:059:พระพุทธพจน์เตือนใจ
"ยะถาปิ รุจิรัง ปุปผัง วัณณะวันตัง อะคันธะกัง
เอวัง สุภาสิตา วาจา อะผะลา โหติ อะกุพพะโต"
.๐.ดอกไม้งาม สีสวย แต่ไม่มีกลิ่นหอม ฉันใด
คำพูดดี ก็ย่อมไม่เกิดผล แก่บุคคลผู้ไม่ปฏิบัติตาม ฉันนั้น.๐.
(ขุ.ธ. ๒๕/๙๑)
.....................................................................
"ปัญญัง นัปปะมัชเมยยะ สัจจะมะนุรักเขยยะ
จาคะมะนุพรูเหยยะ สันติเมวะ โสสิกเขยยะ"
.๐.ไม่พึงประมาทปัญญา พึงตามรักษาสัจจะ
พึงเพิ่มพูนจาคะ พึงศึกษาสันติเท่านั้น.๐.
(พุทธ .ธาตุวิภังคสูตร ๑๔/๓๗๑)
..........................................................
"อะตีตัง นานุโสจันติ นัปปะชัปปันติ นาคะตัง
ปัจจุปปันเนนะ ยาเปนติ เตนะ วัณโณ ปะสีทะติ"
.๐.ผู้ถึงธรรม ย่อมไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว
อีกทั้งยังฝันเพ้อถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง
ดำรงค์อยู่ด้วยปัจจุบันธรรม ผิวพรรณจึงผ่องใส.๐.
(พุทธ.อรัญญสูตร ๑๕/๖)
...........................................................
"อักโกจฉิ มัง อะวะธิ มัง อะชินิ มัง อะหาสิ เม
เย จะ ตัง อุปะนัยหันติ เวรัง เตสูปะสัมมะติ"
.๐.ผู้ใด ผูกใจเจ็บว่า คนโน้นได้ด่าเรา
คนโน้นได้ตีเรา คนโน้นได้ชนะเรา
คนโน้นได้ลักของๆเรา ดังนี้ เวรก็ไม่มีทางระงับ.๐.
(พุทธ.อุปักกิเลสสูตร ๑๔/๒๕๖)
..............................................................
"ปะภัสสะระมิทัง ภิกขะเว จิตตัง ตัญจะโข
อาคันตุเกหิ อุปักกิเลเหิ อุปักกิลิฏฐัง"
.๐.ธรรมชาติของจิตย่อมบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่จิตต้องเศร้าหมองด้วยอุปกิเลสที่จรมา.๐.
(พุทธ.เอกนิบาต ๒๐/๙)
...................................................
รวมรวมมาจาก...พระไตรปิฎก ฉบับสุภาษิต...
จดบันทึกไว้เพื่อเป็นพุทธพจน์เตือนใจ...
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม