั้นคือชนเผ่าเก่าก่อนมา

ปัตตานีดารุสลามนามลือเลื่อง
เมื่อตั้งเมืองริมสมุทรสุดสง่า
นานาชาติมาค้าขายที่บานา
กรือเซะนั้นเป็นเมืองท่ามหานคร

สร้างเมืองใหม่ 7 เมืองอันเลื่องชื่อ
ต่อมาคือมณฑลเทศสถาน
ยุบมณฑลตั้งจังหวัดเมื่อไม่นาน
จึงขับขานให้ท่านฟังอย่างตั้งใจ

มาบัดนี้ชายแดนใต้ไม่สงบ
ผืนพิภพมานองเลือดน่าสงสัย
ใครก่อเหตุช่วยหยุดเถิดโปรดเห็นใจ
เราคนไทยวันท์หัตถามาไหว้วอน

สงบเถิดเจ้าปัญหาชายแดนใต้
มาสร้างไทยให้เข้มแข็งดั่งสิงขร
หากพลาดผิดแก้ไขใหม่เอื้ออาทร
สุขสงบนิรันดรจะกลับมา



การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะสามารถทำให้คนในพื้นที่กลับมารักกัน สมานฉันท์กันได้เหมือนเดิมหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับการเรียนรู้อดีตเพื่อสืบสานปัจจุบันและสร้างสรรค์อนาคต ให้ลูกหลานชนรุ่นหลังมีความเข้าใจภูมิหลังโครงสร้างทางสังคม มีความเข้าใจเกี่ยวกับชาวสยามและชาวมลายู ให้เข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและประวัติศาสตร์ชาติ ทั้งในเชิงภูมิรัฐศาสตร์พัฒนาการของรัฐ และประวัติศาสตร์บางตอนที่ถูกนำไปปลุกเร้าให้เกิดการก่อเหตุขึ้นมานั้นที่แท้จริงคืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร สิ่งใดคือสิ่งที่ถูกต้องและควรให้ลูกหลานเยาวชนรุ่นหลังได้สร้างความภาคภูมิใจร่วมกันด้วยประวัติศาสตร์อารยธรรมที่ยาวนาน ไม่ควรนำประเด็นทางประวัติศาสตร์เพียงบางตอนมาสร้างความแตกแยก สร้างความวุ่นวายในสังคม สิ่งที่ผิดพลาดจากอดีต ภาครัฐก็ควรจะยอมรับและควรจะแก้ไขให้ถูกต้อง ประวัติศาสตร์รัฐปัตตานีที่ยิ่งใหญ่ในอดีตแม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้น เพราะสิ่งใดจะเกิดขึ้นหรือจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด เราไม่สามารถที่จะรับรู้ล่วงหน้าได้ เพราะถ้าหากสามารถรับรู้ล่วงหน้าด้วยญาณวิเศษ เราก็จะสามารถหาทางป้องกันมิให้เกิดขึ้น มีเกิดก็ต้องมีดับหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัฏจักรของกาลเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรเปลี่ยนคือความจริงของประวัติศาสตร์ ซึ่งประวัติศาสตร์ปัตตานีในอดีตมีความรุ่งเรืองเป็นมาอย่างไร ก็ควรจะเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์รัฐชาติไทยด้วย ไม่ใช่ถูกละเลย ลืมเลือนเสมือนไม่เคยเกิดขึ้น กระนั้นก็ตามสิ่งที่ผู้คนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้คาดหวังก็คือความสงบสุข การได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย ได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างทั่วถึงในทุกๆ ด้าน เฉกเช่นเดียวกันกับพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย


  อารีย์ ศรีวิเชียร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าปส.กอ.รมน.ภาค 4 สน.  
 

388
อยากได้ เข้าไปกราบเรียนถามท่านเลยครับ แล้วท่านจะได้คำตอบที่
ถูกใจและเหมาะสมที่สุด เพราะ
ส่วนมาก กุติที่ค่าครู 25 บาท ผมไม่ค่อยเห็นพระอาจารย์ท่านสักให้
ศิษย์ซักทีครับ สำหรับรูปพระราม เหอๆๆ :095:
ผมก็ สักมาในค่าครู 25 บาท รวมบุหรี่ ดอกไม้แล้ว 85 บาทครับ(ในตอนนั้น)ส่วนกุฏิไหนนั้น ขอบอกทีเดียว เมื่อพร้อมนะครับ  :002: :004: :007: :006: :005: :108: :021: 16; 38; 20;

389
สวย แบบเล็กๆ แปลกดีครับ ช่างคิดนะท่าน

390
สวยงามมากๆครับ

391
         ผมก็เป็นศิษย์คนหนึ่งที่สักกับกุฏิท่านพระมหาสมชาย และได้ยินสิ่งที่ฟังแล้วรู้สึกน้อยใจมากๆ ที่มีหลายคนกล่าวว่าท่านซึ่งผมอาจเป็นคนส่วนน้อยที่กล้าออกหน้าว่าเป็นศิษย์กุฏินี้ ผมก็สักที่บางพระหลายๆกุฏิ และหนึ่งในนั้น ผมก็สักที่กุฏิท่านมหาสมชาย ขอให้ท่านทั้งหลายลองแบ่งใจเป็นกลางนะครับ อาจารย์ ก็ คือผู้ให้ความรู้ ไม่ว่าแขนงไหน ก็คือผู้มีบุญคุณ ไม่ว่าท่านได้รับ ค่าตอบแทนไปไหม และค่าตอบแทนนั้น แพงกว่า ครูบาอาจารย์ท่านอื่นไหม แต่ ท่านผู้นั้นก็ขึ้นชือว่าเป็น อาจารย์ของกระผม กระผมยอมได้ หากมีคนมาว่าผม แต่หากเป็น พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ มีใครบ้างไม่รัก ไม่บูชาบ้าง แปลก ว่าสนุกกันรึไรที่มาว่าครูบาอาจารย์คนอื่นแบบนี้ จะยังไง ผมก็คือศิษย์จากกุฏินี้ไปตลอดชีวิต
         บางท่านที่ไปสักแล้วไปบ่นว่าแพง แต่ขอถามย้อนกลับ ว่ามีใครไปบังคับท่านจ่ายไหม มีใครหลอกให้ท่านไปสักแล้วเก็บเงินเพิ่มทีหลังไหม ทุกคนก่อนจะสักหลวงพี่ท่านจะชี้แจงก่อน และ จะแนะนำ ว่าที่นี้ทำไมถึงต้องค่าครูตามภาพ ไม่สัก หลวงพี่ก็ไม่เคยว่า มีหลายครั้ง ที่ผมเองเข้าไปหาท่าน ท่านก็เมตตาในหลายๆเรื่อง ผมว่าบางคนที่ ต่อว่ากุฏินี้ ไม่เคยไปด้วยซ้ำจำเค้ามาพูด หน้าหลวงพี่สมชายเคยเห็นไหม ยังไม่เคย ก็ต้องศึกษานะครับ
         ยอมรับด้วยใจจริงว่า หลวงพ่อเปิ่นท่าน สั่งสอน ว่า ค่าครูวัดบางพระ ต้อง 25 บาท อันนี้ ผมรู้ แล้วหากท่านเคยไปสักที่กุฏิ นี้แบบผม แล้วจะทำไงหากมีคนมาว่าอาจารย์ท่าน
                                                                                                                     ขอให้นึกถึงใจศิษย์กุฏินี้บ้างนะครับ
                                                                                                                                            ชลาพุชะ
                                                                                                                                                      

392
สวยดีนะครับ

393
พี่สาวตั้งกระทู้มาแต่ละที น้องต้องออกบ้านทุกทีสิ แต่ งานนี้อยู่ห่างน่าดูแต่ คงไปได้ คงไม่น่าเกินปี นี้ ช่วงนี้ออกบ้านบ่อย แม่+เมียเริ่ม ว่าแล้ว 666

394
          ปฏิบัติตามที่ท่าน acoustic.song   ว่าเลยครับ ที่กุฏิใหญ่ก็มี ลงนะหน้าทองนะครับ ท่านเจ้าอาวาสท่านเมตตามากๆส่วนวันนี่ก็ไปได้ทุกวัน เวลาก็ไม่น่าเกิน 16.30 น.นะครับ

395

      ผมมีพระราม แต่แบบหมึกนะครับ ถ่ายไว้ นานแล้วตอนนั้นยังไม่มีกล้อง ใช้มือถือถ่าย เลยถ่ายไม่ค่อยชัดต้องขออภัย เรื่องจะถามว่าอาจารย์ท่านไหนในบางพระสักได้บ้างผมว่าพระอาจารย์ทุกรูปและอาจารย์ทุกท่านในบางพระสักได้อยู่แล้วครับ  แต่จังหวะคนเยอะ-น้อยและเหมาะสมกับจุดวางไหมก็เท่านั้น

ส่วนเก้ายอดก็ไม่มีแบบเดี่ยวๆนะครับ แบบนี้คงพอไหวนะ

396
ได้ดูภาพและคำคมสอนใจเยอะเลยนะครับ ขอบคุณครับ

398
2-4-5-3-1 ครับกระผม

399
          การสักหากเป็น แฟนชั่น ไปสักที่ไหนก็ได้ เอาสวย เอาเท่ แต่หากจะสักยันต์มว่ามีน้อยที่ ที่จะเป็นของแท้ วัดบางพระผมว่าเป็นที่สุดของการสักยันต์แล้ว เพราะมีคนเอาไปแอบอ้างเยอะ
          เรื่องที่ไหนใน กทม. ที่ไหนสักดีนั่นต้องไปดูไปลองเองเลยท่าน งานนี้ตัวท่านจึงจะบอกได้ว่าดีไหม ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว บางครั้งบอกไปก็โดนโจมตี ว่าของไม่แท้ ของปลอมบ้าง เลยไม่กล้าแล้ววววววววว

400
ก็อยากเลี้ยงบ้างนะครับ แต่กลัว  :004:

402
อาจารย์หนวดท่าน เมตตาให้มา สวยมากเลยครับ ยังไม่มีโอกาสไปหาท่านเลย ช่วงนี้

403

งั้นผมขอนำรูปหล่อของ พ่อทองมาให้ชมนะครับ ก็เป็น ขนาดบูชา 5 นิ้ว สิงคโปร์ รุ่น 1
แหมไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่มีใคร นำเหรียญมาให้ชมเลยรึครับ ผมก็เพิ่งได้มาจากอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็ ขอนำมาให้ชมเลยก็แล้วกันนะ พี่โชวคงไม่หลุดคอนเซ็ปนะครับ

เหรียญจอบเงินพ่อทอง รุ่น 1
ปล.ขอก๊อปวิธีถ่ายรูปของพี่สาวมาด้วย คงไม่โดนฟ้องเรื่องทรัพย์สินทางปัญญานะครับ

ของพ่อทอง ท่านน้องได้แต่ใดมา ท่าทางจะแอบๆ ไปคนเดียว แล้วมาเฉลยทีหลังแหง บอกมาเด่วนี้นะ เด่วจ๋วย  :009:

ปล. พี่โชวมีรูป background เป็นใบไม้ ใบตอง ดอกไม้ และเพชรพลอยอีกเพียบเลยไม่กล้าลงเลย.. เอาเถอะ ไว้จะงัดออกมาอีก..
เหรียญจอบ จะส่งมอบกันรุ่นต่อรุ่นนะครับ ส่วนใหญ่จะไม่ขาย และ เหรียญนี้ ผมได้มาโดยไม่ได้เสียเงินบูชาครับ  ส่วนใครให้มา แล้ว ได้มายังไง นี่ บอกไม่ได้จริงๆนะพี่ท่าน

404
มีหน้าหนุ่มหน้าแก่ด้วย เพิ่งเคยเห็นครับ สวยดีครับ

406
        วันนี้กระผมไปวัดบางพระเพื่อทำการขอเมตตาจากพระอาจารย์ช่วยสักให้แต่พอไปถึงก็ได้สักกับหลวงพี่ญา 1รอยสัก แล้วพระอาจารย์ทุกท่านก็ไปฉันท์เพล ผมเลยว่างครับ มาเดินชมวัดบางพระ เพราะที่ผ่านมามุ่งเน้นไปสักอย่างเดียวเลยไม่ค่อยไปไหน พอออกมาเดินตกใจมาก ที่กระผมมองข้าม ของดีของวัดในหลายสิ่ง ในมุมมองของผมซึ่งบางท่านอาจชินตาแต่ผมเพิ่งสังเกตุครับเชิญชมครับ
       
       
ไม่เคยเข้าไปกราบเลยครับ ครั้งนี้ครั้งแรกครับ


ภาพพ่อแก่ปางต่างๆที่ช่างกำลังบรรจง ปั้น ทาสี โดยมีหลวงพี่นัน คอยดูแลอย่างใกล้ชิดครับ




      มีชาวต่างชาติ เป็น นักมวยไทย รุ่นยักษ์ หนักไม่น่า ต่ำกว่า 150 กิโลกรัม ไปชนะที่สมุยมาและเคยมาสักกับพระอาจารย์ที่วัดบางพระแต่จำไม่ได้ว่าสักกับท่านไหน เพราะสักมา 5ปีแล้ว แท๊กซี่เลยพามาขอให้หลวงพี่ญาท่านเมตตา หลวงพี่ก็ให้หนุมานเลย สวยสุดๆ ผมก็อยากได้ แต่ มันตัวใหญ่ไป ไม่มีที่ลงแล้ววววว หลวงพี่ยังเอ่ยขำๆว่า มันแปลว่าคางหักนะ ผมอดขำไม่ได้ 666 ก่อนมา วัดบางพระ แท๊กซี่ พาไป ชลบุรี นั้นก็ บางพระ ไม่รู้ว่าจงใจ ต้มฝรั่ง รึ ไม่รู้ จริงๆ แหม วัดเราออกจะดัง
ปล.วันนี้ ได้เจอท่านซัมซุง คนเดิม แหมตอนโดนสักหน้าได้อารมณ์มากๆ

407
    อย่างทีน้องกวางว่า เค้าอาจไม่ ศรัทธาแบบเราก็ได้ เคยเจอ เว็ปหนึ่ง หากเมียผมแปลไม่ผิด เค้าบอกถึงการสักว่าเป็นการงมงายของคนกลุ่มเล็กๆในประเทศไทย ก็คงต้องดูต่อไปนะครับ แต่ถึงขนาดกล้ามาขอถ่ายที่กุฏิหลวงพี่ญาแล้ว คงจะช่วยเผยแพร่ รอยสักยันต์ไปในทางดีนะ พ่อฝรั่ง

408
       ขอบคุณทุกๆท่าน กระผมก็ทำการแยกเส้นแล้ว วันนี้คงไปหาตะกรุดคาดเอวเพื่อย้าย วัวกับเสือออกจากคอครับ และวันนี้จะไปหาอาจารย์พล เพื่อนำรูปหล่อท่าน มาแขวน เส้นเดียวกับอาจารย์ทอง

409
     มีหน้าที่แล้วก็ทำตามหน้าที่ให้สุดความสามารถ ให้สมกับ การที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจในตัว @ต้นน้ำ@ นะครับ

410
      ครั้งแรกที่ผมห้อยพระ คือที่ได้จากท่านเอ็ม หลวงพ่อเปิ่นปี 35 หลังตราแผ่นดิน ก็คล้องเดียวมาหลายเดือน แล้วก็พกลูกอมเสือที่หลวงพี่ญาท่านเมตตาให้มาตลอด มา 2-3 วันก่อนได้วัวธนูของหลวงพ่อพุฒมา ก็ เลยพกแบบหนีบ มาวันนี้ได้ เหรียญจอบเงิน รุ่น 1 ของพ่อทองก็เลย ต้องคล้องแบบตามรูป นั้นคือ แขวนหลวงพ่อเปิ่น องค์เดียวด้วยสร้อยติดคอ แล้ว แขวนพ่อทองโดยมีเสือ กับ วัว อยู่ด้วย แบบนี้ไม่รู้เหมาะสมไหมครับ

ปล.กล้องเมียเอาไป ยังไม่มาคืนเลยต้องใช้เว็ปแคมถ่าย มัวๆแต่คงดูออกนะครับ

411

งั้นผมขอนำรูปหล่อของ พ่อทองมาให้ชมนะครับ ก็เป็น ขนาดบูชา 5 นิ้ว สิงคโปร์ รุ่น 1
แหมไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไม่มีใคร นำเหรียญมาให้ชมเลยรึครับ ผมก็เพิ่งได้มาจากอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็ ขอนำมาให้ชมเลยก็แล้วกันนะ พี่โชวคงไม่หลุดคอนเซ็ปนะครับ

เหรียญจอบเงินพ่อทอง รุ่น 1
ปล.ขอก๊อปวิธีถ่ายรูปของพี่สาวมาด้วย คงไม่โดนฟ้องเรื่องทรัพย์สินทางปัญญานะครับ

412
สวยงามมากครับ ดูจากอักขระน่าจะสักมานานแล้ว

414
สักที่ขาได้ไหมครับ

415
              ตั้งเล็กถึง30ผมไม่ได้อยู่กับแม่เลย ปีหนึ่งเห็นหน้ากัน 1 รึ 2ครั้ง ตอนนั้นคิดน้อยใจมากทีแม่ไม่รัก ไม่ มีเวลาให้ มาตอนนี้ถึงรู้ว่าท่านเหนื่อยเพื่อผม ท่านต้องทำงานหนักเพื่อครอบครัว ตอนนี้ผมมาอยู่กับท่าน ได้คุยได้ไหว้ทุกวัน ดีใจครับที่ได้เกิดเป็นลูกแม่

416
ครับ ก็ คงต้องระวังๆกันหน่อยครับ ฝืนไฟนี่ครับ

417
แปดทิศอลังการมากๆ

418
โรงเรียนอนุบาลและเนอเซอรี่ รักยมกุมารทอง เลยนะน้อง

419
ได้อ่านข้อมูลสมใจหมาย ขอบคุณครับ

420
ของที่ท่านมีแต่ละชิ้น นี่สวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ

421
เห็นดาบแล้ว อิ่มเลยครับ

422
เด็ดดวงเลยพี่

423
เมืองกาญเลยนะ
ใครไปบ้าง นั่งรถ ฟรี ที่รู้ทางยิ่งดี ขอ 3 ท่านนะ

424
ว้าวๆๆๆๆๆ ว้าว มายกคอกเลย สวยงามแต้ๆๆ

425
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: หมอนาค
« เมื่อ: 04 มิ.ย. 2552, 09:10:08 »
ขอสอบถาม ประวัติท่านหมอนาคได้ไหมครับ เพราะผม ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร น่ะครับ ขอบคุณครับ

426
อนุโมทนาด้วยครับ สาธุ

427
          ใครจะว่า น้องเค้า ยังไงก็ช่าง ผมยังคิดถึงน้องเค้าเสมอนะ และรอน้องวันกลับมาเป็นน้องวัน ของ ผมนะครับ

428

     ขออภัยนะครับ ขอสอบถามว่า รอยสักนี้ ใครเป็นเจ้าของ แล้ว สักกับ อาจารย์ท่านไหน ถึงได้ สวยงามขนาดนี้ ครับ ช่วยตอบด้วยนะครับ

430
ปกติก็ เมตตา แคล้วคลาด คงกระพันอะครับ
ดั่งจรเข้ นั้นหนังเหนียว .... ยิ่งชาละวันด้วย เมตตา มีแน่นอน ครับ

ชาละวันกุมพี จระเข้แสนดี อยู่ในถ้ำธารา  :095:
ชาละวันกุมพี จระเข้แสนดี อยู่ในถ้ำธาราคาถาบทไหนนี้ คุ้นๆท่านเอ็ม คุ้นแต่นึกไม่ออก :034:

431
ออกแนวน่ากินเลยพี่ สวยดีครับ นึกว่า เซรามิก งานแกะของพี่ยุ่นนี่ก็ สวยเอาการอยู่นะ ขอรับ

432
งานนี้โดนหลายคนเลย ผมก็ มีเฉียดๆ ต้องเกรงกลัวต่อบาปเสียแล้ว เรา เดี๋ยวตายก่อนที่จะได้กลับตัวครับ

433
         หลังจากได้รับเมตตาจากหลวงพี่ญา และ หลวงพี่นัน สักให้แล้ว มีความตั้งใจอยากไปกราบสังขารหลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ เลย นั่งวินจากบางพระไปเลย ไปถึงก็เข้าไปกราบสังขารหลวงพ่อพุฒ แล้ว บูชาวัวธนู ซึ่งถามพระหน้าตู้ว่าทันหลวงพ่อพุฒไหม หลวงพี่ ท่านว่าทัน ผมก็เดินถ่ายรูปมาฝากพี่น้องชาวเว็บบางพระครับ ก็มือสมัครเล่นนะครับ การถ่ายอาจไม่มีศิลปะ แต่ ก็มุ่งเน้นถึงการบรรยายเป็นภาพครับ

                
                           1.สังขารหลวงพ่อพุฒในโรงแก้วครับ



                                                    ชอบหอนี้มากๆดูลำโพงสิครับ




                           พลวงพ่อทับทิม ผมได้ถ่ายรูปป้ายบรรยายประวัติหลวงพ่อท่านไว้ด้วย


                 หลวงพ่อองค์นี้ใหญ่มากๆ ไม่ทราบว่าชื่อหลวงพ่ออะไร ท่านใดทราบบ้างครับ
ปล.มีข้อสงสัยครับ ที่ผม บูชา มานี้ ทันหลวงพ่อพุฒไหม บางท่านก็ว่า ทัน บางท่านก็ว่าไม่ทัน แล้ว ที่ทัน นะ อันไหน ครับ กลุ้มมากๆ

  


434
อยากเห็น จัง ว่า หน้าตาเป็นไง ยันต์เกราะเพชรผมก็อยากได้ ครับ

437
สวยงามมากโข ชอบหนุมานมากครับ อลังการงานสร้างจริงๆ

438
ตอนเด็ก แม่ ว่า แกยังขอเงินแม่ ห้ามไปสักนะ
                                                พอโตมีเมีย เมียบอก ดิฉันไม่ชอบคนสัก หาสักเลิกกัน
ตอนนี้ทำงานหาเงินได้เองแล้วแม่เริ่มเงียบยอมให้สัก  เมียก็เริ่มแกเลิกก็ดีหาใหม่  ใครจะห้ามใจของข้าพเจ้าคงไม่มีครับ โอกาส จะช้า รึ เร็ว ก็ต้องมีสักวัน หากเราตั้งใจครับ

439
           แล้วสำนักท่านอาจารย์อยู่ไหนครับ ผมก็ หาอยู่ครับ ไปไม่ถูกครับ
        รับเข็มแล้วเงียบเลยครับ น้องคิดถึงนะครับ แล้ว  คนเดียวเลี้ยงรักยม 10 ตนไม่ไหว ซนครับ แบ่งๆให้ พี่น้องท่านอื่นเลี้ยง ฝากบอกด้วยนะครับ ว่าคิดถึง


440
ต่างคนต่างความรู้นะครับ  :109:

441

ของผมสวดตามนี้ครับ ได้ภาพมาจากท่าน สิบทัศน์ เมื่อนานมาแล้ว ไปวัดที่กฏิใหญ่ ก็มีป้ายสวดตอนกราบสังขารหลวงพ่อเปิ่นก็ใช้บทนี้ครับ


442
           ต้องขอบคุณ ท่าน schoolbus  อย่างมากมาย ที่นำภาพสวยๆมาให้ชมด้วย แหม แล้วยังน้ำใจงาม แบ่งให้เพื่อนสมาชิกอีก เยี่ยมยอดเลยท่าน ผมร่ะชอบมากๆ มีอะไรต้องแบ่งกันไม่ห่วงไว้ชม ขอให้ หล่อขอให้รวยๆนะครับ งั้นรบกวนส่งให้ผมด้วย นี่เมล์ผมนะครับ Deer310321@hotmail.com หากท่านมีรูปเกจิรูปอื่นๆจะกรุณา ส่งให้ผมก็ไม่ว่านะครับ ต้องรบกวนท่านแล้ว
                                                                                                        ขอบคุณครับ

443
ก็ควรหา จุดที่เคร่ง กับ ผ่อนให้เหมาะสม แต่ การ บอก สาวท่านนั้น ให้เลิกเล่นหัว ท่าน น่าจะเหมาะสุดนะ หัวของเรา เราน่ามีสิทธิ์ปกป้อง นะครับ

444
เคยไปที่อำเภอไชยปราการที่เชียงใหม่
เขาว่าถ้าเด็กผู้หญิงในหมู่บ้าน มาขอจับมือ ห้ามจับโดยเด็ดขาดเลยครับ
จะถือเป็นการเสียผีครับ ถ้าพลาดไปล่ะก้อ เงิน1หมื่น หมู1ตัวครับ มาขอลูกสาวเขาครับ
เกือบพลาดไปแล้วครับ พี่ๆเขามาสะกิดทัน ไอ้เราก็อยากจะไปเห็นกับเด็กสนุกๆก็เท่านั้นเอง

จิงดิท่าน ถ้าอย่างนั้นเห็นเด็กคนไหนน่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็เข้าไปจับมือได้เลยดิ ได้แฟนแน่งานนี้ สินสอดไม่แพงด้วยอ่ะ  :002:

สงสัยต้องชวนท่านแอ็คไปแร๊ะ  :095: :095: :095:

ทำได้นะท่านหากท่านทนกลิ่นได้ ปีหนึ่งอาบน้ำ 2 ครั้งเชียวนะท่าน

445
ไม่มีข่าวของพิธีนี้เลย รึ เราไปมุดอะไรอยู่นี่ :083: :082:  ทำไงดี เมื่อไหร่มีอีกครับ 

446
อันว่าชูชก นี้โบราณว่ามีอาถรรพ์ในตัว จึงต้อง
1. กำกับเป็นการล้างอาถรรพ์ในส่วนที่ไม่ดีออกไปเพราะมิฉินั้นเเล้วผู้บูชาจะมีราศรีหม่นหมองครับ เพราะอันเกิดจากอัปกิริยา

ของตัวชูกชกเอง

เพราะ ชูชกนั้นเป็นคู่เวรคู่กรรมกับพระเวสสันดร ครับ
แต่ละคำ ขอช่วยแปลนิดนะครับ งงมาก
1.ประจุพระมนต์ปัถมัง คือ อะไรครับ
2.แล้ว เกิดจากอัปกิริยาของตัวชูกชกเอง มันเป็นยังไงครับ
       เพราะลุงพงษ์ เคยได้รับการสัก จากพระอาจารย์พงษ์(พงษ์เหมือนกัน)แล้วหลวงพ่อเปิ่นท่านเมตตาเป่าให้ ผมก็เลย ไปสักบ้างแต่กับอาจารย์ประโยชน์ เท่าที่ได้ยินมา บูชาชูชก ไม่อดตาย อันนี้ ขอความเห็นทุกๆท่านเลยนะครับ ช่วย ตอบด้วย ว่าคิดเห็นกันประการใด


447
ดีจัง ยังมีควายธนูที่ทันหลวงพ่อด้วย

448
พี่โชวได้เมตตาจากหลวงพี่ญาเยอะนะครับ

449
สวยมากๆเลยครับ ไม่ได้สักกับท่านนานแล้ว ไปที่ไร ไม่ตรงวันที่ท่านมาซักที

450
ว่าไงว่าตามกัน
              งั้น กระผม ว่าระดับหลวงพี่ตูน ดำดื้อ แดงเก สักได้อยู่แล้วท่าน

451
ด้วยความเคารพครับ สมัยก่อนค่าครู 24 บาท แต่ว่าตอนหลังเพิ่มอีก 1 บาท เป็น 25 บาท
เพราะว่าลำบากในการทอนครับ  
ผมได้ทราบจากปากของครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งที่ท่านเป็นศิษย์สายวัดบางพระแท้ๆ ท่านบอกว่าสมัยหลวงปู่เปิ่นอยู่นั้น
"ค่าครูถูกกว่านี้มาก แล้วหลวงพ่อก็เป็นคนบอกเองว่า ค่าครูนั้นเก็บแค่ 25 บาทเท่านั้น เกินกว่านี้ไม่ได้ ห้ามเด็ดขาด"


ก็เข้าใจครับว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป แต่ถ้ามองกันให้ลึกๆจริงๆ ยันต์สายวัดบางพระนั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองครับ ชัดเจน จริงแท้และแน่นอน
มองปุ๊บรู้เลยว่านี่ คือยันต์สายวัดบางพระ สายหลวงปู่เปิ่นแท้ๆ (ปัจจุบันมีการสักรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ยันต์บางอย่างที่สักๆกัน
เรียนตามตรงว่า ไม่ใช่ยันต์และวิชาการสักของวัดบางพระอย่างแน่นอน
แต่ถ้าใครสักมาแล้วดีอันนี้ผมก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย ใครเป็นอย่างไร
ครูบาอาจารย์ท่านย่อมรู้และเห็นโดยตลอดครับ )


ก็จริงอย่างที่พี่น้องบางท่านบอกว่า อาจารย์สักก็ต้องกิน ต้องใช้ แต่ผมอยากจะกราบเรียนด้วยความสัจจริง ปัจจุบันนี้ก็ยังมีศิษย์ฆารวาส ของหลวงปู่เปิ่นที่ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาการสักของวัดบางพระมาอย่างแท้จริง(อายุท่านมากแล้วเป็นศิษย์รุ่นเก่าของหลวงปู่) ซึ่งค่าครูนั้นก็เก็บแค่ 25 บาทเท่ากับที่หลวงปู่สั่งไว้ทุกประการครับ แล้วที่สำคัญยกพานครั้งเดียว 25 บาท สักได้ทั้งหลังครับ ถ้าทนไหว


ถ้าสมัยหลวงปู่ยังอยู่ ความจริงและความกระจ่างก็น่าจะมีมากขึ้นครับ แต่นี่ท่านมณะไปแล้ว แต่ศิษย์ที่ทำตามคำสั่งสอน
ของท่านก็ยังมีอยู่เยอะครับ หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมค่าครูหลายๆกุติในวัดบางพระนั้นไม่เท่ากัน ผมอยากให้สังเกตุดีๆ
นะครับว่า พระอาจารย์รูปต่างๆที่ท่านได้เรียนและครอบวิชามากับหลวงปู่เปิ่น โดยตรงนั้น ท่านเก็บค่าครูแค่ 25 บาทเท่านั้นครับ



สุดท้ายข้อความทั้งหมดที่ผมได้พิมมา ณ ที่นี้ ผมยืนยันว่าเป็ฯความสัจจริงทุกประการไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงแต่อย่างใดครับ
ผมกราบขอบารมีและแรงครูช่วยหนุนนำให้ศิษย์ท่านใดที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่แล้ว ก็ขอให้แรงครูช่วยเสริมส่งให้ท่านเหล่านั้นประสบพบเจอแต่สิ่งดีๆครับ
ส่วนศิษย์กลุ่มไหนคิดนอกครู ก็บอกได้คำเดียวครับว่า อนุโมทนาสาธุ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม :054:

ผิดพลาดประการใด ขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วย จากศิษย์วัดบางพระชั้นปลายแถว นายก๊อตคุง
[/quote]ขอบคุณที่ท่านช่วยให้กระผมรู้แจ้ง งั้น ขอถามอีกคำถาม ให้ กระผม ได้รู้ชัดๆไปเลยใน 2 คำถามนี้
1.สายบางพระในความคิดของกระผม คือ ศิษย์ที่เรียนมาจากสายบางพระ แล้ว หากเป็นฆารวาส ที่ เปิดสำนักที่ อยู่ ภายนอกวัดบาง เปิดสำนักที่บ้าน ไม่ ว่า ทาง เหนือ ทาง อีสาน ทางใต้ นั้นก็คือ สำนักสักสายบางพระ แล้ว ท่าน คิดว่า สำนักเหล่านั้นใช่ สายบางพระ หรือไม่
2.ค่าครูสายบางพระต้อง 25 บาทเท่านั้นใช่ไหมครับ หากมากกว่านั้นไม่ใช่ ในความคิดของท่านใช่ไหม

452
ศรัทธาใครศรัทธามัน ครับ แต่ตั้งแต่ผมไปสักที่วัดบางพระมานั้น
"ไม่เคยเห็นอาจารย์เสือไปที่วัดเลยซักครั้งเดียว แม้แต่กระทั่ง
งานไหว้ครู "
แล้วที่สำคัญนั้น
ถ้าเป็นศิษย์สายวัดบางพระจริงๆ ค่าครูต้อง 25 บาทเท่านั้นครับ
แพงกว่านี้ ก็อนุโมทนาสาธุ

ถูกใจ ครับ :015:
       ท่านครับ บางสำนักก็สายบางพระนะครับ แต่ ก็ สัก โดยมีค่าครูมากกว่า 25 บาท แต่ก็ไม่สูงมากมายอะไรนัก อาจารย์ก็ต้องใช่จ่ายนะครับ บางท่านเปิดสำนักสักอย่างเดียวไม่สามารถไปทำงานอย่างอื่นได้ โดยมีเหตุผลต่างๆ ผมว่า อาจารย์ท่านไหน มาจากบางพระไม่ได้วัดที่ ค่าครู 25 บาท นะครับ ผมว่าน่าจะมองจากแหล่งที่ได้มาของความรู้ว่ามาจากที่บางพระจริงไหม การปฏิบัติตัวสมกับเป็นครูบาอาจารย์หรือไหม หากท่านต้องเลี้ยงครอบครัว พ่อ แม่ ภรรยา และบุตร คงต้องขอค่าครูที่พอกับการเลี้ยงชีพ ผมแน่ใจได้เลย ว่าไม่มีครูบาอาจารย์ที่ไหน จะหวังสักยันต์ให้ลูกศิษย์เอารวย คงเพียงแต่ สืบสานอนุรักษ์ ส่วนหนึ่งของความเป็น คนไทย และ อยากให้ ศิษย์ที่ตนประสิทย์ประสาทวิชาให้เป็นคนดีของสังคมครับ

453
อาจารย์เสือ จรัญ 85 รึปล่าว ผมขอฟันธงว่าไม่ใช่นะครับ สักเครื่องด้วย แหมแปลกจริงๆ อนุรักษ์ลายสักไทย ด้วยการสักเครื่อง 07;

454
แหม ไม่มีอะไรกินรึไง น้องคางคกล่อน้องงูซะแล้ว รึกินงูเพราะกลัวโดนงูกิน แปลกๆๆๆๆ

455
ผมยังไม่มีเลยแบ่งๆผมบ้างสิ

456
        เคยมีพระอาจารย์สักให้เด็กอายุน้อยสักแล้ว ถึงขนาดโดนจับสึกเลยนะครับ เป็นเรื่องอันตรายมากๆ ที่จะสักให้เด็ก ต่ำกว่า 18 ปีถึงคุกเลยนะท่าน เด็กชอบ พ่อแม่ ญาติจะชอบไหม สักไปนานๆวันดีคืนดีเข้าทำงานไม่ได้ก็มาว่าอีก ใจคนนี้น่ากลัวท่าน รอให้ อายุ เกิน 18 ก่อนน่าจะเหมาะนะครับ

457
คงเป็นทางเลือกในการสักได้อีกที่ รายละเอียดที่ตั้งสำนักก็มีแล้ว ขออีกนิดนะครับ มีที่จอดรถไหม

458
เค้าคงคิดว่าสวย ว่า ดีถึงได้เล่นเต็มสูตรขนาดนั้น ใจใครใจมัน เพราะสิ่งที่ทำจะอยู่กับเค้าตลอดไปจนตาย

460
อิจฉาท่านโจ้ เสีย จริง แซวนิดแซวหน่อย มี แม่ยก มากัน กันยกใหญ่ หล่อเลือกได้ของแท้ 38;
                                                                                                         เราก็อยากโดนแย่งบ้างทำไงเกิดมาไม่หล่อ 666

461
สวยจริงครับงานนี้ ได้อ่านข้อมูลดีๆด้วยขอบคุณครับ

463
นมัสการครับหลวงพี่ ผมอยากไปกราบท่านจริงๆครับ

465
หากินกับศรัทธา คงไปไม่ไกลหลอกครับ

467
      ได้รู้ ยศ และชื่อ จริงท่านก็วันนี้ ตอนเจอท่านครั้งแรก ในวันที่ 6 มีนา ที่ผ่าน มา ได้เป็นเกียรติร่วมรับประทานอาหารร่วมกับท่าน ผมก็ นั่ง รับประทานอยู่ ติดๆกับท่าน ทานไปพักใหญ่ ท่านถามแม่ครัวแบบติดตลก "เอ นี่มันหัวไช่เท้า รึ ฟักเขียว"ผม สำลักข้าว ออกจมูกเลย แม่ครัว ตะโกน สวนมาเลย "ก็หัวไช่เท้า สิท่านก็ ทำให้คนเล่นของ คนสักกิน ใส่ฟักแฟงแตงบวม เค้าก็ด่า ดิฉันตายสิค่ะ" แหมรอดไป ผมซัด เข้าไปจานที่ 3 แล้ว ท่าน เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ถือตัวครับ ผมมารู้ ตอนหลังว่าท่านเป็น ตำรวจ ที่มียศ สูง แต่ มาตกใจยิ่งขึ้น ที่ พึ่งรู้ ว่า ท่าน ดำรงค์ ยศ พันตำรวจเอก เลย นะครับนี่  

468
       เคยมีหลายท่านเคยสร้างกระทู้ว่าสักกับอาจารย์ คนเดียวดียังไง หลายคนดียังไง ผม จึงขอนำ รอยสักของลูกศิษย์ของอาจารย์ประโยชน์บางท่าน ที่สักกับ อาจารย์ประโยชน์ ท่านเดียว มาให้ชม
     คนนี้ลุงกุ๋ย ปกติไม่ยอมให้ถ่ายวันนี้ใจดียอมโดยไม่ขอ เลยกดซะ นี่ล่ะครับ สีหมึกเป็นสีเดียวกัน หากสังเกตุดีๆการจัดวางจะมองเป็นหน้าเสือครับ มองดีนะครับ
    ส่วนคนนี้ผมไม่รู้จักชื่อแต่ชอบ ที่มีพ่อแก่อยู่กลางหลังเลย ชอบครับ
ไม่รู้จะบรรยายยังไงเชิญชมต่อลยครับ




469
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนี่นะครับ

471
ผมสักมาครับ "หนุมานตัวเก้า" อยู่ที่ศรัทธาครับ เราต้องการเป็นศิษย์ท่านจริงๆ เราเห็นสมควรแล้วเราจึงไปฝากตัวเพื่อเป็นศิษย์ และไม่มีข้อสงสัยใดๆในตัวอาจารย์ ก่อนสักควรตัดสินใจให้ดี เพราะสิ่งๆนั้นจะอยู่กับเราตลอดชีวิต :054:
รูปล่ะท่าน ไม่ลงเลย เก็บ เลยนะ ตัว 9ด้วย อยู่แถว ตากสิน 34 นี่เอง แต่ ผมไม่มีทีแล้ว เสียดายจัง

472
ผมขออนุญาตเซฟรูปหนุมานครองเมืองหนึ่งรูปครับท่าน ขอบคุณครับ

        ในเมื่อผมนำรูปมาลงกระทู้แล้ว มันก็ต้องเป็น ของทุกท่านที่ชม จะเป็นเกียรติมาก หากท่านชอบรูปแล้วนำไปเผยแพร่ หรือ เก็บไว้ กระผมต่างหากต้องขอบคุณครับ ขอบคุณจากใจจริงครับ

473
หากขอเสือคงได้ไม่ยากครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลวงพี่นะครับขอให้โชคดี

474
        การสักยันต์ หากเป็น รูปแบบยันต์ บางยันต์บางรูปต้องตามแบบ บางยันต์บางรูปไม่ต้องตามแบบ ขึ้นอยู่กับพระอาจารย์ อาจารย์ ที่สักให้ มีหลายครั้งผมเห็น รูปลิงใส่หัวใจหนุมาน บางทีไปสักปลามาก็โดนใส่หัวใจปลาตะเพียนเลย บางรูปยกไม่ยกมือต่างกัน แต่เป็นหนุมานเชิญธงเหมือนกัน การสักยันต์ไม่มีกฏตายตัว พลิกผันตามสถานะการณ์และความเหมาะสม ท่านต้องไปดูหลายๆสถานที่ครับางทีไม่ต้องสักไปดูเป็นวันๆก็มีนะท่าน

475
แหมท่านต้นน้ำ นี่ดังใช่ย่อยนะขนาดท่าน ณ.อยุธยา  ยังจำได้เลยคนดังจริงๆน้องชายฝาแฝด ปั๊บ โปเตโต ฮิฮิฮิ

476
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะครับ

477
มีดสวยนะครับ

478
ขอบคุณครับ ท่าน นกที่เอารูปแหวนสวยๆมาให้ชม

479
ครับเห็นท่าพระจันแล้วอดนึกถึงครั้งล่าสุดที่ผมไปไม่ได้
เหอๆ ไปเดินหาตลับใส่แม่นางพิมตั้งนานสองนาน แต่ก็ไม่มีไซส์
เลยง่ะ  :075:

ผมเองก็คิดจะนำภาพบรรยากาศของสนามพระท่าพระจันทร์ มาให้พี่ๆน้องๆในเวปบอดร์ดวัดบางพระ
ได้ชมกันบ้างเหมือนกันครับ แต่เห็นพี่ชลาพุชะตั้งกระทู้แนวๆนี้แล้ว ผมเลยขออนูญาตนำรูปภาพบางส่วน
ที่ผมถ่ายไว้มาให้รำลึกถึงบรรยากาศแบบท่าพระจันทร์แท้ๆกันครับ  :095:





























ภาพชุดนี้ผมเป็นคนถ่ายเองครับ บางรูปก็ได้ลงชื่อไว้
บางรูปก็ไม่ได้ลง ถ้าพี่ๆน้องๆท่านใดจะก๊อปปี้หรือเซฟเก็บไว้ ผมไม่ห้ามครับ แต่ช่วยบอกกล่าวกันก่อนซักนิดนะครับ

ปล  ขออภัยที่คราวนี้ไม่มีคำบรรยาย เพราะผมคิดว่าอารมณ์และความหมายที่สื่่อ
ออกมานั้น มันมีอยู่แล้วในตัวของมันเองครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ :001:
ได้บรรยากาศท่าน้ำท่าพระจันทร์จริงๆท่าน

480

รูปนี้นะครับที่ผม สักติดตัว เดี๋ยว จะเข้าใจผิด จะแก้ไขแต่ไม่ทันแล้ว

481
3/3
มาเดินต่อท่าพระจันทร์ ถนนทั้งสาย มีแต่ขายพระทั้งแท้ ทั้ง เก๊ ไม่แจ๋งจริงมาโดนหลอกแน่ๆ มี ราคา 2 บาทจนถึง 6 ล้าน อ่านไม่ผิดหรอกครับ 2-6000000 บาทครับ แต่มีที่เลี่ยมพระ มี คนถักตะกรุด  ขายยา ฟันปลอม มีหลายอย่างที่มี เสน่ห์ครับ ผมยังชอบเลย เชิญชมนะครับ











มีบางร้านที่ไม่ยอมให้ถ่ายครับ ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถ่ายไม่ได้แต่ก็ สิทธิของเค้าครับ มีของกินส่วนมากอร่อยสุดๆ ถึงกับต่อคิวซื้อเลยครับ ชื่อร้าน อร่อยครับ ขายขนมปัง
จบทริปครับวันนี้
สวัสดีครับ

483
วันนี้ไปแถวสนามหลวงตั้งใจไปวัดพระแก้ว เลยถ่ายรูปมาฝากนะครับเชิญชม
                              
                
อากาศไม่ร้อนมากแต่แดดแรงเอาเรื่องเลยครับ
                



มีแต่งสภานที่สวยงามทั้งนั้น ไม่มีคำบรรยายนะครับ

หนุมานภาพนี้ผมก็สักติดตัวครับ


ภาพรามเกียรติ์ครบทุกตอนเลย นี่ถ่ายมาบางส่วนนะครับ
1/3
เป็นมงคลกับตัวกระผมและที่ได้ถ่ายภาพ พระแก้วมรกต

484
ยันต์พระเจ้าสิบชาติครับ ป้องกันอันตรายได้ทุกๆด้าน ให้ลาภยศ ดีมากเลย ครับ สักมาจากที่ ไหน เส้น คมเชียว

486
การทำงาน คือการแก้ไขปัญหา และวางแผน เตรียมรับปัญหา
บางครั้งปัญหานี้ เคยเจอ ไม่เคยเจอ แต่ ทุกปัญหาเราแก้ไขได้ เพียงแต่เร็ว รึ ช้า คุ้ม รึ ไม่คุ้ม จำเป็นต้องแก้ รึ ไม่จำเป็น รสชาติของชิวิตทำงานนะท่าน มันดีผมว่านะ

487
กระผม ขอว่าหากท่าน ให้แล้วแต่ พระอาจารย์ และ อาจารย์ ที่ สักให้ ผม ว่า ต้องออกมาสวย ตามสูตรแน่ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

488
ขอบคุณข้อมูลนะครับ

489
      เราเป็นคนดีที่ไม่รู้ว่าจะทำดียังไงเลยทำเลวเพราะมันง่าย หรือ เราเป็นคนเลวที่กลัวจะโดนลงโทษเมื่อทำผิดเลยไม่กล้าทำเลว เราต้องคิดเสมอว่าเลวแล้วได้อะไร ผลสุดท้ายจะเป็นไง ดีแล้วเราเป็นไงรู้ตัว ว่าเป็นคนดี หรือ คนเลว มันไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ทำ แต่ขึ้นอยู่กับทำแล้ว มีผลอะไร กับ คนอื่นบ้าง ก็อย่างเช่นเราเป็นคนดี ไปเห็นคนเกือบ 20 กำลังจะโทรมหญิง โทรศัพท์ก็เงินหมด ซอยก็เปลี่ยว จะทำตัวเป็นพระเอกไปห้าม ผมว่าหากไม่ตายก็ พิการ ต้องหลบ หรือ รีบไปแจ้ง เจ้าหน้าที่กว่าจะมา สาวคนนั้นก็สายไปแล้ว ท่านว่านี่ เป็นคนดี รึ ไม่ดี เดินไปเดินมาเห็นวัยรุ่นตีกัน ท่านก็ห้ามได้ท่านจะห้ามไหม ท่านเห็นการฆ่า แล้ว หากไปเป็นพยาน ครอบครัวของเรา ต้องตายเรียบ เราจะเลือกอะไร คนอยากทำดี แต่ อาจทำไม่ได้เพราะผลที่ตามมา บางทีโอกาสทำเลวมันสูงโคตรๆแต่ทำดีมันน้อย
                 
ก็ต้องหาโอกาสทำดีเข้าไว้นะครับ

490
        ไปบ้านพ่อทองวันก่อน เจอ พี่สักแปดทิศใหญ่มากๆครับ ขนาดเส้นฝ่าศูนย์กลาง 28 ซม. ก็ลองกางไม่บรรทัดดูนะครับ เจ้าของรอยสัก หนัก 100 โลขึ้นแน่ๆ เชิญชมครับ

491
แม่ คือ พระอรหันต์ของลูกครับ ผมว่าท่านทำได้ถูกต้องแล้ว

492
เอ แล้วเราจะเปิดเส้นทางพระรามสอง - วัดบางพระ อีกซักคันดีมั้ยน้า ดูงานก่อน

เอ้า ใครไปโดดขึ้นมาโลด   :006:  (ล้อเล่นน่า ถ้าไปก็เอาเก๋งไปแหละ)



เฮียโจ้จะเปิดเส้นทางสายพระราม 2 เหรอค่ะ..แวะรับเด็กข้างทางซักคนได้ม่ะ...ทางผ่านพอดี.. คนหล่อรถสวย เข้ากันดีครับ
คนหล่อรถสวย เข้ากันดีครับ
ผมไปด้วยครับ แต่ว่าผมเอารถไป ขับรถไปพร้อมๆกันไหมครับ ขับๆตามกันไป ท่านชลาพุชะ
ดูรถท่านแต่ละคัน ข้าน้อยมิบังอาจ หากพี่ท่าน อยาก ขับนำผมขอตามครับ ว่ามาเลยนะครับ จะเจอ ณ.จุดไหน

496
สวยมากโขอยู่ อยากได้จัง

498
ไป 2ครั้ง ยังไม่เจอครับ แต่ไม่เจอดีกว่า ชอบดูนานๆไม่ซื้อ 03;

501
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่า ทุกยันต์มีชีวิต และ จะมีพุทธคุณเพิ่ม รึ ลดลง ขึ้นอยู่กับ การปฏิบัติ ของเราครับ

502
ของดี จะใหม่จะเก่าก็คือของดี ครับ เพียงแต่ ของเก่าๆ อาจหายาก  ขอบคุณท่านเอ็ม นะ

503
ของดีๆสวยๆทั้งนั้นเลยครับ ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

504
                   ณ.เวลานี้ได้ ชื่อ ของผู้ร่วมเดินทางในส่วนของรถผมครบแล้วนะครับ คือ
-ท่าน SiMPle
-ท่าน RaChⒶÑⒶKRaK♡ (เสือบางพระ)
                                                                                                                        ขอบคุณนะครับ

505
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ฤาษี
« เมื่อ: 20 พ.ค. 2552, 09:53:56 »
หาโอกาสไปสักกับท่านอยู่ครับ ไปที่ไรไม่ใช่วันที่ท่านมาสักที กะขอ กวางเหลียวหลัง และเสือเหลียว นะครับ

506
      การห้อยพระ ก็อย่างที่ท่านอชิตะว่า เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ส่วนผมขอห้อย หลวงพ่อเปิ่น ปี 35  องค์เดียวก็พอครับ นึกถึงหลวงพ่อเปิ่น และ นึกถึงผู้ที่ให้มาด้วย

507
น่าจะลงประวัติด้วยนะครับ จะเยี่ยมเลย ผมไม่รู้จริง ขอบคุณครับ

508
สวยมากครับ แล้ว แกะมาจากอะไรครับ

510
          ผมเคยเจอ แบบนี้ เค้าไม่ฝ่าออกนะ จะปล่อยให้ออกเอง ตามธรรมชาติ อาจใช้ยาช่วย นี่แปลกดี แปลก ตรงที่ฝ่าออก แต่ ตะปู นี่ธรรมดาไปแล้ว หากเป็น หนังควายผืน เมตรกว่านี่น่าสน ขอบคุณครับที่นำข่าวมาให้ดู

511
    แหมๆๆน้องชะนี กลับใต้ไม่บอกไม่กล่าวเลย ไม่ดีเลย มาบางกอกครั้งนี้คุ้มยิ่งกว่า ไปโลตัส+บิ๊กซี+คารฟูร์ xแม็กโคร อีกนะ ได้ทั้งบัวบังใบ กวาง เพชร ยันต์หน้าอกแตกพร้อมคาถา ได้ยันต์ครู พ่อเม้งอีก ได้แต่ของดีๆทั้งนั้น แรงโคตร ใช้ระวังระวังนะ สลับรางให้ทันนะ  จะให้ดี ใช้ ที่ละคน หรือ คนละอย่างนะ เป็นห่วงจากใจ ว่างๆก็เอา สตอ มาฝากหน่อยนะ พี่โชว+พี่ชลาพุชะ อยากได้ สตอ บ้านชะนีมันกลิ่นแรงดี มาอีกนะ
ปล.น้องชะนีคิดอะไรกับหยกนี่ชมจังเลย สงสัย

512
แม่ก็คือแม่ แม้จะเป็นสัตว์ ผมเชื่อว่า แม่ยอมตายเพื่อลูกได้ กลับกัน ลูกล่ะ ยอมทำอะไรเพื่อแม่บ้าง

513
ได้บุญและได้วิธีทำจิตให้สงบแล้ว อย่าลืมเอาไปปฎิบัติ ซะนะน้องนะ เอาไปประยุกต์ให้เข้ากับการดำรงชีวิตประจำวันนะครับ

514
         เนื่องจากในวันอังคาร ที่ 30 มิถุนายน2552 ทางวัดบางพระจัดงานทำบุญวันคล้ายวันมรณะภาพ ครบรอบปีที่ 7 พระอุดมประชานาถ ( หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ ) กระผมก็ไปและต้นน้ำ-เอ็มไร่ขิงไปด้วย ในรถจึงว่างอีก 2 ที่นั่ง ตามนโยบายไปทางเดียวกัน ใครจะไปด้วยก็ขอเชิญแจ้งมานะครับ มี ข้อแม้ว่าต้องมารอที่ หน้า KFC สาขาพาต้าปิ่นเกล้า เวลา 07.30 น. ของวันที่ 30 มิถุนายน 2552 นะครับ ขอบอกว่าต้องไปจริงๆแล้วมาให้ตรงเวลาด้วยนะครับ และ หากจะกลับเองก็ได้ ผมจะเดินทางกลับ 14.30 น.ครับ
ปล.ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ

516
สวยคมเชียว ดีใจด้วยนะครับ

518
ผ่านหลายทีแล้วแต่ไม่ได้เข้าไป งานนี้ มีที่ไปแต่เช้า แล้ว ออกบ้าน แล้ว ยิงตรงเลยครับ ครั้งต่อไป

519
ได้ความรู้มากๆ ขอบคุณ ที่สร้าง และ พี่น้องช่วยกันตอบ

520
งานนี้ สวยจับใจเลย
อยากแสดงภาพแบบอชิตะนะ แต่ไม่มีหัวใจเลยทำไม่ได้ :004:

521
ขอบคุณข้อมูลและภาพนะครับ

522
ร้านที่คุณซื้อมันจะอ้างจากใบรับรองพระแท้นั่นแหละ เพราะมันรับรองไม่แท้คืนเงิน ภายในกำหนด 15 วัน สมมุติว่าคุณได้พระไม่แท้มาจะไปคืน
 ก็จะเจอแต่ลูกน้องมัน หรือไม่ก็ปิดหน้าร้านบอกว่าลูกพี่ไปหาของบ้าง  ไปซื้อพระข้างนอกบ้าง  บางทีเจอมันจังๆก็บอกว่าเดี๋ยวมา
ใครจะไปตามคืนมันทุกวัน  จนว่าครบ 15 วัน มันบอกเลยเวลารับประกันแล้ว ..ลุงเจอมาแล้ว.
   การแลกเปลี่ยนพระเครื่องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุด 1.ได้เพื่อน 2.ไม่เสียเงิน 3.แลกเปลี่ยนความรู้ 4.โอกาสปลอมน้อย
 ไม่ต้องไปศึกษากฎหมายให้รกสมองหรอก  ไอ้พวกนี้เราไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมมันหรอก. :069:.จะบอกให้
เขียนได้ใจมากเลย ท่าน ตรงๆดีผมก็ว่าตามนั้น และเคยเจอมาเหมือนกัน
แต่ก็ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้นะครับ

523
สวยมากครับๆขอบคุณนะครับที่ให้ความรู้

524
ผมขออภัยนะคับที่ถามคำถามแบบนี้
คือว่าสักมาอะคับ แล้วเวลามีเพศสัสพันและช่วยตัวเองอะคับ

จะเป็นไรมั๊ยคับ
ของจะเสื่อมหรึอป่าว
หากท่านถามด้วยใจบริสุทธิ์ก็ผมจะตอบให้
ตอบ มีได้แน่นอน
เหตุผลตามความคิดผม งั้นคนสักก็ไม่มีครอบครัวเลยสิครับ มีเพศสำพันธ์และช่วยตัวเอง นั้นได้แน่ๆ ต้องขึ้นอยู่ว่าท่าน มีความสำพันธ์กับใคร สามี-ภรรยา เค้าก็ผิด และ ตอนที่ช่วยตัวเองไปคิดถึง สามี-ภรรยา เค้าก็ผิด
การรักษาของดีต้อง รักษาทั้ง กาย วาจา ใจ นะท่านนะ

525
หากไม่ฟังคำคนอื่นเลย ก็ว่าโลกแคบเห็นแก่ตัว เชื่อมั่นตัวเองเกิน ทำอะไรไม่ดูชาวบ้านหากฟังคำคนอื่นมากๆ ก็ว่าหูเบาไม่มีความคิด
ฉะนั้นก็ต้องทางสายกลาง ฟัง แล้ว มาคิดปรับปรุง ประยุกต์ให้เหมาะกับเรา สถานะการณ์ และความสามารถ ของเรา

526
..พี่ชลาพุช ชะ ช่า ค่ะ..บรรยายซะเห็นภาพเลย...

น้องหยกว่าแล้วมารับตั้ง 9 โมงเนี่ยดีนะที่แวะวัดนก(ภาพสวยพี่)ถ้าแวะไปส่งสาวล่ะ..น้องมีงอลล

ทริปนี้อาจจะผิดแผนนิสสสสสนึง..เจ้อย่าเคืองนะจ้ะ...แต่พวกเราก็ได้ของดีกันมาหนำใจค่ะ...

งานนนี้หลวงพี่ญาเมตตาเสือแผ่น..ตอนแรกหลวงพี่จะให้เสือลงเขาค่ะ...แต่ต้องเป็นหมึก..หุหุ

น้องไก้กะติ๊บเลยขอไปเตรียมหลังอีกซักพักเจ้าค่ะ...อิอิ..คุณแม่ขอร้อง 55
ขอบคุณคุณต้นน้ำค่ะ อุตส่าห์ตื่นนอนมาเจ็บ..อิอิ พี่ชลาอ่ะไม่ได้ถ่ายหลังคุณต้นน้ำเลย..

น้องหยกชอบคำว่าลูกบางพระค่ะ..ไม่ทราบว่าสักกับหลวงพี่องค์ไหนค่ะ..

แต่ว่างานนี้สงสัยพี่ลิงน้อยของเราคงระบมไปหลายวันค่ะ..วันเดียวเล่นซะ 5 ลายเลย..55

สุดท้ายก็ต้องขอโทษเจ้ของเรา(cho presley)ด้วยนะค่ะ..ที่น้องๆ นัดเจ้แล้วไปเรทนิสสสนึง (นัด 11 โมง ไป 2 ทุ่ม แฮ่!!)
[/glow]
แหมๆโดดงานทั้งทีน้อยกว่า 5 รอย ก็ขาดทุนแย่สิครับ วัดนกทางผ่านนะน้องนะ เข้าจากปากซอยไม่ถึง กิโลครับ ความลับแตก

527
ต้องไปหามาบ้างแล้ว ขอบคุณครับ

528
ต้องขออภัย รายงานตกไปส่วนหนึ่งวันนี้ ท่านกายทิพย์โทรชวนท่านต้นมาด้วย ท่านต้นมาโดยมอ"ซค์ด้วยความเร็วมาก 15 นาทีมาถึงสักก่อนเราอีก วันนี้ กระผมไม่ค่อยได้บันทึกภาพ เพราะจิตนึกถึงหน้า คุณป้าวรนาท ไม่ใช่เจ๊โชว 666 ไม่ว่านะ

529
วันนี้กระผมเกิดอยากไปวัดบางพระและวัดท้องไทร มากๆ
03.00น.โทรหาท่าน กายทิพย์(น้องหยก)ตั้งแต่  ปลุกน้องเค้าแต่ตัว น้องก็เชื่อ 666 (เริ่มบ้าแล้วผม)โทรหาท่านโชวกับลิงน้อยแต่ท่านทั้ง2 ไม่รับ (ใครจะรับไม่ดูเวลาเลย) ก็เลยตระเวนทำหน้าที่ต่อไป
06.00น.ลิงน้องโทรมา เอางานนี้ ได้ขาแล้ว ไปบางพระเลย มองซ้ายมองขวานี่ กม.ที่12 บางนา บอกลิงเลยครับ ครึ่งชั่วโมงถึง
08.00น. ยังฟังเพลงชาติที่ไบเทคบางนาอยู่เลย พระเจ้า 2 ชั่งโมงแล้ว
09.00น.คลานไปถึง แถวจรัญ13 เคยได้ยินวัดนกอยู่แถวนี้ แวะครับเลย เหลวไหลมากๆ666 งั้นก็จะโดนว่ามาดูภาพกันนะครับ



รีบถ่ายรีบไหว้พระ-พระบรมสารีลิกธาตุ ซื้อกระเบื้อง ชมวัดอีกนิด ก็รีบไปครับ
09.30น.ถึงจุดรับผู้ร่วมทริปคนที่ 1 ท่านกายทิพย์ แวะเติมแก๊ส เด็กปั๊มมองน้องหยกใหญ่ 666 มีตุ๊กตาหน้ารถดี แต่น้องเค้าไม่ค่อยจะรู้สึกดีนัก ที่มีหนุ่มวัยทำงานหนักจ้องมองมุ่งหน้าต่อเนื่องไปรับ ลิงน้อย ไปเสร็จ พร้อมเดินทาง วัดท้องไทร และ วัดบางพระ
10.30น.ขับไปจึงถึงกลางทางมีเสียงโทรศัพท์จาก เจ๊โชว ดังขึ้น 3 คนในรถ ดีใจมาก ลิงถามเลย พี่ไปท้องไทรกับบางพระไหม จะกลับไปรับ เจ๊โชวสวนกลับนี่ นัดมารับฉัน 11.00น เพื่อจะไปบ้านอาจารย์ประโยชน์ ตอนนี้ถึงไหนแล้ว งานเข้า มองหน้ากันและตะโกนพร้อมกันว่า ลืมเลย ลิงน้อยชงไม่ใช่ความผิดหนูนะ ส่งโทรศัพท์ให้ หยกเซ็ทหนูมาตามเค้า ซวยแล้วมาถึงหนูชลาพุชะตอบกลับไปพี่ครับไม่นานไม่เกินเที่ยงถึงพี่ หาอะไรทำไปก่อนนะพี่ พี่โชว รีบมานะ พี่รอนะ
10.45น.แวะหาท่านเอ็มเมืองไร่ขิงรับแจกพระครับครับ ใจดีจังเกรงใจนะนี่ คราวหน้าขอแบบเลี่ยมแล้วนะ ล้อเล่น
11.30 น.ถึงวัดท้องไทร พอถึงชลาพุชะทำการทักท่านกระถางต้นไม้ต้นมะขามด้วยกันชน งานนี้แตกครับแตก กันชนนะครับ ไม่ว่ากันเราไม่มีสติเอง ไปที่กุฏิหลวงปู่ หลวงปู่ท่านกำลังฉันท์เสร็จ รีบเข้าไปกราบนมัสการท่าน ทั้งวัดมีแต่เรา โชคเข้าข้างสุดๆ เต็มที่ครับ หยกก็บังสกุลเป็น-ตาย ลิงก็ให้หลวงปู่เป่าให้ตะกรุด ส่วนกระผมงานนี้ให้หลวงปู่เป่าแม่พิมพ์ที่สักเมื่อครั้งก่อน หลวงปู่ท่านเมตตามากครับเสร็จเสร็จรีบไปต่อมุ่งหน้าบางพระ
11.45 น.ถึงบางพระ ไปกราบนมัสการสังขารหลวงพ่อเปิ่น ต่อด้วยเข้าไปขอให้หลวงพี่ญา กับ หลวงพี่นันเมตตา 12.00น. เสียงจากเจ๊ส่งผ่าน  AIS ถึงไหนกันและจ๊ะ(เสียงนุ่นเชียว)ลิงไม่ตอบ ส่งให้ชลาพุชะ กระผมส่อต่อหยก น้องเค้าตอบ กุฏิหลวงพี่ญา เท่านั้นล่ะ เสียงนุ่นกลายเป็นเสียงป้าวรนาทเลยครับ "นี่เธอให้ฉันลาครึ่งวันนะ จะมากี่โมงไหนว่า 11โมง นี่ก็ ขอ เที่ยง ทำไมไม่มาบ่าย 2 เลย ล่ะ" :043: เข้าทางหยกตอบเลย พี่ไม่เกินบ่าย 2 แน่นอนพี่ วันนี้คนน้อย


อะไรเป็นอะไร ผมดูไม่ออก ต้อง ถามลิงนะครับ ผลของการหนีเจ๊ได้นี่มากัน (ส่วนหยก ตอนสัก ผมก็สักเลยไม่ได้ถ่ายครับ ต้องขออภัย)
16.00 น.สักเสร็จ เพราะไม่ได้ลัดใคร เห็นใจเค้า อิอิ  รีบกลับไปคืนรถ แล้วไปหาเจ๊โชวต่อไป
17.30 น.ส่งรถ นั่งแท๊กซี่ขึ้นด่วนไปเลย
20.00 น. มาตรงเวลาเลยครับ เจ๊บอกไม่โกรธ มันเลยโกธรแล้ว อ้าวกินอะไรมารึยัง ฉันรอกินปะๆ ฉันเลี้ยง พอไปกินที่ร้าน เจ๊กินกินด้วยความหิว ส่วน 3 เรานั่งมอง ข้าวที่สั่งโดยไม่กล้าบอกเจ๊ว่า ซัดมากลางทางแล้ว ผมซัด 2 ด้วย กรรมต้องเก็บอาการครับ
21.30 น. ท่านข้าวเสร็จ ไปหาอาจารย์ประโยชน์ ท่านก็เมตตารอ เริ่มกันเลยครับ


ส่วนยันต์ที่พี่ๆเค้ารับมา สวยครับแต่ถ่ายออกมาแล้ว แต่ไม่ขอลงนะครับ
ลิงโทรหาท่าน TTTUTTT เพื่อให้มาสักด้วย ขอช่วยลงรูปด้วยนะท่านTTTUTTT
 23.00 น. กลับถึงบ้านเมียไม่ด่า วันนี้ได้ของดีมา ได้ผลครับ จบทริปนี้
ปล.วันหลังไม่ทำอีกแล้วเจ๊ นี่หยกกับลิงอยากไปหนูขับรถเฉยๆนะ


530
   ตอนแรก ดูภาพนึกว่าถ่ายมาจากจีน รึ ฮ่องกง เสียอีกนี่ในไทยรึครับ วัดสวยมากๆครับ งั้นต้องไปครับ ว่าแต่มีที่จอดรถไหมครับได้ข่าวแถวนั้นไม่มีที่จอด หากมีคิดเป็นชั่วโมงและแพงครับ ขอบคุณสำหรับภาพและข้อมูลนะครับ

531
          ได้ความรู้ จากท่าน ack01 อีกแล้ว ขอบคุณคุณมากครับ ว่าแต่ ท่าน nuvergo ไปทราบที่ไหนมาเรื่อง การห้ามกินเต้าหู้ แปลกครับ ผมพึ่งเคยได้ยินนี่ล่ะครับ

532
ครูบาอาจารย์คุ้มครองแล้วครับ

533
เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งครับ ที่ท่านหลวงพ่อมามรณะภาพไป
ขอบคุณสำหรับภาพนะครับ

534
          ขออ้างอิงกับงานที่ผมทำนะครับ สายล่อฟ้าเกือบทุกอันเป็นทองแดงล้วนๆ ฟ้ายังไม่ค่อยจะผ่าเลยครับ
          ควายที่อยู่กลางทุ่งนา ควายไม่มีโลหะเลย โดนผ่าสุกเกือบกินได้  ท่านครับ ผมว่าใส่อะไร รึ ไม่ใส่ หากจะโดน ก็ โดนไม่โดนก็ไม่โดนนะครับ เอาแน่ไม่ได้

535
จะเลวทั้งที น่าจะเลือกสถานที่หน่อยนะ พ่อโจร

536
ยันต์สวยดีครับ รักษาดีๆนะครับ

537
บทความ บทกวี / ตอบ: อยากจะไปสัก
« เมื่อ: 11 พ.ค. 2552, 07:45:04 »
     หากไปสักที่วัดบางพระไม่ว่ากุฏิไหน ราคาเท่าไหร่ ก็วัดบางพระครับ ไม่ควรแบ่งแยก หากท่านมาสัก ก็อย่างที่ท่าน สายัณ ว่านั้นล่ะครับ

ขอให้ท่าน โชคดีเดินทางปลอดภัยนะครับ(คำอวยพรนี้ พลวงพี่ตูนชอบใช้มากๆตอน สักเสร็จแต่ จะเปลี่ยนจาก ครับ เป็น โยม)

538
งั้น จะไปขอท่านเมตตาสักหน่อย ครับ คิดถึงท่านมากๆเลยครับ

540
เยอะ อย่างนี้ ใช้ ตะกรุดอันไหนประจำ

541
ที่สุดของที่สุดแล้วครับ

542
          ท่านครับ ขอให้ท่านลองครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย การลองของนี่เป็นการ ดูถูกผู้ให้วิชามานะครับ หากท่านมั่นใจว่าของดีจริงทำไมต้องลอง นี่ ลองเองด้วย หากอาจารย์ที่สัก ลองให้ ค่อยว่าไปอย่าง

544
เป็น การสักที่เริ่มต้นได้ดีครับ สวยมากด้วย

545
ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

546
ไม่มีลุ้นเลยเรา วันนี้18.00 วันครอบครัว ไม่ได้เข้ามาเฝ้าบอร์ดแน่ๆเลยเรา
งงเลยท่าน งงจริงๆ ท่านว่า 18.00 น. อยู่กับครอบครัว เอ่อก็จริงนะท่าน ตอบตอน วันนี้ เวลา ๑๗:๕๙:๕๖ น. สุดยอดครับ[/size]
ไหนๆฝนก็ตกลงมาซะขนาดนี้ ขอร่วมแจมด้วยคนครับ
1. พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินุทปญโญ) มรณะภาพวันที่ 13 กุมภาพันธ์  2551
2. วัดทองไทรตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 3 ตำบลแหลมบัว
3. งานไหว้ครูประจำปี53ของวัดบางพระคือ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553

ขอแสดงความยินดี กับท่าน tum72 ท่านผมขอรบกวนท่าน tum72 ส่งที่อยู่ ให้ ผมทางพีเอ็มด้วยนะครับ ยินดีด้วยครับ
ปล.หนังสือผมขอเปิดอ่านดู อาจมีรอยเล็กน้อยนะครับ

547
ผมเห็นนะครับสักนางพิมไปเหงื่อตกแม่ะๆ ไป เป็นคนขี้ร้อนมากๆนะครับ

ได้กล้องมาใหม่หรือครับ เห็นลองถ่ายใหญ่เลย

วันนี้เจอทั้งคุณชลาพุชะ, คุณต้นน้ำ และคุณปลัดบัพด้วย แต่ขอโทษด้วยครับที่ไม่ได้ทักทาย แบบว่าเป็นคนขี้อายน่ะครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

วันนี้ผมก็วิ่งรอกระหว่างวัดบางพระกับวัดท้องไทรเหมือนกัน

สักดำเซ็นที่วัดท้องไทร 1 พาน (สักน้ำมัน)

สักที่วัดบางพระกับหลวงพี่ต้อยอีก 3 พาน (สักน้ำมัน)

แล้วก็เดินทางกลับปทุมธานี โดยสวัสดิภาพ  :002:


อ้าว งานนี้ผมพลาดไม่เห็นท่านได้ไง ท่านรู้จักผม แต่ผมไม่รู้จักท่าน ผมนี่แย่จริงๆ ทักบ้างนะครับ ผมไม่กัด ถึงกัดก็ไม่เข้า หากเข้าก็ฉีดยาแล้วแค่เจ็บไม่อันตราย ที่เหงื่อตกนั้น ผมกลัวเมียจะว่าเอานะครับ เมีย ยิ่งบอกห้ามๆไปเอาอยู่ เรื่องกล้อง ก็ แบบไม่เก่งต้องฝึกนะท่านครับ 666

549
                วันนี้ ผมได้หนังสือมา 1 เล่มครับมีชื่อว่า จิตรกรรมฝาฝนังในพระอุโบสถ วัดไร่ขิง จึงอยากจะมอบให้สมาชิก แต่ ก็มีเล่มเดียว เลยเอาเป็นช่วยตอบคำถามผม 3 ข้อ ให้ถูกต้อง และ เวลาที่ตอบ ต้องใกล้ที่สุดกับ 18.00 น. ของ วันที่10/05/52 นะครับ

1.รูปนี้เป็นรูปอดีตเจ้าอาวาสของวัดไร่ขิง ที่มีชื่อว่าหลวงพ่ออะไร และ มรณะภาพ ในวัน/เดือน/ปีไหน
2.ที่ตั้งของวัดท้องไทรคือขอแค่ หมู่ ตำบล ก็พอครับ
3.วันไหว้ครู ของวัดบางพระ ปี 53 คือวันไหน ขอ วัน /เดือน /ปี ครับ
ประกาศชื่อผู้ได้รางวัล 20.00น. ของวันที่ 10/05/52 นะครับ

550
ขอบคุณพี่ศักดา มาก ครับ .....แหม่ พี่สำคัญครับ
แต่ผมต้องดูแลที่ร้านอะครับ ย่าผมก็ไม่เค่ยสบาย ไม่มีคนทำ ต้องขออภัย
นึกว่า วันนี้พี่จะแวะ มาอีก กะจัดสมเด็จอีกสักองค์คราวหน้าละกัน อิอิ
เดินทางถึงบ้านปลอดภัยและครับ สาธุ ครับ
ไปตอนนี้ทันไหม 20;
ต้องขออภัย ที่หมายเลข หัวข้อไม่ถูกต้อง อีกแล้วครับ :043:

551
       วันนี้ ออกรถแท๊กซี่ไม่ค่อยมีคนเลยไปเที่ยวดีกว่า โทรชวนท่านโชว ก็ไม่ไป อยู่กับครอบครัว โทรชวนท่านเอ็ม ก็มุขเดิมครับเฝ้าร้านครับต้องโทรจองตัวก่อนนะทีหลังก็ ก็ใช่เรามันไม่สำคัญ แต่ในที่สุดก็มี สุดหล่อตอบไปด้วย 666 ดีครับ ไม่เหงา นั้นคือ ท่านต้นน้ำ
วันนี้ เที่ยวไปเรื่อยๆทัวส์นกขมิ้นครับ มาเริ่มเลยนะครับ

1.วัดไร่ขิงครับ
                          
                   
                          

                          

                          

                          

                          
     
                                         เข้าไปกราบหลวงพ่อ รู้สึกดีขึ้นเลยครับ

                          

                           

                  ออกไปท้ายวัดให้อาหารปลาเพลินดีครับปล่อยอารมณ์ซักพักมีเสียงสายเข้าจากเอ็ม บอกว่าท่านต้นให้เกียติไปด้วยครับ ผมรีบเลยกลัว ท่านต้นเปลี่ยนใจรีบไปรับ แล้ว มุ่งหน้าไป

2.สำนักวิมานทิพย์
             อาจารย์ เอ แถววัดท่านกระบือ ผมก็ต่ออักขษะ ตรงท้าวเวชสุวรรณ ส่วนท่านต้น ก็ สักครั้งแรกก็ต้องพิธีเยอะหน่อย แต่ก็สมใจท่านต้นน้ำครับอมยิ้มทั้งวันเลย ก็ดูเถิดครับได้นี่มา

                           

                            

                                          เสร็จแล้วรีบไป วัดท้องไทร เลยครับ

2.วัดท้องไทร

           ที่วัดสงบมากๆครับ ผมไปรับการสักแม่พิมมาที่หน้าขาด้านขวาครับ พอท่านอาจารย์อั้นสักเสร็จก็ไปยกพานกับหลวงปู่อั๊บ ท่านเมตตาผูกข้อมือให้ท่านเมตตามากครับ
 
                           

                            

                           

                            

3.วัดบางพระ
          วัดนี้คงไม่ต้องว่ากันมากคงรู้จักดีกันนะครับ วันนี้ ผมก็ไป กราบสังขารหลวงพ่อเปิ่น ไปขอเมตตาหลวงพี่ญา หลวงพี่ต้อย และหลวงพี่นัน ก็ได่สักสมใจ เพียงหลวงพี่ญา และหลวงพี่ต้อย แต่หลวงพี่นัน ผมต้องส่งรถให้คู่กะเลยไม่ได้สักเสียใจมากๆยกพานแล้ว ถึงคิวผมด้วย น้ำตาซึมเลย

                           

                           

                            
                                                               เจอหนุ่มซัมซุงด้วยครับ

จบทริปนี้ด้วยดี กลับถึงอู่ส่งรถเรียบร้อยครับ

552
เอา ฟีโน่ สีชมพู มีความหลังกับรุ่นนี้

553
ขอบคุณข้อมูลครับ

554
ผมเคยได้รับ การสอนสั่งจากอาจารย์ ว่ามีวิธี ให้ ยิงไม่เข้า / ยิงไม่ออก นั้นคือ
ยิงไม่เข้า - ตอนจะมีเรื่องก็ไม่เข้าไปยุ่ง ยอมๆไป อดทนไว้ รับรอง ไม่โดนยิงแน่
ยิงไม่ออก - ตอนเค้าท้า ก็ไม่ออกไปหา รึ ไม่ออกไปหาเรื่องใคร
  รับรองไม่เจ็บตัวแน่ๆ แถม ได้ คล้าดแคล้วด้วย

555
            หากท่านเจ้าของกระทู้ตั้งใจจะสักให้สวยตามแบบที่ถูกต้อง ก็ต้องให้อาจารย์คิดให้ว่าจะจัดวางยังไง เพราะอาจารย์จะพิจารณาจากลักษณะรูปหลัง สีผิว และนิสัย เพราะไม่มีใครได้ เห็นหลังตัวเองเต็มๆ ต้องพึ่งคนอื่นๆบอก รึ ถ่ายรูปให้

556
ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นนะครับ จะพยายามแก้ไขนะครับ

557
ตักบาตรวัดในซอยบ้านกับครอบครัวครับ แล้วไปทำงานต่อ

558
ข้อมูลและภาพ ต้องขอทำการ เก็บเป็นหัวข้อบุ๊คมาร์ค ขอบคุณมากๆครับ

559
ภาษาวัยรุ่นบ้านผม เด็ดดวงเลย (บ้านผมหลังเดียวนะ) อยากได้มากๆ

560
น่าไปนะครับ ผมนอกจากติดเข็มแล้ว ยังติดงานไหว้ครูอีก หากไปได้ไปแน่นอนครับ ว่าแต่งานจัด แถวไหนครับ เห็นมีแต่ชื่อวัดครับ ผมเด็กกรุงเทียม(กรุงเทพ)ไปหลงแน่ๆช่วยบอกหน่อยครับ

561
อาจารย์ประโยชน์ อยู่ที่ไหน ท่านสักอะไรบ้างครับ :054:
อาจารย์ประโยชน์ อยู่ที่ไหน-แฟต 6 ดินแดง ครับ/ ท่านสักอะไรบ้างครับ-อันนี้ตอบยากครับต้องไปเองครับ

562

                                                                 พี่คนจัดคิวครับ น้องๆมาที่ ละ 5เข้ามา






                                                     ใครเป็นใครดูหลังเอาเองนะครับ ไม่มีคำบรรยายมีแต่ภาพครับ

งานนนี้ผมอยู่หน่วยล๊อค และ ถ่ายรูป ครับ ยังไง ก็เบาบ้างนะพี่ ดูแต่ละคนมาเขียวๆทั้งนั้น นู๋มาใหม่ครับ


            ต้องขออภัยครับท่านนี้ คือ ศิษย์ท่านแรกของอาจารย์ประโยชน์ที่รับเข็มเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันเปิดสำนักที่มาเลเซียครับ ตามเคยครับ ตื่นๆครับเลยจำชื่อไม่ได้ครับ

ขอถ่ายรูปหมู่สักใบนะครับ ไม่งั้นเมียต้องถามว่าไปไหนมากลับดึก ผมขอนะครับท่านอาจารย์-ศิษย์พี่ครับ
                                                                                                 3/3

563

                พี่เหน่งรับเข็ม อีก ท่านรับขัน5
(เค้าสะกดแบบนี้ไหม)ขออภัยที่ผมไม่รู้จักครับแต่คุ้นๆนะใครรู้จักบ้างครับ  




       มอบเข็ม และ ครอบเศียร ให้อาจารย์ วิสุทธิ์ สรีรัตนา (อาจารย์เหน่ง)



รับเข็มกันแล้วที่นี้ก็เหล่าศิษย์เข้าไป ให้หลวงพี่จารหลัง ต่อด้วย อาจารย์เหน่งจารหัว ต่อไปหาอารย์ประโยชน์ ครอบเศียร จบ กว่า จะครับ วันนี้ ตี 2ได้มั่ง
                                                                    2/3

564
       วันที่ 5 พฤษภาคม 2552 เวลา 09:09 น.เริ่มพิธีไหว้ครูของอาจารย์ประโยชน์ และ ปีนี้ อาจารย์ประโยชน์ จะทำการมอบเข็ม ให้ศิษย์ 2 ท่าน ท่านแรก อาจารย์ วิสุทธิ์ สรีรัตนา (อาจารย์เหน่ง) ส่วน อีกรูป ผม จดชื่อมาแล้ว ทำหายครับ ที่จำได้คือเป็นพระที่จำพรรษาที่โคราช หากทราบชื่อจะนำมา บอกภายหลัง





                                                     ทำบุญเลี้ยงพระ-กรวดน้ำ-พรมน้ำมนต์

                                                     ผมเองครับ มาช้าแต่ยังมาทันยกขันครับ


                                                                 มาด้วยศรัทธาจริงๆ



                                                                         มีต่อนะครับ
                                                                              1/3

565
        วันนี้มีผู้เข้าใช้งานพร้อมกันมากที่สุด: ๑๙๒. วันที่มีผู้เข้าใช้งานพร้อมกันมากที่สุด: ๑๙๒ (วันนี้ เวลา ๑๗:๐๐:๑๗)
๑๖๘ สมาชิกที่เข้าใช้งานวันนี้ (ไม่รวมผู้เยี่ยมชม):
ชลาพุชะ, chatsmm, Chotipat, เด็กนอกวัด, cho presley, ۞เณรน้อยเส้าหลิน۞, ขุนส่อง, อชิตะ, ~เสน่ห์จันทร์~, job@love, artid22, คุณยิ้ม, karnjana, nutagul, nok2009, no_bangchak, หอมเชียง, นะโมพุทธายะ, ???--สายัณ--???, Teerawat, Jamesrongchai, tum72, Ronaldo 2007, มังกร, x_ratchai, น้องต้นน้ำ, จอแจ ^^~, น้องลิงน้อย, praw007, ตามพรลิงค์, ณ.อยุธยา, ][_kmitnb_][, ศท.5522, Gearmour, หนึ่ง, a?xๅea?ๅeบๅJws=, พัน ร. มทบ.๑๑, cck05, kk777, JET LEE, nosida, kaitip, ตั้ม, SiMPle, St.Pipo, ~♣~โจรสลัด~♣~, พุงโต, ArDET, เอ็มเมืองไร่ขิง, ราหู, Sak1459, นพณัช, ChinCop, เด็กสุรินทร์, nobeeta, โองการยันนะรังสี, Hanu-Marn_Neverdie, เว็บ..., เปรี้ยวปี้ด, อิ่มอุ่น, นายเกษตร, chai2009, ณัฐ, Keng TOYO, porpar, Kanya, punpon, แก๊งค์ - ยา - กู - ซ่า, เด็กบ้านนอก, โคมแก้ว, ราหูอมจันทร์, bomnoi, j_kirsada, CHAI, DEKDOY, pancake1, nonlimite, kongkeha, dejnarong, thanomsak, berth1999, k911, blc_18, tonsaknina, ~๐คนเดินเท้า๐~, PAE, กนฺตปญฺโญ, burt, makantong, ที_lowrider, Noopui, ชินฺนปญฺชร, MasterT, นโม, banana, นะมะพะทะ, amazing2511, Pig_Never_Die, ART2530, santa, mue, เทพสายขาว, พยัคฆ์จำศีล, [= Jo_o* =], khomkrit, adisorn, duracel, mawin_14, vespa, แมวเซา, phan, fourbobook, panoopong14, derbyrock, utan, เสือไฟ, สาลิกา, ?motion_On?™, ทราย บางเลน, noppkun, mongsan, เต้, JoeBS, seenamzaa, Myrmidon, Kitisin, MJ?lln ้มป่oJ???, to, nakprok, ชาญ, Dekwatnai, rescuer, porvfc(สิบทัศน์), prathomsak, Thongkam, schoolbus, CaSaNoVa, tuxky, CONNEX, ~<กัญชสโรชิน>~, kkk, ? ชินจัง ?, ratsameeporm, motana2008, mootongdang, ~พระลักษณ์~, นามมงคล, zolomon13, tuytan, ปูดำ, ICELAND, ˜ขงเบ้ง˜, 162cm, ta-keng, gobgab.vk@live.com, seka, Pujchong, B@nJ™, เด็กลำปาง, SIC, eXeCuTioNz - IX, minkey_mouse, chiv@s, โอม..., baboon, gottkung, taeysurat, kengkun

566
ฉุด รึ ยาสลบ ง่ายกว่ามั่ง

567
สวยครับ แล้ว ท่านชอบองค์ไหนมากที่สุดครับ เอาที่ขึ้นคอบ่อยๆ

568
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: 23 พ.ค. 2552
« เมื่อ: 05 พ.ค. 2552, 06:27:16 »
ขออนุโมทนา ด้วยครับ

569
           งานไหว้ครูช่วงเช้าที่บ้านอาจารย์พลเสร็จผมขอตัวกลับเนื่องจากพิธีต่อไป จะเป็นของสมาคมตลกแห่งประเทศไทยกัน เลยเข้าไปหาศิษย์พี่เหน่งที่วันพรุ่งนี้จะรับเข็มครูจากอาจารย์ประโยชน์ พี่เหน่งจะเป็นคนไทยคนแรกที่อาจารย์ประโยชน์เมตตา มอบเข็มให้พอไปถึงพี่ท่านกำลังจารด้านหลังเสียรพ่อแก่ ที่จะแจกให้ศิษย์ ในวันไหว้ครู ไหนๆ แล้วพี่ท่านถือเหล็กจาก งั้นผม ขอรบกวนจารเสือที่ผมพกหน่อยช่วงนี้เสืออ้วนไม่ค่อยวิ่งพี่ท่านก็ทำให้อย่างเต็มใจ สวยครับ แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วเห็นที่ จารไม่ชัดเนื่องจาก จารที่กรอบพลาสติกใส ขอบคุณครับพี่ท่าน และ รึ  วันนี้ต้องเรียก อาจารย์เหน่ง แล้วนะ

                                                     
                                                                           3/3

ปล. ส่วนงานในวันที่ 5 ของทั้ง 2 สำนัก ผมจะนำภาพมาให้ชมต่อไปนะครับ

570
ต้องขออภัย ที่ลงข้อมูลซ้ำซ้อน1/3
ก็มาชมต่อ นะครับ          

 

 



 
   

                                               ผมชอบกลุ่มนี้มากโข ไม่ได้ยินกลองยาวมาแรมปี    
       
                                                                     2/3

571
        วันนี้ไปบ้านอาจารย์พลพยัคฆราช ซึ่งเป็นวันไหว้ครูวันแรก วันนี้อาจารย์ทำบุญเลี้ยงพระ 9 รูปที่บ้าน เชิญชมภาพครับ

บรรยากาศก่อนพระมาครับ



อาจารย์กำลังตั้งเสียงกลองยาว




พระมาแล้วครับ/ตีกลองยาวรับพระ






อาจารย์นิมนต์พระขึ้นชั้น 2/เริ่มพิธี/ถวายภัตตาหารพระสงฆ์     


นู๋ชลาพุชะมาดีนะท่านเหมียว เสาร์5                                                 
                                                    1/3

572
Warning: curl_exec() has been disabled for security reasons in /home/www/virtual/bp.or.th/htdocs/webboard/img-up/index.php on line 20
error

ผมพยายาม สร้างกระทู้ โดยมีภาพประกอบ มันก็ขึ้นแบบนี้ รึ เป็นที่ผมคนเดียว

575
ขอบคุณที่นำบทความดีๆมาให้อ่านนะครับ

576
หากินง่ายๆไม่กลัว บาปและกฏหมายเลยนะ งั้นทุกครั้ง ขอดูบัตรข้าราชการตำรวจ และ ใบคำสั่งตั้งด่านเลยดีไหมครับ 666

577
กระผมเสียใจมากๆที่ไม่ได้ไปกราบหลวงพ่อตอนท่านยังอยู่ จะไป จะไป ก็มีเหตุ ยิ่งท่านจากไปอย่างนี้ ผมยิ่งเศร้าสลดใจเป็นอันมากครับ

578
ที่สุดของที่สุดอยู่ที่ 4/4

การจัดโต๊ะหมูที่แปลกนะในสายตาผมคือนำเศียรพ่อแก่มาวางแปลกดี
ปกติผมเห็นตามงานพระประธานมีองค์เดียว หากจะพ่อแก่เป็นประธานก็พ่อแก่อยู่บน งานนี้ผมประสบการณ์น้อยมั่งครับ


     

พระบรมสารีริกธาตุ



      ผมว่าทุกท่านดูแล้วอมยิ้มกันแน่ๆครับ
     
สนามหลวงช่วงกลางวัน(เฉพาะกลางวัน)จะมีของที่ บ่งบอก ความเป็นสนามหลวงคือ
   1.ต้นมะขาม
   2.นกพิราบ
   3.หมอดู
             ยังไงก็ช่างหากไม่ใช่วันพระราชพิธี ต้องมี 3อย่างนี้ให้เห็นเป็นแน่
        ที่ถ่ายรูปมามี 2ส่วน ที่แสดงอยู่ คือกล้องดิจิตอล ส่วนกล้องฟิล์มยังไม่ได้ล้างครับ
ต้องขออภัยด้วยที่ภาพบรรยากาศไม่ครบ หากท่าต้องการไปร่วมงาน งานก็จัดถึงวันที่ 8 ยังอีกหลายวันครับ
ในงานยังมีร้านขายหนังสือธรรมมะ และ เรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจ มากมาย ลองไปดูนะครับ


579
ร้อนนี่ดีอย่างคนน้อย ผมกลับช่วงเย็นคนกำลังมาเลย มีการแสดงแฝงธรรมะ ด้วยนะครับ 3/4










นี่เด็ดสุดใช้พลังจิต และธรรมะรักษาโรค



เครื่องทดสอบแบบแปลกๆคิดกันมาได้นะครับ ลองดูเถิดครับ




580
เต็นท์พระสงฆ์นิกายมหายาน 2/4

แล้วก็อีกหลายเต็นก็มีกิจกรรมน่าสนใจนะครับ มีขายรูป ขายหนังสือ ดนตรีจากกองทัพเรือ

581
            ตื่นตอนเช้าตั้งใจจะไปวัดตุ๊กตา แต่ เจ็บตามแขนขาเนื่องจากหักโหมลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ
 แต่ใจร้อนเลยนอนกระดุดกระดิกไม่ได้ พอช่วยบ่าย เริ่มดีขึ้นแต่งานที่วัดตุ๊กตาเริ้มไปแล้ว นี่ทำไง
 นึกขึ้นได้ที่สนามหลวงมีงานไปดูดีกว่าก็มีงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา
คนก็ไม่เยอะเนื่องจากอากาศร้อนเอาเรื่องเลย กระผมจึงเดินอย่างไม่ต้องเบียดจึงเก็บภาพมาให้ชมดังนี้




                                              รูปวัดไทยในอังกฤษ 
                                                        ยังมีต่อครับ 1/4

582
เชื่อหรือไม่ไม่ทราบแต่เท่าที่เลยเจอกับตัวมา ผมหนัก ร้อยสิบห้า กิโลกรัม  แฟนผมหนัก สี่สิบห้า  พี่เจ้าของเหรีญไม่น่าเกิน55กิโล แต่พี่เขากับแฟนผมใช้แค่คนละสองนิ้ว(นิ้วชี้มาประกบกันสองข้าง)ยกผมลอยขึ้นจากเก้าอี้ได้เฉยเลย  งง งง งง มากๆ ไม่ค่อยเชื่อแต่มันเป็นอะไรที่พูดยากครับ  แต่ผมคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวกับจิตใต้สำนึกนะครับ คือแบบว่าพอมีเหรีญนี้แล้ว ใจมันคิดว่าต้องทำได้ๆ มันเลยทำได้ หรือเปล่า ตอนแรกแฟนจะซื้อไว้ แต่พอดีไม่มีตังค์พอ เลยไม้ได้ซื้อ
ท่านครับนั้นคือการสะกดจิตชนิดหนึ่งครับ คนที่ขายของพวกนี้ ผ่านการฝึกการอบรมณ์มาอย่างดีเยี่ยม สามารถนำวิทยาศาตร์หลายๆแขนงมาทำให้ผู้ซื้อเชื่อในประสิทธิภาพของเหรียญนั้น ท่านเคยได้ยิน ไฟไหม้คนแบกโอ่ง แบกตู้เย็น รึ  ว่ากระโดดจากชั้น 8 มาไม่ตาย(โรงงาน ตุ๊กตาเคเดอร์)

583
           เราหยุดดูธรรมชาติอันแสนสวยงามและร่วมกันหยุดทำลายธรรมชาติกันเถิดครับ                           
                            ส่วนวิธีไม่ต้องบอกรู้กันอยู่แล้วครับ

584
      อ้าวเมื่อปีก่อน ยัง 15000 บาท อยู่เลย ลุงข้างบ้านเป็นเบาหวาน ความดัน(ไม่รู้ต่ำ รึ สูง)เป็นโรค อะไรอีกอย่างที่เดินสั่นๆ แกแขวนอยู่ ก็คงหายมั่งครับ หายไปจากโรคต่างนะครับ แบบหายขาดเลยไม่เป็นอีก ก็แกตายไงครับ ไปก่อนสงกราน์เลยครับ หัวใจวาย หมอที่รักษาแกบอกว่าอะไรก็ช่วยไม่ได้ต้องขึ้นอยู่กับการทำตัว นิสัยการใช้ชีวิตครับ แขวนเหรียญ แล้ว ยังซดเบียร์ก็ไม่หายหรอกครับ แล้วมีองกรณ์ การแพทย์ไหนแนะนำไหมที่ยืนยันคนหายจากโรคโดยใช้เหรียญนี้ เอาแบบที่ผมเดินทางไปหาได้นะ ผมดูคู่มือมีแต่ ชาวต่างชาติ
      หลายปีก่อน ท่านจำเรื่องเตียงแม่เหล็กได้ไหม ปู่ผมที่พึ่งตาย นอนเตียงนี้ 10 ปี /5 ปีแรก ก็นอนๆลุกๆ ท่านกลัวไม่คุ้ม 5ปีก่อนตายนอนไม่ลุกเลยใช้คุ้มจริงๆ ซื้อมาเกือบแสน
     ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยและญาติครับ หากทำตามที่แพทย์ที่เป็นแพทย์วิชาชีพนะ สั่งก็คงหาย รึ บรรเทาอาการ ไปจนถึง ตายช้าลงไป ขึ้นอยู่กับระยะของโรคนั้นๆครับ บางกลุ่มคน ฉวยโอกาส จากผู้ป่วย ก็ตามใจนะครับ หากทำแล้ว มันจะทำให้กลุ่มคนกลุ่มนั้น มีกินมีใช้ ผมป็นคนนึงที่ไม่ชอบการกระทำของกลุ่มคนแบบนี้มากๆ

585
ขอแสดงความร่วมใว้อาลัยเป็นอย่างยิ่งด้วยครับ

586
             ขอแสดงความร่วมใว้อาลัยเป็นอย่างยิ่งด้วยครับ ที่จริงผมวางแผนกับพี่สาวท่านหนึ่งจะไปกราบนมัสการท่าน ต่างคนก็ไม่ว่าง มาเจอข่าวแบบนี้ เศร้าเสียใจมากครับ ขอบคุณพี่สาวที่แจ้งข่าวนะครับ

587
กราบขอบพระคุณท่าน มากๆครับ

589
ผมก็พวกใจง่ายใครชวนก็ไป พอไปแล้ว ไม่ผิดหวังอิ่มบุญเลยครับ ขอบคุณที่หาไปไหว้พระนะครับ

590
ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

591
           ส่วนบ้านผมก็ตามที่ถ่ายรูปมาโพสนะครับ พระบางองค์ผมก็เคยได้ยินบางองค์ก็ไม่รู้จัก นี่ก็ถ่ายตอนจะตี 1 เลยไม่ได้ ตัดต่ออะไรมากมายต้องขออภัยครับ ส่วนพระที่ขึ้นคอผมคือหลวงพ่อเปิ่น ปี 35 น่าจะเป็นรุ่นแจกตำรวจ ท่านเอ็มให้ผมมาครับ ขอบคุณท่านเอ็มนะครับ ท่านเอ็ม ว่ามีหลวงพ่อองค์เดียวก็พอแล้ว นี่ก็จะไปเลี่ยมทอง หากมีเงินนะครับ
                 

592
สวยดีครับ อยากได้มากๆ

593
ขอบคุณข้อมูลนะครับ

594
ที่สุดของที่สุดที่ผม ตามหาแล้วครับ สวย มากๆ

595
คิดมองว่าดี เด็กชอบทางนี้ก็ดีนะครับ ดีกว่าไป ทำอะไรอย่างอื่นที่ดูไม่ดี ผมอยากให้ท่านสนับสนุนให้ไปตามทางที่ถูกที่ควรนะครับ

596
ยกมาทั้งบทเลยนะท่าน นับถือ

599
       ก็แล้วแต่คนนะครับ เรื่องของขึ้นนี่พูดยากมากๆ มีสมาชิกหลายๆท่าน ที่ผมนับถือที่ทั้งในบอร์ดและข้างนอก  สักมาเป็นสิบๆปี ไม่เคยของขึ้นเลย บางคนรถชน รถคว่ำ สภาพรถต้องขายทำเศษเหล็ก ท่านผู้นั้นก็ไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย มีดาบท่านนึงเดินข้ามถนนแยกมหาชัยโดนกระบะชน หม้อน้ำแตกน้ำพุ่งแตกกระจาย คนกระเด็ดลอยไปจากจุดชนเป็น 10 เมตร ก็แค่ถลอกๆ 2ท่านนี้ ในชีวิตของก็ไม่ขึ้น ของดีกลับตัวไม่จำเป็นต้องขึ้น แต่หากขึ้นก็ดีกับตัวเรา ศรัทธาความเชื่อมีกับตัวก็ดีครับ ผมเองบางครั้งก็ขึ้น บางครั้งก็เงียบ(ขาดสมาธิ) ผมก็ยังคงนับถือของที่ครูมอบให้ หากไม่นับถือคงไม่ให้สักแน่ๆ ก็ไม่ได้ว่าใครนะครับ ขออภัยหากข้อความของกระผมทำท่านไม่พอใจนะครับ

600
เมียไม่ให้ไป :070: อยากไปครับ ช่วงนี้ ต้องเก็บเวลาไว้ไหว้ครู ต้องให้เวลากับครอบครัวครับเมียสั่ง :070: :070: :070:

601
ขอบคุณภาพบรรยายกาศงานนะครับ

602
นอนไปกี่วันกี่คืนครับนี่ ได้ของดีๆมาขนาดนี้ แล้วไปนอนที่ไหนมาครับ ผมจะได้ไปนอนบ้าง ฮิฮิ

603
ผมก็ไม่รู้ ว่าท่าไหนเป็นตัวไหนนะครับ แต่ คาถาหนุมาน ผมใช้บทนี้ หะ-นุ-มา-นะ

604
หลวงพี่ท่านเมตตามากเลยนะครับ ครั้ง แรกได้ 29 ยอด สาริกา แปดทิศ นับว่าท่านโชคดีมากๆครับ

605
จะพยายยามทำให้ไดเยอะที่สุด เท่าที่เห็น ผมก็มีความดีอยู่บ้างนะนี่

608
                แหมๆทุกท่านที่เชียร์ ทีมปีศาจแดงได้ใจเชียว ชนะปืนใหญ่ 1-0 ดีใจด้วย แต่ชัยชนะท่าน จะมีอีกไหมก็เท่านั้น  :075:ดูแววอดแล้วงานนี้ ปืนใหญ่ของชลาพุชะ

609
ของสวยๆงามๆทุกดอกเลยนะครับ

610
           ผมอ่านแล้ว กำลังมีความสุขกับบวกการทำบุญ อยู่ พอมาอ่านตรงคะแนนบาป ตกใจเลยครับ ทำผิดอยู่สองเรื่อง มีคะแนนชนิดทำบุญมาแล้ว ยังไงก็ไม่เท่า
                      ขอบคุณทุกๆท่านที่เสริมสร้างกระทู้นี้จนสมบรูณ์ นะครับ อ่านแล้วได้ข้อคิดจริงๆ

611
          แหมท่านอชิตะเอาเรื่องจริงมาทำให้ตลกได้นะท่าน ช่างสรรหาจริงๆ มิน่าสาวๆหลงท่านหลงหัวปักหัวปรำ  นับถือ นับถือ

612
       ครูบาอาจารย์สักอะไรให้ หากดูเหมือนหมึกขาดตกหล่นอะไร แต่ ที่จริงแล้วไม่มีขาดตกหล่นทางพุทธคุณแน่นอนครับ จงเชื่อในครูบาอาจารย์ที่สักสิครับ

613
         ขอบคุณมากครับ ที่นำภาพบรรยากาศพิธีไหว้ครู ที่วัดท้องไทรมาให้ชม ตามที่ท่านอชิตะบอกว่าวัดชายนาก็ไหว้ครูวันนี้ และวันนี้ผมก็ไปงานไหว้ครูของ พระอาจารย์วิรัช พระอาจารย์ของอาจารย์ต้อยวัดกำพร้า มาเหมือนกัน

614
        ส่วนกระผม การสักก็แล้วแต่ พระอาจารย์ อาจารย์ ที่สักให้จะดีกว่านะครับ แต่เกือบทุกท่านจะขึ้นเก้ายอดก่อน ส่วนวันผมเริ่มวันพฤหัส บางท่านก็ว่าวันเสาร์แรงดี หรือท่านคิดว่าวันไหนสะดวกก็วันนั้น หากไปวันหยุดนัตขฤกษ์ วันเสาร์-อาทิตย์ คนอาจจะเยอะนะท่าน

616
กระผมได้ประโยชน์จากเทคนิคนี้มากๆครับ ขอบคุณครับ

617
แหนหนูจะร้องไปทำไม ป๋าจะรับผิดชอบทุกอย่างที่ทำนะๆๆๆ 500 มันน้อยไป ป๋าให้ 5000 เลย หยุดร้องนะ นี่มันแค่เริ่มต้น(คิดได้ไงเรา) :007:

618
ผมตั้งความหวังไว้สูงมากๆ ว่าจะได้เห็น.................    
                                                                           แล้วท่านปอร์ก็ทำให้ผมเสียใจครั้งใหญ่ ท่านก็จริงๆเลย ฝากไว้ก่อนนะ

619
แต่งตามสบายแต่ไม่น่าเกลียด เช่น สี ความฟิต ก็ดูๆเอานะครับ

620
เก่งนะยะ รู้ได้ไง :004:

621
มาแต่ละมุขต้องได้ยิ้มทุกดอกเลย  :004: :007: :006:

622
               พุทธคุณได้มีหลายท่านให้คำตอบแล้ว ขอฝากไว้นิดนะครับ ขอให้ท่านจงรักษารอยสักในตัวท่านที่อาจารย์มอบให้
                                       ให้เป็นของดีตลอดไปนะครับ

623
สวยมากๆครับ

624
พระสวยมากครับ รีบไปเลี่ยมนะครับ

625
ได้ของดีคู่ตัวเลยนะครับ ท่าน

627
ขอบคุณครับ

628
เป็นการสักที่สวยงามมากๆครับ

629
เป็นบุญตา ที่ได้เห็นครับ

631
ขอบคุณ กวางน้อยที่นำข้อมูลมาเตือนนะ

633
ตะกรุดชุดใหญ่ เลยนะท่านโจรสลัด สวยเด็ดดวงทุกดอกเลย

634
เหรียญแบบนี้เปงเหรียญเก๊ ครับ ... แต่ตอนในงานพุทธธาพิเศกที่วัดประสาท ได้มีคนเอาเหรียญเข้าพิธีด้วยจำนวนนึง
แต่จริงๆแล้ว เหรียญนี้ วงการไม่เค่ยนิยม ครบ

จะแขวนก็แขวนแล้วแต่ใจศรัทธา ครับ ยังไงก็มีรูป ท่านที่เราเคารพ ครับ  :002:
หากเป็นเช่นนี้ ผมว่าน่าใช่นะครับ ขึ้นอยู่กับใจศรัทธาครับ ผมว่าน่าใช้ครับ

635

      อยากรู้ว่าซื้อที่ไหน กระผมพยายามหาซื้อ เพื่อจะไป ถวายพระอาจารย์ญา  เจอแต่สีเบอร์เดียวกันแต่ คนละยี่ห้อ ก็กลัวเหลือเกินว่า ซื้อมาแล้วใช่ไม่ได้ครับ บอกชื่อร้านได้จะเป็นพระคุณยิ่ง

636
จะปลุกมาทำไม ล่ะครับ ท่าน สูงเกินกว่าจะมาใช้กันมัวๆ

637
เดี๋ยว ใสๆ มาโชว์ นี้ อ้วน ดำ ตามมาอีก ของดีๆทั้งนั้นเลยท่าน

638
สวยงามครับ ตอน เต็มหลังนำมาโพสอีกนะครับ

639
สุดยอดเลย ทางเลือกใหม่ สวยครับ

640
จตุคามรามเทพที่โด่งดังทันขุนพันธรักษ์...ไงหละ..
[shake]
เหรียญปิดตาพังพระกาฬ นวโลหะ ปี 32  [/shake]

ความคม ความสวยนี่ ระดับแชมป์เลยนะเนี่ยเป็นเล่นไป.. คนสมัยก่อนไม่ยอมเลี่ยมกรอบกันน้ำ ทางที่ดีรีบเลยค่ะ ก่อนพระจะสึกไม่สวยแบบนี้


พี่โชวมีเหมือนกันเลยค่ะ... ทั้งเนื้อทองคำ และนวโลหะ นะคะ... ไปปล้นเขามาเหมือนกัน.. ปล้นปะป๊า...มาแหน่ะค่ะ... เก็บไว้ไม่เคยใส่ค่ะ...สงสัยต้องเอามาขึ้นคอม่างซะแล้ว


ถ้าอยากดูเนื้อทองคำ เด่วโพสให้ดู รูปอยู่ที่บ้านคับป๋ม....

ปล. น้องชลาฯ อย่ามาบ้านพี่โชวนะคะ...(ขอห้าม) เสียวจริงๆ .... :009:
แหม มีซุ้มนะ เนื้อทองคำก็มีด้วยรึครับ พี่เอารูปมาลงหน่อยนะ แล้ว ใครสร้างล่ะครับ วัดไหน อยากได้ที่มา ครับ รบกวนช่วยตอบหน่อยนะครับทุกๆท่าน

641
       ช่วงนี้ตระเวนหาเสียง ไม่ใช่ ไปเยี่ยมผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยู่ใน กทม.และปริมลฑล ไปกราบพี่สาวคุณยาย เรียกไม่ถูกว่า จะ ลำดับญาติยังไง ท่าน ให้พระมาองค์แปลกดี อยากทราบว่า เป็น พระอะไรครับ รู้ว่าคงเป็น เนื้อนวโลหะครับ
                             
                                                                       

642
ร่วมด้วยอีก 2 รูป ดูแล้ว ฮาดีครับ ช่วยกันทำมาหากินนะท่านปอร์
                               
                                                    นางเอกนะจ๊ะมาช้าดีกว่าไม่มามา
                 
                                                   คงเจ็บไม่น้อยนะนี่ลอยกระเด็นเลย                         
ได้รับภาพจาก ฮอทเมลล์ โดย ท่านปาท่องโก๋ ส่งให้ครับ

643
      แหมตั้งหน้าตั้งตาดู หากเน็ตผมเร็วๆเหมือนชาวบ้าน ก็คงได้ตกใจ แต่นี้ speer : 115.2 Kbps ใช้มือถือเป็นโมเด็มด้วย ช้ามากๆ กว่าจะรู้เรื่องงง ไปนานเลยครับ ขอบคุณนะครับ ท่านปอร์มีอะไร กุ๊กกิ๊ก กุ๊กกิ๊ก มาให้ดูบ่อยๆ

644
สวยงามมากๆคับ

646
ยินดีที่ได้รู้จักครับ กระผมชลาพุชะครับ

648
งดงามเข็มขลังครับ นี่ขนาดเป็นน้ำมันนะครับสวยจริงๆ

649
สวยมากเลยครับ

650
ล้างออกมาแล้วสวยงามมากๆครับ ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูล

651
ก็ดีนะครับ เจ้าหน้าที่ อส ตชต. อปพร.ที่ทำหน้าที่ช่วงสงกรานต์จะได้มีกำลังใจ ทำหน้าที่ ในปีต่อๆไป ได้ของดีๆทั้งนั้น

652
คิดกันได้ ฮามากมายเหลือหลายเลยท่าน

653
กระผมเชื่อในความสามารถของท่านผู้แก่กล้าวิชาบางท่าน กระผมขอน้อมรับข้อมูลดีๆครับท่าน อชิตะ

654
สวยมากๆครับ ไม่เคยเห็นเลย ท่านได้มาจากไหนครับ สวยมากเลย

655
สวยมากๆ ครับ แต่ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร

657
บทความ บทกวี / วันฉัตรมงคล
« เมื่อ: 26 เม.ย. 2552, 01:35:20 »
                                                   
        วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ แห่งราชอาณาจักรไทย โดยสมบูรณ์ กล่าวคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจาก สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ในเวลานั้น ดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" เนื่องจากในเวลานั้น ยังมิได้ทรงผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั่นเอง

จากนั้น พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จนเมื่อทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว จึงได้เสด็จนิวัตประเทศไทย รัฐบาลไทยในขณะนั้น ก็ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวาย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ปวงพสกนิกรชาวไทย จึงได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคลรำลึก

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า

      "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

วันฉัตรมงคล โดย สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5".


ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน. ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ. ข้าพระพุทธเจ้า นายศักดิ์ดา คงทิม

658
ขอบคุณมากครับ

659
:095:

1.   ท่านศักดาจะโหดไปมั้ยคะ

แหม่จะถีบเด็กเลยนะนั่น(ทั้งๆที่น่าถีบก็เหอะ)

แล้ว

สักกันเอง แล้วไหงของขึ้นหว่า  :062:

พวกนี้สงสัยฟอร์ม

สุ่ยไปเรื่อย สักกันเองเห็นแต่ความเท่ ความคึกคะนอง

รักษาความสะอาดกันรึเปล่า จะเป็นเอดส์ไม่รุ้ตัว

.....

2.   แหม่ ฟังเพลงพระเจ้าตากแล้วของขึ้นหยอ

กวางก็เป็นน๊า

ไม่ได้สักอะไรเลย

แต่เพลงนี้ขึ้นทีรัย

มือถือไมค์ ใส่ลีลาทันที   :004:

1.ไม่กล้าถีบแน่ๆครับ ถีบไปเจอเด็กสวนหงายท้องอายเค้า เป็นรุ่นพี่ที่ดีไม่ใช้กำลังให้น้องเห็น ฮิฮิ :002: :002: :002:
2.งั้นดีเลย จัดงานพี่จะไม่จ้างนักร้อง เอากวางนี้ไง ประหยัด ดีไม่ดีแขกกลับเร็ว ได้ 2ต่อไม่เปลือง ฮาฮา :004: :004: :004:

                                  กวางก็ดีนะ ทำเรื่องเคลียดๆ ให้ ขำได้

660
      เมื่อวานผมได้อ่านกระทู้ของท่านหนึ่ง จึงคิดถึงสิ่งที่เคยเจอมา กระผมสุดจะทนกับการกระทำของคนบางคนที่ถือตัวเองว่ามีของแต่แสดงออกมาแบบสุดจะทน ขอเล่า 2 เหตุการณ์ นะครับ
1.ต้นปีนี้ผมไปที่โรงเรียนที่ผมจบ ปวชมา ผมไปหาเพื่อนที่เป็นครูที่นั้น ก็ธรรมดาครับ คุยกัน พอตกเย็นเพื่อนชวนไปกิน ลาบน้ำตกหน้าปากซอย ผมก็ไป มีนักเรียน รุ่นน้องนั่งเต็มเลย เพื่อนผมรับไหว้ เป็นศาลพระภูมิเลย ทักทายกันตามปกติ นั่งดื่มนั่งทานกันไปซะพัก เอาแล้ว ร่นน้องโต๊ะข้างสั่นครับ ดีนะที่คนละโต๊ะสั่นกวาดเรียบบนโต๊ะ ของขึ้นครับงงเลยผมเกิดเพิ่งเคยเจอของขึ้นแบบนี้ ใครใกล้ไม่ได้มีเตะมีชก งงครับสักอะไรมา พักหนึ่งก็หยุด เพื่อนบอก กลุ่มนี้ประจำลูกศิษย์อาจารย์...................... ผมคิดในใจเลย ว่ามันมีเงินไปสักได้ไงแพงมาก พอเหตุการณ์เริ่มเข้าที่ ผมก็เรียกมาถาม เลย ก็ วนคำถามอื่นๆก่อน แล้วก็ ถามเลยว่า น้อง ของแรงนี่ สักที่ไหนมา น้องตอบดังเลย ผมศิษย์อาจารย์........... แบบได้ยินกันทั้งร้าน ผมบอกเบาๆน้อง ผมถามต่อ ไหนดูสิ ผมเห็นแล้ว ไม่น่าใช่สำนักนั้น เพราะ ลายเส้นห่วยมากๆ ผมก็ถามสำนักนี้ ค่าครูเท่าไหร่ น้องบอก ค่าครูอะไรพี่ผมก็ สักกันกันเอง ก๊อปมาจากเน็ต ผมแทบอยากจะถีบน้องคนนั้นร่วง(แต่ทำไม่ได้) ดูมัน เอาแบบจากเน็ทมาสักแล้วบอกเป็น ศิษย์เค้าคิดได้ไง
2.ไปงานบวชหลานเพื่อน ก็นั่งกิน กันปกติ เหล้าอีกแล้วงานนี้ มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่นั่งกัน10คนได้ ลายเต็มหลัง กราฟิกบ้างยันต์บ้างนั่งกินแบบถอดเสื้อ แต่เค้าก็กินดีๆนะ คุยไม่ดังมาก ก็คุยเรื่องของเค้า ชมไม่ทันขาดคำเพลงพระเจ้าตากขึ้น เท่านั้น ของขึ้นครับ งานนี้ ผมอายม้วยเลยครับ เก่งกันมากมาย โดดไปโดดมา ทั้งงานแทบมองเป็นสายตาเดียว เอาอะไรมาคิด ฟังเพลงพระเจ้าตากแล้วของขึ้น นึกว่าต้องให้อาจารย์ปลุกของจึงขึ้น งงครับ
            มันมัวได้ถึงใจกันมากๆครับ ผมว่าหากหมดคนพวกนี้ไป สังคมคงมองการสักยันต์เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยอันดีงามเป็นแน่ ผมอยากให้คนทั่วไปได้รู้ว่า คนสักยันต์ มีกฏ ต้องถือ ศีลมากกว่าคนธรรมดาอีก
            ตามข้อ 1. 2. นั้น แค่กากเดน ไม่ได้ อยู่ในกลุ่ม ที่ใช้ คนสักยันต์ อย่างแท้จริง
            ของจริงไม่ใช่ขึ้นโชว์ตามใจ ของจริงไม่ใช่ลองได้โดยง่ายๆถึงเวลาจะรู้เอง หากมีครูบาอาจารย์ควรนึกว่าอะไรที่ทำให้ท่านเสื่อมเสียบาง คิดทำแต่สิ่งดี ไม่ใช่ประกาศ ว่าเก่งแน่ ฟันแทง ไม่ เข้า โดยการยกพวกตีกัน เต้นแร้งเต้นกาตามงาน ตามร้านเหล้า ควรคิดบ้างว่า
                                


                                               ท่านไม่ได้สักยันต์คนเดียว

662
เปิดกระทู้ออกมานึกว่าเข้าผิด นึกว่าเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักซะอีก จิ้งจกสวยนะท่าน

663
      ที่ถามมานี่เอา 7 ข้ออยู่ในยันต์เดียวเลยคงยากงั้นผมจะลงชื่อยันต์ที่มีพุทธคุณมากกว่า 5 ใน7 นะครับ
1.ที่สุดของที่สุดเลย ยันต์หอมเชียง ครับ กระผมพยายามสักให้ได้แต่พระอาจารย์ยังไม่ให้คงไม่ถึงเวลาครับ
2.ยันต์ครู ยันต์เก้ายอด ถือว่าศิษย์บางพระทุกคนต้องมีครับ
3.ยันต์นี้ นำบทสวด อิติปิโส มาวาง ได้สวยงามมาก มีการโยงใยได้อัจรรย์ครับ ชื่อยันต์ก็บอกและ ออกทางป้องกัน ยันต์เกราะเพชรหากสักยันต์นี้แล้ว งดสุราเลยนะท่าน

664
สุดยอดเลยท่าน เยี่ยมยอดกระเทียมเจียวเหลือหลาย

665
ได้ความรู้จริงๆครับ กระทู้นี้ ขอบคุณทุกๆท่านนะครับ

666
          คงเป็นกุฏิหลวงพี่ญานะครับ แต่ระบุไม่ได้ว่า สัก กับหลวงพี่นัน รึ หลวงพี่ญา ครับ จะให้ดีนำภาพมาโพส กระผมคิดว่าคงตอบไม่ยากว่าพระอาจารย์ท่านไหนเมตตาสักให้ครับ

667
     เบื่อและก็ชินแล้ว ครับกับพวกไม่รู้จักตัวเอง ขอเงินแม่พ่อเอาตัวไม่รอด หาเงินไม่เป็นหาแต่เรื่องไปวันๆ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่จบช่างไม่เห็นต้องตีกันตอนเรียนเลย ยิ่งสักมาเยอะแบบนี้ แล้วมาตีกันให้คนภายนอกมองคนสักยันต์ไม่ดี เป็นพวกอันตพาล โจรขโมย ผมรังเกียจมากเลยที่ทำให้คนที่ไม่รู้ความจริงมองคนสักยันต์ผิดไป หากแน่จริงอยากรู้ว่าเหนียวไหม ไปสมัครทหารไปชายแดนเลย แต่พวกนี้ไม่กล้าแน่ครับ หากมีหัวคิดคงไม่ทำให้เสื่อมเสีย แต่ก็แปลก คุณตำรวจ รึ สารวัตรนักเรียน จับได้ทำไมชอบให้ถอดเสื้อ คนดีๆก็มีเยอะ ก็ใช่นะครับตอนรับโล่ รับ ถ้วย ประกาศต่างๆ คงไม่มีใครถอดเสื้อรับ จะได้รู้ว่า คนสักก็มีคนดีๆเยอะ

669
การสักยันต์ คงไม่มีสำนักไหนปิดกั้นลูกศิษย์ การไปรับการสักหลายๆที่มีทั้งข้อดี-ข้อเสียนะครับ แต่สักหลายที่ได้

670
ขอบคุณครับ มีเวลาเตรียมตัวเยอะเลยครับงานนี้

671
ขอบคุณที่นำข้อมูลดีๆมาให้ชมนะครับสุดยอดทั้งชื่อพิมพ์มวลสารวิธีปลุกเสกและเกจิอาจารย์ที่ทำการปลุกเสก ครับ :054: :054: :054:

672
สวยครับ พี่ ว่างๆนำของจริงมาให้ผมดูด้วยนะ เลี่ยมทองมาก็ดีนะพี่ พอขโมยไปแล้วจะได้ไม่ต้องเสียตังห์เลี่ยม ฮาซะเอาจริงนะนี่ :007:

673
พี่สาวมีของแบบนี้ผมเห็นด้วยนะ เห็นไหมถ่ายรูปมาแล้ว มีราศีเลย สวยครับ พระลักษณ์หน้าทองหลวงปู่กาหลง นะพี่
หุหุ พี่นุช ขอรับ ไม่ทราบว่าา เสื้อ ลูกสาวผู้การ เนี่ยซื่อที่ไหนมาหรอ  :005: โดนใจจัง  Artไปอีกแบบ   :048:

     ขอเล่านิด ครับ ที่มาของลูกสาวผู้การ นี่ เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 6 มีนา 52 พี่โชว ใส่เสื้อลูกสาวผู้ การ นั่งตัดบัตรคิวครอบเศียรในวันรุ่งอยู่ที่กุฏิหลวงพี่ต้อย ผมก็กำลังได้รับเมตตาสักจากท่าน ประมาณเกือบ 5 ทุ่ม ท่านผู้การเสือเข้ามาที่กุฏิ กราบหลวงพี่ต้อยเสร็จ ก็ทักพี่โชวเลย
"อ้าวหนู ลืม คำว่าเสือไหม" พี่โชว ตอบกับว่า "เสือไหนค่ะ" มองหาด้วย ฮามากๆ ผู้การเสือบอก "ก็ ที่เสื้อเติมเสืออีกตัวสิก็จะกลายเป็น ลูกสาวผู้การเสือ " และท่านผู้การ ว่า "มาเป็นลูกพ่อม่ะ "พี่โชว ก็เลย เต็มใจเรียก ผู้การเสือว่าพ่อตั้งแต่ วันนั้นเป็นต้นมา จบการให้ข้อมูลครับ

674
ประวัติที่มาของคาถาสุดยอดเลยครับ คาถาจำง่ายครับ ผมจะท่องไว้ทุกคืนก่อนนอนหลังจากสวดมนต์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

675
สวยครับ หากไม่ทันแต่เป็นของแท้ ก็ น่าใช่นะท่าน

676
หากมีไว้บูชาคงดีไม่น้อย กระผมคงมีวาสนานำมาบูชาที่บ้านผมที่แพร่นะครับ(ของแม่มีแต่ไม่ให้ห่วงมากๆ)

677
                  ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ที่นำภาพดีๆมาให้ชมนะครับ แต่น่าจะเปลี่ยนชื่อกระทู้ จาก พระอาจารย์ญาจัดให้ครับ เป็น พระอาจารย์ญา ท่านเมตตาครับ   จะดูดีกว่าไหม คือก็เป็นการแสดงความคิดส่วนตัวนะครับไม่ได้ก่อชนวนอะไรครับ ขอบคุณครับ

678
ว้าวๆ งั้นน้ำซุบข้าวมันกันก็กินได้แล้วสิ  38; อ้าวลึมไปเราเป็นเกาต์ 41; ห้ามกับสัวต์ปีกและน้ำต้มกระดูก  23;ยังไงก็อดแงๆๆๆ :070:

680
หากแปรรูปแล้วคงสวยจับใจเลยครับ

681
ของดีเยอะนะท่าน

682
ขอบคุณครับ

683
ทิด มีของดีเยอะจัง สวยๆทั้งนั้น ขอบคุณที่นำภาพของดี มาให้ชมนะครับ

684
          ขอเราที่เจอมานะครับ ผมเป็นคนหนึ่ง ที่บริจาคอวัยวะทั้งตัว ตับ ปอด เซี้ยงจี้ หัวใจ เค้ายังเอาเลย กาดชาติที่ผ่านมา เค้าก็เอาเลือดผมไป 250 cc. ไม่เห็นเค้าว่าอะไรเลย งงครับ ไม่ถามด้วยว่าสักผ่านมากี่วัน ผมเข้าใจในความกลัว แต่ผมไม่เคยได้ยินว่าสักยันต์แล้วติดโรคนะ มีช่วยบอกด้วย จะได้ไม่ไป ที่นั้น

685
สวยงามมากๆครับ อยากถามเจ้า ของกระทู้นะครับ มีคำถามดังนี้ครับ
1.ต้องกินน้ำสาบานว่าห้ามไปสักที่อื่นนะจริงๆใช่ไหม
2.หากสักที่อื่นมาแล้วจะสักที่นี่เป็นที่สุดท้ายได้ไหม
3.หากสักที่อื่นมาแล้ว ถึงเวลาไหว้ครูของสำนักอื่นๆที่เคยสักมาไปได้ไหม
***ผมพยายามหาข้อมูลแล้วไม่เจอครับ ช่วยนิดนะครับ รึ ส่ง PM มาหาผมก็ได้นะครับอยากรู้มากๆ ขอยคุณครับ

686
ต้องขอโทษ ครับลืมข้อความสำคัญมากครับ "กระผมก็ทำได้ไม่หมดแต่อยากทำให้ได้ทุกข้อและจะพยายามนะครับ"

687
        ข้อมูลที่ผมนำมาลงนี้ผมว่าทุกท่านต้องเคยอ่าน เราอยู่ร่วมกันต้องมีกฏ กฏคือสิ่งที่ทำทุกคนอยู่ร่วมกันได้ กฏคือข้อตกลงอย่างมีเหตุผลในกลุ่มคนนั้นๆ ผมจึงอัดลอกมาฝากทุกๆท่านรบกวนอ่านอีกครั้ง
 
ยินดีต้อนรับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระดานสนทนาเว็บไซต์ วัดบางพระ

ขอชี้แจงเกี่ยวกับ กฏกติกา และ มารยาท ในการใช้งานกระดานสนทนาเว็บไซต์ วัดบางพระ ดังต่อไปนี้

๑. ผู้สมัครสมาชิกจะต้องใช้นามแฝงที่เหมาะสม ไม่หยาบคาย ไม่ส่อไปในทางลามกอนาจาร ไม่ก่อให้เกิดความสับสนหรือความแตกแยก

๒. ห้ามกล่าวพาดพิงกระทบถึงสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพสูงสุดยิ่งในทางเสื่อมเสีย

๓. ห้ามตั้งกระทู้ใดๆ ที่ส่อไปในทางลามก อนาจาร และ ผิดศีลธรรมอันดีงามของสังคมไทย

๔. ห้ามตั้งกระทู้และหรือส่งข้อความ (pm) ใดๆ ที่หยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้ายหรือหมิ่นประมาท สร้างความแตกแยก สร้างความสับสน สร้างความปั่นป่วน

๕. ห้ามตั้งกระทู้ใดๆ ที่มีข้อความ เนื้อหาซ้ำๆ กัน หลายๆ กระทู้ และหรือตอบกระทู้ ที่เข้าข่ายการปั่น การปั๊ม หรือขุดกระทู้เก่าขึ้นมาตอบโดยไม่มีเหตุจำเป็น

๖. ห้ามตั้งกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยเด็ดขาด

๗. ห้ามตั้งกระทู้ใดๆ ที่เกี่ยวกับการประกาศโฆษณาชวนเชื่อ หลอกลวงต่างๆ

๘. ไม่อนุญาตและหรือสนับสนุน ให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ การซื้อขายแลกเปลี่ยน ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านกระดานสนทนาเว็บไซต์ วัดบางพระ

๙. ห้ามตั้งกระทู้ที่มี เนื้อหา วางลิงค์ วางหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อส่อเจตนาไปในทางซื้อขายแลกเปลี่ยนใดๆ เช่น พระเครื่อง วัตถุมงคล และ เครื่องรางของขลังต่างๆ หรือโฆษณาบอกประกาศ

๑๐. การตั้งกระทู้ใดๆ ที่เกี่ยวกับการทำบุญร่วมบริจาคในลักษณะต่างๆ ให้ส่งข้อความ (pm) แจ้งรายละเอียดไปที่ Contact Us เพื่อตรวจสอบก่อน เมื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้วเห็นว่าสมควร ทางทีมงานจะเป็นผู้ตั้งกระทู้ให้เอง หากสมาชิกมีการตั้งกระทู้เองทีมงานขอลบทิ้งทั้งหมด

๑๑. ผู้ดูแลเว็บไซต์ วัดบางพระ ขอสงวนสิทธิ์ในการ ลบ หรือ แก้ไข ทุกความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ

๑๒. การยกเลิกความเป็นสมาชิก การแบนสมาชิก ให้อยู่ในการพิจารณาของทีมงานผู้ดูแลเว็บไซต์ ตัดสินถือเป็นที่สุด

๑๓. คำตัดสินของผู้ดูแลเว็บไซต์ วัดบางพระ ถือเป็นที่สิ้นสุด

*** การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำผิดต่อ กฏกติกา และ มารยาท ของสมาชิก มีตั้งแต่ตักเตือน แบนกำหนดระยะเวลา แบนถาวร และหรือดำเนินคดีตามกฏหมาย

*** ปรับปรุงแก้ไขให้ตรงกับสถานการณ์ เมื่อ วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

                                                                                               ขอขอบคุณทุกท่านที่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
คัดลอกมาจาก http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,357.html

688
ของแปลกดีครับ ไม่เคยเห็นเลย ท่านก็เก่งนะ ไม่ มีข้อมูลแต่รู้ชื่อ

689
รอยสักสวยนะครับ สักที่ไหนครับนี่ สวยครับ แล้วอีก 2 รอยไม่โชว์ล่ะครับ รอชมนะครับ

690
แผนที่เขียนได้ดีมากๆครับ
จากบางใหญ่ อาจอ้อมนิดหากไปรถ ประจำทาง นั่งไปลง เซ็นทรัลปิ่นเกล้ว รึ พาต้าปิ่นเกล้า ทั้งสองที่มีคิวรถตู้ ไปถึงแยกท่านา ลงตรงสี่แยก จะมีรถเมย์ต่อเข้าถึงวัดบางพระ หากมาครั้งแรกให้เน้นถามทางถามรถสายรถนะครับ กล้าถามทางดีกว่ากล้าหลงทาง

691
        กระผมมีน้องสาวคนหนึ่ง สวยด้วย งานการก็ดีพอควร ที่เห็นกับตาเลยนะครับเฉพาะหมึก เสือตัวใหญ่มากๆ หนุมาน ตัวเขื่องๆเลย  สักที่เขาอ้อ ส่วนน้ำมัน คงเป็นบัวบังใบ หลวงพี่ญาท่านเมตตา และ ฝั่งเข็มทองด้วย มาสาย บู๊ แบบไม่ดูหน้าตาเลย เอาเข้าไป 
        ที่เอ่ยมานี้ ก็เพราะหญิงชาย จะสักอะไรขึ้นอยู่กับใจและความเหมาะสมของ ครอบครัว ส่วนตัวผม ชอบ  18;สักหลังเต็มๆที่หลังอย่างเดียว ที่อื่น เน้นขาวๆไว้ เห้ยพอๆจะออกหื่อๆแล้ว 20; 20;

692
ผมไปแน่นอนหลังเลิกงานที่ประชาอุทิศ 17.30 น่าจะถึงประมาณ 20.00 น. ส่วน วันที่ 5 ผม คงไปถึง 15.00 .ครับ ไปแน่นอนครับ

693
    ไปหาอาจารย์มาท่านหนึ่งท่านเมตตา อยากรู้ว่า ชื่อรุ่นมงคลโชค ปี 39 และ ทันหลวงพ่อเปิ่นไหมครับ ขอรบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
                         
                         
ต้องขออภัยที่ภาพไม่ชัดครับ พี่โชวจ๋าน้องขอยืมกล้องหน่อยสิ

694
ได้ดูแล้ว น้องกวางมีของดีนะครับ สวยๆมากครับ เก็บดีๆนะ

696
จะพยายามทำให้ได้ทุกข้อนะครับ จะได้รวยๆ ขอบคุณครับ ที่นำข้อมูลดีๆมาให้อ่านนะ

697
ขอบคุณที่ช่วยกันให้ความรู้นะครับ

698
สวยงามมากๆครับ ขอบคุณที่นำภาพสวยๆมาให้ชมนะครับ

699
                   งั้นขอเป็น ทีมที่ 1. อาร์เซนอล (อังกฤษ) ตอนแรกอยากเลือกผีนะครับแต่ คงมีคนเชียร์หลายคน โดยเฉพา ท่านอชิตะ น้องหยก น้องลิงน้อย เอาแบบนี้ ถึงไม่ชอบ แต่ ได้ไม่ซ้ำใคร

700
สวยงามมากๆ ครับ ทั้งรอยสัก และ เครื่องราง ครับขอบคุณ สำหรับการเล่าประสบการณ์ดีๆ และนำภาพสวยๆมาให้ชมนะครับ

701
             
               วันนี้กระผมไป สำนักอาจารย์พล พยัคฆราชโดยการบอกเส้นทางของท่าน۞เณรน้อยเส้าหลิน۞ ต้องขอขอบคุณ ศิษย์พี่ด้วยไปถึงอย่างรวดเร็วไม่หลงครับ  ที่สำนักเป็นระเบียบมาก มีตู้ขายเครื่องราง มีความสงบดีครับ ผมไปรับบัตรคิวเป็นลำดับที่ 9 แล้วกระผมก็ไป นั่งรอที่จะสัก ก็ไปเจอแมวลักษณะดีตัวหนึ่ง แหมน่ารักอุ้มทีสิ มันกัดเลยครับ กัดแบบโกธรผมมาก ดุโคตรๆ (บ้านผม เรียก จ้าด สวก) แมวอะไรดุได้ใจมากๆ ผมสะบัดหลุด มันก็กระโดดเข้ามากัด แหมโหดร้ายไม่ดูขนาดเลยว่าสู้กับใคร  ผมใช้วิธี อันแสนชั่วร้ายที่สุดกับแมวตัวนี้ นั้นคือ ร้องให้พี่ๆ ที่สำนักช่วย "ช่วยด้วยครับ พี่แมวมันกัดครับไม่ยอมปล่อยด้วยครับ พี่ช่วยด้วยครับ "ได้ผลครับพี่ๆเค้ามาช่วยผมไว้ทัน ผมสังเกตุเห็นแมวมีตะกรุดด้วยแปลกแท้ ได้เวลาผมขึ้นไปสักกับอาจารย์พล ท่านอาจารย์จำผมได้ด้วย ขนาดเจอครั้งเดียวแล้วไม่เจอท่านอีกเป็นปี ผมดีใจมากๆเลยครับ แต่น้อยใจมากกว่า ที่ท่านไม่ให้ยันต์เสือหางด้วน ท่านบอกให้ไหว้ครูก่อนจึงจะสักให้ วันนี้ผมเลยได้ ยันต์ นะธรณี และ เป่าทองคนองฤทธิ์ มาครับ ท่านดูดุ แต่ป่าวเลยใจดีมากๆคุยดีสุภาพ เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจให้ฟังด้วย ผมเลยถามว่าทำไม แมวท่านทำไมจึงมีตะกรุด ท่านเล่าว่าที่ แมวใส่อยู่นั้นเป็นตะกรุดหัวใจเสือ (ไม่แปลกใจเลย) แมวตัวนี้ท่านได้มาวันเสาร์ที่ห้า ตอนทำพิธีอะไรสักอย่างเลยให้ชื่อเสาร์ห้า ท่านบอกสงสารมัน มันชอบโดน หมากัด คนแกล้ง เลยใส่ตะกรุดหัวใจเสือให้ ดุเลยครับ สมใจท่าน ท่านว่าเคยมีเกจิรูปหนึ่งทำตะกรุดให้หมาใส่โดยมีเหตุผลเหมือนกัน (จำไม่ได้ว่าพิธีอะไรและเกจิรูปนั้นชื่ออะไร ท่านเล่าตอนสักครับ เจ็บไปฟังไปครับ)
            ยังมีอีกตัวครับ อีกที่แมวต้องใส่ตะกร้อปากเลยครับ โหดพอๆกัน แบบมองหน้าไม่ได้ วิ่งมากัดเลย แมวอะไรโหดสุดๆ สมโดนใส่ตะกร้อปาก น่าจะถักเองจากเชือก แมวอีกตัวนี้ อยู่ที่สำนักวิมานทิพย์ ของอาจารย์แดงและอาจารย์เอครับ
            ยังมีอีกตัวนั้นคือ นกเขาครับ นกเขาของพระครูที่วัดร้องเข็ม จังหวัดแพร่ โหดมากมาย คงเชื่องกับท่านองค์เดียว แบบชนิดปล่อยออกจากกรงได้ไม่ไปไหน เราก็พวกรักสัตว์เข้าไป เล่นด้วย มันก็เลย ปักๆๆๆๆๆๆ ไล่จิกเฉยเลย ใครเข้าใกล้มันจิกหมด งงเลยครับ นี้ นกรึหมา ดุมาก
          พี่น้องชาวเว็บเคยเจอสัตว์เลี้ยงแสนโหดที่สำนักไหนบ้าง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย ไปจะได้ระวังไว้ครับ ส่วนตัวผมตัวเคยเจอมา 3 ที่ 3ตัว ครับกระผม

702
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ปีที่ 7
« เมื่อ: 20 เม.ย. 2552, 08:43:45 »
ขอรบกวนขอหมายกำหนดการด้วยครับ กระผมไปแน่นอน

703
             พระคุ้มครองนะครับ นี่ยังดีนะแค่กระโหลกร้าว หมอถลกหนังหัวเปิดดู เย็บก็แค่ครึ่งร้อยเข็มบุญนะนี้ แต่เก่งนะ รอดมาได้ไง งงเลย ท่านแน่ท่านสนธิหายเร็วๆนะ แซวๆกันนะ ยังไงก็ไทยเหมือนกันต่างอุดมการ แต่ไม่อยากเห็นไทยฆ่าไทยเลย

704
มาแบบเป็นคลังแสงเลยนะครับ ตะกรุดใหญ่ดีครับ ไม่รู้หนักเท่าไหร่

705
รับทราบครับพี่ศักดา พี่ไปกี่โมงเหรอครับพี่
ออกจากบ้าน 06.00 น. ครับ บ้านอยู่แถวบางพลัด ไม่รู้ว่าจะไปถึงกี่โมง

706
         
เรียนเชิญศิษยานุศิษย์ของอาจารย์ประโยชน์ดินแดงทุกท่าน

เข้าร่วมงานพิธีไหว้ครูประจำปี 2552 และ ครอบเศียรพ่อแก่ 

ในวันที่ 05/05/52 เวลา 09.09 น.

ณ. ที่บ้านอาจารย์ประโยชน์ แฟลตดินแดง ตึก 6 ชั้น2

จึงขออนุญาตเรียนประชาสัมพันธ์ให้ทราบ
                                                                                                                 

   ชลาพุชะ

707
           ตามอายุแล้วผม 31 ปี แต่หากเป็นการสักผมรุ่นเด็กมากๆครับ ผมสักครั้งแรกที่บางพระ วันพฤหัส 18/09/51 ขึ้น เก้ายอดกับหลวงพี่แป๋วครับ ดีใจที่ได้เข้ามาสู่ศาตร์นี้ที่บางพระครับ

708
ขอบคุณกับ ข้อมูลนี้ นะครับ

709
ขอบคุณที่นำภาพ อันแสนอบอุ่น มาให้ชมนะครับ

710
           อาการติดเข็ม บางท่าน เรียกเสี้ยนเข็ม เป็นอาการ ที่อยากจะสักเพิ่ม จะหาวันเวลาไปจนได้ ก็คงคล้ายเป็นจักรยานใหม่ๆนะท่าน ไม่ อันตรายเลย จะหยุดสักเมื่อไหร่ ก็ได้นี่ครับ อยู่ที่ใจชอบ
      การสักยันต์จะมากจะน้อย ขลังไม่ขลัง ขึ้นอยู่หลายองค์ประกอบนะครับ ได้ของดีมาจาก พระอาจารย์ อาจารย์ แล้วต้องที่ใจศรัทธา และการปฎิบัติตัว ให้อยู่ในคุณงามความดี ในศีลธรรม บางคนสักเต็มตัวไม่สวดมนต์ไหว้พระ ไม่ทำบุญทำแต่บาป เอาวิชาไปรังแกเค้า วิชาก็คงเสื่อมสักวัน บางคนสักยันต์เดียว ยิงไม่เข้าก็มี ต้องขึ้นอยู่กับตัวท่านนะครับ ว่าจะขลังไม่ขลังไม่ใช่จำนวนรอยสักครับครับ

711
ไม่ค่อยชัดเอามากๆครับนะครับ ช่วยติชมด้วย พระของป๊า ในตอนนี้ ฮิฮิ
                               
                               

712
เสียใจด้วยครับ ทำใจเลยครับท่าน

713
          ว่าแล้ว พี่ท่านหายไปไหน 2 วัน ไปเอาของดีไม่บอก เดี๋ยวนะ โดน น้องคนนี้ปล้นเอาง่ายๆนะ ขอบคุณสำหรับ ข้อมูล และ ภาพตะกรุดสวยๆนะครับ

714
ปืนสวยดี  18; ครับ ผมชอบลูกซองมากนะครับ น่ากลัวดี ที่ผมชอบมากคือผมยิงแม่น ไม่แม่นเอาลูกออกเยอะไว้ก่อน   20; 20; 20;

715
ถามนิดนึงครับ ถ้าผมไปสักมาเมื่อวันศุกร์ แล้ววันนี้ผมจะไปเล่น fitness (ซึ่งมันจะมีเหงื่อออกมา) ผมควรจะต้องผ้าอะไรก็ตามแต่มาปิดบริเวณรอยสักเพื่อไม่ให้บริเวณนั้นโดนเหงื่อมั๊ยครับ
เหงื่อนี่โดนได้ครับ อาจ จะ แสบๆ คันๆ แต่ต้องห้ามเกานะครับ อาบน้ำล้างน้ำ ธรรมดาก็พอ ประมาณวันอังคารก็อาบน้ำถูสบู่ได้แล้ว นะครับท่าน

716
อยากรู้อะครับว่าปั้นเหน่งคืออะไร
รบกวนผู้รู้ด้วย เด็กน้อยสงสัย

ปั้นเหน่ง

คำแปล2

(ชว. ปันดิง) น. เครื่องประดับเอว ถือเป็นอาภรณ์อย่างหนึ่ง ที่มีหัวโลหะฉลุลวดลายงดงาม ประดับของมีค่า มีสายคาดประดับไว้ที่เอว ทำให้ เห็นว่าเป็นเข็มขัด จึงแปลกันว่า เข็มขัด แต่ถ้า พิเคราะห์ให้ชัด คำว่า เข็มขัด กับ คำว่าเครื่องประดับเอวที่ใช้เป็นอาภรณ์นั้นมีนัยต่างกัน ใน บทถ้าชมปั้นเหน่ง ก็มักชมหัวที่เป็นโลหะฉลุเป็น ส่วนใหญ่.


มันไม่ได้แปลว่ากระโหลกส่วนหน้าผากนะครับ
  ถ้าตามศัพท์

ขำๆนะครับ คงไม่มีใครทำบุญ ให้เข็มขัดหรอกครับล่อเล่นนะครับ
หากแปลตรงๆนั้น ถูกต้องที่สุด แต่ ปั้นเหน่งที่ ท่านเจ้าของกระทู้ ถามมา คงประมาณที่ตอบกัน ลำดับก่อนหน้านี้ ครับ

717
สวยๆทั้งนั้นเลย

718
          ปั้นเหน่งคือกระดูกหน้าผาก ส่วนใหญ่จะเอาของผู้หญิงตายทั้งกลม มาเสก เพื่อเอา ผี ไว้ใช้งาน เป็นทางเสน่ห์ครับ เสน่ห์ทางต่ำให้ลุ่มหลง ไม่ได้ มีความรัก มีแต่ความใคร่ ฝักใฝ่ในกาม รูปร่าง ตามความคิดผม เป็นของไม่ดี ครับ
          ก็คิดดูนะครับ คนตายไปแล้ว ยังไปรบกวนตอนเป็นผีอีก นี่คงจะดีนะครับ(ประชด) ก็มีคนบอกตายคือใช้หมดกรรมในชาตินี้ แล้ว ผี คงต้องการอิสรภาพ ไปเกิดใหม่ ไปสู่ที่ชอบ นี่เอา ผี มากักขังใช้งานไม่ว่ายังไง ผีต้องทำทุกอย่างเพื่อหลุดพ้น อยากทำให้เจ้าของเกิดวิบัติก็ได้ อาจเอาเจ้าของเป็นตัวตายตัวแทนก็ได้นะครับ อย่าไปรบกวนผีจะดีกว่าครัย สายพระก็สุดยอดครับ

719
มีของดี คุ้มกาย ไม่ถึงที่ตาย ต่อให้โดน M203 รึ ปืน 105 mm. ก็ไม่ตาย ครับ
                           
                          หากถึงที่ตาย อมพระอะไรก็ตาย กระผมเชื่อในเรื่องนี้ครับท่าน

        
               คนเราต้องตายทุกคน กระผมมีความต้องการหากตายแล้วมีคน คิดถึง คิดถึงในความดีของกระผมที่ทำ ไม่อยากตายแล้ว มีแต่คนว่าน่าจะตายตั้งนานแล้ว ตายเสียได้ก็ดีแผ่นดินจะได้สูงขึ้น จึงจะทำดีให้มากที่สุดก่อนตาย ไม่ใช่เพื่ออะไร เพื่อตัวผมเอง (แต่ตอนนี้ยังไม่อยากตาย ภรรยายังสวยน่ารักอยู่ น่ารักในสายตาผม นะครับ)

720
พระอาจารย์ อาจารย์ ให้ของดีมาเต็ม แบบไม่ยั้ง ก็ขอให้รักษา ของดีที่ ทุกท่านให้มา เป็น การ กตัญญู กตเวที ท่านแบบหนึ่งนะครับ

721
ข้อมูลดีๆน่าอ่านมากๆครับ ขอบคุณมาก

722
ยินดีด้วยกับของดีในตัวท่าน นำรูปมาลงให้ชมบ้างก็ดีนะครับ

723
      สักยันต์ครู เก้ายอดไว้ก่อนก็ดีนะครับ พุทธคุณ เมตตา หน้าที่การงาน โชคลาภ มีท่านหนึ่งเคยบอกกับผม ว่าสักยันต์อะไร จะได้ รอดพ้นคดีความ ท่านตอบมาว่า ยันต์ที่เป็นตาราง จะได้แก้แคล็ด ผมถามว่า แล้วยันต์ อะไร นึกไม่ ออก ท่านว่า เก้ายอดไง ความเชื่อส่วน ตัวครับ รอดมาได้อย่างปาฏิหารย์ครับ แต่หากทางเสน่ห์ (สาว สาว)จูงนางเลยท่าน หลวงพี่ตูน ผมก็หาโอกาสไปสักอยู่

724
อาจยาวไปนิดนะครับ แต่น่าศึกษา ครับ
                                                         
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิอโศกมหาราช (เทวนาครี: अशोकः, อังกฤษ: Ashoka the great - พ.ศ. 240 - พ.ศ. 312 ครองราชย์ พ.ศ. 270 - พ.ศ. 311) ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมริยะผู้ปรีชาสามารถพระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ ทรงปกครองแคว้นมคธ มีพระราชธานีชื่อว่า ปาฏลีบุตร (ปัจจุบันเรียกว่า ปัฏนะ Patna) ทรงเป็นพระโอรสของพระเจ้าพินทุสารแห่งราชวงศ์โมริยะ พระมารดานามว่าศิริธรรม พระเจ้าอโศกมีพระโอรส และธิดา 11 พระองค์
         สมเด็จพระมหาจักรพรรดิอโศกมหาราช หรือพระเจ้าอโศกมหาราช เดิมเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่โหดร้าย ชอบการทำสงครามกับแว่นแคว้นต่าง ๆ จนได้รับสมญานามว่า พระเจ้าอโศกผู้โหดเหี้ยม (จัณฑาโศกราช) แต่หลังจากที่พระองค์หันมานับถือพระพุทธศาสนา พระองค์ก็ทรงกลายเป็นองค์เอกอัครพุทธศาสนูปถัมภก์ ผู้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองและแผ่ขยายมากที่สุดในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา และจากพระราชกรณียกิจมากมายนานัปการที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญด้วยทศพิธราชธรรมอย่างแท้จริง ทำให้ภายหลังทรงได้รับการขนานพระราชสมัญญานามว่า ธรรมาโศกราช (พระเจ้าอโศกผู้ทรงธรรม)
เนื้อหา
1 พระเจ้าอโศกมหาราช กับพระพุทธศาสนา
2 ดำเนินรัฐศาสนโยบาย
3 อัครศาสนูปถัมภก
4 ทรงเป็นหนึ่งใน 6 ในอัครมหาบุรุษ
4.1 คุณธรรมที่ควรเป็นแบบอย่าง
4.2 บุรพกรรมของพระเจ้าอโศกมหาราช
5 อ้างอิง
                                         
พระเจ้าอโศกมหาราช กับพระพุทธศาสนา
ก่อนที่จะเปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนา มีความดุร้ายและโหดเหี้ยมเป็นอย่างยิ่ง จนได้รับฉายาว่า จัณฑาโศก แปลว่าอโศกผู้ดุร้าย ต่อมาเมื่อไปรบที่แคว้นกาลิงคะ (ปัจจุบันอยู่รัฐโอริสสา)มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จึงเกิดความสลดสังเวชในบาปกรรม และตั้งใจแสวงหาสัจธรรมและพบนิโครธสามเณรที่มีกิริยามารยาทสงบเรียบร้อย จึงทรงนิมนต์พระนิโครธโปรดแสดงธรรม พระนิโครธก็แสดงธรรม จึงมีความเลื่อมใสในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ต่อมาได้ฟังพระธรรมจากพระสมุทระทรงส่งกระแสจิตตามพระธรรมเทศนาจนบรรลุพระโสดาบัน พระองค์ทรงทำนุบำรุงพุทธศาสนา เช่น ทรงสร้างวัด วิหาร พระสถูป พระเจดีย์ หลักศิลาจารึก มหาวิทยาลัยนาลันทา ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่ทรงผนวชขณะที่ยังทรงครองราชย์อยู่ และเลิกการแผ่อำนาจในการปกครอง มาใช้หลักพุทธธรรม(ธรรมราชา)ปกครอง นอกจากนี้พระเจ้าอโศกมหาราชยังทรงส่งสมณะทูตไปเผยแพร่ศาสนา โดยแบ่งเป็น 9 สาย สายที่ 8 มาเผยแพร่ที่ สุวรรณภูมิ โดยพระโสณะและพระอุตระเป็นสมณะทูต และพระองค์เป็นผู้จัดการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่3 ณ วัดอโศการาม เมืองปาฏลีบุตร

ต่อมาก็ทรงโปรดเกล้าให้สร้างบ่อน้ำ ที่พักคนเดินทาง โรงพยาบาล และปลูกต้นไม้ เพื่อจัดสาธารณูปโภคและสาธารณ ตามหลักพุทธธรรม ต่อจากนั้นก็เสด็จไปพบสังเวชนียสถาน4แห่ง เป็นผู้แรก และทรงสถาปนาให้เป็นเป็นสถานที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนในเวลาต่อมา นับว่าพระองค์เป็นอัครศาสนูปถัมภ์พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง และต่อมาพระองค์ทรงได้สมญานามว่า ธรรมมาอโศก แปลว่า อโศกผู้ทรงธรรม ทรงครองราชย์ได้43ปี
                                                   

ดำเนินรัฐศาสนโยบาย
 จักรวรรดิโมริยะช่วงรุ่งเรืองที่สุดประมาณ พ.ศ. 278ด้วยทรงถือหลักธรรมวิชัยปกครองแผ่นดินโดยธรรม ยึดเอาประโยชน์สุขของพสกนิกรของพระองค์เป็นที่ตั้ง ทรงส่งเสริมสารธารณูปการ และประชาสงเคราะห์ ทรงทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมในชมพูทวีปอย่างกว้างขวาง ได้เป็นบ่อเกิดอารยธรรมที่มั่งคงไพศาล อนุชนได้เรียกขานพระนามของพระองค์ด้วยความเคารพเทอดทูน ยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์หลายองค์ที่พิชิตนานาประเทศด้วยสงคราม แม้พระนามของพระองค์ก็ปรากฏอยู่ถึงปัจจุบัน
อัครศาสนูปถัมภก
พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ในชมพูทวีป ทรงเป็นพระอัครศาสนูปถัมภกทั้งฝ่ายมหายาน และฝ่ายเถรวาท ตามพระราชประวัติในคัมภีร์อโศกาวทาน ของฝ่ายมหายาน ใน อรรถกถาสมันตปาสาทิกา คัมภีร์ทีปวงศ์ และคัมภีร์มหาวงศ์ ของฝ่ายเถรวาท และทรงอุปถัมภ์ผู้ที่นักถือศาสนาเชน โดยการถวายถ้ำหลายแห่ง ให้แก่เชนศาสนิกชน เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา
ทรงเป็นหนึ่งใน 6 ในอัครมหาบุรุษ
เอช. จี. เวลส์ (H.G.Wells) นักประวัติศาสตร์คนสำคัญในตะวันตกก็ยกย่องพระเจ้าอโศกมหาราช ว่าทรงเป็นอัครมหาบุรุษท่านหนึ่ง ใน 6 อัครมหาบุรษแห่งประวัติศาสตร์โลก คือ พระพุทธเจ้า โสเครติส อริสโตเติล โรเจอร์ เบคอน และอับราฮัม ลิงคอล์น
คุณธรรมที่ควรเป็นแบบอย่าง
ทรงมีปัญญาเป็นเลิศ ได้ฟังธรรมจากพระสมุทระส่งพระกระแสจิตตามพระธรรมเทศนาจนบรรลุพระโสดาบัน
เป็นผู้มีความรับผิดชอบสูง เมื่อพระอลัชชี คือพวกนอกศาสนาปลอมตัวเป็นพระมาทำลายศาสนา พระองค์ทรงส่งอำมาตย์ไปไกล่เกลี่ยแต่อำมาตย์ฆ่าพระโดยโทสะ พระองค์ทรงยอมรับผิดแต่โดยดี แม้จะไม่ได้ทำ ทรงรับผิดชอบโดยการชำระสังฆมณฑลให้ขาวรอบ
ทรงนับถือศาสนาพุทธ แต่มิได้เบียดเบียนศาสนาอื่น กลับสนับสนุนอีก แม้มิได้นับถือ เช่น ทรงอุทิศถ้ำอชันตาให้แก่พวกนักบวชศาสนาเชนดั่งคำหลักศิลาจารึกที่13ว่า " การเหยีดหยามศาสนาอื่น มิได้ทำให้ศาสนาของตนดีเลย กลับแย่ลงเสียอีก"
ทรงมีพระทัยอันกว้างใหญ่ เช่น ทรงอนุญาตให้ พระมหินท และพระสังฆมิตตา อุปสมบทได้ ทั้งสองทำวิปัสสนาด้วยความเพียรจนบรรลุอรหัตตผล และเป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนา ควรถือเป็นแบบอย่าง
ทรงปกครองบ้านเมืองโดยเป็นธรรม โดยใช้หลักพรหมวิหารธรรม4 ไม่ขาดและไม่ทำลาย เป็นตัวอย่างแก่ผู้นำบริษัทและเจ้าขุนมูลนายทั้งสมัยโบราณกาลและสมัยปัจจุบันอย่างยิ่ง
เป็นมหาราชในอุดมคติ พระองค์ทรงใช้ หลัก"ธรรมราชา"คือการปกครองบ้านเมืองโดยธรรม เป็นหลักการปกครอง พระมหากษัตริย์ต่างเมืองต่างประเทศทั้งสมัยอดีตจนสมัยปัจจุบัน ได้กระทำตามจนบ้านเมืองของตนเจริญรุ่งเรือง
ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างมากมาย เช่น
หัวเสารูปสิงห์ 4 ทิศ รัฐบาลอินเดีย นำมาใช้เป็นตราราชการแผ่นดิน
ทรงเป็นอัครศาสนาณูปถัมภ์ การสังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งที่ 3 ณ วัดอโศการาม เมืองปาฏลีบุตร ใช้เวลาสอบสวนสะสางสำเร็จภายใน 9 เดือน
ทรงส่งสมณทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งประเทศอินเดีย และนอกประเทศอินเดีย
ทรงสร้างวัดทั้ง 84000 วัดและพระสถูปทั่วชมพูทวีป ทั้ง 84000 องค์ ตามจำนวนพระธรรมขันธ์ และทรงให้จารึกธรรมะที่เป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา คือ อริยสัจ 4 และหลักธรรมวิชัย คือการชนะจิตใจคนด้วยพระธรรม ฯลฯ
ทรงชำระสังฆมณฑล โดยจับพระปลอมจับสึกจำนวน 60000 รูป
ทรงค้นพบสังเวชนียสถาน 4 ตำบล และประดิษฐานด้วยเงิน 100000 กหาปณะ
ทรงปักหลักเสาศิลาจารึก ณ พุทธสถานที่สำคัญ ทำให้นักโบราณคดีค้นพบพุทธสถานมากมาย หัวเสาอโศกเป็นรูปสิงห์4ตัวหันหลังชนกัน ซึ่ง ต่อมาเป็นตราแผ่นดินประจำประเทศอินเดีย
ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้าง โรงพยาบาล ขุดสระน้ำ ปลูกต้นไม้ ที่พักคนเดินทาง เป็นต้น
ทำนุบำรุงพระสงฆ์อย่างยิ่งใหญ่ เช่นสร้างวัด และวิหาร ถวายพระสงฆ์ เพื่อเป็นที่ศึกษาพระธรรมวินัย
ทรงประดิษฐานจารึกอโศก ทั่วแคว้นหลายแคว้น จารึกเกี่ยวกับหลักธรรมะที่ทรงสั่งสอนประชาชนและข้าราชการ พระราชกรณียกิจของพระองค์ หลักการปกครอง และหลักการบริหารประเทศชาติ เป็นต้น
ทรงใช้หลัก "ธรรมราชา" เป็นหลักนโยบายในการปกครอง พระมหากษัตริย์ทั่วเมืองทั่วประเทศทั้งสมัยอดีตจนสมัยปัจจุบัน ได้กระทำตามจนบ้านเมืองของตนเจริญรุ่งเรือง
ทรงศึกษาและประพฤติปฏิบัติธรรมะอย่างเคร่งครัด
ทรงประกาศห้ามฆ่าสัตว์โดยไม่สมควร
ทรงประกาศเลิกการชุนนุมเพื่อความบันเทิง ให้มาปฏิบัติกิจกรรมทางธรรมและกิจกรรมที่มีสาระแทน เช่นทรงสั่งสอนให้ประชาชนปฏิบัติธรรมทรงเสด็จเยี่ยมเยียน ประชาชน ทั้งชาวเมือง และชาวชนบท และทรงเสด็จไปนมัสการพุทธสถานที่สำคัญ
ทรงบริจาคทรัพย์ ให้ในการช่วยเหลือและ นวกรรม คือการก่อสร้างหลายสิ่งหลายอย่าง ให้ประชาชน และทรงเน้นเรื่องธรรมทาน คือการแนะนำสั่งสอนธรรมะ คือ การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ให้แก่ประชาชน
ทรงแนะนำให้ประชาชนประพฤติปฏิบัติธรรม และทรงส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดี เช่น ลูกต้องเชื่อฟังบิดา มารดา ลูกศิษย์ ต้องเชื่อฟัง อาจารย์ ปฏิบัติต่อคนรับใช้อย่างดี เป็นต้น
ทรงให้เสรีในการนับถือศาสนาแก่ประชาชน
                                                  
พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอโศกมหาราช ในประเทศไทย บุรพกรรมของพระเจ้าอโศกมหาราช
กล่าวว่าด้วยเหตุอันที่พระเจ้าอโศกเป็นใหญ่ในชมพูทวีป เพราะได้เคยถวายน้ำผึ้งแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า
กล่าวว่าด้วยเหตุอันที่พระเจ้าอโศกผูกพันกับนิโครธสามเณรเมื่อแรกพบ เพราะเมื่อชาติอดีตที่เป็นพ่อค้าขายน้ำผึ้ง เป็นพี่น้องกัน รวมทั้งพระเจ้าเทวานัมปิยะติสสะ ที่ลังกาทวีป
บทสรุป
พระเจ้าอโศกมหาราช
พระปรมาภิไธย เทวานัมปิยติสสะ ปิยทัสสี
พระอิสริยยศ พระมหาจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมริยะ
ราชวงศ์ ราชวงศ์โมริยะ
ครองราชย์ พ.ศ. 270 - พ.ศ. 311
ระยะครองราชย์ 41 ปี
รัชกาลก่อนหน้า พระเจ้าพินทุสาร
รัชกาลถัดไป พระเจ้าทสารถ เมารยะ
ข้อมูลส่วนพระองค์
สวรรคต พ.ศ. 311
พระราชบิดา พระเจ้าพินทุสาร
พระราชมารดา พระนางศิริธรรมาอัครมเหสี
พระมเหสี พระนางเวทีสาคีรี
พระราชโอรส/ธิดา 2 พระองค์
คัดลอกมาจาก : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A

725
อยากได้ อยากได้ เจ้ย อยากได้อยากได๋(ฮิฮิ ใช้มุข แหยมยโสธร จะโดน เรื่อง ลิขสิทธิ์ไหมนี่)

726

ดีใจที่มีบุคคลที่เป็นตัวอย่างดีๆอย่างท่านผู้การนะครับ

727
ได้อ่านข้อมูลดีๆอีกแล้ว ขอบคุณ ท่าน โอม มากครับ

728
มาแต่ละรูป น่ากลัวทั้งนั้น น่ากลัวแบบบอกไม่ถูกเลย อย่างที่ท่านเจ้าของกระทู้ว่า(โปรดใช่วิจรณญาณในการรับชม)

เพื่อนพี่ที่มีเขี้ยว..อยู่แถวสาย 4 ซำบายดีปะน้องท่าน... อยากไปหาเหรอ... 5555
ถามถึง แต่ไม่ไปหา พี่ท่าน คนนี้ ผมขอนะ สงสารเข้า ปล่อยเค้าไป ได้ดีเถิดพี่ท่าน
ว่าแต่ ยันต์บางผืน นี่น่ากลัว มากๆ กลัว ไม่เหมาะสมกับเว็บ นี้เลย

729
มาแต่ละรูป น่ากลัวทั้งนั้น น่ากลัวแบบบอกไม่ถูกเลย อย่างที่ท่านเจ้าของกระทู้ว่า(โปรดใช่วิจรณญาณในการรับชม)

730
ขอบคุณครับของผมวาสลีนลูกเดียว !!!!!!!!
แต่ผมสงสัยครับที่ว่าให้ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ
นี่มันจะไม่เป็นปรวด หรือครับ เพราะว่าหลังจากสัก
แล้วเค้าห้ามโดนสบู่เป็นเวลา 3-7 วันอ่าครับ
         
ใช่ครับ ได้รับการสั่งสอนจะจากพระอาจารย์ และอาจารย์ ทุกท่าน ห้ามโดนสบู่ 3-4 วัน (หากโดนได้ผมคงสักได้บ่อยๆ เพราะห้ามโดนสบู่อาบแต่น้ำเปล่า ตัวเลยเหม็นมากๆ) [/size]

เท่าที่ผมทราบมา สบู่เดทตอล ครับ ทาบางๆ หรือลูบไปแค่ทีเดียวก็พอ ครับ   :005:

ไม่ได้กวนนะครับ แต่กลัวหลายท่านพลาด เดทตอล นี่แรงมากเลย เป็นสบู่ฆ่าเชื่อทำความสะอาดได้ดีมากก็จริง คุณสมบัติเป็นด่างมากๆ รับประกันเลยครับ หาโดนเพียงน้อย แค่ฟองสบู่ อักเสบแน่ๆครับ ท่าน[อๅ-มิส-ตๅ-พุท] เคยสักยันต์แล้วเอาเดทตอลลูบรึครับ สักยันต์นะครับ ถึงผมมากสักไม่นาน แต่สบู่นี่น่ากลัวมากๆ เพื่อนผมสักที่หัวไหล่ โดนแค่ฟอง ไปหาหมอรักษา เป็นเดือน ส่วนรอยสักถูกลอกออกไปครับ (ขูดออก)น่ากลัวมากๆ ท่าน[อๅ-มิส-ตๅ-พุท] เคยสักยันต์แล้วเอาเดทตอลลูบรึครับ สักยันต์นะครับ

731
ยินดีรับข้อมูลนี้ครับ เสียดายที่ช่วงนี้ไม่ได้ฟังวิทยุ หาก ออนไซค์เมื่อไหร่ ผมฟังแน่

732
สุดยอดเลยครับ นับถือ

733
ขอบคุณภาพสวยๆ ในบรรยากาศวันสงกราตน์ที่วัดบางพระนะครับท่าน

734
นมัสการ หลวงปู่ผางครับ

736
        ว้าวๆๆ สวยมากครับๆ
***สอบถามนิดนึงครับ กระผมอยากรู้ว่าหลวงพี่ตูน ปกติท่าน ไม่จำวัดที่บางพระ รึครับผมไปหลายครั้ง ช่วงต้นเดือน หลวงพี่ญาท่านบอกชื่อวัดมา หากจำไม่ผิด วัดปรีดาราม ใช่ไหมครับไม่ได้จำได้แต่อยู่แถว เยาวราช (บอกตอนสักเลยครับ ...ตึกๆๆๆ...เจ็บอยู่) กระผมศรัทธาหลวงพี่ตูนมากเลย ว่าจะขอยันต์ตามที่จะของกระทู้ลงไว้เลยครับ ขอบคุณท่านack01 กระผมได้แนวทางแล้วครับ

737
ขอบคุณครับของผมวาสลีนลูกเดียว !!!!!!!!
แต่ผมสงสัยครับที่ว่าให้ล้างด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ
นี่มันจะไม่เป็นปรวด หรือครับ เพราะว่าหลังจากสัก
แล้วเค้าห้ามโดนสบู่เป็นเวลา 3-7 วันอ่าครับ
         
ใช่ครับ ได้รับการสั่งสอนจะจากพระอาจารย์ และอาจารย์ ทุกท่าน ห้ามโดนสบู่ 3-4 วัน (หากโดนได้ผมคงสักได้บ่อยๆ เพราะห้ามโดนสบู่อาบแต่น้ำเปล่า ตัวเลยเหม็นมากๆ) [/size]

739
ขอบคุณที่ได้อ่านข้อความดี ผี ที่ท่านเจ้าของกระทู้กล่าวถึงว่า คงเป็น ผีบ้านผีเรือน เจ้าป่าเจ้าเขา ผีบรรพบุรุษ นะท่าน ไม่ใช่ ผี ที่ไหน กลัวบางท่านจะตีความหมาย ผี ในข้อมูลนี้ผิด

740
ขอจงทรงพระเจริญ

742
:016: ..เห็นแล้วต้องยกนิ้วให้พี่แกเลยค่ะ..รอยเก่ายังเขียวอยู่เอารอยใหม่มาอีก..สงสัยพี่แกจะเร่งทำยอดค่ะ.. :077:

เจ็บแบบมีความสุขจริง ๆ พุทธคุณล้นเหลือ..ว่าแต่เมื่อไหร่พี่ชลาฯ จะโชว์หลังเขียวบ้างล่ะคะพี่.. :003:

              กระผมนับถือความอดทนท่านซัมซุงมากเลย แต่ งงที่เค้าไม่ได้คุยกับใครเป็นเดือนๆนี่ทนได้ไง เป็น ชลาพุชะ อกแตกตาย
           
ก็ท่านโชว ถ่ายให้ทั้งที ปกติกล้องผมโคตรห่วยถ่ายก็ดูไม่ได้เลย แต่เจอกล้องเจ๊โชวเข้าไปตกใจเลยครับ พระอาจารย์ทุกท่าน กับอาจารย์ ทุกท่าน เมตตาผมมากเลยครับ

743
ครับพี่ศักดา ตอนนี้ผมสึกออกมานานแล้วพี่
ขอบคุณพี่ที่ให้ความรู้ ผมยังต้องศึกษาอีกเยอะ บ้างเรื่องผมก็พูดไปตามความคิดผม อิอิ ผิดบ้างถูกบ้าง ผสมๆกันไปอ่ะครับ

ท่านสิครับ ความรู้เยอะกว่าผมมากมาย ท่านผ่านกราบวชมาแล้ว ผมยังเลย ผมต้องขอความรู้จากท่านครับ 05/05/52 อย่าลืมไปนะครับ ผมอยากเจอท่านมาก

744
ของดีคู่ คนดีครับ ของมีค่าก็อยู่กับคนรู้ค่าครับ สวยงามครับ

745
ของสวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ

746
มาแต่ละทีนี้แรงโคตรๆ น่านับถือท่านจริงๆหาข้อมูลมานี่สุดๆ

747
ท่านครับ พื้นฐานท่านดีมากเลย บ้านท่าน เป็นแหล่งความรู้ที่ดีมากๆ ผมล่ะชอบมากครับ

748
ชอบพี่ๆ  น้องๆ ในบอรด์นี่จัง เวลาถามแล้วได้คำตอบรู้สึกดีขึ้นมากๆเลยครับ  :017:

สรุปคือหมั่น สวดมนต์ ไว้พระ ทำดี..ดีที่สุดแล้วนะครับ
      ถูกต้องแล้วครับ ช่วย รักษาศีล 5 เท่าที่ทำได้นะครับ เสริมบารมีให้ท่านด้วยนะครับ ของดีในตัวท่านจะได้เป็นของดีและมีพุทธคุณยิ่งๆขึ้นไปครับ

749
ฝันดีนะครับ ฝันดีจริงๆ

750
เปิดตัวหลังสงกรานต์ได้สมกับเป็นท่านจริงๆ ผมขอตอบทั้ง 3 ข้ออย่างมั่นใจเลยว่า  ไม่ทราบครับ อดเลย    23;

751
ข้อมูลน่าอ่าน ภาพตัดต่อ-ตกแต่งนารีผลได้ดีครับ เหมือนจริงๆ

752
ดูที่แรกนึกว่าพิพิธภัณฑ์พระ เสียอีก สุดยอดเลยครับ

753
เจ้าต้นสนนี่กระไร ที่ขึ้นตั้งเยอะไม่ขึ้น แหมๆชะๆโดนตัดซะเลย แปลกดีครับ

754
        ตอบลำบากมากเลยท่าน ขออนุญาติเปรียบเทียบเพื่อความเข้าใจนะครับ เมื่อเปรียบเทียบของในตัวท่านเหมือน มีดคมๆ หากใช้ถูกทางก็คมไปอีกนานหากไปทำให้ทื่อไม่คม (ลอดราวตากผ้า โดนข้าม โดนประจำเดือน อย่างไม่ตั้งใจ) ก็ไปลับให้คมดังเดิมได้นี้ท่าน (โดยการไปไหว้ครู ให้ครูบาอาจารย์เป่าใหม่) แต่หากมันหักไป (เป็นชู้ อย่างตั้งใจ ด่าพ่อแม่เค้าอย่างรุนแรง) ก็ไม่มีวันกลับคืนมาได้ครับท่าน

755
     กระผมไปสักที่วัดบางพระ ช่วงมีนาคม-เมษายน 2552 เจอ ผู้ชายชาวต่างชาติ น่าจะเป็นเกาหลี รึ ใต้หวั่น ไม่แน่ใจพูดไทยไม่ได้ อังกฤษก็ไม่ได้(กระผมก็ไม่ได้)ได้ข่าวมาเป็นเดือนแล้ว ไม่รู้ตอนมาขาวแค่ไหน ขอให้ท่านโชว ช่วยถ่าย ท่านก็ล่อซะ แหมทำหน้าที่ดีมากๆเลย เอๆยังไงถ่ายไปตาหวานไป ไม่รู้ ชาวต่างชาติคนนี้ จะหลงเสน่ห์ เจ้าแม่สายเสน่ห์ ของเราไหมนี่  เชิญชมนะครับ สุดยอดจริงๆ








   ที่นี้ตาผมอยากโชว์ครับ อาจจะยังไม่เต็มเชิญชมครับ

ผมกับน้องตะกรุดลูบฆ้องอันใหญ่ ผมลูบจนดัง ก่อนลูบน้องตะกรุดให้อธิฐาน แล้ว ไม่ให้บอกใคร ก่อนที่จะสมหวัง บัดนี้บอกได้แล้ว ศักดิ์สิทธิ์มากครับ สิ่งที่ผมขอ คือได้กลับมาอยู่กับภรรยาที่กรุงเทพฯ

756
ได้ฟังแล้วรู้สึก น่าอัจรรย์ยิ่งแล้วท่าน ท่านนี้สุดยอดขนาดเข็มสักที่เป็นของสูง(ผ่านพิธีกรรม มามากมาย)ยังแทงท่านไม่เข้า คงมองได้หลายมุมนะครับ ท่านก็ทำตามท่านเชื่อนะดีที่สุด สักกับอาจารย์ที่ท่านเคยสักท่านเดียว

757
ผมก็ว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันนะครับ การลงไปนอนในโลงเป็นการสะเดาะเคราะห์เหมือนกับบังสกุลเป็นบังสกุลตายนั่นแหละครับ คล้ายๆจะหลอกผู้ที่จะมาเอาชีวิต เอาเคราะห์มาให้นั้นงงๆ
ว่าคนชื่อนี้ได้ตายไปแล้วนะ ไม่ต้องมาเอาชีวิตไปหรอก อย่ามาทำอะไรเลย เรามีชีวิตใหม่แล้วนะ
ด้วยความเคารพ(หากพลวงพี่ยัง บวชอยู่ ขอ นมัสการ ครับ ) ท่าน tum72 ผมว่าไม่มีใครหลอก ผู้ที่มาเอาชีวิต(เจ้ากรรม นายเวร)ได้หรอกท่าน กรรมใดใครก่อกรรมนั้นต้องตามสนอง การนอนเรื่องมีความใกล้เคียงกับ บังสกุลเป็น-ตาย แต่ขั้นตอนวิธีการมีมากขึ้น คงเป็นพิธีที่ทำให้ผู้ร่วมพิธีสบายใจขึ้น แต่ หลังจากร่วมพิธีแล้ว ทำกรรมดี ก็คงผ่อน เคราะห์กรรม จาก หนักเป็นเบา แต่หากหลังร่วมพิธีแล้ว ยังคงก่อกรรมเลว ที่นี้ต่อให้ไปร่วมพิธีอะไรก็คงช่วยไม่ได้นะครับ
           ส่วนการสักยันต์เป็นการเอาของดีที่เราเคารพ ศรัทธา มาติดตัวไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับพิธีนี้นะครับ

758
ส่วนที่ผมปฏิบัติอยู่ครับ เช้าทาวาสลีน ทั่วทุกจุดที่สัก ส่วนก่อนนอนแป้งตรางูครับ ผมทำมาก็ไม่มีอะไร ท่านลองดูนะครับ

759
ครับ ดีครับ บรรยากาศ อบอุ่นแบบไทยพื้นบ้าน ผมนะชอบมากๆเลย

760
            การสักสามารถ สักได้หลายๆสำนักนะครับ ไม่น่าจะผิดอะไรนะครับ ตามความคิดกระผมจะมี ข้อดี และ ข้อเสีย นะครับ
ข้อดี
**แต่ละแห่งแต่ละสำนักแต่ละกุฏิ จะมีวิชาเอกไม่เหมือนกัน พุทธคุณก็ไม่เหมือนกัน หากท่านเป็นศิษย์หลายๆสำนักแล้วนำของดีของแต่ละสำนักมา   ประยุกต์ให้เข้ากับตัวเองได้ นี่สุดแสนวิเศษ
**ได้มีสังคมที่กว้างขึ้นนะท่าน ศิษย์ร่วมสำนัก ผมก็ว่าสำคัญนะท่าน กระผมคิดว่า ความเป็นพี่น้องร่วมสำนักเป็นสำคัญ รอง จาก พ่อแม่และครูบาอาจารย์
**ท่านอาจได้สักหลายๆรอยสักภายในวันเดียว ผมใช้บ่อยครับ หากมุ่งไปกุฏิเดียว ไม่ได้เยอะเท่าวนหลายกุฏิ ผมคนบ้านไกล ทำงานประเภทหยุดโดนหักหลายเท่ากว่าที่ทำ จะมาทั้งทีต้องเยอะๆครับ วางแผนไปเป็นสายเลย เสร็จกุฏินี่ ต่อกุฏินั้น ครบทุกกุฏิแล้ว ไปสำนัก อื่นๆ ต้องทนเจ็บให้ได้
ข้อเสีย
**คงหนีไม่พ้น ความเข็มของหมึก การจัดวาง ส่วนผมขอแนะนำว่าให้แบ่งเป็นพื้นที่ ครับ ด้านหน้า ด้านหลัง ต้นขา แขนแล้วแต่ท่านชอบ กระผมก็ใช้วิธีแบ่งส่วนครับ
**การไหว้ครู บางสำนักเป็นวันที่ตรงกัน ที่นี่ศิษย์ล่ะครับต้องเลือกไป หากสักหลายที่ อยากไปให้ครบ ต้องเป็นนักเดินทางครับ
  กระผมความรู้น้อยแต่อยากแสดงความคิดเห็นหากมีสิ่งใดที่ไม่ถูกต้อง ขออภัยด้วยครับ

761
โชคดีไม่มีแฟนอิอิ
ขอให้เป็นจริงดัง ว่า เทิด สาธุ

762
สวยมากๆเลยครับ ว้าว สภาพจับจับเลยครับ

763
แปลกดีครับ

764
ขอเพิ่มข้อมูลนิดหน่อยครับ
        วัดน้ำฮู ที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกประมาณ 3 กิโลเมตร วัดนี้ประดิษฐานเจ้าพ่ออุ่นเมือง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ทำจากโลหะทองสัมฤทธิ์ ที่บริเวณพระเศียรกลวง เปิดปิดได้และมีน้ำขังอยู่ โดยน้ำจะซึมออกมาตลอดเวลา แม้มีข้อสงสัยว่าต่อท่ออะไรหรือไม่ เคยมีการย้ายองค์พระจากโบสถ์ไปไว้ที่ศาลา ก็ยังมีน้ำซึมออกมาได้ตลอดเวลาเช่นกัน เลยร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ
                                 
                                                                    พระพุทธรูปในโบสถ์
                               
                                                  เจ้าพ่ออุ่นเมือง พระศักดิ์สิทธิ์มีน้ำไหลอยู่ภายในพระเศียร
                                
                                                          เจดีย์พระสุพรรณกัลยา
                               
                                        สมเด็จพระนเรศวร ทรงสร้างถวายพระพี่นางสุพรรณกัลยา
http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/580/1580/images/temple/wat-numhu3.jpg&imgrefurl=http://www.oknation.net/blog/saleman/2007/10/24/entry-1&usg=__hlwzqvVN3jPwHJuau0RtyqxEATQ=&h=475&w=356&sz=57&hl=th&start=19&um=1&tbnid=tQh3SilqTKSmjM:&tbnh=129&tbnw=97&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%26hl%3Dth%26sa%3DN%26um%3D1

766
ทั้งสองภาพนี้เป็นเครื่องลางสายล่างของทางภาคเหนือนะ

ภาพแรกน่ะเป็น แม่เป๋อ

ภาพที่ 2 เป็นพ่องั่ง

เป็นเครื่องรางทางด้านเสน่ห์ เมตตา :080:

ลิงน้อยสนใจแม่เป๋อนะ :090:

เครื่องลางทางภาคเหนือน่าในใจหลายชิ้นมาก :015:

มีอยู่ชิ้นนึงที่สนใจแต่หายาก ขอเก็บไว้เป็นความลับแล้วกันนะ :059: :069:

ไม่น่าจะใช่สายเหนือนะครับ สายทางเขมร เค้านะครับ

767
      มีท่านสมาชิกท่านหนึ่งให้หา ผมก็พร้อมรับใช้ หวังว่าข้อมูลนี้คงมีประโนชน์กับท่านอื่นๆนะครับ
                                     
พระสุพรรณกัลยา ทรงเป็นพระธิดาใน สมเด็จพระมหาธรรมราชา และ พระวิสุทธิกษัตรีย์ เป็นพระพี่นางของ สมเด็จพระนเรศวร มหาราช และสมเด็จ พระเอกาทศรถ สมภพเมื่อวันเสาร์ ปีมะเส็ง พุทธศักราช ๒๐๙๕ ณ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก (บริเวณ ที่ตั้ง โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ในปัจจุบัน) พระองค์เป็น วีรสตรี ผู้กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ ยอม พลัดพรากจากแผ่นดินไทย ไปเป็นองค์ประกัน ณ กรุงหงสาวดี เพื่อแลกกับ องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ  สมเด็จพระ เอกาทศรถ ต่อมาได้ทรงสิ้นพระชนม์ชีพในแผ่นดินพม่าอย่างไร้พิธีอัน
สมระยศ ความ เสียสละอัน ใหญ่หลวง ของพระองค์ในครั้งนั้น   เป็นผลทำให้  สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกลับมากอบกู้ เอกราชของชาติไทยได้สำเร็จ วีรกรรมดังกล่าวของ พระสุพรรณกัลยา  จึงสมควรได้รับการเทิดพระเกียรติให้แพร่หลาย  ยิ่งขึ้นสืบไปตลอดกาลนานสถานที่สักการะบูชา :
"พระอนุสาวรีย์ พระสุพรรณกัลยาณี" ณ ค่ายสมเด็จพระนเรศวร มหาราช (กองทัพภาคที่ ๓) อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
หลังสงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก เมื่อปี พุทธศักราช ๒๑๑๒ พระนาง และพระอนุชา ทั้งสอง พระองค์ ได้ถูกพระเจ้าบุเรงนอง กวาดต้อนไปเป็น เชลยยังเมืองหงสาวดี พร้อมด้วย พระมหินทราธิราช เจ้าเหนือหัว แต่พระมหินทราธิราช เสด็จสวรรคตที่เมืองอังวะเสียก่อน พม่าจึงแต่งตั้งให้ พระมหา ธรรมราชา ขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา ในขณะที่โอรสและธิดายังเป็นเชลยอยู่ เพื่อเป็นองค์ประกัน ป้องกัน การคิดทรยศของฝ่ายไทยทั้งสามพี่น้อง อยู่ที่หงสาวดีถึง ๖ ปี จึงได้กลับมากรุงศรีอยุธยาครั้งหนึ่ง เมื่อพระนางมีพระชนมายุได้ ๑๙ พรรษา ด้วยเหตุที่ พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เกิดความพึงใจใน พระสิริโฉม ของพระสุพรรณกัลยา จึงมาสู่ขอจากพระมหาธรรมราชา และนำกลับไปอภิเษก เป็น พระชายา ณ เมืองหงสาวดี ต่อมาพระนางได้ออกอุบาย ทูลขอให้พระอนุชาทั้งสองพระองค์ กลับสู่ กรุงศรีอยุธยา โดยอ้างว่า เพื่อไปช่วยพระบิดารับศึก พระยาละแวกแห่งเขมร พระสุพรรณกัลยา มีสภาพเหมือนถูกทอดทิ้ง ให้ผจญกรรมเพียงลำพัง กับไพร่พลเล็กน้อย ในท่ามกลางหมู่อริราช ศัตรู ทั้งสิ้น แต่กระนั้นพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ก็ทรงมีพระเมตตารักใคร่สิเนหา แก่พระสุพรรณกัลยา อยู่ไม่น้อย และด้วยบารมีแห่งพระสุพรรณกัลยา ได้ปกแผ่คุ้มครองแก่คนไทย ที่ตกเป็นเชลย อยู่ใน เมืองพม่า มิให้ได้รับความลำบาก ต่อมามังไชยสิงหราช(นันทบุเรง)โอรสของพระเจ้าบุเรงนอง เป็น ผู้มักมากในกามคุณ และต้องการเป็นใหญ่ จึงร่วมมือกับชายาชาวไทยใหญ่ นามว่า "สุวนันทา" วางแผนชิงราชสมบัติ และแย่งอำนาจ ทำให้พระเจ้าบุเรงนองตรอมพระทัย และสวรรคต อย่างกระทัน หัน เมื่อพระเจ้านันทบุเรงขึ้นครองราชย์ เกิดความวุ่นวาย เนื่องด้วยการไม่ยอมรับ ของพระญาติวงศ์ หลายฝ่าย ทำให้พระเจ้านันทบุเรง เกิดความหวาดระแวง กอปรด้วยรู้ว่า มีการรวบรวมไพร่พล เตรียม การกู้ชาติ ของ พระนเรศวรและพระเอกาทศรถ ทางเมืองไทย จึงสั่งจับจองจำพระมารดา เลี้ยง (พระสุพรรณกัลยา) และพระธิดาองค์แรกของพระนางให้อดอาหาร ลงโทษทัณฑ์ ทุบตี โบย อย่างทารุณ ในขณะที่พระนางทรงครรภ์แปดเดือน จนพระธิดาสิ้นพระชนม์ จากนั้น ก็ทำทารุณกรรมต่อพระนางอีก จนอ่อนเปลี้ยสิ้นเรี่ยวแรง แล้วใช้ดาบฟัน ฆ่าพระนางพร้อมด้วยทารกในครรภ์ แม้ร่างกายของพระนาง สิ้นสูญแล้ว ก็ยังไม่เป็นที่สาแก่ใจ ของพระเจ้านันทบุเรง แม้ดวงพระวิญญาณของพระองค์ ก็ถูก กระทำ พิธีทางไสยศาสตร์ ตราสังรัดตรึง ไม่ให้วิญญาณกลับสู่เมืองไทย ให้วนเวียนอยู่ อย่างทุกข์ทรมาน นานนับร้อยปี ... ในปีพุทธศักราช ๒๔๙๑ หลวงปู่โง่น โสรโย แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก อำเภอ ตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ได้รับกิจนิมนต์จาก พระมหาปีตะโก ภิกขุ ให้ไปช่วยงานด้านประติมากรรม ซ่อมแซมรูปลายฝาผนัง ที่เมืองพะโค (หงสาวดี) ประเทศพม่า ในขณะนั้น ประเทศพม่า มีเหตุการณ์ ทางการเมืองภายใน เกี่ยวกับสมณศักดิ์พระภิกษุ หลวงปู่โง่น พลอยต้องอธิกรณ์โทษการเมืองไปด้วย กลับเมืองไทยไม่ได้ ระหว่างถูกกักบริเวณ ท่านใช้เวลาในการฝึกจิต กำหนดตัวแฝง และพลังแฝง ในกายได้ สามารถติดต่อกับโลกวิญญาณ และได้เข้าถึงกระแสพระวิญญาณที่สื่อสารต่อกัน กล่าวว่า ท่านเคยเป็นนายทหารช่าง สร้างบ้านเรือน ทั้งยังเคยถูกพม่ากวาดต้อนไป พร้อมกับพระนางในครั้งนั้น เคยเป็นข้ารับใช้ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี พระสุพรรณกัลยา ได้ขอร้องให้หลวงปู่โง่น ช่วยแก้พันธนาการทางไสยศาสตร์ เพื่อดวงพระวิญญาณของพระองค์ จะได้กลับไปเมืองไทย และให้นำ ภาพลักษณ์ของพระองค์ อันเกิดจากกระแสพระวิญญาณ เผยแพร่ให้แก่ชาวไทย ผู้ลืมพระองค์ ท่าน ไปแล้ว พระองค์จะกลับมาทำคุณประโยชน์ ช่วยเหลือประเทศชาติ ทั้งยังปณิธาน จะกลับมาอุบัติเป็น เจ้าหญิงในปัจฉิมสมัยของวงศ์กษัตริย์ไทย จะสร้างบารมี ประกอบคุณความดี เพื่อให้อยู่ในหัวใจ ของคนไทยทั้งประเทศ ด้วยเหตุเพราะ  คนไทย ลืมคุณกู้ชาติของพระองค์ ที่ยอมสละความสุขในชีวิต เพื่อให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ มีโอกาสกู้ชาติบ้านเมืองได้สำเร็จ ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น หลวงปู่โง่น โสรโย และท่านพลโทถนอม วัชรพุทธ แม่ทัพกองทัพภาคที่ ๓ ได้ร่วมมือกันสร้างพระอนุสาวรีย์ ของพระสุพรรณกัลยา มีขนาดเท่าองค์จริง และได้อัญเชิญ มา ประดิษฐานไว้ ณ ริมฝั่งแม่น้ำน่าน ในบริเวณ "ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ใกล้กับพระบรม ราชานุสาวรีย์ พระอนุชาทั้งสองพระองค์ โดยได้นำส่วนของสรีระ เช่น กระดูก ฟัน และเครื่องประดับ ของมีค่าบางอย่าง ที่ขุดค้นได้จาก แหล่งฝังพระศพของพระนาง นำมาบรรจุ ในพระอุระของพระรูปด้วย เพื่อให้ชาวไทยทุกคน ได้มีโอกาสเคารพสักการะ วีรสตรีผู้เสียสละยิ่งใหญ่กว่าผู้ใด เพียงให้สยามไทย ได้คงอยู่ชั่วฟ้าดิน ...
                                                      คาถาบูชาพระสุพรรณกัลยา 
   (ตั้งนะโม สามจบ) เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิตานัง อาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ
                              เอหิวิญญานะ สุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา



เอกสารอ้างอิง :
หนังสือ "ย้อนรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา" (พ.ศ. ๒๕๔๑) เขียนโดย หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร
หนังสือ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่" (พ.ศ. ๒๕๔๑)ค้นคว้าและรวบรวมโดย พันโทหญิง จีรวรรณ ชินะโชติ
เอกสารเผยแพร่ ณ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคมจัดทำโดย ชูศรี เกิดศิลป์, พาที ศรีสวัสดิ์, และ ภราดร จุณศิริ
รวบรวมข้อมูล และภาพประกอบ เผยแพร่เพื่อเทิดพระเกียรติ โดย .. ฉวีวรรณ สุวรรณรัฐ (licsw@mahidol.ac.th) 

768
     กระผมอ่านแล้ว ชอบกระทู้นี้มากเลยครับ มีบางข้อความที่กระผมไม่รู้ มีบางข้อความที่ผมรู้แต่ไม่แน่ใจ และบางข้อความที่แน่ใจแต่ไม่ยอมปฏิบัติและมองข้ามไป
                                                                                                                                         ขอบคุณครับ

769
                  ตามสมาชิกท่านอื่น ว่านะครับ ชื่อยันต์แม่ทัพ ส่วนพุทธคุณ เป็นยันต์ของผู้ปกครองคน ดีมีอำนาจทางคุมคน แคล้วคลาดคงกระพ้น หลวงพ่อนำยันต์นี้ มาใส่หลังพระ อยู่หลายๆรุ่นเลยนะครับ ของดีมากๆท่านเก็บรักษาให้เป็นของดีติดตัวท่านตลอดไป อย่าให้เสีย นะครับ

770
      ตามความคิดกระผมท่านไปที่วัดบางพระตรงเข้าที่กุฏิหลวงพี่ญานะครับ ผมและคนรู้จักไปทีไรได้ ท่านเมตตาให้รอยสักรูปลิง ท่าต่างๆมาทุกทีครับ

771
สดๆร้อนๆ พึ่งผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง  รดน้ำดำหัว บิดามารดา

772
            มาแต่ละดอกนี่แจ่มๆทั้งนะเลยนะท่าน ตะกรุตพุทธคุณครอบจักรวาลปานนี้ ของดีมีเยอะจริงท่านพี่เรา เขียนพินัยกรรมรึยัง ว่าชิ้นไหนให้ใคร นะพี่ท่านนะก่อน.....คิดถึงผมบ้างนะ

773
         เน็ทหลุดครับ ขออนุญาตเสริมนะครับ ข้อมูลที่ได้มา ท่านแก้ว kaewlove เป็นผู้ส่งให้ผมทาง hotmail ครับไม่ทราบว่าใช่บทนี้ที่ท่านเจ้าของกระทู้ตามหาไหมครับ
 

774
คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่ต่างกันจึงควรสวดมนต์ขอขมาเพื่อปลดหนี้กรรมให้น้อยลง
ต่อไปนี้เป็นคำขอขมาและอธิฐานจิตต่อหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอน


                                                                            บทขอขมา
                                              นะโมตัสสะ ภควะโต อะระหัสโตสัมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ)

                                              สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง

                                              สัพพัง อะปัราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต.


                                  หากข้าเจ้าจงใจ หรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ

                                      พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย
                                   รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วยกาย วาจาใจ ขอได้โปรดอโหสิกรรม

                                   แก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของติดตามตัวมา ข้าพเจ้าขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัว

                                  ได้เหมือนคนปรกติทั่วไป ขอถอนคำอธิฐาน คำสาบาน ที่ติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่าย

                                     ต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมี

                                    ในอดีตกาลที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน จงส่งผงให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวาร

                                     ที่เกี่ยวข้องเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภยศ สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาน

                                   ธรสารสมบัติ อุปสรรคใด ๆ โรคภัยใด ๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่าง

                                             ทั้งทางโลก และทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ ตราบจนนิพพานเทอญ

                              ข้าพเจ้าขอถอนคำสัญญา คำสาบาน คำอธิฐานที่เคยผูกมัดตัวเอง และผู้อื่น ขอให้ต่างฝ่าย

                                 ต่างเป็นอิสระแก่กัน จากสัญญาทั้งปวง หากผู้ใดเคยสร้างเวร สร้งกรรมกับข้าพเจ้า

                               ไม่ว่าชาติใด ภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดี อโหสิกรรมให้ ขอถอนคำอาฆาต พยาบาท

                               และคำสาปแช่ง ในทุกภพ ทุกชาติ ขอให้ข้าพเจ้า พ้นจากคำสาปแล่งของปวงชน

                               ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม เทอญ.

 

                                                   ส่งต่อไปให้เยอะ ๆ เพื่อสร้างบุญกุศล ให้กับตัวเอง
 

776
แหมพึ่งรู้ว่าท่านเจ้าของกระทู้เป็นลูกครึ่ง มิน่าหล่อเชียว ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ

777
ผมอยู่บ้านกับครอบครัวครับ สรงน้ำพระที่บ้าน ทำความสะอาดบ้าน ครับ

778
สวยมากครับ สวยจริงๆ

779
สวยมากครับ

780
เปิดบ้านกันใหญ่เลยช่วงนี้ ท่านเอ็มนี่ของดีที่บ้านเยอะนะครับ สวยๆทั้งนั้นได้ดูหิ้งพระ และ โต๊ะหมู่ บูชา จากหลายท่าน เพื่อเป็นแนวทางครับ ขอบคุณมากครับ แหมมีรูปต้นน้ำด้วย เอๆๆ ไม่น่าใช่ เพื่อนกูรักมึงว่ะ 18; นะเสียดายทั้งคู่

781
มัวอ่ะ... :010: สงสัยต้องรีบจัดกล้องให้น้องชายด่วนมากๆ แล้วสิ... ดูแล้วตาลาย  :010:

แหม... ตอดเข้าไปนะ... ตอดไปเรื่อยๆ ...เด่วแกต้องยอมอ่อนใจ ใจอ่อนสักองค์แหละ

แกล้งผ่อนจิ...  วางดาวน์แกเยอะหน่อย... แล้วเชิดไป...  :004:

ปะป๊าต้องรักลูกให้ถูกทางนะ...   :048:
ก็พี่มี ตั้ง หลายตัวไม่มีแบ่งกันเลย น่าน้อยใจ 23;

782
555 สวัสดีหลังสงกรานต์วันนึง... วันนี้ก็เป็น family day อ่ะโน๊ะ...

งั่ง เป๋อ... น่ากัวพี่พีซมีครอบแหละค่ะ... น้องชลาฯ แม่เป๋อ เรื่องเสน่ห์ นำมาล้นๆ ตรงๆ เต็มๆ ค่ะ...มีไว้บ้างไม่เสียหลาย!

แต่พี่โชวสงสัยจังว่า ตรงกลางกลมๆ..อุดตะกรุดอะปะ.. มวลสารบริเวณนั้นน่าสนใจนะคะ..

ไว้อารมณ์จอยๆ พี่โชวจาถ่ายแม่เป๋อลป.ชื่น...สายเขมรมาให้ชม... อุดตะกรุดเหมือนกันหงะ  :009:
ไปไหนมาล่ะท่านพี่ อารมณ์ถึงไม่จอย ได้เห็นท่านกลับมาตอบ ดีใจที่ท่านกลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพนะท่าน หายเป็นห่วงไปหนึ่งครับ

783
สวยครับ ยังคงสวยครับไม่สึกมากเลยนี่ครับ

784
ขอเสริมอีกนิด การสักยันต์ ไม่ใช้สักไว้เพื่อ ลองของ รึ ให้ของขึ้น แบบมีโชว์ กระผมอยากจะแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ว่า ของจริงไม่จำเป็นต้องขึ้นบ่อย ไม่ใช่ขึ้นตอนกินเหล้า เอาไว้ตอนจำเป็นจริงๆ ในยามคับขัน บางครั้ง ไหว้ครู สวดพานยักษ์ พิธีต่างๆ ไม่ขึ้น แต่ตอนโดนยิงไม่เข้าก็มี รึ ตอนศัตรูมา เป็น 10 ท่านมีคนเดียว ไม่วิ่งก็ตามใจกูวิ่งก่อน(คำสอนพระพยอม สอนนักเรียนปวชเทคโนพระจอมเกล้า ปี 2536)                             
                                                                                                            ขอบคุณครับ

785
  กระผมความรู้น้อยระครับ ขอเดา โดยมีหลักการ(มั่วโดยใช้ความคิด) ว่าน่าจะเข้าข่าย พระผงห้าเสาร์ ประจุตะกรุดทองคำ ปี 2534ครับท่าน ใช่ไม่ใช่ยังไง ผมขออภัยนะครับ

786
ขึ้นอยู่กับตอนนั้นท่านสื่อจิตกับอะไรได้มากที่สุดนะครับ จิตมุ่งไปสู่รอยสักไหนก็จะขึ้นตามนั้น รึไม่ขึ้นเลยก็ได้ ไม่มีอะไรตายตัวนะครับ

787
พระสวยๆทั้งนั้นเลยชอบมากครับ น่าจะมีข้อความบอกสักนิดให้คนรู้น้อยอย่างกระผมบ้างนะครับ

788
จากอีกเว็บ มีข้อมูลน่าสนใจ แต่ไม่รู้จะแซกยัง จึงขอแยกข้อความเพื่อจะได้ อ่านได้เข้าใจง่ายๆครับ
    ๔๐๐ ปี การสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ.๒๑๔๘ - ๒๕๔๘)

สมเด็จพระเอกาทศรถ

         ทรงเป็นวีรกษัตริย์ที่ชาวพิษณุโลกรู้จัก และกล่าวถึงด้วยความจงรักภักดียิ่ง พระองค์ทรงเคียงคู่กับพระนเรศวรมหาราช ในพระราชพงศาวดาร มักจะกล่าวถึงสองพระองค์ว่า ?พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวสองพระองค์?อยู่เสมอ เมื่อมีการตั้งค่ายทหารทางฝั่งตะวันตกเป็นค่ายใหญ่ ที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพภาคที่ ๓ เรียกค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทางฝั่งตะวันออกเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการช่วยรบที่ ๓ เรียกค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อันแสดงถึงความมีใจผูกพันจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์เป็นอย่างยิ่ง


                  สมเด็จพระเอกาทศรถทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงเป็นพระโอรสองค์น้อยของสมเด็จพระมหาธรรมธิราช และพระวิสุทธิกษัตรี ประสูตรเมื่อ พ.ศ. ๒๑๐๔ ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก ทรงมีพระชันษาอ่อนกว่าสมเด็จพระนเรศวร ๖ ปี ในปี พ.ศ. ๒๑๐๖ พระเจ้าบุเรงนองยกกองทัพมาตีอยุธยาโดยยกมาทางสุโขทัยและเข้าตีเมืองพิษณุโลกได้นั้น ได้นำเอาพระมหาธรรมราชาธิราช พระยาสวรรคโลก พระยาพิชัยเข้าร่วมกองทัพพม่ายกไปตีกรุงศรีอยุธยา และในที่สุดทาง       กรุงศรีอยุธยาต้องยอมแพ้ในสงครามช้างเผือก แต่ในหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่าเล่าว่าเมื่อสมเด็จพระมหาธรรมราชายอมแพ้พระเจ้าบุเรงนองนั้น ได้นำเอาสมเด็จพระนเรศวร และพระสุพรรณกัลยาลงไปกรุงศีอยุธยาพร้อมกับสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชด้วยแล้วจึงให้พระเอกาทศรถพระโอรสองค์น้อยอยู่รักษาเมืองพิษณุโลกและต่อมาในปี พ.ศ. ๒๑๑๒ เมื่อพระเจ้าบุเรงนองได้กรุงศรีอยุธยาแล้ว ได้ตั้งสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเป็นผู้ครองกรุงศรีอยุธยา ในครั้งนั้นสมเด็จพระเอกาทศรถได้รับการแต่งตั้งเป็นสมเด็จพระมหาอุปราช ครั้นถึงปี พ.ศ. ๒๑๓๔ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชสวรรคต บรรดาข้าราชการทั้งปวง จะยกสมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นครองราชสมบัติ แต่พระองค์ไม่ทรงยินยอม อ้างว่าพระเชษฐายังมีชีวิตอยู่ที่เมืองหงสาวดี      พระเอกาทศรถยังคงดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราชอยู่อย่างเดิม แต่บังคับบัญชาสิทธิขาดราชการแผ่นดินทั่วไป ส่วนในหนังสือคำให้การขุนหลวงหาวัดไม่ได้กล่าวถึงตอนพระองค์รักษาเมืองพิษณุโลก กล่าวถึงเฉพาะการขึ้นรักษาการพระนคร                 หลังพระราชบิดาเสด็จสวรรคตในตำแหน่งพระมหาอุปราช ด้วยเหตุผลเดียวกันว่าที่ไม่กระทำพิธีราชาภิเศกนั้นด้วยพระองค์รักใคร่พระเชษฐายิ่งนักจึงว่าราชการงานกลุ่มทั้งปวงแทนและรักษาราชธานีเขตขัณฑ์ไว้ท่าพระเชษฐาธิราช ซึ่งหนังสือทั้งสองเล่มมีข้อความต่างจากพงศาวดารไทยทั้งปวง และยังเล่าความที่พิศดารต่างไปจากพงศาวดารไทยอีกคือ เรื่องสมเด็จพระนเรศวรหนีจากกรุงหงสาวดีแล้วถูกพม่าตามตีต้องถอยลงมาตั้งมั่นอยู่ที่เมืองสุพรรณบุรี ความรู้ถึงกรุงศรีอยุธยาสมเด็จพระเอกาทศรถจึงยกกองทัพมาช่วยพระเชษฐาถึงสุพรรณบุรี ? ทั้งสองพระองค์ได้โสมนัส ทรงพระยินดียิ่งนักพระเอกาทศรถจึงกราบลงกับพระบาทพระยา พระเชษฐานั้นก็สวมกอดเอาทันใจ ทั้งสององค์ปรีเปรมเกษมศรี ? สมเด็จพระเอกาทศรถทรงอาสาเข้าทำการรบกับพม่า แต่สมเด็จพระเชษฐาทรงตรัสบอกว่าแม่ทัพฝ่ายพม่านั้นมีความสามารถสูงพระองค์จะเข้าต่อกรกับพม่าเอง แล้วให้สมเด็จพระเอกาทศรถนั้นเป็นกองหนุน ครั้งนั้นนับเป็นศึกครั้งแรกที่สมเด็จพระเอกาทศรถได้ทำการสู้รบและทรงมีชัยไล่ทัพพม่ากลับไปได้


                จากสงครามครั้งนั้นสมเด็จพระเอกาทศรถก็เสด็จเข้าร่วมทำสงครามเคียงบ่าเคียงไหล่กับพระเชษฐาตลอด ในปี ๒๑๑๔ เมื่อสมเด็จพระนเรศวรเสด็จไปครองเมืองพิษณุโลก และเสด็จลงมาเยี่ยมพระราชบิดาที่กรุงศรีอยุธยา คราวนั้นพระยาจีนจันตุ ขุนนางเขมรที่เข้ามาสวามิภักดิ์ต่อไทย แล้วต่อมาเอาใจออกห่าง ลอบลงเรือสำเภาจะหนีออกทะเลกลับไปยังกัมพูชา สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถจึงทรงเร่งลงเรือเร็วไปตามทันพระยาจีนจันตุที่ปากน้ำเจ้าพระยา พระยาจีนจันตุหันหัวเรือเข้ามาสู้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จออกไปยืนที่หัวเรือทรงพระแสงปืนต่อสู้กับข้าศึกโดยมิยอมหลบ จึงถูกพระยาจีนจันตุ ยิงปืนมาถูกรางพระแสงปืนที่ทรงอยู่แตกกระจายไป สมเด็จพระเอกาทศรถทรงห่วงใยในพระเชษฐายิ่งนัก และด้วยความกล้าหาญได้เร่งเรือทรงของพระองค์ เข้าบังคับเรือของสมเด็จพระนเรศวรไว้ เป็นการเอาพระชนม์ชีพเข้าปกป้องพระเชษฐาครั้งสำคัญ


                 หลังจากการสู้รบกับพระยาจีนจันตุแล้ว สงครามใหญ่ๆ ที่พม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. ๒๑๓๓ ทั้งสองพระองค์เข้าร่วมทำสงครามคู่กันมา และในคราวสงครามยุทธหัตถี ในปี พ.ศ. ๒๑๓๕ สมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงกระทำยุทธหัตถีกับมังจาปะโร เจ้าเมืองแปร และทรงสามารถฟันแม่ทัพพม่าสิ้นชีวิตบนคอช้างได้ เช่นเดียวกับพระเชษฐา


                 สมเด็จพระเอกาทศรถ นอกจากจะมีความสามารถความกล้าหาญแล้ว ทรงมีน้ำพระทัยเยือกเย็นสุขุมคัมภีรภาพ จะเห็นได้จากเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรแต่งตั้งพระรามเดโชชาวเชียงใหม่ ที่รับราชการมีความดีความชอบขึ้นไปครองเมืองเชียงแสน ต่อมาเจ้าเมืองพะเยา เมืองแพร่ เมืองลอ เมืองน่าน เมืองฝาง ซึ่งเคยขึ้นต่อเมืองเชียงใหม่ ได้หันมาเข้ากับพระรามเดโชไม่ยอมขึ้นต่อเมืองเชียงใหม่ซ้ำจะรวมกันโจมตีเมืองเงชียงใหม่ จนทำให้เจ้าเมืองเชียงใหม่ไม่กล้ายกกองทัพไปสมทบกองทัพกรุงศรีอยุธยาไปตีเมืองตองอู เมือยกทัพกลับจากตีเมืองตองอูสมเด็จพระนเรศวรยกทัพลงไปที่เมืองสุพรรณบุรี แล้วตรัสให้สมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพขึ้นไปว่าเจ้าเมืองทั้งหลายให้ยินยอมอยู่ใต้อำนาจของเจ้าผู้ครองเมืองเชียงใหม่เมื่อเสด็จขึ้นไปถึงเมืองเถินก็ได้มีพระราชโองการก็ได้มีเจ้าเมืองเหนือมาเฝ้า แต่เจ้าเมืองเชียงใหม่ยงไม่เชื่อมั่นในพระบรมเดชานุภาพของสมเด็จพระเอกาทศรถจึงมิได้ลงมาเฝ้าซ้ำยังให้กองทัพซุ่มโจมตีกองทัพพระรามเดโชที่จะยกมาเฝ้าสมเด็จพระเอกาทศรถความทราบถึงพระองค์ก็มิได้ทรงพิโรธ เหล่าแม่ทัพนายกองกราบบังคมทูลให้เสด็จกลับไม่ให้ช่วยเหลือเจ้าเมืองเชียงใหม่ต่อไป แต่พระองค์เกรงจะเสียพระเกียรติยศพระเชษฐา ทรงอดกลั้นดำเนินการให้เจ้าเมืองเหนือทั้งหลายยอมอ่อนน้อมต่อเมืองเชียงใหม่


                   เมื่อสมเด็จพระนเรศวรได้เสด็จประพาสหัวเมืองชายทะเลตั้งทัพหลวงอยู่ที่เมืองราชบุรี สมเด็จพระเอกาทศรถได้แยกทางเสด็จประพาสทางชลมารคถึงเมืองพิษณุโลกในท้องที่ต่างหลายตำบล ในครั้งนั้นเสือตัวใหญ่เข้ามาทำร้ายคนพิษณุโลกพระองค์ได้เสด็จประทับช้างพระที่นั่งบัญชาการปราบเสือได้สำเร็จและได้ทรงโปรดเกล้าทองนพคุณเครื่องราชูปโภคของพระองค์ทำเป็นทองประทาศี จากนั้นได้เสด็จไปปิดทองทาศีพระพุทธชินราชจนเสร็จสมบูรณ์นับว่าพระองค์ทรงมีพระทัยผูกพันกับเมืองพิษณุโลกอันเป็นดินแดนมาตุภูมิของพระองค์เป็นอย่างมาก


                     ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๑๔๘ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์เสด็จยกกองทัพไปตีตองอูของพม่าไปเสด็จรวมพลที่เชียงใหม่ก่อนจากนั้นสมเด็จพระนเรศวรจึงยกทัพไปเมืองหาง ส่วนสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จไปทางเมืองฝาง แต่พอถึงเมืองหางสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประชวรหนักและเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเอกาทศรถเมื่อทรงทราบข่างก็ทรงเสด็จไปเฝ้าที่เมืองหางทันทีทรงโศการ่ำรักพระบรมเชษฐาเป็นที่โศกสลดแก้แม่ทัพนายกองที่ได้เห็นยิ่งนัก


                     ครั้นเมื่อสมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นครองราชสมบัตินั้นทรงมีพระชนม์ได้ ๔๔ พรรษาเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. ๒๑๕๖ ครองราชสมบัติอยู่ ๘ ปี พระราชโอรสของพระองค์คือเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ได้ครองราชสมบัติสืบต่อมา

คัดลอกข้อมูลจาก  : http://aco.psru.ac.th/400year/praaka.htm


789
ชนชาวไทย น้อยคนนักที่ไม่รู้จักพระสุพรรณกัลยาและสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่มี อีกพระองค์ ซึ่งกระผมอยากให้สมาชิกได้ข้อมูล นี้ไปอ่านบ้าง
สมเด็จพระเอกาทศรถ                                                      
          พระบาทสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๓ (สมเด็จพระเอกาทศรถ) หรือ พระนามเดิมว่า พระองค์ขาว เสด็จพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทน์เมืองพิษณุโลก เป็นพระราชโอรสองค์สุดท้ายในสมเด็จพระมหาธรรมราชา กับพระวิสุทธิกษัตรีย์ ทรงเป็นพระอนุชาของพระสุพรรณกัลยาและสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


  พระนามเต็ม"พระศรีสรรเพชญ์ สมเด็จบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิ สวรรยาราชาธิบดินทร์ องค์ปรมาธิเบศร ตรีภูวเนตร นาถนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวสัย สมุทัย ตโรมนต์ สกลจักรวาฬาธิเบนทร สุริเยนทราธิบดินทร หริหรินทรา ธาดาธิบดีศรีวิบุลย คุณรุจิตรฤทธิราเมศวรธรรมิกราชเดโชไชย พรหมเทพาดิเทพตรีภูวนาธิเบศร โลกเชษฐวิสุทธิคตา มกุฎเทศมหาพุทธางกูร บรมบพิตร"


ก่อนขึ้นครองราชสมบัติ
หลังจากที่สมเด็จพระนเรศวรทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง เมื่อปีพ.ศ. ๒๑๒๗ สมเด็จพระเอกาทศรถก็ได้เสด็จออกร่วมทำการรบคู่กับสมเด็จพระนเรศวร ได้โดยเสด็จในการทำศึกสงครามด้วยทุกครั้งนับแต่นั้นมาจนสิ้นรัชสมัยเสมอเหมือนพระเจ้าแผ่นดินและให้ประทับอยู่ที่พระราชวังจันทร์เกษมในกรุงศรีอยุธยา
หลังขึ้นครองราชสมบัติ
 พระเอกาทศรถ จากภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ. 2550) รับบทโดย พ.ต.วินธัย สุวารีเมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. ๒๑๔๘ พระองค์ก็ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระนเรศวร ในปีเดียวกันในรัชสมัยของพระองค์ บ้านเมืองเป็นปกติสุข เป็นที่เคารพยำเกรงแก่ประเทศเพื่อนบ้าน อันเป็นผลจากการที่สมเด็จพระนเรศวร และพระองค์เองได้ทรงสร้างอานุภาพ ของราชอาณาจักรอยุธยาไว้อย่างยิ่งใหญ่ มีพระราชอาณาเขตแผ่ออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่ายุคใดๆของไทย พระองค์ทรงเห็นว่ากรุงศรีอยุธยาทำศึกมาตลอดการครองราชย์ของสมเด็จพระนเรศวร จึงไม่มีพระราชประสงค์จะแผ่พระราชอาณาเขตออกไปอีก และหันมาเน้นทางการปกครองบ้านเมืองแทน

ในรัชสมัยของพระองค์ได้มีชาวต่างประเทศอาศัยในกรุงศรีอยุธยาอยู่มากจึงมีการยอมรับชาวต่างชาติเข้ามาเป็นทหาร เรียกว่า ทหารอาสา โดยได้จัดแบ่งออกเป็นพวก ๆ ตามเชื้อชาติ และตามความชำนาญในการรบ เกิดหน่วยทหารอาสาขึ้นหลายหน่วย เช่น กรมอาสาญี่ปุ่น กรมอาสาจาม กรมทหารแม่นปืน (โปรตุเกส) นอกจากนั้นในรัชสมัยของพระองค์ ยังมีชื่อเสียงในด้านความสามารถหล่อปืนใหญ่สำริดที่มีคุณภาพสูง ซึ่งน่าจะได้เรียนรู้มาจากโปรตุเกสและฮอลันดา เมื่อมาผสมผสานกับขีดความสามารถ ในด้านการหล่อโลหะของไทยที่มีการหล่อ ระฆังและพระพุทธรูป ที่มีมาแต่เดิม จึงทำให้การหล่อปืนใหญ่ของไทยในครั้งนั้นเป็นที่ยกย่องชมเชยไปถึงต่างประเทศ ดังจะเห็นได้จากการที่โชกุนของญี่ปุ่น ได้มีหนังสือชมเชยคุณสมบัติของปืนใหญ่ไทยเป็นอันมาก พร้อมกับขอให้ไทยช่วยหล่อปืนใหญ่ให้อีกด้วย (โชกุนของญี่ปุ่นในรัชสมัยของพระองค์คือโชกุนโตกุงาวะ อิเอยาสุ)
การสงคราม
ในสมัยของพระองค์ยังมีการไปตีทัพเมืองอังวะของสมเด็จพระสีหสุธรรมราชา (พระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง) ที่มายึดไทยใหญ่ และทวายมาเป็นของอังวะ
 พระราชโอรสและพระราชธิดา
สมเด็จพระเอกาทศรถมีพระราชโอรสที่ประสูติจากพระอัครมเหสี สององค์คือ เจ้าฟ้าสุทัศน์ และเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ และมีพระราชโอรสที่ประสูติจากพระสนม อีกสามองค์คือ พระอินทรราชา พระศรีศิลป์ และพระองค์ทอง ไม่ปรากฏว่าทรงมีพระราชธิดา
เสด็จสวรรคต
สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. ๒๑๕๓ ขณะมีพระชนม์พรรษาได้ ๕๓ พรรษา และทรงอยู่ในราชสมบัติได้ห้าปี เนื่องจากตรอมพระทัยที่พระโอรสคือเจ้าฟ้าสุทัศน์เสวยยาพิษปลงพระชนม์ พระราชโอรสองค์รอง คือ สมเด็จพระศรีเสาวภาคย์ จึงได้เสวยราชสมบัติสืบต่อมา
คัดลอกข้อความมาจาก : th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระเอกาทศรถ - 306k -
รูปพระเอกาทศรถ จากภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ. 2550) รับบทโดย พ.ต.วินธัย สุวารี

790
ขอบคุณสำหรับภาพดีๆ บรรยากาสดีๆ และข้อมูลดีๆนะครับ

791
สวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ

792
สวยดีนะครับ

793
ภาค 6

สิงห์หลวงพ่อเต๋
จบครับ ขอพอเพียงเท่านี้ ครับ ขอบคุฯครับ ที่ชมจนจบ

794
ยังไม่ทันไรมีภาค 5 ครับท่าน หากไม่เบื่อ โปรดรับชมนะบัดนี้
ชุดวัดถ้ำแฝด เมืองกาญ
http://img23.imageshack.us/img23/6573/img0306ao.jpg[/img]
สิงห์ หลวงพ่อเต๋ รึปล่าว ป๊าบอกไม่แน่ใจ


795
ภาค 4 ครับ

เหรียญครับไม่ทราบรุ่นได้ชั่วโมงเร่งรีบ ไม่กล้าถาม
หลวงพ่อคล้ายรุ่น วาจาสิทธิ์ วัดธาตุทองน้อย รุ่น 1 องค์นี้ หลังพระสวยยันต์สวยครับ ผมจ้องอยู่ อิอิ

796
ต่อภาค3 ครับ

พระกำแพงเขยง

ครูบาศรีวิไชย

แอบถ่ายครับ ถามไม่ทันว่าพระอะไรบ้าง

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปี 32 วัดป่าเรไรย์

ผ้ายันต์ ต่างๆ

สายสิญจน์ ที่ใช้ทำพิธี กรรมต่างๆ ของประจำตระกูลเลย นะนี่ เป็นของล้านนา ครับ

กระดาษยันต์ครูบาศรีวิไชย

797
ขอต่อภาค 2 ครับ
หลวงพ่อเปิ่นไม่ทราบรุ่น  ช่วยที บอกหน่อยว่ารุ่นไหน

พระพุทธเจ้า พระโมกคัลลา พระสารีบุตร เนื้อดินแดงมันปู วักไผ่โรงวัว
ปากน้ำรุ่น 4

798
  วันนี้ ป๊า กับคุณแม่ นำพระเครื่องมาจัด กระผมเข้าไปช่วย น้ำลายไหลเลย อยากได้ทุกๆองค์เลยครับ นี่ก็แอบถ่ายอย่างเร่งรีบ และกล้องติดมือถือโคตรห่วย ได้เท่านี่ครับ แต่อยากให้ทุกๆท่านชม

รูปป๊าผม กำลังระวังลูกชาย อมพระครับ อิอิ
หลวงพ่อเกษม รุ่น 2

พระนางพญาไม้แก่นมะขาม วัด เวฬุราชิ ตลาดพลู

พระที่สร้างแบบเป็นชุด 2530-2540
[img]
ไม่รู้ว่าที่ไหนบ้างครับ

799
              วันนี้เป็นวันสงกรานต์ ตื่นแต่เช้า ช่วยคุณแม่ กับ ป๊า จัดของเตรียมสรงน้ำพระ ถวายผลไม้ ต่างๆถือเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ในครอบครัว ของผมเลยก็ว่าได้


ป๊าเริ่มไหว้คนแรก

โต๊ะบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงค์ และพระบรมสารีริกธาตุ

พระพุทธสิหิงค์จำลอง
หลวงพ่อบัวเข็ม สร้างด้วยไม้จันทร์ อายุไม่น่าต่ำกว่า 150 ปี นับจาก อายุอาเหลาก๋ง ครับ

หลวงปู่ทวด เป็นกระดาษ สร้างปี 2505 ครอบกระจก แต่ท่านไม่ยอมอยู่ ใส่กระจกกีครั้ง แตก โดยไม่มีสาเหตุ

หลวงพ่อโสธร รุ่น 2519

แบบพระของขวัญวัดปากน้ำรุ่น 6

โต๊ะบูชาเทพองค์ต่างๆ และขัน 9 ของคุณแม่

คุณแม่ กับ ป๊า ช่วยกันเช็ดผมมีหน้าที่เปลี่ยนน้ำ
ครอบครัวผมมีกิจกรรมร่วมกันดังที่กล่าวมา ครอบครัวท่านสมาชิกท่านอื่นๆไปทำอะไรร่วมกันบ้างครับ

802
ขอบคุณครับ ที่ขาดข้อความไป รูปที่ 2. น่าเป็นเจ้างั่ง ใช่ไหมครับ

803
รบกวนสายพรายช่วยดูหน่อย ว่าใช่แม่เป๋อและงั่งไหม
  ขอเล่านิด เนื่องด้วยพอดีสงกรานต์ ได้มีการสรงน้ำพระ ส่วนสองสิ่งนี้อยู่ที่ห้องแต่งตัวหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง คุณแม่เค้าพรมน้ำอบด้วย สองสิ่งนี้อยู่กับบ้านผม มานานมากๆไม่น่าต่ำกว่า 80 ปี คุณตาเล่าให้ฟังว่าคุณตาทวดให้มา และคุณแม่ ได้มาอีกต่อหนึ่ง ตอนเด็กผมเห็นอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งบ้านที่แพร่ ตอนนี้มาอยู่บ้านแม่ที่ กทม. กระผมทึกทักเอาเองว่าเสร็จผมแน่ ไม่ให้ก็อาจมีขโมย ฮิฮิ 20; ล่อเล่น
1.
ขอเดาอย่างมีหลักการว่าน่าจะเป็นแม่เป๋อ
2.

ขอเดาอย่างมีหลักการว่าน่าจะเป็น
ขอสอบถามว่าที่ผมคาดเดาถูกต้องไหมครับ เลี้ยงไว้ทำไม และเลี้ยงยังไง ขอความรู้ด้วยนะครับขอบคุณมากครับ

804
ข้อมูลดีน่าอ่านนะท่าน

805
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ วันนี้มาหลายกระทู้เลยนะท่าน

806
ข้อมูลดีนะครับ

807
ข้อมูลดีน่าอ่าน

808
นี่ไม่ได้หมายถึงยกให้ท่าน gottkung หมดเลยนะครับ ใจดีจังท่าน

810
ณ ตอนนี้ไม่แปลกใจอีกแล้วว่าทำไมท่าน จึงมีความรู้มากมายนัก ก็ท่านมีพื้นฐานดีจากท่านบ้านนี่เอง บ้านท่านน่าอยู่จัง

812
 ผมก็ดีใจที่ผมได้เกิดมาเป็นลูกท่านครับ

813
ขออนุญาตท่านเจ้าของกระทู้ลงข้อความนะครับ
หลวงพ่อเปิ่น พระผู้สร้างแห่งบางแก้วฟ้า

     ความทุรกันดารของพื้นที่บางแก้วฟ้านั้นจะว่าไปก็เปรียบเสมือนเส้นผมบังภูเขาของผู้ปกครองหลายสมัย เพราะบางแก้วฟ้านั้นไม่ได้อยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางความเจริญของนครชัยศรีมากน้อย หากศูนย์กลางย้ายไปที่ตัวเมืองนครปฐมปัจจุบันและการขนส่งคมนาคมเปลี่ยนมาใช้ทางถนนเป็นหลัก ความยากลำบากจึงเริ่มย่างกรายมาสู่ชุมชนบางพระบางแก้วฟ้า

    ความยากลำบากแรกของชาวบ้านคือการเดินทางเมื่อรถยนต์ รถบรรทุกแทนเรือ ถนนจึงมีความสำคัญมากขึ้นเพื่อช่วยย่นระยะเวลาขนส่งโดยเฉพาะสินค้าข้าว เมื่อเวลาผ่านไปสายน้ำกลับกลายเป็นอุปสรรค ต่อการเดินทางของชาวบ้าน หลวงพ่อเปิ่นท่านมองเห็น ความยากลำบากของญาติธรรมชาวบ้านแก้วฟ้าและใกล้เคียง เมื่อมองหาความช่วยเหลือจากทางราชการก็ยากนักที่จะได้ผลในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องในช่วงเวลานั้นงบประมาณจำเป็น ต้องกระจายไปหลายท้องที่ หลวงพ่อจึงมีดำริในการจัดสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโดยข้ามฝั่งที่หน้าวัดเพื่อประโยชน์แก่ผู้คนที่จะข้ามฝั่งมาวัด และลูกหลานที่จะข้ามฟากมาเรียนหนังสือจะได้สะดวกขึ้น หลวงพ่อได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำเชื่อมตำบลบางแก้วและตำบลศาลายาเข้าด้วยกัน สะพานเป็นสะพานคอนกรีต ขนาดกว้าง 9 เมตร ความยาว 150 เมตร เปิดใช้เมื่อปี พศ.2531 ได้ชื่อว่า ?สะพานหลวงพ่อเปิ่น?
(เพิ่มเติม)งบประมาณก่อสร้าง ประมาณ15 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากทางราชการ ประมาณ 20 เปอร์เซ็นและยังสร้างถนนเข้าวัดบางพระโดยแยกจากถนนนครชัยศรี-ดอนตูมระยะทาง 2.8 กิโลเมตร
ทีมาของรูป : http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.thaimtb.com/webboard/419/209811-76.jpg&imgrefurl=http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl%3Fid%3D209811&usg=__TFjeNz2UyRJBCQ_Jyr-dk8mSmgM=&h=480&w=640&sz=45&hl=th&start=5&um=1&tbnid=gdbieqgjyNgCVM:&tbnh=103&tbnw=137&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599%26hl%3Dth%26sa%3DN%26um%3D1
คัดลอกข้อความจากหนังสือที่ระลึกหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
คัดลอกส่วนเพิ่มเติม จากหนังสือ 108 พระเครื่อง ตอนหลวงพ่อเปิ่น แดงเก้าแสนผู้แต่ง

814
ตอนสร้างเหรียญนี้ผมยังไม่เกิดเลยนะครับ สวยมากครับ

815
เลขเดิมที่เคยตอบ 07 ครับท่าน

816
ขอบคุณสำหรับคาถาครับท่าน

817
ฝันดีครับ ฝันดีมากเลยนะครับท่าน

818
:075:สักนำ้มัน
 ต้องสักท่ีอาจารย์ท่านใดครับ
และค่าครูเท่าไหร่ครับ :054:
ได้ทุกท่านครับ...แต่แนะนำหลวงพี่ติ่ง ท่านสักเฉพาะน้ำมัน ค่าครู25บาท ส่วนค่าดอกไม้ธูปเทียนบุหรี่ก้60บาทจ้า แต่ถ้าตรงกุฏิหลวงพี่แป๊วก้50บาท


แต่ถ้าตรงกุฏิหลวงพี่แป๊วก้50บาท  คงหมายถึงราคาค่าพานดอกไม้ธูปเทียนและบุหรี่มั้งครับ
หากเป็นเช่นนั้น กระผมอ่านไม่เข้าใจเองขออภัยครับ

819
ผมล่ะไม่ส่งต่อแน่ๆ เพราะใน hotmail มีแต่คนบางพระเท่านั้น ไม่กล้ารบกวนทาง เมลล์ครับ

820
เทพธิดาเงิน

มีคนส่งมาให้ ทาง HOTMAIL ผมล่ะไม่เคยได้ยินเลยท่านใดรู้จักบ้าง ผมอยากรู้มากเลยครับ ช่วยให้ข้อมูลผมด้วยนะครับ 22;

821
ทั้งหมดนี้ ได้วันไหว้วันเดียวรึครับ โอ้ว ว้าว แม่เจ้า 05; ผมเก็บทั้งปียังไม่ได้เลยนะนี่

822
:075:สักนำ้มัน
 ต้องสักท่ีอาจารย์ท่านใดครับ
และค่าครูเท่าไหร่ครับ :054:
ได้ทุกท่านครับ...แต่แนะนำหลวงพี่ติ่ง ท่านสักเฉพาะน้ำมัน ค่าครู25บาท ส่วนค่าดอกไม้ธูปเทียนบุหรี่ก้60บาทจ้า แต่ถ้าตรงกุฏิหลวงพี่แป๊วก้50บาท
     
ท่านครับ ค่าครูของหลวงพี่ท่าน ไม่น่าใช่ 50 บาทนะครับ ผมไปทีไร ก็25บาท ทุกลายสัก ทุกยันต์ หากบางครั้ง เป็นช่วงมีเงินถึงใส่เยอะกว่านั้น แต่ยังไง ขอบอกเลยว่า ค่าครู 25บาทแน่นอน หากใส่เยอะกว่านันก็ย่อมได้ แล้วแต่กำลังศรัทธาครับต้อง ขออภัยที่ แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกับท่านนะครับ

823
ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ เหรียญสวยมากจริงๆ

824
     หลวงพี่แป๋ว ท่านเมตตาจริงๆเลยนะครับ รอยสักของท่านเป็น เอกลักษณ์ ที่ศิษย์ทุกๆคนเห็นแล้ว ไม่ใช่ใครอื่นสัก หลวงพี่ท่านนั้นเอง พี่สาวท่านได้ของดีนะครับ รักษาให้เป็นของดี ตลอดไปนะครับ ผมไปวัด 2ครั้งยังไม่ได้ให้ท่านสักให้ รอเวลาว่างๆจะไปหาท่าน ตอนนี้มองรอยสักท่านไปก่อนครับ

825
มีตะกรุดด้วย สวยงามจริงๆ

826
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ

827
หลวงพี่แป๋วสัก มือหนักไหมครับ เจ็บไหม เพราะไม่เคยสักกะหลวงพี่แป๋วใครเคยสักกะท่าน รบกวนตอบทีครับ ขอบคุณมากครับ :054: :054: :054:
การสักนี่เจ็บนะครับ ก็เอาของแหลมแทงเนื้อนะท่าน ก็ต้องทนนะครับ ของดี จะอยู่ติดเราไปจนตาย ขึ้นอยู่กับใจท่านนะครับ เป็นกำลังใจให้

828
        คงเป็นหัวเสือที่แปลกมากเลยท่าน คงไม่ใช่เสือเจียกนะท่าน มันแปลกจริงๆ คนขายไม่บอกรึครับ เป็นเสือชนิดไหน

829
I got it.... โชว์ศักยภาพหนุ่มเหนือเต็มพิกัด

พระคู่บ้าน...คู่เมือง เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทราบเพื่อคุยโว โอ้อวดกะฝรั่งมังค่าม่างนะคะ.....

ปล. เมื่อคืน ฝันถึงน้องแมว ม่างปะคะ...  :048:
น้องแมวไม่ได้ซื้อบัตรผ่านประตูมั่งพี่ท่าน

830
หากพระอาจารย์ไม่ติดกิจนิมนต์ ก็อยู่วัดนั้นล่ะครับ อยู่ทุกวัน ลองไปดูนะครับ

831
ขอบคุณครับท่าน ที่นำข้อความดีๆมาให้อ่าน ให้ศึกษากัน นะครับ

832
บทความ บทกวี / ตอบ: The monkey King
« เมื่อ: 11 เม.ย. 2552, 04:26:18 »
ครับดีครับ หนุมาน กับ หงอคงนี้ ดู เหมือนกันมากเลย  :004:

833
หัวใจเสือครับ นะมะพะทะ พุทธคุณทางมหาอำนาจครับ

834
หากเป็นสงกราน์บ้านเราไม่เกิน 10 เมตรจากบ้าน สวยไม่สวยไม่รู้ สาดเลย คนทำเสียใจตายเลย 23;

835
ขอบคุณครับ

836
ขอหลวงพี่อนันได้หรือเปล่าครับ
ผมสักกับหลวงพี่อนันครับ
[/quote
ต้องสักกะลพ.องใหนค่ะ
พระอาจารย์ และอาจารย์ ทุกท่าน หากชอบกุฏิไหน ดอกไม้บุหรี่ซอง เงิน 25 บาท เข้าไปเลยครับ

837
  เคยได้ยินแต่คำขวัญวันเด็ก นี่มีคำขวัญวันสงกรานต์แล้วรึ มีตั้งแต่เมื่อไหร่นะนี่ 28;
 
?สงกรานต์ สมานสามัคคี สืบทอดประเพณี ทุกชีวีปลอดภัย?  

840
พระบางเป็นพระพุทธรูปปางประทานอภัย สูงสองศอกเจ็ดนิ้ว(ประมาณ 1.14 เมตร)หล่อด้วยสัมฤทธิ์(ทองคำผสม 90 เปอร์เซ็นต์) มีอายุอยู่ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงตอนต้นของพุทธศตวรรษที่ 19 ตามศิลปะลาว-ขเมรแบบบายนตอนปลาย โดยมีพุทธลักษณะคือ ประทับยืนยกพระหัตถ์ขึ้น นิ้วพระหัตถ์เรียบเสมอกัน พระพักตร์ค่อนข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม พระนลาฏกว้าง พระขนงเป็นรูปปีกกา พระเนตรเรียว พระนาสิกค่อนข้างแบน พระโอษฐ์บาง พระเศียรและพระเกตุมาลาเกลี้ยงสำหรับสวมเครื่องทรง ปั้นพระองค์เล็ก พระโสภีใหญ่ ครองจีวรห่มคลุม แลเห็นแถบสบงและหน้านาง

พระบางเดิมนั้นประดิษฐานอยู่ที่นครหลวงของอาณาจักรขอม จนเมื่อ พ.ศ. 1902 พระเจ้าฟ้างุ้มกษัตริย์แห่งล้านช้างซึ่งมีความเกี่ยวพันทางเครือญาติกับพระเจ้ากรุงเขมร มีพระราชประสงค์ที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ประดิษฐานมั่นคงในพระราชอาณาจักร จึงได้ทูลขอพระบางเพื่อมาประดิษษฐาน ณ เมืองเชียงทองอันเป็นนครหลวงของอาณาจักรล้านช้างในขณะนั้น

 
หอพระบาง พิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพระบางแต่เมื่ออันเชิญพระบางมาได้ถึงเมืองเวียงคำ(บริเวณแถบเมืองเวียงจันทร์ในปัจจุบัน) ก็มีเหตุอัศจรรย์ขึ้นจนไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ พระบางจึงได้ประดิษฐานอยู่ที่เมืองนี้จนถึง พ.ศ. 2055 อันเป็นสมัยของพระเจ้าวิชุณราช ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเจ้าเมืองเวียงคำมาก่อน จึงสามารถนำเอาพระบางขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดวิชุนราชในนครเชียงทอง ทำให้เมืองเชียงทองถูกเรียกว่า หลวงพระบาง นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ในสมัยที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ยกทัพเข้ายึดครองอาณาจักรล้านช้างไว้ได้ จึงได้อาราธนาพระบาง พร้อมทั้งพระแก้วมรกต ลงมาประดิษฐานที่กรุงธนบุรี ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงได้พระราชทานพระบางคืนให้แก่ล้านช้างดังเดิม

ปัจจุบันพระบางประดิษฐานอยู่ที่ หอพระบาง พิพิธภัณฑ์เมืองหลวงพระบาง
ที่มาของข้อมูล: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87

841
ของผมก็สักด้วยเครื่องมาเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอาจารย์สายไหน แต่ข้อห้ามมีแค่ 2 ข้อเอง ครับ แต่ของเค้าแรงจริง ๆ ครับท่าน
แล้วสักกับอาจารย์ชื่ออะไร สำนักตั้งอยู่ที่ไหน ข้อห้ามคืออะไรครับ

843
อีก รูป ยันต์ คระกร้อ ขอรับ ครับผม
สวยงามมากครับ ไม่ได้ไปหาอาจารย์ นานครับแต่ไหว้ครู 05/05/52 ไปแน่นอนครับ

844
นานๆโพสที แน่นเลยนะท่าน น่าขอยืมจังยืมมาใช้จนลูกบวชนะท่านนะถึงคืน

845
อยากให้ทุกๆท่านใช้ความระมักระวังให้ดูเค้าดูเราด้วย

846
คนแบบนี้ ไม่มีคำบรรยายถึงความเลว เอาเป็นผมไม่ทำแบบนี้แน่ครับ

847
   ของขึ้นเลือกไม่ได้นะท่านจะขึ้นอะไรไม่มีใครทราบได้ครับ แล้วแต่ครับ อาจจะขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่ง รึไม่ขึ้น ท่านต้องมั่นสวดมนต์ไหว้พระ รักษาศีล ในงานตั้งสมาธิ ลองดูครับ

849
       ไปไหนมาไหน หากจะเมา ไปรถโดยสารนะครับ แท๊กซี่ สามล้อ วิน รถเมล์ สองแถวสามแถว รึหลายๆแถว นั่งกันเข้าไปนะครับ เมาไม่ขับนะท่านทั้งหลาย ประเพณีสงกรานต์เป็น ประเพณีดีๆอยู่คู่ไทยมานานแล้วนะ ไม่ใช่ประเพณีลวนลามแห่งชาติ สงครามน้ำ+น้ำแข็ง+สาคู+สี นะท่านเล่นอย่างไทยด้วยนะ ปีนี้กฏหมายแรงนะท่าน

850
       ขออนุญาติท่านเจ้าของกระทู้เพิ่มประวัติหลวงปู่ท่านนะครับ พี่น้องช่วยกันทำมาหากิน
                                                     
    ประวัติหลวงปู่แหวน สุจิณโณเกิดในตระกลูของช่างตีเหล็ก เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2430 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีกุน ณ บ้านนาโป่ง ตำบลหนองใน อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยเป็นบุตรของนายใสกับนางแก้ว รามสิริ โดยมีน้องสาวร่วมบิดา- มารดาอีกหนึ่งคนคือ นางเบ็ง ราชอักษร และบิดามารดาของท่านได้ ตั้งชื่อว่า ญาณ ซึ่งแปลว่า ปรีชา กำหนดรู้ พอท่านมีอายุ ได้ประมาณ 5 ขวบเศษ โยมมารดาของท่านก็ล้มป่วย แม้จะได้รับการดูแลเยียวยารักษาเป็นอย่างดีจากสามี แต่อาการของท่านก็มีแต่ทรงกับทรุด ในที่สุดเมื่อท่านรู้ตัวว่า คงจะไม่รอดชีวิตไปได้แน่แล้วท่านจึงได้เรียกหลวงปู่แหวน เข้าไปใกล้ แล้วกล่าวความฝากฝังเอาไว้ว่า ลูกเอํย...แม่ยินดีต่อลูก สมบัติใด ๆ ในโลกนี้ล้วน กี่โกฎก็ตามแม่ไม่ยินดี แม่จะยินดีมากถ้าลูกจะบวชให้แม่ เมื่อลูกบวชแล้วก็ให้ตายกับผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมา มีลูกมีเมียนะ... หลวงปู่แหวนพยักหน้า รับคำเท่านั้น ดวงวิญญาณของท่านก็ออกจากร่างไป มาอีกไม่นาน ดึกสงัดของค่ำคืนวันหนึ่งขณะที่คุณยายของหลวงปู่แหวนกำลังนอนหลับสนิทก็เกิดฝันประหลาด อันเป็นมงคลนิมิตหมายที่ดีงาม ท่านจึงได้นำเอาความฝันมาเล่าสู่ลูกหลานและหลวงปู่แหวนฟัง ในวันรุ่งขึ้นว่า เมื่อคืนนี้ ยายนอนหลับและได้ฝันประหลาดมาก ฝันว่าเจ้าไปนอนอยู่ในดงขมิ้น จนกระทั่งเนื้อตัวของเจ้าเหลือง อร่ามไปหมด ดูแล้วน่ารักน่าเอ็ดดูยิ่งนัก ยายเห็นว่า เจ้านี้จะมีอุปนิสัยวาสนาในทางบวช ฉะนั้นยายขอให้เจ้าบวชตลอดชีวิต และขอให้ตายกับผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมามีลูกมีเมียเจ้าจะทำได้ไหม

หลวงปู่แหวน บรรพชา
จากนั้น วันเวลาผ่านมาจนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2439 ท่านมีอายุได้ 9 ขวบ คุณยายของท่านที่ได้เลี้ยงดูแลเอาใจใส่มาอย่างทะนุถนอม ได้เรียกท่านพร้อมกับ หลานชายอีกคนหนึ่ง ที่เป็นญาติสนิทรุ่นราวคราวเดียวกัน เข้าไปหาแล้วพูดว่า ยายจะให้เจ้าทั้งสองบวชเป็น สามเณร เมื่อบวชแล้วไมต้องสึก เจ้าจะบวชได้ไหม ท่านหันมามองหลวงปู่แหวนอย่างตั้งใจฟังคำตอบ หลวงปู่แหวนก็พยักหน้ารับ พอใกล้เข้าพรรษา คุณยายของท่านจึงได้ตระเตรียมเครี่องบริขาร จนครบเรียบร้อยแล้ว จึงได้พาเด็กชายทั้งสองเข้าถวายตัวต่อพระอุปัชฌาย์ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้า เข้าพรรษาเป็นสามเณร ณ วัดโพธิ์ชัย พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็นเด็กชาย ญาณ เป็นสามเณร แหวนนับแต่นั้นมา
ตลอดพรรษาที่ได้บรรพชา เป็นสามเณรนั้น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ได้แต่ทำวัตร สวดมนต์ต์บ้างตามโอกาส เท่าที่พระภิกษุและ สามเณร ภายในวัดจะร่วมกันทำสังฆกรรม นอกจากนั้นก็จะใช้เวลา ไปในทางเล่นซุกซนตามประสาเด็ก ในที่สุดพระอาจารย์อ้วน ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของท่าน มองเห็นว่าหากปล่อยให้เป็นไปเช่นนี้ จะทำให้สามเณรน้อยไม่มีความรู้ จึงพาไปฝากฝังถวาย เป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์สิงห์ ขนังตยาคโน ณ วัดบ้านสร้างถ่อ อำเภอกษมสีมา จังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่น่าอัศจรรย์ ขณะที่พระอาจารย์อ้วนกำลังพาสามเณรน้อย เดินฝ่าเปลวแดดสีทองมุ่งหน้าเข้าสู่บริเวณวัดในยามบ่ายนั้น พระอาจารย์สิงห์ขนัง ศิษย์สำคัญสูงสุดของพระอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานคือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต กำลังมองที่ร่างสามเณรน้อย พลันก็บังเกิดฤทธิ์อำนาจ แห่งอภิญญาณทำให้ท่านเห็นรัศมีเป็นแสงสว่างโอภาส เปล่งประกายออกมาจากร่างของสามเณรน้อยผู้นี้ เป็นผู้ที่มีบุญญาธิการมาเกิด ดั้งนั้นพระอาจารย์สิงห์ จึงได้ถ่ายทอดความรู้ตลอดจนข้อวัตรปฏิบัติทั้งหมดให้
  การออกจาริกแสวงบุญ
ปี พ.ศ. 2464 ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาธรรมกับ ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์
ปี พ.ศ. 2478 ได้เข้าพบ ท่านเจ้า คุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ ที่วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ ในครั้งนี้ได้เปลี่ยนจากมหานิกายเป็น ธรรมยุติ และได้รับฉายาว่า สุจิณโณ จากนั้นได้ออกจาริกแสวงบุญต่อ ขณะที่ศึกษาธรรมกับพระอาจารย์มั่นฯ ที่ดงมะไฟ บ้านค้อ จังหวัดอุบลราชธานี มีศิษย์พระอาจารย์มั่นฯ ที่มีอัธยาศัย ที่ตรงกัน 2 ท่านคือ หลวงปู่ขาว อนาลโย และ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม เช่นเดียวกับคราวที่ จากท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ ก็ได้ หลวงปู่ขาว จาริกแสวงธรรมเป็นเพื่อนจนถึงเมืองหลวงพระบาง
ปีพ.ศ. 2489 หลวงปู่แหวนจำพรรษาที่วัดป่าบ้านปง อ.แม่แตง ในพรรษานั้นท่านอาพาธเป็นแผลที่ขาอักเสบต้องผ่าตัด โดยมีพระอาจารย์หนู สุจิตโต ซึ่งเดินทางมาจากดอยแม่ปั๋งพยายามอยู่ใกล้ๆ เมื่อครบ 7 วัน ต้องกลับไปดอยแม่ปั๋ง เพราะอยู่ระหว่างพรรษา จนกระทั่งเดือนเมษายนในปีต่อมา อาการอาพาธจึงดีขึ้นแต่ก็ยังไม่หายสนิทยังเดินไปไหนไกลๆ ไม่ได้ นับแต่นั้นมาอาจารย์หนูได้พยายามอยู่ใกล้ๆ เพื่อดูแลหลวงปู่แหวน ต่อมาท่านอาจารย์หนูได้ดำริว่า ปัจจุบันหลวงปู่มีอายุมากแล้ว ไม่มีพระภิกษุสามเณรอยู่ด้วย เพื่อเป็นอุปัฏฐาก ถ้านิมนต์มาอยู่ที่ดอยแม่ปั๋งก็จะได้ถวายการดูแลได้โดยง่ายไม่ต้องไปๆ มาๆ อยู่อย่างนี้ แต่ก็ต้องเป็นเพียงความคิดของพระอาจารย์หนูเท่านั้น เพราะในเวลาดังกล่าว ดอยแม่ปั๋งยังไม่มีอะไรพร้อมแม้แต่กุฏิก็ยังไม่มี
ปีพ.ศ. 2505 ขณะที่หลวงปู่แหวนมีอายุ 75 ปี คืนวันหนึ่งท่านอาจารย์หนูนั่งภาวนาอยู่เกิดเป็นเสียงหลวงปู่ดังขึ้นมาที่หูว่า จะมาอยู่ด้วยคนนะ หลังจากวันที่ได้ยินเสียงหลวงปู่แหวนอีกสามวัน พระอาจารย์หนูได้ถูกนิมนต์ไปที่วัดบ้านปงสถานที่ที่หลวงปู่อยู่ และถือโอกาสนิมนต์หลวงปู่แหวนมาที่วัดดอยแม่ปั๋งด้วย
เมื่อหลวงปู่แหวนได้มาอยู่ที่วัดดอยแม่ปั๋งแล้ว ครั้งแรกท่านพักอยู่ที่กุฏิหลังเล็กๆ หลังหนึ่ง การมาอยู่ที่วัดดอยแม่ปั๋งนี้ ท่านได้มีข้อตกลงกับพระอาจารย์หนูว่า หน้าที่ต่างๆ และกิจทุกอย่างที่มีขึ้นในวัด ให้ตกเป็นภาระของพระอาจารย์หนูแต่เพียงผู้เดียว ส่วนท่านจะอยู่ในฐานะพระผู้เฒ่าผู้ปฏิบัติธรรมจะไม่มีภาระใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนั้นหลวงปู่จะไม่รับนิมนต์โดยเด็ดขาด แม้ที่สุดถึงจะเกิดอาพาธหนักเพียงใดก็ตาม ท่านไม่ยอมนอนรักษาที่โรงพยาบาล ถึงธาตุขันธ์จะทรงอยู่ต่อไปไม่ได้ก็จะให้สิ้นไปในป่าอันเป็นที่อยู่ ตามอริยโคตรอริยวงศ์ ซึ่งบูรพาจารย์ท่านเคยปฏิบัติมาแล้วในกาลก่อน

นับตั้งแต่หลวงปู่แหวนได้ขึ้นไปทางเหนือ ท่านไม่เคยไปจำพรรษาที่ภาคอื่นเลย เพราะอากาศทางภาคเหนือสัปปายะสำหรับท่าน หลวงปู่แหวนได้มรณภาพลงที่วัดดอยแม่ปั๋งแห่งนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2528 สิริอายุ 98 ปี
ได้ข้อมูลมาจาก  : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%99_%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%93%E0%B8%BA%E0%B9%82%E0%B8%93

851
:053: สวยค่ะท่าน  :015:  แล้วผู้หญิงสักได้อ๊ะป่าวค่ะ  15;

 05; อยากได้มานานละ กันเหนียวไว้บ้างก็ดี 13;

 10;  23; สังคมเดี๋ยวนี้อันตรายอ่ะค่ะ :093:

สักได้แน่นอนครับ แล้วท่าน จะไป ดื้อ เกเร ที่ไหนนะ

852
              อาจารย์ใคร ใครก็รัก ท่านจะมอบของดีให้ศิษย์วิธีไหน ก็ แล้วแต่ท่าน ไม่ต้องคิดมานะครับ พุทธคุณก็ได้ตามอาจารย์ที่เป่าให้นะครับ ของใครของมัน ท่านก็ต้องศึกษานะครับ บางอย่างต้องรู้เองต้องคลุกคลีนะครับ ใครบอกคงสู้เข้าไป ดู ฟัง ที่สำนัก รึ ไปสัก ไม่ได้นะครับ เลือกดีๆนะครับ รอยสักนั้นจะอยู่กับท่านไปตลอดชีวิต แล้วท่านไปสักที่สำนักไหนมาครับ รบกวนลงรูปด้วยนะครับ ผมยังไม่เคยเห็นรอยสักยันต์ที่มาจากเครื่องเลยครับ

853
ยินดีด้วยนะครับ

855
สวยมากเลยครับท่าน

856
อริยสัจ 4 เลยรึครับ ว้าว อาจารย์ให้ของดีมาเลยนะนี่
   มีความจริงอยู่ 4 ประการคือ การมีอยู่ของทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ความดับทุกข์ และ หนทางไปสู่ความดับทุกข์ ความจริงเหล่านี้เรียกว่า อริยสัจ 4


1. ทุกข์ คือ การมีอยู่ของทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ และตายล้วนเป็นทุกข์ ความเศร้าโศก ความโกรธ ความอิจฉาริษยา ความวิตกกังวล ความกลัวและความผิดหวังล้วนเป็น ทุกข์ การพลัดพรากจากของที่รักก็เป็นทุกข์ ความเกลียดก็เป็นทุกข์ ความอยาก ความยึดมั่นถือมั่น ความยึดติดในขันธ์ทั้ง 5 ล้วนเป็นทุกข์
2. สมุทัย คือ เหตุแห่งทุกข์ เพราะอวิชา ผู้คนจึงไม่สามารถเห็นความจริงของชีวิต พวกเขาตกอยู่ในเปลวเพลิงแห่งตัณหา ความโกรธ ความอิจฉาริษยา ความเศร้าโศก ความวิตกกังวล ความกลัว และความผิดหวัง

3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ การเข้าใจความจริงของชีวิตนำไปสู่การดับความเศร้า โศกทั้งมวล อันยังให้เกิดความสงบและความเบิกบาน

4. มรรค คือ หนทางนำไปสู่ความดับทุกข์

857
ถามพี่ศักดิ์ดา

:016:อาจารย์ต้อยวัดกำพร้าครับ...........ใช่วัดกำพร้า ที่อยู่ปากอ่าวมหาชัยหรือเปล่าพี่

 พอดีผมก็อยู่มหาชัย......ถ้าใช่จะได้เข้าขอความเมตตาจากท่านบ้าง อยู่ใกล้ๆแล้ว  :054:
ใช่ครับ ท่านบ้านอยู่แถวหลังวัดกำพร้านะครับ ยินดีครับ ท่านอาจารย์ใจดีมากๆครับ โหดแต่ใจดีนะครับ

ถ้าถึงวัดแล้วถามคนแถวนั้นเค้ารู้จักท่านใช่มั้ย.......แล้วต้องเตรียมอะไรไปบ้างถ้าจะเข้าไปหาท่านครับ
ทั่วไปครับ ดอกไม้ ธูปเทียน ค่าครู 89 อาจจะมี M-150 ก็ตามถนัดนะครับ คนแถวนั้น น่าจะรู้จักนะครับ

859
จิ๊ดจริงเลยท่าน น่าลองยืมใช้ซัก 50 ปีนะ

860
บทความ บทกวี / ตอบ: "เตือนตน"
« เมื่อ: 09 เม.ย. 2552, 05:06:21 »
จะนำไปคิดนะครับ

861
ชอบยันต์ครูของอาจารย์ทองจังเลย  25;

ดูแปลกดี ไปสักบ้างได้อ๊ะป่าว (สักน้ำมันนะ) 09;


 17; มหาชัยมันกว้างนะ ไปไม่ถูกอ่ะค่ะ 05; 

        ก็แล้วแต่ท่านอาจารย์ทองนะครับ ท่านกลับมาเริ่มสัก 16/05/52 นะครับ ส่วนวัดกำพร้ามหาชัย มีที่เดียว วินมีเยอะ จากตลาดนั่งไปไม่ถึง 100

862
ขอบคุณสำหรับข้อมูล ส่วนปีนี้ผมอยากเป็นลูกที่ดีพาแม่เที่ยว แล้วแต่ท่านอยากไปไหนก็จะพาไป

863
ครับสวยมากๆๆ  อาจารย์ต้อย  วัดกำพร้า อยู่แถวไหนครับ อยากไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยคน  ช่วยบอกบุญให้ทีครับ

ถามพี่ศักดิ์ดา

:016:อาจารย์ต้อยวัดกำพร้าครับ...........ใช่วัดกำพร้า ที่อยู่ปากอ่าวมหาชัยหรือเปล่าพี่

 พอดีผมก็อยู่มหาชัย......ถ้าใช่จะได้เข้าขอความเมตตาจากท่านบ้าง อยู่ใกล้ๆแล้ว  :054:
ใช่ครับ ท่านบ้านอยู่แถวหลังวัดกำพร้า สมุทรสาครครับ  ท่านอาจารย์ใจดีมากๆครับ รอยสักในตัวท่านเส้นโหดแต่ใจดีนะครับ สายอาจารย์ทอง และ พระอาจารย์วิรัช เส้นจะใหญ่ ครับ

ว่าแต่ยันต์นี้ยันต์อะไรครับขอความรู้นิดหนึ่ง ขอบคุณครับ

864
ถามพี่ศักดิ์ดา

:016:อาจารย์ต้อยวัดกำพร้าครับ...........ใช่วัดกำพร้า ที่อยู่ปากอ่าวมหาชัยหรือเปล่าพี่

 พอดีผมก็อยู่มหาชัย......ถ้าใช่จะได้เข้าขอความเมตตาจากท่านบ้าง อยู่ใกล้ๆแล้ว  :054:
ใช่ครับ ท่านบ้านอยู่แถวหลังวัดกำพร้านะครับ ยินดีครับ ท่านอาจารย์ใจดีมากๆครับ โหดแต่ใจดีนะครับ

865
ภาพวาดสวยงามมากเลยนะครับ อยากเห็นตอนอยู่บนตัวคนจัง ท่านเจ้าของกระทู้ จะสักเป็นคนแรกไหมครับ

866
ยินดีด้วยกับของดีที่ได้มา นะครับ

867
ถึงท่านต้นน้ำ
               ผู้ชายในรูปทั้ง 2 คน คนไหน เป็นท่าน คนไหน เป็นเป็นร้องนำวงโปเตโต้นะ ชื่ออะไรจำไม่ได้ คนแก่ก็งี่ หูตาไม่ดี ช่วยบอกหน่อยนะพ่อหนุ่ม

868
แปลกจริงๆเลยท่าน รออ่านข้อมูลนะครับ

869
ครับ น่าไปฝั่งนะครับ รอ ก่อนว่างๆไปแน่ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับท่านหญิงวัน

871
ท่านเจ้าของกระทู้ เป็นแบบไหนครับ อยากรู้มากๆ  07;
                                                           แบบนี้ 10;
                                                                       แบบนี้ 39;
                                                                           แบบนี้ 19;
                                                                                 รึแบบนี้ 17;

872
            วันนี้ตื่นแต่เช้าไปรับยาที่โรงพยาบาลมหาชัย เสร็จ 10.00น. คิดถึงอาจารย์ต้อยวัดกำพร้าครับ เลยไปหาท่าน อย่างที่เคย เห็นหน้าอาจารย์ไม่ได้ต้องขอของดีติดกายกลับบ้านวันนี้ให้ องคตมาครับที่สีข้างด้านขวาครับ


แล้วนี่ยันต์อะไรครับอาจารย์ต้อย วัดกำพร้าให้มา ช่วยบอกทีครับ
       แล้วท่านอาจารย์ต้อยให้ผมไปสักกับอาจารย์ทองตลาดพลู ท่านเมตตาให้ยันต์ครูมาครับ เข็มแรงครับ ของที่นี่แรงมากครับ ของขึ้นตอนสักเลย ต้องลืมตาครับ(มีพี่คนหนึ่งบอกมา)จึงสักต่อได้

ยันต์ครูอาจารย์ทองครับ
ขอประกาศด้วยนะครับ พ่อทองจะสักวันนี้แล้วจะพักผ่อน ประมาณ3วัน ก่อนจะไปสาธารณรัฐสิงคโปร์ (Republic of Singapore) กลับมาประเทศไทยวันที่13/05/52 จะเริ่มสัก 16/05/52 นะครับ
ปล.ไปสักกับอาจารย์ท่านไหนวันรุ่งขึ้นจะต้องไปต่างประเทศทุกทีเลย ฮิฮิ :004: :004: :004:

873
ของดีมากมายอีกแล้วค่ะพี่นุช

น้องสาวพี่ อยากได้อะไร...ป่าว...  พี่ไม่ค่อยจะได้ใช้หรอกน้า....โชว์เฉยๆ... ไว้หาแบ่งห้ายยยยยยย...

ท่าทางจะชอบของแรงๆ น้า...

อะแฮ่ม...แต่องค์นี้... แบบว่า ผูกพันธ์... หวงๆ หงะ...

อุ้ยส์ ไปกินยาก่อง....ตาจาปิดแระ... ง่วงงงงง..



แหม๋รู้ๆ กันอยู่ว่าเรา 2 คนน่ะ คอเดียวกันอยู่แล้วนี่ค่ะพี่สาว :090:

ชอบทั้งแบบเร็วและแรง แซงทางโค้งเลยค่ะ (แค่ผลออกมาปลอดภัยไร้กังวลนะ) :095: :053:

น่าจะไปหาทางเหนียวไว้บ้างนะ เผื่อ โดนลูกซอง บ้างนะท่าน ไม่แม่นแต่ออกทีหลายลูก

874
วันนี้ วันที่8 งานหมดวันที่14 ถ่ายรูปมาให้ดูอีกนะครับ

875
การร้องไห้เป็นการทำความสะอาดตาชนิดนึง แต่นี้ ไม่รู้ว่าจะสะอาดไหม

876
สักมาใหม่เลยนะท่าน

877
ขอบคุณ สำหรับข้อมูลนะครับ

878
11;  25; คงเจ็บได้ใจเลยนะงานนี้ คิดๆ ดูแล้วนะ มันส์ แล้วสะใจดี

 02; เดี๋ยวน้องลิงน้อยจะลองดูนะ 17; ว่าความอดทนของตัวเองจะเท่าพี่ศักดารึเปล่า 13;

 :017: แหล่ม มากมาย :009:

 :016: เก่งนะพี่ศักดา  30; :053:


welcome back ริงโก๊ะ อาโนะเนะ...

กลับมาทำงานได้แล้ว.... คิดถึงค่ะ คิดถึง... (โม้)

ปล. เหงยันต์หนีบแย้วอ้า... :009:

  :026: คิดถึงทุกคนมากมายค่ะ  :080: ขาดบอร์ดนี้ เหมือนขาดใจ  :090:

 :058: เห็นแล้วน่าสนใจอ่ะดิ  :095:

 :017: ก็สอดใส่อยู่เหมือนกัน แต่คงไม่ใช่ บิลเกรส เหมือนพี่โชว นะค่ะ :004:
 :004:
 :052: ทุกวันนี้หนุนตะกรุดยันต์หนีบนอนอย่างเดียว  :061: ไม่ได้ท่องบทสวดเลย

  :061: หลับก่อนทุกที  :073:

เล่นยันต์หนีบสายล้านนา เลยนะท่าน แต่ระวังนะท่านหากทำผิดวิธี จากที่เค้าจะมาหลงท่านหัวปักหัวปรำ กลายเป็นท่านไปหลงเค้านะ :007:

879
คิดถึงเพลงของท่าน เพลินพรมแดนเลยครับท่าน

880
ช่วงนี้มีแต่รอยสักสวยๆมาให้ชมกันทั้งนั้นเลยนะครับ นี่ก็สวยงามมากๆครับ ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชมนะครับ

881
สวยงามมากครับ มาทีเดียว 3 กระทู้ 3 รอยสักสวยๆทั้งนั้นเลยนะท่าน

882
อยากสอบถาม เรื่อง การสักยันต์วัดบางพระครับ
สอบเรื่องอะไร ล่ะครับท่าน เผื่อกระผมได้จะตอบให้ท่านได้ หากเกินความรู้ของกระผม ท่านอื่นๆช่วบตอบได้แน่นอนครับ

883
สวยงามมากๆครับ ความรู้แน่นๆมากเลยนะท่านไม่นานเชื่อว่าเป็นสมาชิกใหม่เลยนะท่าน

884
นับถือเลยครับ สวยงาม เข็มขลังมากๆครับ มีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กเลยนะครับ

885
หงษ์สวยมากครับ

886
วันนี้มุ่งแต่สัก เลยไม่ได้ดูเลย  05;สิ้นเดือนไปดีกว่า น่าพอมีนะครับ 15;

887
ข้อมูลแน่นนะครับ ภาพสวย

888
ขอบคุณข้อมูลนะครับ น่าสนใจมากๆครับ

890
สวยตามแบบ วัดบางพระเลยครับ

891
รักมากไป...ไม่ดีค่ะ

รักน้อยๆ แต่นานๆ น่านก็แย่งซีน พี่เป้าสายัณ...


เมื่อใดก็ตาม.. คุณคิดว่า เขา หรือ เธอ คือส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ.... แบบว่า จริงๆ...

ขาดเขาไม่ได้แน่นอน...

หรือในทางกลับกัน..... เขา หรือ เธอ กำลังเอื้อนเอ่ย ออกมาว่า..... คุณคือส่วนหนึ่งของชีวิตผม/ฉันไปแล้ว....

จงตอบรับ... เขา... ให้มาอยู่ในหัวใจคุณ....

แล้วคุณจะพบว่า....

การมีชีวิตอยู่....ในโลกนี้.... มีค่ามาก!



คุณcho presley กล่าวได้ประทับใจมากเลยค่ะดุจอยู่ในห้วงแห่งความรักเลยนะค่ะ :095:
สาวสวย 2ท่าน คุยกันเรื่องความรักดูกุ๊กกิ๊กเชียว

892
ตอบกันหมดจนครบที่ถามแล้ว ตามนั้นเลยท่านโอม...  ยินดีกับของดีที่ได้มานะครับ รักษาให้เป็นของดีตลอดไปนะครับ

893
ขอบคุณที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

894
สวยครับ จารเสร็จแล้ว นำมาให้ชมอีกครั้งนะครับ

895
ท่านครับ คนถ่ายรูป บนปรัมพิธี มี เกือบ 100 นะท่าน ถึงไงเราก็ ลูกเว็บบางพระเหมือนกันครับ ไม่เห็นหน้า แต่ เห็นใจครับท่าน

896
แล้วพอมีคาถาจิ้งจกคู่ของวัดบางพระบ้างไหมค่ะ :017:
วันนี้ ผมเพิ่งได้มา ครับ อยากได้คาถาเหมือนกันครับ

897
คงเจ็บนะครับ ผมคงมีโอกาสรู้สักวันว่าเจ็บแค่ไหน  23;

898
บทความ บทกวี / ตอบ: รักเธอประเทศไทย
« เมื่อ: 07 เม.ย. 2552, 09:02:06 »





ถึงมันจะ _X_  แต่มันก็รักชาติ
ฮามากครับ ไม่กล้า เขียนเป็นคำพูดขอคิดอย่างเดียว มี เหลือง มี แดง งั้น ผมขอเป็นเขียวครับ

899
ขอบคุณครับ น่าไปบูชานะครับ ข้อมูลดี ว่าแต่มีรูป รึ ลิงค์ไหมครับ

900
แหมท่านพี่โชวตั้งชื่อได้ น่าตกใจเลย ขอบคุณนะครับ ข้อความดี น่าอ่านเลยท่านพี่โชว

901
สุดยอดครับพี่ชลาพุชะ หลังเต็มแน่นในเวลาที่รวดเร็วมากครับ...


....วันเดียว 4 พาน...

...ความอดทนสุดยอดจริงๆครับพี่... :016:
กระผมคงรายงานไม่ดี วันนี้ ผมสักกับ พระอาจารย์ อาจารย์ 4 ท่าน แต่ 7พานครับ ขออภัยที่สื่อสารไม่ดีครับที่ทำให้ท่านเข้าใจผิด

902
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ดลบันดาลให้ พระอาจารย์ สุขภาพแข็งแรงนะครับวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของพระอาจารย์สมชาย กระผมเพิ่งรู้ตอนไปสักวันนี้ กระผมเป็นศิษย์ที่แย่มากครับ วันคล้ายวันเกิดพระอาจารย์ก็ไม่รู้ แต่ท่านก็เมตตาให้เสื้อผมมาครับ

903
       ขอบคุณครับท่านโชว์ ขออภัยอย่างมากมายกับการรายงานสดครั้งแรกก็ผิด ท่านอาจารย์หนวดไปมาเลยเชียครับ ไปท่านเดียว หลวงพี่ต้อยไม่ไปครับ กระผมขอน้อมรับผิดครับ แต่เรื่องวันและเวลานี่ไม่พลาดครับ ออกเดินทาง จากบางพระ 06.00 น. ของวันที่ 08/04/52 ตามกำหนดจะกลับ 22/04/52 ครับ
       วันนี้ก็มี พระอาจารย์ อาจารย์ เมตตา กระผมเป็นอย่างมาก กระผมดีใจครับที่ได้เกิดมาเป็น ศิษย์บางพระ และ ลูกเว็บบางพระครับ วันนี้ ได้สักกับหลวงพี่ญา หลวงพี่นัน หลวงพี่ต้อย อาจารย์หนวด ที่จริง กะจะไปสักกับหลวงพี่แป๋วอีก แต่เวลาไม่พอ หลวงพี่ตูนท่านก็ไม่มา หลวงพี่หนึ่ง ก็ไม่อยู่ ตามแผนจะนอนที่วัด แต่ คนที่ผมรักไม่อยากให้ผมนอนค้างอยากให้มาล้างตัว เช็คแอลกอฮอล์ ทานยาครับ เลยจำเป็น เหลือเกินต้องกลับบ้านครับ

ลิงหลวงพี่ญา

จิ้งจกหลวงพี่ต้อย

ล้อมด้านข้างอาจารย์หนวดท่านเมตตาครับ(ใครบอกสีข้างเจ็บ ผมล่ะเจ็บ ที่ก้นที่สุดเลยครับ)หลังผม 07/04/52
   กล้องผมคุณภาพแย่มากๆต้องขออภัย
กระผมกราบขอบคุณครับเว็บที่เมตตานะครับ กระผมจะเอาแผ่นทองคำเปลวไปปิดหลัง เหรียญหลวงพ่อ ตอนเลี่ยมทองนะครับ

904
เพชรตาแมว รกแมว ลูกกรอกแมว
ล้วนแต่เป็นของหายากแท้ๆครับ อิอิ :095:
แล้วลูกกรอกแมวนี่ ใช้ยังไง รึ เลี้ยงยังไง ผมเกิดมาไม่เคยได้ยิน เลยครับ ท่านผู้มีความรู้สูงกว่า ผมช่วยบอกหน่อยนะครับ กระผมสนใจ เรื่อง ลูกกรอกแมวมากเลยครับ รบกวนด้วยนะครับ

905
เหรียญรุ่นพิเศษ(รุ่นแรก)สร้างปี 2519ลงยาสีแดง ขนาดสร้างมานานแล้วสภาพยัง สวยเลยนะท่าน

906
จะไปตามคนรู้มาตอบนะครับ ว่าแต่นี้พระของท่านรึครับ คุ้นตาจัง

907
กราบนมัสการครับ แต่แหม ท่านเจ้าของกระทู้ครับไม่มีคำบรรยายเลยนะครับ แล้วนี่งานอะไรที่ไหนครับ

908
เช็คช่วยชาติ ทำให้คนในชาติไม่เท่าเทียมกัน จะได้เฉพาะ กลุ่มที่ใช้แรงานที่มีเงินเดือน หรือ รายวัน
ที่มีฐาน ประกันสังคม
  แต่กับคนที่ไม่มีเงินเดือน หรือ ทำงานรายวัน ที่ไม่มีฐานใน
ประกันสังคม  ต้องอดได้ เช่น ชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร คนค้าขาย และคนส่วนใหญ่ของประเทศ  นี่หรือความเท่าเทียม :010: :010: :010:

ท่านครับ การช่วยของทางภาครัฐก็มีหลายครั้งที่ไปถึงชาวนา ชาวไร่ มีราคาประกัน(ที่ไม่รู้ว่า ชาวนาชาวไร่จะเอาไหนมาคุ้ม) มีปุ๋ยเอื้ออาทร(บางทีก็เจอปุ๋ยปลอมใส่แล้วดินเค็ม) มีต้นกล้ายางขาย(พอปลูกแล้ว 10ปี กรีดยางแล้วไม่มีน้ำยางเพราะเป็นต้นยางปลอม)ฯลฯ(ที่สรรหามาให้หลายตัวโกงจนรวย)ทางรัฐเค้าก็ช่วยแล้วนี่ท่าน

909
กระผมได้บริจากอวัยวะให้ศูนย์รับอวัยวะ สภากาชาติไทย ตั้งแต่ปี 2542 อยากให้ท่านที่ยังไม่บริจาคช่วยบริจากกันนะครับhttp://www.organdonate.in.th/

910
คาถาอาคม / ตอบ: คาถาปลุกผีลุก
« เมื่อ: 06 เม.ย. 2552, 06:02:23 »
กระทู้นี้อยู่นานจริงๆเลยครับ กลับมาอีกแล้ว

911
:001:หุหุ..พี่ชลาฯ ไม่ต้องไปถูหลังที่ไหนหรอกค่ะ..พาภรรยาไปทานข้าวแหละดีแล้ว..เค้าอุตส่าห์มีโปรฯดีซะขนาดนี้.. :015:
หรือถ้าว่างชวนพี่น้องในบอร์ดไปกินก็ได้นะพี่..อิอิ 21;..(ชอบเลยของฟรี..55 31;)


             ก็ทางรัฐบาลบอกว่าอยากให้เงินสะพัดต้องใช้เงิน ช่วงนี้มีแต่คนเก็บเงินกันไม่ยอมใช้ ผมก็แค่อยากสนองนโยบายช่วยชาติครับหากท่านคุณภรรยาผมรู้ก็จะเอาไปเก็บอีกนะครับ หากนำไปเลี้ยงท่านคุณภรรยารึพาไปเที่ยวก็ไม่ได้ เพราะท่านคุณภรรยาชอบเก็บเงิน ทางออกมีไม่มากนะท่านน้อง หยก ผมล่ะชอบความสะอาดนะ ถูหลังเองก็ไม่ถึงที่บ้านห้องน้ำก็แคบ จะสร้างห้องน้ำ เงิน 4000 ก็ไม่พอ สถานครอบครัวผมก็รักนะ แต่งานนี้ ต้องทำตามนโยบายทางรัฐ ครับทำใจ ต้อง ไปจริงๆ

อ้าว! ภรรยาที่ไหนอีกล่ะเนี่ย  :037: มากมายจริงๆ เลยนะ เคลียร์เดี๋ยวนี้เลย  :093:

ไหนบอกจะพาน้องลิงน้อยไปเที่ยวไง  10;  จะแอบไปถูหลังกะใครอีกค่ะคุณพี่ศักดา   :043:

หลังไมค์ ดีกว่าไหม ที่ ลงไปก็แค่สร้างความเฮฮานะครับ แบบไม่เครียด นะ

914
สวยงามครับทั้ง2 เหรียญเลย มีร่องรอยการใช้งานเล็กน้อย แต่ยังสวยอยู่มากมายครับ

915
ขนาดท่านโจร ไม่แน่ใจ งั้นข้าน้อย ขอชมอย่างเดียวว่าสวยครับ

916
รูปนี้น่าจะเป็นโลโก้ มหกรรมศิลปะรอยสักนานาชาติ ครั้งที่ 2 ก็มีหลายที่ที่สักลายนี้นะครับ แต่ที่บางพระ กระผมเคยเห็นที่กุฏิมหาสมชาย ครับ

917
ขออนุญาตลงรูปนะครับท่าน ว่าแต่รุ่นที่ท่านลงไว้เป็นภาพไหนนะครับ อยากมีส่วนร่วมครับ 38;




มีเพื่อนสมาชิกติดต่อมา เรื่องตะกรุดธงชาติต้องขออภัยที่ รูปทั้งหมดไม่ใช่ของผม นะครับ ขออภัยที่ทำให้เข้าใจผิด :054:

918
ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านจะมา ช่วยสืบสานวัฒนธรรม แขนงหนึ่งของคนไทยครับ

919
ขออนุญาตลงรูปนะครับท่าน ว่าแต่รุ่นที่ท่านลงไว้เป็นภาพไหนนะครับ อยากมีส่วนร่วมครับ 38;




920
ของปลอม คงอดอยากนะท่าน คนทำปลอมนะท่าน ต้องอดแน่ ใจพวกนี้นี่จริงๆขอด่าในใจเกรงใจท่านอื่นๆ ขอบคุณท่าน รางจืด    ชัดเจนมากเลยท่าน ข้อมูลแน่มากขอบคุณอีกครั้งครับ
 

922
พิธีครอบครูเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์  เป็นพิธีมงคล เข้าได้ครับ แต่บรรยากาศงานและขั้นตอนนี้ คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ หากท่านไปร่วมพิธีแล้ว ถ่ายรูปมาลงบ้างนะครับ   ยินดีด้วยที่มีลูกสาวน่ารักน่าครับ
         ส่วนข้อมูลการครอบครูกระผมหามาให้แล้วนะครับ
                                                พิธีครอบครูนาฎศิลป์ไทย และดุริยางค์ไทย




พิธีครอบครู ต่างกับพิธีไหว้ครูทั่วไป เป็นพิธีการยกย่องและอนุรักษ์ไว้เพราะครูเป็นผู้ที่ให้ความรู้ ความเฉลียวฉลาดในด้านศิลปวิทยาแก่ศิษย์ ครูจึงเป็นผู้ควรแก่การคารวะบูชา พิธี ไหว้ครูได้ถูกกำหนดระเบียบและบัญญัติวิธีไว้ให้ปฏิบัติกันมาด้วยหลักเกณฑ์อันดี เพื่อก่อให้เกิดศิริมงคลแก่ผู้เรียน

พิธีการไหว้ครูโขนและละครในปัจจุบันส่วนใหญ่ดำเนินตามแบบแผนที่สืบทอดมาแต่โบราณก็แต่บางส่วน แม้จะแก้ไขเพิ่มเติมจุดประสงค์ในบางส่วนก็เพื่อการสร้างศรัทธายิ่งขึ้น

จากการสันนิษฐานของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ว่าการฟ้อนรำของไทยนั้นมีที่มาเป็น ๒ ทาง ทางที่ ๑ เกิดจากการที่มนุษย์ดัดแปลงการร่ายรำจากธรรมชาติ จนเป็นศิลปะที่สืบทอด กันมา ได้แก่ การแสดงพื้นเมืองต่าง ๆ อีกทางหนึ่งสันนิษฐานว่า ได้รับวัฒนธรรมจากอินเดีย ซึ่งบูชาเทพเจ้า



ดังนั้นศิษย์นาฏศิลป์โขน ละคร จึงถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด และปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอจนเป็นประเพณี คือ ผู้ที่เรียนนาฏศิลป์ โขน ละคร จะต้องจัดพิธีไหว้ครูขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

๑. เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณครู

๑.๑ ทำพิธีอัญเชิญครูมาในพิธี เพื่อให้ศิษย์กราบไหว้เป็นศิริมงคล

๑.๒ ตอบแทนพระคุณครู ด้วยการจัดหาเครื่องสังเวย เครื่องกระยาบวช เครื่องเซ่นตามลักษณะของครู

๑.๓ ให้ความบันเทิงแก่ครู เสมือนเป็นการทดสอบฝีมือ ด้วยการรำถวายมือ

๑.๔ โปรยข้าวตอกดอกไม้ ส่งครูเมื่อเสร็จพิธี

๒. เป็นการแสดงความเคารพครูด้วยการหาดอกไม้ ธูป เทียน บูชาครูเพื่อขอบารมีครูช่วยคุ้มครองศิษย์

๓. เป็นการมอบตัวเข้าเป็นศิษย์ ขอเป็นผู้สืบทอดศิลปะ

๔. เป็นพิธีประสิทธิ์ประสาทความสำเร็จการศึกษาชั้นสูงของการศึกษาวิชานาฏศิลป์ โขน ละคร

๕. เป็นวันรวมพลังความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของศิษย์นาฏศิลป์ทุกรุ่น ทุกระดับชั้น ที่พร้อมใจกันจัดพิธีเพื่ออัญเชิญครูมาให้ศิษย์คารวะและแสดงกตเวทิตา เป็นการน้อมจิตรำลึกพระคุณของครู

๖. เป็นการรักษาประเพณีอันดีงามให้คงอยู่

๗. เป็นการประกวดความเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมอันดีงามเป็นของตนเอง
พิธีไหว้ครูโขน ละคร ประกอบด้วยส่วนสำคัญ ๔ ส่วน คือ ครูผู้กระทำพิธีไหว้ครู (ตัวแทนพระภรตฤษี) ศีรษะโขน (ตัวแทนครูโขน ละคร ) เครื่องสังเวย เครื่องเซ่น เครื่องกระยาบวช เครื่องบูชา และปี่พาทย์เครื่องใหญ่ หรือ ปี่พาทย์เครื่องคู่ การไหว้ครูนาฏศิลป์ โขน ละครนั้น มีพิธีถึง ๓ ขั้นตอน คือ พิธีไหว้ครู พิธีครอบครู และพิธีรับมอบ ทั้ง ๓ ขั้นตอนนี้ เป็นพิธีที่บูรพาจารย์ได้กำหนดระเบียบและบัญญัติแบบแผนให้ปฏิบัติด้วยหลักเกณฑ์อันดี สืบเนื่องมาแต่โบราณ โดยกำหนดว่า ครูผู้ใหญ่จะทำพิธีไหว้ครู พิธีครอบและพิธีมอบ ก็ต่อเมื่อศิษย์รำเพลงช้า เพลงเร็วได้แล้ว ถ้าศิษย์ศึกษาและปฏิบัติจนเกิดความชำนาญ มีความรู้แตกฉาน หมายถึงรำหน้าพาทย์ชั้นสูง ได้อย่างแม่นยำ สมควรที่จะเป็นตัวแทนของครู สืบทอดการอบรมสั่งสอนชนรุ่นหลังได้เข้าร่วมพิธีมอบอันเป็นพิธีต่อจากพิธีครอบ

พิธีมอบนี้ เป็นพิธีที่ประกาศให้ศิษย์ทุกคนรู้ว่า ศิษย์ผู้นั้นมีความรู้ความสามารถสมควรเป็นครูโขนละครได้ เหมือนกับเป็นการเรียนจบหลักสูตรรับประทานปริญญาบัตรในปัจจุบันนี้ สิ่งที่ครูมอบความเป็นครูให้ก็คือ อาวุธที่ใช้ในการแสดงละคร โขน ทุกชนิด และบทละครมัดรวมกันส่งให้ศิษย์ และถ้าศิษย์คนใดมีความสามารถเหนือขึ้นไปอีก จนถึงระดับผู้เชี่ยวชาญและต้องเป็นศิลปินชายที่แสดงเป็นตัวพระคือ พระราม ต้องเป็นผู้ที่มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เสพของมึนเมาเป็นอาจิณ บวชเรียนแล้ว และเป็นที่ ยกย่องของคนทั่วไป โดยเฉพาะในหมู่ศิลปินด้วยกัน ครูผู้ใหญ่ก็จะมอบ และประสิทธิ์ประสาท ให้เป็นตัวแทนของครู หมายถึงเป็นผู้ ที่สามารถกระทำพิธีไหว้ครูได้ ครอบครู และพิธีมอบ ได้ ศิลปินที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้กระทำพีไหว้ครู จะได้รับมอบตำราไหว้ครู ถึงแม้ว่าจะมีตำราไหว้ครูไว้ในครอบครองก็จะกระทำได้เพียงพิธีไหว้ครูเท่านั้น จะทำพิธีครอบและพิธีรับมอบไม่ได้

หลักเกณฑ์แต่โบราณไม่นิยมให้ลิง ยักษ์ นาง เป็นผู้ประกอบพิธี เหตุที่ไม่นิยมเพราะ ถ้าแสดงเป็นตัวลิง เขาถือว่าเป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าแสดงเป็นตัวยักษ์ ถือว่าเป็นมาร ถ้าเป็นตัวนางถือว่าเป็นอิตถีเพศ ถ้าเป็นตัวพระถือว่าเป็นเทพเจ้า ดังนั้นการรับถ่ายทอดวิชาไหว้ครูนี้ตั้งแต่โบราณมาก็มักจะตกอยู่กับผู้แสดงเป็นตัวพระทั้งนั้น ระเบียบของการจัดพิธีไหว้ครูนั้นมีข้อกำหนดว่า ให้กระทำพิธีขึ้นได้เฉพาะในวันพฤหัสบดี เที่ยงวันเท่านั้น เพราะนับถือกันว่าวันพฤหัสบดีเป็นวันครู เดือนซึ่งนิยมประกอบพิธีตามโบราณ นิยมก็กำหนดให้ประกอบพีธีในเดือนคู่ เช่นเดือน ๖,๘,๑๐,๑๒,๒ และเดือน ๔ แต่มีข้อยกเว้น เดือนคี่อยู่เดือนเดียวคือเดือน ๙ เช่นเดียวกับกำหนด เดือนมงคลสมรสแต่งงานอนุโลมให้จัดพิธีได้ เหตุที่ใช้เดือนคู่นั้น เพราะถือว่าเดือนคู่เป็นเดือนมงคล ส่วนเดือนคี่นั้นเป็นเศษที่อนุโลมให้ทำพีในเดือน ๙ ได้นั้น ถือว่าเลข ๙ เป็นเลขมงคลของไทยสืบมา
ในบางครั้งโบราณ ยังนิยมว่าจะต้องระบุทางจันทรคติเพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่น เมื่อเลือกได้วันพฤหัสบดีแล้ว จะต้องพิจารณาอีกว่า ตรงกับวันขึ้นแรมข้างใด ถ้าได้เป็นวันพฤหัสบดีข้างขึ้นก็นับว่าเป็นมงคลยิ่งเพราะข้างขึ้นถือว่าเป็น ? วันฟู ? ข้างแรมเป็น ? วันจม ? การประกอบพิธีนิยมวันข้างขึ้นซึ่งเป็นวันฟูเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองนั่นเอง


เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา ในการประกอบพิธีจะต้องเริ่มพิธีสงฆ์ก่อนเพื่อเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าก่อนทุกครั้ง ดังนั้นการจัดสถานที่จึงนิยมตั้งที่บูชาพระพุทธรูปไว้ส่วนหนึ่ง หรือถ้าต้องการที่จะอัญเชิญพระพุทธรูปมาตั้งรวม ก็ให้ตั้งพระพุทธไว้สูงสุดในมณฑลพิธีแม้ว่าจะไม่ อัญเชิญพระพุทธรูปออกตั้งเป็นประธานในการประกอบพิธี ก็จะต้องเริ่มต้นกล่าวนมัสการคุณพระรัตนตรัยก่อนเสมอ

สำหรับเครื่องสังเวยจัดเป็นคู่ มีทั้งของสุกและดิบ ของดิบตั้งไว้ทางที่บูชาฝ่ายอสูร (ด้านซ้าย) ส่วนของสุกเป็นของเทพและฝ่ายมนุษย์(ด้านขวา) การจัดสถานที่จัดเป็น ๒ เขต คือ สำหรับ ประกอบพิธีสงฆ์ ซึ่งประกอบด้วยโต๊ะหมู่บูชา ประดิษฐานพระพุทธรูป ฯลฯ ส่วนที่ประกอบพิธีไหว้ครู จะจัดโต๊ะหมู่เป็น ๓ หมู่ คือ โต๊ะครูฝ่ายเทพอยู่กลาง ครูฝ่ายมนุษย์อยู่ทางขวา ครูฝ่ายยักษ์อยู่ ทางซ้าย ส่วนเครื่องดนตรีจะจัดโต๊ะต่ำ ๆ ปูผ้าขาววางเครื่องดนตรีทุกชิ้น ตั้งที่นั่งผู้ประกอบพิธี (เจ้าพิธี) ปูลาดด้วยผ้าหรือหนังสือ วางพานข้าวตอก ดอกไม้ ธูป เทียน กระแจะจันทร์ มาลัย วางพาน ตำรับโองการ บาตรน้ำมนต์ ไม้เท้า จัดที่สำหรับวงดนตรีปี่พาทย์ให้ไว้ทางขวาหรือทางซ้ายของครูก็ได้แล้วแต่ความเหมาะสม

วงปี่พากย์ตั้งอยู่ทางซ้ายมือหรือขวามือก็ได้ เพื่อบรรเลงหน้าพาทย์สำคัญ ตามที่ครูผู้ประกอบพิธีเรียกให้บรรเลง หน้าตะโพนในวงปี่พาทย์จะลาดผ้าขาววางขันกำนล ๘ ขัน (ในขันกำนล ประกอบด้วยเงิน ๑๒ บาท ดอกไม้ ธูป เทียน และผ้าขาว) ครบตามจำนวนผู้บรรเลงและมีผ้าขาวยาว ๓ เมตร

เริ่มพิธีไหว้ครู ครูผู้เป็นประธานประกอบพิธี (นุ่งห่มผ้าขาว) สมมติเป็นพราหมณ์ผู้ทรงศีลถือสังข์เดินถอยออกไปอยู่ที่ปลายผ้าขาวที่ปูลาดหันหน้าเข้าหาที่บูชาเรียกหน้าพาทย์เพลง พราหมณ์เข้ามารำเข้ามาในพิธีท้ายเพลงหมุนตัวไปโดยรอบรดน้ำสังข์ (มีความหมายว่าพราหมณ์ผู้ทรงศีล เป็นผู้เข้ามามาประกอบพิธี ส่วนการรดน้ำสังข์ไปโดยรอบนั้น เท่ากับเป็นการอธิษฐานกำหนดใช้สถานที่นี้ประกอบ จากนั้นขึ้นไปนั่งบนตั่งที่หน้าบูชา)

ครูผู้เป็นประธานประกอบพิธี (นุ่งห่มผ้าขาว) สมมติเป็นพราหมณ์ ผู้ทรงศีลถือสังข์เดินถอยออกไปอยู่ที่ปลายผ้าขาวที่ปูลาดหันหน้าเข้าหาที่บูชาเรียกหน้าพาทย์เพลง พราหมณ์เข้ามารำเข้ามาในพิธีท้ายเพลงหมุนตัวไปโดยรอบรดน้ำสังข์ (มีความหมายว่าพราหมณ์ผู้ทรงศีล เป็นผู้เข้ามามาประกอบพิธี ส่วนการรดน้ำสังข์ไปโดยรอบนั้น เท่ากับเป็นการอธิษฐานกำหนดใช้สถานที่นี้ประกอบ จากนั้นขึ้นไปนั่งบนตั่งที่หน้าบูชา)



ประธานในงาน เชิญเข้ามาจุดเทียนทอง (ด้านขวา) เทียน (ด้านซ้าย) และเทียนชัยที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างเทียนทอง ? เงิน จุดธูปบูชา ๙ ดอกแล้วเชิญกลับไปที่พักในที่สมควร

ประธานผู้ประกอบพิธี จุดธูป ๙ ดอก (บางครั้งใช้ ๓๖ ดอก เท่าจำนวนกำนล) กราบ ๓ หน เริ่มบูชาพระรัตนตรัยแล้วชุมนุมเทวดา

สำหรับคาถาสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าพิธีจะใช้ท่องในพิธีครอบครู ตอนที่นำเศ๊ยรของครูคือ พ่อแก่ เทริด พระพิราพ มาครอบให้กับบรรดาศิษยานุศิษย์ เพื่อเป็นศิริมงคล
ที่มาของข้อมูล http://www.oknation.net/blog/print.php?id=57315

923
บทความ บทกวี / ตอบ: ไม่รู้จริงป๊ะ
« เมื่อ: 06 เม.ย. 2552, 06:52:53 »
ขอบคุณเช่นกันครับ

925
ผมเคยได้ยินว่า รกแมวเก็บเป็นของดี แต่นี้ ศพลูกแมว ไม่รู้จริงๆ คงมีท่านผู้มีความรู้มาช่วยตอบท่านนะครับ

927
ขอจดไปสวดบูชาพ่อแก่นะครับ ได้ประโยชน์มากๆเลยครับ

928
คาถาอาคม / ตอบ: พระคาถาอุดปืน
« เมื่อ: 05 เม.ย. 2552, 11:36:45 »
ท่านแรกได้คาถา ท่านที่2 ได้ว่าทำไมคาถาจึงมีอำนาจหนุนอะไรความรู้ถึงนะครับ เลยคุ้มเลยครับที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณมากครับ

929
นมัสการหลวงพ่อครับ

930
ดูจากรูปแล้ว น่าจะเป็นหนังเสือ แต่ไม่ทราบว่าเป็นส่วนไหน และไม่รู้ว่าที่ไหน รึรุ่นไหนครับ ต้องพึ่งผู้เชียวชาญล่ะครับ ข้าน้อยไม่รู้จริงๆ

931
ขอบคุณสำหรับคำกลอนนี้นะครับ

932
อ่านแล้วน่าสนใจเลยนำข้อความมาลงเลย น่าจะเป็นประโยชน์
      อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ตอนศรัทธาอยู่ที่ใจ ไม่ต้องลอง
ในเมืองไทยมีฆราวาสที่เชี่ยวชาญในเรื่องของคาถาอาคมอยู่หลายท่าน..สำหรับที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ชื่อของ...อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่มีการพูดถึงในปัจจุบัน..

โดยเฉพาะในเรื่องของ ?เข็มทอง? และ ?เสน่ห์มอญ?... ผมเชื่อว่าเพื่อนๆที่สนใจในศาสตร์เหล่านี้ต้องรู้จักกันดี.. ผมและเพื่อนๆร่วมอุดมคติเดียวกันได้มีโอกาสไปเยี่ยมอาจารย์ประคอง ที่บ้านพักของท่านแถวๆซอยตากสิน และก็ตามประสาของคนที่ชอบเรื่องเครื่องรางของขลังละครับ การสนทนาจึงไม่ได้ออกไปนอกบริบทในเรื่องนี้เลย....
คำว่า?ไสยศาสตร์?หากเรามองกันอย่างหยาบๆ สามารถแบบออกได้เป็นสองอย่างคือ ?ไสยขาวและไสยดำ? ....
ไสยศาสตร์ดำคือวิชาที่ใช้ในการกระทำความชั่ว ผิดศีลธรรมและสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น...ส่วนไสยศาสตร์ขาวคือวิชาที่ใช้ในเรื่องที่ดี การกระทำความดี บรรเทาความเดือดร้อน..และที่สำคัญคือใช้ ?กันและแก้? การกระทำจากไสยดำ..
วิชา?ไสยศาสตร์? มักจะถูกมองจากสังคมปัจจุบันว่าเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ ไม่มีความเป็นเหตุเป็นผล แต่หากเรามานั่งคิดให้ดีแล้วจะพบว่า ?ความเชื่อ และ ความศรัทธา?..
ในเรื่องไสยศาสตร์มีอยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว เพื่อแต่ในปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิชาการสมัยใหม่ ทำให้บทบาทของไสยศาสตร์ลดลงอย่างมาก แต่จะอย่างไรก็ตามไสยศาสตร์หรือวิชาว่าด้วยคาถาอาคมก็ยังคงมีบทบาทและคงไว้ซึ่งอิทธิพลต่อสังคมไทยเสมอมา..
?ผมเรียนมาจากหลายอาจารย์?
อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ปัจจุบันอายุ ๖๙ ปี ท่านสนใจและชอบศึกษาในเรื่องของไสยเวทย์ จึงไม่แปลกที่ในวัยหนุ่มของท่านทุกครั้งที่มีเวลาว่างท่านจะออกแสวงหาครูบาอาจารย์..
จากที่ท่านเล่าให้พวกเราฟังจะมีทั้งพระเกจิอาจารย์และอาจารย์ที่เป็นฆราวาสหลายท่าน เช่น อาจารย์อุไร มนตรีกุล ซึ่งเป็นอาจารย์ฆราวาสวิชาสายวังหน้า วิชาที่เด่นๆ คือกระบี่กระบอง และการลงน้ำมันงาเพื่อความอยู่ยงคงกระพัน ที่ตั้งของสำนักอยู่ในซอยสังขจาย เจริญภาสน์  ปัจจุบันได้เลิกไปแล้ว... อาจารย์ปลูก วัดทิวไผ่ต้ำ หนองแค เรียนวิชาการต่อกระดูก ปัจจุบันยังคงมีลูกหลานของท่านอาจารย์ปลูก สืบทอดวิชาและเปิดรักษาแก่คนทั่วไป...
?ผมเรียนเพื่อเป็นประสบการณ์ชีวิต?
สำหรับวิชาการต่อกระดูกนี้ อาจารย์ประคองได้เล่าเรียนจนสำเร็จ สามารถใช้รักษาคนได้..ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาท่านได้รักษาแก่คนไปแล้วเป็นจำนวนมาก
แต่การรักษาโดยวิธีต่อกระดูกนี้มีปัจจัยต่างๆค่อนข้างมาก เช่น ต้องใช้ระยะเวลาเพราะเป็นการรักษาแบบต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีพักอาศัยชั่วคราวให้คนเจ็บ หรือบางทีก็เป็นเรื่องของคุณภาพของกระดูกซึ่งก็สัมพันธ์กับอายุ ฯลฯ..
ดังนั้นอาจารย์ประคองจึงไม่ได้เปิดรักษาแต่เรียนรู้เอาไว้เป็นประสบการณ์ของชีวิตว่าวิชาการเหล่านี้มันมีจริง อีกอย่างการรักษาแบบนี้ท่านว่าเป็นการรักษาโดยใช้ ?จิต? จึงเหมาะสมกับการรักษาเล็กๆน้อย...หากหนักๆจริงๆท่านว่าไปโรงพยาบาลจะสมควรที่สุด..
?ผมเคยถามตัวเองเหมือนกันว่า เราจะเรียนไปถึงไหน แต่พอมานึกๆอีกที ก็คนมันชอบ คนมันรักนี่นาจะให้ทำยังไง? (หัวเราะ)
หากมนุษย์เรามีชีวิตอยู่ได้เพราะปัจจัยสี่ และกับคนสมัยนี้ที่มีปัจจัยที่ห้าเป็นแพ็คเก็จเสริม เช่น รถยนต์ ฯลฯ แต่สำหรับอาจารย์ประคองแล้ว ปัจจัยที่ห้าของท่านคือ ?วิชาอาคม? และมันก็มีมาตั้งแต่สมัยน้ำท่วมกรุงเทพครั้งแรกแล้วครับ...อาจารย์ประคองต้องเดินทางโดยรถเมล์จากบางนา ไปบางพลี ขึ้นเรือเสต็ปที่ ?คลองชวดลากข้าว? เข้าไปที่ ?คลองราชาเทวะ? เพื่อไปขอเรียนวิชาจาก?อาจารย์อ๊อด สนั่นทุ่ง? ซึ่งปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ในบริเวณวัดกิ่งแก้ว..
อาจารย์อ๊อด สนั่นทุ่ง เป็นฆราวาสอาคมขลัง ลูกศิษย์ของท่านหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว เดิมเป็นอาจารย์สักแต่ในช่วงที่อาจารย์ประคองไปเรียนวิชาได้เลิกสักแล้วและหันมาเป็น ?หมอประจำตำบล ที่ได้รับการแต่งตั้งจากทางการ?
การที่จะได้รับยกย่องว่าเป็น ?ฆราวาสอาคมขลัง? ในสมัยนั้นไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ ต้องผ่านการพิสูจน์ ชื่อเสียงของอาจารย์อ๊อด สนั่นทุ่ง เริ่มจากการ ?ฉี่รดตอไม้? แล้วเรียกให้ทหารเข้าแถวยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก..
ซึ่งอาจารย์อ๊อด ได้สอนวิชานี้ให้อาจารย์ประคอง โดยเน้นที่ ?จิต?และคาถาเพียงสองตัวเป็นองค์ประกอบคือ ?โกกะ กะโก? ให้ภาวนาเดินหน้า ถอยหลัง สลับไปมา...
สำหรับวิชาด้านเสริมเสน่ห์ที่ถ่ายทอดให้คือวิชาการทำ ?สีผึ้งเจ็ดร้าน? ซึ่งในชีวิตของอาจารย์ประคองเคยสร้างขึ้นเพียงสองครั้งและเมื่อเห็นว่าทำได้สัมฤทธิ์ผลจึงได้เลิกทำ...ด้วยเหตุผลที่ว่า..
?ผมเห็นว่าเป็นวิชาที่ต้อง ?กระทำต่อคนอื่น? จึงไม่เหมาะสม จะกลายเป็นบาปซะมากกว่า? (ยิ้ม)
ครับชีวิตของคนเราหากได้มองไปในทุกมิติแล้ว ภาพของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สนใจและไขว้คว้าในเรื่องของศาสตร์ลึกลับที่ชื่อว่า?ไสยศาสตร์?จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่เหลวไหลไร้สาระ
แต่กับเป็นมุมมองให้เราได้เห็นชีวิตของคนๆหนึ่งที่คงไว้ซึ่ง?ความชัดเจนของจิตใจ? และอย่างน้อยที่สุดเด็กหนุ่มคนนี้ก็รู้ตัวว่า ?ตนเองรักและชอบอะไร?..
ซึ่งเขาก็ได้ดำเนินในเส้นทางนี้ต่อไปบนหนทางที่ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน...?ปู่วร ก้อนใบ? คืออาจารย์ฆราวาสอีกท่านหนึ่งของเด็กหนุ่มคนนั้น...
ปู่วร ก้อนใบ เป็นชาวมอญ รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว ไม่ดุ พูดจาดี สุภาพ ชัดถ้อยชัดคำ ลักษณะเฉพาะคือจะนุ่งโสร่ง พาดผ้าขาวม้า นิยมสูบยาเส้นที่มวนจากใบตอง แต่ไม่ทานเหล้า..
ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นเพราะว่า ปู่วร ท่านเคยได้รับการ ?ลงกระหม่อม? จาก ?หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ? จังหวัดพระนครศรีอยุธยา..
ผมคิดว่าหลวงพ่อสุ่นองค์นี้ เพื่อนๆที่สนใจในพระเครื่องย่อมรู้จักดีว่าท่านมี ?กิติคุณและความศักดิ์สิทธิ์? ขนาดไหน หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยก็เป็นลูกศิษย์ของท่าน...
อาจารย์ประคองเล่าให้พวกเราฟังว่า ท่านได้ไปหาปู่วร ก้อนใบ ในช่วงที่ปู่วร มีอายุเกือบจะร้อยปีแล้ว..และตาบอด ปู่วรเป็นฆราวาสที่มีอาคมเข้มแข็ง เรียกว่า ?เก่ง?เลยทีเดียวครับ
ท่านมีชีวิตที่คลุกคลีกับการเป็นหมอไสยศาสตร์ ทำของแบบรับรองผลได้เลย ไม่ใช่ประเภทสุกเอาเผากิน เวลาที่อาจารย์ประคอง จะเข้าไปเรียนมักจะซื้อ ?ขนมเปี๊ยะ? ขนาดใหญ่อันละร้อยบาท(สมัยนั้น)ไปฝาก ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของปู่วรมาก ทำให้อาจารย์ประคองได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมมามากมาย...
อาจารย์ประคองได้วิชาที่ได้รับนำมาจัดสร้างเครื่องรางให้กลุ่มลูกศิษย์ไว้ใช้กัน คือ ?ตะกรุดมอญ? หรือชื่อที่กลุ่มลูกศิษย์นิยมเรียกกันคือ ?เสน่ห์มอญ? และ ?สีผึ้งสามสี?..
และด้วยความที่ปู่วรท่านชอบทานขนมเปี๊ยะนี่เอง เวลาประกอบ?พิธีไหว้ครูหรือลูกศิษย์ท่านใดจะขอความช่วยเหลือจากปู่วร? จึงจะใช้ ?ขนมเปี๊ยะ? เป็นเครื่องบูชา ถึงอาจารย์ประคองจะได้วิชาต่างๆมามากแต่ปู่วรมักจะบอกท่านเสมอว่า....ทุกอย่างสำเร็จด้วย ?จิต?..และ..
?คนที่เก่งจริง เก่งอย่างเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องไปเก่งทุกอย่าง?
ว่ากันว่า ?ตามีไว้มอง แต่หัวใจต่างหากที่มีไว้เห็น?...ครับถึงชีวิตของปู่วร จะค่อนข้างขัดสนลำบาก เช่าบ้านอยู่ ต้องอาศัยหลานสาวช่วยคอยดูแล และเหลนที่ชื่อ ?นายชา? ขับรถสามล้อหารายได้เลี้ยงครอบครัว..
ปู่วรท่านได้ช่วยเหลือครอบครัวโดยอาศัยวิชาไสยศาสตร์ที่ได้เล่าเรียนมา ที่ทำประจำคือ การถอนของ ถอนคุณไสย์และการตั้งศาล ถอนศาล เล่าลือกันว่าหากบ้านใดได้ปู่วรไปทำพิธีให้ละก็จะนำมาซึ่งความสงบสุข...
ในการขอเรียนวิชาครั้งนี้...อาจารย์ประคองท่านได้เทียวไปเทียวมาอยู่เกือบสามปี ปู่วร ก้อนใบ ก็ได้ถึงแก่กรรม อาจารย์ประคองท่านได้เป็นธุระจนเสร็จสิ้นที่ ?วัดในสองวิหาร? จ.สมุทรปราการ
ภายหลังที่ปู่วร สิ้น ตำราต่างๆก็มีพระซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดแอบมาเก็บไป ?นายชา? ซึ่งเป็นหลานชายได้ย้ายจากบ้านเช่า นัยว่าปัจจุบันนี้ได้ไปพักอาศัยอยู่แถวๆเส้นทางสายเก่าที่จะไปจังหวัดชลบุรี....และก็เป็นความจริงที่ว่าสิ้นสุดปู่วร ก็ไม่มีทายาทสืบต่ออีกเลยนอกจากอาจารย์ประคอง..
?ลูกศิษย์ตายกันหมด ไม่มีใครอายุยืนเท่าปู่วร?(ยิ้ม)
พูดถึงเรื่องของการเป็นครูบาอาจารย์คนแล้ว โบราณท่านว่า?ต้องครบเครื่อง? คำว่าครบเครื่องคือต้องมีทั้ง หมอยา ตั้งศาล ถอนของ เมตตามหานิยม ฯลฯ ซึ่งในเรื่องพวกนี้ผมก็พ่นไปครบแล้วคงเหลืออย่างเดียวกับ ?คงกระพัน? ..
เป็นที่ทราบกันว่าอาจารย์ประคอง ท่านเป็นลูกศิษย์ของ?หลวงปู่พิมพ์มาลัย มาลโย อดีตเจ้าอาวาสวัดหุบมะกร่ำ? ที่ได้ถ่ายทอดวิชา ?เข็มทอง? ซึ่งเป็นศาสตร์ลึกลับที่เน้นในเรื่องของการภาวนา ?พุทโธ? ถือว่าเป็นแนวทางของวิชานี้ (รายละเอียดผมเคยเขียนไว้แล้ว หากสนใจลองย้อนกลับไปอ่านได้ครับ)
ถึงตรงนี้..ผมขอแทรกเกร็ดไว้นิดครับ อาจารย์ประคองบอกว่าวิชา ?เข็มทอง? ท่านได้ถ่ายทอดให้กับ ?พระอาจารย์หนุ่ม วัดบางแวก? และ ?อุณมิลิต?...
ผมจึงคิดว่าหากเพื่อนๆ ท่านใดสนใจอยากจะรู้ ?รายละเอียดที่ลึก?มากกว่านี้ให้ลองสอบถามจากทั้งสองท่านนี้จะดีกว่า
เพราะเรื่องเข็มทองเป็นวิชาที่ซับซ้อนเหลือกำลังและผมเองก็มีความรู้เพียงชั้นอนุบาลเท่านั้น อีกอย่างวิชา ?เข็มทอง? จะได้มีการขยายวงไปในแนวทางเดียวกันและถูกต้องชัดเจนน่ะครับ...( www.ounamilit.com
จริงๆแล้ว ครูบาอาจารย์ที่ท่านอาจารย์ประคองได้ไปขอศึกษายังมีอีกหลายท่านครับ เช่น หลวงพ่อจ่าง วัดหัวเสือ หลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา หลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ฯลฯ
ซึ่งอาจารย์ประคอง ก็ได้เล่าให้พวกเราฟัง เพียงแต่ว่า หากผมเอามาเขียนจนครบคาดว่าผมคงจะต้อง ?หมดลม? ซะก่อน...เอาแค่พอหอมปากหอมคอละกันครับ...
สภาพของสังคมในปัจจุบันทำให้คนเราต้องตั้งกติกาในชีวิต มีคำพูดที่เราเคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ?กฎมีไว้แหก กติกามีไว้ละเมิด? เรื่องดังกล่าวนี้ยังลามไปถึงไสยศาสตร์ที่มีกฎเหล็กว่า ?ต้องมีศรัทธา และห้ามสงสัย? ดังนั้นข่าวคราวการลองของจึงมีขึ้นเป็นประจำ....
?วิชาต่างๆ ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เข็มทองก็ไม่ร้อย..
เรื่องนี้มันพูดยาก มีปัจจัยจากหลายสาเหตุ เหนียวไม่เหนียวมีองค์ประกอบหลายอย่าง...
หนึ่งคือผู้ทำต้องเข้มแข็ง สองคือผู้รับต้องปฏิบัติดี.....
เข็มทองมันแปลก มันพูดไม่ได้แต่มันสร้างสำนึกให้คนได้ เข็มทองจะเข้มแข็งหรือไม่อยู่ที่คน ปฏิบัติได้ก็อยู่ ปฏิบัติไม่ได้ก็ไป?

 ?ผมไม่เห็นด้วยกับการลอง คนที่นับถือส่วนมากแล้วเขาจะไม่ลองกัน แต่ของน่ะมีจริง..
เขาไม่ได้สร้างไว้ให้ทดลอง เขามีไว้ให้เป็นกำลังใจ
อีกอย่างการลองของต้องรู้หลัก ไม่อย่างนั้นจะทำให้ผิดพลาดได้ คนที่เขารู้จริงจึงลองแค่นิดเดียวพอเป็นสังเขป ของที่อยู่กับตัวต้องสัมพันธ์กับวาระจิต...ถ้ารวบรวมได้ก็จะมีพลังงานมาก
ผมเคยเห็นคนทดลองฟันหน้าท้องแล้วบอกไม่เข้า อันนั้นมันธรรมดา การฟันหน้าท้องมันมีตัวช่วยเยอะ แน่จริงลองฟันหัวหรือหน้าแข้งดูซิ แล้วจะรู้?(หัวเราะ)
ครับกระแสการลองของ หากเรานั่งพินิจพิจารณาแล้ว จะทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ซ้อนเร้นอยู่ลึกๆในใจของคนไทยทุกวันนี้ ไม่มีอะไรน่าหวาดกลัวมากไปกว่าความตาย ไม่ได้กลัวตายเพราะการอดอาหารหรือไม่มีจะกิน แต่เป็นความกลัวว่าจะตายโดยสาเหตุอื่นมากกว่า...
ผมเชื่อครับ..และคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องลองของ คำว่า ?ลองของ กับลองพิสูจน์? ต่างกันนะครับ..
ลองพิสูจน์เขาทำกันแค่นิดหน่อยเอาพอรู้ แต่ลองของมักจะทำกันแบบเอาเป็นเอาตาย เป็นต้นว่าลองยิง ลองฟัน..ครูบาอาจารย์แต่โบร่ำโบราณท่านมักจะสั่งสอนลูกศิษย์ว่า การลองของทุกอย่างถือว่าเป็นการ ?ดูถูกวิชา ดูถูกศรัทธา...? 
คุณพระคุณเจ้ามีจริง ของขลังมีจริงและจะปรากฏผลในยามมีเหตุเภทภัยหรือเหตุจวนตัว..อาจารย์บางท่านถึงขนาดสาปแช่งกับผู้ที่ลองของกับวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง..
เพื่อนๆลองถามใจตัวเองดูซิครับว่าทำไปเพื่ออะไร ?เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น เพิ่มความศรัทธา?เหรอครับ...สำหรับผมแล้วเชื่อว่า

 ?ความศรัทธาเป็นสิ่งที่เราได้มาเปล่าๆ โดยไม่ได้ขโมยใครมา..?

เอาแค่พอเหมาะ พอดีกับชีวิตเราเป็นที่ตั้งก็คงพอแล้วมังครับ...



?พระพุทธเจ้าของเราท่านโปรดเทศนาสั่งสอนโลกมาสองพันกว่าปีแล้ว.. บอกให้พวกเราต้องพึ่งตัวเอง ต้องค้นหาสัจจะแห่งชีวิตด้วยสติปัญญา..

การเคารพบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่บูชาแล้วต้องหมั่นเตือนตัวเองด้วย...?

ว่ากันว่า..ระหว่างการเป็น ?คนมีชื่อเสียง? กับการเป็น ?คนธรรมดา? มีเส้นใยบางๆคั้นกลางอยู่ มันก็ช่างบังเอิญเสียเหลือเกินที่ ?ด้ายเส้นนี้?มีอยู่ในตัวตนของอาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ

อาจารย์ฆราวาสที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน ฆราวาสผู้มีฝีมือในการสร้างวัตถุมงคลที่เข้มขลังและเชียวชาญในศาสตร์ ?เข็มทอง? ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ลึกล้ำและแหวกแนว จนได้รับการยอมรับของผู้ที่มีคติความเชื่อในด้านนี้ แต่ชื่อเสียงของท่านก็มีมากพอๆกับการเป็น ?คนธรรมดา? ที่เราสามารถพบเห็นทั่วไปตามท้องถนน...
ความเป็นจริงก็คือว่า..อาจารย์ประคอง ท่านชอบใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบภายในบ้านพัก ยามเสร็จจากการปฏิบัติภารกิจประจำวัน จะใช้เวลาหมดไปกับการหมั่นภาวนา เจริญสมาธิ เพราะเรื่องเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความแข็งแรงของ ?จิต? และเป็นหลักสำคัญยิ่งของศาสตร์สายเข็มทอง..
คนในละแวกซอยตากสิน ไม่มีใครรู้เลยว่าชายชราท่านนี้คืออาจารย์ไสยศาสตร์ที่มีชื่อ แต่เมื่อไหร่ที่ท่านไปอยู่ในเขต?ซอยพาณิชย์ธนฯ หรือวัดบางแวก? เราจะได้ยินคำว่ากล่าวทักทายจากชาวบ้านทุกหลังและการกล่าวถึงท่านในฐานะ ?อาจารย์?
โลกเปลี่ยนไปมากแต่ก็ยังคงหมุนรอบตัวเองอยู่ทุกวัน..ก่อนพวกเราและอาจารย์ประคองจะแยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละคน ในฐานะ ?พี่ชาย? ของตระกูลรุ่นเจริญ ฐานะ ?เฮียกวง? ของชาวรามคำแหง หรือผมในฐานะ ?เด็กติดตาม?....สิ่งที่อาจารย์ประคองตอกย้ำกับพวกเราก็คือ...
?ของทุกอย่างไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้เชื่อมั่นในตนเอง หมั่นบูชาในพระรัตนตรัย เคารพในครูบาอาจารย์..
ใช้วิจารณญาณ พิจารณาเรื่องต่างๆอย่างมีสติให้รอบคอบ..
เพราะเรื่องไสยศาสตร์ ถึงจะไม่แน่นอน แต่มีจริงและหากไม่มีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัว มันเชื่อยาก....?

ครับ..?ศรัทธา..นั้นอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่เหนียวหรือไม่เหนียว ถูกหรือแพง ผลอยู่ที่เหตุ.....ลองว่าถึงขนาดต้องเอาการลองของมาพิสูจน์ความมีศรัทธาซะแล้ว... ก็ไม่รู้ว่าจะไปเอาสติปัญญาที่ไหนมาแก้ปัญหาที่มันยากกว่าเรื่องนี้อีกหลายเท่า...?...สวัสดีครับ
ที่มาของข้อมูล : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=291555

933
อ้าว ท่านครับ นี่สรุปรูปไม่ขึ้น เฉพาะผมคนเดียวไหมนี่ 05; 23;

934
บทสวดมนต์ / ตอบ: ลูกแก้วพญานาค
« เมื่อ: 05 เม.ย. 2552, 06:49:51 »
ผมพยายามหาข้อมูลมาให้ หากเป็น เพชรนาคคาก็ตามนี้นะครับการบูชาด้วยอามิสบูชา
กรณีที่ได้มาครั้งแรก มีเครื่องสักการบูชา ดังนี้

1. ธูป 9 ดอก

2. เทียนสีชมพูหรือสีขาว 5 เล่ม

3. ผลไม้ 9 อย่าง มีมะพร้าวอ่อน 1 คู่ กล้วยน้ำว้า(ควรมี) เป็นต้น ส่วนขนมหวานไม่ควรนะคะ เพราะเหล็กไหลมหาลาภ ท่านปู่ฤาษีท่านอธิษฐานจิตไว้ ขนมหวานบางอย่างมีส่วนผสมของคาวด้วย

4. พวงมะลิหรือพวงมาลัยอื่นๆ

5. จุดธูปเทียนตั้งนะโม 3 จบ ,ท่องไตรสรณะคม , อาราธนาศีล 5 , บทพุทธคุณ , ธรรมคุณ , สังฆคุณ

คาถาบูชาเพชรพญานาค

(นะโม๓จบ)

ปุรัสมิง ทิสาภาเค สันตินาคา
พะหิตถิกา เตปิตุมเห อนุรักขันตุ
อาโรคะเย นะสุเขนาจะ
ได้ข้อมูลมาจาก http://www.watcharathath.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=512

เพชรนาคาหรือเพชร 7 สีมณี 7 แสง เป็นของศักดิ์สิทธิ์มีอาถรรพ์พลังลึกลับอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เกิดขึ้นมา
ด้วยบุญญาธิการแห่งการบำเพ็ญเพียรพระโพธิญาณขององค์มหาพระโพธิสัตว์ที่ตั้งจิตอธิษฐานปราถนาที่จะได้ลงมา
ตรัสรู้เป็น?องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า?นับว่าเป็นความยากลำบากมาก เพราะจะต้องประกอบไปด้วยการบำเพ็ญเพียรการสร้างสมบารมีให้ครบ 30 ทัศ และต้องลงมาสร้างบารมีขั้นปรมัตถบารมีอีก 10 ชาติถึงจะสมบูรณ์ทุกประการ การสร้างบารมีบำเพ็ญเพียรนั้นจะแบ่งออกมาได้อีก 3 ประเภทคือ1.พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ต้องบำเพ็ญสร้างบารมีถึง 4 อสงไขยกำไรแสนกัป , 2.พระพุทธเจ้าสัทธาธิกะ ต้องบำเพ็ญเพียรบารมีถึง 8 อสงไขยกำไรแสนกัป ,3.พระพุทธเจ้าวิริยาธิกะ ต้องบำเพ็ญเพียรบารมีถึง 16 อสงไขยกำไรแสนกัป แค่เพียงแสนกัปนั้นก็มิอาจคาดคะเนคำนวณได้ถ้าจะนับก็เป็นล้านล้านล้านปี??.


เป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะคาดคิดคะเนได้ ที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์บรมครูได้ทรงตรัสกล่าวเอาไว้มิให้ครุ่นคิดตรึกตรองคาดคะเนเพราะเป็นเรื่อง?อจินไตย?นั้นก็คือพุทธวิสัย,การกำเนิดของโลก,ณาน,กรรมเป็นต้น เพราะเกินกำลังความรู้ความคิดคาดคะเนของมนุษย์ปถุชนคนธรรมดาที่สามารถจะกระทำได้ จะทำให้เกิดเป็นบ้าใบ้เสียสติฟุ้งซ่านเป็นความรู้ที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น มันเป็นการสร้างโลกขึ้นมา โลกแห่งความวุ่นวายในการเวียนว่ายในวัฏสงสารและไม่สามารถหาเหตุผลของทางโลกได้เลย


สิ่งที่สำคัญในปัจจุบัน จงระมัดระวังการเกิดเหตุของ?วิบัติ?ซึ่งจะแบ่งออกได้หลายข้อ แต่จะกล่าวถึงความ
?วิบัติแห่งทิฐิ?นี้ได้แก่ความวิบัติเพราะทิฐิแห่งตน ที่เกิดมีความคิดผิดเห็นผิดของตนอันไม่ถูกต้อง เพราะไปคบค้าสมาคมกับชนมิจฉาทิฐิเข้า หรือจะเป็นเหตุแห่งการไปพบสัมผัสกับอีกภพภูมิหนึ่งๆหรือว่าจะเป็นเพราะเหตุอื่นก็ตาม แล้วทำให้เกิดความคิดความเห็นที่วิปริตนอกลู่นอกทางจน?สติปัญญา?ของตนเองตามไม่ทันและไม่สามารถรู้แจ้งเห็นจริงตามสภาวะของธรรมชาติของ?เหตุและผล,เกิดและดับ?ทำให้เกิดมีความคิดความเห็นว่า? องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มี!เป็นเรี่องที่แต่งขึ้นมา , หลัง2,500 ปีหมดยุคพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน , ยุคนี้เป็นยุคพระศรีอาริยเมตไตรย , พระพุทธเจ้าแบ่งภาคจากพระนารายณ์ , พระอรหันต์ไม่มีในโลกนี้ , มรรคผล นิพาน นรก สวรรค์ บุญบาปไม่มี , สิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพพรหมเทวดาไม่มีจริง , คำสอนในศาสนาไม่มีคุณค่าไม่สามารถที่จะทำให้โลกมีสันติได้ , ตายแล้วสูญ !? ไปกันใหญ่แล้ว เพียงแค่ตนเองเกิดมาทำไม อยู่เพื่ออะไร ทำไมจะต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย หาคำตอบให้ตนเองได้ไหม! จนทำให้เกิดมีความคิดเห็นที่ไม่เข้าท่าเข้าทาง เลยทำให้ไม่มีความศรัทธาจิตที่จะเลื่อมใส ไม่มีโอกาสที่จะปฏิบัติตามกระแสพระพุทธฏีกาธรรมะอันหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงที่หาได้ยากในโลกนี้ หรือไม่ก็นำไปปฏิบัติได้ให้เกิดผลเพียงนิดหน่อย ก็คิดเข้าข้างตนเองหลงตนเองไปเปลี่ยนแปลงธรรมะคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าไปเสียนี้ นี้แหละที่เรียกว่า?วิบัติทิฐิ?ที่ต้องประสบความฉิบหายอย่างใหญ่หลวงแห่งชีวิตของตนทั้งที่ได้เกิดมาพบกับพระพุทธศาสนา


ถึงแม้สมเด็จบรมศาสดาจารย์จะเสด็จปรินิพพานไปนานแล้วก็ตาม แต่ศาสนธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ยังปรากฏอยู่ และถ้าประพฤติปฏิบัติตาม?มรรคแปดประการ?โลกย่อมไม่ว่างเว้น?พระอรหันต์?หรือเป็นแนวทางที่พาให้ตนเองก้าวพ้นสู่อบายภูมิโดยมี?นรก,ภูมิสัตว์เดรัจฉาน?เป็นที่ตั้ง ย่อมถือได้ว่าพ้นแล้วแห่งความวิบัติความฉิบหายอย่างใหญ่หลวงแล้วในชาตินี้ ย่อมไม่เสียชาติที่เกิดมาทนทุกข์ทรมาน


ตำนานการก่อกำเนิดเพชรนาคา.

นับย้อนหลังนานแสนนานไปในสมัยพุทธกาลแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป ซึ่งได้ลงมาตรัสรู้พระโพธิญาณเพื่อรื้อขนสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏะสงสารในมหาภัทรกัปนี้(ที่มีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ 5 พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่.4) ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนกึกก้องไปทั่วหมื่นโลกธาตุอนันตจักรวาลด้วยพระบารมีแห่งพระ
โพธิญาณองค์มหาพระโพธิสัตว์ เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์บังเกิด?ฝนโบกพัท?ตกลงมา ใครใคร่ให้เปียกก็เปียกใครใคร่ไม่เปียกก็ไม่เปียกด้วยพระบุญญาธิการแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป เมื่อได้ตกลงมาสู่พื้นพสุธาบางส่วนได้ประมวลตัวรวมธาตุดึงดูดธาตุทั้งสี่คือธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จนบังเกิดก่อกำเนิดเป็น?เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง?ธาตุกายสิทธิ์ขึ้นมา มีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกายรัศมีถึง 7สี ส่องแสงสว่างไปทั้งกลางวันและกลางคืนนับเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน รัศมีแห่งเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนี้ส่องสว่างครอบคลุมจนไปถึงนครใต้บาดาลดลบันดาลทำให้เกิดแสงสว่างเป็นรัศมี 7 ประการกลบรัศมีแสงสว่างอัญมณีพลอยอันมีค่าต่างๆที่อยู่ในนครบาดาลทั้งหมด จนเกิดความแตกตื่นโกลาหลไปทั่วทั้งนครบาดาล จนเหล่านาคีนาคาผู้ที่มีฤิทธิ์ต่างหาสาเหตุต่างๆนาๆถึงเหตุการณ์อันอัศจรรย์ใจนี้
จนทำให้กษัตริย์ผู้ครองเมืองนครบาดาลทั้ง 7 เมืองนามว่า?พญานาคราชสุนันโท?กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ผู้ครองเมืองนครบาดาล ที่มีเหล่าบริวารนาคีนาคาผู้มีฤทธิ์อำนาจกำลังแห่งตนมากมายนับไม่ถ้วน ได้ใช้กำลังบุญฤทธิ์ของตนอธิษฐานขอให้รู้ถึงสาเหตุของปรากฏการณ์อัศจรรย์ใจในครั้งนี้ ด้วยเหตุของกำลังบุญฤทธิ์ที่ได้สร้างสะสมมานานในสมัยอดีตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนาและได้บวชเรียนเป็นพระภิกษุสาวกแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตกาล ซึ่งได้ตั้งจิตอธิษฐาน?จะขอทะนุบำรุงรักษาพระพุทธศาสนา?ก่อนที่จะละสังขารตายลง(ขอเว้นในเหตุของกฏแห่งกรรมที่ทำให้กำเนิดเป็นพญานาคผู้มีฤทธิ์)
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ล่วงรู้ถึงการก่อกำเนิดแห่ง?เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง?ด้วยอำนาจผลบุญบารมีแห่ง?พระโพธิ ญาณขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า?และรู้ถึงหน้าที่ของตนเองที่ได้อธิษฐานเอาไว้ พญานาคราชสุนันทโทผู้เป็นใหญ่ได้แสดงฤิทธิ์อำนาจแทรกแผ่นดินขึ้นมาพร้อมกับเหล่าบริวารทั้งหลาย ขึ้นมาสู่พื้นปัฐพีมาดูต้นเหตุอัศจรรย์อันที่ทำให้เกิดความอัศจรรย์ไปทั่วพื้นพิภพใต้บาดาล ท่านพญานาคราชสุนันโทได้มีคำสั่งให้เหล่าบริวารทั้งหลายต่างแสดงฤิทธิ์อานุภาพอัญเชิญไปเก็บรักษาเพื่อประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
เหล่านาคีนาคาบริวารทั้งหลายต่างก็อัญเชิญไปเก็บตามถ้ำตามภูเขาหมวดหมู่ที่พวกตนได้สิ่งสถิตย์พักอาศัยอยู่ ส่วนหนึ่งก็ได้นำดินสีต่างๆมาพอกหุ้มเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงเอาไว้ เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาหรือน้ำมือจากพวกมนุษย์ใจคิดคดไม่อยู่ในศีลในธรรมหรือจากเหล่าเทพพรหมที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้เห็นเป็นเพียงก้อนดินก้อนหินธรรมดา อีกกลุ่มหนึ่งได้นำไปไว้ในถ้ำที่ลึกลับที่ยากจะเข้าไปได้นำไปประดิษฐสถานเอาไปไว้ในแอ่งน้ำต่างๆภายในแต่ละถ้ำที่เห็นสมควรพร้อมกับทั้งอธิษฐานบดบังรัศมีแห่งแก้วนี้เสีย จนรอเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป



.หลวงปู่เทพโลกอุดร เกี่ยวข้องกับเพชรนาคา!.


ตามความเป็นจริงแล้วผมไม่ต้องการที่จะกล่าวถึงหลวงปู่เทพโลกอุดรหรอกนะครับ แต่มีเหตุที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง?เพชรนาคา?ที่ผมได้รับและสัมผัสเป็นครั้งแรก ถ้าไม่กล่าวถึงเลยมันก็จะข้ามขั้นตอนไปเสียในความเป็นจริงที่เกิด
กับตัวผมเองและที่สำคัญผมเคารพสักการะบูชาหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์
ในวันหนึ่งผมเดินทางไปพบพี่จิม(นามสมมุติ)ที่บ้าน เพราะว่าพี่จิมได้บูชาเพชรนาคามาจากบุคลท่านหนึ่งก่อนหน้านี้หลายปีผมได้อ่านข่าวที่ลงทางหน้าสื่อพิมพ์เกี่ยวกับเพชรพญานาคว่าเป็นการหลอกลวงเรียกเงินกันเป็นแสนๆว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์เป็นของอาถรรพ์ จึงทำให้ผมไม่ค่อยจะเชื่อถือเท่าใดนักนี้นับเป็นครั้งที่จะได้เห็นของจริง
เมื่อได้สัมผัสเห็นของจริงแวบแรกที่สัมผัสเห็น ภายในจิตบอกว่า?เป็นของศักดิ์สิทธิ์?แต่ในความที่ผมได้อ่านข่าวคราวมามันเลยทำให้จิตผมขุ่นมัวต่อต้านอยู่บ้าง ผมจึงขออนุญาตินั่งเข้าสมาธิสัมผัสดู ช่วงจังหวะนั้นเองปรากฏเห็น
ภาพหนึ่งขึ้นมา?เห็นเป็นลักษณะมองเห็นทิวยอดไม้เห็นภูเขาสูง เหมือนดึงซูมภาพเข้าไปจนถึงปากถ้ำเมื่อมองลงไปด้านข้างภูเขามองเห็นสายน้ำไหลคดเคี้ยวยาวมากอยู่พื้นดินด้านล่าง ?ก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำผมถอยออกมาจากสมาธิเสียก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ( มีเนื้อเรื่องต่อ )

.รูปร่างสัณฐานสีสันของเพชรนาคา.

เพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนั้น มีรูปร่างหลายสัณฐานหลายขนาดหลายสีสัน เพชรนาคาสามารถที่จะแบ่งออกได้เป็น 3 สัณฐานใหญ่คือ


1.สัณฐานลูกรักบี้ จะมีรูปร่างกลมยาวเรียวหัว-ท้ายเรียวมนคล้ายหัวจรวด จะมีความยาวประมาณตั้งแต่ 2-3 ซ.ม.จนถึง 9-10 ซ.ม. สามารถแบ่งเป็นประเภท1.1เป็นเพชรนาคา , 1.2.เป็นเหล็กไหลชนิดดูดติดเหมือนแม่เล็ก หรือแบบดูดไม่ติด
2.สัณฐานเหมือนพลอยหลังเบี้ย จะมีรูปร่างสัณฐานแบ่งออกได้อีก 2 แบบคือ 2.1. รูปกลม(แฮม
เบอเกอร์) จะมีรูปลักษณะทรงกลมตรงกลางจะนูนขึ้นมาดังหลังเบี้ยทั้งสองด้าน ด้านข้างจะสามารถมองเห็นคล้ายขอบรอยเชื่อมของเพชรนาคา จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์ตั้งแต่ 7 มิลลิเมตรถึง 1 ซ.ม.กว่าๆ , 2.2.รูปวงรี จะมีรูปทรงเป็นวงรีตรงกลางจะนูนขึ้นมาดังหลังเบี้ยทั้งสองด้าน จะมีขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรจนกระทั่งมีความถึงยาว 1-2 นิ้ว
3.สัณฐานกลมแบบลูกแก้ว จะมีลักษณะกลมเป็นลูกแก้ว แต่สังเกตุดูดีๆแล้วบางเม็ดจะมีรอยขอบ รอบๆ มีตั้งแต่ขนาดเม็ดเท่าปลายนิ้วก้อย( ประมาณ 1 ซ.ม.)จนถึงขนาดเท่าไข่ไก่
4.สัณฐานพิเศษที่หายาก จะมีคือ?..
4.1.ลักษณะลูกสมอจันท์ จะมีลักษณะออกจะกลมคล้ายดังลูกแก้วเหมือนกับสัณฐานกลมหลังเบี้ยแบบที่.2.1 จะมีขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณเกือบ 2 ซ.ม. หรือขนาดเท่านิ้วหัวแม่โป้ง
4.2.ลักษณะเป็นเขี้ยวแก้ว จะมีลักษณะรูปทรงสัณฐานเป็นเขี้ยว จะมีความยาวประมาณหนึ่งข้อนิ้วก้อยนิดๆจนกระทั่งมีความยาว 6 - 7 นิ้ว
4.3.ลักษณะรูปหยดน้ำ จะมีลักษณะรูปทรงคล้ายหยดน้ำขนาดใหญ่ประมาณปลายนิ้วก้อย
4.4.ลักษณะเป็นฟันกราม จะมีลักษณะรูปทรงคล้ายฟันหน้าหรือฟันกรามของคน จะมีส่วนที่ยื่นออกมาดังรากฟัน จะมีหลายขนาดทั้งฟันกรามเล็กฟันกรามใหญ่
4.5.ลักษณะรูปหัวใจ
4.6.ลักษณะรูปดอกบัว
4.7.ลักษณะรูปหงอนพญานาค
4.8.ลักษณะเป็นไข่

ซึ่งเพชรนาคานั้นจะมีสีสันที่สวยงามส่องแสงเป็นประกายมาก ยิ่งเอาไปส่องด้วยแสงไฟจะส่องเป็นประกายสีถึง 7 สีและจะมีความมันเงาแวววาว บางสัณฐานภายในคล้ายกับมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่หรือคล้ายกับมีดวงตาซ้อนอยู่ภายใน แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจนนั้นจะเป็นสัณฐานเหมือนพลอยหลังเบี้ย จึงนับว่าแปลกอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
มีผู้ที่มีความชำนาญในการดูพลอยบอกว่า ถ้าพลอยดีชั้นดีเวลาส่องดูจะเห็นเป็นแถบสายรุ้งถ้าเป็นพลอยรองลงมาเวลาส่องดูจะเห็นเป็นประกายของสี ทั้ง 7 สี เมื่อนำเพชรนาคานำมาส่องดู(แบบสัณฐานที่2)บางเม็ดด้านหนึ่งส่องดูเห็นเป็นแถบสีพอพลิกดูอีกด้านหนึ่งส่องดูเห็นเป็นประกายสีเหมือนมีชีวิตเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก


ซึ่ง หลวงปู่พวง สุวีโร วัดป่าปูลูสันติวัฒนา จ.อุดรธานีได้เล่าให้ฟังว่า?ลูกศิษย์ท่านได้นำไปตรวจสอบตรวจดูที่ต่างประเทศ ซึ่งผลปรากฏว่ามีคุณค่าเกือบจะเท่าอัญมณี แต่ก็ถือว่าเป็นแร่รัตนชาติชนิดหนึ่งที่มีคุณค่า?
การแบ่งสีสันของเพชรนาคานั้นสามารถที่จะแบ่งออกได้ 3 ประเภทก็คือ 1.สีอ่อนแต่ใส 2.สีเข้ม 3.สีเข้มออกโทนเทาดำ จะมีอานุภาพพลังที่แตกต่างกันไปตามสีสันและตามขนาดสัณฐานด้วย ยิ่งออกเป็นสีในประเภทที่ 3.ยิ่งมีพลังลึกลับอาถรรพ์เพิ่มมากขึ้น


การแบ่งตามวรรณะตามโทนสีของเพชรนาคา สามารถแบ่งออกได้คือ1.สีน้ำเงิน วรรณะกษัตริย์ 2.สีฟ้าน้ำทะเล วรรณะเชื้อพระวงศ์ 3.สีเขียว วรรณะนักบวช,ผู้ทรงศีล 4.สีแดง วรรณะนักรบ,ขุนพล 5.สีม่วง วรรณะขุนนาง 6.สีขาว วรรณะ กลาง 7.สีเหลือง,สีส้ม,สีชมพู วรรณะทั่วไป

ความหมายตามสีสันของเพชรนาคา ก็คือ

1.สีขาว หมายถึง พลังบารมีพุทธคุณหรือบารมีขององค์มหาพระโพธิสัตว์ ที่ได้ทรงบำเพ็ญเพียรถือศีลภาวนาปฏิบัติธรรมลดละกิเลสตัณหาอุปทาน ให้วางจิตให้อยู่ในสายกลางไม่มีบุญไม่มีบาป มีสติเป็นผู้รู้(เกิดปัญญา)เท่าทันในสภาวะปัจจุบัน เกิดความใสสะอาดบริสุทธิ์ มีจิตใจเยือกเย็นหนักแน่นมั่นคงไม่หวั่นไหวง่ายๆ เหมาะกับผู้ที่มีจิตใจอ่อนไหวรวนเรไม่มีความมั่นใจ


2.สีแดง หมายถึง สีแห่งกำลังฤทธิ์อำนาจ กล้าหาญเด็ดเดียวความคิดฉับไหวเฉียบคมดุดัน ตัดสินใจรวดเร็วตรงเป้าหมายทันอกทันใจ เป็นที่เคารพน่าเกรงขาม ผู้ที่ได้ครอบครอบเพชรนาคาสีแดงนี้จะต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมฝึกฝนให้จิตมี?สติ?รู้เท่าทันอารมณ์มิเช่นนั้นจะเกิดผลกระทบที่ไม่ดีเกิดขึ้นทั้งตนเองและผู้อื่น สีแดงเป็นสีที่บ่งบอกถึง?โทสะ
จริต?ที่มีความต้องการให้ทันอกทันใจรวดเร็ว บางครั้งไม่เป็นตามที่เราต้องการก็จะเกิดอารมณ์โมโหโกรธขึ้นมานี้ละตัวร้าย ยิ่งเพชรนาคาที่มีสีเข้มขึ้นมากเท่าใดยิ่งจะมีพลังทางลบมากเท่านั้น มันจะเผาผลาญทั้งกายและจิตใจให้เกิดความหม่นหมองมืดมัวเศร้าสร้อยไปทางทุคติที่ไม่ดี


2.1.สีแดงพิเศษ?จะมีเฉพาะเม็ดขนาดใหญ่จัมโบ้ รูปวงรีความยาวประมาณ 3 ซ.ม.ขึ้นไป จะเป็นสีที่พลังอานุภาพฤทธิ์อำนาจสูงกว่าสีปกติมาก เพราะจะเป็น?เพชรนาคาสีแดงขอบดำ?ครูบาอาจารย์บอกว่า?เป็นพลัง
อนันตจักรวาล? ผู้ที่สามารถที่จะครอบครองได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนาบารมีที่ได้สร้างสมมาจากอดีตชาติไว้มาก
หรือและต้องเป็นผู้ที่มี?จิต?เป็นฤทธิ์เดชตบะมหาอำนาจที่ฝึกฝนมาทางนี้ มิเช่นนั้นไม่สามารถที่จะรองรับพลังอานุภาพของเพชรนาคาที่มีพลังอนันตจักรวาลได้


3.สีเขียว หมายถึง อำนาจจิตที่มีความเมตตาเย็นกายเย็นจิต มีเดช ตบะบารมีของผู้ทรงธรรมที่มีจิตสัมผัสทาง
โลกลี้ลับเหล่าเทพพรหมเทวดา มีพลังอำนาจลี้ลับไหลเวียนเป็นกระแสล้อมรอบตัว ทำให้จิตมีความสงบเยือกเย็นมั่นคงแคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ ยิ่งสีเข้มยิ่งมีอานุภาพของพลังที่สื่อผ่านมาจากเพชรนาคาจนเย็นยะเยือก เป็นที่เคารพนอบน้อมเป็นที่น่าเชื่อถือไม่ว่าจะทำสิ่งใดพูดจาอะไร เป็นเหตุที่เกิดมาจากการบำเพ็ญเพียรตบะบารมี?สัจจะอธิษฐาน?ที่ไม่พูดปดมดเท็จหลอกลวงตลบแตลง และเป็นสีของกายทิพย์ผู้เป็นจอมเทพใหญ่ในสวรรค์ชั้นฟ้าทรงช้างเอราวัณ 3 เศียรที่มีอำนาจฤิทธานุภาพจ้าวแห่งสรวงสวรรค์แห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์


4.สีเหลือง หมายถึง ความนุ่มนวลมีสง่าราศีสีที่แสดงถึงความมั่งคั่งมีโชคมีลาภไหลมาเทมา มีความเจริญสดใสรุ่งเรืองดัง?ทองคำ?ที่มีคุณค่าในตัวเอง กระแสแห่งสียิ่งสีสดใสเท่าใดยิ่งมีกระแสแห่งโชคลาภทรัพย์สินเงินทองเปล่งประกายมากขึ้นเท่านั้น เป็นกระแสที่ทำให้น่าเกรงขามเคารพศรัทธาในความมีสง่าราศีดังเจ้าขุนคุณนายเจ้าพระยาผู้มีศักดิ์มีศรี จะได้รับการช่วยเหลืออนุเคราะห์สงเคราะห์ทำให้หน้าที่กิจการเจริญก้าวหน้าราบรื่น


หมายเหตุ?ผู้ใดได้เพชรนาคาสีเหลืองไว้ครอบครองจะต้องมีจิตใจที่ชอบทำบุญทำทานเป็นนิจวัตร มีน้อยทำน้อยมีมากเท่ามากตามกำลังของตนเองและต้องเป็นผู้ที่อยู่ในศีลในธรรม ยิ่งจะส่งผลให้เกิดกระแสแห่งทานบารมีที่บริสุทธิ์ส่งเสริมพลังเพชรนาคาสีเหลืองและองค์เทพที่รักษาดูแลมีบุญบารมีเพิ่มขึ้น


5.สีส้ม หมายถึงพลังแห่งการป้องกันภัยจากอาวุธภัยอันตรายต่างๆ เป็นพลังที่มีความคิดเด็ดเดียวกล้าหาญกล้าคิดกล้าทำกล้าที่จะเผชิญและเป็นผู้ที่มีความคิดก้าวหน้ายุติธรรมไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เป็นกระแสพลังที่ป้องกันและลดสลายอุปสรรคพลังที่ไม่ดีที่เข้ามากระทบ กระทำให้บุคคลใดผู้ใดที่คิดจะมาเบียดเบียนต้องพ่ายแพ้ตนเองไปในที่สุด มีเทพที่มีคุณธรรมดูแลปกปักรักษา และเป็นสีแห่ง?พระบารมีขององค์พระสยามเทวาธิราช?องค์มหาเทพที่ดูแลปกปักรักษาคุ้มครองประเทศชาติ,ศาสนา,พระมหากษัตริย์ จากภัยอันตรายจากศัตรูผู้ไม่เป็นมิตรที่คิดมากระทำย่ำยี


6.สีม่วง หมายถึง พลังที่มีอำนาจลึกลับยากที่จะหยั่งถึงได้ ดังคำว่า?รู้หน้าไม่รู้ใจ? เกี่ยวข้องจิตวิญญาณโอปาติกะภูติผีปีศาจทำให้เกิดความเกรงกลัวไม่กล้าที่จะคิดไม่ดีกระทำไม่ดี เหมือนมีพลังลึกลับจ้องมองอยู่ ยิ่งสีที่เข้มจนเกือบดำไม่ต้องพูดถึงมีพลังลึกลับอานุภาพมากขึ้นเป็นทวีคูณ ป้องกันภูติผีปีศาจคุณผีคุณคนคุณไสยการกระทำย่ำยีต่างๆให้เสื่อมสลายหายไป และเป็นสีที่สามารถดูดซับพลังอำนาจลึกลับทั้งดีและไม่ดีได้ขึ้นอยู่กับผู้ที่เป็นเจ้าของ


หมายเหตุ?บุคคลที่มีวาสนาครอบครองเพชรนาคาสีม่วงนี้จะเป็นคนที่มีพลังลึกลับหรือมีสัมผัสพิเศษเรื่องลึกลับบางคนอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้และเป็นคนที่ช่างคิดช่างตรึกตรองเจ้าวางแผน ถ้ามีมากจนกระทั่งออกไปทางหน้ากลัว อาจจะเกิดผลเสียหรือเกิดพลังที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น ควรที่จะฝึกปฏิบัติจิตให้มีความเมตตาหนักแน่นปล่อยวางจากอารมณ์ที่มากระทบ ให้จิตมีแต่ความโปร่งใสบริสุทธิ์จะทำให้อานุภาพของเพชรนาคาสีม่วงนี้จะเปล่งประกายออกมาครอบคลุมทั่วร่างตลอดเวลา เสมือนเกราะแก้วคุ้มครอง


6.1.สีม่วงพิเศษ? จะมีเฉพาะเม็ดขนาดใหญ่จัมโบ้ รูปวงรีความยาว 3 ซ.ม.ขึ้นไป จะเป็นสีที่มีพลังฤทธิ์อำนาจแห่งความลึกลับแห่งจิตวิญญาณโอปาติกะ ป้องกันอาถรรพ์การกระทำคุณไสยคุณผีคุณคนการกระทำย้ำยีต่างๆผูก
พยนต์ฝังรูปฝังรอย ทำให้เกิดการสลายเสื่อมอานุภาพ ศัตรูหมู่มารต่างสยบไม่กล้าที่จะคิดร้ายกระทำไม่ดี มีอานุภาพแผ่พลังครอบคลุมเป็นปริมณฑลได้ทั้งบ้าน แต่ก็ขึ้นอยู่ผู้ที่เป็นเจ้าของครอบครองมีจิตสะอาดอยู่ในศีลในธรรมหรือไม่เป็นหลัก ยิ่งที่เป็นผู้ที่ปฏิบัติทางจิตจะยิ่งเปล่งประกายของอานุภาพรัศมีกว้างขึ้น


7.สีฟ้า หมายถึง ถึงผู้ที่มีบุญวาสนาที่ได้สร้างสมมาในอดีต มีน้ำใจกว้างขวางใสสะอาด น่าเคารพนอบน้อมดังเพื่อนสนิทมิตรสหายสนิทชิดเชื้อกันมานาน พูดจาเจรจาพาทีเข้าทีเข้าท่าติดต่อค้าขายคล่องตัวลื่นไหลสะดวก เป็นผู้ที่
มีบุญฤทธิ์ที่เหล่าเทพยดาดูแลค้ำชู เดินทางไปไหนมาจะมีความสะดวกสบาย


8.สีน้ำเงิน หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจวาสนาบารมีสูงมีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์บารมี เป็นผู้นำผู้ปกครองมีทั้งเดชตบะบารมีเป็นที่เคารพน่าเกรงขามมีขุมทรัพย์มหาศาลที่ซ้อนเร้นอยู่ ดังร่มโพธิ์ร่มไทรที่แผ่กิ่งก้านร่มเย็นที่พักพิงแก่สรรพ

สัตว์ มีพลังที่ป้องกันศัตรูภัยอันตรายต่างๆทั้งแปดทิศ จะต้องมีเทพพรหมเทวดาดูแลปกปักรักษาตลอดเวลาเสริมสร้างบารมียิ่งขึ้น


หมายเหตุ?ผู้ที่บุญวาสนาได้ครอบครองจะต้องเป็นผู้ที่บุญวาสนาบารมีมาในอดีตชาติที่สร้างสมมานาน และต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมประจำใจ มิฉะนั้นจะเกิดอาถรรพ์ที่ไม่ดีแก่ผู้ที่ครอบครองเกิดความวิบัติ อย่าหลงอดีตอย่าบ้าอำนาจอย่าอวดเก่งหลงตัวเอง จงทำจิตให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดคือการปล่อยวางจากกิเลสตัณหาอุปทาน


9.สีชมพู หมายถึง สีแห่งพลังอานุภาพเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์มหานิยมนิ่มนวลอ่อนโยน มีความโดดเด่นสะดุดตาดึงดูดสำหรับเพศตรงข้ามและผู้คนรอบข้างผู้ที่เกี่ยวข้อง จะทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความเมตตาช่วยเหลืออย่างน่าอัศจรรย์ใจ ยิ่งสีชมพูเข้มออกสดใสยิ่งมีพลังมหาเสน่ห์ดึงดูดเป็นที่รักใคร่เป็นที่พึงปรารถนาดังนางพญาที่สูงศักดิ์สง่างดงามอย่างน่าประหลาด


หมายเหตุ?ผู้ที่ได้ครอบครองจะต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจที่ดีงาม ไม่นำพลังไปใช้ในทางไม่ดีดัง?ปากหวานก้นเปรี้ยวเลี้ยวตลบแตลง?ยิ่งกระทำกับเพศตรงข้ามจนกระทั่งผิดศีลในข้อที่ 3 จนเกิดความทุกข์กายทุกข์ใจ บั้นปลายท้ายสุดแล้วจะอเน็จอนาถน่าสังเวชเป็นอย่างมาก เมื่อผลกรรมนั้นมาตอบสนอง


10.สีชา(สีพิเศษ) หมายถึง สีที่มีพลังอานุภาพสามารถที่จะยับยั่งอารมณ์ความคิดที่ใช้แต่อารมณ์ ทำให้สติปัญญาความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ถูกที่ควรที่ตามไม่ทัน จนกระทำพลาดพลั้งผิดพลาดไปจนเกิดความเสียหาย เหมาะกับผู้ที่ขาดแหล่งพึงพิงทางจิตใจหรือผู้ที่มีจิตใจเลื่อนลอยเสร้าเสียใจผิดหวังท้อแท้ และมีความพิเศษก็คือจะมีอานุภาพทางมีโชคมีลาภอย่างที่คาดไม่ถึง ( เป็นสีที่หาพบได้ยาก )
แต่ตามความเป็นจริงแล้วในการบูชาเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนั้น มิใช่บูชาตามความหมายของสีว่าสีนี้ดีอย่างนี้แบบนั้นหรือสีที่เหมาะกับวันเกิดเดือนเกิดแล้วจะได้ตามนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับบุญวาสนาบารมีที่ได้สร้างสมกันตั้งแต่ในอดีตชาติและเคยได้เป็นเจ้าของกันมาก่อน ผนวกในปัจจุบันเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในศีลในธรรมเป็นที่ตั้ง มิฉะนั้นแล้วจะเกิดอาถรรพ์เพทภัยไม่ดีกับตนเอง จึงจำจะต้องมีการอธิษฐานจิต?เสี่ยงบารมี?ตามกำลังบุญวาสนาบารมีของตนเองว่า?สีใดแบบใด?จะคู่ควรกับบุญวาสนาบารมีของตัวเรา หรือได้คำแนะนำจากครูบาอาจารย์ผู้รู้เท่านั้น.

.การอธิษฐานจิตบูชา.

การอธิษฐานจิตบูชา?เพชรนาคา?นั้นมีเครื่องสักการะบูชา 1.ธูป 5 ดอก ,2.เทียน 2 เล่ม ,3.พวงมะลิหรือพวงมาลัย จุดธูปเทียนตั้ง?นะโม 3 จบ ,ท่องไตรสรณคม , อาราธนาศีล 5 , บทพุทธคุณ , ธรรมคุณ , สังฆคุณ และคาถาบูชา อม อุ อะ มะ นะ โม พุท ธา ยะ ยะ สะ สุ มัง ? ต่อด้วยการตั้งจิตอธิษฐานตามที่ต้องการ(ไม่เกินกำลังของกฏแห่งกรรม)
ต้องการทำนำมนต์ โดยการหาขันใส่น้ำสะอาด อัญเชิญ?เพชรนาคา?ลงแช่ในน้ำ พร้อมกับการจุดธูปเทียนบูชาท่องคาถา พร้อมกับสำรวมกายวาจาใจให้สงบนิ่งสักอึดใจหนึ่ง แล้วตั้งจิตอธิษฐานด้วยความแน่วแน่ตั้งมั่นจบด้วยบทแผ่เมตตา เมื่อสำเร็จสมหวังดังที่ได้อธิษฐานทุกครั้ง จะต้องทำบุญใส่บาตร,ถวายสังฆทาน,ถวายพระพุทธรูป เป็นต้น อุทิศถวายให้?พระแม่ธรณี,หลวงปู่เทพโลกอุดร,ปู่ทวดนาคราชสุนันโท,นาคานาคีเงือกบริวารทั้งหลาย ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรเป็นที่ตั้ง? ซึ่งจะเป็นการสร้างกุศลผลบุญบารมีไปในตัว
การอธิษฐานเพชรนาคา 9 สี?นำมาบรรจุรวมกันในภาชนะเดียวกัน แล้วอธิษฐานและหมุนตามเข็ม
นาฬิกา คือหมุน 1 ครั้งป้องกันภัย ,หมุน 2 ครั้งป้องกันภูติผีปีศาจ ,หมุน 3ครั้งขอโชคลาภ ,หมุน 4 ครั้งสะท้อนป้องกันสิ่งไม่ดี( ป้องกันการทำร้ายจากศัตรู ) ,หมุน 5 ครั้งป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน ,หมุน 6 ครั้งรักษาโรค ,หมุน 7ครั้ง

ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ( สามี,ภรรยารัก ) ,หมุน 8 ครั้งถ้าไม่สบายรักษาตนเอง ,หมุน 9 ครั้งชนะศัตรูหมู่มาร
หลังจากเสร็จสิ้นจากการที่นำเพชรนาคาติดตามตัวเช่น เป็นเครื่องประดับเป็นหัวแหวน,เป็นจี้ห้อยคอ,เป็นสร้อยข้อ
มือก็ตาม หรือนำมาบูชาเอาไว้ที่บ้าน ควรที่จะจัดหาพานรองรับตามความเหมาะสมวางผ้าแดงผ้าขาวรองพื้นก่อนที่นำเพชรนาคาหรือเครื่องประดับที่มีเพชรนาคาวางลงบนพาน และจัดหาขันหรือถ้วยใส่น้ำสะอาดโรยมะลิร่วงวางบูชาไว้ตรงด้านหน้าพานที่วางบรรจุเพชรนาคาอยู่ ควรจะเปลี่ยนน้ำสะอาดทุกวันหรือวันเว้นวันตามความเหมาะสม น้ำที่วางบูชาเพชรนาคานี้เป็นน้ำมนต์ที่มีพลังอานุภาพ ใช้ดื่มกินอาบราดทั่วตัวไล่สิ่งไม่ดีสิ่งไม่ดีเสนียดจัญไรที่มาเกาะติดตามตัวเรา เพื่อเป็นสิริมงคลเป็นเกราะคุ้มกันปกป้อง พร้อมระลึกขอบารมีปู่ทวดนาคราชสุนันโทกำหนดเห็นเป็นรูปองค์พญานาคมาขดล้อมรอบตัวของเราส่องแสงสว่างเป็นรัศมีกระจายรอบตัวประมาณ 1 วา
หรืออาจจะหาขันหรือภาชนะที่ใส่น้ำสะอาด พร้อมขันหรือภาชนะเล็กที่ลอยน้ำได้เพื่อนำเพชรนาคาหรือเครื่องประดับมีเพชรนาคาวางอยู่ในขันหรือภาชนะที่ลอยน้ำได้อีกทีหนึ่ง

.บ่งบอกลักษณะผู้เป็นเจ้าของ.

?เพชรนาคา?นั้นสามารถบ่งบอกลักษณะนิสัยหรือข้อติดขัด(วาระกรรม)ของผู้ที่ครอบเป็นเจ้าของ เพราะธาตุกายสิทธิ์นี้ เมื่อได้เลือกผู้ใดบุคคลใดจะ?เชื่อม?กำลังบารมีซึ่งกันและกันคล้ายดังเป็นดวงจิตเดียวกัน มีพลังอำนาจที่จะบ่งบอกจุดบกพร่องจุดที่จะต้องพัฒนาเพื่อยกระดับภูมิจิตภูมิธรรมและเพื่อแก้ไขสภาวะกรรมที่เป็นอกุศลที่ได้ตามติดมาจากอดีตที่จะส่งผลในชาติปัจจุบันนี้(ไม่เกินกฎแห่งกรรมที่หนัก)
ที่สำคัญเพชรนาคานี้สามารถ?ขยายโตใหญ่และเล็กลงได้ เกิดความขุ่นใสเปลี่ยนสีได้?ตามระดับภูมิจิตภูมิธรรมของผู้ที่ครอบครองประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรมแค่ไหน
เพชรนาคามีพลังงานของธรรมชาติที่สะสมประมวลธาตุมานานหลายล้านล้านปีประมาณมิได้ ย่อมสามารถที่จะ ?เปิดสภาวะกรรม?ให้รู้ให้เห็นได้และมีพลังที่สามารถลดกระกรรมหนักให้สลายเป็นเบาได้ แต่ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสภาวะกฏแห่งกรรมได้ นอกจาก?จิต?ผู้เป็นเจ้าของต้องเป็นผู้พฤติปฏิบัติในแนวทาง? ศีลอริยะมรรค?ก่อกำเนิดพลัง?โลกุตระ?ยกภูมิจิตยกภูมิธรรมให้จากอบายภูมิมีสัตว์และสัตว์เดรัจฉานเป็นการ?อโหสิกรรม?กันไป



.พิสูจน์.

วันที่ 26 มกราคม 2544 เวลาประมาณเกือบบ่ายสองโมง มีคนผู้หนึ่งโทรมาคุยเรื่องเพชรนาคาและเรื่องพญานาค (ต้องขออภัยจำชื่อมิได้ แต่มีเบอร์หมายเลขโทรศัพท์ 01 315-5571) คุยกันถึงรูปภาพพญานาคของนายทหารอเมริกันที่จับปลาประหลาดได้ที่แม่น้ำโขงฝั่งประเทศลาว ซึ่งจะมีลักษณะลำตัวแบนและยาวมากก็ยังมีข้อถกเถียงเป็นอย่างมากฝ่ายหนึ่งบอกว่าเป็นปลาโบราณ อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าเป็นเผ่าพันธุ์พญานาคที่จะแสดงให้ชาวโลกรู้ว่ายังมีเผ่าพันธุ์พญานาคมิใช่เรื่องงมงาย เรื่องจะจริงเท็จเพียงใดก็ไม่ทราบ แต่ทุกวันเข้าพรรษาและวันออกพรรษาชาวริมแม่น้ำโขงจะเห็นปลาประหลาดพวกนี้ว่ายกันมาเป็นฝูง แล้วก็ว่ายหายตัวไประหว่างที่เห็นตัวนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไรคงจะกลัวอาถรรพ์ ดังเรื่องบั้งไฟพญานาคที่ทุกปีของวันออกพรรษาของลาวจะเกิดมีลูกไฟหรือดวงไฟพวยพุ่งขึ้นมาจากลำน้ำโขงสู่อากาศแล้วหายไปเลย ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้จนกระทั่งบันนี้เพราะหาข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้
มาถึงเรื่องเพชรนาคา บุคคลผู้นี้บอกว่าเพชรนาคามิใช่เป็นแก้ว แต่จะเป็นหินที่ใสเป็นแก้วเพราะเขาได้ทดลองใช้ไฟเผาดู ถ้าเป็นแก้วจะหลอมละลายมีการหดตัวของเนื้อแก้ว ส่วนเพชรนาคานี้เมื่อโดนไฟเผารนจะไม่มีการหดตัวหรือละลายเหมือนแก้ว แต่จะกลายเป็นสีแดงจากการทนความร้อนสูงที่เผาไหม้จนกระทั่งในสุดท้ายแตกออกมาเป็นเสี่ยงเสี่ยง
ผมจึงถามว่าคุณทดลองเผาเพชรนาคาเองใช่ไหม เขาตอบว่าใช่ผมจึงต้องบอกเขาให้จุดธูปเทียนบูชาเพื่อขอขมาในสิ่งที่กระทำไปแล้ว โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์มิเช่นนั้นจะมีโทษในภายหลัง หลังจากที่กำลังบุญดวงชะตาบารมี
ของตนเองตกต่ำลงมา อาจจะเกิดในลักษณะผีซ้ำด้ามพลอยหรืออาจจะมีเหตุการณ์ที่จะทำให้ดวงชะตาชีวิตหน้าการงานกำลังรุ่งเรืองกับติดขัดไม่สมบูรณ์เกิดสะดุดอยู่ตลอดเวลา เพราะไปลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามก็ยังมีผลที่ติดตามมา ( มีเนื้อเรื่องต่อ )

.ผลมณีนาคราช.


และอีกอย่างที่แปลกประหลาด เมื่อดูก้อนดินที่แข็งคล้ายหินดูจากภายนอกดูแล้วจะมีความรู้สึกว่าเก่าคงมีอายุนานมาก พอนำมากระเทาะดูเนื้อภายในแล้วไม่น่าที่จะมีอายุตามที่คิด แต่ก็คงมีอายุนานมากพอสมควรซึ่งกลายสภาพแข็งคล้ายหินได้ และที่สำคัญถ้าคิดว่าเป็นการทำขึ้นมาจะทำได้อย่างไรที่จะทำให้ภายในกลวงและมีผงติดรวมกับเพชรนาคาได้?! คล้ายดังผลมณีโคตรที่มีขนาดตั้งแต่ลูกมะพร้าวกระทั่งเท่าไข่ไก่ ภายในจะมีผงสีเหลืองบางสีขาวบางและสามารถที่จะละลายน้ำได้ อธิษฐานกินเป็นยารักษาโรคได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ บางก้อนเมื่อกระเทาะออกมานำผงไปละลายน้ำจะมีบางส่วนที่ไม่ละลาย จะมีลักษณะคล้ายเม็ดกรวดเป็นแก้วขาวใสสัมผัสได้ว่าเป็น?พระธาตุ?มิใช่จะมีอยู่ในทุกก้อน ( มีเนื้อเรื่องต่อ )

.ลูกแก้วเสด็จหรือเพชรนาคา !.

เป็นวัตถุธรรมชาติที่มีพลังอานุภาพอยู่ในตนเองต้องอาศัยระยะเวลานานหลายพันหลายหมื่นปีในการรวมธาตุ
ทั้งสี่จนแปรสภาพให้มีความแข็งแกร่งสดใสงดงามเช่นนี้ ได้ดูดซับแร่ธาตุต่างๆและพลังสุริยันจันทราสะสมจนเกิดมี

พลังอานุภาพในตนเอง และมีเทพเทวดารักษามาสถิตย์ดูแลรักษาเพราะเป็นทรัพย์สมบัติของพระศาสนาที่รอเวลาปรากฏขึ้นมาทำประโยชน์ให้กับพระศาสนา ซึ่งเทพเทวดาในแต่ละองค์ย่อมมีอิทธิฤทธิ์บุญฤทธิ์และคุณธรรมที่แตกต่างกันไป ก็ยังมีนิสัยในกมลสันดานของจิตอยู่บ้างคล้ายกับมนุษย์เดินดินธรรมดาอย่างคนเรา
ผู้ที่ได้มีวาสนาครอบครองควรพึงสังวรระมัดระวังให้ดีอยู่ในศีลในธรรมอย่าให้ออกนอกลู่นอกทางจะไม่เป็นมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เพราะอานุภาพของเพชรนาคาที่จะเปล่งอานุภาพได้เต็มที่นั้นจะต้องประกอบไปด้วยคุณธรรมและบารมีของผู้ที่ครอบครอง
เพชรนาคานั้นเมื่อนำมาโดนแสงสว่างยิ่งส่องแสงเป็นประกายสวยงามแวววาวจับตามากขึ้น นับว่าเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก และมีความแข็งแรงทนทานต่อการตกหล่นกระทบกัน เมื่อนำเพชรนาคามาลองกรีดบนแก้วน้ำจะทำให้แก้วน้ำเป็นรอยกรีด ส่วนเพชรนาคาจะไม่เป็นรอยขูดขีดและที่สำคัญตรงรอยขอบของเพชรนาคาแบบ

สัณฐานที่.2 จะมีความมันลื่นไม่สากมือเหมือนรอยเจียระไนหรือขอบรอยอัดของพลอยอัด(มีการทำเลียนแบบแล้วนำเข้าพิธีปลุกเสก)
เพชรนาคานั้นจะมีความพิเศษซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับบุญวาสนาบารมีและการประพฤติปฏิบัติของผู้ที่ครอบครองเพชรนาคา เพราะสามารถที่จะเปลี่ยน?สี?จากสีอ่อนเป็นสีเข้มหรือเปลี่ยนเป็นสีต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจและเปลี่ยนเป็นขุ่นหรือใสตามสภาวะจิตของผู้ครอบครอง ที่สำคัญไปกว่านั้นสามารถที่จะ?เสด็จ?ไปมาเพิ่มขึ้นได้คล้ายดัง
?พระธาตุเสด็จ? คงเคยจะได้ยินคำกล่าวจากผู้เฒ่าผู้แก่หรือครูบาอาจารย์ที่ได้พบเห็น?ลูกแก้วเสด็จ?ผุดมาจากพื้นดินแล้วพุ่งลอยขึ้นไปเป็นดวงแสงสว่างไสวลอยวนเวียนไปมาแล้วก็หายไป แต่ก็มีครูบาอาจารย์บางองค์ที่มีลูกแก้วเสด็จไว้ครอบครองเช่น พระอาจารย์บรรลังก์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทยโสธร จ.ยโสธร เป็นศิษย์เจ้าคุณโฮมอดีตเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯสายพระกรรมฐานหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มีลูกแก้วเสด็จมาปรากฏไว้ให้ท่านพระอาจารย์ครอบครองไว้จำนวนหนึ่งนับว่าเป็นบุญวาสนาบารมีธรรมของพระอาจารย์บรรลังก์
?ลูกแก้วเสด็จ?อาจจะเป็นหนึ่งใน?เพชรนาคา?แบบสัณฐานที่.3 (กลมเป็นลูกแก้ว) ก็เป็นไปได้ เพราะเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่มีอานุภาพมีเหล่าเทพเทวดาดูแลรักษา ที่จะนำมามอบให้กับผู้ที่มีบุญวาสนาบารมีธรรมหรือเคยเป็นเจ้าของดังเดิมมาจากในอดีตชาติปางเก่า
ที่มาของข้อมูล :  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=162588
หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ

935
หากรูปไม่ขึ้นนี่ตอบยากเลยท่านครับ ท่านพยายามลงให้ให้ได้นะครับ แต่หากท่านอยากได้ของบางพระแท้ๆรบกวนมาบูชาที่วัดกุฏิใหญ่เลยครับ รับรองของแท้แน่ๆ

936
ตรงตามที่เจ้าของกระทู้ต้องการทราบและกระผมพลอยได้ความรู้ไปด้วย ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบนะครับ

937
กระผมขอลงพระประวัติ  กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์
          พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทรงได้รับสมัญญาเป็น องค์บิดาแห่งกองทัพเรือ ซึ่งทหารเรือยกย่องและเทิดทูนพระเกียรติคุณอย่างสูงสุด เนื่องจากพระองค์ทรงริเริ่มวางรากฐานกิจการทหารเรือและนำความเจริญมั่นคงและรุ่งเรืองมีสมรรถภาพสู่กองทัพเรือเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ทำให้ทัพเรือไทยทันสมัยมีมาตรฐาน และเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยะประเทศ
กองทัพเรือจึงกำหนดให้ 19 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น วันอาภากร ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ เพื่อเป็นการเทิดทูน เผยแพร่พระเกียรติคุณ และแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่าน



ทรงเครื่องแบบนักเรียนนายเรือไทย ทรงฉายประมาณ ก.ย. ๒๔๔๐
  พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทรงพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อ 19 ธันวาคม 2423 เป็นพระเจ้าลูกยาเธอองค์ที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ผู้บัญชาการทหารเรือวังหลวง

 ทรงเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือจากประเทศอังกฤษ ทรงมีจุดประสงค์แรงกล้าจะฝึกให้ทหารเรือไทยเดินเรือทะเลได้อย่างชาวต่างประเทศ และสามารถรบทางเรือได้ เนื่องจากอดีตประเทศไทยต้องว่าจ้างชาวต่างชาติมาเป็นผู้บังคับการเรือโดยตลอด

 ภายหลัง พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สำเร็จการศึกษา และเข้ารับราชการทหารเรือแล้ว พระองค์ได้แก้ไขปรับปรุงระเบียบวิธีปฏิบัติในโรงเรียนนายเรือ ทรงเป็นครูสอนนักเรียนนายเรือ และริเริ่มการใช้ ระบบการปกครองบังคับบัญชา ตามระเบียบการปกครองในเรือรบ คือแบ่งให้นักเรียนชั้นสูงบังคับบัญชาชั้นรองลงมา
  นอกจากนี้ยังทรงจัดเพิ่ม วิชาสำคัญสำหรับชาวเรือขึ้นเพื่อให้สำเร็จการศึกษา สามารถเดินเรือ ทางไกลในทะเลน้ำลึกได้แก่ การเดินเรือ ดาราศาสตร์ ตรีโกณมิติ อุทกศาสตร์ เรขาคณิต พีชคณิต ฯลฯ

 เมื่อ พ.ศ.2462 พระองค์ทรงเป็นผู้บังคับการเรือ โดยนำ เรือหลวงพระร่วง จากประเทศอังกฤษ เข้ามายังกรุงเทพมหานคร นับเป็นครั้งแรกที่นายทหารเรือไทยเดินเรือได้ไกลข้ามทวีป ที่สำคัญพระองค์ทรงเป็นหัวเรี่ยวหัวเเรงที่สำคัญที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงเห็นความสำคัญและโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชวังเดิม ให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ เมื่อ 20 พ.ย. 2449 ทำให้กิจการทหารเรือมั่นคง (กองทัพเรือยึดวันดังกล่าวเป็น วันกองทัพเรือ)

  จากที่พระองค์ทรงเป็นนักยุทธศาสตร์ที่เล็งเห็นการไกล พระองค์ได้ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานที่ดินบริเวณอำเภอสัตหีบ เพื่อสร้างเป็นฐานทัพเรือ เนื่องจากทรงพิจารณาว่า อ่าวสัตหีบเป็นอ่าวขนาดใหญ่น้ำลึกเหมาะแก่การฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโดได้ และเกาะน้อยใหญ่ที่รายล้อมรอบสามารถบังคับคลื่นลมได้ดี อีกทั้งเรือภายนอกเมื่อแล่นผ่านพื้นที่จะไม่สามารถมองเห็นฐานทัพได้

  ด้านการแพทย์ ทรงศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจังและใช้เวลาหลังทรงเกษียณเสด็จไปรักษาโรคแก่ประชาชนด้วยพระองค์เอง ไม่ว่าเป็นคนไทยหรือคนจีน จนกระทั่งชาวจีนย่านสำเพ็งซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณเรียกพระองค์ท่านว่า "เตี่ย" (พ่อ) ซึ่งต่อมาทหารเรือได้เรียกพระองค์ว่า "เสด็จเตี่ย" ขณะที่คนไข้ชาวไทยมักเรียกพระองค์ว่า "หมอพร"

  พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงประชวร และสิ้นพระชนม์ ในขณะที่ประทับอยู่ที่หาดทรายรี ปากน้ำเมืองชุมพร เมื่อ 19 พฤษภาคม 2466 เวลา 11.40 น. ยังความโศกเศร้ามาสู่บรรดาทหารเรือยิ่งนัก

ข้อมูล: http://www.navy.mi.th
 
กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ 
 
พระประวัติกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
 
พระประวัติกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์

          ปัจจุบันทหารเรือ ได้ยกย่อง พล.ร.อ. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เป็น " องค์บิดาแห่งกองทัพเรือ " ซึ่งนับเป็น การเทิดทูน พระเกียรติคุณ อย่างสูงสุด เนื่องจากพระองค์ ได้ทรงนำความ เจริญรุ่งเรือง มาสู่กองทัพเรือ และ ประเทศชาติ โดยทรงวางรากฐาน การบริหารงานของกองทัพเรือ  ระเบียบวิธีปฏิบัติต่าง ๆ ภายในกองทัพเรือ  จนทำให้ทัพเรือไทย มีความทันสมัย มีมาตรฐาน และ เจริญก้าวหน้า ทัดเทียมกับ อารยะประเทศ มาจวบจนทุกวันนี้

          พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทรงมี พระนามเดิมว่า " พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ " เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ใน พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2423 เป็นพระเจ้าลูกยาเธอองค์ที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (  วร  บุนนาค  ) ผู้บัญชาการทหารเรือวังหลวง

           พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพร เขตรอุดมศักดิ์ เป็นเจ้านายพระองค์แรก ที่สำเร็จการศึกษา วิชาการทหารเรือ  จากประเทศอังกฤษ พระองค์ทรงมีจุดประสงค์ อันแรงกล้าที่จะฝึก ให้ทหารเรือไทย เดินเรือทะเลได้อย่างชาวต่างประเทศ และ สามารถทำการรบ ทางเรือได้เนื่องจากในอดีต ประเทศไทย ได้ว่าจ้างชาวต่างชาติ มาเป็นผู้บังคับการเรือ มาโดยตลอด แม้แต่ในคราวที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ เสด็จประพาสฯ ยุโรปครั้งแรก ก็ยังได้ว่าจ้าง " กัปตันคัมมิ่ง" และคณะนายทหาร เรืออังกฤษ เป็นผู้เดินเรือ

          ภายหลังจากที่พล.ร.อ. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สำเร็จการศึกษา และเข้ารับราชการ ทหารเรือแล้ว พระองค์ได้แก้ไข ปรับปรุงระเบียบการ  ในโรงเรียนนายเรือ ทรงเป็นครูสอนนักเรียนนายเรือ และริเริ่มการใช้ ระบบการปกครองบังคับบัญชา ตามระเบียบ การปกครองในเรือรบ คือการแบ่งให้นักเรียนชั้นสูง บังคับบัญชารองลงมา นอกจากนี้ยังทรงจัดเพิ่ม วิชาสำคัญสำหรับชาวเรือขึ้นเพื่อให้สำเร็จการศึกษา สามารถเดินเรือ ทางไกลในทะเลน้ำลึกได้คือ วิชา ดาราศาสตร์ ตรีโกณมิติ อุทกศาสตร์ การเดินเรือเรขาคณิต พีชคณิต ฯลฯ

           ในปี 2462 พระองค์ทรงเป็นผู้บังคับการเรือ โดยนำเรือหลวงพระร่วงจากประเทศอังกฤษ เข้ามายังกรุงเทพมหานคร นับเป็นครั้งแรกที่นายทหารเรือไทย เดินเรือได้ไกลข้ามทวีป ที่สำคัญพระองค์ทรงเป็นหัวเรี่ยวหัวเเรงที่สำคัญที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงเห็นความสำคัญ และโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระราชวังเดิม ให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ เมื่อ วันที่  20  พ.ย. 2449 ทำให้กิจการทหารเรือมี รากฐานมั่นคงนับตั้งแต่บัดนั้น และกองทัพเรือจึงยึดถือ วันดังกล่าวของทุกปีเป็น "วันกองทัพเรือ"

          จากการที่พระองค์ ทรงเป็นนักยุทธศาสตร์ ที่เล็งเห็นการไกล พระองค์ได้ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานที่ดินบริเวณอำเภอสัตหีบ เพื่อสร้างเป็นฐานทัพเรือ เนื่องจากทรงพิจารณาแล้วเห็นว่า อ่าวสัตหีบเป็นอ่าว ที่มีขนาดใหญ่ น้ำลึกเหมาะแก่การฝึกซ้อม ยิงตอร์ปิโดได้และเกาะน้อยใหญ่ ที่รายล้อมรอบสามารถบังคับคลื่นลมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเรือภายนอกเมื่อแล่นผ่าน
พื้นที่ดังกล่าว จะไม่สามารถมองเห็นฐานทัพได้เลย

          นอกจากพระองค์ ทรงเป็นนักยุทธศาสตร์แล้ว ด้านการแพทย์พระองค์ ทรงศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง และเสด็จไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ให้กับประชาชนด้วยพระองค์เอง ไม่ว่าเป็นคนไทยหรือคนจีน จนกระทั่งชาวจีนย่านสำเพ็ง มีความทราบซึ้ง ในพระกรุณาธิคุณ  และได้เรียกพระองค์ท่านว่า "เตี่ย" ซึ่งหมายถึง พ่อ ทำให้ในเวลาต่อมาทหารเรือได้เรียกพระองค์ว่า "เสด็จเตี่ย" สำหรับในหมู่คนไข้ชาวไทย ที่พระองค์รักษานั้น มักจะเรียกขานนามพระองค์ว่า "หมอพร"

          พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงประชวร และสิ้นพระชนม์ ในขณะที่ประทับอยู่ที่หาดทรายรี ปากน้ำเมืองชุมพร เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2466 เวลา 11.40 น. ยังความโศกเศร้ามาสู่บรรดาทหารเรือยิ่งนัก

ข้อมูลจาก www.navy.mi.th


 
ทรงเครื่องแบบนักเรียนนายเรือไทย ทรงฉายประมาณ ก.ย. ๒๔๔๐ 
 

 
หมอพรของชาวบ้าน 
 

 
 

938
                                     บันทึก ของ เสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์                                        เจอบันทึกนี้   ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรับรู้ว่า
                                           กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
                                           ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช
                                           ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า
                                      แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลกไว้
                                         ไอ้อีผู้ใดมัน คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน
                                         ทำลายชาติ ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์
                                     ฤากระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือนร้อนต่อส่วนรวม
                                            จงหยุดคิดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว
                          ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตรให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยาม
                                         อันเป็นที่รักของกู ตราบใดที่คำว่าอาภากร
                                      ยังยืนหยัดอยู่ในโลก   กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกู
                                                       ลูกหลานทั้งหลาย
                                   แผ่นดินใดให้กำเนิดเรามา   แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน
                                          ให้ความร่มเย็นเป็นสุข  มิให้อนาทรร้อนใจ
                                                    จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น

ที่มา : http://www.seal2thai.org/etc/chumporn/record.html
           กระผมไปอ่านเจอแล้วอยากให้ทุกๆฝ่ายที่กำลังจะทำอะไรที่เห็นแต่ผลปรโยชน์ของตัวเอง กลับมามอง ถึงการกระทำที่ช่วยชาติอย่างจริงๆไม่แอบแฝง
 ให้สำนึกของความเป็นคนไทย รัก ประเทศไทย รู้บุญคุณแผ่นดิน และไม่ทำลายชาติไทยไปมากว่านี้ครับ

939
ไหลเลยท่าน น้ำลายไหลเลยควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะพระสวยจริง สภาพดีเยี่ยมเลยท่านนี่ขนาดไม่ได้กรอบได้เลี่ยมเลยนะครับ................ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะครับ

940
กระผมไม่ชอบ ที่มีการรุกรานประเทศไทย ของทุกชาติอยู่แล้ว ยิ่งมารู้ข้อมูลแบบนี้ยิ่งเกลียดเลยแต่คงได้แต่เจ็บใจ เพราะเรื่องมันผ่านมาแล้ว กระผมคงได้แต่รับรู้ข้อมูล และขอขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้

941
กระทู้นี้ขอรับข้อมูลอย่างเดียวเลยครับ ไม่มีความรู้ด้านนี้ แต่อยากมีความรู้ด้านนี้นะครับ ทุกๆท่าน

942
อยากได้มากๆครับ

943
ครับ ใช่ลองเจอกับตัวเองดู ดีที่สุดครับ

944
ใส่เสื้อกันฝนเลยไหมท่าน รึ รถหุ้มเกราะเลยท่านหากอยากฉีดมันๆเล่นรถดับเพลิงดีไหมท่าน

945
งั้นปีนี้ไปวัดบางพระนี่ล่ะครับ งานนี้ อยู่ยาว

946
แน่นมากๆหามาได้เยี่ยมเลยครับ หากลง ที่มาของข้อมูล นี่จะไร้ที่ติเลยครับ ขอบคุณนะครับที่นำข้อมูลดีๆมาให้อ่านกัน

947
อ่ะนะ่

สวยงามมากเลยครับ

ว่าแต่หมดพาราไปกี่กระปุกครับ

อิอิ

 :017:
 :017:
 :017:
ทางอาจารย์เอไม่เรียกครับ เพียงแต่ผม ขอร่วมสมทบสร้างพ่อแก่ ปางอะไรนั้นผมจำไม่ได้ ครับ ก็ 1000 บาท ช่วยทำบุญนะครับไม่คิดมากครับ

948
ร่วมมือร่วมใจกันเล่นน้ำสงกรานต์ให้สุภาพ ไม่โป๊ไม่สั้น ใส่ชุดดำ เน้นผ้าไทย เพื่อในหลวงและประเทศไทยของเรา มาร่วมมือร่วมใจกัน รณรงค์แต่งกายให้สุภาพในการเล่นน้ำสงกรานต์ ไม่เล่นแป้ง ไม่เล่นสี มีมารยาทในการเล่นน้ำ รักษาขนบธรรมเนียมประเพณี รวมถึงเมาไม่ขับด้วยเช่นกัน

ในการเล่นน้ำสงกรานต์นั้น ผู้หญิงควรแต่งการให้สุภาพ ใส่ชุดโทนดำ ไม่ควรใส่เสื้อสายเดี่ยว เกาะอก เสื้อกล้าม เอวลอย กางเกงหรือกระโปรงสั้นเต๋อ เป็นต้น และต้องใส่เสื้อในด้วย (เคยเห็นน้องผู้หญิงเล่นน้ำโนบราแบบสาวฝรั่ง ซึ่งมันน่าเกียดมากๆ) จะได้ไม่ล่อแหลมสายตาพวกหื่น ที่จ้องจะลวนลามเอาได้ เพราะเป็นกุลสตรีหญิงไทย ต้องงดงามกว่าหญิงใดในโลก

ส่วนผู้ชาย ควรเล่นน้ำอย่างสุภาพต่อสุภาพสตรี เช่น ไม่จับ ไม่ถู ไม่ลูบไม่คลำ  เอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้เกียรติซึ่งกันและกัน จริงๆแล้วผู้ชายไทยมีความเป็นสุภาพบุรุษ มีมารยาทกว่าผู้ชายต่างชาติมาก เพราะคนไทยมีการเรียนรู้ปลูกฝังมารยาทให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพียงแต่เราไม่ค่อยนำมาใช้เท่านั้นเอง ต่อไปนี้ควรแสดงให้เห็นไปเลยว่า ชายไทยจริงๆแล้วนั้นเป็นสุภาพบุรุษ จิตใจดี มีมารยาทกว่าชายชาติไหนๆ

 

ที่สำคัญช่วงนี้ เป็นช่วงแห่งความโศกเศร้าเสียใจของปวงชนชาวไทย ในการสิ้นพระชนม์ ของสมเด็จพระพี่นางฯ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และประเทศชาติ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระพี่นางฯ ร่วมมือกัน ใส่ชุดโทนดำเล่นน้ำสงกรานต์ เน้นผ้าไทย และร่วมรณรงค์ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับวันสงกรานต์ พร้อมทั้ง ร่วมกันสืบสานความงดงามมีเสน่ห์ ในวัฒนะธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติไทย ให้คงอยู่สืบไป.......

 

อยากเห็นคนไทยมีความสามัคคีกันทั้งชาติ เพื่อให้คนทั้งโลกได้รับรู้ว่า คนไทยมีดีจริงๆ

 
ที่มาของข้อความ : http://talk.mthai.com/topic/5981

949
กระทู้นี้ 2 in1 ได้ความรู้ เต็มๆเลยครับ

950
แล้วแต่อาจารย์นะครับ 1 พานจะได้กีรอย ใหญ่ เล็ก แล้วแต่สถานนะการณ์นะท่าน

951
สวยมากครับ ผมคงหาโอกาสไปสักกับอาจารย์หนวดให้ได้เลย
แต่ อาจารย์ครับ กวางเหลียวหลัง เล็กไปนะครับ ผมขอช้างเหลียวหลังนะครับ แบบมาเป็นโขลงเลยครับ

952
บทความ บทกวี / บวชลูกแก้ว
« เมื่อ: 04 เม.ย. 2552, 11:36:14 »
     แม่ฮ่องสอนเป็นดินแดน แห่งความฝัน ของชาวต่างชาติ เพราะตั้งอยู่สุดชายแดนไทยตอนบน ซึ่งรายล้อม ไปด้วยขุนเขา ที่สลับซับซ้อน และมีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี ด้วยเหตุนี้ ผู้ใดที่ได้มาเยือน ย่อมเกิดความประทับใจไม่รู้ลืม และพากัน ขนานนามจังหวัดนี้ว่า "เมืองสามหมอก" หรือ "สวิสเซอร์แลนด์ แห่งเมืองไทย " สมกับคำขวัญที่ว่า
"หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง"
           ชนพื้นเมืองในจังหวัด แม่ฮ่องสอนนั้น ส่วนมากเป็นคนไต หรือไทยใหญ่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญการเดินป่า โดยเร่ร่อน ไปค้าขาย ของป่า และทำไม้ ยังต่างแดนในเขตพม่าและลาว เช่น หลวงพระบาง สิบสองปันนา ฯลฯ
           ก่อนนั้นมีถิ่นฐานเดิม อยู่ในประเทศจีน พอถูกกองทัพ จักรพรรดิเจงกีสข่านแผ่อำนาจลงมา ทางทิศตะวันตก เฉียงใต้ของจีน ทำให้ชาวไทยใหญ่จำนวนหนึ่งต้องอพยพ ลงมาทางใต้ แถบประเทศพม่า จนกระทั่ง สมัยที่พม่าตกอยู่ภายใต้การปกครอง ของประเทศอังกฤษ จึงมีบางส่วน อพยพเข้ามา อยู่บริเวณภาคเหนือของไทย เช่น เชียงราย แม่ฮ่องสอน ฯลฯ ดังนั้นชาวไทยใหญ่ จึงมิใช่คนเชื้อสายพม่า ซ้ำยังมีอารยธรรม ที่สูงกว่าพม่าเสียอีก โดยเฉพาะด้านศิลปะกรรม วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียม ประเพณี พลเมืองไทยใหญ่ ส่วนมากนับถือ ศาสนาพุทธ ในรอบปีมีการ ประกอบศาสนกิจหลายครั้ง แต่ครั้งที่สำคัญ และยิ่งใหญ่สุด ได้แก่ ปอยส่างลอง หรือ การบวชลูกแก้ว ของคนไต ปอยส่างลอง เป็นภาษาไทยใหญ่ ความหมาย ของคำสามารถ แยกได้ดังนี้
?   ปอย แปลว่า งานบุญ งานฉลอง หรือพิธี
?   ส่าง สันนิษฐานว่า อาจเพี้ยน มาจากคำว่า สาง ที่แปลว่า พระพรหม ซึ่งเป็นเทพที่ชาวไทยใหญ่ นับถือมาก โดยเรียกว่า ขุนสาง และ เรียกสามเณรว่าเจ้าสาง
?   ลอง มาจากคำว่า "อลอง" แปลว่า ประโพธิสัตว์ หรือหน่อพุทธางกูร แต่หมายถึง สภาวะที่กำลัง ก้าวเข้าสู่ชีวิต สามเณรได้ด้วย
รวมความแล้ว "ปอยส่างลอง" จึงหมายถึง พิธีงานบุญ ที่กำลังก้าว ไปสู่เพศสามเณร นั่นเอง แต่มีบางท่าน ให้คำจำกัดความ คำว่า "ส่างลอง" นั้น มาจากคำว่า "สำรอง" ซึ่งหมายถึง มีไว้หรือตระเตรียม ไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด
           คนไตถือว่า การบรรพชา สารเณร หรือการอุปสมบท พระภิกษุนั้น เป็นงานบุญกุศล ของพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ส่วนจะมี อานิสงส์ มากน้อยเพียงใด มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
?   ถ้าอุปสมบท บุตรตนเอง เป็นพระภิกษุ มีอานิสงส์ 16 กัลป์
?   ส่วนอุปสมบท บุตรผู้อื่น เป็นพระภิกษุ จะมีอานิสงส์ 8 กัลป์
?   หากได้บรรพชา บุตรเอง เป็นสามเณร มีอานิสงส์ 8 กัลป์
?   หรือบรรพชา บุตรผู้อื่น เป็นสามเณร จะมีอานิสงส์ 4 กัลป์
?   ผู้ที่เป็นพ่อแม่ ของสามเณร สังคม จะให้การยกย่อง เป็น พ่อส่าง แม่ส่าง
?   ส่วนพ่อแม่ ของพระภิกษุ จะถูกยกย่อง เป็น พ่อจาง แม่จาง
           ชาวไทยใหญ่ ให้ความสำคัญ กับพิธีบรรพชา สามเณรมาก เพราะถือว่า เมื่อวัยเด็กยัง อ่อนต่อโลก เมื่อเป็นเพศสมณะ จะเป็นผู้สะอาด บริสุทธิ์ เปรียบเสมือน อัญมณีที่กำลังผ่าน การเจียระไน ดังนั้น พิธีปอยส่างลอง จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "การบวชลูกแก้ว"
           ปอยส่างลอง หรือการบวชลูกแก้ว กำหนดไว้ว่า ควรเป็นเยาวชน ที่อายุระหว่าง 10 - 14 ปี อันเป็นวัย ที่อยู่ในช่วง ศึกษาเล่าเรียน จึงนิยมบวชกัน เป็นหมู่ในช่วงปิด เทอมใหญ่ ภาคฤดูร้อน ซึ่งก่อนนั้น มักกระทำกัน ในเดือนมีนาคม อันเป็นช่วง ที่ว่างเว้นจากการ ทำนาทำไร่ และอากาศ กำลังเย็นสบาย เหตุที่เปลี่ยนเป็น เดือนเมษายน ของทุกปี เพราะเงื่อนไข ทางการศึกษา เป็นเหตุผลสำคัญ
           แต่ละปี งานปอยส่างลอง ใช้เวลาจัดประมาณ 3 - 7 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ฐานะของเจ้าภาพ แต่ละราย แต่พิธีที่สำคัญจริง ๆ มีแค่ 3 วันเท่านั้น
วันแรก คือ วันรวมส่างลอง เด็กที่จะได้รับ การบรรพชาเป็นสามเณร นั้นพ่อแม่จะรับตัว ไปแต่งกาย ที่วัดใกล้บ้านตน เมื่อลูกแก้ว โกนผมแล้ว บรรดาญาติพี่น้อง ที่เป็นผู้หญิง จะมาช่วยทาหน้า เขียนคิ้ว แต่งตัวให้อย่าง ปราณีต
           เริ่มจากการ วางมวยผม บนศีรษะที่เกลี้ยงเกลา โดยใช้เชือกแดง มัดให้แน่นปล่อยห้อย ลงมาเป็น 3 ชาย และโพกผ้าสีสวย สดคาดทับทิ้งชายผ้า โพกให้คลี่บานเป็นแบบ รูปพัดอยู่เหนือหูด้านขวา แซมด้วยดอกเอื้องคำ หรือดอกไม้อื่นๆก่อนนั้นนิยม ใช้ดอกไม้สด พอถึงยุคนี้ พากันหันมาใช้ ดอกไม้ประดิษฐ์ จากผ้าหรือกระดาษ เพราะรักษาง่าย ทนทาน ไม่โรยเร็ว และเก็บได้นาน
           สำหรับ มวยผมบนศรีษะ หากได้เส้นผม ของผู้ให้กำเนิด ส่างลองได้ยิ่งดี ถือเป็นสิ่งมงคล สูงสุด หากเป็นลูกกำพร้า อาจหยิบยืม หรือเส้นผมของผู้มีพระคุณ ที่บวชให้มาใช้แทนก็ได้อาภรณ์ที่สวมใส่ เริ่มจากเสื้อผ้า คอกลมแขนยาว เดินลายด้วย ดิ้นเงินดิ้นทอง อย่างแพรวพราว นุ่งผ้า โจงกระเบนแบบ ทางภาคกลางยาว เกือบจรดพื้น มีชายเสื้อปล่อยห้อย ทับผ้านุ่ง แลดูคล้าย เจ้าชายในสมัยโบราณ
           บริเวณแผ่นอกห้อย "แคบคอ" ซึ่งเป็นทองคำ เนื้อดีถูกตีแผ่ เป็นรูปแปดเหลี่ยมพิมพ์เป็น ลายนูนออกลวดลาย ต่างๆ บางทีเป็นรูป นกหงส์ก็มี ซึ่งอาจจะ หมายถึงหงสาวดี เมืองสำคัญ ในอดีตของไทยใหญ่ โดยส่างลองคนหนึ่ง จะห้อยประมาณ 5 - 9 แผ่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ฐานะของแต่ละครอบครัว วิธีการประดับ ใช้ผูกร้อยด้วยด้ายสีแดง เวลาสวมห้อยไว้ ด้านหน้า และผูกเงื่อน ไว้ด้านหลังประมาณ 1 - 2 เส้น
           นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ทำหน้าที่ แบกส่างลอง ไปมายัง สถานที่ต่างๆ ยกเว้นบนปะรำ พิธีหรือที่วัด เนื่องจาก มีความเชื่อว่า ส่างลอง มีความสำคัญ กว่าคนธรรมดา สามัญ ถึงแม้จะยังไม่ได้ บรรพชาเป็นสามเณร แต่ก็ได้ รับการยกย่อง เป็นสมมุติเทพ องค์หนึ่ง ดังนั้น เวลาเดิน ต้องคล้ายเหินเท้าจะแตะถูก พื้นดินไม่ได้ จึงต้องมีพี่เลี้ยง ที่ได้รับการแต่งตั้ง จากเจ้าภาพ คอยสอดส่องดูแล ส่างลอง บุคคลเหล่านี้ มีชื่อเรียกกันว่า "ตะแป" บทบาทของตะแป ส่างลองมี ความสำคัญมาก นอกจากต้อง รับน้ำหนักของส่างลอง อยู่บนบ่านาน ถึง 2 - 3 วัน ยังต้อง คอยระมัดระวัง ทรัพย์สินเครื่องประดับ อันมีค่าอีกด้วย จึงจำเป็นต้อง ใช้ตะแป หลายคนคอย ผลัดเปลี่ยน หน้าที่กัน บรรดาตะแป เหล่านี้ยังต้องมีหัวหน้า คอยควบคุม อีกคนหนึ่ง เพื่อให้บรรดา ตะแป สนุกอยู่ใน ขอบเขตมิให้แหวกแนว และป้องกัน การผิดพลาด
           ในตอนสาย วันรวมส่างลอง บรรดาส่างลอง พอแต่งกายเสร็จ ตะแป จะแยกจากวัด แห่แหนไปตาม ถนนหนทาง เพื่อไปขอขมา ลาโทษผู้ใหญ่ และรับการให้ศีล ให้พรกับผูกข้อมือ ทั้งนี้ไม่จำกัด ว่าต้องเป็นญาติ ในหมู่ตน ชาวไทยใหญ่ เป็นชนกลุ่มน้อย จึงอยู่ด้วยการ เอื้ออารีต่อกัน แบบฉันท์พี่น้อง มีความรักใคร่ ปรองดองกัน ทุกคนเป็นญาติ กันหมดส่างลอง สามารถเข้าบ้านนั้น ออกบ้านนี้ ได้สะดวก บ้านใดที่ส่างลอง เข้าไปเยี่ยมเยือน ถือเป็นสิริมงคล เจ้าของบ้าน จะต้อนรับ อย่างเต็มที่ ด้วยการเตรียม น้ำดื่ม ขนม หมาก เมี่ยง พลู บุหรี่ มาเลี้ยงแขก มิให้ขาดตกบกพร่อง
วันที่สองวันแห่ครัวทาน ที่ยิ่งใหญ่ ตะแปจะพา ส่างลองทั้งหมด ออกไปแห่รอบๆ เมืองแม่ฮ่องสอน มุ่งสู่จุดหมาย ปลายทางที่วัด พร้อมด้วยเจ้าเมือง และขบวนฟ้อน ที่แต่งกายแบบ พื้นเมือง โดยมีดนตรีพม่า ช่วยขับกล่อมบรรเลง ตลอดเส้นทาง
           ในค่ำคืนนั้น หลังจากที่ส่างลอง อาบน้ำเสร็จ พร้อมกับแต่งกาย ด้วยส่างลองชุดใหม่ เพื่อเข้าพิธีฮ้องขวัญ ซึ่งคล้ายกับการ ทำขวัญนาคของ ภาคกลาง ต่างกันที่สวดเป็น ภาษาไทยใหญ่ ในพิธี ผู้เป็นพ่อแม่ จะป้อนอาหาร 12 อย่าง ให้ส่างลอง รับประทานอัน หมายถึงความ อุดมสมบูรณ์ ของข้าวปลาธัญญาหาร ตลอดปี ของชาวไทยใหญ่ จากนั้นผู้เข้า ร่วมพิธีจะแยกย้าย กันกลับบ้านพักผ่อน
วันที่สาม การเข้าสู่พิธีบรรพชา
           เช้ววันนี้ บรรดาตะแป จะแบกส่างลอง ไปทำการขอขมา ญาติผู้ใหญ่ต่อ หรือเรียกกันตาม ภาษาท้องถิ่นว่า "การกั่นตอ" จนกระทั่งถึง ในช่วงบ่าย จะมาชุมนุมกัน ที่วัดจองคำเพื่อ รอวันเวลาที่จะกระทำ พิธีบวชสามเณร
           พระสงฆ์จากอารามต่างๆ ได้รับการนิมนต์ มาเป็นอุปัชฌาย์ ในงานนี้ ซึ่งมีจำนวนมากเพียงพอ กับส่างลอง เสียงกล่าวคำขอบวช ของเหล่าส่างลอง ดังก้องกระหึ่มไปทั่วบริเวณวัด ท่ามกลางที่ชุมนุมสงฆ์ เมื่อได้รับอนุญาต การบวชจึงมีการ รับจีวรจากบิดามารดา
           ชั่วเวลาไม่นาน ชุดส่างลองอันสวยงาม ถูกเปลื้องออก พร้อมเครื่องประดับอันล้ำค่า เปลี่ยนมาเป็นนุ่งผ้าเหลือง ในเพศของสามเณรน้อย ที่สมบูรณ์หลังจาก ที่ได้รับศีลสิบแล้วนับแต่นี้ต่อไป จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสามเณรเพิ่มขึ้น อีกจำนวนหนึ่ง และได้พากันแยกย้าย ไปจำพรรษายังวัดอาราม ที่ใกล้กับภูมิลำเนา ของแต่ละคนต่อไป
           ประเพณี ปอยส่างลองนี้ ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อใด นั้นไม่ปรากฏ หลักฐานที่แน่ชัด ทราบแต่ว่า เป็นประเพณีเก่าแก่ ของชาวไทยใหญ่ โดยมีประวัติ ความเป็นมาดังนี้
           ในสมัยพุทธกาล มีกษัตริย์อยู่พระองค์หนึ่ง ทรงครองราชสมบัติ โดยทศพิธราชธรรม มีโอรสอยู่องค์หนึ่ง มีพระนามว่า จิตตะมังชา ขณะที่มีพระชนมายุได้ 10 พรรษา พระบิดามีความปรารถนา จะให้ผนวชเป็นสามเณร แต่ก็มิได้บังคับ แต่อย่างใดฝ่ายจิตตะมังชา แม้จะยังเยาว์วัย แต่ก็มีพระทัย เลื่อมใสพระบวร พุทธศาสนา มีพระประสงค์ อยากบวชเป็นสามเณร จึงได้ขออนุญาต ต่อพระบิดาด้วยเหตุบังเอิญที่พระทัย ทั้งสองฝ่ายพ้องต้องตรงกัน จึงเกิดความปลื้ม ปีติยิ่งนัก พระบิดาจึงโปรดให้ จัดการฉลองอันยิ่งใหญ่ ให้สมเกียรติพระโอรส แห่งนครมีงาน เฉลิมฉลองติดต่อกัน ถึง 7 วัน 7 คืน และนำเจ้าชาย จิตตะมังชา มาผนวชกับ พระบรมศาสดา มีฉายาใหม่ว่า จิตตะมาแถ่ ด้วยจิตที่เลื่อมใส ต่อพุทธศาสนา ภายหลังต่อมา จึงบวชเป็น พระภิกษุสืบไป
           2 ปีต่อมา พระพุทธองค์ ได้เสด็จมา ที่กรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อทรงเยี่ยม พระประยูรญาติ พระนางประชาบดี ซึ่งเป็นพระเจ้าน้า ได้ทรงถวายจีวร ทอด้วยเส้นใย ทองคำ 2 ผืน ผืนหนึ่งถวายแด่ พระพุทธองค์ ส่วนอีกผืนหนึ่ง นั้นให้ถวายกับสาวก ที่ตามเสด็จ โดยมิได้ เจาะจงเป็น รูปหนึ่งรูปใด บรรดาสาวก ไม่มีรูปใดกล้ารับ คงมีแต่ พระจิตตะ มาแต่องค์เดียว ที่เดินเข้าไป รับผ้าจีวร ทองคำผืนนั้น พระสาวกทั้งปวง ต่างติเตียน พระจิตตะมาแถ่ ที่ไปรับของ ที่เสมอกับ พระพุทธองค์พระบรมศาสดา ทราบเรื่องจึงโยนบาตร ขึ้นไปใน ห้องอากาศตรัสว่า
           "ขอศิษย์ตถาคตทั้งหลาย จงนำบาตรลูกนั้น กลับคืนมา แก่เราด้วยเถิด"
           บรรดาพระสาวกต่าง เหาะขึ้นไป เพื่อจะนำบาตร ลูกนั้นมาคืน แก่พระพุทธองค์ ปรากฏว่า จิตตะมาแถ่ เท่านั้นที่พุ่ง นำหน้าสาวก ทั้งปวงนำบาตร คืนมาได้ และได้มอบ ต่อพระศาสดา พระพุทธองค์ ตรัสแก่สาวก ทั้งหลายว่า
           "บารมี พระจิตตะมาแถ่นี้ ได้สร้างสมมา เป็นเวลาช้านาน จึงสมควร ที่จีวรทองคำนั้นตกแก่เขา โดยชอบ และจิตตะมาแถ่ นี้คือพระหน่อพุทธางกูร ในอนาคตกาล"
           จากตำนาน ความเชื่อเรื่องนี้ จึงเป็นที่มาของ ประเพณีบวชลูกแก้ว หรือปอยส่างลอง ของเมืองแม่ฮ่องสอน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ของชาวไทยใหญ่ ไม่สามารถ จะหาชมได้จาก ที่อื่นๆ
                                     ประเพณีการบวชลูกแก้ว ณ เมืองม้า ประเทศพม่า
 
 
 
    การบวชเรียน นับเป็นประเพณีในพระพุทธศาสนา ที่สืบทอดกันมาแต่ครั้งอดีต และดูเหมือนว่ากระแสโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ได้กลืนเอาประเพณีอันดีงามเหล่านี้ไป จนผู้คนหลงลืมกันไปว่า การบวชเรียนนั้นเป็นอย่างไร แต่ไม่น่าเชื่อว่าประเพณีการบวชเรียนนี้ จะยังคงเป็นสิ่งที่ ชาวเมืองม้า ประเทศพม่า ยึดถือ และปฏิบัติกันเรื่อยมา และถือเป็นประเพณีแห่งบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ที่ชาวเมืองต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอย
 
    ชาวเมืองม้าทุกคน ต่างให้ความสำคัญต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่า พระพุทธศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โดยชาวเมืองจะน้อมนำหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ดังนั้นประเพณีต่างๆที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระพุทธศาสนา ก็จะได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น และรักษาไว้ไม่ให้สูญหายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเพณีบวชลูกแก้ว หากบ้านไหนมีลูกชายวัย 8ขวบขึ้นไป ก็จะส่งลูกไปบวชเรียนที่วัด และให้อยู่ฝึกตัว ศึกษาพระธรรมคำสอนไปจนโต
 
    แต่ก่อนที่เด็กชายเหล่านั้นจะได้บวช ?ลูกแก้ว? (หรือนาค) จะต้องผ่านการฝึกฝนอบรมเป็นเวลานานเกือบ 4เดือน เพื่อขัดเกลา และเตรียมกาย-ใจ ให้พร้อมต่อการบวชครั้งนี้ ซึ่งการบวชจะมีขึ้นในช่วงหลังออกพรรษา โดยที่ลูกแก้วจะมาฝากตัวเป็นศิษย์และขอบวช
 
 
 
    ลูกแก้วจะได้รับการยกฐานะ ให้เป็นเสมือนเจ้าชายที่กำลังจะออกบวช เมื่อชาวบ้านทราบข่าวการบวช ก็จะพากันมาแสดงความยินดี และมาช่วยงานบวชกันอย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่ชาวเมืองม้าเท่านั้น แต่ชาวเมืองอื่นๆในละแวกนั้นก็มาด้วย เพราะพวกเขาเห็นว่า การบวชเป็นสิ่งที่ได้บุญมาก และการที่ลูกหลานในเมืองได้บวชก็ถือเป็นสิริมงคลแก่เมืองอย่างยิ่ง ชาวบ้านจะชวนกันมาทำบุญกับลูกแก้ว ซึ่งที่นี่จะเรียกว่า ?การทาน? ทั้งทานของ และทานเงิน และที่น่าแปลกก็คือ จะมีการขับเพลง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการทำขวัญนาค โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการบวช และการเสด็จออกบวชของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะขับเพลงตั้งแต่สองทุ่มเรื่อยไปจนถึงรุ่งเช้าวันใหม่ โดยที่เนื้อหาของเพลงที่ขับนั้นไม่ซ้ำกันเลย
 
 
 
    หลังจากบวชแล้ว สามเณรลูกแก้วจะได้รับฉายาจากเจ้าอาวาสทันที สามเณรจะปฏิบัติตนตามหลักธรรมคำสอนอย่างเคร่งครัด จะมีการสวดมนต์ สวดธรรม และนั่งสมาธิ เวลาเรียนธรรมะหลวงพ่อเจ้าอาวาสก็จะเป็นผู้สอนเอง โดยการสอนด้วยปากเปล่า แล้วให้สามเณรลูกแก้วท่องตาม ซึ่งสามเณรก็สามารถท่องจำธรรมะทั้งหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว และสามเณรแต่ละองค์ก็จะมีผ้าพาดบ่า (ซึ่งมีลักษณะคล้ายผ้าสังฆาฏิ แต่เป็นสีๆ) โดยมีความเชื่อว่า หากญาติพี่น้องคนใดตกนรก ผ้าผืนนี้จะไปมัด ไปเกี่ยว ช่วยเอาญาติพี่น้องกลับขึ้นมาจากนรกได้
 
 
 
    หลวงพ่ออุ่นหลวง ญาณสิริ เจ้าอาวาสวัดราชฐานหลวงเชียงทุ้ง ท่านได้กล่าวถึงการบวชสามเณรลูกแก้วว่า ?การบวชสามเณรลูกแก้วนี้เป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาช้านานแล้ว ซึ่งสามเณรจะบวชจนเป็นพระ แต่เมื่อไฟฟ้าเข้าถึง และมีทีวี ก็ทำให้คนสอนยากขึ้น เด็กเห็นตัวอย่างจากในทีวีก็อยากเอาเป็นแบบอย่าง ทำให้สามเณรที่เคยบวชอยู่นานจนเป็นพระ ลาสิกขาออกไปมาก พระตามวัดก็เหลืออยู่น้อย อาตมาเป็นห่วง แต่ DMC นี้เป็นสื่อที่ดี แต่มีอยู่เฉพาะที่วัดอาตมาเท่านั้น อาตมาอยากให้ชาวบ้านได้ดู DMC ด้วย?
 
 
 
    ในวันที่ 22 เมษายน วันคุ้มครองโลก ปีนี้ ท่านก็ตั้งใจว่า จะเดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย ท่านบอกว่า ?อยากจะเห็นภาพการรวมสงฆ์ครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้จริงๆ ถ้าได้เห็นจะดีใจมากๆ อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และได้บวชอยู่ในผ้าเหลือง? และท่านก็ได้ฝากของขวัญวันเกิดมาถวายแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วย นั่นก็คือ คัมภีร์ใบลานโบราณ เรื่องทศพิธราชธรรม
 
    นอกจากนี้ พระสังฆราชเมืองเชียงตุง ผู้ปกครองคณะสงฆ์ 3เมือง ได้แก่ เมืองม้า เมืองลา และเมืองเชียงตุง ท่านจะเดินทางมาร่วมงานด้วยตนเอง และจะนำคณะสงฆ์มาร่วมงานวันคุ้มครองโลกครั้งนี้ด้วย เพราะท่านอยากจะเห็นภาพของพุทธบุตรที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว และจะได้เป็นส่วนหนึ่งในภาพประวัติศาสตร์ครั้งนี้
ที่นำข้อมูลมาลงเพราะหน่วยงานราชการแม่ฮ่องสอนจะผลักดันให้ประเพณีบวชลูกแก้วเป็นมรดกโลกครับ ผมก็อยากให้เป็นมรดกโลกต้องขอภัยที่ผมพยายลงรูปแต่ดึงยากมากๆ ขออภัยจริงๆ
ที่มา : http://www.kmitl.ac.th/northern/article/traditional/poisanglong.html
       :http://www.dmc.tv/print/latest_update/Myanmar_Novice.html

953
:001:หุหุ..พี่ชลาฯ ไม่ต้องไปถูหลังที่ไหนหรอกค่ะ..พาภรรยาไปทานข้าวแหละดีแล้ว..เค้าอุตส่าห์มีโปรฯดีซะขนาดนี้.. :015:
หรือถ้าว่างชวนพี่น้องในบอร์ดไปกินก็ได้นะพี่..อิอิ 21;..(ชอบเลยของฟรี..55 31;)


             ก็ทางรัฐบาลบอกว่าอยากให้เงินสะพัดต้องใช้เงิน ช่วงนี้มีแต่คนเก็บเงินกันไม่ยอมใช้ ผมก็แค่อยากสนองนโยบายช่วยชาติครับหากท่านคุณภรรยาผมรู้ก็จะเอาไปเก็บอีกนะครับ หากนำไปเลี้ยงท่านคุณภรรยารึพาไปเที่ยวก็ไม่ได้ เพราะท่านคุณภรรยาชอบเก็บเงิน ทางออกมีไม่มากนะท่านน้อง หยก ผมล่ะชอบความสะอาดนะ ถูหลังเองก็ไม่ถึงที่บ้านห้องน้ำก็แคบ จะสร้างห้องน้ำ เงิน 4000 ก็ไม่พอ สถานครอบครัวผมก็รักนะ แต่งานนี้ ต้องทำตามนโยบายทางรัฐ ครับทำใจ ต้อง ไปจริงๆ

954
หากไปสักที่บางพระ ทางวัดมีลำดับและความเหมาะสม แล้วแต่ พระอาจารย์ อาจารย์ ท่านได้ครบยันต์ครูแน่ๆครับ แปดทิศนี้เป็นยันต์ที่สวยงาม ขอให้ได้สมใจนะครับ

955
กระผมก็เป็น คนไทยคนนึง ที่มีสิทธ์รับเช็คช่วยชาติ แต่พอผมอ่านข้อมูลนี้ ผมล่ะดีใจมากท่านที่ยังไม่ได้ใช้เช็คก็ตามนี้นะครับ แต่ที่ใช้ไปแล้วก็เสียใจด้วย

        หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายจ่ายเช็คจำนวน 2,000 บาท เพื่อช่วยค่าครองชีพผู้มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง 15,000 บาทนั้น โออิชิ ได้จัดแคมเปญตามหลังทันที กับ ?โปรโมชั่นช่วยชาติกับโออิชิ กรุ๊ป? เพื่อหวังกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการใช้จ่ายเงินอุดหนุนดังกล่าว เพื่อให้เศรษฐกิจมีการใช้จ่าย หมุนเวียนต่อไปยังการผลิต การลงทุน และการจ้างงานในที่สุด อันจะทำให้ประเทศไทยฝ่าฟันวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลกในปัจจุบันได้

แคมเปญ ?โปรโมชั่นช่วยชาติกับโออิชิ กรุ๊ป? จะเริ่มขึ้น 1 ? 30 เมษายนนี้ โดยประชาชนที่ได้รับเช็คสามารถนำเช็คมูลค่า 2,000 บาทมาใช้จ่ายได้ที่ร้านค้าในเครือโออิชิทั้งหมดได้ 2 รูปแบบ

รูปแบบแรก ประชาชนสามารถนำเช็คดังกล่าวไปซื้อสินค้าและบริการที่ร้านค้าในเครือ โดยถ้ายอดซื้อไม่ถึง 2,000 บาท โออิชิ กรุ๊ป ยินดีทอนให้เป็นเงินสดทันที ส่วนรูปแบบที่ 2 ประชาชนสามารถนำเช็ค 2,000 บาท มาเข้าร่วมแพ็กเกจช่วยชาติกับโออิชิ โดยนำเช็ค 2,000 บาท มาแลกเป็นบัตรของขวัญของโออิชิมูลค่า 4,000 บาท และสามารถนำไปใช้ได้กับทุกร้านค้าในเครือ

?การที่โออิชิ กรุ๊ป จัดโครงการนี้ขึ้นในฐานะองค์กรเอกชนที่ต้องการช่วยชาติในการกระตุ้นให้เกิด การใช้จ่ายของประชาชน อันจะส่งผลต่อการหมุนเวียนต่อไปทางเศรษฐกิจอันจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ เศรษฐกิจไทยผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้และถ้าหากภาคเอกชนทุกแห่งให้ความร่วม มือและช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชนจะทำให้งบประมาณ 20,000 ล้านบาทที่รัฐบาลใช้ในโครงการนี้หมุนเวียนเพิ่มมูลค่าได้อีกหลายเท่าตัวจน อาจจะกลายเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาทก็เป็นได้ ในทางกลับกันถ้าหากประชาชนนำเช็ค 2,000 บาทไปเก็บ หรือฝากไว้กับธนาคาร จะไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มหรือการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจใดๆ เลย? - ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ โออิชิ กรุ๊ป
ปล.ท่าน อชิตะว่างไหม ภรรยาผมไม่รู้เรื่องโออิชิจ่ายเพิ่ม 2000 บาท ไม่รู้จะไปไหนดี ผมถูหลังไม่ถึงไปหาคนถูหลังกับผมไหม

ที่มา : http://photo.lannaphotoclub.com/index.php?topic=11048.0

956
บารมีครูบาอาจารย์คุ้มครองนะครับ แสดงว่าพี่สาวท่านทำดี พูดดี คิดดี จะแคล้วคลาดน่ะครับ

957
ครับข้อมูลดีนะครับ

958
ที่ท่านพูดถึงนี่จิ้งจกยังไม่ตายรึท่าน หายากนะท่าน บ้านผมมีแต่จิ้กจกหางเดียว วางเข้าไว้ 1-2เม็ดเดียวปลอดคนจะวิ่งมากินนะครับ รอเค้าคุ้นก่อนนะท่าน

959
มีความสุขมากๆนะท่านนะ อะไรที่ต้องการก็ขอให้ได้

960
มาแต่ละอย่างนี่ ฮาดีนะท่าน รู้สึกเป็นเว็บเดียวกันกับที่ท่านปอร์ลงไว้ ในหัวข้อ ทำนายอดีต รึปล่าวครับ

961
สวยมากๆทุกรุ่นเลยครับ

962
บทความ บทกวี / ตอบ: ทำนายอดีตชาติ
« เมื่อ: 03 เม.ย. 2552, 08:07:53 »
สุดยอดเลยท่าน เยี่ยมๆ

963
รอดมาด้วยบารมีครูบาอาจารย์ครับ ทีหลังก็ จาก 110 เป็น 90 นะครับช่วยชาติประหยัดครับ มี 1อาชีพเหมาะมาเลยท่าน แสตนอินนะท่าน ค่าตัวดีนะ

964
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / ตอบ: ทหารผี
« เมื่อ: 03 เม.ย. 2552, 07:48:43 »
อ่านชอบจังเลย ท่านนี้ช่างสรรหาจริงๆ

965
ท่านเว็บครับผมไม่ได้ขุดกระทู้นะครับ เพียงแต่ยังไม่ได้อวยพรพี่เค้า
ขอให้พี่โชวดูเด็กแบบนี้ไปนานๆนะ ไม่มีเรื่องเครียด มีเงินใช้ไม่ขาดกระเป๋า ไม่ป่วยไม่เจ็บ หากบังเอิญเจ็บก่อนที่ผมอวยพร ก็ให้หายเร็วๆ ขอให้ของใช้ที่มีไม่เสีย ของกินที่ได้กินอร่อย มีของสวยๆงามๆ หล่อๆ เข้ามาในชีวิต ไม่มีอะไรที่หวังแล้วไม่ได้ นะพี่นะ

966
สวยนะครับ

967
เหรียญไห้วครูหลวงพ่อเปิ่นยังพอมีอยู่หรือเปล่าครับ
แล้วที่ถามนี่ ปีไหนล่ะครับ หากปี 52 เยอะเลยท่าน

968
สวยงามมากเลยครับ จิ้งจกเยอะดีจัง ท่านชูชกรูปหนุ่มๆเลยครับ

969
แปลกครับ อ่านแล้วอมยิ้มแต่ไม่กล้าคิดอะไรเดี๋ยวเกินเลย ขอบคุณข้อมูลนี้มากเลยนะท่าน

970
ครับแน่นเลย ทั้งข้อมูล และมวลสาร

971
บทความ บทกวี / ตอบ: รักเธอประเทศไทย
« เมื่อ: 03 เม.ย. 2552, 03:01:51 »

เชื่อว่าท่านโชวเหมาะกับงานปฏิคม ขนาดใส่เสื้อเหลืองยังผูกมิตรกับเสื้อแดง ทุกท่านโปรดสังเกตุแววตา พอๆกับ เสือสาวใหญ่จ้อง กวางหนุ่มน้อย ไม่ใช่ ไม่ใช่ เหมือนพี่สาว จ้องมอง ความสำเร็จของน้องชาย เดี๋ยวโดน พี่โชว ผมขอลงนะ หากไม่อนุญาติก็สายไปแล้ว

972
บทความ บทกวี / ตอบ: รักเธอประเทศไทย
« เมื่อ: 03 เม.ย. 2552, 02:40:12 »
ดีนะยังมีเสื้อเหลืองช่วยไว้ ไม่งั้นเรทสุดๆ :074:

975
ถูกต้องเลย ครับ ตามนั้น เลยครับ

976
ยอมรับว่าข้อมูลท่านน่าสนใจนะครับ แต่ น่าลงข้อมูลเยอะๆหน่อย

977
บทความ บทกวี / ตอบ: รักเธอประเทศไทย
« เมื่อ: 03 เม.ย. 2552, 11:32:06 »
ได้อ่านข้อความดีๆจากท่านอีกแล้ว ขอบคุณนะครับ

978
ขอรบกวนศิษย์ท่านพ่อฤาษีเพชรดำ มาลงประวัติ ข้อมูลได้ไหมครับ อยากทราบประวัติท่านนะครับ ที่ค้นหาตามเน็ทไม่รู้ว่าข้อมูลถูกไหม

979
พระยุ่งการเมืองต้องแบบพระพม่า บวกกับทหารเลยย   :005: :005:

ทุกสังคมมีทั้งส่วนดีและส่วนดีน้อยหน่อย ปนๆ กันไปครับ

หลวงพี่ท่านคงอินกับสังคมรอบข้างมากไปหน่อย   :005: :005:

งานนี้ไม่ปลื้มเื่่ท่าไรครับ  ถ้านิ่งไว้จะดีกว่าครับ ยิ่งนิ่งยิ่งโดนใจ  :054: :054:



ชอบคำนี้มากๆ บวกกับทหาร ดู ตลกๆ แต่เป็นตลกร้ายนะท่าน

980
1.คืออยากทราบว่าถ้าหากเราสักพวกของขึ้นเช่นหนุมาน เสือ แล้วเราไปเข้างานสวดพานยัก ไม่ทราบว่าของจะเสื่อมรึป่าว เพราะมีคนบอกว่าพิธีนี้คนที่มีของจะขึ้นแล้วของจะออกหมด

2.คืออยากทราบว่าข้อห้ามที่ว่าห้าม ด่าพ่อ ด่าแม่ ถ้าหากสักไปแล้วคือกับเพื่อนเราจะพูดแหย่เล่นกันหรือพูดง่ายๆก็คือแบบว่าพูดกันจนติดปาก คำว่า เย็ดแ... คงพอเดาออกนะคับ แบบนั้นของจะเสื่อมรึป่าวคับ

ขอโทดนะคับที่ถามตรงๆ แต่อยากได้ความกระจ่าง เพื่อจะได้ปฎิบัติได้ถูกต้อง

ต้องขอขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ไว้ล่วงหน้านะคับ  ขอบคุณมากคับสำหรับความคิดเห็น

ปกติ หากพระสาธยายพระพุทธมนต์ในงานมงคล จะใช้คำว่า "เจริญพระพุทธมนต์"

ถ้าสาธยายพระพุทธมนต์ในงานอวมงคล ใช้คำว่า "สวดพระพุทธมนต์"  ทั้งการเจริญและสวด ล้วนเป็น พระพุทธมนต์ เป็นของดี เป็นธรรมะครับ

การสวดบางอย่าง เช่น สวดคาถาพุทธาภิเษกและสวดภาณยักษ์ การสวดจะออกแนวเข้มขลังด้วยเสียงสวดทีมีเอกลักษณ์ครับ

สวดภาณยักษ์เป็นการสวดเพื่อหวังผลในการขับไล่สิ่งเลวร้าย อุบาทว์จัญไร ออกไปจากตัวเรา 

รูปยันต์ที่เราสักเป็นของดีครับ  ไม่ใช่ของที่ไม่ดีไม่หลุดแ่น่นอน

พวกที่เชื่อว่า ฟังสวดภาณยักษ์แล้วของหลุด คงยังสับสนว่า รูปยันต์เป็นฝ่ายดีหรือไม่ดี มากกว่าครับ


การสวดภาณยักษ์ความหมายแอบแฝงไว้ คือ สิ่งไม่ดีทั้งหลายที่มาจากภายนอกพระท่านสวดปัดเป่าให้เราแล้ว

แต่สิ่งไม่ดีในใจเรา ยักษ์ในใจเรา เราต้องใช้ความดีขับไล่ด้วยตัวเราเองครับ ใครก็ช่วยเราไม่ได้ ได้แต่แนะนำเราเท่านั้น


ส่วนเรื่องคำด่า ที่มักจะหลุดปาก  ก็เป็นการวัดความมีสติของเราครับ ว่าเราคุมคำพูดเราได้ดีแค่ไหน 

คำว่า"แม่" เป็นคำที่ลูกต้องเคารพบูชาหรือนึกถึงในเรื่องดีๆครับ  การนำคำว่าแม่ มาใช้เป็นคำด่าว่า หรือหลุดปาก คงไม่เหมาะสมแน่ๆ

ลองสังเกตนะครับว่า เราพูดคำนี้เพราะเหตุผลอะไร ยกย่องสรรเสริญหรือกระทบด่าใคร  ก็จะได้คำตอบครับ

จะสักหรือไม่สัก หากหลุดปากคำนั้นบ่อยๆ ไม่ดีกับตัวเองแน่ครับ  ดับราศีตัวเอง ความเป็นศิริมงคลจะลดน้อยลงไปครับ

ข้อห้ามเหล่านี้ เราต้องศึกษาก่อนสักครับ ไม่มีใครบังคับเรา เราเต็มใจสักเอง เมื่อสักแล้วที่นี้เราต้องบังคับใจเราเองให้ได้ครับ

เห็นไหม ท่านนะเซียน ไม่ได้ เกรียนข้อมูลแน่น
งั้นก็ตามนั้นเลยนะครับท่านเจ้าของกระทู้ ครบครันด้วยเนื้อหาแล้วนะครับ

981
บทความ บทกวี / ตอบ: วิธีลืมคนรัก
« เมื่อ: 03 เม.ย. 2552, 09:39:54 »
ครับท่านปอร์ครับ ตอนนี้รอหายเจ็บจะไปสักต่อที่บางพระน่าจะเป็นวันที่ 7 ครับ กำลังจัดเวลาครับเพราะมีงานที่วัดไร่ขิงครับ

982
ขอตอบแบบ ไม่ สีแดง และเหลือง พระต้องตัดทางโลภเพื่อหาทางหลุดพ้นครับ ไม่ควรไปยุ่ง แต่งานนี้ พระไปร่วมก็ไม่สมควรนะครับ ผิดศีลแน่นอนครับ

เคยเห็นหลวงพี่ท่านนึงที่จำวัดอยู่วัดปรินายก กทม เดินขบวนบ่อยๆๆ องค์ที่มา วันไหว้ครู อ้วนๆๆ ที่ลงทองอะค่ะ   :017:
เคารพกับความคิดเห็นท่านนะครับ แต่ผมว่าเราไม่ควรเจาะจงขนาดนี้นะครับ

983
หงษ์คู่อาจารย์ต้อยวัดกำพร้า สมุทรสาครสายอาจารย์ทอง

984
ตามคำถามข้อ 1.แหมท่านของไม่หลุดไม่หนีไปไหนท่าน บทสวดนี้ไล่ของไม่ดี พวกของต่ำๆให้ออกจากตัวนะครับท่าน ของดีที่สักมากจะเข้มขลังขึ้นล่ะครับ ตามที่รู้มาท้าวเวชสุวรรณเจ้าแห่งภูตผีผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็กลัว บริวารจะมารบกวนพระภิษุสงฆ์ จะถวายบทสวดนี้กับพระพุทธเจ้า เพื่อให้พระภิษุสงฆ์ไว้สวด ไล่ภูตผี (อย่างย่อนะครับ)
ส่วนข้อที่ 2. ท่านครับไม่มีการรักษาศีลแบบ ปานกลาง การทำดีแบบปานกลาง นะครับ ง่ายๆ ไม่ด่าพ่อแม่ ของผู้อื่นๆนี้เป็นข้อห้ามพื้นฐานเลยนะท่าน ทำได้ก็ได้กับตัวเองนะครับทนๆหน่อยนะครับ ขอให้ท่านรักษาได้ แล้วสิ่งดีๆที่ครูบาอาจารย์มอบให้จะคุ้มครองรักษาท่านแน่นอนเมื่อถึงเวลา

985
ข้อมูลดีมากครับได้อ่านแล้วเพิ่มความรู้

986
งานมีมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการมาการเยอะเลยนะครับเสียดายที่ไม่ได้ไป เสียใจมากๆ ขอบคุณสำหรับภาพนะครับ

987
สวยงามมากครับท่าน ที่แพร่มีด้วยครับ ดีเลยมีโอกาสไปแน่

988
ขอตอบแบบ ไม่ สีแดง และเหลือง พระต้องตัดทางโลภเพื่อหาทางหลุดพ้นครับ ไม่ควรไปยุ่ง แต่งานนี้ พระไปร่วมก็ไม่สมควรนะครับ ผิดศีลแน่นอนครับ

989
ครั้งสุดท้ายล่ะครับ ขอนะครับ

990
บทความ บทกวี / ตอบ: วิธีลืมคนรัก
« เมื่อ: 02 เม.ย. 2552, 11:05:40 »
วันนี้ท่านปอร์ มาอารมณ์ไหนครับ

991
จิ้งจก 7 ตัว อาจารย์ประโยชน์ดินแดง
ชูชก อาจารย์ประโยชน์ดินแดง

993
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับท่าน

994
[img]http://img80.imageshack.us/img80/710/18900119.jpg[/img]พุทธซ้อน มีคำ5 คำ นะ-โม-พุทธ-ธา-ยะ
หลวงพ่อเต๋ หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อหลายๆ องค์ก็ใช้นะโมพุทธธายะ นี่แหละครับ คาถาพระเจ้า 5 พระองค์
สำหรับที่ท่านเจ้าของกระทู้ของชม ของผมมียันต์นี้ยันต์เดียว ยันต์อื่นๆ คงมีสมาชิกท่านอื่นตอบนะครับ

995
อะไรทีผิดก็ไม่ทำหากทำไปแล้วแต่ไม่ตั้งใจ ก็ไม่พลาดทำผิดแบบไม่ตั้งใจอีก แค่นี้นะท่าน

996
ครับ รับทราบครับ

997
บทความ บทกวี / ตอบ: วิธีลืมคนรัก
« เมื่อ: 02 เม.ย. 2552, 09:43:45 »
เพิ่งได้ยิมมาจากหนัง"ไม่ลืม ไม่มีหรอก มีแต่ลืมช้า กับลืมเร็ว" ทำตัวยุ่งๆ ก็ลืมเองนะท่านครับ

998
ก็ให้อาจารย์เป่าใหม่ท่านคงไม่ว่า ก็ระวังหน่อยนะครับทีหลัง

999
ขอบคุณข้อมูลดีๆนะท่าน

หน้า: [1] 2