วันอาทิตย์ที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๓
ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ชายขอบประเทศ"ทย
ในสังคมที่แสนจะวุ่นวายและสับสน ความคิดของผู้คนแตกต่างกันไป
สงครามข่าวสารมากมายที่ ที่แพร่หลายออกมาให้ต้องรับรู้รับทราบกันอยู่ทุกวัน
ปัญหานั้นจึงตกแก่ผู้เสพข่าวสาร ซึ่งนานวันเข้ามันจะก่อให้เกิดเป็นความเครียด
ความกังวล และถ้าเราเผลอสติคล้อยตามข่าวสาร เข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์
มันก็จะก่อให้เกิดทุกข์ตามมา ข้อเรียกร้องต่างๆนั้นคือการแสดงออกซึ่ง"ตัณหา"
เพราะว่าอยากจะให้มีอยากจะให้เป็น หรืออยากจะไม่ให้มีไม่ให้เป็นนั้นคือ"ตัณหา"
ปัญหาที่เกิดขึ้นมานั้นก็เพราะว่าไม่รู้จักควบคุม"ตัณหา"ความอยากของตนเอง
และเอาความอยากของตนเองนั้น ไปยัดเยียดให้ผู้อื่นสนองตอบใน"ตัณหา"ของตน
การเมืองจึงเป็นเรื่องของ"ตัณหา" การแสดงออกมาซึ่งความอยาก ความต้องการ
พระสงฆ์นั้นจึงไม่ควรเข้าไปมีส่วนร่วมในการเมือง เพราะว่ามันเป็นเรื่องของ"ตัณหา"
บทบาทและหน้าที่ของพระสงฆ์นั้นคือชี้ให้เห็นโทษของ" มานะ อัตตา ตัณหา อุปาทาน"
สอนให้รู้จักขบวนการ "ลด ละ เลิก" ถอนออกจากสิ่งนั้นเสีย ไม่ใช่เข้าไปส่งเสริมเติมต่อ
ก่อให้กิเลสตัณหานั้นเพิ่มพูนขึ้น จึงควรรู้หน้าที่และบทบาทของความเป็น"พระสงฆ์"
ดำรงค์ตนให้เป็นแบบอย่าง มีความเป็นกลาง ไม่มีอคติเข้าข้างฝ่ายหนึ่งหรือฝ่ายใด
ชี้ให้เห็นโทษเห็นภัยของกิเลสตัณหาความอยากทั้งหลายเหล่านั้น
เมื่อเราปรับความคิด ชีวิตของเราก็จะเปลี่ยน ทุกข์ทั้งหลายก็จะคลายลงเบาลง
ขอเพียงแต่ให้เราหยุดคิดแล้วพิจารณาด้วยปัญญา เอาธรรมะเข้ามาเป็นเหตุและผล
เราก็จะเข้าใจในสิ่งที่เป็นไปว่า" มันเป็นเช่นนั้นเอง...ตถตา..." ถอนอัตตาและคติ
พิจารณาอย่างเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เราจะได้เห็นอะไรอีกมากมาย
และทำใจได้กับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือที่เกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อเกิดความเข้าใจ
และทำใจได้ ทุกข์ทั้งหลายก็จะคลายลงเบาลง เมื่อใจไม่เป็นทุกข์สุขภาพจิตดี
ชีวิตเราก็เปลี่ยน "จิตดี กายเด่น จิตด้อย กายดับ" เมื่อจิตใจดี ราศรีก็จะตามมา
ดั่งคำพูดที่ว่า"หน้าตามีราศรี " เกิดจากความรู้สึกที่ดีภายในที่เปล่งประกายออกมา
ทำให้ธาตุในกายนั้นมีความสัมพันธ์และมีความสมดุลย์
"เพียงคุณปรับความคิด แล้วชีวิตของคุณจะเปลี่ยน" และเปลี่ยนไปในทางที่ดี
จึงขอฝากบทความนี้ให้นำไปคิดและพิจารณา ใช้สติและปัญญา ถอนทิฏฐิ มานะ อัตตา
พิจารณาอย่างไม่มีอคติ โดยนำหลักธรรมมาปรับใช้ในการคิด มองให้เห็นเป็นธรรมะ
แล้วจิตของคุณจะพัฒนาเจริญก้าวหน้าในทางธรรม
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๑๐ เมษายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๕๒ น. ณ ริ่มฝั่งแม่น้ำโขง ชายขอบประเทศไทย