ผู้เขียน หัวข้อ: เกิด4 อัศจรรย์ครั้งเดียวในโลก วันมาฆบูชา  (อ่าน 1873 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ~เสน่ห์กวาง~

  • ไม่ใช่คนแรกของหัวใจ..แต่ก็เป็นคนสุดท้ายของชีวิต ^^โฮ๊ะๆ^^
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1314
  • เพศ: หญิง
  • เพื่อนกัน..ตลอดกาล..
    • ดูรายละเอียด
ชาวพุทธฯ ตะลึงเกิด 4 อัศจรรย์ครั้งเดียวในโลก วันมาฆบูชา (อ.ส.ม.ท.)



          วันมาฆบูชา หมายถึง การบูชา ตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) นับเป็นวันพิเศษ ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา เพราะในวันนี้นอกจากเป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะแล้ว ยังเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ ซึ่งประกอบด้วยความพิเศษ 4 ประการที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต นั่นคือ เป็นวันที่พระสงฆ์  จำนวน 1,250 รูป  มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พระสงฆ์เหล่านั้น ล้วนเป็นเอหิภิกขุ คือ ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้า และล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา 6 จึงเป็นการเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์เป็นครั้งแรก และเป็นเพียงครั้งเดียวในสมัยพุทธกาล

เมื่อพระองค์ยังทรงพระชนมชีพอยู่และทรงประทับอยู่ ณ วัดเวฬุวัน กรุงราชคฤห์ ก่อนเข้าพรรษาที่ 2 (หลังจากตรัสรู้ 9 เดือน) ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงเห็นเป็นโอกาสเหมาะ ที่จะแสดงโอวาทปาติโมกข์ อันเป็นการประกาศหลักการ  อุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติ ในการเผยแพร่พุทธศาสนา ให้นำไปใช้ได้ในทุกสังคม  ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปคือ ให้ละความชั่วทุกชนิด ทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตใจให้ผ่องใส  ซึ่งหลักธรรมคำสอนดังกล่าว จะเรียกว่าเป็นธรรมนูญแห่งพุทธศาสนา หรือ หัวใจของของพุทธศาสนาก็ได้ ดังนั้น โอวาทปาติโมกข์ จึงชี้ชัดถึงความเป็นสมณะ และบรรพชิตในพระพุทธศาสนาที่ แตกต่างจากศาสนาอื่น  อันเป็นรากฐานที่ทำให้พระพุทธศาสนา มั่นคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน


สำหรับในประเทศไทยนั้น พิธีบูชาเนื่องในวันมาฆบูชา เริ่มมีเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์  พระองค์ทรงปรารภ ถึงความสำคัญของวันมาฆบูชาว่า มีเหตุการณ์สำคัญ 4 ประการ ที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต เกิดขึ้นในวันมาฆบูชา จึงเห็นสมควรที่พุทธศาสนิกชนจะได้ทำการบูชา เพื่อระลึกถึงความสำคัญของวันดังกล่าว โดยโปรดให้มีการประกอบพระราชกุศลในเวลาเช้า ด้วยการนิมนต์พระสงฆ์เจริญ   พระพุทธมนต์ และฉันภัตตาหารในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในเวลาค่ำพระองค์จะเสด็จออกฟังพระสงฆ์ทำวัตรเย็น สวดโอวาทปาติโมกข์ และทรงจุดเทียนเรียงรายตามราวรอบ พระอุโบสถ  จำนวน 1,250 เล่ม  พระภิกษุเทศนาโอวาทปาติโมกข์  พระสงฆ์จำนวน 3 รูป สวดมนต์รับเทศนา เป็นเสร็จพิธี

 ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงนำพิธีบูชา เนื่องในวันมาฆบูชาไปประกอบในสถานที่อื่นๆ นอกพระบรมมหาราชวัง ในคราวเสด็จประพาสต้น เช่นบางปะอิน, พระพุทธบาท, พระพุทธฉาย, พระปฐมเจดีย์, พระแท่นดงรัง เป็นต้น ประชาชนได้นำเอาพิธีบูชา เนื่องในวันมาฆบูชา ไปปฎิบัติกันอย่างกว้างขวาง และสืบมาจนถึงปัจจุบัน



     แนวทางที่พึงปฏิบัติสำหรับ พุทธศาสนิกชนเนื่องในวันมาฆบูชา         
          1.  ให้ทาน ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร ในช่วงเช้า หรือเพล  บริจาคทรัพย์ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์

          2.  รักษาศีล  สำรวมระวังกายและวาจา  ด้วยการรักษาศีล 5 หรือศีล 8 พร้อมทั้งบำเพ็ญเบญจธรรมสนับสนุน

          3.  เจริญภาวนา บำเพ็ญภาวนา ด้วยการไหว้พระสวดมนต์ และปฏิบัติธรรมและวิปัสสนาตามแนวสติปัฏฐาน 4  ได้แก่

                กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ให้พิจารณากายนี้สักแต่ว่ากาย มิใช่สัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา

                เวทนานุสติปัฏฐาน ให้พิจารณาเวทนา คือ สุข ทุกข์ และไม่สุข ไม่ทุกข์ เป็นอารมณ์ ว่า เวทนานี้สักว่า เวทนา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

                จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ให้พิจารณาใจที่เศร้าหมอง หรือผ่องแผ้ว เป็นอารมณ์ว่าใจนี้ก็สักว่าใจ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

                ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ให้พิจารณาธรรมที่เป็นกุศล และอกุศล ที่บังเกิดกับใจเป็นอารมณ์ว่า ธรรมนี้ก็สักว่า ธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

          เนื่องในโอกาสที่วันมาฆบูชา  อันเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติกระทรวงวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ประพฤติปฏิบัติธรรม โดยการนำครอบครัวไปบำเพ็ญกุศล การทำบุญใส่บาตรในตอนเช้า ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม และฟังพระธรรมเทศนา ในตอนเย็นพาครอบครัวไปเวียนเทียนที่วัด เพราะวันสำคัญทางศาสนา ถือเป็นอีกวันหนึ่ง ที่ทุกคนในครอบครัว ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ดำเนินกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน เพื่อสร้างความสุขและความอบอุ่นในครอบครัว รวมทั้งนำหลักธรรม มาเป็นแนวทางปฏิบัติ เมื่อทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับความสำคัญของวันมาฆบูชาแล้ว ก็สามารถดำเนินชีวิตตามหลักธรรม เกิดความศรัทธาและรู้จักปฏิบัติตนตามหน้าที่ ของพุทธศาสนิกชนที่ดีได้อย่างถูกต้อง และมีความสุขตลอดไป



          ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือวันมาฆบูชา ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ





(ข้อมูลที่นำมาให้อ่านนั้นเห็นว่ามีสาระความรู้น่าอ่านแต่ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ)^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 ก.พ. 2552, 01:07:10 โดย KwAnG »

..ที่โลกนี้ไม่มี..ก็คือดวงตะวัน..
..ไม่เคยมีให้ฉันในวันที่มองไม่เห็นใคร..
.ที่โลกนี้ไม่มี..ก็คือความรักยิ่งใหญ่..
..ไม่มีคนห่วงใย..หวังดีและผูกพันธ์..

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อความดังกล่าว  :089:

ออฟไลน์ SCOFIELD

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 62
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
เป็นความรู้ที่ดีครับ มาแบ่งปันบ่อยๆนะครับ^^
ทำได้ ทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำ !!

ออฟไลน์ gong23

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 128
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ทำดีย่อมได้ดีครับ ได้รับความรู้ดีครับ

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
พรุ่งนี้แล้วสินะครับ อย่าลืมเข้าวัดทำบุญกันนะครับผม ขอบคุณครับ  :002:

ออฟไลน์ berth1999

  • แม้จะล้มก็จะคลานไปให้ถึงที่หวัง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 1265
  • เพศ: ชาย
  • เจอกันไม่ต้องหลบ จะขอเลี่ยงหลบไปเอง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
อดไปทำบุญตอนเช้าเลย โรงงานไม่หยุด มีงานทำดีกว่าไม่มีงานทำนิ๊ เอาไว้ไปวัดเวียนเทียนตอนค่ำก็ได้บุญเหมือนกัน :016:

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
"พระสังฆราช"ประทานพรวันมาฆบูชา



สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาท เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2552 สำหรับประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า เพื่อเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ และเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิต ใจความว่า "วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เสวยมาฆฤกษ์ เมื่อ 2597 ปีมาแล้ว จัดวันนั้น เป็นวันมาฆบูชา ด้วยสมเด็จพระบรมศาสดา ทรงประกาศหัวใจพระพุทธศาสนา 3 ประการ ในท่ามกลางพระอรหันตขีณาสพ 1,250 รูป เพื่ออัญเชิญไปเป็นหลักในการประกาศพระพุทธศาสนาแก่โลก ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คือการไม่ทำบาปอกุศลทั้งปวง การทำบุญกุศลทุกประการ และการทำจิตของตนให้ผ่องแผ้วห่างไกลจากกิเลสทั้งปวง หัวใจพระพุทธศาสนาก็เปรียบเช่นหัวใจเราท่านทั้งหลาย แม้ปล่อยหัวใจให้มีโรค ร่างกายก็จะเป็นทุกข์ทรมานจนถึงตายได้ หัวใจพระพุทธศาสนาก็เช่นเดียวกัน ไม่รักษาให้ดีด้วยการทำตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน ก็ย่อมจะก่อให้เกิดความบอบช้ำแสนสาหัส ถึงจบชีวิตพระพุทธศาสนาได้ พร้อมกันนั้นชีวิตของเราท่านทั้งหลายก็จะสิ้นความสวัสดี แม้ไม่อยากให้ชีวิตต้องผ่านสภาพนั้น ก็จงเร่งคิดพูดทำให้ได้ดังหัวใจพระพุทธศาสนา เริ่มต้นให้จริง ในวันมาฆบูชาวันนี้เถิด มหามงคลก็จะเกิดความเดือดร้อนวุ่นวายจะสงบได้ด้วยพระพุทธานุภาพ"


ที่มา  - ข่าวสด

ออฟไลน์ ~เสน่ห์กวาง~

  • ไม่ใช่คนแรกของหัวใจ..แต่ก็เป็นคนสุดท้ายของชีวิต ^^โฮ๊ะๆ^^
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1314
  • เพศ: หญิง
  • เพื่อนกัน..ตลอดกาล..
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณท่านเก่งที่นำข้อมูลมาเพิ่มให้นะคะ

ออฟไลน์ เด็กนอกวัด

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณพี่กวาง พี่เก่งความรู้มาแนะนำนะ :054:

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
คืนนี้ จันทร์ซ้ิิอนจันทร์  กำลังทางเมตตา-มหาเสน่ห์น่าจะดีครับ

ชาวพุทธอย่าลืมไปเวียนเีทียนนะครับ ระลึกถึงถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ  ดีกับตัวเองมากๆ ครับ

ออฟไลน์ tum72

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 2246
  • ณ ตลาดพลู
    • ดูรายละเอียด
ถ้าเป็นไปได้ขอให้ทุกๆท่านหมั่นทำบุญกันทุกวัน ไม่เฉพาะวันพระ หรือวันสำคัญนะครับ เพื่อความสิริมงคลแก่ตัวท่านเองครับ
โอม ราศีกูเอ๋ย  จงมาเป็นอาสน์  สีธาวาส  มาเป็นเกียรติ  ศรีชายมาเป็นช่วง
หญิงชายทั้งปวง รักกูมิรู้วาย  ด้วยราศีกูงามคือฟ้า  หน้ากูงามคือพรหม
หญิงเห็นหญิงรัก  ชายเห็นชายทัก  กูอยู่ทุกเมื่อ  ไม่เบื่อแต่สักวัน
โอม หญิงชายทั้งหลายเอ๋ย  มา