ผู้เขียน หัวข้อ: อภัยทาน นี้เป็นคุณแก่ผู้ให้ ยิ่งกว่าแก่ผู้รับ  (อ่าน 981 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ NONGEAR44

  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 669
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - en2005f@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
                                                    อภัยทาน นี้เป็นคุณแก่ผู้ให้ ยิ่งกว่าแก่ผู้รับ

                        สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

 อภัยทาน คืออย่างไร ?

อภัยทาน ก็คือการยกโทษให้ คือการไม่ถือความผิดหรือการล่วงเกินกระทบกระทั่งว่าเป็นโทษ

อภัยทาน นี้เป็นคุณแก่ผู้ให้ ยิ่งกว่าแก่ผู้รับ เช่น เดียวกับทานทั้งหลายเหมือนกัน คืออภัยทานหรือการให้อภัย นี้ เมื่อเกิดขึ้นในใจผู้ใด จะยังจิตใจของผู้นั้นให้ผ่องใสพ้นจากการกลุ้มรุมบดบังของโทสะ

อันใจที่แจ่มใส กับใจที่มืดมัว ไม่อธิบายก็น่าจะทราบกันอยู่ทุกคนว่าใจแบบไหนที่ยังความสุขให้เกิดขึ้นแก่ เจ้าของ ใจแบบไหนที่ยังความทุกข์ให้เกิดขึ้น และใจแบบไหนที่เป็นที่ต้องการ ใจแบบไหนที่ไม่เป็นที่ต้องการเลย

ความจริงนั้น ทุกคนที่สนใจบริหารจิต จะต้องสนใจอบรมจิตให้รู้จักอภัยในความผิดทั้งปวง ไม่ว่าผู้ใดจะทำแก่ตน แม้การให้อภัยจะเป็นการทำได้ไม่ง่ายนัก สำหรับบางคนที่ไม่เคยอบรมมาก่อน แต่ก็สามารถจะทำได้ด้วยการอบรมไปทีละเล็กละน้อย เริ่มแต่ที่ไม่ต้องฝืนใจมากนักไปก่อนในระยะแรก

ตัวอย่างเช่น เวลาขึ้นรถประจำทางที่มีผู้โดยสารคอยขึ้รถอยู่เป็นจำนวนมาก หากจะมีผู้เบียดแย่งขึ้นหน้า ทั้งๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลัง ถ้าเกิดโกรธขึ้นมาไม่ว่าน้อยหรือมาก ก็ให้ถือเป็นโอกาสอบรมจิตใจให้รู้จักอภัยให้เขาเสีย เพราะเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรถือโกรธกันหนักหนา เป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกินควรจะอภัยให้กันได้ แต่บางที่ไม่ตั้งใจคิดเอาไว้ก็จะไม่ทันให้อภัยจะเป็นเพียงโกรธแล้วจะหายโกรธ ไปเอง


โกรธแล้วหายโกรธ เอง กับโกรธแล้วหายโกรธเพราะให้อภัย ไม่เหมือนกัน โกรธแล้วหายโกรธเองเป็นเรื่องธรรมดา ทุกสิ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับ ไม่เป็นการบริหารจิตแต่อย่างใด แต่โกรธแล้วหายโกรธเพราะคิดให้อภัย เป็นการบริหารจิตโดยตรง จะเป็นการยกระดับของจิตให้สูงขึ้น ดีขึ้น มีค่าขึ้น

ผู้ดูแลเห็นความสำคัญของจิต จึงควรมีสติทำความเพียรอบรมจิตให้คุ้นเคยต่อการให้อภัยไว้เสมอ เมื่อเกิดโทสะขึ้นในผู้ใดเพราะการปฏิบัติล้วงล้ำก้ำ เกินเพียงใดก็ตาม พยายาม มีสติพิจารณาหาทางให้อภัยทานเกิดขึ้นในใจให้ได้ ก่อนที่ความโกรธจะดับไปเสียเองก่อน
ทำได้เช่นนี้จะเป็นคุณแก่ตนเองมากมายนัก ไม่เพียงแต่จะทำให้มีโทสะลดน้อยลงเท่านั้น และเมื่อปล่อยให้ความโกรธดับไปเอง ก็มักหาดับไปหมดสิ้นไม่ เถ้าถ่านคือความผูกโกรธมักจะยังเหลืออยู่ และอาจกระพือความโกรธขึ้นอีกในจิตใจได้ในโอกาสต่อไป


ผู้อบรมจิตให้คุ้นเคยอยู่เสมอกับการให้ อภัย แม้จะไม่ได้รับการขอขมา ก็ย่อมอภัยให้ได้ ในทางตรงกันข้าม ผู้ไม่เคยอบรมจิตใจให้คุ้นเคยกับการให้อภัยเลย โกรธแล้วก็ให้หายเอง แม้ได้รับการขอขมาโทษ ก็อาจจะไม่อภัยให้ได้ เป็นเรื่องของการไม่ฝึกใจให้เคยชิน

อันใจนั้นฝึกได้ ไม่ใช่ฝึกไม่ได้ ฝึกอย่างใดก็จะเป็นอย่างนั้น ฝึกให้ดีก็จะดี ฝึกให้ร้ายก็จะร้าย...

 ขอบคุณที่มา http://board.palungjit.com/

ออฟไลน์ ~>uาJวัuทoJ<~

  • AlwaYs Miss Ya !! ><* คนที่คุณก็รู้ว่าใคร **
  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 212
  • เพศ: หญิง
  • Twitter@MinzLadyMaFiAz
    • Yahoo Instant Messenger - KawisaraMinz@yahoo.com
    • ดูรายละเอียด
ขอบพระคุณพี่เชษที่นำมาแบ่งปันค่ะ
[shake]เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว ไม่ค่อยเข้าใจสภาพความเป็นไป...โลกร้อนมากไปคนก็กลายเป็นหมาบ้า --*[/shake]

ออฟไลน์ ซาดุยฮุย

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 149
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ดีครับ

นำบทความดีดีมาให้อ่าน 

ได้สติดีครับ

ขอบคุณครับ
[shake]ร่วมกันปลูกต้นไม้ ช่วยโลก  ช่วยเรา  ทำความดีถวายในหลวง

จะเดินตามรอยเท้าของพ่อด้วยความตั้งใจ   มอบชีวิตทุ่มเทให้แผ่นดินนี้   ทำความดีเพื่อชาติไทย

ท่องคำว่า เพียงและพอ จากหัวใจ[/shake]