ผู้เขียน หัวข้อ: % % % มอบวัตถุมงคลเนื่องในวันไหว้ครู ๓ % % %  (อ่าน 8012 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ โองการยันนะรังสี

  • ผู้ดูแลระบบ
  • *****
  • กระทู้: 951
  • เพศ: ชาย
  • หมากรุกเดินยังต้องคิด หมากชิวิตเดินไม่คิดได้ไง
    • ดูรายละเอียด
   มาถึงกระทู้ชุดที่ 3 กติกาก็เหมือนเดิมครับ ผมขอมอบวัตถุมงคล ในโอกาสวันไหว้ครู

ให้กับเพื่อนๆ จำนวน 10 ท่าน ท่านละ 1 ชิ้น โดยผู้ที่จะตอบคำถาม

จะต้องสามารถไปรับวัตถุมงคลจากคุณ ~เสน่ห์ack01~

ในวันไหว้ครูที่ 3 มีนาคมได้ด้วยตัวของท่านเอง (การติดต่อกับทีมงานจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง)

จะต้องเป็นผู้ที่เล่าเรื่องราวแล้วได้รับการขอบคุณจากสมาชิกมากที่สุด จำนวน 10 ท่านแรก

(ดุลยพินิจการตัดสิ้นของทีมงานถือว่าเป็นที่สิ้นสุด)

ตอบคำถามได้จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 24.00 น.


   คราวนี้ผมขอให้เพื่อนๆเล่าเรื่องราวจากชีวิตจริงท่าน ในหัวข้อว่า...

ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์



ผมขอล๊อกกระทู้ไว้ แล้วจะปลดล๊อคให้ตอบคำถามพร้อมกันในวันที่ 21 เวลา 12.00 น. นะครับ

ทีมงานเว็บไม่มีสิทธิ์ตอบคำถาม จ้า.. สมาชิกรับวัตถุมงคลได้เพืยงท่านละ ๑ ชิ้นเท่านั้นจากการตอบคำถามทั้ง ๓ กระทู้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ก.พ. 2555, 10:57:03 โดย โองการยันนะรังสี »

ขอเชิญร่วมงานพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ หลวงพ่อเปิ่น
 



ออฟไลน์ โองการยันนะรังสี

  • ผู้ดูแลระบบ
  • *****
  • กระทู้: 951
  • เพศ: ชาย
  • หมากรุกเดินยังต้องคิด หมากชิวิตเดินไม่คิดได้ไง
    • ดูรายละเอียด
รายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล

1.karnpong

2.~@เสน่ห์เอ็ม@~

3.Sak1459

4.tuxky

5.53505160001-8

6.amphon

7.singhanart

8.รุท หมัดหนักครับ

9.volkswagen

10.konrukgun
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 มี.ค. 2555, 10:39:52 โดย ~เสน่ห์ack01~ »

ออฟไลน์ SIC

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 938
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - diasberm@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • Marlboro Photographer
    • อีเมล
ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์

ส่วนตัวขอตอบข้อหลังก่อนเพราะถ้าไม่มีข้อหลังก็ไม่มีข้อแรก

- อะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์
หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระครับ
เพราะผมเคยจะไปวัดครั้งแรกตั้งแต่ ม.5 แต่เหตุที่ยังเด็กและไปไม่ถูก ไปไม่เป็น ก็เลยไม่รู้จะไปยังไง ใจคิดถึงเห็นภาพท่านตามเว็บไซต์สมัยนั้น ยังเน็ต 56 K อยู่เลย จนโตขึ้นตั้งแต่เรียนจนทำงาน ก็มีคิดถึงท่านบ้าง ลืมบ้าง

จนมีอยู่ว่าเช้าวันหนึ่ง (วันพืชมงคล 2552) เป็นวันที่ผมว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร ใจก็นึกถึงหลวงพ่อเปิ่นขึ้น แล้วตอนนั้นมอไซค์ก็มีแล้ว ก็เลยขับออกไปเลย ทั้งๆ ที่ไม่รู้เส้นทางว่าไปยังไงเลย แต่รู้แต่เพียงว่า อยู่อ.นครชัยศรี จ. นครปฐม ไปด้วยใจศรัทธาเลยครับ ขับไปตามป้ายบอกทาง จนมาถึงวัดบางพระก็ได้กราบหลวงพ่อเปิ่นอย่างที่ใจหวังมานาน แล้วเข้ารับการสักจากหลวงพี่นัน ได้รับยันต์เก้ายอดครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คิดอยู่ในใจที่ติดอยู่คือ สักยันต์แล้วดีไหม นั้นจะเป็นคำตอบข้อแรกครับ

- ทำไมถึงต้องไปสักยันต์
หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ เช่นกันครับ

หลังจากเข้ารับการสักยันต์ ก็เข้ารถมอไซค์ กลับเข้ากรุงเทพ ขับมาโดยที่ไม่รู้ทางกลับ จนเรียกว่าเกือบหลง เพราะขามาเข้ามาทางเส้นเพชรเกษม แต่ขากลับ ขับมาทางที่จะออกสาย 7 เส้นบรมฯ (ในขณะนั้นไม่รู้จัก) เป็นเส้นทาง 2 เลน รถสวนไปมา ขับมาตามเส้นทาง

จนกระทั่งถึงโค้งๆ หนึ่ง มีคนกำลังข้ามถนน แต่เขากลับข้ามถนนไม่มองรถ ผมบีบแตรแล้ว เขาก็ไม่หยุด จนกระทั่งชนเขาล้มลง ผมใส่เขาก่อนว่า ทำไมข้ามถนนไม่มองรถ เขาก็งงๆ แล้วก็ขอโทษผม แล้วผมถามเขา เป็นอะไรไหมครับ เขาตอบว่าไม่เป็นอะไร แล้วเขาถามผมว่าเป็นอะไรไหม ผมก็ดูตัวเอง ไม่เป็นไรเช่นกันครับ ตอนนั้นชาวบ้านเริ่มมุงดูกันมากขึ้น ผมดูท่าไม่ดี ก็เลยถามเขาอีกทีว่าไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ ผมจะได้ไปต่อ เขาตอบว่าไม่เป็นไรไปเถิด ผมก็เลยขับออกมา สักพัก แล้วก็จอดรถดู รถเป็นอะไรไหม สรุปรถก็ไม่เป็นอะไร มีกรอบหลุด ดันๆ เข้าไปก็เข้าทีแล้ว ผมก็เลยไปนึกถึง คงเป็นเพราะบารมีหลวงพ่อเปิ่นที่ผมศรัทธา คงช่วยคนที่ข้ามถนน ที่ไม่เป็นอะไร แล้วผมกับรถผมก็ไม่เป็นอะไรเช่นกัน เลยยกมือไหว้ไปทางวัดที่ผมเพิ่งขับออกมา

นี้เลยเป็นเหตุที่ทำให้ ที่ผมต้องมาวัดบางพระ เพราะมาหาหลวงพ่อเปิ่นที่ผมศรัทธาจนถึงทุกวันนี้ครับ

ออฟไลน์ karnpong

  • ขยัน อดทน อดกลั้น มีสติ
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 98
  • เพศ: ชาย
  • 23 ตุลาคม 2554
    • ดูรายละเอียด
เล่าเรื่องราวจากชีวิตจริง

ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์
ในชีวิตนี้ตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบันอายุก็ปาเข้าไปตั้ง 43 ขวบปีเข้าไปแล้วก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะต้องมาสักยันต์อะไรทำนองนี้เพราะไม่เคยได้สนใจในศาสตร์ด้านนี้มาก่อนเลยไม่มีอยู่ในหัวสมองจริง ๆ และอยู่มาวันหนึ่ง(ตุลาคม 2553) ไม่รู้คิดไปได้ยังไงจู่ ๆ ก็คิดที่อยากสัก(tattoo)เสือคู่ขึ้นมา(สงสัยจะสับสนในชีวิตไปหน่อยฮ่า ๆๆๆๆ) ก็ลองเข้าไปในโลกออนไลน์ดูว่ามีใครสักบ้าง ใครสักได้สวยบ้าง ค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไร(ใครถูกบ้างแพงบ้างอันนี้คิดหนักหน่อยฮ่า ๆ ๆ) เพราะเข้าไปดูแต่ละสำนักนั้นหรือแต่ละร้านนั้นโหราคาไม่เบาเหมือนกันแฮะ(คิดหนักอีกแล้วเรา) อ่อเกือบลืม...เคยโทรไปเช็คที่สำนักแล้วด้วยนะเพราะกะว่าจะเข้าไปให้ท่านสักให้ซะหน่อย(เป็นฆราวาส) เห็นในรูปแล้วเสือคู่สวยงาม ได้ใจมาก ๆๆ ตอนแรกก็ตกลงได้แล้วว่าจะไปให้เขาสักให้ในวันหยุด ซึ่งราคาก็ไม่แพงมากจนเกินไป(ควักกระเป๋าตัวเองดูแล้ว สงสัยหลังจากสักมาแล้วคงต้องกินแกลบแทนข้าวเสียแล้วมั๊งเราฮ่า ๆ ๆ ๆ)
   ดังนั้นจึงได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะไปสักที่สำนักที่ตัวเองได้เลือกไว้ แต่จู่ ๆ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสมองมันก็แวบ....ขึ้นมาให้คิดว่า แล้วจะไปสักทำไม เอาเพื่อความสวยงามแค่นั้นหรือ ร่างกาย เนื้อหนัง ของตัวเองนะ ติดไปตลอดชีวิต(เสียดายผิวขาว ๆ ของตัวเอง แม้แต่คนรอบข้างยังอิจฉาอิ ๆ ๆ ๆ)
   ซึ่งนั่นทำให้ต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่ว่าจะสักเพื่ออะไร ในที่สุดก็นึกถึงหลวงปู่เปิ่นขึ้นมาเลยครับ ว่าวัดบางพระมีการสักยันต์(แต่ในใจก็ยังอยากได้เสือคู่อยู่อ่ะ)  เพราะหลวงปู่เปิ่นท่านโด่งดังมากในเรื่องของการสักยันต์  แต่ก่อนผมก็ได้ยินชื่อเสียงของหลวงปู่มานานแล้วตั้งแต่สมัยท่านมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยความที่การสักยันต์หรือการ tattoo ไม่อยู่สมองเลย จึงได้ปล่อยเวลาให้ผ่านมาจนมาถึงวันนี้ ที่ทำให้ผมมีความคิดและตั้งใจจะสักยันต์(เพราะเสือคู่นี่แหละฮ่า ๆ ๆ ๆ อยากได้อ่ะ)  จึงมาตรองดูว่าถ้าจะสักหรือ tattoo คงจะต้องสักยันต์ ดีกว่า เพราะว่าถ้าเราได้ยันต์ที่เกิดจากการที่พระอาจารย์ท่านสักให้ ซึ่งจะมีการลงอักขระ และเป่าเสกคาถากำกับทุกยันต์ที่เราได้รับ ยันต์นั้นจะช่วยประคอง ค้ำจุน ชีวิตของตัวเราปฏิบัติตนเป็นคนดี ยึดเหนี่ยวจิตใจของตัวเรา จะคิดจะทำสิ่งใด ก็จะมียันต์ที่คอยกระตุ้นเตือนให้คิดก่อน ตรองก่อนว่าสิ่งนั้นถ้าจะทำไปแล้วมันดีหรือไม่ดี และจะทำให้เราคิดได้ว่าไม่ควรทำถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งไม่ดี และทำให้ตัวเราเป็นคนที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี(เอาละสิเข้าธรรมเลยเราเดี๋ยวก็เตลิดร่ายคาถายาว....เอ้ากลับเข้าประเด็นต่อ) นอกจากนี้ยันต์ที่เราได้รับมาก็เป็นประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งก็คือ เป็นการอนุรักษ์ลายยันต์ของไทยที่มีมาแต่โบราณ ไม่ให้สูญหายไป และผลพลอยได้ที่จะตามมาเมื่อเราปฏิบัติตนให้เป็นคนดี อยู่ในศีลในธรรมอย่างน้อยศีล 5 (กว่าจะปฏิบัติให้ได้ครบทุกข้อต้องใช้เวลากันหน่อย เพราะสังคมการดำเนินชีวิตในปัจจุบันมันเปลี่ยนไปเยอะมากเหลือเกิน....) ยันต์ต่าง ๆ ที่เราได้รับมาจะช่วยส่งผลให้เราแคล้วคลาด ปลอดภัย มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความเจริญก้าวหน้า มีกิน ไม่อับ ไม่จน ไม่เดือดร้อน
   และแล้วเมื่อสรุปได้แล้วว่าจะต้องมาสักยันต์ที่วัดบางพระ ก็ค้นหาเส้นทางที่จะมายังวัดบางพระทันทีเพราะยังไม่เคยมาวัดบางพระ เมื่อถึงวันหยุดที่ตั้งใจไว้ สำรวจตัวเองว่าใจพร้อม กายพร้อม ก็ขับรถตรงไปยังวัดบางพระเลย และหาดอกไม้ ธูป เทียน ค่าบูชาครู เข้าไปหาพระอาจารย์ที่กุฏิและยกพานกับพระอาจารย์ให้ท่านสักยันต์ให้ ซึ่งพระอาจารย์ท่านก็เมตตาให้ยันต์ครูมาก่อนเลยครับครั้งแรก เก้ายอด และก็มีการไปสักครั้งที่สองแปดทิศ ครั้งที่สามพระปิดตา และครั้งที่สี่และครั้งที่ห้า พระอาจารย์ก็ให้เสือคู่มาเลยครับ โดยไม่ได้เอ่ยปากขอจากพระอาจารย์(แต่แอบอธิษฐานจิตบอกพระอาจารย์ว่าอยากได้เสือคู่ อิ ๆ ๆ ๆ)  แต่ถึงกระนั้นการสักก็ไม่หยุดอยู่แค่นั้นครับ ก็ยังคงไปสักกับพระอาจารย์ต่ออีก ได้หนุมานเชิญธง ต่อยอดยันต์เก้ายอดเป็นสี่สิบเก้ายอด ยันต์งบน้ำอ้อย ยันต์อักขระต่าง ๆ ยันต์พระปิดทวารทั้งเก้า ยันต์เศียรพระฤาษี(พ่อแก่) ยันต์จิ้งจกสองหางกินหางเป็นวงกลม(เรียกไม่ถูกอ่ะ) ยันต์ตะกร้อ ยันต์ลิงทหารของหนุมาน ยันต์เกราะเพชร ยันต์จิ้งจก(อีกแล้วสามตัวเกาะกันพัลวันเลย...ฮ่า ๆ ๆ ๆ) ยันต์เศียรหนุมาน ล่าสุดยันต์พระพิฆเนศ อ่ะครับแต่ยังไม่หยุดแค่นี้นะครับคงจะยังไปสักอยู่เรื่อยครับ และอย่าลืมกันนะครับวันที่ 3 มีนาคม 2555 ไปไหว้ครูที่วัดบางพระกันครับ
   สุดท้ายนี้ก็ขอให้เนื้อหาที่กล่าวมานี้ เพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับทุก ๆ คน และรวมไปถึงคนที่คิดจะสักด้วยครับ และขอคุณพระศรีรัตนไตรจงช่วยปกปัก รักษา คุ้มครอง ให้ทุก ๆ ท่านมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุขมีแต่ความเจริญ หมดทุกข์ หมดโศกกันทั่วหน้าครับผม
ชาตรี แคล้วคลาด กันภัย มหาระงับ ดับทุกข์ สุขล้น พ้นสังขาร การงานรุ่ง พยุงดวง

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ทำไมถึงต้องไปสักยันต์  ขอตอบด้วยนะครับ  เพราะผมศรัทธาครับ  และมีเหตุการที่ทำให้ผมจำและรอดชีวิตมาได้

เมื้อสมัยผมเรียน ปวช.1  โดนโรงเรียนคู่อริไล่ยิง  แถวบริเวณวัดแคแถว  คู่อริขี่มอไซค์ตามประกบรถเมย์สาย402มหาชัยที่ผมนั่งไป
ทีแรกมันดักซุ่มบริเวณใต้สะพานลอย ผมก็นั่งอยู่ตรงประตูหลังพอดีที่เอวมีตะกรุดวัดบางพระที่ไปทำบุญมาที่วัดตอนนั้น
ปรากฏว่า มันยิงใส่ผมดังแชะเลยครับปากกระบอกปืนหันมาทางผมอย่างชัดเจน  แต่ไม่ออก พวกมันก็ไม่ละความพยายามที่จะไล่ยิง โดยประกบไล่ยิงมาตลอดทางหลายกิโล
แต่ก็ไม่มีใครเป็นอะไร   ในรถเมย์คันนั้นเองมีผ้ายันต์หลวงปู่เปิ่นแปะอยู่หน้ารถ(ปัจจุยันรถคันนี้ก็ยังวิ่งอยู่ลองไปสืบดูครับ)  ยิ่งทำให้ผมศรัทธามากขึ้น..เลยหาเวลาไปที่วัดบ่อยๆครับ  ของแบบนี้ต้องสัมผัสเองครับถึงจะรู้  

ยิ่งมีโอกาศได้ไปวัด ได้เห็นบารมีหลวงปู่ และความเมตตาของพระอาจารย์ และความศรัทธาของลูกศิษย์ที่ต่างมาจากทั่วประเทศก็ยิ่งศรัทธาครับ

 :054:  :054:  :054:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ก.พ. 2555, 12:45:27 โดย ~@เสน่ห์เอ็ม@~ »

ออฟไลน์ Sak1459

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 156
    • ดูรายละเอียด
ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์
  เพราะต้องการของดีไว้ป้องกันตัว ส่วนแรงจูงใจก็เพราะญาติพี่น้องส่วนใหญ่ ก็ตัวเขียวๆด้วยกันทั้งนั้น
 ส่วนประสบการณ์นั้น แรกๆก็มาจากญาติ
         ครั้งที่ 1 ยิงกันต่อหน้า ห่างกันไม่เกินสองเมตร ยิงกันหมดแม็ค 2 กระบอก เข้าทั้งหมดสองลูก จุดตายไม่เข้า หน้าผาก หัวใจ ไม่เข้า ยิงจนล้ม กะเอาตาย คนถูกยิงเมา รักษาของไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็รอดมาได้
         ครั้งที่ 2 มีเรื่องในร้านอาหาร มีเรื่องกับคนคุมร้าน 1 ต่อ 10 ได้ คนคุมร้านเจ็บ 2 แต่ก็รอดมาได้ หนีไปอยู่ในบ่อปลาเก่า ถอยหลังลงน้ำเหมือนในหนัง ใช้ไฟสปอตไลท์ฉายแล้วไล่ยิง สมัยก่อน ดอนตูมโหดมาก
         ครั้งที่ 3 เพื่อนถูกยิงโดยไม่ทราบสาเหตุ เดินไปด้วยกัน แต่เพื่อนทักแวะคุยนิดเดียว เพื่อนถูกยิงและยิงผิดตัว แคล้วคลาด เพราะไปด้วยกันไม่รอดแน่
         ครั้งที่ 4 ญาติมีเรื่อง วัยรุ่นมาปิดปั้มน้ำมัน เราไปช่วย รถถูกฟัน ถูกขว้างด้วยขวดกระทิงแดง ผ่านกระจกข้างเพราะลดกระจก ผ่านในรถไม่โดนใคร แต่มาโดนกระจกมองข้าง ไม่น่าเชื่อไม่โดนตัวเอง เพราะตอนนั้นรถก็ขับอยู่ แคล้วคลาด
         ครั้งที่ 5 ไปงานไหว้ครูครั้งแรก ปี 2538 หลังจากนั้นชีวิตก็เปลี่ยน ปี 2539 ก็สอบติดพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ใครเรียนช่างก็อยากเรียนที่นี่ ตอนเรียนที่เทคนิคก็ไม่ได้เก่งอะไร ไม่รู้สอบติดได้ไง ถือว่าโชคลาภและบารมี
      ก็ขอจบแค่นี้ครับ ด้วยบารมีของหลวงปู่ และความเมตตาของพระอาจารย์ ที่ช่วยคุ้มครองศิษย์ให้มีแต่ความสุขและความเจริญและมีชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อได้เข้าวัดบางพระ และ ได้ฝากตัวเป็นศิษย์

         

ออฟไลน์ tuxky

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1132
  • เพศ: ชาย
  • ซื่อกินไม่หมด คตกินไม่นาน
    • ดูรายละเอียด
ขอแจมด้วยคนครับ
  **เหตุผลที่ทำไมต้องสักยันต์**
             คือ  ด้วยความที่เป็นชาวพุทธและเป็นลูกผู้ชาย เคยได้รับฟังเรื่องราวเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของอักขระเลขยันต์  จึงอยากสักยันต์ไว้ป้องกันตัวเอง  และเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้มีกำลังใจในการประกอบสัมมาอาชีพ

  **มูลเหตุจูงใจที่ทำให้สักยันต์**
        เนื่องด้วยได้รับฟังเรื่องราวความหนังเหนียวของตาของผมเองจากปากของคุณแม่  ท่านบอกว่าตาของผมท่านเป็นคนมีวิชาอาคม เป็นคนหนังเหนียว ยิงรันฟันแทงไม่เข้า ท่านเป็นคนอีสานโบราณที่นิยมสักยันต์และเรียนวิชาอาคม แม่บอกว่าตาของผมท่านสักทั้งตัวลงมาถึงขา  ซึ่งชาวอีสานจะเรียกสักขาลาย ท่านเป็นคนจริงมีใจนักเลงแต่ไม่เคยรังแกใคร ท่านมีอาชีพทำไร่ทำนา เลี้ยงวัวเลี้ยงความ แม่บอกว่าตอนท่านเป็นสาว (ปัจจุบันแม่อายุ 65ปี) มีกจะมีคนมาท้าตีถ้าต่อยกับตาเป็นประจำ เพราะตาเป็นนักมวยเก่า มีอยู่วันหนึ่งตากำลังหาบข้าวขึ้นลานอยู่นั้นมีหนุ่มจากหมู่บ้านข้างเคียงมาท้าตาชกมวย ตาก็ไม่สนใจยังคงหาบข้าวขึ้นลานไม่สนใจใยดีและตอบรับคำท้า ซึ่งหนุ้มคนนั้นก็ยังไม่ยอมเลิกรา ยังคงท้าทายและพูดจาถางถางท่านสารพัดหาว่าท่านขี้ขลาดตาขาวบ้าง พูดๆหนักๆเข้าท่านเลยโมโหจับไม้คันหลาว (ไม้หาบข้าวทำจากไม้ไผ่แล้วเหลาปลายให้แหลม) พุ่งซัดไปที่คันนาแล้วต่อยไปที่ไม้คันหลาว ปรากฏว่าไม้คันหลาวหักและยุบลงไปในคันนาจนเกือบมิด หนุ่มคนนั้นเห็นดังนั้นก็วิ่งหนี ไม่กล้าชกกับท่านเลย แม่บอกว่าตาท่านสักธนูไว้ที่หมัดขวา
            แม่ยังบอกอีกว่าตาท่านหนังเหนียวมากแม้กระทั่งตายก็เผาไฟไม่ไหม้ไฟ ต้องให้พระภิกษุึผู้มีอาคมมาล้างวิชาให้จึงเผาไหม้ชาวบ้านต่างรู้กันทั่ว  ตาผมท่านเสียชีวิตเพราะถูกโจรขโมยวัวควายฆ่าตาย  แม่เล่าให้ฟังว่าตาท่านมีวัวควายฝูงใหญ่กว่า 30 ตัว วันหนึ่งตาท่านออกไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายที่ทุ่งนา จนกระทั่งมืดค่ำก็ไม่กลับมาทั้งคนทั้งควาย แม่และยายเห็นว่ามืดค่ำแล้วน่าจะเกิดอันตรายจึงชวนชาวบ้านจุดตะเกียงออกตามหาทั้งคืนก็ไม่พบ จึงค้นหาต่อในตอนเช้าโดยขอร้องชาวบ้านในหมู่บ้านออกค้นหาก็ไม่พบ โดยสมัยก่อนชาวอีสานจะใช้ไม้ทีที่ปลุกเสกแล้วเป็นเครื่องนำทาง  เวลาผ่านไป 3 วันก็หาไม่พบจนกระทั่งวันที่ 4 ยายได้จุดธุปเทียนบอกเจ้าที่เจ้าทางขอให้ค้นหาตาเจอด้วยเทอญจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ขอให้เจอเพราะหากเสียชีวิตจะได้นำศพไปทำพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป หลังจากบอกเจ้าที่เจ้าทางไม่นานก็พบศพตาถูกฆ่าตายโดยคนร้ายใช้มีดปลายแหลมเสียบทวารหนัก (ก้น) ควักลูกตาออกไปข้างหนึ่งแล้วคว่ำหน้าศพไว้ แม่บอกว่ามันเป็นเคล็ดที่โจรทำไว้เพื่อไม่ให้คนตามหาศพเจอและไม่ให้วิญานตามทัน แม่บอกว่าตามเนื้อตัวร่างกายของตามีร่องรอยถูกฟันแทงด้วยของมีคมจนเสื้อผ้าขาดหวิ่น แต่ไม่มีบาดแผลเลยนอกจากที่ดวงตาที่ถูกควักและทวารหนักที่ถูกมีดเสียบแทงคาอยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่คนที่หมู่บ้านผมต่างรู้ดีซึ่งไม่เฉพาะแม่เท่านั้นที่เล่าให้ผมฟัง ผู้เฒ่าผู้แก่ที่หมู่บ้านต่างจดจำได้ดี นี่คือมูลเหตุที่ทำให้ผมต้องการสักยันต์ และได้ทราบถึงบุญบารมีของหลวงพ่อเปิ่นแล้วก็ยิ่งอยากฝากตัวเป็นศิษย์จนกระทั่งเมื่อตอนเรียนจบ ม.6 ปี 2536 มาทำงานกรุงเทพ รุ่นพี่ชวนมาสักยันต์ที่วัดบางพระ ผมจึงรีบตอบตกลงและมากกราบหลวงพ่อเปิ่นและยกพานขอสักยันต์จากหลวงพี่แป๊ว นั่นคือครั้งแรกและเมื่อมีโอกาสก็จะไปเพิ่มเรื่อยมาจนกระทั่งเต็มตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ
      เล่ามานานเพื่อจะสื่อให้เห็นถึงเหตุผลและมูลเหตุจูงใจในการสักยันต์ของผมเองครับ  ที่มีชีวิตที่ดีขึ้นมีงานทำเป็นหลักแหล่งมั่นคงส่วนหนึ่งก็มาจากการสักยันต์เพราะได้รับการอบรมสั่งสอน มีข้อปฏิบัติข้อห้ามทำให้ผมกลับตัวเป็นคนดีมีศีลธรรม ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงาน และที่สำคัญคือกตัญญุรู้คุณครับ

ออฟไลน์ TECHTHEP

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 103
    • ดูรายละเอียด
ส่วนตัวกระผมไม่เคยมีความคิดที่จะสักยันต์เลยตั้งแต่เด็กๆ แต่ผมนั้นนับถือหลวงปู่มากๆ อาจจะเนื่องจากตอนเด็กๆพ่อกับแม่ของผมพาไปบ่อย
เพราะแม่ผมเป็นคนแถวนั้นแต่ได้มาทำงานที่กรุงเทพฯ อาจจะทำให้ผมมีความรู้สึกผูกพันกับวัดบางพระมากๆ เข้าไปที่วัดแล้วรู้สึกดีแบบพูดไม่ถูก
หลังจากนั้นผมก็เรียนมาเรื่อยๆ แต่ผมเองเป็นคนไม่ค่อยที่จะหาเรื่องใครเลิกเรียนก็กลับบ้านแต่นั้นแหละครับโรงเรียนที่ผมเรียนนั้นซึ่งในขณะนี้คือ
ระดับปริญญาตรีปี2 (เทคนิคกรุงเทพฯ)ครับคู่อริก็คอยมาดักทำร้ายและโดยยิงตายประจำด้วยความที่ว่าผมนับถือหลวงพ่อเปิ่นอยู่แล้วและลุงของผมก็เคยบวชที่วัดบางพระมาก่อนประมาณปี2530และลุงก็เคยช่วยพระอาจารย์หลายๆท่านสัก ลุงผมก็แนะนำให้ไปสักผมจึงขอพ่อกับแม่ก่อน แต่ผมขอสักน้ำมันครับพ่อกับแม่อนุญาต และท่านก็พาผมไปสักเมื่อวันที่8 พ.ค. 2554 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของผมและหลังจากนั้นมาผมก็สักมาเลยๆกับพระอาจารย์หลายๆท่านครับหลังจากที่สักมาผมก็รู้สึกดีมาตลอดมีความมั่นใจเวลาจะออกไปไหนก็จะนึกถึงหลวงปู่ก่อนและที่สำคัญคือก่อนนอนผมจะสวดมนต์ทุกคืนครับและในหลายๆครั้งที่จะทำสิ่งไม่ดีผมก็จะนึกถึงหลวงปู่ตลอดและก็จะไม่ทำสิ่งนั้นครับ ผมจึงมีความรู้สึกภูมิใจครับที่ได้เป็นศิษย์วัดบางพระและรู้สึกอบอุ่นเสมอกับพี่ๆน้องๆ มีปัญหาอะไรก็สามารถสอบถามได้เสมอ ขอบพระคุณพี่ๆน้องๆทุกท่านมากๆครับ

ขอบคุณครับ (ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ครับ) :054: :054:

ออฟไลน์ puyusuk1

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 970
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ขออภัยผมไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องราวจากชีวิตจริงอย่างไรดีผมรู้แต่ว่าผมมีความศรัทธาในตัวหลวงพ่อเปิ่นมากๆครับ

ออฟไลน์ liverpoolfanclub

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 23
    • ดูรายละเอียด
***สำหรับเหตุผลของการสักยันต์***

เคยได้ฟังจากคุณปู่ / คุณตา / คุณพ่อว่าสมัยก่อนใครสักยันต์ถือว่าเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว / เป็นผู้อยู่ยงคงกระพัน / ฟันแทงไม่เข้า

***สำหรับมูลเหตุที่ทำให้สักยันต์****

มูลเหตูุคือต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจไม่ให้เราหลงไปทำผิดหรือทำสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ แถมยังเป็นการรักษาศีล 5 ไปในดัวด้วยอีกทางนึงด้วย

ออฟไลน์ hangman69

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 226
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์

 เริ่มจากเป็นคนชอบการสักเริ่มจากสักสวยงาม แล้วก็มาศึกษาการสักยันต์จนพอที่ตนเองจะเข้าใจแล้วก็ข้อปฎิบัติต่างๆหลังสักยันต์มาแล้ว
ส่วนสิ่งจูงใจก็เป็นความชอบ+ศรัทธา ครับ
คนเรามักพูดว่ากาลเวลาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง  แต่จริงๆแล้วเราเป็นคนเปลี่ยนทุกสิ่งด้วยตัวเอง

ออฟไลน์ shagath

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 541
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ไม่มีแรงจูงใจครับแค่ไปเที่ยววัดตามกล่องพระที่ผมมีครับผมเป็นประเภทที่ชอบเที่ยวตามกล่องพระมีชื่อมีจังหวัดผมชอบ แล้วขณะที่กำลังรอรถเมล์จะกลับพระนครเดชบุญมีครอบครัวนึงนั่ง4คนพ่อแม่ลูกคุยกันและเขาถามผมว่ามาสักเหรอผมบอกเปล่าครับเขาเลยบอกว่าใหนๆมาวัดแล้วทำใมไม่สักละผมก็อึ้งสิครับเลยใหนๆก็ใหนๆเดินตามครอบครัวนั้นไปสักเลยแต่เืผือแปล็บเดี่ยวครอบครัวนั้นหายไปใหนไม่รู้ผมเลยได้สักยันต์ครูที่กุฏิหลวงพี่โมทจนครบทุกยันต์ครับและในตอนนี้ผมสักกับหลวงพี่นันครับ  :050:

ออฟไลน์ amphon

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 5
    • ดูรายละเอียด
เหตุผลที่ไปทำการสักยันต์
1.เริ่มต้นทาจากพระของพ่อที่มีเหริญพระอะไรไม่รู้ตอนนั่นเป็นเด็กเห็นนั่งบนหลังเสือก็เลยถามพ่อดูพ่อบอกว่าเป็นเหริญของหวงพ่อเปิ่นที่มีความเมตตาตอนนั้นจึงเริ่มสงสัยไม่ได้ติดใจอะไรจึงโตมาจนถึงเรียน ปวช มีพี่ที่เรียนด้วยกันเขาไปสักมาผมเห็นหลังของเขาจรึงถามว่าไปสักที่วัดไหนมาเขาบอกว่าวัดบางพระหลวงพ่อเปิ่นมันสวยขนาดนี้เลยหรือผมจึงตั่งใจที่จะหาทางไปวัดแต่ตอนนั้นเป็นเด็กอีกจึงปล่อยไปมาจนถึงเมื่อปี2554ผมเรียนจบมหาลัยแล้วจึงโตที่จะตัดสินใจทำการสักได้แล้วจึงหาแผ่นที่และนึกถึงหลวงพ่อ ว่าผมจะไปสักที่วัด จึงได้หาแผ่นที่ที่จะไปวัดจนเจอจึงเริ่มกัดสินใจไปไปตอนแรกผมขับไปทางเส้นทางอำเภอนครชัยศรี ผมเห็นวัดกลางบางพระผมจึงเลี้ยวรถเข้าไปผมเลยเขาไปถามหลวงพ่อว่าใช้วัดบางพระหรือป่าวหลวงพ่อบอกว่าไม่ใช้ผมใจเสียเลยว่าส่งสัยมาไม่ถึงแล้วมังหรือไม่ก็หลงทางเอาสะแล้วจึงได้ไปไหว้พระที่นั้นก่อนกลับจึงได้ถามว่า จะไปวัดบางพระไปอย่างไรหลวงพ่อบอกว่า ให้ขับออกไปทางเดิมแล้วตรงไปสุดทางก่อนขึ้นสะพานวัดอยู่ขวามือผมจึงได้ขับไปวัดตวามที่หลวงพ่อบอกจึงเจอวับางพระผมดีใจมาก ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรจึงไปถามพี่ที่เขาเดินออกมา ว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้สักให้ซื้อดอกไม้ที่เตรียมเป็นชุดและเตรียมเงินอีก25บาทผมจึงส่งสันว่าทำไมต้องเป็น25บาทจนถึงทุกวันนี้เลยครับ วันนั้นผมไม่ได้สักเพราะคนมันเยะจึงรอไปอีกอาทิตย์นึ่งจึงไปสักเห็นเขาสักตอนแรกก็นึกว่าจะสักน้ำมันหรือมึกดีพอดีเห็นผู้หญิงเขายังสักหมึกได้เลยจึงตัดสินใจกับหลวงพี่ญา ว่าจะสักหมึกหลวงพี่บอกว่าให้นึกถึงหลวงพ่อเปิ่นเอาไว้ เข็มแรกที่หลวงพี่แท่งไปรู้สึกว่าเจ็บมากจึงนึกถึงหลวงพ่อเขาไว้จนเสร็จได้เก้ายอกมามาดีใจมาที่ได้แต่ตอนนั้นกับประมาณเที่ยงจนมาเจอเพื่อนที่เรียน วัดห้องเดียวกันบ้านอยู่แถวเดียวกันจึงถามว่ามาอยางไรจึงกลับไปพร้อมกันเพื่อนผมได้บอกเส้นทางกับอีกเส้นทางนึ่งที่เร็วกว่าจึงได้เจอเส้นทางนั้นจึงกับไปถึงบ้านอยางปลอดภัยและได้ไปวัดด้วยกันจนถึงทุกวันนี้มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญที่เจอเพื่อนที่วัดเดียวกัน แต่ในใจคงคิดว่าหลวงพ่อเปิ่นคงอยากจะให้มีเพื่อนมาด้วยกันจะได้เตือนสติตอนไปวัด
ปล.มันอาจจะไม่เป็นเรื่องที่ไม่หน้าสนใจนะตรับแต่สำหรับผมแล้วมันเป็นที่ดีที่สุดที่มาที่วัดบางพระและได้เจอเพื่อนสมาชิกด้วยกัน

ออฟไลน์ bangphralism

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 349
  • เพศ: ชาย
  • ลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่น
    • ดูรายละเอียด
ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์

ที่มาสักยันต์เพราะบุพเพสันนิวาส  ผมคิดว่าบุพเพพาให้ได้มาสักยันต์พาให้ได้มาเป็นลูกศิษย์หลวงปู่
ถึงแม้จะไม่ทันหลวงปู่ แต่ก็เคารพและศรัทธาหลวงปู่ และเสียดายเป็นที่สุดที่ปี 41 มาไม่ถึงวัดบางพระ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ pukhau

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 31
  • เพศ: ชาย
  • ทนอยู่หรือจะอยู่ทน
    • MSN Messenger - krissada_2004@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ทำไมต้องสักยันต์ที่นี่ คำถามนี้เป็นคำถามตั้งแต่ผมเข้ามาเรียนที่โรงเรียนวัดบางพระ พอผมเข้ามาเรียนที่นี่้ทำให้ผมได้ทราบถึงพุทธคุณ ด้านแคล้วคลาดปลอดภัย แล้วยังเมตรา มหานิยม อีกด้วย แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้สักจนจบ ม.3 ผมก็เรียนต่อที่วิทยาลัยการอาชีพบางแก้วฟ้า ทำไห้ผมยิ่งมีแรงศักธาในตัวหลวงปู่มากขึ้นเพราะ ถ้าไม่มีหลวงปู่ ผมก็คงไม่มีวิทยาลัยใกล้บ้านเรียน แล้วยังมีสิ่งอื่นๆ ที่หลวงปู่สร้างไว้ พัฒนาไว้ อีกมากมาย ยิ่งเป็นเหมือนแรงกระตุ้นให้ผมกล้าที่จะสักยันต์ เมื่อสักยันต์มาแล้ว ด้านชีวิต การเรียน ความรัก การเงิน ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แล้วยังมีประสบการณ์การที่พบเจอกับตัวเองอีกหลายหน จึงยิ่งเพิ่มแรงศักธาในตัวเองต่อวัดบางพระให้มากขึ้นไปอีก ปัจจุบันก็สักกับวัดบางพระมาหลายลายยันต์แล้วครับ นี่คือสาเหตุที่ผมต้องสักยันต์ที่นี่ครับ  :001:
ในที่สุดเราก็ได้มาประดับหลังเราแล้ว หนุมานเกี้ยวนาง

ออฟไลน์ singhanart

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 456
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ผมสักด้วยความตั้งใจจริง

การสักยันต์ผมมองว่าเป็นมรดกทางวัฒธรรมที่บรรพชนได้สร้างไว้ให้แก่สยามประเทศ

หลวงปู่เปิ่นได้สืบสานและถ่ายทอดมาสู่พวกเราในทุกวันนี้ ด้วยการให้ และให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

พระอาจารย์สัมพันธ์ วฑฒโน ให้เมตตาต่อผมไม่ใช่แค่การสักยันต์แต่ยังมีคำสั่งสอนดีๆที่ทำให้ผมได้คิดและเก็บไปปฏิบัติ พระอาจารย์บอกว่าหลวงปู่เปิ่นเคยสั่งสอนไว้อย่างไรท่านก็นำปฏิบัติอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง ซึ่งเท่ากับว่าผมก็ได้รับคำสั่งสอนของหลวงปู่เปิ่นมาโดยปริยาย

ผมได้ยินชื่อเสียงของหลวงหลวงปู่เปิ่นแห่งวัดบางพระมานานเป็นสิบปีแล้ว แต่ผมได้รู้จักและเข้าใจเจตนารมณ์ของสายวัดบางพระจริงๆก็ตอนที่ได้รับการสักยันต์นี่แหละครับและสิ่งนั่นคือ  ความดี  ความเมตตา  และหน้าที่

สิ่งที่ดีที่สุดมีค่าที่สุดจากการสักยันต์ ผมได้มาแล้วคือ <การสักยันต์ตั้งแต่เข็มแรกจากพระอาจารย์สายวัดบางพระ>

-สิงสักเสือ-

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ก.พ. 2555, 11:19:39 โดย singhanart »
[shake]}สิงห์ลายเสือ{[/shake]

  หากภารกิจดั่งภูผา มรณาข้าเพียงขนนก

ออฟไลน์ Mr. PoK

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 6
  • เพศ: ชาย
  • หนังกูไม่เหนี่ยว อย่าให้มีดบาดมือกูนะ
    • MSN Messenger - pok_tc_12@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
- ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ ...
ผมเองเป็นคนที่ไม่ค่อยระวังเจ็บตัวเพราะเรื่องง่าย ๆ มาตลอด ล่าสุดเมื่อ 20 /2/2555 โดนไปอีก 7 เข็มง่าย ๆ เลยเพราะมีดบาดนิ้วมือ

เลยผมอยากจะทำให้ตัวเองเหนี่ยวบ้าง ซักนิดก็ยังดีและอาจจะเป็นการช่วยสานต่อในเรืองพวกนี้ให้คงอยู่คู่กับบ้านเมืองเราต่อไป

- แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์ ...

จริง ๆ แล้วตอนเด็ก ๆ ผมดูหนังเกี่ยวกับโจร หรือ ฯลฯ เยอะแล้วพระเอกที่เป็นโจรเนี่ยจะที่ยิง ฟัน แทงไม่เข้า เลยอยากเป็นแบบนั้นบ้าง

พูดง่าย ๆ ว่า มีโจรเป็นไอดอลล ^^

ขอบคุณครับ  :080:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 ก.พ. 2555, 11:45:53 โดย Mr. PoK »

ออฟไลน์ sMokE

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 156
    • ดูรายละเอียด
ทำไมต้องไปสักยันต์และ แรง จูงใจที่ทำให้สัก นะหรอ

บอกตรงๆครับเป็นคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลยครับ (ลบหลู่ด้วยซ้ำไป)

แต่ทำไมถึงกลับมาสักซะเองได้ เรื่องมันก็มีอยู่ว่า

บ้าน ย่า ผมอยู่โคราชครับ อยู่ในตัวอำเภอด่านขุนทด เลย ไกล้กับวัดบ้านไร่(วัดหลวงพ่อคูณอะครับ)

ทางบ้านผมก็เลย ได้รับการปลุกเสก ตอกตะกรุด เป่าหัว เหยียบตัว แล้วก็เขียนหัว โดยหลวงพ่อคูณมาเกือบทั้งบ้าน ยกเว้นน้องของผม

ส่วนตัวผมนั้นหลวงพ่อคูณ กรุณาเขียนหัวด้วยดินสอให้ตั้งแต่เด็กครับ แต่พอโตขึ้นพ่อแม่ก็มาทำงานที่ กรุงเทพ

และในปีหนึงที่บ้านของผมประกอบด้วยพ่อ และ แม่ และน้องของผม และตัวผม ได้ไปที่วัดบางพระ จำความได้ตัวผมหน้าจะ อายุ10 ขวบได้

ประมาณปี 39-40นี่ละครับ ก็ได้ไปกราบหลวงพ่อเปิ่นครั้งแรกหลวงปู่ก็ เรียกให้เข้ามาท่านก็จับดินสอเขียนหัวให้ น้องผม พอถึงผม

ผมก็ก้มหัว กะเถิบตัวเข้าไปหาหลวงปู่เพื่อจะรับการเขียนหัว แต่หลวงปู่ยกดิ้นสอขึ้นกำลังจะลงดินสอที่หัว หลวงปู่กลับเป่าให้อย่างเดียวแล้ว พูดกับผมทำนองว่า มีดีอยู่แล้วไม่อยาก ลงทับของเค้า ประมาณนี้

ผลเลยนึกถึงที่หลวงพ่อคูณเขียนให้ แต่เด็ก นึกถึงเรื่องนี้ทีไร ขนลุก ตลอดเลย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ประทับใจในองค์หลวงปู่ จากนั้นก็ไม่เคยไปวัดบางพระอีก

จนกระทั้งอายุ 22 ได้ไปรู้จักรกับพี่คนหนึงท่านเป็นลูกศิษย์ที่วัดบางพระ มานาน ก็สนิทกันจนวันหนึงพี่เค้าชวนไปเที่ยวงานไหว้ครูที่วัดบางพระ

ตอนนั้นผมก็จำไม่ได้ว่าวัดบางพระเป็นวัดหลวงพ่อเปิ่น พอไปถึงเริ่มคุ้นๆเริ่มฟื้นความทรงจำ เลยเล่าเรื่องตอนเด็กให้พี่เค้าฟังว่าเคยมาแล้วครั้งหนึง

หลังจากวันนั้น ผมก็เริ่มมีความคิดอยากจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง เลยหาข้อมูลจากอินเตอเน็ต ก็มาเจอเว็บนี้ ก็ไล่อ่านกระทู้เพลินๆเล่นๆ

จนไปเจอกระทู้ ของผู้การเสือ ผมก็ตามอ่านกระทู้ของท่านจนหมด เลยมีความคิดว่าเราอยากจะสักละ เอาวะไปเพิ่งนี้เลย

ก็นั่งรถมากับน้อง 2คนครับ ครั้งแรกตัวผมก็ไม่ร้จะเริ่มตรงไหนจะสักจะต้องทำยังไง ไม่รู้จักรใครเลยวะ ขี้อายด้วย

ก็เลยบอกน้องแยกย้ายกันไปเดินดูไหมว่าเค้าสักกันตรงไหนลองหาถามคนในวัดดูก็ได้ น้องผมก็ได้ไปสักกับหลวงพี่ต้อย

ส่วนตัวผมก็เดินมาเจอพี่เค้าขายดอกไม้ธูปเทียนก็เลยถามว่าเค้าสักกันตรงไหนทำยังไงบ้าง พี่เค้าก็บอกว่าซื้อไป1ชุดเดินขึ้นไปเลยด้านบนอะ

ก็เดินขึ้นไป ไปเจอหลวงพี่ญา และ หลวงพี่นัน นั่งสักอยู่ ผมก็ งงๆ มีพี่คนนึงยื่นพานให้บอกให้ใส่ดอกไม้มา ผมก็วางไป พี่เค้าก็บอกว่าเราต่อคนนี้นะ ครั้งแรกก็ได้ลงเข็มกับหลวงพี่นัน ครับ จากนั้นมาก็ หลวงพี่ ญา จากนั้น ก็หลวงพี่หนึ่ง วนเวียนอยู่อย่างงี้ ผ่านมา3ปี ปัจจุบันอายุ25 เผลอแปบเดียวจะเต็มหลังแล้ว

นี่ก็คือ แรงจูงใจ และ ที่ทำให้ร่างกายผมมีลอยสักครับ

ออฟไลน์ ชาญ

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 570
  • เพศ: ชาย
  • นะ เมตตา โม กรุณา พุธ ปราณี ธา ยินดี ยะ เอ็นดู
    • ดูรายละเอียด
     ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์


สมัยวัยเด็ก ผมเติบโตมาจาก สลัม (ชุมชนแออัด) เห็นมาสารพัด ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ที่ สังคมเขาตีตราว่า เลว

โดยเฉพาะ ตีรันฟันแทง  ผมเห็นมาจนเบื่อ มีให้เห็น แทบจะทุกวี่ทุกวันไป  โดยเฉพาะบ้านผม จะเป็นค่ายมวยเล็กๆ หน้าปากซอย ชุมชน

ผมโตมากับการ สภาพแวกล้อม ที่ โหดร้าย ชิงดีชิงเด่นกัน แย่งกันในการเป็นใหญ่ ในชุมชน เพื่ออยู่ แถวๆหน้า ของลูกผู้ชาย

ผมก็เป็นอีกคน ที่คิดแบบนั้น ด้วยวัยคนอง  ตอนรุ่นๆ ใด้ยินชื่อ  ตี๋ใหญ่ (นั่นละครับ ที่มาของการสักยันต์)  หนังเหนียว หายตัวใด้

เลยเกิดอยากใด้ วิชา และหาอาจารย์ ดีดี (โดยเฉพาะ ต้องเป็นพระเท่านั้น)  เลยใด้มาที่  หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นั่นละครับ

จึงนัดแนะ ในกลุ่มเพื่อนๆ  ขับมอเตอไซด์มากัน 2 คัน  ทางเข้าสมัยก่อน ปี 2525  ต้องบอกว่า ทางลูกรัง กว่าจะถึงวัด ก็ฝุ่นเต็มตัวนั่นละครับ

พอถึงวัด ผมใด้เข้าไปกราบ หลวงพ่อเปิ่น ขอสักยันต์ เนื่องจากผมเป็นเด็กน้อย พึ่งอยู่ ปวช1 เลยไม่ใด้สักกับหลวงพ่อ เห็นคนที่อยู่ที่ กุฏิบอกว่า

หลวงพ่อท่านไม่สักแล้ว ท่านจะเป่า และลงนะ ให้เท่านั้น  ผลก็เลยมาตกที่

หลวงพี่ต้อย (ป่าช้า) สมัยก่อน กุฏิหลวงพี่จะอยู่ใน ป่าช้า นั่งสักที่กระดานฝาโลง นั่นละครับ  ก็ลงเก้ายอด(น้ำมันครับ)  เสร็จจากหลวงพี่ต้อย

ก็มาหาหลวงพี่ติ่ง(ท่าน้ำ)  สมัยก่อนกุฏิหลวงพี่ติ่ง จะอยู่ที่ท่าน้ำวัด นั่นละครับ  ก็เลยใด้ สาริกาที่ท้องแขนขวามา (น้ำมันครับ)

เสร็จแล้ว ก็ไปกราบหลวงพ่อเปิ่น พร้อมกับลงนะ ท่านเอาเข็มจุ่มน้ำมัน ลงที่ หน้าผาก และแตะๆที่หัวให้ครับ พร้อมกับเอาทอง มาแปะ

ที่หน้าผากและลิ้นให้ครับ  เสร็จกิจ ผมใด้ถวายปัจจัยแล้วกราบลาท่าน ผมใด้ของติดมือกลับบ้านมานิดหน่อย พร้อมกับเช่า ตะกรุดหน้าผากเสือมาห้อยติดตัวนั่นละครับ




เหรียญแรก ทีผมใด้จากมือ หลวงพ่อเปิ่นครับ(ผมเอาไปชุบทองมาครับ เนื่องจากใส่จนสนิมเขียวขึ้นนั่นละครับ รักมากครับเหรียญนี้)




รูปภาพถ่ายที่ผมรักมากอีกรูปครับ



นี่ก็ผมเองครับ ที่กุฏิศาลา หลวงพ่อหิ่ม(กระดาษในมือนั่นละรูปภาพด้านบนครับ)

แล้วพบกันครับ พี่น้อง วัดบางพระ ทุกๆท่าน 3 มีนา 2555 :054:

ออฟไลน์ รุท หมัดหนักครับ

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 2312
  • เพศ: ชาย
  • ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
    • MSN Messenger - bassudza501@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ผมไม่รู้จะบอกยังไงดี คือว่าในสมัยเด็กๆผมศรัทธาหลวงปู่ตั้งแต่ยังเด็กๆอยู่เลยครับอายุประมาณ7-8ขวบครับผมได้ดูข่าวช่อง7ที่นำภาพออกอากาศพิธีไหว้ครูที่หลวงปู่นำรถดับเพลิงมาทำเป็นน้ำมนต์ที่ประพรมให้ลูกศิษย์ครับตอนนั้น ผมก็อยากจะไปวัดครับแต่ผมไปไม่ถูกยังเด็กๆเลยครับ ตอนนั้นผมก็ได้ไปดูที่หิ้งพระสายตาผมไปหยุดอยู่ที่เหรียญหลวงพ่อเปิ่น (บูชาครูปี2536)ผมก็เลยถามน้าสาวผมว่าเหรียญนี้ได้มายังไงน้าสาวผมบอกว่าไปทำบุญที่วัดตอนนั้นโรงงานน้าผมได้ทำบุญทอดกฐิน เหรียญนี้ผมก็ได้เก็บไว้จนวันหนึ่งผมโดนประสบการณ์แถวป่าช้าวัดดอนแถวบ้านผมตอนนั้นผมยังเบญจเพศอายุ25ปีไปซื้อของกับเพื่อนแล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับมอเตอร์ไซคันผมโดนมอเตอร์ไซที่ชนคันผมชนกันดังๆมากๆครับคนแถวนั้นออกมาดูกันเต็มเลยครับเพื่อนผมขาและแขนหักและคนที่ชนผมคนท้ายตายครับคนขับแขนขาหักฟันก็หักหมดปากส่วนผมรอยถลอกก็ไม่มีให้เห็นครับ ผมลงไปนั่งท่าสมาธิครับตอนนั้นผมรู้ตัวครับจนตำรวจถามผมว่ามึงมีของดีอะไรบอกมา ผมก็เลยบอกไปว่าเหรียญหลวงพ่อเปิ่นครับ หมอก็งงเหมือนกันครับว่าผมรอดมาได้ไงผมก็แอบยิ้มครับ ตอนนั้นผมอยากจะไปวัดแต่ไปไม่ถูก จนกระทั่งวันหนึ่งปี2545ผมฟังข่าวว่าพระเกจิอาจารย์เทพเจ้าลุ่มน้ำนครชัยศรี (หลวงพ่อเปิ่นมรณะภาพแล้ว)ผมบอกตามตรงเลยครับว่าขนแขนผมลุกผมจะร้องไห้เลยครับน้ำตาผมไหลออกมาเอง ตอนที่หลวงปู่ท่านมรณะภาพแล้ว ผมก็ได้ไปกราบฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เปิ่นอีกคนนะครับ ผมก็ไม่ได้สักยันต์ครับ พอเดือนต่อมาได้ชวนกันไปวัดบางพระผมก็ไม่รู้ว่าจะสักกับหลวงพ่อองค์ไหนดี ผมก็เลยตัดใจผมขึ้นไปหาหลวงพ่อต้อยให้ท่านสักเก้ายอดให้ครับและต่อๆมาก็หาหลวงพ่อต้อยอีกครับผมก็ได้ยันต์แปดทิศและงบน้ำอ้อย ยันต์เสือครับสักเสร็จผมก็ดีใจครับมีน้าคนหนึ่งบอกว่าหลวงพ่อต้อยเป็นหลานหลวงปู่เปิ่นแท้ๆเลยนะ ผมก็เลยสักมาจนทุกวันนี้ครับ :054: :054: :054:ตอนนี้ผมอายุ33ปีแล้วครับ ผมกราบนมัสการหลวงพ่อต้อย หลวงพ่อญา หลวงพ่อติ่ง และหลวงพ่อ หลวงพี่ทุกๆรูปครับ และอาจารย์ทุกๆท่านครับ กราบนมัสการ :054: :054: :054:ครับ :001:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 ก.พ. 2555, 06:39:42 โดย รุท หมัดหนักครับ »
รักและศรัทธา

ออฟไลน์ ที_lowrider

  • กดเป็นโดด Hydraulic & Air suspension Car Thailand
  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 230
  • เพศ: ชาย
  • Young Engineer
    • MSN Messenger - kalakaloa@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
คราวนี้ผมขอให้เพื่อนๆเล่าเรื่องราวจากชีวิตจริงท่าน ในหัวข้อว่า...

ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์


จริงๆ ว่าจะเปิด กระทู้ นี้ เป็นเรื่องเล่าประสพการณ์ แต่ไหนๆก็ไหนๆ มาเล่าในนี้เองเลย

-เริ่มจาก พ่อ ผม เป็น นักเรียนตำรวจ ก็อยู่ที่นครปฐมอยู่ แล้ว เป็นลูกศิษย์ ของวัดบางพระ รุ่นแรกๆ ก็ว่าได้ แต่แล้วด้วยอาชีพตำรวจ ย้ายไปเรื่อย

ย้ายมาจนถึง กทม ผมก็ได้เกิดที่นั่น แล้วก็ย้ายมาอยู่ ชลบุรี เหมือนเป็นพรมลิขิต มั้ง ที่เวลาได้ไปเลี้ยงรุ่นกับพ่อ ได้ไป นครปฐม ก็ เกิดนับถือ

หลวงพ่อเปิ่น ตามที่พ่อผมปลูกฝังนั่นแหละ จากนั้น ก็เอ็นทราน รอบแรก คะแนน ผมเยอะมาก เลยได้โควตา ที่ ทับแก้ว เลย โดยไม่ต้องรอรวม

คะแนนรอบสอง  ได้มีโอกาสไปวัดบางพระ บ่อยขึ้น ตั้งแต่สมัยก่อน นั่งรถเมล์ ไป ลำบากมาก จำได้ว่า ครั้งแรกๆที่ไป ฝนก็ตก รถกว่าจะมาก็ชั่วโมง

ละคัน ไม่สะดวกสบายเหมือนสมัยนี้ เนื่องจากเรียน เลยเริ่มจากการสักน้ำมันก่อน เป็น สิบกว่าครั้ง พอถึงปี ๔ เริ่มมีงาน และรู้สึกว่าโตมากแล้ว เลยให้

ของขวัญวันเกิดตัวเอง ด้วยการสักหมึก ครั้งแรก ด้วย บารมีของหลวงพ่อเปิ่น หรือ ท่าน จะมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดผม ผมสักหมึกครั้งแรก คือ

ยันต์...(ขออนุญาติไม่บอกนะครับว่ายันต์อะไร) ขับรถออกมาจากวัด ทาง บก. นิตยสาร เทคนิคแต่งรถ โทรเข้ามาพอดี นัดไปถ่ายรูปรถผม ลงหนังสือ

เลยขับรถไปพระราม สอง ถ่ายรูปลงหนังสือ วันนั้นเลย สุดยอดจริงๆครับ ไม่อยากจะเชื่อ ตกเย็นมาก็รับทรัพย์อีกจำนวนมาก


ตั้งแต่นั้นมา ผมว่าผมมาถูกทางแล้ว จากเดิม ที่ คิดว่า นับถือ วัดบางพระ ตามจาก คุณพ่อ แต่ตั้งแต่นั้น คิดว่า มาจากใจผมเอง เรื่องบางเรื่อง อาจจะ

พิสูจน์ ด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แต่ ผมสัมผัสได้ด้วยตนเอง ผมไปๆ มาๆ วัดบางพระ เสมอๆ ทุกๆเดือน ไม่ขาด หลายๆ คน เห็นรถผม คงจำได้

ประสบการณ์ หนักๆ ที่เจอ คือ ทางด้านรถยนต์ 3 ครั้ง ขั้นเสียชีวิต

ครั้งที่ 1 ผมเมาครับ บอกตามตรงว่าเมา เลยจอดรถ นอนข้างทาง ช่วงพุทธมลฑลสาย4 รถเพิ่งออกมาป้ายแดง ไม่ใช่คันด้านบนนะ ถูกชนจากด้าน

้ท้าย กระเด็นไปบนฟุตบาทเลย รถเก๋งยาริสผม ล้อแม็กแตก กระจกหลังแตก ผม สลบครับ ราวๆ 5 นาที ตื่นมารู้สึกตัวได้ รถก็ไม่ตกน้ำ ซึ่งจริงๆ ต้อง

ตกน้ำไปแล้ว ด้านซ้ายเป็นน้ำ และไม่มีอะไรกั้นรถ ผมไม่เป็นอะไรเลยครับ ที่ตัวไม่ได้แขวนพระ ที่รถไม่มีพระ แต่ที่หลังผม มีรอยสักมากมาย จากวัด

บางพระครับ นี่คือเหตุผล ที่จูงใจว่าทำไม ผมต้องสัก และผมว่าผมก็มาถูกทางแล้วครับ

ครั้งที่ 2 งานกินเจ 4ปีที่แล้ว ของชลบุรี ผมขับรถกลับบ้าน ตอนดึก มีทางโค้งนึง เฮี้ยนมาก ชาวบ้านลือกันครับ รถเป็นร้อยคันแล้ว ที่แหกตรงนี้ ผม

เอง ก็โดนเงาดำๆ ตัดหน้า รถลงขวาเลย ซึ่งเป็นคลอง แต่โชคดี ค้างตรงท่อที่ยื่นออกมา ผมตั้งสติ ให้เพื่อนออกจากรถก่อน ผมออกคนสุดท้าย หัน

หลังมา น้ำเต็มห้องโดยสารแล้ว แต่ ตอนผมอยู่ น้ำยังไม่เข้า แม้แต่หยดเดียว รถไม่มีพระเครื่อง ที่ตัวผม แขวน เหรียญ 19 บล็อคเข็ม ยังไม่ได้เลี่ยม

ครั้งที่ 3 ล่าสุด เมื่อไม่นาน ผมหลับใน ลงข้างทางครับ ชนหลักปูนข้างทางก่อนลง ครับ


รถไม่แตกแม้แต่นิดเดียว มีรอยสีแตกและยุ่เข้าไปครับ



น้ำข้างทางก็มีครับ ดิ้นไม่ขึ้น โคลนท่วมเลย



ดิ้นจนได้กลิ่นไหม้ของยางก็เลยพอครับ รถ ปอเต็กตึ้งมาลากขึ้น ในรถ ไม่มีวัตถุมงคล แต่มีรูปหลวงพ่อครับ



ส่วนที่ตัว ไม่ได้แขวนอะไร แต่สวมแหวนของหลวงพ่ออยู่รุ่นนึงครับ

ทั้งชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมั่งคั่ง ประสพการณ์ ต่างๆ ผมว่า ด้วยบารมีหลวงพ่อ ท่านไม่ปล่อยให้ผม เป็นอะไรง่ายๆ แน่นอนครับ

สุดท้าย ขอเล่าเรื่องโชคลาภให้ฟังสักนิด เมื่อวันที่ 2 กุมภา ที่ผ่านมา ผมไปรับหนังสือ แต่หนังสือยังไม่เส็ด ได้เข้าไปกราบ หลวงพี่ญา ท่านยังเล่าให้

ฟัง ว่าในวัดมีคนถูกหวย แต่ผมไม่กล้าเรียนท่านว่า งวดที่ออกวันที่ 1 คือ ทะเบียนรถผมด้านบนน่ะครับ ผมไม่ได้เล่น แต่แม่ชอบเล่นมาก ก็เลยถูกครับ

รถเพิ่งลงข้างทางมาก็ถูกหวยเลย พอวันที่ 10 ไปรับหนังสืออีก ก็ไปกราบหลวงพ่อเปิ่น ไปกราบหลวงพี่ญา แม่ผมได้ขอหวยอีก สุดท้าย งวดนั้น ก็

ออกทะเบียนรถแม่ผม กะพี่ชาย ครับ แหม แม่ผมซื้อล็อตเตอรรี่ในวัด ตั้ง 4 คู่ แถมเรียนขอหลวงพ่อเปิ่นไว้ว่า ถ้าถูก จะมาถวายดิน ได้สมใจแล้วครับ



คงครบทั้ง แคล้วคลาด และ โชคลาภ สุดท้ายนี้ ก็ขอให้ลูกศิษย์หลวงพ่อ หมั่นทำดี ไม่ว่าหลวงพ่อท่านจะอยู่หรือ จากไป ยังมีวัดบางพระ

มีพระอาจารย์ หลายท่าน คอยสั่งสอนลูกศิษย์ สืบทอดสิ่งดีๆเหล่านี้ไป ตลอดจนชั่วลูกชั่วหลาน "กราบนมัสการพระอาจารย์ทุกท่านครับ"

ออฟไลน์ somboon matkeaw

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 445
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ผมเป็นคนที่อยู่ติดวัดและไปวัดทุกวันตั้งแต่เด็กๆตามหลวงตา และเป็นคนชอบด้านนี้ อยากศึกษาไห้รู้แจ้งถึงแก่นแท้ เครารพและศัทธาครับ สั้นๆครับผมไม่มีเหตุผลอื่นใด เครารพอาจารย์ และพระอาจาย์ทุกๆรูป :054: :054: :054: ลูกศิษย์ขอกราบนมัสการมา ณ ที่นี้ด้วยครับ :090: :090: :090:

ออฟไลน์ volkswagen

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 16
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
สักยันต์เพราะอะไร อะไรเป็นสิ่งจูงใจ ???

สิ่งจูงใจของผมไม่มีอะไรมากครับ ผมชอบเรื่องของการสักยันต์ มานานมาก ตั้งแต่ผมเรียนอยู่มัธยมต้น แต่ตอนนี้มหาลัยแล้ว แต่ผมรู้จักพี่คนนึง เขาสักยันต์เต็มหลัง ลายยันต์ดูผ่านๆแล้วคล้ายกับหน้าเสือมาก ผมชอบเพราะดูเข้มขลังมาก ในช่วงสมัยนั้นผมอยู่ประมาณ ม.5ได้ครับ ชอบพระเครื่องมาก(ผมอยู่ยะลา ต้องมีของไว้ป้องกันตัวกันหน่อย  :002:) วันๆหนึ่งต้องแขวนพระเครื่องประมาณ 5 องค์ที่คอ และยังมีตะกรุดคาดเอวอีกนับไม่ถ้วน มันเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบมาก แต่นานๆไปไม่ไหวครับ เริ่มหนักขึ้นทุกวันๆ จึงเริ่มสนใจมากขึ้นกับการสักยันต์ ช่วงปิดเทอมจึงได้โอกาสนัดกับเพื่อนอีกสองคน เอาจักรยานเสือภูเขา ขึ้นรถไฟฟรี ไปลงที่นครปฐม เพื่อปั่นกันไปวัดบางพระ มันเป็นครั้งแรกของการเดินทางที่ผมไม่รู้จักอะไรสักอย่าง ปั่นๆหลงเลี้ยวกลับ จนในตัวเมืองนครปฐม ทุกซอยทุกมุม แทบจะจำได้หมด แต่ผมมีคติอยู่อย่างนึงคือ มีปากไม่หลงหรอก เอาหล่ะครับ ด้วยแรงศรัทธาที่จะต้องไปวัดบางพระ เพื่อสักยันต์ให้ได้ ถามชาวบ้าน และผมก็ปั่นกันไปสามคน แต่ไม่นะ นี้มันถนนเพรชเกษม ครั้งแรกกับการไม่รู้เส้นทาง ผมปั่นบนถนนใหญ่ วันนั้นเป็นวันที่รถเยอะมาก เสียวหลังสุดๆครับ จนได้ไปถึงวัดบางพระ เหนื่อยสุดๆครับ แต่เพราะแรงศรัทธาจริงๆที่ผมได้ไปถึงที่วัดบางพระ จนขากลับ ได้รู้จักพี่ๆ เพื่อนๆ เยอะแยะมากมาย จึงได้รู้ทางลัด เข้าตัวเมือง รถก็ไม่มาก เยี่ยมครับ สักยันต์วัดบางพระไม่ใช่ได้แต่ของไว้ป้องกันตัว ไม่ได้แต่ลายสักยันต์ที่เข้มขลัง แต่ได้มิตรภาพ ได้ประสบการณ์ชีวิตมากมาย บ้านผมอยู่ยะลา ผมมีเพื่อนอยู่ลำปาง ถ้าเราไม่ได้มาเจอกันที่วัดบางพระ ผมคงไม่รู้จักคนที่อยู่ไกลขนาดนั้นได้ 

ผมอาจตอบไม่ตรงคำถามสักเท่าไหร่นะครับ แต่คำตอบส่วนลึกมีอยู่ในเรื่องที่ผมเล่านี้ เรื่องของแจกมิได้สำคัญ แต่ผมอยากฝากประสบการณ์สนุกๆของผม ให้กับคนอื่นๆ เพราะ เรื่องนี้ เล่ายันลูกบวชก็ไม่มีเบื่อครับ  :015:

ออฟไลน์ CHARATORN

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 130
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์

เรื่องเริ่มจากตอนผมเรียน ปวส ครับ พอผมเรียนจบ ผมก็รีบกลับไปบวชให้พ่อและแม่ครับ แล้วได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแถวบ้านเห็นหลวงพ่อสักก็ได้ไปถามหาความรู้บ้างครับ พอผมสึกมาผมก็ได้มาสอบที่มหาลัยแห่งหนึ่งติดครับ ผมก็พยายามหาของดีติดตัวตลอดครับเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร(คู่อริต่างสถาบันครับ)และอีกอย่างผมเป็นคนที่เดินทางบ่อยด้วยครับโดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ และอีกอย่างผมกลัวไม่ได้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ที่ให้ผมเกิดมาก่อนครับ(กลัวตายก่อนไม่ได้ตอบแทนพระคุณท่านครับ) แล้วผมก็ได้เริ่มปรึกษาเพื่อนบ้าง หาข้อมูลบ้าง แล้วผมก้ได้มาสักที่วัดครับ พอผมมาถึงวัดผมก้ได้ไปไหว้หลวงพ่อเปิ่นก่อนเลยครับ พอจากนั้นไม่รู้จะทำอย่างงัย ไม่รู้จะสักกับใครผมก็หันหน้าเข้ากุฎิแล้วก็นึกในใจว่าถ้าผมเจอพระองค์ไหน ผมก็จะขอความเมตตาสักกับพระองค์นั้น พอผมเดินเข้าไปในกุฎิก็เจอหลวงพ่อญานั่งตรงประตูพอดี(เมื่อก่อนหลวงพี่ญานั่งข้างบนครับ)และผมก็ได้สักกับหลวงพี่ญาเรื่อยมาจนจะเต็มหลังแล้วครับ(ผมสักน้ำมันครับ)
และอีกอย่างนะครับสิ่งที่เป็นแรงจูงใจก็คือพ่อผมครับ พ่อผมก็สักน้ำมันทั้งตัวเลยครับผม แต่พ่อแม่ผมขอไว้ไม่ให้สักสีครับผมก็เลยได้สักน้ำมันมาตลอดเลยครับ

สิ่งที่สำคัญเลยที่หลวงปู่ที่วัดที่ผมบวชอยู่และพ่อแม่ผมสอนไว้  จะต้องเป็นคนดี ถ้า เราไม่เป็นคนดี ต่อ ให้มีของดีแค่ไหนเค้าก็ไม่อยากช่วยเราหลอก  เหมือนที่เราเคยมีสุภาษิตสอนไว้  คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
ถึงตอนนี้บางคนคิดทำไมทำดีแล้วไม่ได้ดี แต่ผมว่าทำไปเถอะครับสักวันจะดีเองครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ meef2002

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 113
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ผมไม่รุ้จะได้ไหมครับแต่ต้องของแชร์ เนื่องจากที่ผมมาสักยันต์นั้น เพื่อจะเป็นสิ่งเตือนให้เรารุ้ถึงศาสนา และเป็นการให้เราได้ฝึกสมาธิ โดยการสวดหมด สิ่งที่จูงใจนั้น ในอดีตผมไม่เคยคิดที่จะสักยันต์เลย แต่มาวันหนึ่งก็มีอะไรมาดลใจให้อยากไปสัก ซึ้งผมก็ไปสักครั้งแรกเป็นน้ำมัน นั้นแหละครับที่ผมได้ไปสักมา

ออฟไลน์ konrukgun

  • คนเถื่อน
  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 21
  • เพศ: ชาย
  • ไอทีผู้ชายสมบูรณ์แบบ
    • MSN Messenger - spk_tum@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์

1.ผมเชื่อในสิ่งมหัศจรรย์ผมเชื่อในศรัทธาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นจริงเพราะจิตเราเกิดศรัทธา เพราะตอนเด็ก ๆ ผมเป็นลูกศิษย์วัด
เคยไปร่วมงานศพบ่อย ๆ แล้วเวลาเผาศพตามบ้านนอกเจาจะเผาบนกองไม้ และสิ่งที่เกิดขึ้นผู้ชายอายุแก่มากที่ตายไปนั้นเผาไม่ไหม้
เพราะเขามียันต์อยู่เต็มตัว ผมไม่แน่นใจว่าใช่เพราะยันต์นั้นหรือเปล่าแต่ผมมีความศรัทธาในเรื่องที่เกิดขึ้น
2.เป็นสิ่งยึดมั่นในการรักษาคุณงามความดี รักษาวาจา รักษาการดำเนิดชีวิตให้เราปฏิบัติตามคำสั่งสอนของครุบาอาจารย์ที่ท่านสั่งเราไว้
หลังจากที่มีการสักแล้ว
แรงจูงในในการสักต้องการพิสูจน์ต่อตัวเองว่าสิ่งที่เราได้สัมผัสจากบุคลอื่นมาเป็นความจิงหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่เกิดจากศรัทธาอันเชื่อมมั่นในสิ่งนั้นที่ได้รับมาจริง ๆ ครับ

ออฟไลน์ ag

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 42
    • ดูรายละเอียด
ทำไมถึงต้องไปสักยันต์ แล้วอะไรเป็นสิ่งจูงใจให้ท่านไปสักยันต์
ศรัทธา พุทธคุณ วัฒนธรรม ศาสตร์ และศิลป์

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: % % % มอบวัตถุมงคลเนื่องในวันไหว้ครู ๓ % % %
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: 01 มี.ค. 2555, 10:45:14 »
ขอบคุณทุกท่าน ที่ร่วมแชร์ประสบการณ์อันมีค่า

ควรแก่การระลึกถึงนะครับ
  :016:

ขอบารมีหลวงปู่เปิ่น คุ้มครองทุกท่านตลอดไปครับ



ตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลทางด้านบนนะครับ

ติดต่อรับของรางวัลได้ที่ ผม เอ็กซ์ และต้นน้ำ ที่กุฏิพระอาจารย์ญา

ในงานไหว้ครู 3 มีนาคม 2555 นะครับ

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ singhanart

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 456
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: % % % มอบวัตถุมงคลเนื่องในวันไหว้ครู ๓ % % %
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: 03 มี.ค. 2555, 06:42:29 »
ผมสักด้วยความตั้งใจจริง

การสักยันต์ผมมองว่าเป็นมรดกทางวัฒธรรมที่บรรพชนได้สร้างไว้ให้แก่สยามประเทศ

หลวงปู่เปิ่นได้สืบสานและถ่ายทอดมาสู่พวกเราในทุกวันนี้ ด้วยการให้ และให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

พระอาจารย์สัมพันธ์ วฑฒโน ให้เมตตาต่อผมไม่ใช่แค่การสักยันต์แต่ยังมีคำสั่งสอนดีๆที่ทำให้ผมได้คิดและเก็บไปปฏิบัติ พระอาจารย์บอกว่าหลวงปู่เปิ่นเคยสั่งสอนไว้อย่างไรท่านก็นำปฏิบัติอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง ซึ่งเท่ากับว่าผมก็ได้รับคำสั่งสอนของหลวงปู่เปิ่นมาโดยปริยาย

ผมได้ยินชื่อเสียงของหลวงหลวงปู่เปิ่นแห่งวัดบางพระมานานเป็นสิบปีแล้ว แต่ผมได้รู้จักและเข้าใจเจตนารมณ์ของสายวัดบางพระจริงๆก็ตอนที่ได้รับการสักยันต์นี่แหละครับและสิ่งนั่นคือ  ความดี  ความเมตตา  และหน้าที่

สิ่งที่ดีที่สุดมีค่าที่สุดจากการสักยันต์ ผมได้มาแล้วคือ <การสักยันต์ตั้งแต่เข็มแรกจากพระอาจารย์สายวัดบางพระ>

-สิงสักเสือ-



สวัสดีครับ

ได้มาแล้วครับ "บัวบางใบ" ขอขอบคุณ คุณเอ๊กท์เป็นอย่างสูง

ผ่านไปแล้วกับวันที่ยิ่งใหญ่ ในการทำความเคารพกราบไหว้บูชาครูบาอาจารย์ ในความทรงจำที่ดีในวันนี้ผมจะไม่มีวันลืมเลือน