๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓
ตถตาอาศรม ริมฝั่งแม่น้ำโขง
ผ่านพ้นไปสำหรับเทศกาล"ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่" วัดทุ่งเว้าไม่เคยเงียบเหงา
มีผู้มาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอไม่เคยขาดในเทศกาลนี้"ท่านมาเราดีใจ ท่านกลับไปเราคิดถึง"
เก็บรักษามิตรภาพและความรู้สึกที่ดีต่อกันไว้ในความรู้สึก ทุกคนย่อมมีวิถีทางของแต่ละชีวิต
เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจ ทุกชีวิตก็ต้องกลับไปดำเนินต่อในสิ่งที่ได้สร้างและทำมาตามหน้าที่ของแต่ละคน
การพบปะกันนั้น เหมือนสายลมที่พัดผ่าน เมื่อมากระทบสัมผัสต้องกาย ย่อมก่อให้เกิดความรู้สึก
แต่เมื่อสายลมผัดผ่านพ้นไป ทุกอย่างก็กลับสู่สภาวะเดิม เหลือเพียงความทรงจำของความรู้สึกนั้น
ทุกวันสิ้นปีของวัดทุ่งเว้านั้น ญาติโยมเขาลงมติกันไว้ว่า"เป็นวันทำบุญทอดผ้าป่าข้าวเปลือก"
ซึ่งญาติโยมชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธา เขาจะนำข้าวเปลือกมารวมกันที่วัด ตามกำลังศรัทธาของแต่ละท่าน
มากบ้างน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าในปีนั้นผลผลิตจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งแต่ละปีนั้นรวมกันได้ประมาณ
3,000กว่ากิโลกรัม มีทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิ สิ่งที่ญาติโยมนำมาร่วมบุญนั้น
ก็จะมี ข้าวเปลือก หมอน ปัจจัยติดต้นผ้าป่า ข้าวเปลือกที่ได้มานั้น ก็จะนำมาจัดสรรค์แบ่งปันกันไป
ข้่าวเจ้าหอมมะลิทางวัดจะเก็บไว้บริโภคภายในวัด ไว้ต้อนรับหุงเลี้ยงญาติโยมในเทศกาลต่างๆ
ส่วนข้าวเหนียวนั้นก็จะแบ่งปันขายให้ญาติโยมที่ไม่ได้ทำนาหรือว่าทำนาแล้วได้ผลผลิตน้อย
และผู้ที่ยากจนไม่มีนาที่จะทำโดยขายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด เพื่อเป็นการช่วยเหลือกัน
ซึ่งในแต่ละปีนั้น"งานบุญกองข้าว(ผ้าป่าข้าวเปลือก)" ก้จะมีรายได้เข้าวัดประมาณ 50,000.บาท
หมอนประมาณ 300ใบ ซึ่งหมอนนั้นจะเก็บไว้เพื่อมอบเป็นของที่ระลึกสำหรับญาติโยมที่มาจากภูมิภาคอื่น
ที่แวะมาเยี่ยมเยือนและร่วมบุญกับทางวัด (เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของภาคอีสานใครมาเยี่ยมก็จะให้หมอนเป็นของที่ระลึก)
สำหรับความเป็นสมณะนั้น ทุกวันสำคัญเหมือนกันหมด คือการทำหน้าที่ให้สมบูรณ์เสมอกัน ไม่มีวันหยุด
ไม่มีเทศกาลอะไรพิเศษ วันทุกวันจึงเหมือนกันหมด แต่สำหรับญาติโยมแล้วมันมีผลต่อความรู้สึกทางจิตใจ
เป็นขวัญและกำลังใจสำหรับเขาเหล่านั้น การอยู่ร่วมกันในสังคม จึงต้องปรับเข้าหากัน ทั้งทางโลกและทางธรรม
อยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีการแปลกแยก "แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง" แล้วสังคมหมู่คณะนั้นจะอยู่ร่วมกันด้วยดี
การสอนธรรมะและให้ธรรมะแก่เขานั้น ต้องค่อยเป็นค่อยไปให้เขาซึมซับไปที่ละเล็กที่ละน้อยโดยที่เขาไม่รู้ตัว
โดยการ"ทำให้ดู อยู่ให้เห็น สอนให้เป็น แล้วจึงปล่อย" อย่าไปยัดเยียดบังคับให้เขาปฏิบัติตามหรือให้เขาเชื่อ
ให้เขาเชือ ให้เขาศรัทธา ให้เขาปฏิบัติตาม โดยความสมัครใจ ผลที่ได้จะมั่นคงและยืนยาว...
เล่าสู่กันฟัง สัพเพเหระ แฝงธรรมะและข้อคิด เพื่อเตือนจิตสะกิดใจ สำหรับผู้เข้าใจและใฝ่ธรรมทั้งหลาย
เป็นความรู้และข้อมูลสำหรับผู้ที่ใฝ่รู้ทั้งหลาย และเพื่อความเพลิดเพลินสบายใจของผู้ที่เข้ามาอ่านทั้งหลาย
ขอให้ได้รับความสุขกายสบายใจ มีเงินใช้ไม่ขาดมือ(ต้องทำเอานะ)สุขภาพพลานามัยร่างกายแข็งแรง
เจริญพร เจริญสุข เจริญธรรมแด่ทุกท่าน...
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะชายขอบ
๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓ เวลา ๒๑.๕๒ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย