ผู้เขียน หัวข้อ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า  (อ่าน 2513 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
พอดีว่าได้เห็นชื่อ "บัว ปากช่อง"
ในกระทู้
http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=23128
เลยลองค้นดู ก็พบสิ่งที่สนใจจากท่าน เลยนำมาเสนอมาให้พี่น้องได้อ่านกัน
=====================
"พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า"

หลวงปูดูลย์  ท่าน"สร้าง"คนด้วยการสอน และท่านได้สอน.  ไม่เหมือนใคร.!
หลวงปู่ดูลย์ท่านจะสอนในเฉพาะเบื้องต้น แล้วต่อจากนั้น ท่านจะสอนในแบบฉบับของท่าน 

คือ. นิ่งเฉย..!

ความรู้เบื้องต้น  คือหน้าที่ของผู้เป็นพระอาจารย์ หลวงปู่พระป่าผู้เฒ่าท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวนี้
ไม่ได้พร่องและตกหล่น

    แต่ต่อไปนั้น ย่อมเป็นหน้าที่ของผู้เป็นศิษย์  ที่พึงจักต้องแสวงหาไขว่คว้า
ดิ้นรนความรู้นั้นมา นึกคิดไตรตรองด้วยการช่วยตัวเอง. พึ่งตนเอง โดยมีหลวงปู่พระป่าผู้เป็นพระอาจารย์  คอยประคับประคอง 
เฝ้าจับตามองอยู่ทางเบื้องหลัง  นี่คือการสอยตามแบบฉบับของพระป่า

หลวงปู่พระป่า  ได้สอนแนะแนวทางการดำรงตนที่จะดำเนินชีวิตด้วย
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน   อันถือเป็นหน้าที่จักต้องปฏิบัติที่ ี่ธรรมชาติได้กำหนดสอนหมู่สัตว์

     หมู่สัตว์ย่อมดำเนินชีวิตโดยพึ่งตนเอง นับแต่ถือกำเนิดขึ้นมา ไม่ว่าจะจากครรภ์มารดาหรือถือกำเนิดออกพ้นมาจากเปลือกไข่
ไม่ว่าจะเป็นเต่า ปลา  จิ้งจก  ตุ๊กแก  และแม้แต่มดตัวเล็กๆ ที่ไต่อยู่ตามพื้นดินล้วนแต่ดำรงเลี้ยงชีพดำรงชีวิตพิ่งตนเอง
   โดยหลวงปู่พระป่าท่านได้ยกสัตว์ตัวเล็กกระจิ๊ดริ๊ดเท่าขี้ตา มาเป็นตัวอย่างสอนหมู่ผู้เป็นศิษย์

แมงมุม. สัตว์ตัวเล็กๆกระจิ๊ดริ๊ดเท่าขี้ตา แต่ทว่าเป็นสัตว์ที่มีอุสาหะ  อดทน  และพึ่งตนเองยามใดที่มนุษย์ได้พบเห็น
พึงควรนำมาเป็นอุทาหรณ์สอนตน

   หลวงปู่ดูลย์เล่าว่า  เมื่อครั้งที่ท่านจาริกปฏิบัติธรรมตามป่าเขาลำเนาไพร
ในสมัยเป็นหนุ่มท่านได้เห็นแมงมุมอยู่ระหว่างการชักใยสร้างรังเพื่อดักแมลง ดูดกินเลือดเป็นอาหาร  ณ  ปากถ้ำแห่งหนึ่ง
    พอตะวันคล้อยบ่าย   เจ้าแมงมุมตัวน้อยๆก็ได้เริ่มต้นชักใยปิดปากถ้ำ
ซึ่งเป็นช่องขนาดไม่ใหญ่  เป็นรูอยู่ในผนังหลืบหินข้างๆถ้ำ 

       เจ้าแมงมุม  ดีดตัวชักใยขวางปากถ้ำเป็นเส้นกากบาท  เป็นจุดเริ่มต้นเสร็จแล้วก็ดีดตัวปล่อยใยเป้นเส้นทะแยงเป็นมุมขวางไปมาระยะห่างๆ
ต่อจากนั้นตรงจุดศูนย์กลางเจ้าแมงมุมจะปล่อยเส้นใยเป็นตาข่าย   ค่อยๆขยายเป็นวงกว้างขึ้นไปเรื่อยๆจนถี่ยิบ ปิดปากถ้ำ

       ตั้งแต่ตะวันเริ่มบ่ายคล้อย  ไปจนถึงโพล้เพล้เวลาเริ่มใกล้ค่ำ  เจ้าแมงมุมตัวน้อยชักใยเสร็จ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยหอบ
ได้เข้าไปหยุดพักคลายเหนื่อยพรางตัวสงบนิ่งอยู่จุดศูนย์กลาง  เพื่อรอคอยอาหาร
      ตะวันโพล้เพล้  เป็นเวลาออกหาอาหารของฝูงค้างคาวที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำ

       ค้างคาวบินปร๋อออกมาจากถ้ำผ่านใยแมงมุม  ขาดเป็นรูโบ๋!!!!!
ทันทีนั้น  เจ้าแมงมุมตัวน้อยที่หมอบอยู่ได้พุ่งตัววิ่งจู๊ด ตรงเข้าไปชักใยซ่อมแซมรังที่ขาดเป็นรูโบ๋จนเสร็จแล้ววิ่งกลับมาหมอบ
ที่จุดศูนย์กลางตามเดิม

       ค้างคาวบินปร๋อรังขาดเป็นรูโบ๋ครั้งใด  เจ้าแมงมุมน้อย เป็นได้รีบพุ่งตัวจู๊ด  ตรงไปซ่อมแซมตรงที่ขาดนั้นอย่างขะมักเขม้น
เป็นพัลวันอย่างไม่ย่อท้อ  ทุกครั้งไป
   ค้างคาวบินปร๋อ        แมงมุมวิ่งจู๊ด
            ค้างคาวบินพรู... พรู... พรู...! ! !
            แมงมุมวิ่งจู๊ด... จู๊ด...   จู๊ด...! ! !

     การพึ่งตัวเองนั้น เป็นแบบฉบับในการสอนของหลวงปู่ดูลย์ พระป่าผู้เฒ่าแห่งกองทัพธรรมดินแดนอีสานผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
ของผู้เป็นศิษย์ทุกยุคทุกสมัย ที่ปรากฏให้เห็นอย่างมากมาย


ขอบคุณ คุณ  tan~
ที่มา http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000836.htm
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 31 พ.ค. 2554, 08:18:11 »
สอนเณร

ตอนนั้นวัดบูรพาราม  เมื่องสุรินทร์เพิ่งเริ่มบุกเบิกสร้างขึ้นมาใหม่ๆก่อนสงครามโลกหลายปี บ้านเมืองยังไม่เจริญขนาดนี้ มีนั้นมีเณรน้อยมา
จำพรรษากับหลวงปู่ดูลย์ 3 รูป คือ

สามเณร โชติ----> หลวงปู่โชติ
สามเณร อ่อน----> หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
สามเณร ปิ่น----> อธิบดี ปิ่น มุทุกัณฑ์

หลวงปู่ท่านก็สอนให้เณรน้อยทั้ง3 หัดทำกลดและขาตั้งบาตรด้วยไม้ไผ่
แล้วท่านก็ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง  ทุกขั้นทุกตอนอย่างละเอียด
หลังจากนั้น ท่านจะอยู่ในอาการเงียบฉี่……!  หลวงปู่ท่านเงียบจริงๆ  และนิ่งเงียบตลอดไป

หลังจากเสร็จกิจวัตรเช้านั้นแล้ว สามเณรทั้ง3ก็ฝึกหัดทำขาตั้งบาตรต่อ
เพราะยังทำไม่เสร็จ  แล้วก็มานั่งทำต่อหน้าหลวงปู่  แล้วทั้ง3ก็ได้ทุ่มเถียง ไต่ถามกัน
แล้วก็ในที่สุดก็ทำไม่ได้เลยถามหลวงปู่ว่า
หลวงปู่ครับ  ทำไงครับ?
"………………………............................  "
หลวงปู่นั่งดูเฉย เงียบฉี่! แล้วเณรทั้ง3ก็ต้มหน้าก้มตาทำต่อไป แต่ก็ยังเถียงกันอีกเช่นเคยเถียงไปเถียงมาก็ถามอีก
หลวงปู่ครับ...  ทำไงครับ?
"………………………...........................  "
หลวงปู่ครับ....  ทำไง
"………………………............................"
หลวงปู่ครับ.....  ทำไง
"….............................
หลวงปู่.....  .นิ่งเฉย......
เณรทั้ง3คนเลยโกรธหลวงปู่พากันงอนตุ๊บป่องเดินลงส้น พรวดพราดจากศาลา หายเงียบไป
วันนั้นทั้งวัน3เณรน้อย หน้างอนเป็นม้าหมากรุกไปทั้งวัน

รุ่งเช้า3เณรน้อยก็ยังไม่หายงอนอีก แต่ก็เดินอุ้มบาตรตามหลวงปู่ ทำหน้าม้าหมากรุกไปตลอดทาง
จนถึงหน้าบ้านหลังนึงซึ่งใส่บาตรเป็นประจำทุกเช้า บ้านหลังนี้มีลูกสาวอยู่คนนึง กำลังนั่งโขลกน้ำพริกดังโป๊กๆๆอยู่
ขณะที่แม่กำลังเดินออกมาครึ่งทางก็หยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงลูกตกโกนลั่นโหวกเหวก

แม่....  แม้....  แม๊.... แกงส้มใสกะปิมั๊ย
แม่ก็ตะโกนด่าตอบกลับไปว่า
อีห่...กินมึง... แม่ตายแล้ว....  มึงจะถามใคร?
 
       พลันนั้น....หลวงปู่ที่อยู่หัวแถว ได้ค่อยๆปรายหางตาเหลียวมอง หมู่สามเณร
สามเณร3 รูป  พากันสะดุ้งโหยง.!
      สามเณรน้อยพากันอุ้มบาตรเดินตามหลังหลวงปุ่ต้อยๆ
ด้วยอาการเขินจึงเดินทำกระมิกระเมี้ยน  ก้มหน้าแกล้งดู มดดำมดแดงที่ไต่อยู่ตามพี้นดิน..
  โดยมีหลวงปู่พระป่าผู้เฒ่าเดินอมยิ้มซ่อนอยู่บนใบหน้า
         ไปตลอดทาง  จนถึงวัด...!


ขอบคุณ คุณ  tan~
ที่มา http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000836.htm

ออฟไลน์ ATITTAN

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 8
  • เพศ: หญิง
  • "PROMISE YOU"
    • MSN Messenger - TOON_TEELUX@HOTMAIL.COM
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 31 พ.ค. 2554, 09:06:09 »
ไม่มีคำว่าผิดหวังเลยค่ะ~ถึงแม้จะเคยได้อ่านแล้วแต่ท่านทรงกลดนำมาลงให้ข้าพเจ้าได้ซึ้งถึงข้อธรรมที่ได้จากหนังสือเล่มนี้อีกครั้ง~ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งนะคะ~ผลงานเก่าๆของท่านทรงกลดตอนนี้พยายามย้อนไปหาอ่านอยู่ค่ะ~เพราะไม่อยากพลาดสาระและธรรมมะดีๆที่ศิษย์หลวงพ่อเปิ่นหลายๆท่านคงได้อ่านกันแล้ว~ขอบคุณนะคะ^^

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 31 พ.ค. 2554, 10:17:01 »
ไม่มีคำว่าผิดหวังเลยค่ะ~ถึงแม้จะเคยได้อ่านแล้วแต่ท่านทรงกลดนำมาลงให้ข้าพเจ้าได้ซึ้งถึงข้อธรรมที่ได้จากหนังสือเล่มนี้อีกครั้ง~ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งนะคะ~ผลงานเก่าๆของท่านทรงกลดตอนนี้พยายามย้อนไปหาอ่านอยู่ค่ะ~เพราะไม่อยากพลาดสาระและธรรมมะดีๆที่ศิษย์หลวงพ่อเปิ่นหลายๆท่านคงได้อ่านกันแล้ว~ขอบคุณนะคะ^^
ยินดีครับที่ชอบอ่าน
ผมก็พยายามอ่าน ศึกษาและนำมาแบ่งปันกัน
แต่จะเลือกอ่านที่ตนเองชอบก่อน จะได้ไม่เบื่อ ตรงข้ามกลับได้ความบันเทิงธรรมมาแทน
====================
"เป็นการดัดนิสัยหรือเปล่า"

เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองผ่านพ้นไปแล้วเป็นเวลา ๖ ปี ผลได้ที่สงครามฝากไว้ให้ก็คือ
ความยากจนข้นแค้นแสนเข็ญด้วยขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภค ได้แผ่ปกคลุมไปแล้ว
ทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่ม ขาดแคลนอย่างยิ่ง พระเณรในวัดต่างๆ มีสบงจีวร
ชุดเดียวก็บุญนักหนาแล้ว พวกเราเป็นสามเณรอยู่กับหลวงปู่หลายรูปฯ

วันหนึ่งสามเณรพรม ซึ่งเป็นหลานของหลวงปู่รูปหนึ่งด้วยเขาเห็นสามเณรชุมพลห่มจีวร
ใหม่และสวย จึงถามว่า จีวรนี้ท่านได้แต่ไหนมา เณรชุมพลตอบว่า เราเข้าไปทำวาระถวาย
หลวงปู่ หลวงปู่เห็นของเราขาด ท่านจึงประทานมาให้ผืนหนึ่งฯ

เมื่อถึงวาระเณรพรม จึงห่มจีวรขาดไปนวดเท้าหลวงปู่ ด้วยคิดว่าจะได้อย่างเขาบ้าง
พอเสร็จวาระกำลังจะออกมา หลวงปู่เห็นจีวรขาด คงสงสารหลานอย่างจับใจ จึงลุกไปเปิด
ตู้หยิบเอาของยื่นมาให้ พร้อมกับสั่งว่า

"นี่เอาไปเย็บให้ดี อย่าห่มทั้งที่ขาดอย่างนี้"

สามเณรพรมต้องจำใจรับด้ายกับเข็มจากหลวงปู่อย่างรวดเร็ว ด้วยความผิดหวัง

คนตายแล้วเดินได้ พูดได้ หายใจได้ ใครเคยเห็นไหม ใครเคยคิดไหม
<<<คงหมายถึงเณร :004:

ที่มา
http://kradandum.com/luangpu_dul/index14.htm

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 31 พ.ค. 2554, 10:30:45 »
"เรื่องกิน"

กระผมได้ปฏิบัติทางจิตมานาน ก็พอมีความสงบอยู่บ้าง แต่มีปัญหาทางอาหารบริโภคเนื้อสัตว์ คือ เพียงแต่เห็นก็นึกเวทนา
ไปถึงเจ้าของเนื้อนั้น ว่าเขาต้องสูญเสียชีวิตเพื่อเราผู้บริโภคแท้ๆ คล้ายกับว่าเราผู้ปฏิบัติจะขาดเมตตาไปมาก เมื่อเกิดความ
กังวลใจเช่นนี้ ก็ทำความสงบใจได้ยากฯ

หลวงปู่ว่า

"ภิกษุจะบริโภคปัจจัยสี่ต้องพิจารณาเสียก่อน เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า การกินเนื้อสัตว์ คล้ายเป็นการเบียดเบียน
และขาดเมตตาต่อสัตว์ ก็ให้งดเว้นการฉันเนื้อเสีย พากันฉันอาหารเจต่อไป."

"เรื่องกินมีอีก"

สมัยต่อมาประมาณสี่เดือน ภิกษุกลุ่มนั้นมากราบเรียนหลวงปู่อีกหลังจากออกพรรษาแล้ว บอกว่าพวกกระผมฉันเจมาตลอด
พรรษาด้วยความยากลำบากยิ่ง เพราะญาติโยมแถวบ้านโคกกลางอำเภอปราสาทนั้น ไม่มีใครรู้เรื่องอาหารเจเลย ลำบากด้วย
การแสวงหา และลำบากแก่ญาติโยมผู้อุปัฏฐาก บางรูปถึงสุขภาพไม่ดี บางรูปเกือบไม่พ้นพรรษา การทำความเพียรก็ไม่เต็มที่
เท่าที่ควรฯ

หลวงปู่ว่า

"ภิกษุเมื่อจะบริโภคปัจจัยสี่ต้องพิจารณาเสียก่อน ครั้นเมื่อพิจารณาแล้ว เห็นว่าอาหารที่ตั้งอยู่เฉพาะหน้านี้
แม้จะมีผักบ้างเนื้อบ้าง ปลาบ้าง ข้าวสุกบ้าง แต่ก็เป็นของบริสุทธิ์โดยส่วนสาม คือไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน และเขา
ไม่ได้ฆ่าเพื่อเจาะจงเรา และเราก็แสวงหามาโดยชอบธรรมแล้ว ญาติโยมเขาก็ถวายด้วยศรัทธาเลื่อมใสแล้ว
ก็พึงบริโภคอาหารนั้นไป ครูบาอาจารย์ของเราท่านก็ปฏิบัติอย่างนี้มาแล้วเหมือนกัน."


"เรื่องกินยังไม่จบ"

เมื่อวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๓ พ.ศ.๒๕๒๒ หลวงปู่พักอยู่ที่วัดป่าประโคนชัย เวลา ๒ ทุ่มผ่านไปแล้ว มีภิกษุกลุ่มหนึ่ง ซึ่งชอบเดิน
ธุดงค์ไปตามที่ชุมนุมต่างๆ ได้แวะเข้าไปพักที่วัดป่านั้นด้วยฯ

หลังจากแสดงความคารวะตามสมณวิสัยแล้ว ก็กล่าวถึงจุดเด่นที่เขายึดถือเป็นหลักปฏิบัติว่า ผู้บริโภคเนื้อสัตว์คือผู้สนับสนุน
ให้คนฆ่าสัตว์ ผู้บริโภคผักมีจิตเมตตาสูง สามารถพิสูจน์ได้ว่าเมื่อหันไปบริโภคผักแล้ว จิตใจก็สงบเย็นดีขึ้นฯ

หลวงปู่ว่า

"ดีทีเดียวแหละ ท่านผู้ใดสามารถฉันมังสวิรัติได้ก็เป็นการดีมาก ขออนุโมทนาสาธุด้วย ส่วนท่านที่ยังฉันมังสะ
อยู่ หากมังสะเหล่านั้นเป็นของบริสุทธิ์โดยส่วนสาม คือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่สงสัยว่าเขาเจาะจง ได้มาด้วย
ความบริสุทธิ์แล้ว ก็ไม่ผิดธรรมวินัยแต่ประการใด อนึ่ง ที่ว่าจิตใจสงบเยือกเย็นดีนั้น ก็เป็นผลเกิดขึ้นจาก
พลังของการตั้งใจปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยไม่เกี่ยวกับอาหารใหม่ อาหารเก่าที่อยู่ในท้องเลย."


ที่มา
http://kradandum.com/luangpu_dul/index63.htm

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 31 พ.ค. 2554, 10:37:36 »
"การค้ากับการปฏิบัติธรรม"

พวกกระผมมีภาระหน้าที่ในการค้าขาย ซึ่งบางครั้งจะต้องพูดอะไรออกไปเกินความจริงบ้าง ค้ากำไรเกินควรบ้าง
แต่กระผมก็มีความสนใจและเลื่อมใสในการปฏิบัติทางสมาธิภาวนาอย่างยิ่ง แล้วก็ได้ลงมือปฏิบัติมาบ้างแล้วโดยลำดับ
แต่บางท่านบอกว่าภาระหน้าที่อย่างผมนี้มาปฏิบัติภาวนาไม่ได้ผลหรอก หลวงปู่เห็นว่าอย่างไร เพราะเขาว่าขายของเอา
กำไรก็เป็นบาปอยู่ฯ

หลวงปู่ว่า

"เพื่อดำรงชีพอยู่ได้ ทุกคนจึงต้องมีอาชีพการงาน และอาชีพการงานทุกสาขาย่อมมีความถูกต้อง ความ
เหมาะความควรอยู่ในตัวของมัน เมื่อทำให้ถูกต้องพอเหมาะพอควรแล้ว ก็เป็นอัพยากตธรรม ไม่เป็นบาป
ไม่เป็นบุญแต่ประการใด ส่วนการประพฤติธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ควรกระทำ เพราะผู้ประพฤติธรรมเท่านั้น
ย่อมสมควรแก่การงานทุกกรณี"


ที่มา
http://kradandum.com/luangpu_dul/index66.htm

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 31 พ.ค. 2554, 10:43:19 »
"มีแต่ไม่เอา"

ปี ๒๕๒๒ หลวงปู่ไปพักผ่อน และเยี่ยมพระอาจารย์สมชาย ที่วัดเขาสุกิม จังหวัดจันทบุรี
ขณะเดียวกันก็มีพระเถระอาวุโสรูปหนึ่งจากกรุงเทพฯ คือพระธรรมวราลังการ วัดบุปผาราม
เจ้าคณะภาคทางใต้ไปอยู่ฝึกกัมมัฏฐานเมื่อวัยชราแล้ว เพราะมีอายุอ่อนกว่าหลวงปู่
เพียงปีเดียว ฯ

เมื่อท่านทราบว่าหลวงปู่เป็นฝ่ายกัมมัฏฐานอยู่แล้ว ท่านจึงสนใจและศึกษาถามถึงผล
ของการปฏิบัติ ทำนองสนทนาธรรมกันเป็นเวลานาน และกล่าวถึงภาระของท่านว่า มัวแต่
ศึกษาและบริหารงานการคณะสงฆ์มาตลอดวัยชรา แล้วก็สนทนาข้อกัมมัฏฐานกับหลวงปู่
เป็นเวลานาน ลงท้ายถามหลวงปู่สั้นๆ ว่า ท่านยังมีโกรธอยู่ไหมฯ

หลวงปู่ตอบเร็วว่า

"มี แต่ไม่เอา."  :054:


ที่มา
http://kradandum.com/luangpu_dul/index21.htm

ออฟไลน์ saken6009

  • อย่ากลัวคนจะมาตำหนิ แต่จงกลัวว่าตัวเองจะทำผิด อย่ากลัวที่จะรับรู้ความบกพร่องของตน แต่จงกลัวว่าตนจะเป็นคนที่ดีได้ไม่จริง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 893
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตของข้า เชื่อมั่นศรัทธา หลวงพ่อเปิ่น องค์เดียว
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 31 พ.ค. 2554, 11:56:24 »
"พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า 36; 36;
                                 
ขอขอบคุณท่าน ทรงกลด ที่นำบทความดีมากๆมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ :053: :053:
   
ติดตามอยู่ครับ อ่านแล้วเพลินดีมากๆครับ ได้หลักธรรมะ และ ได้ความรู้มากๆครับผม :016: :015:
   
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบคุณครับผม) :054: :054:
   
 

กราบขอบารมีหลวงพ่อเปิ่น คุ้มครองศิษย์ทุกๆท่าน ให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง สาธุ สาธุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 01 มิ.ย. 2554, 08:03:58 »


"พุทโธเป็นอย่างไร"

หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปโปรดญาติโยมที่กรุงเทพฯ เมื่อ ๓๑ มีนาคม ๒๕๒๑ ในช่วงสนทนา
ธรรม ญาติโยมสงสัยว่าพุทโธ เป็นอย่างไร หลวงปู่ได้เมตตาตอบว่า

เวลาภาวนาอย่าส่งจิตออกนอก ความรู้อะไรทั้งหลายทั้งปวง อย่าไปยึด ความรู้ที่เราเรียน
กับตำหรับตำรา หรือจากครูบาอาจารย์ อย่าเอามายุ่งเลย ให้ตัดอารมณ์ออกให้หมด แล้วก็
เวลาภาวนาไปให้มันรู้ รู้จากจิตของเรานั่นแหละ จิตของเราสงบเราก็จะรู้เอง ต้องภาวนาให้
มากๆ เข้า เวลามันจะเป็น จะเป็นของมันเอง ความรู้อะไรๆ ให้มันออกมาจิตของเรา


ความรู้ที่ออกจากจิตที่สงบนั่นแหละ เป็นความรู้ที่ลึกซึ้งถึงที่สุด ให้มันรู้ออกจากจิตเอง
นั่นแหละมันดี คือจิตมันสงบ

ทำจิตให้เกิดอารมณ์อันเดียว อย่าส่งจิตออกนอก ให้จิตอยู่ในจิต แล้วให้จิตภาวนาเอาเอง
ให้จิตเป็นผู้บริกรรมพุทโธ พุทโธอยู่นั่นแหละ แล้วพุทโธนั่นแหละจะผุดขึ้นในจิตของเรา
เราจะได้รู้จักว่า พุทโธ นั้นเป็นอย่างไร แล้วรู้เอง...เท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรมากมาย.

ที่มา
http://kradandum.com/luangpu_dul/index19.htm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 มิ.ย. 2554, 08:04:55 โดย ทรงกลด »

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 01 มิ.ย. 2554, 08:22:17 »
"อุทานธรรม"

หลวงปู่ยังกล่าวธรรมกถาต่อมาอีกว่า สมบัติพัสถานทั้งหลายมันมีประจำอยู่ในโลกนี้
มาแล้วอย่างสมบูรณ์ ผู้ที่ขาดปัญญาและไร้ความสามารถ ก็ไม่อาจแสวงหาเพื่อยึดครอง
สมบัติเหล่านั้นได้ ย่อมครองตนอยู่ด้วยความฝืดเคืองและลำบากขันธ์ ส่วนผู้ที่มีปัญญา
มีความสามารถ ย่อมแสวงหายึดสมบัติของโลกไว้ได้อย่างมากมาย อำนวยความสะดวก
แก่ตนได้ทุกกรณีฯ ส่วนพระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านพยายามดำเนินตนเพื่อออกจากสิ่งเหล่า
นั้นทั้งหมด ไปสู่ภาวะแห่งความไม่มีอะไรเลย เพราะว่า

"ในทางโลก มีสิ่งที่มี ส่วนในทางธรรม มีสิ่งที่ไม่มี"

"อุทานธรรมต่อมา"

เมื่อแยกพันธะแห่งความเกี่ยวเนื่องจิตกับสรรพสิ่งทั้งปวงได้แล้ว จิตก็หมดพันธะกับเรื่อง
โศก รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส จะดีหรือเลว มันขึ้นอยู่กับจิตที่ออกไปปรุงแต่งทั้งนั้น แล้วจิตที่
ขาดปัญญาย่อมเข้าใจผิด ก็หลงอยู่ภายใต้อำนาจของเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย ทั้งทางกาย
และทางใจ อันโทษทัณฑ์ทางกาย อาจมีคนอื่นช่วยปลดปล่อยได้บ้าง ส่วนโทษทางใจ
มีกิเลสตัณหาเป็นเครื่องรึงรัดไว้นั้น ต้องรู้จักปลดปล่อยตนด้วยตนเองฯ


"พระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านพ้นแล้วจากโทษทั้งสองทางความทุกข์จึงครอบงำไม่ได้"

"อุทานธรรมข้อต่อมา"

เมื่อบุคคลปลงผม หนวด เคราออกหมดแล้ว และได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์เรียบร้อยแล้ว
ก็นับว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นภิกษุได้ แต่ยังเป็นเพียงภายนอกเท่านั้น ต่อเมื่อเขา
สามารถปลงสิ่งที่รกรุงรังทางใจ อันได้แก่อารมณ์ตกต่ำทางใจได้แล้ว ก็ชื่อว่าเป็นภิกษุภาย
ในได้ฯ

"ศีรษะที่ปลงผมหมดแล้ว สัตว์เลื้อยคลานเล็กน้อยเช่นเหาย่อมอาศัย อยู่ไม่ได้ฉันใด จิตที่พ้นจากอารมณ์ ขาดจากการปรุงแต่งแล้ว ทุกข์ก็อาศัยไม่ได้อยู่ฉันนั้น ผู้มีปกติเป็นอยู่อย่างนี้ ควรเรียกเอาว่า เป็นภิกษุแท้"

ที่มา
http://kradandum.com/luangpu_dul/index16.htm

ออฟไลน์ โบตั๋นสีขาว

  • ไม้คดใช้ทำขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 146
  • เพศ: หญิง
  • จะสูงจะต่ำอยู่ที่เราทำตัวจะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราทำ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 01 มิ.ย. 2554, 09:07:36 »
ขอบคุณมากคะ สำหรับบทความธรรมะดีๆ อ่านแล้วได้ความรู้มากคะ :090: :050: :090:
เคารพ กตัญญู บูชา หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ ทั้งครอบครัวคะ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 02 มิ.ย. 2554, 09:52:43 »
"ตื่นอาจารย์"

นักปฏิบัติธรรมสมัยนี้มีสองประเภท ประเภทหนึ่ง เมื่อได้รับข้อปฏิบัติ หรือข้อแนะนำจาก
อาจารย์ พอเข้าใจแนวทางแล้ว ก็ตั้งใจเพียรพยามยามปฏิบัติไปจนสุดความสามารถ อีกประเภทหนึ่ง ทั้งที่มีอาจารย์แนะนำดีแล้ว ได้ข้อปฏิบัติถูกต้องดีแล้ว แต่ก็ไม่ตั้งใจทำอย่างจริงจัง มีความเพียรต่ำ ขณะเดียวกันก็ขอบเที่ยวแสวงหาอาจารย์ไปในสำนักต่างๆ  ได้ยินว่าสำนักไหนดีก็ไปทุกแห่ง ซึ่งลักษณะนี้มีอยู่อย่างมากฯ

หลวงปู่แนะนำลูกศิษย์ว่า

“การไปหลายสำนักหลายอาจารย์ การปฏิบัติจะไม่ได้ผลเพราะการเดินหลายสำนักนี้ คล้ายกับการเริ่มต้นปฏิบัติใหม่ไปเรื่อย เราก็ไม่ได้หลักธรรมที่แน่นอน บางทีก็เกิดความลังเล งวยงง จิตก็ไม่มั่นคง การปฏิบัติก็เสื่อม ไม่เจริญคืบหน้าต่อไป”

ที่มา
http://kradandum.com/luangpu_dul/index46.htm

ออฟไลน์ somboon matkeaw

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 445
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 02 มิ.ย. 2554, 06:39:41 »
ขอกราบนมัสการ :054: :054: :054:หลวงปู่ดูลย์และหลวงปู่สายจังหวัดสุรินทร์ครับ และขอบคุณท่านทรงกลดอีกตามเคยครับ :090: :114: :089:ขออณุญาติเจ้าของรูปมา ณ ที่นี้ด้วยครับ :090:

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: "พึ่งตัวเอง" จาก เสียงธรรมจากพระป่า
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 04 มิ.ย. 2554, 03:05:01 »
"จริงตามความเป็นจริง"

สุภาพสตรีชาวจีนคนหนึ่ง ถวายสักการะแต่หลวงปู่แล้ว เขากราบเรียนดิฉันว่า ดิฉันจะ
ต้องไปอยู่ที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อทำมาค้าขายอยู่ใกล้ญาติทางโน้น ทีนี้
บรรดาญาติๆ ก็เสนอแนะว่า ควรจะขายของชนิดนั้นบ้าง ชนิดนี้บ้าง ตามแต่เขาจะเห็นดี
ว่าอะไรขายได้ดี ดิฉันยังมีความลังเลใจ ตัดสินใจเอาเองไม่ได้ว่าจะเลือกขายของอะไร
จึงให้หลวงปู่ช่วยแนะนำด้วยว่า จะให้ดิฉันขายอะไรจึงจะดีเจ้าคะฯ

"ขายอะไรก็ดีทั้งนั้นแหละ ถ้ามีคนซื้อ"


ที่มา
http://kradandum.com/luangpu_dul/index27.htm