ผู้เขียน หัวข้อ: ใครรู้มั่งวิธีเพ่งกระศลีมีกี่วิธีและเพ่งเพื่ออะไรช่วยตอบหน่อยครับ งง มากนานแล้ว  (อ่าน 2776 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

TUM

  • บุคคลทั่วไป
ใครรู้มั่งวิธีเพ่งกระศลีมีกี่วิธีและเพ่งเพื่ออะไรช่วยตอบหน่อยครับ งง มากนานแล้ว

-บางทีก้อเห็นเพ่ง ไฟมั่ง เพ่งดวงอาทิตย์มั่ง งง ไปกันใหญ่  :010: :010: :010:  :032:

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ลองศึกษาจากกระทู้ที่เคยคุยกับไ้ว้บ้างแล้วนะครับ

http://www.bp.or.th/webboard/index.php/topic,6981.0.html

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
ระวังนะครับ ทำอะไรไม่มีครูอาจารย์สอน จะร้องเอาง่ายๆ นะจ้ะ ...  :095:


ออฟไลน์ ชลาพุชะ

  • เราอาจไม่รู้มากนัก แต่เรารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1526
  • เพศ: ชาย
  • ที่นี่คือเว็บวัดบางพระ เราก็ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณที่ท่าน สรรหาคำถามที่ต่อเนื่องไปสู่ความรู้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มี.ค. 2552, 02:04:59 โดย ชลาพุชะ »

ออฟไลน์ พุงโต

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 131
    • ดูรายละเอียด
ที่จริงแล้วการเล่น กสิณ เป็นการฝึกเพื่อเอามาต่อสู้กับกิเลสทั้งหลาย  อย่างเช่น กสิณไฟ สำหรับคนที่มีโมหะ ก็ให้เล่นกสิณไฟ  เพื่อดับอารมณ์โมหะ เป็นต้น  แต่หลัง ๆ มาคนส่วนมากที่คิดจะเล่น กสิณก็หวังอย่างอื่นกัน

ทั้งจริงแล้วกรรมฐานต่าง ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำนั้น เป็นเครื่องมือสำหรับตัดกองกิเลสทั้งหลาย เป็นเครื่องมือสำหรับการตัดข้อสงสัยเพื่อบรรลุนิพพาน

แต่หลัง ๆ มานี่เสร็จกิเลสสะเยอะเลย  อยากฝึกเพราะอยากได้ อยากเก่ง อยากโน้นอยากนี่ 

ใครจะฝึกแบบไม่มีครู ฝึกที่บ้านเอง  พยายามมีสติให้เยอะนะครับ  พบเห็นอะไรก็ให้มีสติเข้าไว้  เวลาพบเจอ

อะไรแล้วจิตปรุงแต่งอารมณ์ออกมา  ก็ให้ดูจิตมันไปเลยครับว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ 

เวลามันกลัว ก็ดูมันไปเลยครับว่ากลัวอะไร ทำไมถึงกลัว 

แล้วเราจะเริ่มรู้ว่าจิตเรามันไร้สาระสิ้นดีเลย  ไม่รู้มันไร้สาระมากี่ภพกี่ชาติแล้ว  วนไปวนมาอยู่นั่นเอง
ตายแน่ ตายแน่ สักวันหนึ่งฉันต้องตาย กลายเป็นผี เหมือนพวกนี้แน่ ๆ

ออฟไลน์ tum72

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 2246
  • ณ ตลาดพลู
    • ดูรายละเอียด
โอม ราศีกูเอ๋ย  จงมาเป็นอาสน์  สีธาวาส  มาเป็นเกียรติ  ศรีชายมาเป็นช่วง
หญิงชายทั้งปวง รักกูมิรู้วาย  ด้วยราศีกูงามคือฟ้า  หน้ากูงามคือพรหม
หญิงเห็นหญิงรัก  ชายเห็นชายทัก  กูอยู่ทุกเมื่อ  ไม่เบื่อแต่สักวัน
โอม หญิงชายทั้งหลายเอ๋ย  มา

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ที่จริงแล้วการเล่น กสิณ เป็นการฝึกเพื่อเอามาต่อสู้กับกิเลสทั้งหลาย  อย่างเช่น กสิณไฟ สำหรับคนที่มีโมหะ ก็ให้เล่นกสิณไฟ  เพื่อดับอารมณ์โมหะ เป็นต้น  แต่หลัง ๆ มาคนส่วนมากที่คิดจะเล่น กสิณก็หวังอย่างอื่นกัน

ทั้งจริงแล้วกรรมฐานต่าง ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำนั้น เป็นเครื่องมือสำหรับตัดกองกิเลสทั้งหลาย เป็นเครื่องมือสำหรับการตัดข้อสงสัยเพื่อบรรลุนิพพาน

แต่หลัง ๆ มานี่เสร็จกิเลสสะเยอะเลย  อยากฝึกเพราะอยากได้ อยากเก่ง อยากโน้นอยากนี่ 

ใครจะฝึกแบบไม่มีครู ฝึกที่บ้านเอง  พยายามมีสติให้เยอะนะครับ  พบเห็นอะไรก็ให้มีสติเข้าไว้  เวลาพบเจอ

อะไรแล้วจิตปรุงแต่งอารมณ์ออกมา  ก็ให้ดูจิตมันไปเลยครับว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ 

เวลามันกลัว ก็ดูมันไปเลยครับว่ากลัวอะไร ทำไมถึงกลัว 

แล้วเราจะเริ่มรู้ว่าจิตเรามันไร้สาระสิ้นดีเลย  ไม่รู้มันไร้สาระมากี่ภพกี่ชาติแล้ว  วนไปวนมาอยู่นั่นเอง

วิธีนี้ใช้มานานแล้วอ่ะครับ  

คอนเซปคือ ใช้ตัณหาละตัณหา

 แบบพระนันทะ พระอนุชาของพระพุทธเจ้าละครับ

โดนแยกกับเจ้าสาวตั้งแต่วันแต่งงาน พระนันทะอยากได้เทพธิดามาครอบครอง จึงเร่งนั่งทำกรรมฐาน

แต่เมื่อได้องค์ฌานแล้ว ตัณหาก็หมดไป

ของแบบนี้ต้องมีจุดสนใจให้เขาหันเข้ามาหาการปฎิบัติ เพราะจะรอแต่ผู้ที่ต้องการหลุดพ้น คงมีไม่กี่ท่านแน่ๆ  

รับมาหลายๆแบบแล้วให้ ธรรมะเป็นเครื่องคัดกรองก็ดีครับ เป็นสุดยอดกุศโลบายของศาสนาพุทธ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มี.ค. 2552, 09:58:39 โดย อชิตะ »

ออฟไลน์ gottkung

  • จะหมึกหรือน้ำมันไม่สำคัญ จงตั้งมั่นให้อยู่ในความดี
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 4088
  • เพศ: ชาย
  • "จะลูกใครนั้นไม่สำคัญ เป็นศิษย์ฉันเท่ากันทุกคนไป "
    • ดูรายละเอียด
    • www.gottkung.multiply.com
กสินนี่ ถ้าเอาตามหลักไสยศาสตร์เค้าก็ว่า
เป็ฯการฝึกกระแสจิตให้กล้าแข็งน่ะครับ
กสินก็แบ่งเป็ฯธาตุต่าง กสินน้ำ กสินไฟ (เน้นการเพ่งเปลวไฟหรือเพ่งเทียน)
เคยได้ยินว่าถ้าเพ่งจนอำนาจจิตแก่กล้า สามารถเพ่งไส้เทียนให้ขาดได้น่ะครับ
เท็จจริงอย่างไร ก็ต้องพิจารณากันครับ

แต่การฝึกเองต้องระมัดระวังอย่างยิ่งครับ เพราะพอฝึกไปเรือ่ยๆจะเห็นเป็นสิ่งที่เรียกว่านิมิต(บางทีก็คิดไปเองไม่ใช่นิมิตจริงๆ)
บางคนก็หลงไปกับนิมิตเหล่านี้ สุดท้ายก็อาจจะทำให้เป็นบ้าหรือเสียสติได้น่ะครับ ค่อนข้างอันตราย
อีกอย่างถ้าเพ่งกสินไฟมากๆ ตาก็อาจจะเสียได้ เหมือนอย่างหลวงปู่ทบ วัดชนแดนท่านเก่งมากเรื่องกสินไฟ
 แต่ว่าตานอกมองไม่เห็นตอนบั้นปลายสุดท้ายของชีวิตท่านน่ะครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มี.ค. 2552, 11:11:57 โดย gottkung »
เราเป็นศิษย์คิดมีครูดูก่อนเถิด อย่าละเมิดคำครูที่พร่ำสอน
ปุถุชนคนธรรมดาพึงสังวรณ์ ครูท่านสอนมอบสิ่งดีแก่เราๆ

ออฟไลน์ น้องลิงน้อย

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1127
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
อยากพิสูจน์บ้างจังว่าตัวเองจะจิตแข็งสักแค่ไหน  13; 13;
 17;แต่ว่า...เค้าเป็นคนใจอ่อนดิทำไงเนี่ย    05; 15; 37;
การที่เราจะฝึกหรือลองกับสิ่งที่เรามองไม่เห็น โดยไม่มีครูหรือผู้มีประสบการณ์
มาคอยชี้แนะ มันก็อาจจะเป็นภัยกับตัวเองได้  :054: :054:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 มี.ค. 2552, 12:56:08 โดย น้องลิงน้อย »

TUM

  • บุคคลทั่วไป
ที่จริงแล้วการเล่น กสิณ เป็นการฝึกเพื่อเอามาต่อสู้กับกิเลสทั้งหลาย  อย่างเช่น กสิณไฟ สำหรับคนที่มีโมหะ ก็ให้เล่นกสิณไฟ  เพื่อดับอารมณ์โมหะ เป็นต้น  แต่หลัง ๆ มาคนส่วนมากที่คิดจะเล่น กสิณก็หวังอย่างอื่นกัน

ทั้งจริงแล้วกรรมฐานต่าง ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำนั้น เป็นเครื่องมือสำหรับตัดกองกิเลสทั้งหลาย เป็นเครื่องมือสำหรับการตัดข้อสงสัยเพื่อบรรลุนิพพาน

แต่หลัง ๆ มานี่เสร็จกิเลสสะเยอะเลย  อยากฝึกเพราะอยากได้ อยากเก่ง อยากโน้นอยากนี่ 

ใครจะฝึกแบบไม่มีครู ฝึกที่บ้านเอง  พยายามมีสติให้เยอะนะครับ  พบเห็นอะไรก็ให้มีสติเข้าไว้  เวลาพบเจอ

อะไรแล้วจิตปรุงแต่งอารมณ์ออกมา  ก็ให้ดูจิตมันไปเลยครับว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ 

เวลามันกลัว ก็ดูมันไปเลยครับว่ากลัวอะไร ทำไมถึงกลัว 

แล้วเราจะเริ่มรู้ว่าจิตเรามันไร้สาระสิ้นดีเลย  ไม่รู้มันไร้สาระมากี่ภพกี่ชาติแล้ว  วนไปวนมาอยู่นั่นเอง

วิธีนี้ใช้มานานแล้วอ่ะครับ  

คอนเซปคือ ใช้ตัณหาละตัณหา

 แบบพระนันทะ พระอนุชาของพระพุทธเจ้าละครับ

โดนแยกกับเจ้าสาวตั้งแต่วันแต่งงาน พระนันทะอยากได้เทพธิดามาครอบครอง จึงเร่งนั่งทำกรรมฐาน

แต่เมื่อได้องค์ฌานแล้ว ตัณหาก็หมดไป

ของแบบนี้ต้องมีจุดสนใจให้เขาหันเข้ามาหาการปฎิบัติ เพราะจะรอแต่ผู้ที่ต้องการหลุดพ้น คงมีไม่กี่ท่านแน่ๆ  

รับมาหลายๆแบบแล้วให้ ธรรมะเป็นเครื่องคัดกรองก็ดีครับ เป็นสุดยอดกุศโลบายของศาสนาพุทธ

ครับ ผม นอมรับ

ออฟไลน์ พุงโต

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 131
    • ดูรายละเอียด
ที่จริงแล้วการเล่น กสิณ เป็นการฝึกเพื่อเอามาต่อสู้กับกิเลสทั้งหลาย  อย่างเช่น กสิณไฟ สำหรับคนที่มีโมหะ ก็ให้เล่นกสิณไฟ  เพื่อดับอารมณ์โมหะ เป็นต้น  แต่หลัง ๆ มาคนส่วนมากที่คิดจะเล่น กสิณก็หวังอย่างอื่นกัน

ทั้งจริงแล้วกรรมฐานต่าง ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำนั้น เป็นเครื่องมือสำหรับตัดกองกิเลสทั้งหลาย เป็นเครื่องมือสำหรับการตัดข้อสงสัยเพื่อบรรลุนิพพาน

แต่หลัง ๆ มานี่เสร็จกิเลสสะเยอะเลย  อยากฝึกเพราะอยากได้ อยากเก่ง อยากโน้นอยากนี่ 

ใครจะฝึกแบบไม่มีครู ฝึกที่บ้านเอง  พยายามมีสติให้เยอะนะครับ  พบเห็นอะไรก็ให้มีสติเข้าไว้  เวลาพบเจอ

อะไรแล้วจิตปรุงแต่งอารมณ์ออกมา  ก็ให้ดูจิตมันไปเลยครับว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ 

เวลามันกลัว ก็ดูมันไปเลยครับว่ากลัวอะไร ทำไมถึงกลัว 

แล้วเราจะเริ่มรู้ว่าจิตเรามันไร้สาระสิ้นดีเลย  ไม่รู้มันไร้สาระมากี่ภพกี่ชาติแล้ว  วนไปวนมาอยู่นั่นเอง

วิธีนี้ใช้มานานแล้วอ่ะครับ  

คอนเซปคือ ใช้ตัณหาละตัณหา

 แบบพระนันทะ พระอนุชาของพระพุทธเจ้าละครับ

โดนแยกกับเจ้าสาวตั้งแต่วันแต่งงาน พระนันทะอยากได้เทพธิดามาครอบครอง จึงเร่งนั่งทำกรรมฐาน

แต่เมื่อได้องค์ฌานแล้ว ตัณหาก็หมดไป

ของแบบนี้ต้องมีจุดสนใจให้เขาหันเข้ามาหาการปฎิบัติ เพราะจะรอแต่ผู้ที่ต้องการหลุดพ้น คงมีไม่กี่ท่านแน่ๆ  

รับมาหลายๆแบบแล้วให้ ธรรมะเป็นเครื่องคัดกรองก็ดีครับ เป็นสุดยอดกุศโลบายของศาสนาพุทธ


เพราะพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ทุกอย่างไงครับ ว่าควรโปรดใครยังไง ใช้วิธียังไง  ในส่วนของพระนันทะ เลยต้องใช้

นางฟ้ามาหลอกล่อ  เพราะพระพุทธเจ้ารู้จริตของพระนันทะ  พอพระนันทะเห็นนางฟ้าก็เลิกชอบมนุษย์ไปเลย 

แต่สมัยนี้คงจะยากนะครับ  เพราะกิเลสมันเยอะหรือเกินเต็มไปหมด

ออฟไลน์ Chotipat

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 400
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ใครที่ฝึกสมาธิด้วยการกำหนดลมหายใจแล้วรู้ง่วงนอนง่าย
ลองฝึกแบบกสิณดูบ้าง นั่งได้นาน ไม่ง่วงง่ายครับ
[shake]เป็นมิตรกับคนทุกคน เป็นเพื่อนกับลูกเสืออื่นทั่วโลก[/shake]

ออฟไลน์ nickydogz

  • ทุติยะ
  • **
  • กระทู้: 10
    • ดูรายละเอียด
กสิณ ครับ ไม่ใช่ กระศีล  :010:

เอ้า เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ เพราะผมก็เพ่งอยู่เหมือนกัน

จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเพ่งแล้วจะเป็นบ้า เป็นบอหรอกครับ มันมีสิ่งที่แถมมาด้วยต่างหาก และถ้าทำถูกวิธี ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

คือว่าแล้วเนี่ย กสิณ 10 เป็นกรรมฐาน 10 กอง จากที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในพระไตรปิฎก 40 กอง

และกสิณ เป็นฐานของ "อภิญญาสมาบัติ" >>>> คำที่น่าสนใจให้ไปค้นข้อมุลต่อใน Google "อภิญญา 6"
เป็นฐานของ "วิชชา 3" >>>> คำที่น่าสนใจให้ไปค้นข้อมุลต่อใน Google "วิชชา 3"

ซึ่งทั้งหมดเป็น "ของแถม" ที่ได้จากการปฏิบัติกรรมฐานอยู่แล้ว แต่ของแถมพิเศษจากการเพ่งกสิณมันมีเพิ่มขึ้นนอกจากข้างบนคือ "ฤทธิ์"

โดยผู้ที่ฝึกหากจะได้ฤทธิ์ จะต้องฝึกจนสำเร็จให้ได้อย่างน้อย 8 กอง (ท่านว่ามาว่า ถ้าได้กองใดกองหนึ่งแล้ว ที่เหลือจะง่ายมาก)

ตัวอย่างของฤทธิ์
กสิณไฟ >> เนรมิตให้เกิดไฟได้
กสิณน้ำ >> ทำให้ของแข็งกลายสภาพเป็นของเหลวได้ (รอยพระพุทธบาทไง)
กสิณลม >> ก่อให้เกิดลมในที่สงัดลมได้
กสิณดิน >> ทำให้ของเหลวหรืออ่อนกลายเป็นของแข็งได้ (เดินบนน้ำ, เดินบนอากาศ)
กสิณสีขาว >> ตาทิพย์

กสิณเนี่ย ที่มีกำลังแรงที่สุด คือกสิณไฟ เพราะฤทธิ์ของกสิณกองนี้มีมากที่สุด แถมอภิญญาที่ได้ มักจะเป็น เจโตวิมุตติญาณ คือการล่วงรู้จิตใจของคนอื่น ๆ ได้ และ/หรือ การบังคับจิตใจคนอื่นได้ คนถึงนิยมเพ่งไฟกัน

ทีนี้ มันมีกสิณที่มีโทษอยู่ โดยมากคือคนที่เพ่งกสิณไฟเนี่ย มักจะไปเพ่งเทียน (บางสำนัก เขาว่าการเพ่งเทียน เป็นกสิณโทษบางสำนักกล่าวว่า ไม่ใช่กสิณโทษ แต่กำลังเขาอ่อนมากจนแทบไม่ใช่กสิณไฟ) มักจะไปเพ่งดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นกสิณโทษ

ปัญหาที่คนเพ่งกสิณ เพ่งแล้ว วิปลาส มักจะเกิดจาก ปีติ ในฌานที่ 2 ของกสิณธาตุนั้น ๆ กสิณไฟ ปีติอาจจะรู้สึกว่าไฟลุกท่วมห้อง, กสิณลม ก็จะรู้สึกว่าตัวเองลอยอยู่ในอากาศ หรือหมุนไปตามลม ที่วิปลาสเพราะเมื่อเกิดปีติ ไม่มีสติคุมตัวเอง หลายคน ลืมตาขณะที่เกิดปีติเพราะเกิดกลัวขึ้นมา ก็เรียบร้อยไปหลายราย

ทีนี้ กรรมฐานกองกสิณเนี่ย ฝึกสูงสุด จะได้รูปณาน 4 อุปจารสมาธิ ถ้าจะไปต่อ ต้องฝึกอรูปฌานเพิ่ม เพื่อเข้าสู่ อัปปนาสมาธิ ต่างกับอานาปานสติ ที่จะไปได้ถึงอัปปนาสมาธิได้เลยในกองเดียว แต่อานาปานสติ ไม่มีฤทธิ์นะครับ

พระอาจารย์ผม ท่านกล่าวว่า กสิณ เหมาะกับคนที่เวลานั่งสมาธิแล้วมักจะคิดไปเรื่อยเปื่อย ว่อกแวก ไม่มีสมาธิจดจ่อ เพราะชอบคิดไปอดีต อนาคต ในขณะที่นั่งสมาธิครับ

ลองไปหาข้อมูลต่อที่ http://www.kasina.org ดูนะครับ แต่ที่นั่นเขาเพ่งกสิณสีกันครับ  :010: