ผู้เขียน หัวข้อ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ  (อ่าน 15409 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ball omnoi

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 33
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
คือมีตะขาบเข้ามาในบ้าน ผมจึงจัดการฆ่ามันเพราะกลัวมันจะมากัดคนในบ้าน
แต่ผมก็กลัวบาปจึงกลับมาสวดมนตร์อุทิศส่วนกุศลให้มัน แล้วอย่างนี้ถือว่าผิดไหมครับ
พี่ๆโปรดจงชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 12:24:57 »
องค์แห่งการฆ่าในศีลข้อ ๑ มี ๕ ข้อ

๑.เป็นสิ่งมีชีวิต - ๒.รู้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิต - ๓.มีจิตคิดจะฆ่า - ๔.พยายามฆ่า - ๕.สิ่งมีชีวิิตนั้นตายเพราะการพยายามฆ่าของเรา

ลองพิจารณาดู หากครบองค์ประกอบทั้ง ๕ ข้อข้างต้นนี้ ก็แสดงว่า ผิดศีลข้อที่ ๑ เรียกว่า "ศีลขาด"

เมื่อผิดศีลแล้วก็ตัดสินเองครับว่าบาปหรือไม่บาป?

ออฟไลน์ ball omnoi

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 33
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 12:57:01 »
แล้วผมจะต้องทำอย่างไรดีครับ

ออฟไลน์ axiomz

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 76
  • อ่อนโยน แต่อย่าอ่อนแอ: )
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 06:51:25 »
บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป นะครับ  :050:

ออฟไลน์ aekkamol

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 45
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 08:20:40 »
บาปมากบาปน้อย ก็แยกย่อยไปอีก
 บุญคุณของสัตว์นั้น ถ้าฆ่าวัวควายที่เราใช้งาน ใช้ขี่ ใช้ไถนาเลี้ยงเรามา ก็บาปมากกว่า ฆ่าสัตว์ไม่มีคุณ
 คุณธรรม ฆ่าผู้มีศีล คนดีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีีี คนมีประโยชน์ บาบมากกว่า ฆ่าโจร
 ความพยายาม การฆ่าสัตว์ใหญ่ บาปมากการฆ่า สัตว์เล็ก
ธรรมะของพุทธศาสนาละเอียดลุ่มลึก เป็นลำดับ มีเหตุมีผลในตัวเอง



ออฟไลน์ puttiphong

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 56
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 10:18:34 »
การฆ่าสัตว์ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ ก็ถือว่าบาป แต่จะมากหรือน้อยก็อยู่ที่เจตนาครับ ตอนนี้เราไม่สามารถที่จะย้อนเวลาไปได้ สิ่งที่ทำได้คือขออโหสิกรรม และต่อจากนี้ก็พยายามระมัดระวัง

ออฟไลน์ boomee

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 339
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 11:37:21 »
ส่วนตัวนะครับ เป็นผมก็คงทำเหมือนกันนะครับ มิฉะนั่นอาจคนที่อยู่ในบ้านได้ครับผม

เรื่องบาปแน่นอนอยู่แล้วครับ แต่จะมากจะน้อยก้ตาม เจตนาแหละครับผม

::  ผิดถูกประการใดขออภัย  ::
หากตัวท่านไรซึ่งความหวัง  กายท่านจะคงอยู่เพื่อสิ่งใด

ออฟไลน์ Cobol69

  • ปฐมะ
  • *
  • กระทู้: 1
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 11:45:24 »
ทำบุญไห้เค้า ครับ ขอขมา เค้า ครับ ทุกสิ่งมี ชีวิต ก็ รัก ชีวิตตัวเอง ทั้งนั้น ผมเองก็ บ่อยๆ ครับ งู เข้า บ้าน 2 รอบ แล้ว แต่ผม ไม่ เคย คิด ฆ่า เค้า ผม พยามจับ เค้า แล้ว เอาไป ปล่อย 2 ครั้ง แล้ว ครับ เรา คิดดี กับ เค้า เค้า ทำอะไร เรา หรอก ครับ

knife420

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 02:04:48 »
 :048: ก็ เข้าใจในเหตุผลครับ..
เป็น ผม  ผมก็จะทำ.. ถ้า ตะขาบ มีโอกาส จะกัดผู้มีพระคุณ หรือ ลูก-หลาน
บางครั้ง เป็น เรื่องที่ต้องตัดสินใจ มีเหตุความจำเป็นต้องทำ .. ไม่ใช่ ทำเป็นกิจวัตร หรือทำบ่อยๆครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ berth1999

  • แม้จะล้มก็จะคลานไปให้ถึงที่หวัง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 1265
  • เพศ: ชาย
  • เจอกันไม่ต้องหลบ จะขอเลี่ยงหลบไปเอง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 02:57:00 »
โปรดใช้วิจารณญยาณ ครับท่าน

จากประสบการณ์จริง

ในอดีตแถวๆบ้านผมส่วนมากเป็นบ้านชั้นเดียวไม่ยกพื้น มีสวน มีที่ดินรกร้าง มีโรงเพาะเห็ดหลายโรง เรื่องตะขาบแมลงสาบนี่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้านเป็นอย่างมากเพราะมันมาจากแถวโรงเพาะเห็ด

ประสบการณ์ครั้งที่ 1 ตอนเด็กผมนอนอยู่ในบ้านดีๆก็รู้สึกเจ็บที่หน้าอกและร้อน เมื่อดูที่รอยแผลเป็นรอย 2 รู เล็กๆ ข้างบ้านเขาบอกว่าโดนตะขาบกัด เขาเอาน้ำมันดองตะขาบมาใส่ให้ แต่ด้วยความที่แพ้พิษตะขาบทำให้มีรอยแผลเขียว บวมแดงและร้อน เป็นอยู่หลายวัน พอแม่ถามก็บอกว่ายังแดงเจ็บนิดๆ ก็คิดว่าไม่เป็นไร จนวันนึงครูใช้ไปช่วยงานที่ห้องพักครู แล้วครูถามว่าได้กลิ่นอะไรเหม็นๆไหม ให้ผมดูว่าเหยียบอะไรหรือนั่งทับอะไรหรือป่าว ปรากฏว่ากลิ่นมาจากแผลที่ตะขาบกัดหน้าอก มันมีกลิ่นออกมา ครูถามว่าโดนอะไรมาแล้วครูก็รีบพาส่งไปอนามัย ปรากฏว่าเป็นแผลเน่าเนื้อตายเป็นพังผืดเหนียวๆเพราะพิษตะขาบ ต้องคว้านเนื้อออกทิ้ง ประมาณนิ้วชี้ยัดเข้าไปได้ ซึ่งทรมาณมากเจ็บจนต้องกัดผ้าขนหนูที่พยาบาลเอามาให้ เขาไม่ใช้ยาชาเลย แทบสลบ เวลาไปทำแผลทุกครั้งต้องใช้สำลีคว้านเลือดโชกทุกครั้งเพื่อเรียกเนื้อให้เต็ม ไปล้างแผลทุกวันเกือบ 2 อาทิตย์

ประสบการณ์ครั้งที่ 2 กวาดเศษใบไม้และขยะที่ลานดินหน้าบ้าน มีตะขาบคลานออกมาจากกองไม้ ตัวโตประมาณดินสอ คลานมาไต่ที่เท้า ด้วยความตกใจจึงสะบัดโดยที่ยังไม่โดนกัด ด้วยความที่แพ้ ปรากฏว่าที่หลังเท้าบวมเป็นรอยรูปตีนตะขาบ นานหลายวัน คราวนี้ใช้มะนาวผสมดินสอพองทา ใช้รักษาได้ดีพอสมควร

ประสบการณ์ครั้งที่ 3  เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงแถวบ้านอายุ 7 ขวบ ระหว่างเวลาประมาณตี 4-5 ได้สะดุ้งตื่นเพราะมีเสียงเด็กร้องดังมากว่าเจ็บหู ร้องงองแง ก็ไม่ได้สนใจคิดว่าคงเป็นมดเข้าหู พ่อเด็กเขาเอาน้ำหยอดแล้วเอาไฟฉายส่องมีตะขาบตัวจิ๋วๆขาแดงๆออกมา เด็กร้องจนต้องไปโรงพยาบาล

ประสบการณ์ครั้งที่ 4  อันนี้ติดเรทน๊ะครับ หลังจากโดนมา 2 ครั้ง และคนแถวๆบ้านก็โดนกันบ่อย ก็เกิดอาการจิตระแวง ก่อนนอนต้องเลิกเสื่อน้ำมันขึ้นดู พลิกที่นอน สลัดผ้าห่ม ดูหมอน ฯลฯ เจอที่ไหนเป็นต้องทำลายแม้จะไปอยู่ซอกไหนมุมไหนก็ต้องรื้อให้เจอ แต่ก็ยังไม่วาย ด้วยความที่จิตระแวง อะไรไต่หน่อยหรือมีความรู้สึกว่ามีอะไรไต่จะสะดุ้งตื่นทุกที จนวันนึงก็พลาดจนได้ นอนอยู่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรใต่ที่โคนขาแล้วเจ็บจี๊ดจึงขยำขยี้ๆๆๆๆลงไปในกางเกงตรงจุดที่เจ็บ พอถอดกางเกงออก มีซากตะขาบตัวเล็กๆเละอยู่ เอามะนาวผสมดินสอพองทา ก็ไม่ค่อยปวด วันต่อมา อวัยวะส่วนที่ใกล้จุดเกิดเหตุทั้งหมดบวมแดงและร้อน ขนาดบวมใหญ่กว่าเดิม เกือบ 3 เท่าไปหาหมอก็ให้กินยาแก้แพ้ อายแสนอาย เดินขากางไปร่วมอาทิตย์ ดีที่ไม่เป็นแผลเนื้อตาย

ทั้งหมดทั้งมวลนี้มิได้เกิดจากไปทำร้ายตะขาบก่อน ต่างคนต่างอยู่ไม่ทำร้ายมัน เจอก็ปล่อยๆไป จนเดี๋ยวนี้เห็นเป็นไม่ได้ ถ้าเจอจะไม่ปล่อยโดยเด็ดขาด กลัวจะกัดตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งหลายคนก็เคยโดนกัดมาแล้วทั้งนั้นแพ้พิษบ้างไม่แพ้บ้างอาการต่างกันไป
จนภายหลังมีความต้องการใช้ที่ดินให้เป็นประโยชน์มากขึ้นโรงเพาะเห็ดและสวนก็หายไปกลายเป็นตึกแถว ตะขาบก็ลดน้อยลงไป

อย่างกรณีของผมนี้ควรจะแยกกรณีบาป - บุญ ออกจากกันอย่างชัดเจนใช่ไหมครับ


ออฟไลน์ ball omnoi

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 33
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 23 พ.ย. 2554, 04:16:33 »
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับผม  :054: :054: :054:

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 24 พ.ย. 2554, 02:02:31 »
ตัวอย่างเรื่องจริงที่ปรากฎในพระสูตร

   ในสมัยนั้นมีภิกษุอยู่รูปหนึ่ง กำลังนั่งเย็บผ้าจีวร บังเอิญเข็มไปแทงถูกตัวเรือดที่อยู่ในตะเข็บจีวรตาย ตัวเรือดมันมีขนาดเล็กมาก ๆ ท่านมองไม่เห็น และไม่มีเจตนาฆ่ามันด้วย ตัวเรือดนั้นก่อนตายก็ได้ผูกอาฆาตไว้ด้วยเช่นกัน "เจตนาไม่มี แต่เวรเกิดมีขึ้นแล้ว" *(เหตุที่กล่าวเพียงแค่ "เวร" โดยไม่มีคำว่ากรรม เพราะ กรรม หมายถึงการกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา)*

   ชาติต่อ ๆ มา พระภิกษุรูปนั้นก็กลับมาเกิดเป็นพระภิกษุอีกชาติหนึ่ง ส่วนตัวเรือดนั้นมาเกิดเป็นนายพรานป่า

   วันหนึ่ง ในขณะที่พระภิกษุเดินสวนทางกับนายพราน เมื่อพระภิกษุเห็นนายพรานที่กำลังถือหอกอยู่ในมือ ก็เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงหลบเข้าไปอยู่ในพุ่มไม้

   ฝ่ายนายพราน เมื่อไม่เห็นพระภิกษุก็สงสัยว่าไปไหนเสียแล้ว ก็คิดขึ้นในใจว่าพระท่านคงกลัวที่เราถือหอกกระมัง เลยหลีกทางหายไป เมื่อคิดได้ดังนี้ นายพรานจึงพุ่งหอกทิ้งไปในพุ่มไม้โดยเจตนาแค่ว่า จะทิ้งหอกออกจากมือไว้ตรงนี้ก่อน

   ผลปรากฎว่า หอกนั้นได้พุ่งเข้าหน้าอกพระภิกษุที่หลบอยู่ในพุ่มได้ มรณะภาพในทันที...

ขนาดไม่มีเจตนา ขนาดเป็นเพียงแค่ตัวเรือดที่เล็กมากๆ เวรยังตามมาสนองกันถึงเพียงนี้ ใคร่ครวญดูเถิด

แล้วผมจะต้องทำอย่างไรดีครับ

ในกรณีดังกล่าว เป็นกรรม คือเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยเจตนา ชี้แจงให้เห็นคร่าว ๆ ก่อน กรรมจะให้ผลตามลำดับความหนักเบาของกรรมดังนี้

- ครุกรรม คือกรรมหนัก จะให้ผลก่อนเสมอ ในทางที่ดีคือ สมาบัติ ๘ ,ในทางที่ชั่วคือ อนันตริยกรรม ๕(ฆ่าบิดา,ฆ่ามารดา,ฆ่าพระอรหันต์,ทำให้พระพุทธเจ้าห้อพระโลหิต,ยังสงฆ์ให้แตกกัน) และสำหรับพระภิกษุสามเณร จะมีเพิ่มอีก ๑ คือ "อัญญสัตถุทเทส" คือ การนับถือศาสดาอื่นนอกจากพระพุทธเจ้า เช่น บวชในพระพุทธศาสนาแล้วไปนับถือไหว้ฤาษี,นับถือพราหมณ์ ฯ ถือว่าเป็นกรรมหนักร้ายแรง ใน "อภิฐาน ๖"

- พหุลกรรม คือกรรมทำมากจยเคยชิน จะส่งผลรองลงมาจากครุกรรม

- อาสันนกรรม คือกรรมจวนเจียนหรือกรรมใกล้ตาย

- กตัตตากรรม คือกรรมสักว่าทำ กรรมที่ทำไว้ด้วยเจตนาอ่อน หรือมิใช่เจตนาอย่างนั้นโดยตรง ต่อเมื่อไม่มีกรรมอื่นให้ผลแล้วกรรมตัวนี้ก็จะตามมาส่งผล

จะพ้นจากกรรมได้ ก็ต่อเมื่อกรรมเลิกให้ผล ไม่มีผลอีกแล้ว ที่เรียกว่า "อโหสิกรรม" นั่นเอง

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

เมื่อได้ทำไปแล้ว ย่อมไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้ ก็หมั่นประกอบเหตุอันเป็นกุศลในปัจจุบันขณะไว้จะดีกว่า

ศีล แปลว่าปกติ เมื่อคนมีศีลก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นคนปกติ เพื่อเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมความมั่นคงรักษาสัจจะในศีล เป็นไปได้ก็หมั่นอาราธนาศีลเป็นประจำทุกวัน เพียรระวังไม่ให้ผิดสัจจะคำพูดนั้นที่ได้กล่าวรับศีลมาเป็นข้อปฏิบัติในการดำรงชีวิตของตน

เมื่อทำบุญก็หมั่นอุทิศบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวร(เพื่อประโยชน์คืออโหสิกรรมต่อกันในที่สุด) นี่ก็จะเป็นการเพิ่มบุญไปในตัวอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "ปัตติทานมัย" แปลว่า บุญเกิดจากการให้ส่วนบุญ บุญยิ่งอุทิศให้แก่ผู้อื่นก็ยิ่งได้บุญเพิ่มขึ้น ไม่ได้ลดลงแต่ประการใด เปรียบดังแสงเทียน เมื่อต่อไปให้ผู้อื่นมากขึ้นเท่าใด ความสว่างไสวก็ย่อมเพิ่มมากขึ้นฉันนั้น

ททโต ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ - เมื่อให้ บุญก็เพิ่มขึ้น.

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

"อดีตที่ผิดพลาดลืมให้หมด บาปอกุศลทุกชนิดไม่คิดทำเพิ่มอีกเด็ดขาด หมั่นสั่งสมบุญให้เพิ่มขึ้นทับทวี ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 พ.ย. 2554, 02:08:17 โดย ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์) »

ออฟไลน์ praamulet

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 46
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 24 พ.ย. 2554, 02:13:19 »
พระธรรมเจ้าบอกว่า  ต้องฆ่าเอาก่อน ก่อนที่มันกำลังจะฆ่าเรา

knife420

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: ผมฆ่าตะขาบแล้วผมจะบาปไหมครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 25 พ.ย. 2554, 12:55:04 »
โปรดใช้วิจารณญยาณ ครับท่าน

จากประสบการณ์จริง

ในอดีตแถวๆบ้านผมส่วนมากเป็นบ้านชั้นเดียวไม่ยกพื้น มีสวน มีที่ดินรกร้าง มีโรงเพาะเห็ดหลายโรง เรื่องตะขาบแมลงสาบนี่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้านเป็นอย่างมากเพราะมันมาจากแถวโรงเพาะเห็ด

ประสบการณ์ครั้งที่ 1 ตอนเด็กผมนอนอยู่ในบ้านดีๆก็รู้สึกเจ็บที่หน้าอกและร้อน เมื่อดูที่รอยแผลเป็นรอย 2 รู เล็กๆ ข้างบ้านเขาบอกว่าโดนตะขาบกัด เขาเอาน้ำมันดองตะขาบมาใส่ให้ แต่ด้วยความที่แพ้พิษตะขาบทำให้มีรอยแผลเขียว บวมแดงและร้อน เป็นอยู่หลายวัน พอแม่ถามก็บอกว่ายังแดงเจ็บนิดๆ ก็คิดว่าไม่เป็นไร จนวันนึงครูใช้ไปช่วยงานที่ห้องพักครู แล้วครูถามว่าได้กลิ่นอะไรเหม็นๆไหม ให้ผมดูว่าเหยียบอะไรหรือนั่งทับอะไรหรือป่าว ปรากฏว่ากลิ่นมาจากแผลที่ตะขาบกัดหน้าอก มันมีกลิ่นออกมา ครูถามว่าโดนอะไรมาแล้วครูก็รีบพาส่งไปอนามัย ปรากฏว่าเป็นแผลเน่าเนื้อตายเป็นพังผืดเหนียวๆเพราะพิษตะขาบ ต้องคว้านเนื้อออกทิ้ง ประมาณนิ้วชี้ยัดเข้าไปได้ ซึ่งทรมาณมากเจ็บจนต้องกัดผ้าขนหนูที่พยาบาลเอามาให้ เขาไม่ใช้ยาชาเลย แทบสลบ เวลาไปทำแผลทุกครั้งต้องใช้สำลีคว้านเลือดโชกทุกครั้งเพื่อเรียกเนื้อให้เต็ม ไปล้างแผลทุกวันเกือบ 2 อาทิตย์

ประสบการณ์ครั้งที่ 2 กวาดเศษใบไม้และขยะที่ลานดินหน้าบ้าน มีตะขาบคลานออกมาจากกองไม้ ตัวโตประมาณดินสอ คลานมาไต่ที่เท้า ด้วยความตกใจจึงสะบัดโดยที่ยังไม่โดนกัด ด้วยความที่แพ้ ปรากฏว่าที่หลังเท้าบวมเป็นรอยรูปตีนตะขาบ นานหลายวัน คราวนี้ใช้มะนาวผสมดินสอพองทา ใช้รักษาได้ดีพอสมควร

ประสบการณ์ครั้งที่ 3  เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงแถวบ้านอายุ 7 ขวบ ระหว่างเวลาประมาณตี 4-5 ได้สะดุ้งตื่นเพราะมีเสียงเด็กร้องดังมากว่าเจ็บหู ร้องงองแง ก็ไม่ได้สนใจคิดว่าคงเป็นมดเข้าหู พ่อเด็กเขาเอาน้ำหยอดแล้วเอาไฟฉายส่องมีตะขาบตัวจิ๋วๆขาแดงๆออกมา เด็กร้องจนต้องไปโรงพยาบาล

ประสบการณ์ครั้งที่ 4  อันนี้ติดเรทน๊ะครับ หลังจากโดนมา 2 ครั้ง และคนแถวๆบ้านก็โดนกันบ่อย ก็เกิดอาการจิตระแวง ก่อนนอนต้องเลิกเสื่อน้ำมันขึ้นดู พลิกที่นอน สลัดผ้าห่ม ดูหมอน ฯลฯ เจอที่ไหนเป็นต้องทำลายแม้จะไปอยู่ซอกไหนมุมไหนก็ต้องรื้อให้เจอ แต่ก็ยังไม่วาย ด้วยความที่จิตระแวง อะไรไต่หน่อยหรือมีความรู้สึกว่ามีอะไรไต่จะสะดุ้งตื่นทุกที จนวันนึงก็พลาดจนได้ นอนอยู่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรใต่ที่โคนขาแล้วเจ็บจี๊ดจึงขยำขยี้ๆๆๆๆลงไปในกางเกงตรงจุดที่เจ็บ พอถอดกางเกงออก มีซากตะขาบตัวเล็กๆเละอยู่ เอามะนาวผสมดินสอพองทา ก็ไม่ค่อยปวด วันต่อมา อวัยวะส่วนที่ใกล้จุดเกิดเหตุทั้งหมดบวมแดงและร้อน ขนาดบวมใหญ่กว่าเดิม เกือบ 3 เท่าไปหาหมอก็ให้กินยาแก้แพ้ อายแสนอาย เดินขากางไปร่วมอาทิตย์ ดีที่ไม่เป็นแผลเนื้อตาย

ทั้งหมดทั้งมวลนี้มิได้เกิดจากไปทำร้ายตะขาบก่อน ต่างคนต่างอยู่ไม่ทำร้ายมัน เจอก็ปล่อยๆไป จนเดี๋ยวนี้เห็นเป็นไม่ได้ ถ้าเจอจะไม่ปล่อยโดยเด็ดขาด กลัวจะกัดตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งหลายคนก็เคยโดนกัดมาแล้วทั้งนั้นแพ้พิษบ้างไม่แพ้บ้างอาการต่างกันไป
จนภายหลังมีความต้องการใช้ที่ดินให้เป็นประโยชน์มากขึ้นโรงเพาะเห็ดและสวนก็หายไปกลายเป็นตึกแถว ตะขาบก็ลดน้อยลงไป

อย่างกรณีของผมนี้ควรจะแยกกรณีบาป - บุญ ออกจากกันอย่างชัดเจนใช่ไหมครับ



เห็นด้วยเลยครับ..

ประสบการณ์ คล้าย ๆ กับผม
แต่... ผมโชคดีที่ โดนตะขาบกัด แล้วไม่แพ้

ครั้งที่ 1 โดนกัดแล้ว ตัวร้อนๆ เหมือนไข้ขึ้น ส่วนที่แผลไม่มีแพ้ แค่บวมแดงแล้วหายไป แต่เป็นอยู่สักสามวันได้
ครั้งที่ 2 โดนกัดแล้ว จะเบาลง เหมือนร่างกายผม ชินแล้ว

แต่ ให้เลือกได้ ไม่อยากโดนกัดอีกเลย พิษยังไงก็คือพิษ

ขอบคุณนะครับ

พระธรรมเจ้าบอกว่า  ต้องฆ่าเอาก่อน ก่อนที่มันกำลังจะฆ่าเรา

เห็นด้วยกับท่านครับ..