กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 13 ส.ค. 2553, 08:12:48

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๑๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 13 ส.ค. 2553, 08:12:48
ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๓
.......รอยทาง......
                         เมื่อวานนี้เป็น " วันแม่แห่งชาติ " ไม่ได้ออกบิณฑบาตรนอกวัด
เพราะญาติโยมมาทำบุญตักบาตรที่วัด  ซึ่งมากันจำนวนมากเพราะเป็นวันหยุดราชการ
และหยุดงานทั้งหมด จึงทำให้มีเวลาว่างที่จะได้เข้าวัดทำบุญและช่วยเหลืองานในวัดกัน
ญาติโยมช่วยกันทำงานหลังจากทานอาหารกันแล้ว กวาดลานวัด จัดเสนาสนะ ช่วยกัน
ทาสีตกแต่งซ่อมแซมเรือยาวและรถพ่วง จนกระทั่งถึงเที่ยงจึงแยกย้ายกลับบ้านกันและ
ตอนเย็นทดลองเอารถพ่วงมาลากดู ทดลองลากเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเส้นทางแคบๆ
มีมุมเลี้ยวหักศอก ทดลองลากเลี้ยวผ่านดู ผลปรากฏออกมาเป็นที่น่าพอใจ เพราะผ่านไปได้
ตลอดเส้นทาง แต่ยังต้องแก้ไขอีกเล็กน้อย ตรงข้อต่อคันส่งหัวลากที่ยังแข็งแรงไม่พอ
กลับจากลองลากรถพ่วงแล้ว เตรียมตัวทำกิจวัตรสงฆ์ในภาคค่ำต่อไป
........รอยธรรม......
                        ควบคุมความคิด ปรับจิตให้เป็นปกติ มองทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นธรรมะ
ว่า " มันเป็นเช่นนั้นเอง...ตถตา " จะให้ทุกคนเสมอกันในความรู้สึกนึกคิดและจิตสำนึกนั้น
มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่า " บุคคลนั้นแตกต่างกันด้วยธาตุและอินทรีย์ " บารมีธรรม
ที่สั่งสมกันมาและกรรมเก่าของแต่ละคน เขาจึงทำได้และเข้าใจในธรรมไปตามอัตภาพของเขา
ซึ่งจะเอาตัวเราคือ ความคิดและการกระทำของเรานั้น มาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ และเมื่อเราเข้าใจ
ในจุดนี้ ทุกอย่างในโลกนี้ " ล้วนเป็นเช่นนั้นเอง "   หน้าที่ของเราก็คือ ดูกาย ดูจิต ดูความคิด
และควบคุม จัดระเบียบตัวเราเองให้ดีที่สุด นั่นคือทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ ตามบทบาทและหน้าที่
ที่เรารับผิดชอบอยู่ ไม่ทอดทิ้งธุระ วางเฉยเพราะจิตปฏิฆะ หรือว่าเพราะมันไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ
การปล่อยวางกับการทอดทิ้งธุระนั้น อาการภายนอกคล้ายกัน ดูไม่ออกว่าเป็นการปล่อยวางหรือทอดทิ้งธุระ
แต่แตกต่างกันที่เจตนาและสาเหตุที่มาของอาการอย่างนั้น ซึ่งถ้าเกิดขึ้นเพราะความรู้และความเข้าใจในธรรม
และทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว ยกจิตไม่ติดอยู่ในสิ่งที่กระทำ นั้นคือการปล่อยวาง แต่ถ้าเกิดจากความรู้สึกที่ไม่ได้
ดังที่หวังและตั้งใจไว้ มาจากความน้อยใจ เสียใจ ไม่ได้ดังใจ ไม่อยากที่จะทำ เพราะความเกียจคร้านเบื่อหน่าย
ที่เป็นอกุศลจิตทั้งหลาย อารมณ์เหล่านั้นไม่ใช่การปล่อยวางแต่เป็นการทอดทิ้งธุระ
........รอยกวี.......
                         มีสติ   ระลึก    นึกให้รู้
                     จงตามดู  กายจิต  อย่างชิดใกล้
                     มีสติ       อยู่กับ   ลมหายใจ
                   กำหนดไป  ให้รู้      ดูทั่วกาย
                                  รู้ลมเข้า    ลมออก   บอกตัวถูก
                                  รู้จักผูก     รู้จักแก้    รู้ความหมาย
                                  เตรียมเสบียง  กุศล   ไว้ก่อนตาย
                                  ให้จิตคลาย   ลดละ   จากอัตตา
                                                  ศึกษาธรรม  นำมา   ปฏิบัติ
                                                  เพื่อขจัด  ตัวกิเลส  ต้นปัญหา
                                                  ลดความหลง  ความโลภ และโกรธา
                                                  ภาวนา    เจริญจิต   เจริญธรรม
                                                               ทำกายใจ  ให้โปร่ง  และโล่งเบา
                                                               โดยไม่เอา  ความคิด  จิตใฝ่ต่ำ
                                                               ให้กิเลส    ตัณหา   เข้าครอบงำ
                                                                เดินตามธรรม ตามทาง  สร้างมงคล
                    เชื่อ...เมื่อคิด   พินิจ   และศึกษา
                    มั่น...คงมา     เมื่อเห็น เป็นเหตุผล
                  ศรัทธา...มี     อย่าเพียงเห็น  เป็นของตน
                  สามัคคี ...      จะชี้ชน    หนทางชัย
                                  อย่าเพียงคิด   เพียงฝัน  วันวันหนึ่ง
                                   รู้ให้ซึ้ง   เมื่อผิด    คิดแก้ไข
                                   จงมาดู  ความคิด   จิตกายใจ
                                   รู้อะไร   ไม่สู้    รู้ตัวเอง
                                              เมื่อรู้ธรรม  จงเอาธรรม  นำความคิด
                                              อย่าให้จิต   ฝ่ายต่ำ      มาข่มเหง
                                              การทำดี    เพื่อละชั่ว    อย่ากลัวเกรง
                                              ตัวเราเอง   เป็นที่พึ่ง     พึงกระทำ
                                                              อย่าเพียงแต่  ชื่นชม  ผู้อื่นเขา
                                                              แต่ตัวเรา   ไม่สร้างเสริม  กลับตกต่ำ
                                                              เพราะรู้ธรรม เห็นธรรม   แต่ไม่ทำ
                                                              จึงเกิดกรรม  เป็นได้   เพียงใบลาน
                 "ไม่มีใคร    รู้ซึ้ง   เท่าหนึ่งจิต
                รู้ความคิด   รู้ธรรม  นำประสาน
             ให้เหมาะสม  หน้าที่   และการงาน
              จะทำการ    สิ่งใด    ให้มีธรรม "
                                  ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                                        รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๘.๑๒ น. ณ ศาลาน้อย ริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 13 ส.ค. 2553, 09:51:22
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพครับ    :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน      :054:

ศิษย์ขอน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป     :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 13 ส.ค. 2553, 11:36:41
หน้าที่ของเราก็คือ ดูกาย ดูจิต ดูความคิด และควบคุม จัดระเบียบตัวเราเองให้ดีที่สุด นั่นคือทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ ตามบทบาทและหน้าที่ ที่เรารับผิดชอบอยู่  
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ จะนำไปปฎิบัติในชีวิตประจำวันครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๑๒ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: NONGEAR44 ที่ 13 ส.ค. 2553, 07:30:35
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ที่ใความรู้และแง่คิด สำหรับพี่น้องวัดบางพระทุกคนครับ