กระดานสนทนาวัดบางพระ

เชื่อว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายๆท่าน...คงจะมีวัตถุมงคลที่ติดตัวอยู่เป็นประจำ
บางคนที่มีพระเครื่องหลายองค์...ก็อาจนำมาสลับกันแขวนตามแต่โอกาส
แต่เชื่อว่าทุกๆคนต้องมีวัตถุมงคลอย่างใดอย่างหนึ่งที่ต้องอาราธนาติดตัว
ทุกวัน..ประมาณว่าสร้อยเส้นอื่นสลับแขวนได้..แต่ยังไงก็มีซักองค์ที่ต้อง
ติดตัวอยู่เสมอ..ขาดไม่ได้..อะไรประมาณนั้น
สำหรับผมวัตถุมงคลที่เข้าข่ายคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้น...ซึ่งวัตถุมงคล
ที่ว่านี้ได้มาเปล่า..เรียกอีกอย่างก็คือ ได้มาฟรีๆไม่มีราคาค่างวด..ไม่ต้องเช่าหา
แต่ผมนำมาอาราธนาติดตัวด้วยความมั่นใจอย่างที่สุด..ยิ่งเวลามีปัญหาหรือ
มีเนื่องวิตกกังวล หากได้นำท่านมาคล้องและนึกถึงท่านแล้วปัญหาต่างๆมักจะ
คลี่คลายผ่านพ้นไปได้เสมอมา
ครูบาอาจารย์เจ้าของวัตถุมงคลที่ผมกล่าวถึงนี้..ก็คือ

หลวงปู่ทิม  วัดพระขาว

และ..นี่คือวัตถุมงคลที่ผมกล่าวถึงก็คือ..ลูกอมชานหมาก , ไหมมงคล
และ แผ่นภาพกระดาษยันต์ขนาดเท่าบัตร ATM ที่ท่านแจกให้สมัยไปกราบ
ท่านครั้งแรกนั่นเอง...ลองมาดูภาพกันครับ

เริ่มจากแผ่นภาพหลังยันต์ของท่าน..ที่ท่านแจกผมมากับมือ..จะเห็นได้ว่าแผ่น
ทางขวามือมีสภาพยับยู่ยี่มาก...นั่นมาจากความศรัทธาเพราะผมอาราธนาท่านติดกระเป๋า
เสื้ออยู่เสมอ..ส่วนแผ่นทางซ้ายนั้นผมนำไปเคลือบและเสียบไว้ในหมวกกันน็อค
อารมณ์ประมาณว่าอัญเชิญบารมีท่านคุ้มหัวครับ



ทีนี้มาดูไฮไลต์ของท่าน...เชื่อว่าเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลยอดปราถนาของหลายๆคน
นั่นก็คือชานหมากครับ...สมัยก่อนตอนผมมักจะแขวนพระขุนแผนเคลื่อบรุ่น ปี2545
ของหลวงปู่..ตามค่านิยมว่าอยากมีเสน่ห์..สาวๆหลง..ตามประสาวัยรุ่นทั่วไป..แต่ทุกวันนี้
ผมเชื่อว่าชานหมากของท่านดีที่สุด...เพราะหลวงปู่ออกปากรับประกันเอง..เพื่อนๆว่า
จริงมั้ยครับ


นี่คือไหมมงคลที่หลวงปู่สวมศีรษะให้ผมเองกับมือ...ผมนำมาใส่ตะขอและนำชานหมากที่
หลวงปู่มอบให้มาแขวนคู่กัน...จากนั้นก็นำรูปหล่อจิ๋วของหลวงปู่รุ่นผูกพัทธสีมา ปี45
มาห้อยคู่กัน...เพื่อจะได้เห็นหน้าและระลึกถึงหลวงปู่ด้วยครับ..ตอนนี้ไหมมงคลห้าสี
โดนผมแขวนจนดำปิ๊ดปี๋แล้ว...

ดูกันชัดๆ


จบแล้วครับ....และนี่ก็คือวัตถุมงคลที่ผมรัก และ ผูกพันธ์..เพราะทุกสิ่งที่ได้มาเป็นสิ่งที่
หลวงปู่ท่านตั้งใจทำให้ศิษย์ของท่าน...โดยไม่ได้เรียกร้องค่าบูชาเป็นตัวเงิน...
เหมือนอย่างที่มีใครคนนึงเคยพูดถึงชานหมากของหลวงปู่ว่าเป็นวัตถุมงคลที่มีความบริสุทธิ์
...เพราะเป็นสิ่งที่หลวงปู่มอบให้โดยบริสุทธิ์ใจไม่หวังสิ่งตอบแทน...ผู้รับก็รับโดยความ
รักและศรัทธาในตัวหลวงปู่....ชานหมากลูกเล็กๆของหลวงปู่จึงได้มีความศักสิทธิ์ถึงเพียงนี้
แล้วเพื่อนๆล่ะครับ..มีวัตถุมงคลใดที่รัก..ผูกพันธ์ และ อาราธนาติดตัวเป็นประจำกันบ้าง
ลองเอามาแชร์และเล่าเรื่องราวแบ่งปันกันบ้างคงจะดีครับ
สำหรับวันนี้คงนำเสนอเพียงเท่านี้..ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมครับ

พอดีพ่อผมเพิ่งไปเที่ยวอยุธยามาครับ..แล้วก็ได้แวะวัดพระขาว
บูชาสีผึ้งมาขวดนึงตามแบบในภาพ..เห็นว่าทันหลวงปู่ปลุกเสกด้วย



ที่อยากทราบคือ วิธีใช้สีผึ้งของหลวงปู่ต้องบูชาด้วยคาถาอะไร..และ มีวิธีการบูชายังไงบ้าง

ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบครับผม

เมื่อวันจันทร์นี้พ่อกลับมาจากบางกรวยอีกแล้วคร้าบ...คราวนี้มีของฝากอีกเช่นเคย
เป็นผ้ายันต์เสือของหลวงปู่แย้ม วัดตะเคียนครับ...มาทีเดียว 2 ผืนเลย
แต่ผมไม่ทราบว่าเป็นของรุ่นไหน..ยังไงก็รบกวนขอข้อมูลจากพี่น้องทุกท่านด้วย
นะครับ
เอาล่ะ..เชิญชมกันเลย...ผ้ายันต์ที่ว่าคือ 2 ผืนนี้ครับ



สุดท้ายนี้ขอขอบคุณล่วงหน้าพี่น้องทุกคนที่เข้ามาติชม และ เอื้อเฟื้อข้อมูลครับผม
ไว้คราวหน้าถ้ามีอะไรดีๆจะเอามาโชว์ต่อไปครับ

เมื่อปลายเดือนธันวาคม53..พ่อผมกลับมาจากบ้านที่นนทบุรี..มีของมาฝากเป็น
เสือปืนแตกรุ่น 5 จากวัดตะเคียน..ตัวใหญ่ 1 ตัว ตัวเล็ก 1 ตัว..ให้ผมเลือกเอา
ตัวนึง
ผมเลือกตัวเล้กครับเพราะเห็นว่ากะทัดรัดดีพกง่าย...ส่วนตัวใหญ่เมื่อเลี่ยมกรอบแล้ว
คงจะเทอะทะน่าดู..และอีกอย่างผมมีเสือรุ่น3ตัวใหญ่อยู่ตัวนึงแล้ว..เลยเอาตัวเล็กนี่
ไปเลี่ยมกรอบแล้วเอามาแขวนคู่กับตะกรุดแล้วถ่ายรูปมาให้ชมครับผม

อ้อ..ว่าแต่เสือรุ่นนี้หลวงปู่แย้มท่านยังปลุกเสกให้มั้ยครับ..เพราะเห็นท่านชรามากแล้ว
ในข้อมูลที่ประชาสัมพันธ์ก็เห็นมีแต่บอกว่า เกจิร่วมปลุกเสกหมู่ 9 ท่าน..แต่ใน9องค์
นั้นผมไม่เห็นมีชื่อหลวงปู่เลยครับ

ไปได้แหนบของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง มาองค์นึงโดยบังเอิญอีกแล้วครับ
แต่ไม่ทราบว่าแท้หรือเปล่า...ถ้าแท้ไม่ทราบว่าทันหลวงพ่อปลุกเสกมั้ยครับ
เพราะผมเคยลองSearch ดูในNet รู้สึกว่าจะมีบางรุ่นสร้างหลังหลวงพ่อฤาษี
มรณภาพไปแล้ว...ถ้าเกิดเป็นรุ่นที่สร้างหลังท่านมรณภาพไม่ทราบว่าทางวัด
ให้เกจิท่านใดช่วยปลุกเสกให้
ไม่รู้ถามมากไปรึเปล่า....แต่ผมพยายามหาข้อมูลแล้วแต่ไม่เจอข้อมูลจริง
ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าที่เข้ามาติชม และ ให้ข้อมูลครับ

มาดูแหนบที่ว่ากันเลยดีกว่าครับ




จบแล้วครับ...ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับผม

พอดี..วันที่ 4 กับวันที่ 5 ธันวาคมนี้จะไปอบรมที่หาดแก้ว รีสอร์ท จังหวัดสงขลา
ปกติผมจะห้อยสร้อยพระ 2 เส้น และ เหน็บใส่กระเป๋าเสื้อบ้าง..ที่เอวก็คาด
ตะกรุดไว้บ้าง..แต่ครั้งนี้ต้องออกไปนอนค้างนอกสถานที่..ก็เลยไม่อยากห้อยพระ
, ห้อยตะกรุดไปหลายๆเส้น..เพราะกลัวจะลืม หรือ ทำหายไปซะ

ก็เลยคัดพระที่มีอยู่มารวบรวมใส่สร้อยอีกเส้นนึง..กะว่าไปอบรมครั้งนี้จะสวมสร้อย
เพียงเส้นเดียวให้คล่องตัวสะดวกในการเดินทาง...แต่ให้ได้บารมีความศักสิทธิ์ครบ
ทุกทางทั้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และ พระมหากษัตริย์ พระราชินี

ทำไปทำมาก็เลยได้พระ 7 องค์..ในสร้อยหนึ่งเส้นโดยความคิดส่วนตัวคิดว่า
พุทธคุณน่าจะครบเครื่องแล้วนะ..ซึ่งพระที่เอามาใส่นี้บางองค์ก็เคยเอามาโชว์
ในกระทู้เก่าๆบ้างแล้ว..บางองค์ก็ยังไม่เคยโชว์

ลองมาชม และ ช่วยวิจารณ์กันหน่อยนะครับ
เริ่มจากองค์ที่อยู่ทางซ้ายไล่ไปทางขวาเรื่อยๆครับ
องค์ที่ 1 ที่เห็นเป็นลูกกลมๆเล็กๆนั้น คือ ลูกอมชานหมาก หลวงปู่ทิม วัดพระขาวครับ
องค์ที่ 2 เหรียญพระชัยหลังช้าง หลังภปร. ปี2530 ได้ทั้งบารมีพระพุทธ และ บารมีในหลวง
องค์ที่ 3 รูปหล่อพระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา ปี2532 สร้างสมัยพระครูกาชาด(บุญทอง)
           และ อ.ศรีเงิน วัดดอนศาลาครับ
องค์ที่ 4 เหรียญพระนเรศวร รุ่นสู้ หลังตรา สก. ได้บารมีแห่งพระนเรศวร และ สมเด็จพระราชินี
องค์ที่ 5 พระอู่ทองออกศึก รุ่นจงอางศึก เกจิเก่าๆร่วมเสกหลายท่าน ผมเพิ่งไปเลี่ยมมาเพื่อ
           งานนี้โดยเฉพาะ
องค์ที่ 6 พระผงรูปเหมือนหลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน ปี38
องค์ที่ 7 เหรียญเม็ดแตง หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี2541 ถึงจะเป็นพระใหม่แต่ก็ยังทัน
           พระอาจารย์นองปลุกเสก..พกหลวงปู่ทวดไว้จะไปไหนมาไหนก็อุ่นใจครับ






จบแล้วครับ...เชิญวิจารย์ได้เต็มที่..ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมครับผม

ตามที่ถามไว้ข้างต้นเลยครับ...ไม่ทราบว่าขุนแผนรุ่นนี้มีของปลอมแล้วยัง
พอดีไปเจอที่แผงพระเค้าใส่กรอบสเตนเลสไว้แล้ว...แต่ยังไม่กล้าเช่า
เพราะกลัวโดนของปลอมครับผม

รุ่นเดียวกับองค์เนี้ย..( ยืมภาพจากเว็บอื่นมา..ขอขอบคุณเจ้าของภาพ
ดั้งเดิมมา ณที่นี้ด้วยครับ )


อ้อ..แล้วของจริงที่วัดบางพระสร้างออกมา มีสีอะไรบ้างครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ..พี่น้อง

ทุกวันนี้ก็ยังเน้น Concept แขวนพระดีที่ราคาไม่แพงแถมพึ่งพาพุทธคุณได้เช่นเดิมครับ
เพราะว่าถึงพระจะราคาไม่แพงแต่ได้เกจิที่เป็นเจ้าของพระเครื่องราคาเรือนหมื่นปลุกเสก
ให้..ฉะนั้น...พุทธคุณย่อมไม่แตกต่างกัน..จริงมั้ยครับพี่น้อง
มาดูองค์แรกกันเลยดีกว่า

องค์ที่1 จากซ้ายคือ พระกัสสะโป รุ่นแซยิด 9 รอบ ปี2546 ของหลวงปู่สุภา กันตสีโล
แห่งวัดศีลสุภาราม ภูเก็ตครับ...เมื่อธันวาปีที่แล้วตอนผมไปวัดของท่านก็ยังเห็นพระรุ่นนี้
ให้บูชา อยู่ราคาเพียง องค์ละ 100 บาท..และยังมีวัตถุมงคลของวัดที่ราคายังไม่สูง
อีกหลายแบบ..พี่น้องท่านใดสนใจลองแวะไปดูครับ

องค์ที่2 เป็นสมเด็จรุ่น 2 ของหลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร ตลาดพลู กทม. ครับ..ได้จาก
เพื่อนของพ่อผม...มวลสารศักดิ์สิทธิ์เพียบ..แถมมีพระเกจิดังๆปลุกเสกหลายท่าน อาทิ
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฯ , หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ , หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา..สำหรับ
พระสมเด็จองค์นี้ผมแน่ใจในความศักสิทธิ์เต็มที่ครับเพราะมวลสารดี เจตนาการสร้างดีและ
อาจารย์ผู้ปลุกเสกก็ทรงคุณทุกท่านครับ

ส่วนองค์ที่3 สืบเนื่องจากช่วงนี้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม..จึง
อยากได้พระที่ท่านปลุกเสก..แต่จะเช่าพระของท่านโดยตรงก็ก็ไม่กล้าเพราะกลัวของเก๊
ประกอบกับดูไม่เป็นด้วย..จึงได้เสาะหาเหรียญที่ท่านปลุกเสกให้วัดอื่นแทน..ซึ่งหนึ่งในนั้น
ก็คือเหรียญนี้ครับ.." เก้าสังฆราช-เก้ามหาราช วัดเทพากร "




ถัดมา..เป็นของติดตัวอยู่นานแล้วแต่ไม่เคยเอามาโชว์ครับ
อย่างแรกคือ..เหรียญพระชัยหลังช้างหลัง ภปร. ปี 2530..ซึ่งเป็นเหรียญที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
เอ่ยปากยกย่องว่าศักสิทธิ์มาก...เห็นมีข่าวบางกระแสบอกว่า เหรียญนี้หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ได้
ร่วมปลุกเสกด้วย..อันนี้ผมไม่แน่ใจ..รอท่านผู้รู้จริงให้ข้อมูลอีกทีครับ

ส่วนที่เห็นเป็นเม็ดเล็กๆนั่น คือ เม็ดยาวาสนาจินดามณี ของหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
เช่ามาจากวัดเมื่อ ปี 2549 ครับ


สุดท้าย..เป็นของที่ติดไว้กับพวงกุญแจ...ไม่รู้จะมองเห็นกันมั้ย..เป็นเสือหล่อตัวจิ๋ว(จิ๋วจริงๆ)
ของหลวงพ่อสมชาย วัดปริวาสครับ...เห็นว่าท่านทำขึ้นมาเพื่อแจกเป็นระยะๆ..จึงไม่มีการระบุ
รุ่นชัดเจนครับ


หมดแล้วครับ...ขอเชิญติชมกันได้เต็มที่....ขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่ตีตั๋วเข้าชม..ไว้โอกาส
หน้ามีอะไรใหม่ๆจะนำมาแบ่งปันให้ชมอีกครับผม

วันนี้พอมีเวลาว่างเลยไปเอาพระที่บ้านมาถ่ายรูปให้ดูกันอีกซักชุดครับ

เริ่มด้วยองค์แรกเลย..พระสายนครปฐมแท้ๆ นั่นคือ

พระผงหลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม หลัง กุมารทองซึ่งมีตัวหนังสือเขียนไว้
ว่า "กุมารทองเจริญลาภ "ครับ ..องค์นี้ไม่ทราบประวัติเลยว่าสร้างในปีไหน
ศักสิทธิ์ทางใด..รบกวนท่านผู้รู้แนะนำให้ทีครับ




มาต่อด้วยชุดที่ 2 ครับ..เป็นพิมพ์จันทร์ลอยล้วนๆ
เรียงจากเล็กไปใหญ่..จากซ้ายไปขวา...เริ่มด้วย
องค์ที่ 1 พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์จันทร์ลอย ปี2531 ผสมผงสมเด็จเก่า..และ มี
พิปลุกเสกหมู่โดยเกจิอาจารย์หลายท่านถึงไม่มีพระสมัยสมเด็จโตก็เอารุ่นหลังๆของ
วัดบางขุนพรหมมาแขวนได้..พุทธคุณเท่าเทียมกันครับ
องค์ที่2 พระผงพิมพ์จันทร์ลอย รุ่น 88 ปี หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ครับ ซึ่งองค์นี้
ผมไม่มีข้อมูลเลย ว่าสร้างในปีไหน และ แท้หรือ ไม่แท้ ..หากท่านใดดูเป็นหรือทราบข้อมูล
ช่วยกรุณาชี้แนะด้วยครับ
องค์สุดท้าย...กล้องจับโฟกัสได้ไม่ชัด..เป็นพระพิมพ์จันทร์ลอยของ หลวงพ่อเชิญ แห่ง
วัดโคกทอง จ.อยุธยาครับ...เสียดายไม่มีระบุไว้ในพระว่าสร้างในปีไหน




สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อน...ขอบคุรที่ตีตั๋วเข้าชมเช่นเคย..ไว้มีโอกาสคราวหน้า
หากมีอะไรดีๆจะเอามาแบ่งปันขอรับ

คืออย่างนี้ครับ..เมื่อวานนี้ผมได้พระผงหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่ามมาองค์นึง
ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อแย้ม..ด้านหลังเป็นรูปกุมารทองรู้สึกจะเขียนไว้ว่า
"กุมารทองเจริญลาภ"หรือ " กุมารทองเจริญผล " นี่แหละ..ผมไม่แน่ใจ
เพราะตัวหนังสือไม่ชัด...ดูตามภาพก็แล้วกันครับ..แบบเดียวกันเลย..ผม
ยืมภาพเค้ามาอีกที




จึงอยากขอเรียนถามเพื่อนๆทุกท่านโดยเฉพาะคนที่เป็นสายตรงวัดสามง่ามครับ
ไม่ทราบว่าพระรุ่นนี้สร้างในปีไหน..กุมารทองด้านหลังองค์พระนั้นหลวงพ่อท่านเสก
ให้มีตัวตนสถิตอยู่จริงๆหรือเพียงประทับไว้เป็นสัญลักษณ์เฉยๆ
และ พระรุ่นนี้สร้างด้วยมวลสารแบบเดียวกับที่สร้างกุมารทองมั้ยครับ..
รบกวนแค่นี้ครับผม...ขอบพระคุณล่วงหน้าขอรับ

พอดีเพิ่งได้รับจิ้งจกสะดุ้งปี้ของพระอาจารย์ญามาจากผู้ใหญ่บ้านกุ้งครับผม...แต่ไม่ทราบเลยว่าจิ้งจกสะดุ้งปี้
มีพุทธคุณทางด้านใด..มีวิธีการบูชาอย่างไร..และใช้คาถาใดในการอาราธนาบูชา..ถ้าหากผมจะเลี่ยมพลาสติกแล้วนำมาห้อยเป็นพวงกุญแจจะได้มั้ยครับ

พอดีที่บ้านมีพระงบน้ำอ้อย ข้างหลังมียันต์ "อุ"ลักษณะแบบเดียวกับในภาพอยู่องค์นึงครับ..เป็นเนื้อดิน..แต่ไม่ทราบว่าเป็นของวัดไหนหรือ
หลวงพ่อท่านใดสร้าง
หากเพื่อนๆพี่ๆท่านใดทราบข้อมูลช่วยให้ความกระจ่างหน่อยครับ..ผมหาข้อมูลมานานแล้ว..แต่ไม่เจอซักที

ด้านหน้าครับ


อันนี้ด้านหลังขอรับ



ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ได้พระผงมาองค์นึงครับ..ลักษณะสีขาวตามภาพ....ส่วนด้านหลังเป็นยันต์ ไม่ระบุรุ่นและปีที่สร้าง...และที่ด้านล่างของยันต์นั้นจะมีลายเซ็นต์อยู่ 3 ลายเซ็นต์ ( เสียดายที่เล็กมากจนกล้องจับไม่ติด ) บรรทัดแรกจะมี 2 ลายเซ็นต์ ซึ่งลายเซ็นต์แรกผมอ่านไม่ออก ส่วนลายเซ็นต์ที่2ระบุชัดเจนว่า หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุณโณ และ ในบรรทัดที่2นั้น มี 1 ลายเซ็นต์เขียนว่า พระครูปลัดเล็ก ปุญญ....อะไรซักอย่างนี่แหละครับ..แต่พิมพ์ติดไม่ชัด
สรุปก็คือ..หากเพื่อนๆพี่ๆท่านใดทราบว่าพระองค์นี้เป็นรุ่นอะไร..สร้างในโอกาสใด ปีไหน..ทันหลวงพ่อเปิ่นหรือไม่..รบกวนช่วยบอกทีจะเป็นพระคุณอย่างสูงขอรับ





ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ

อยากทราบประวัติ เหรียญสมเด็จพระวันรัต (สังฆราชป๋า) วัดพระเชตุพน รุ่นรอบโลก ปี15
ทำไมถึงต้องเรียกว่ารุ่นรอบโลก...และไม่ทราบว่าสังฆราชป๋าท่านปลุกเสกเดี่ยว..หรือมีการ
จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ หรือฝากปลุกเสกในพิธีใด และ มีเกจิอาจารย์ท่านใดปลุกเสกบ้างครับ
...พอดีที่บ้านมีอยู่ 2 เหรียญ..แต่ผมหาข้อมูลเหรียญรุ่นนี้ใน Net ไม่ได้เลย

เคยแต่ดูของคนอื่น..วันนี้ขอโชว์พระที่ผมบูชาติดตัวอยู่ทุกวันให้พี่ๆเพื่อนๆชมครับ..โดยพระที่ผมบูชาติดตัวนั้นจะเน้นบูชามาจากวัดทุกองค์ครับ
ลองชมกันครับ..อย่างแรกสร้อยคอ..มี 5 องค์
   1.ขุนแผนเคลือบ หลวงปู่ทิมวัดพระขาว ปี45 บูชามาจากวัดครับ
   2.หลวงปู่ทวดเนื่อว่าน หลังปั๊ม ขอ.๑รับมาจากมือหลวงปู่กลั่น วัดเขาอ้อ
   3.พระหลักร้อยพุทธคุณ หลักล้าน 25 ศตวรรษ พิมพ์เสมา
   4.พระผงหลวงปู่แย้มวัดตะเคียน แจกงานวัดเกิด 81ปี หลวงปู่ให้พ่อผมมาเป็นกำมือเลย
   5.พระเม็ดบัวเนื้อดินเผา เจ้าคุณโพธิ์วัดชัยพฤกษ์มาลา

พี่ๆเพือนๆหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องทำนองว่าผีมาขอส่วนบุญ , เปรตมาขอส่วนบุญอะไรแบบเนี้ยะ...แล้วเมื่อเราทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้เค้าแล้ว(ขอย้ำว่าให้เค้า)แล้วตัวเราเองที่เป็นคนทำบุญกับมือแท้ๆจะได้บุญด้วยมั้ยครับ...และ อีกกรณีนึง คือการที่เราแผ่เมตตาแผ่ส่วนกุศลให้เค้าจะทำให้บุญในตัวเราที่เคยทำมาลดลงหรือไม่เพราะเราไปแผ่ให้เค้าแล้วนี่..เหมือนกับเวลาผมไปเจอหมาแมวโดนรถชนตายข้างถนนผมยังแผ่เมตตาให้มันไปที่ชอบๆทุกครั้งรวมๆแล้วก็เป็นร้อยตัวแล้วนะ...ไม่ได้กวนนะครับ..แต่ไม่รู้จริงๆ..ช่วยกันออกความเห็นหน่อยครับ

สงสัยมานานแล้วครับ เรื่อง การจับพลังพุทธคุณในพระเครื่องว่าทำได้จริงหรือไม่..เห็นพวกเซียนพระชื่อดังบางคนที่ซื้อ-ขายพระราคาเป็นล้านกลับบอกว่าการเล่นพระโดยจับพลังพระเป็นเรื่องเหลวไหล...แต่บางคนบอกว่าจับได้จริงๆ..ซึ่งจากการที่ผมสอบถามคนที่อ้างว่าจับพลังพระได้..บางคนก็บอกว่าเขาไม่ท่องคาถาอะไรเลย..แค่เอาพระไว้ในมือทำใจให้ว่างๆจะรู้สึกถึงพลังของพระโดยจะรู้สึกร้อนๆ,เย็นๆ หรือ ชาเหมือนโดนไฟฟ้าช๊อตก็ว่ากันไปตามพุทธคุณพระแต่ละองค์...แต่หลายคนก็บอกว่าต้องท่องคาถาด้วย..บางคนบอกว่าท่องอิกะวิติ..บางคนบอกนะมะพะทะ....สรุปว่าแต่ละคนให้ข้อมูลไม่เหมือนกันซักคน..แล้วผมจะเชื่อใครดีครับพี่

สงสัยครับ...หากว่าเราเป็นแค่บุคคลธรรมดาไม่ได้เรียนคาถาอาคม แต่อาจพอจะรู้คาถาเพราะเคยผ่านตาผ่านหูมาบ้าง, ไม่เคยสักยันต์ หรือ ลงอาคมใดๆในตัว และ ไม่เคยแขวนวัตถุมงคล หรือ แขวนแล้วอาจมีเหตุให้ต้องถอดออก เช่น อาบน้ำ , ว่ายน้ำ แล้วบังเอิญต้องเผชิญหน้ากับอันตรายในช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรติดตัวเลยซักอย่าง....ในกรณีนี้การใช้เพียงแค่ปากเปล่าท่องคาถาจะช่วยคุ้มครองเราได้หรือไม่....เพราะผมเห็นคนทั่วๆไปหลายคนไม่เคยเรียนคาถาอาคม..ไม่แขวนวัตถุมงคล...แต่ฟังคนเฒ่าคนแก่บอกว่าคาถานั้นคาถานี้ท่องแล้วศักสิทธิ์...ก็ท่องตามกันไป..เกิดความศักสิทธิ์จริงหรือไม่ก็ไม่สามารถวัดได้

ผมเป็นหาดใหญ่...แต่พ่อเป็นคนกรุงเทพ....เมื่อตอนปิดเทอม ปี45 เลยมาเที่ยวบ้านที่กทม.และ
ได้ตามพ่อไปเที่ยววัดบางพระ ตอนนั้นหลวงพ่อเปิ่นท่านมรณภาพแล้ว แต่แม่ชีท่านหนึ่งแนะนำให้
ผมไปลงทองที่หน้าผากกับรักษาการณ์เจ้าอาวาสในตอนนั้น(เข้าใจว่าเป็นอาจารย์ญา ) นับจากปี45
มาถึงวันนี้ก็ 7 ปีแล้ว..เราจะทราบได้ยังไงครับว่าทองที่ลงในครั้งนั้นยังอยู่กับตัวเราและยังมีความ
ศักสิทธิ์เข้มขลังหรือไม่...และเราควรภาวนาคาถาใดกำกับให้ทองที่ลงไว้ยังคงความศักสิทธิ์อยู่เสมอครับ