ผู้เขียน หัวข้อ: ...เมื่อจิตระลึกถึงธรรม บทที่ ๑๑...  (อ่าน 405 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เว็บมาสเตอร์...

  • ผู้ดูแลระบบ
  • *****
  • กระทู้: 571
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • www.bp.or.th


...เมื่อจิตระลึกถึงธรรม บทที่ ๑๑...

...ในยามดึกสงัดที่ผู้คนหลับใหล
นั่งมองลมหายใจที่ไหลเข้าออก
ใคร่ครวญทบทวนพิจารณาธรรม
เอาจิตคุมกายให้มีความรู้ตัวทั่วพร้อม
ใช้จิตถามจิต คิดจนให้เห็นเหตุที่เกิด
ผัสสะ อายตนะ ธรรมารมณ์ ที่ทำให้เกิด
เมื่อรู้เห็นเข้าใจ จิตก็คลายความกังขา
เห็นการเกิดมา การตั้งอยู่และการดับไป
ถอนจิตออกได้จากการยึดถือที่เกิดขึ้น
กายโปร่งโล่งเบาสบายเมื่อจิตคลาย
จากการยึดถือ ลมหายใจเข้าสู่สภาวะ
สงบเย็นเป็นปกติ อุทานธรรมเกิดขึ้น
ในจิตเมื่อเข้าสู่ความว่าง ทุกสิ่งอย่าง
รอบกายล้วนคือครูผู้สอนธรรม
เมื่อได้น้อมนำมาพิจารณาโดย
ปราศจากอัตตาทุกสิ่งที่ผ่านมา
ตถตา มันเป็นเช่นนั้นเอง...

...เมื่อรู้เขา รู้เรา เข้าใจหมด
ก็กำหนด แนวทาง ที่วางไว้
ว่าจะให้ มันเป็น อย่างเช่นไร
กำหนดได้ ถ้าเข้าใจ ในบุคคล

...บทกวี ของหลวงพ่อ พุทธทาส
ผู้เป็นปราชญ์ กล่าวไว้ ให้น่าสน
เกี่ยวกับความ เป็นอยู่ ของผู้คน
ทุกแห่งหน ควรตรอง และมองดู

..." เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนดี ที่มีอยู่
เป็นประโยชน์ แก่โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย "

...นี่คือบท กวี ที่กล่าวสอน
เป็นบทกลอน ให้คิด อย่านิ่งเฉย
การมองคน ไม่ควร จะละเลย
จงคุ้นเคย มองคน ที่ผลงาน

...องค์รพี บิดา แห่งกฎหมาย
ท่านกล่าวไว้ เป็นกลอน สอนลูกหลาน
เรื่องกินเหล้า เมายา มาเนิ่นนาน
ให้รู้การ รู้ค่า คำว่าคน

..." เอ็งกินเหล้า เมายา ไม่ว่าดอก
แต่อย่าออก นอกทาง ให้เสียผล
เอ็งอย่ากิน สินบาท คาบสินบน
เรามันชน ชั้นปัญญา ตุลาการ "

...อยู่กับโลก ด้วยธรรม นำความคิด
อยู่กับมิตร เอาวาจา มาประสาน
อยู่คนเดียว ระวังจิต คิดเกินการ
จนฟุ้งซ่าน สับสน จนทุกข์ใจ

...อยู่อย่างไร ก็ให้ มีสติ
และดำริ ให้จิต นั้นผ่องใส
อย่าวุ่นวาย ตามโลก ที่เปลี่ยนไป
จงดูกาย ดูใจ ให้รู้ทัน

...โลกเคลื่อนไหว อย่าหวั่นไหว ไปตามโลก
จะทุกข์โศก เพราะโลก นั้นแปรผัน
กระแสโลก เปลี่ยนไป ทุกคืนวัน
แต่เรานั้น หยุดได้ โดยใช้ธรรม

...กระแสธรรม นำมา ซึ่งความสุข
ก้าวพ้นทุกข์ พาใจ ไม่ตกต่ำ
ทำกุศล ให้ถึงพร้อม แล้วน้อมนำ
เดินตามธรรม ขององค์ พระสัมมาฯ....

...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๓...
...เวลา ๐๓:๕๙ น. ...