กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด มิตรไมตรี => บทความ บทกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 09 ม.ค. 2553, 06:06:47

หัวข้อ: เล่าสู่กันฟัง..." Listeners hear no good of themselves..อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ"
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 09 ม.ค. 2553, 06:06:47
๙  มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓
ตถตาอาศรม ริมฝั่งแม่น้ำโขง
       เป็นยามเช้าที่หนาวเหน็บ อุณหภูิมิลดลงอย่างรวดเร็วจาก ๒๐ องศาลดลงมาเหลือ ๑๖ องศา
หนาวจนนอนไม่หลับ ตื่นขึ้นมาพิจารณาธรรม เจริญสติเจริญภาวนา เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาศ
พิจารณาเรื่องโลกธรรม ๘ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข...เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
คู่มากับโลก คิดถึงคำคมของคนรุ่นเก่าที่ท่านกล่าวไว้ " คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ " ซึ่งเป็นเรื่อง
จริงที่เกิดขึ้นในสังคมบนโลกใบนี้ เป็นเรื่องยากที่เราจะทำให้คนทุกคนมาชอบเรา มาชื่นชมรักเรา เห็นด้วยกับเรา
คนที่เห็นด้วยกับเรา ชื่นชมชอบเรา ก็จะกล่าวสรรเสริญยกย่องเรา คนที่ไม่ชอบเรา ไม่เห็นด้วยกับเรา ก็กล่าวให้ร้าย
ต่อเรา เป็นเรื่องปกติของโลก ซึ่งถ้าเราเก็บเรื่องเหล่านั้นมาเป็นอารมณ์ ทั้งสรรเสริญและนินทา เราก็จะวุ่นวายไม่สงบ
คำกล่าวสรรเสริญอาจจะนำไปสู่มานะทิฏฐิคือความถือตัวถือตนก่อให้เกิดอัตตา ส่วนคำนินทานั้นถ้าเราเอามาใส่ใจ
ก็อาจจะก่อให้เกิดจิตปฏิฆะ อารมณ์ขุ่นมัว เกิดโทสะและนำไปสู่ความพยาบาท อาฆาตจองเวรซึ่งกันและกันขึ้นได้
      แต่ถ้าเรามีสติระลึกรู้และพิจารณาอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอารมณ์ร่วมในสิ่งเหล่านั้น ทั้งคำสรรเสริญและคำนินทา
พิจารณาว่ามันเป็นเรื่องของโลกธรรม เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไป เป็นไปตามกฏพระไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ใจเราก็๋จะไม่คล้อยตามมีอารมณ์ร่วม ทั้งคำสรรเสริญและคำนินทา เพราะมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของโลกธรรม ๘
การที่เราจะคิดและพิจารณาอย่างนั้นได้ เราต้องมีสติและสัมปชัญญะที่เป็นสัมมาสติ มีองค์แห่งคุณธรรมคุ้มครองจิต
เจริญจิตในพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เจริญจิตในเทวธรรมคือมี หิริและโอตตัปปะธรรมของเทวดา
การที่จะเจริญจิตเป็นเทวดานั้นไม่ใช่เรื่องยากถ้าเรามีความละอายและเกรงกลัวต่อบาปแล้ว จิตในขณะนั้นเราเป็นเทวดา
และถ้าเรามีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาแล้ว เราก็เป็นพรหมในขณะนั้น
     ทุกอย่างอยู่ที่การเริ่มต้น"It is never too late to mend...ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น "ถ้าเรามีความตั้งใจ
ที่จะทำและมีความรับผิดชอบในความคิดของเราเอง คือมีสัจจะต่อตนเองแล้ว ทุกอย่างเริ่มต้นได้ทันทีและทุกเวลาทุกโอกาศ
แต่ที่เรายังไม่เริ่มต้นลงมือกระทำนั้นเพราะว่าเรามี นิวรณ์เป็นตัวถ่วงนิวรณ์นั้นคือ ความขี้เกียจมักง่าย ความสงสัย ความลังเล
ความอาฆาตพยาบาท ความซึมเซาติดอยู่ในกิเลสทั้งหลายเป็นตัวถ่วงไม่ให้ความเจริญในธรรมทั้งหลายเกิดขึ้น....
    โปรดคิดและพิจารณาว่าถึงเวลาที่เราจะเริ่มต้นในสิ่งที่ดีแล้วหรือยังและจงทบทวนในสิ่งที่ผ่านมาว่าเราได้สร้างสิ่งที่ดีให้แก่ชีวิต
ของเราแล้วหรือยัง วันเวลาแห่งชีวิตนั้นสั้นลงไปทุกวัน โปรดคิดและพิจารณา.....
       ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิตแด่มวลมิตรทุกผู้คน
                     รวี สัจจะ-สมณะชายขอบ
๙  มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓ เวลา ๐๖.๐๗ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง..." Listeners hear no good of themselves..อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ"
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 09 ม.ค. 2553, 08:24:34
ไม่มีอารมณ์ร่วมในสิ่งเหล่านั้น ทั้งคำสรรเสริญและคำนินทา
พิจารณาว่ามันเป็นเรื่องของโลกธรรม เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไป

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ การจะทำอย่างพระอาจารย์ได้กล่าวถึง เป็นเรื่องของจิตที่ต้องได้รับการฝึกฝน ส่วนตัวผมระลึกถึงประโยคดังกล่าวอยู่บ่อยแทบทุกวัน แต่เวลาได้รับคำชมหรือการเยินยอหัวใจก็อดที่จะพองโตไม่ได้ และพอถูกว่ากล่าวนินทา ก็อดที่จะโมโหและโกรธไม่ได้ครับ แม้ตอนนี้จะดีกว่าในอดีตมากแต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่่น่าพอใจครับ
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง..." Listeners hear no good of themselves..อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ"
เริ่มหัวข้อโดย: PeAwPeed ที่ 10 ม.ค. 2553, 03:55:22
" คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ "
ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมบนโลกใบนี้ เป็นเรื่องยากที่เราจะทำให้คนทุกคนมาชอบเรา
มาชื่นชมรักเรา เห็นด้วยกับเรา คนที่เห็นด้วยกับเรา ชื่นชมชอบเรา ก็จะกล่าวสรรเสริญยกย่องเรา
คนที่ไม่ชอบเรา ไม่เห็นด้วยกับเรา ก็กล่าวให้ร้ายต่อเรา
 
การนมัสการขอบพระคุณพระอาจารย์ค่ะ  :054:

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้คนมารักเราทุกคน แม้กระทั่งการหยุดคำพูดนินทาจากผู้อื่น
แค่ตัวเรา รู้จักตนเอง และให้เกียรติตนเอง รับผิดชอบต่อการกระทำความคิดของเรา
ไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น คนอื่นก็ไม่สามารถทำให้เราเสื่อมเสียลงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดปฏิบัติค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง..." Listeners hear no good of themselves..อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ"
เริ่มหัวข้อโดย: gottkung ที่ 11 ม.ค. 2553, 12:19:37
กราบขอบพระคุณพระอาจาร์ที่เมตตาสั่งสอนศิษย์ครับ
คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ
ปล่อยวางเสียบ้าง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ศิษย์จะนำไปปฏิบัติครับ :054:
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง..." Listeners hear no good of themselves..อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ"
เริ่มหัวข้อโดย: SiMPle ที่ 11 ม.ค. 2553, 04:17:32
คนรักเท่าผืนเสื่อ  คนนชังเท่าผืนหนัง เอ๊ยังไง ๆ

กราบนมัสการค่ะ
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง..." Listeners hear no good of themselves..อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ"
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 11 ม.ค. 2553, 09:58:24
"It is never too late to mend...ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้น "


กราบนมัสการของพระคุณพระอาจารย์ครับ สำหรับมุมมองและแง่คิดีๆ...
หัวข้อ: ตอบ: เล่าสู่กันฟัง..." Listeners hear no good of themselves..อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ"
เริ่มหัวข้อโดย: yout ที่ 12 ม.ค. 2553, 12:10:52
ขอบคุณพระอาจารย์ครับ................ :090: :090: :114: :090: :090:..................