ผู้เขียน หัวข้อ: "เหมือนใจ คล้ายกับจิต" รวบรวมคำอุปมาของ หลวงพ่อชา สุภัทโท...บทที่ ๓  (อ่าน 1854 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
   "การเปรียบเทียบสิ่งที่เรารู้จักกับสิ่งทีี่เราไม่รู้จัก หรือสิ่งที่เป็นรูปธรรมกับสิ่งที่เป็นนามธรรม
 ย่อมเป็นวิธีการอธิบายคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ที่ได้ผลดี เพราะช่วยให้ผู้ศึกษาได้เห็น
 หลักความจริงต่างๆชัดเจนขึ้น รู้สึกบันเทิงในธรรม และจำคำสั่งสอนได้ง่าย ทั้งเป็นการยืนยัน
 ว่าธรรมะเป็นเรื่องธรรมดาไม่เหลือวิสัยของใครที่จะเข้าใจ
    หลวงพ่อชา เป็นอัจฉริยะในการสื่อหลักธรรมด้วยการอุปมาอุปไมยอย่างยิ่งองค์หนึ่ง
คณะผู้จัดพิมพ์จึงพิจารณาเห็นว่า การคัดเลือกเฉพาะคำอุปมาของท่านมาจากหนังสือต่างๆ
ที่เคยพิมพ์เผยแพร่ น่าจะเป็นประโยชน์และเกิดธรรมหรรษาในใจของผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลายไม่มากก็น้อย
อาจจะเหมือนกับการหงายสิ่งที่คว่ำแล้วเปิดสิ่งที่ปิดแล้ว หรือส่องแสงสว่างในทางที่มืดแล้วก็ได้"
   คำนำของคณะผู้จัดพิมพ์หนังสือ"เหมือนใจ คล้ายกับจิต" ธันวาคม ๒๕๓๘
          .....................................................................
...สตังหาย...
                       เหมือนกับญาติโยมทั้งหลาย ออกไปจากบ้านเป็นต้น
                 แล้วกระเป๋าสตางค์หาย มันหล่นอยู่กลางทางโน่น ยังไม่ทัน
                 รู้จักพากันสบายอยู่ สบายเพราะยังไม่รู้จักว่าสบายนี้เพื่ออะไร
                 สบายเพื่อจะไม่สบายอีกต่อไป เมื่อต่อไปเราได้เห็นว่าเงินเสีย
                 ไปแล้วจริงๆก็เกิดความไม่สบายขึ้น คือมันเกิดขึ้นมาเมื่อเรา
                 รู้จักต่อหน้า บาปบุญคุณโทษนี้ก็เหมือนกัน พระพุทธเจ้า
                 ท่านจึงทรงสอนให้รู้จัก ถ้ามันไม่รู้จัก มันก็ไม่รู้จักผิด
                 ไม่รู้จักถูก ไม่รู้จักดี ไม่รู้จักชั่ว....
...ล้อเกวียน-รอยเกวียน...
                                    วัฏฏะก็เหมือนกับล้อเกวียน โคลากเกวียนไป ล้อเกวียนมันไม่ยาว
                               ถ้าโคตัวนั้นมันลากไปไม่หยุด รอยเกวียนมันก็ทับรอยโคไปไม่หยุด
                               มันกลมแต่ว่ามันยาว จะว่ามันยาวก็ได้ แต่ว่ามันกลม เราเห็นความกลมเช่นนี้
                               ก็ไม่เห็นความยาว ในวงเกวียนอันนั้นเมื่อโคลากไปไม่หยุด ล้อเกวียนก็หมุนไปไม่หยุด
                                   อีกวันหนึ่ง โคมันหยุด มันเหนื่อย สลัดแอกออกไปเสีย โคไปโค เกวียนไปเกวียน
                               ล้อเกวียนก็หยุดเอง ทิ้งอยู่นาน พอนานไปมันก็เป็นธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ถมทับเป็นดินหญ้าอย่างเดิม
                                    คนทำกรรมก็เหมือนกัน มันไม่จบเรื่อง คนพูดความจริงก็ไม่จบ คนมิจฉาทิฏฐิก็ไม่จบ.....
...ก้อนน้ำแข็ง...
                         ก้อนน้ำแข็งใหญ่เอาไปวางไว้กลางแจ้ง  จะดูความเสื่อมของก้อนน้ำแข็ง
                    ก็เหมือนสังขารนี้มันจะเสื่อมทีละน้อย ทีละน้อย ไม่กี่นาที ไม่กี่ชั่วโมง
                    ก้อนน้ำแข็งนี้ก็จะละลายหมดเป็นน้ำไป ที่เรียกว่าเป็น"ขัยยะวัยยัง"
                         ความสิ้นไป ความเสื่อมไปแห่งสังขารทั้งหลายเป็นมานานแล้ว
                    ตั้งแต่มีโลกขึ้นมา เราเกิดมาเราเก็บเอาสิ่งเหล่านี้มาด้วย ไม่ใช่ว่าเราทิ้งไปไหน
                    พอเกิดมา เราก็เก็บเอาความเจ็บ ความแก่ ความตาย มาพร้อมกัน
                         ดูอาการที่มันเสื่อมซิ ร่างกายของเรานี้ ทุกส่วนมันเสื่อม ผมมันก็เสื่อมไป
                    ขนมันก็เสื่อมไป เล็บมันก้เสื่อมไป หนังมันก็เสื่อมไป อะไรทุกอย่างมันเสื่อแมไปทั้งนั้น
                    เสื่อมไปตามธรรมชาติของมัน...
ที่มา"เหมือนใจ คล้ายกับจิต"รวบรวมคำอุปมาของ หลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถร)
                 ..........................................................
...ความคิดเห็นของผู้นำมาถ่ายทอดเผยแพร่...
   " เมือเราอยู่กับธรรม ทุกสิ่งรอบกายย่อมเห็นเป็นธรรมะ
    เมื่อเราหยิบยกขึ้นมาพิจารณาให้เห็นคุณ เห็นโทษ
    เห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ของสิ่งเหล่านั้น
    เราย่อมเข้าถึงธรรมะ ถึงสภาวะแห่งสัจธรรมที่แท้จริง
    เมื่อจิตของเรานิ่ง ความเป็นจริงตามธรรมชาติก็จะปรากฏ"
   "อย่าโอ้อวดว่าเราเก่งกว่าผู้อื่น วิเศษกว่าผู้อื่น
     อย่าคิดว่าเรารู้มากกว่าผู้อื่น รู้ดีกว่าผู้อื่น
     จะเป็นเหตุให้ก่อเกิดมานะทิฏฐิ เกิดความถือตัวถือตน"
               .........................................
             ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                 รวี สัจจะ-สมณะชายขอบ
๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ เวลา ๒๓.๔๙ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
                   
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ kill

  • สมาชิกที่ถูกแบน
  • ****
  • กระทู้: 183
    • ดูรายละเอียด
อย่าโอ้อวดว่าเราเก่งกว่าผู้อื่น วิเศษกว่าผู้อื่น
     อย่าคิดว่าเรารู้มากกว่าผู้อื่น รู้ดีกว่าผู้อื่น
     จะเป็นเหตุให้ก่อเกิดมานะทิฏฐิ เกิดความถือตัวถือตน"


เหนือฟ้ายังมีฟ้า


ขอบคุณที่มีหลักธรรมะดีๆๆมาชี้แนะเสมอ :054:
ฆ่ากิเลสให้หมด แล้วจะหมดทุกข์

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
   เมือเราอยู่กับธรรม ทุกสิ่งรอบกายย่อมเห็นเป็นธรรมะ
    เมื่อเราหยิบยกขึ้นมาพิจารณาให้เห็นคุณ เห็นโทษ
    เห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ของสิ่งเหล่านั้น
    เราย่อมเข้าถึงธรรมะ ถึงสภาวะแห่งสัจธรรมที่แท้จริง



...กราบนมัสการขอบพระคุณพระอาจารย์ สำหรับคำอุปมาธรรมะของหลวงพ่อชา ในตอนที่ 3 ครับ....


...การเปรียบเทียบการอุปมาอุปมัย แสดงให้เห็นภาพ ทำให้คิดตามและทำความเข้าใจได้โดยง่ายจริงๆครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ต.ค. 2552, 12:15:17 โดย ack01 »

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
เมื่อเราอยู่กับธรรม ทุกสิ่งรอบกายย่อมเห็นเป็นธรรมะ
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ กราบขอบพระคุณสำหรับธรรมะหลวงพ่อชาและคำสอนของพระอาจารย์ครับ
ธัมโม ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม,
พระธรรมเป็นเครื่องกำจัดทุกข์และทรงไว้ซึ่งประโยชน์แก่ข้าพเจ้า

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา