ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่อง ของ คู่  (อ่าน 3781 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ นายธรรมะ

  • ดีชั่วอยู่ที่ตัวทํา สูงต่ำอยู่ที่ทําตัว
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 615
  • เพศ: ชาย
  • เหนื่อย ได้แต่อย่า ท้อ
    • ดูรายละเอียด
เรื่อง ของ คู่
« เมื่อ: 26 ก.พ. 2554, 06:29:37 »
เรื่อง ของ คู่


คำถามที่ว่าทุกคนต้องมีคู่หรือไม่?..
คำตอบตรง ๆ คือ ไม่จำเป็น
ถ้าจะถามแล้วควรมีหรือไม่ ?..
คำตอบคือ แล้วแต่จุดมุ่งหมาย

บุคคลที่อยู่ในระดับสูงของวิวัฒนาการแล้ว และมีคุณสมบัติเป็นมนุษย์พิเศษจำนวนมากที่ไม่มีคู่ชีวิต เช่น พระสารีบุตร พระโมคัลลานะ พระกัจจายนะ พระรัฐปาล และพระราหุล เป็นต้น แต่บุคคลเหล่านี้จะมีคู่ธรรมแทน เช่น

พระสารีบุตร เป็นคู่ธรรมกับ พระโมคคัลลานะ จะเกิดด้วยกันเกือบทุกชาติ เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการปฏิบัติธรรม จนกระทั่งชาติสุดท้ายได้สำเร็จอรหันต์ในตำแหน่ง อัครสาวกด้วยกัน นับเป็นเพื่อนแท้อีกคู่หนึ่งในโลก

พระราหุล กับ พระนางอุบลวรรณา (กัณหา-ชาลี ในอดีตชาติ) เป็นคู่ธรรมกัน มักจะเกิดเป็นพี่น้องกันเกือบทุกชาติ เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลการปฏิบัติธรรมของกันและกัน นับเป็นพี่น้องที่ยืนยาวมากอีกคู่หนึ่งในโลก บุคคลเหล่านี้ท่านไม่นิยมคู่ชีวิต เพราะยุ่งยาก ไม่เป็นอิสระ ไม่เอื้อต่อความสงบจึงมีคู่ธรรมแทน

บุคคลที่ควรจะมีคู่คือ ผู้ที่จะบำเพ็ญเพียรเป็นพระพุทธเจ้า บุคคลเหล่านี้จะต้องฝ่าความระกำลำบากนานาประการ เป็นสัตว์ทุกชนิด เป็นมนุษย์ทุกประเภท เป็นเทวดาทุกภพทุกภูมิ เป็นพรหมทุกชั้น ต้องเคยอยู่เคยเป็นทุกอย่าง เพื่อจะได้รู้แจ้งแทงตลอดธรรมชาติอย่างปรุโปร่ง พระพุทธเจ้าเปรียบว่า ผู้บำเพ็ญเพียรเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าเสมือนคนที่เห็นทะเลกำลังเดือด แล้วประสงค์จะว่ายน้ำ ฝ่าทะเลเดือดเพื่อไปช่วยมหาชน ณ ฝั่งที่ยังมองไม่เห็น ใครมีความกล้าอุทิศตนถึงเพียงนี้ จึงอาจบำเพ็ญเพียรเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าได้ และในการบำเพ็ญตลอดทางอันไกลกันดารยาวนานนั้น มักจะทรงเลือกคู่บารมี เพื่อจะคอยเกื้อกูลประคับประคองกันในการปฏิบัติธรรม

หากจะถามว่า พระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญเพียรอยู่นั้นกับคู่บารมีของพระองค์ มีทุกข์ระหว่างกันบ้างหรือไม่ ก็บอกได้เลยว่ามี มีมากกว่าคนธรรมดาด้วย เพราะความผูกพันธ์อันยาวนานจะฝังรากลึก เวลาสมหวังก็ดีใจลึกๆ เวลาผิดหวังก็เสียใจร้าวลึกเช่นกัน แต่คนที่จะเป็นคู่บารมีได้จะต้องอุทิศชีวิตให้แก่กันและกันได้ และจะต้องมีอธิษฐานจิตกำกับทุกชาติไปดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมักถูกคลี่คลายได้โดยไม่ยาก

แล้วคนทั่วไปล่ะ!..ควรมีคู่หรือไม่? เรื่องนี้แล้วแต่จดมุ่งหมายของแต่ละคน ถ้าท่านจะเอาดีเป็นผู้วิเศษ ก็ไม่ควรมี เพราะคู่จะบั่นทอนความผ่องใสของจิตใจของกันและกันระดับหนึ่งทีเดียว แต่ถ้าท่านจะเอาดีทางการปกครอง เป็นผู้นำของชุมชน การมีคู่ก็เป็นไปตามธรรมเนียมของโลก ที่ทำให้ท่านไม่เบี่ยงเบนจากสังคมจนเกินไป

สำหรับมนุษย์โดยทั่วไปที่ไม่ได้อธิษฐานเป็นคู่กันตลอดกาล มักจะพานพบและมีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามอย่างสับสน ชาติหนึ่งอาจจะเป็นคู่กับอีกคนหนึ่ง พออีกชาติหนึ่งไปเป็นคู่กับอีกคนหนึ่ง ชาติอื่นอาจจะไปเป็นคู่ของคนอื่นอีกเรื่อยไป ต้องเริ่มต้นเรียนรู้ทำความเข้าใจกันใหม่อยู่ร่ำไป ครั้นมาเจอคู่คนเก่าในชาติเดียวกันก็จะหลายใจ และมักมีปัญหาความสำส่อนตามมา อันเป็นเหตุแห่งความทุกข์ทั้งสิ้น จึงทำให้เกิด คู่กัด คู่กาม คู่กรรม ตามแต่กรณี

ประเภทของคู่

จากความสับสนในความสัมพันธ์ และความสำส่อนของบุคคลผู้ที่มิได้มีคู่แท้ถาวร ทำให้เกิดคู่ประเภทต่าง ๆ มาพัวพันชีวิต กอปรกับคู่ถาวรของบุคคลที่มีคู่บารมีหรือคู่ธรรมจึงทำให้จำแนกประเภทคู่ต่าง ๆ ออกได้ห้าประเภท คือ คู่กัด คู่กาม คู่กรรม คู่ธรรม และคู่บารมี

คู่กัดคือคู่ที่ผูกใจเจ็บ อาฆาตพยาบาท หรือสาปแช่งกันไว้ คู่ประเภทนี้ บางทีก็มาเป็นแฟนกัน บางทีก็มาเป็นพี่น้องกัน บางทีก็มาเป็นเพื่อนกัน บางทีก็มาเป็นคนรู้จักกันในฐานะต่างๆ แต่ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร จะมีความอิจฉาริษยา การแข่งขัน กีดกัน และทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เนืองๆ เช่น คู่พระพุทธเจ้ากับพระเทวทัตต์ คู่ประเภทนี้ จะมีประโยชน์ประการเดียว คือช่วยให้เราได้ฝึกความดีในท่ามกลางความชั่ว

การแก้หรือขจัดคู่กัดเสียได้โดยเด็ดขาดนั้นสามารถทำได้โดยต่างฝ่ายต่างสำนึกถึงภัยของพยาบาทที่ทำลายความสุขและเป็นทุกข์ทั้งคู่ แล้วละพยาบาท ถอนคำอาฆาตเสีย ขออภัยและให้อภัยแก่กันและกัน แล้วปรองดองกัน คือเปลี่ยนจากความเป็นศัตรูมาเป็นมิตรเสียนั่นเอง

คู่กาม คือคู่ที่มีกามสัมพันธ์กันแบบสักแต่ว่าเสพกามกันไป ไม่มีเจตนาผูกพันหรือเจตนาร่วมชีวิตกัน การมีคู่ประเภทนี้อาจเกิดได้โดยกิจกาม เช่นการเที่ยวโสเภณี หรือพวกฟรีเซ็กซ์ทั้งหลาย คู่ประเภทนี้เมื่อเจอกันอีกในชาติใดใด ก็จะมีใจกระสันเข้าหากัน แต่ไม่มีบุญ หรือบาปรองรับ จึงไม่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่อง และมักเป็นคู่ที่เข้ามารบกวน หรือทำลายความสัมพันธ์ของคู่ที่แท้จริงเป็นระยะ ๆ ในลักษณะของคู่สัมพันธ์รูปแบบต่างๆ ซึ่งบางทีเป็นเหตุให้สูญเสียคู่ที่แท้จริงไป หรือแม้ไม่สูญเสียไปก็ทำให้อยู่กันไม่เป็นสุข เพื่อไม่ให้มีปัญหาแก่คุณค่าแห่งชีวิตคู่ จึงควรละคู่กามเสียให้พ้น

คู่กรรม คือคู่ที่ได้ร่วมทำบุญ หรือปาบมาด้วยกัน ทำให้มีกรรมพัวพันกัน ต้องมาเกิดมีความสัมพันธ์กันในฐานะต่าง ๆ เช่น เป็น พ่อแม่ลูกกัน เป็นสามีภรรยากันบ้าง เป็นพี่น้องกันบ้าง เป็นครูอาจารย์กันบ้าง เป็นเพื่อนพ้องกันบ้าง เป็นคนรู้จักเกี่ยวข้องกันบ้างตามแต่กรณี ซึ่งในแต่ละชาติก็ไม่เหมือนกัน หมุนเวียนเปลียนไป ผลัดกันเป็น เช่นชาตินี้อาจเป็นแม่เป็นลูกกันชาติหน้าอาจกลับกัน เป็นลูกเป็นแม่กัน อีกชาติหนึ่งอาจเป็นศิษย์อาจารย์กัน ชาติถัดไปอาจเป็นเพื่อนกัน เป็นต้น

คู่แบบนี้จะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับกรรมที่ร่วมกันทำมาดังนั้น ควรหมั่นทำดีกับทุกคนรอบข้าง และสร้างกรรมดีร่วมกัน โดยพยายามหลีกเลี่ยงการทำเลวต่อกันและไม่ร่วมกันทำกรรมเลวใดใด ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายในชีวิตจะได้ดีต่อกัน ซึ่งจะเป็นการสานสร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่น มั่นคงให้เกิดขึ้นได้

คู่ธรรม คือคู่ที่ตั้งจิตอธิษฐาน ที่จะปฏิบัติธรรมร่วมกัน เกื้อกูลแก่กัน ซึ่งบางชาติอาจเกิดมาเป็นเพื่อนกัน บางชาติอาจเป็นพี่น้องกัน บางชาติอาจเป็นพ่อแม่ลูกกัน บางชาติอาจเป็นอาจารย์กับศิษย์ บางชาติอาจเป็นสามีภรรยากัน ถ้าเป็นสามีภรรยากันก็จะมีความเป็นกันเองเสมือนเพื่อนมากกว่าจะเป็นสามีภรรยาทั่วไป และบางคู่แต่งงานกันแล้วก็ไม่เสพกามกันเลย อยู่กันเป็นเพื่อนปฏิบัติธรรมกันไป ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่สะอาด คู่ประเภทนี้จะสนิทใจและไว้วางใจซึ่งกันและกันมาก ไม่ทำร้ายทำลายหรือเรียกร้องอะไรจากกัน มีแต่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

คู่บารมี คือ คู่ที่อธิษฐานจะบำเพ็ญบารมีร่วมกัน เผชิญสุขเผชิญทุกข์ด้วยกัน คอยประคับประคองปรองดองกันให้ถึงเป้าหมายสูงสุดอันแสนไกล คู่บารมีจะมีลักษณะเป็นเพื่อนแท้ที่ยอมตายให้แก่กัน และกันได้ มีความเสียสละสูง มีความถาวร จะพบกันเกือบทุกชาติไป บางชาติก็อาจได้อยู่ด้วยกัน บางชาติก็อาจมีปัญหาไม่ได้อยู่ด้วยกันตามแต่กรรม แต่ก็จะเกื้อกลูกันทุกชาติไป คู่ประเภทนี้จะมีความผูกพันกันล้ำลึก เข้าใจกันได้ดี ความรักของคู่ประเภทนี้จะสะอาด จริงใจ เชื่อถือได้ แต่ก็มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง ตามประสาคนที่จิตยังไม่บริสุทธิ์

(จากหนังสือจิตวิทยาแห่งความรัก หลักการเลือกคู่ การอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข และการอยู่คนเดียวอย่างล้ำค่า ไชย ณ พล)

การเสาะหาคู่

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่วัยรุ่นชอบคิดกันมาก จึงควรทำความเข้าใจให้ตรงว่า คู่ที่แท้จริงนั้นไม่ต้องเสาะหา กลไกกรรมจะนำพามาเจอกันเอง หากพยายามเสาะหามักจะได้คู่เทียมเสียเป็นส่วนใหญ่ ถ้าไปพัวพันกับคู่เทียมเพราะคิดว่าเป็นคู่แท้ แล้วจะเสียใจภายหลังครั้นพบคู่ตัวจริงแล้ว แต่ตนพัวพัน แปดเปื้อน หรือหมดอิสระเสรีภาพเสียแล้ว อาจจะทำให้เสียโอกาสที่จะอยู่กับคุ่ที่แท้จริง หรือหากแก้ปัญหาได้ และมาอยู่ด้วยกันได้ในที่สุด ก็จะไม่มีความสุขสูงสุดอย่างที่ควรจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน ที่มีความพัวพันทางกามารมณ์ และผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องกันแล้วนั้น เสมือนการเอาก้อนอิฐสองก้อนมาเชื่อมกันไว้ด้วยซิเมนต์ ครั้นต้องการกระเทาะอิฐทั้งสองนั้นแยกออกจากกัน ย่อมทำให้อิฐแตกไปบ้าง แม้แยกออกได้แล้วก้ย่อมมีคราบซิเมนต์เกาะมาบ้าง

เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่มีกามารมณ์แล้วมีผลประโยชน์ร่วมกันแล้ว ครั้นพยายามแยกออกจากกัน ย่อมทำให้ดวงใจร้าวชำรุดไปบ้าง เมื่อแยกจากจากกันได้แล้วย่อม ทำให้จิตใจสกปรกเลอะเทอะไปด้วยความทุกข์ กรรม และอารมณ์อันไม่พึงปราถนาบ้าง ซึ่งดวงใจที่ไม่สะอาด และไม่สมบูรณ์ย่อมไม่อาจสร้างสัมพันธ์ใหม่ให้สดใสสมบูรณ์ได้

ดังนั้น การไม่ผลีผลามในเรื่องคู่จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับคนที่ต้องการความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง

ดังนั้น ไม่ควรคิดเสาะหาคู่ เพราะแค่คิดก็ทุกข์แล้ว เมื่อปราถนาก็จะเริ่มขาดความเชื่อมั่นในตน ความสดใสจะสูญหายไป

หล่อ สวย รวย เก่ง ดี สูงส่งด้วยศักดิ์ศรี จะเลือกอย่างไหน ?

คุณสมบัติประการใดประการหนึ่ง หรือหลายประการ หรือทุกประการเหล่านี้คือ หล่อ สวย รวย เก่ง ดี สูงส่งด้วยศักดิ์ศรี อาจเป็นคุณสมบัติของชายในฝันหรือหญิงในฝันของหลาย ๆ คน หรืออาจจะเป็นของทุกคนก็เป็นได้

คนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการตามฝันนี้นั้นมีอยู่น้อยมากในโลก แทบจะนับคนได้ และพวกเขาก็มักจะมีคู่กันอยู่แล้ว ส่วนนอกนั้นก็มักจะมีบางคุณสมบัติ และขาดบางคุณสมบัติขาดๆเกินๆอยู่

ในกรณีที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามมาตรฐานแห่งฝันดังนี้จะเลือกแบบไหนดี
คงต้องบอกความจริงให้รู้ จะอยากฝันอย่างไรก็ฝันไปเถิด พอถึงเวลาเจอคู่ที่แจริงแล้ว มาตรฐานที่ตั้งไว้ก็จะหมดความหมายไป ไม่มีโอกาสได้เลือกหรอก อำนาจรักจะบอกว่า เขาจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ ฉันจะรักคนนี้ จะเอาคนนี้ เพราะพลังผูกพันในดวงใจของทั้งคู่เสมือนแม่เหล็กขั้วบวกกับขั้วลบที่ดูดเข้าหากันตลอดเวลา มิใยที่ใครจะห้ามปราม ชี้แจง หรือเอามาตรฐานใด ๆ มาให้พิจารณาก็ไม่ฟัง ความฝันที่ตนตั้งเกณฑ์ไว้ก็หายไปสิ้น

แต่ถ้าใครสามารถควบคุมใจได้ มิให้ความรักกำเริบกระชากลากพาชีวิตไป และจะเลือกอย่างมีวิจารณญาณ และตั้งใจไว้ว่าถ้าไม่เจอคนที่มีคุณสมบัติดีจริง ก็ไม่เอาดีกว่า ยอมอยู่คนเดียวอย่างมีอิสรสุข ดีกว่าจะอยู่กับอนาคตแห่งความทุกข์ระทม หรือหากใครยังไม่มีคู่แท้และอยากสร้างคู่ถาวรสักคน จะเริ่มต้นกับคนแบบไหนดี คุณสมบัติเหล่านี้มีค่าอย่างไรเราลองมาพิจารณาดูกันทีละคุณสมบัติ

ความหล่อ ความสวย เป็นคุณสมบัติที่ดูชื่นตา ชื่นใจ มีชีวิตชีวาดี แต่ก็มีข้อเสียในตนเองหลายประการเช่น

1.ถ้ามีแฟนหล่อมาก สวยมาก เขาหรือเธอมักเป็นที่หมายปองของคนอื่น จะมีเหตุให้บุคคลที่สามเข้ามาพัวพันให้ร้าวฉาน อกหัก แตกแยกได้ง่าย วุ่นวายหัวใจอย่างยิ่ง

2.แม้เขารัก และซื่อสัตย์ต่อเราจริง ความหล่อความสวยของเขาก็ไม่เที่ยง อยู่กันไปไม่เท่าไหร่ก็เหี่ยว เดี๋ยวก็เจ็บป่วย เป็นโรคต่างๆ และที่สำคัญไม่ว่าสวยหรือหล่อแค่ไหน เมื่อพิจารณาลึกๆแล้ว ร่างกายเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยสิ่งของที่ไม่สะอาดทั้งนั้น เช่น ขี้หัว ขี้หู ขี้มูก ขี้ตา ขี้ฟัน ขี้รักแร้ ขี้ไคล อุจจาระ และขี้เมือกต่าง ๆ ซึ่งก็เหม็นเหมือนกันหมดทุกคน

3.แม้เขารักษารูปร่าง ทรวดทรงผิวพรรณไว้ได้ดี แต่พออยู่ ๆ ไปก็ชินตา ที่เคยเห็นว่าสดใส ก็กลับจืดชืดไป เหมือนอ้อยที่ถูกเคี้ยวหมดน้ำหวานแล้ว ก็เหลือแต่กากอันจืดชืด อยากจะคายทิ้ง

4.ความหล่อความสวยอย่างเดียว ไม่พอที่จะเป็นองค์ประกอบให้ชีวิตประสบความสำเร็จสุขได้ บางคนหล่อ สวย แต่ไม่ฉลาด หรือนิสัยไม่ดี คนหล่อคนสวย มักหยิ่ง เล่นตัว ซึ่งทำให้คบด้วยลำบาก

ดังนั้น การคบคนหล่อ คนสวย ก็เป็นการดี แต่ความหล่อความสวย ไม่ใช่คุณสมบัติหลักของการพิจารณาเลือกคู่ ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่น ๆ อีก

ความรวย เป็นคุณสมบัติที่ดูเหมือนจะเอื้ออำนวยความสะดวกสบายได้ดี ต้องการอะไรก็ใช้เงินซื้อหามาแต่หากพิจารณาดีๆ ความรวยก็มีข้อจำกัด คือ

1.คนรวยมักมีภารกิจมาก ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับบ้านและลูกเมีย ครอบครัวขาดความอบอุ่น

2.ความรวยเองก็ไม่เที่ยง ถ้าไม่รู้จักรักษาก็จนได้ แม้พยายามรักษาอย่างดีก็อาจถูกโกงถูกไพไหม้ได้

3.มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เงินซื้อไม่ได้ เช่นความสงบ ความรักแท้ ความซื่อสัตย์ บุญบารมี หรือปัญญาญาณอันลึกซึ้ง

4.ในแวดวงของคนรวยนั้น บางครั้งอาจขาดแคลนน้ำใจ เพราะจิตใจคนโดยปกติเสมือนแก้วน้ำที่มีน้ำเต็ม ถ้าเอาเหรียญหย่อนลงไปในแก้ว น้ำก็จะล้นออกมา ใส่เหรียญไปมากน้ำก็จะไหลออกมามาก จนกระทั่งในที่สุดเมื่อน้ำใจน้อย แล้งน้ำใจแล้ว ใจจะกระด้าง แห้งแล้ง คนรวยจึงมักไร้น้ำใจ เหมือนคนมีบุญแต่กรรมบัง มีเงินทองมากมาย ไม่ได้ใช้ ไม่เอื้อเฟื้อ ในที่สุดลูกเต้า เพื่อนพ้อง นักการเมืองและข้าราชการก็ดูดไปใช้หมด ทำให้ปวดใจ

ดังนั้นการคบคนรวยนั้นก็เป็นการดี แต่ความรวยไม่ใช่องค์ประกอบหลักที่จะทำให้ชีวิตคู่ประสบความสำเร็จสุขได้ ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นต่อไป

ความเก่ง เป็นคุณสมบัติที่น่านับถือ ดูเหมือนว่าคนเก่งจะเนรมิตอะไรได้โดยไม่ยาก และชื่อเสียงเกียรติยศปรากฏในสังคมแต่ความเก่งก็มักมีข้อจำกัดคือ

1.คนเก่งมักเป็นคนมีทัศนคติและพฤติกรรมเบี่ยงเบนจากสังคมทั่วไป มักคิดอะไรแปลกๆ พูดอะไรแปลก ๆ ทำอะไรแปลก ๆ เราต้องคอยตีความ และพยายามเข้าใจความแปลกของเขาอยู่เสมอ

2.คนเก่งมักเบื่อง่าย และคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ จนลืมรักษาของเก่าที่ดีอยู่แล้ว จนเป็นเหตุให้ต้องเริ่มต้นใหม่อยู่ร่ำไป ชีวิตจึงไม่ประสบความสำเร็จสมบูรณ์สักที ได้อย่างเสียอย่างเรื่อยมา เราต้องคอยตามอะไรใหม่ๆที่เกิดจากจิตนาการหรืออุดมการณ์ของเขาเสมอ และที่สำคัญต้องยอมรับด้วย ขัดแย้งไม่ค่อยได้

3.คนเก่งมักหงุดหงิดเวลาเราคิดไม่ทันเขา เข้าใจไม่ตรงกับความจริงที่เขาค้นพบ ซึ่งเขาคาดหมายว่าเราเป็นคู่เขาจะต้องเข้าใจอย่างที่เขาเห็น ทำให้เราพลอยไม่ชอบใจตนเอง และบางทีก็พลอยไม่ชอบเขาไปด้วย

4.คนเก่งมักสนุกกับงานของเขา จนไม่ค่อยสนใจครอบครัว ทำให้เราเหงาเป็นบางครั้ง

ดังนั้นการคบคนเก่งนั้นก็เป็นการดี แต่ความเก่งอย่างเดียว ไม่ใช่องค์ประกอบหลักที่จะทำให้ชีวิตประสบสำเร็จสุขได้ต้องพิจารณาอย่างอื่นต่อไป

ความดี เป็นคุณสมบัติที่ฟังดูแล้วพอจะไปได้ แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะยังมีข้อข้างเคียงของอุปนิสัยหรือพฤติกรรมที่ต้องพิจารณาอีกเช่น

1.คนดีมักเน้นอุดมคติ ยึดมั่นอยู่กับความสมบูรณ์แบบ จึงทำให้เขาหงุดหงิดที่ไม่สามารถสร้างโลกนี้ให้สมบูรณ์แบบได้

2.คนดีที่ติดดีมาก ๆ มักจะเป็นคนขวางโลก เห็นอะไรก็ไม่ถูกไม่ต้องไปหมด ทำให้เราพลอยหดหู่ ชีวิตขาดความสดชื่น

3.คนดีที่ไม่มีปัญญา มักจะเป็นคนอ่อนแอ ขี้ขลาดไม่กล้า แคร์ความรู้สึกของคนอื่นเสียจนปล่อยให้ตนเองเละเทะ องค์กรเละเทะ และสังคมเละเทะได้

4.คนดีมักนึกถึงคนอื่นและประโยชน์สุขของสังคมมากกว่าที่จะเห็นความสำคัญของเราคนเดียว

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ในการอยู่กับคนดี ดังนั้น การคบคนดีนั้นดีแน่ แต่การดูคนดีแล้วเลือกมาเป็นคู่เลย โดยยังไม่ได้พิจารณาความเหมาะสมนั้น อาจสะท้อนใจลึก ๆ เพราะเหตุแห่งความดีของเขาก็ได้ ดังนั้นลองพิจารณาคุณสมบัติอื่นต่อไป

สูงส่งด้วยศักดิ์ศรี คุณสมบัตินี้ดูผิวเผินเหมือนจะดี ทำให้ภาคภูมิและอบอุ่น แต่ถ้าพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนก็พบปัญหามากมายคือ

1.คนสูงส่งด้วยศํกดิ์ศรีมักทะนง ถือตัว บางครั้งก็ทำเหมือนลืมไปว่า เขาคือคนเหมือนคนอื่นๆ ทำให้ขาดความเป็นกันเอง ชีวิตไม่รื่นรมย์

2.คนสูงส่งด้วยศํกดิ์ศรีเหมือนคนยืนอยู่บนที่สูง มีบริวาร และคนประจบเอาใจมาก แต่มีมิตรแท้น้อย ต้องคอยระแวง ระวังตลอดเวลา และอาจพลาดได้ง่าย เมื่อพ่ายแพ้ พวกนี้มักจะพ่ายแพ้ต่อพลังมหาชน และการพ่ายแพ้ต่อมหาชนเป็นความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดที่สุดของนักปกครอง เพราะชีวิตที่เหลือ เขาแทบจะไม่มีความสุขเลยและยิ่งอยู่สูงเท่าใด เมื่อเขาตกลงมา ก็เจ็บมากเท่านั้น

3.ความสูงส่งด้วยศักดิ์ศรีไม่ใช่หลักประกันความดีงาม คนที่เคยสูงส่ง บางคนก็ไม่ใช่คนดี อาจเคยทำกรรมชั่วช้าลามก ซึ่งในที่สุดก็ต้องรับกรรมเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้น ความสูงส่งด้วยศักดิ์ศรีก็เป็นสิ่งไม่เที่ยง สัตว์บางตัวที่เราพบเห็น เช่นมด ยุง อาจจะเคยเป็นราชา ราชินีที่ยิ่งใหญ่ หรือเป็นผู้ปกครองบ้านเมืองมาก่อนก็ได้ ความสูงส่งด้วยศักดิ์ศรีจึงไม่ใช่หลักประกันความดีงามที่แท้จริง กรรมดี กรรมชั่วต่างหากที่บุ่งบอกคุณธรรมความเป็นมนุษย์

4.ความสูงส่งด้วยศักดิ์ศรีไม่ใช่สิ่งที่มีค่าอย่างแท้จริง เพราะใคร ๆ ก็เป็นกันได้

ดังนั้นเวลาพิจารณาฐานันดรศักดิ์นี้ต้องลองสมมุติดูว่า ถ้าคู่รักของเราผู้สูงส่งด้วยศํกดิ์ศรีนี้ เขาไม่ได้มีฐานันดรอย่างที่เป็นอยู่นี้ บังเอิญเขาไปเกิดเป็นลูกชาวนา ชาวป่า ชาวไร่ แล้วเป็นคนมีรูปร่าง หน้าตา นิสัยใจคอ และคุณภาพอย่างนี้ จะต้องการมั้ย ถ้าต้องการ ก็เชิญตามสบาย แต่ถ้าไม่ต้องการ ก็แสดงว่าฐานันดรเป็นภาพลวงตา หลอกใจเราถอดมันออกเสียก็จะเห็นความเป็นจริงของคนตรงตามที่เขาเป็น

เมื่อพิจารณาแล้วดังนี้จะเห็นว่า คุณสมบัติหล่อ สวย รวย เก่ง ดี สูงส่งด้วยศักดิ์ศรี ไม่ใช่เกณฑ์มาตรฐานที่ควรนำมาพิจารณาเลือกคู่เลย

ถ้าพบคนหล่อ คนสวย คนรวย คนเก่ง คนดี คนสูงส่งด้วยศักดิ์ศรียังไม่สนใจ แล้วจะไปสนใจใครที่ไหน ไม่ต้องกังวลเลยวิญญูชนย่อมอุดมด้วยหลักการ และมาตรฐานอันประเสริฐเสมอ

http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=5742

นายธรรมะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก เว็บบอร์ดพลังจิตด้วยครับ
[shake]ศรัทธา ไม่ใช่ ไสยศาสตร์ ศรัทธา เพื่อ ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีความ ศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเกิด ปาฏิหาริย์[/shake]

ออฟไลน์ mac_novo

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 50
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: เรื่อง ของ คู่
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 26 ก.พ. 2554, 07:21:20 »
มีประโยชน์มากครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ

ออฟไลน์ berm

  • สิ่งที่ควรทำคือความดี..สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม..สิ่งที่ควรจำคือ...บุญคุณ
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1008
  • เพศ: ชาย
  • อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: เรื่อง ของ คู่
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 28 ก.พ. 2554, 11:48:38 »
เป็นข้อมูลที่ประโยชน์อย่างมากถ้าอ่านแล้วคิดและนำไปปฏิบัติ...ขอบคุณ
ทุกคนย่อมมีปัญหาของตัวเองเกิดขึ้นตลอดเวลา  อยู่ที่ใครเลือกที่จะเดินหนีปัญหา...หรือเลือกที่จะแก้ไขปัญหา

ออฟไลน์ fork0

  • บารมีหลวงพ่อเปิ่นคุ้มครอง
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 635
  • เพศ: ชาย
  • ชายชาติทหาร
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: เรื่อง ของ คู่
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 28 ก.พ. 2554, 12:15:29 »
ขอบคุณครับผม ดีครับ

ออฟไลน์ รุท หมัดหนักครับ

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 2312
  • เพศ: ชาย
  • ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
    • MSN Messenger - bassudza501@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: เรื่อง ของ คู่
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 28 ก.พ. 2554, 07:14:48 »
ขอบคุณมากๆครับ
รักและศรัทธา