:059:กลับสู่ภาวะปกติ....
หลังจากได้พักผ่อนเต็มที่ ปรับกายปรับจิต ปรับความคิด กลับมาสู่ความเป็นสมณะ
ทำหน้าที่ของพระเจริญจิตภาวนา พิจารณาธรรม ตามกาลตามเวลา ตามสภาวะ
เกิดจิตปฏิฆะกับเสียงหมา.....
เรื่องหมาๆหรือว่าเรื่องของหมาก็มีสาระ
มีคนกล่าวไว้ว่า...จะดูนิสัยเจ้าของหมาให้ดูจากหมาที่เลี้ยง
พิจารณาแล้วเห็นจริงด้วย เพราะคนเลี้ยงหมาย่อมจะถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก
ไปสู่หมาที่ตนเลี้ยง เพื่อให้หมามีพฤติกรรมที่สนองตอบตัณหาของผู้เป็นเจ้าของ
ซึ่งเจ้าของจะรัก จะชอบใจ ก็เพราะมันสนองตอบตัณหาของเจ้าของนั่นเอง
ดูวัดให้ดูที่หมา.....
ใครก็ไม่รู้เป็นผู้กล่าวไว้เป็นคนแรก
แปลกแต่จริงเพราะได้ประสพพบเห็นมามาก
จากประสพการณ์ในหลายที่ หลายอาวาส หลายจังหวัด
ว่าวัดไหนอาหารอุดมสมบูรณ์ หมาในวัดนั้นจะอ้วนพี
วัดไหนหมาผอมโซ แสดงว่าวัดนั้นการขบฉันลำบาก
หรือไม่ก็พระเณรในวัดขาดจิตเมตตา ไม่น่าอยู่อาศัย
วัดใดเข้าไปแล้วหมาไล่เห่าไล่กัด แสดงว่าวัดนั้นขาดการปฏิบัติธรรมจริงจัง
ภายในวัดมีความขัดแย้ง ต่างคนต่างอยู่ ขาดความสามัคคี
เรื่องหมาๆก็มีสาระ....
ที่มีความคิดเรื่องนี้ขึ้นมา คือเรื่องของหมา
ก็เพราะว่าในสำนักที่อาศัยจำพรรษานั้นมีหมาอยู่หลายตัว
และตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเดือนสิบแล้วคือฤดูหมาติดสัด
หมามันมาไล่กัดกันในวัดเพื่อแย่งตัวเมียกัน
ทำให้มีเสียงดังรบกวนเวลาปฏิบัติทำวัตรสวดมนต์
ซึ่งตอนแรกก็มีจิตปฏิฆะแต่พอพิจารณาเป็นธรรมะ
จิตปฏิฆะก็หายไป ปล่อยให้หมามันเห่ามันกัดกัน
....ส่วนเรานั้นไม่ไปเห่า ไม่ไปกัดกับหมา....
....สบายใจ ไม่ไปโกรธ ไม่ไปกัดกับหมา...
....ไม่ต้องไปเป็นหมา.....
:054:ขอบใจเรื่องของหมาที่มาสอนธรรมะแก่เรา
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๖ สิงหาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๖.๕๓ น. ณ กุฏิน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย