ผู้เขียน หัวข้อ: ว่าด้วยเรื่องของเตโชกสิน  (อ่าน 2488 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ gottkung

  • จะหมึกหรือน้ำมันไม่สำคัญ จงตั้งมั่นให้อยู่ในความดี
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 4088
  • เพศ: ชาย
  • "จะลูกใครนั้นไม่สำคัญ เป็นศิษย์ฉันเท่ากันทุกคนไป "
    • ดูรายละเอียด
    • www.gottkung.multiply.com
ว่าด้วยเรื่องของเตโชกสิน
« เมื่อ: 03 ต.ค. 2552, 12:23:37 »


โบราณจารย์ ส่วนอารมณ์ของฌาณ จะเป็นไปในขั้นตอนของ อานาปานสติ ตามที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้น ให้มีความรู้ใกล้เคียงกับการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ดังนี้
@ เมื่อหายใจ เข้า ให้กำหนดคำภาวนาในกองกสิณ นั้นๆ เช่น....... “เตโช“
@ เมื่อหายใจ ออก ให้กำหนดคำภาวนาในกองกสิณ นั้นๆ เช่น...... “กสิณัง“
....... การกำหนดภาพนิมิตของกสิณเบื้องต้น
............โบราณจารย์ ให้ดู เปลวไฟ ที่จุดไฟจากตะเกียง หรือเทียนไข ท่านหมายเอาส่วนกลางของเปลวไฟนั้น.... หากเป็นกองไฟควรที่จะคัดกระดาษให้เป็นช่องกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ ๓ นิ้ว วางไว้ระหว่าง ตากับ องค์กสิณไฟนั้น เป็นการกำหนดรูปทรงที่เหมาะกับ เพื่อง่ายกับความจำหรือสีที่มีความคล้ายคลึงกัน ตามแต่สถานกาล ที่ธุดงค์ไป เช่นดวงพระอาทิตย์ยามเช้า และพลบค่ำ ที่มีสีแดงเพลิง หรือดอกไม้ ใบไม้ หิน ที่มีสีแดงก็อนุโลมใช้แทนกันได้
............ให้ลืมตามองแล้วกำหนดจำภาพ กสิณไฟนั้น เมื่อมีความมั่นใจได้ก็ให้หลับตา กำหนดภาพให้ติดตาติดใจนั้นต่อไป ในระยะแรกๆภาพจะไม่ทรงตัว ภาพกสิณในใจนั้นหายไปให้ท่านลืมตามองในองค์กสิณนั้นใหม่ อีกครั้ง
............ปฏิภาคนิมิต ( หมายถึง กลับกัน ไป/มา ) ในระยะแรกๆนิมิตของกสิณไฟจะกลับกันไป/มา คือปรากฏแล้วหายไป แล้วปรากฏขึ้นมาใหม่
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ขณิกสมาธิ
............อุคคหนิมิต (หมายถึง ขั้นอุกฤต หรือมั่นคงแน่นอนนั้นเอง ) นิมิตของกสิณไฟจะมั่นคง
ระหว่างทรงอารมณ์
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ อุปจารสมาธิ
............ภาพกสิณของกสิณไฟในนิมิต จะเปลี่ยนแปลงไปตามลำดับของฌาณไป
๑.เมื่อกำลังในทรงตัวในฌาณที่๑ ภาพกสิณไฟ ทรงตัวดีแล้วภาพสินนั้นจะเปลี่ยนไป
............ฌาณที่ ๑ หยาบ ภาพกสิณไฟจากอาการเลื่อนไหว จนเห็นเป็น ไฟหนาทึบเป็นลูกกลมขนาดที่ เจาะรู
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๑ หยาบ
............ฌาณที่ ๑ กลาง ภาพกสิณไฟ จะเป็น จนเห็นเป็น ลูกกลมขนาดที่ เจาะรูสีขาวผิวนอกเงาวาวเริ่มโปร่งใสบ้าง
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๑ กลาง
............ฌาณที่ ๑ ละเอียด ภาพกสิณไฟ จะเป็น จนเห็นเป็น ลูกกลมขนาดที่ เจาะรู โปร่งใสคล้ายแก้วทึบ
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๑ ละเอียด
๒.เมื่อกำลังในทรงตัวในฌาณที่๒ภาพกสิณไฟ ทรงตัวดีแล้วภาพกสิณนั้นจะเปลี่ยนไป
............ฌาณที่ ๒ หยาบ ภาพกสิณไฟ จะเป็น แก้วทึบ เทียบกับการมองด้วยสายตาสามารถมองผ่านมีความใส ๒ ส่วนใน ๔ ส่วนผิวนอกเงาวาวเล็กน้อย
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๒ หยาบ
............ฌาณที่ ๒ กลาง ภาพกสิณไฟ จะเป็น แก้วทึบเทียบกับการมองด้วยสายตาสามารถมองผ่านมีความใส ๒ ส่วนใน ๔ ส่วนผิวนอกเงาวาวมากขึ้น
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๒ กลาง
............ฌาณที่ ๒ ละเอียด ภาพกสิณไฟ จะเป็น แก้วทึบเทียบกับการมองด้วยสายตาสามารถมองผ่านมีความใส ๒ ส่วนใน ๔ ส่วน ผิวนอกเงาวาวมากสุด
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๒ ละเอียด
๓.เมื่อกำลังในทรงตัวใน ฌาณที่ ๓ ภาพกสิณไฟ ทรงตัวดีแล้ว ภาพสินนั้นจะเปลี่ยนไป
............ฌาณที่ ๓ หยาบ ภาพกสิณไฟ จะเป็น แก้วโปร่งใสมาก เทียบกับการมองด้วยสายตาสามารถมองผ่านมีความใส ๓ ส่วนใน ๔ ส่วน ภายในองค์กสิณไฟ ก็จะมีความเป็นประกายพรึกเล็กน้อย หรือ ๑ ส่วนใน ๓ ส่วน ผิวนอกเงาวาวเล็กน้อย
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๓ หยาบ
............ฌาณที่ ๓ กลาง ภาพกสิณไฟ จะเป็นแก้วโปร่งใสมาก เทียบกับการมองด้วยสายตาสามารถมองผ่านมีความใส ๓ ส่วนใน ๔ ส่วน ภายในองค์กสิณไฟ ก็จะมีความเป็นประกายพรึกปานกลางหรือ ๒ ส่วนใน ๓ ส่วน ผิวนอกเงาวาวมากขึ้น
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๓ กลาง
............ฌาณที่ ๓ ละเอียด ภาพกสิณไฟ จะเป็นแก้วโปร่งใสมาก เทียบกับการมองด้วยสายตาสามารถมองผ่านมีความใส ๓ ส่วนใน ๔ ส่วน ภายในองค์กสิณไฟ ก็จะมีความเป็นประกายพรึกมากสุด หรือ ๓ ส่วนใน ๓ ส่วน ผิวนอกเงาวาวมากสุด
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๓ ละเอียด

๔.เมื่อกำลังในทรงตัวใน ฌาณที่ ๔ ภาพกสิณไฟทรงตัวดีแล้ว ภาพสินนั้นจะเปลี่ยนไป
............ฌาณที่ ๔ หยาบ ภาพกสิณไฟ จะเป็น แก้วโปร่งใสมาก เทียบกับการมองด้วยสายตาสามารถมองผ่านมีความใส ๔ ส่วนใน ๔ ส่วน ภายในองค์กสิณไฟ ก็จะมีความเป็นประกายพรึกทั้งองค์กสิณ มีการส่องสว่างจากจาภายในออกมาภายนอก ๑ ใน ๓ ส่วน ผิวนอกเงาวาวเล็กน้อย
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๔หยาบ
............ฌาณที่ ๔ กลาง ภาพกสิณไฟ จะเป็นแก้วโปร่งใสมาก เทียบกับการมองด้วยสายตาสามารถมองผ่านมีความใส ๔ ส่วนใน ๔ ส่วน ภายในองค์กสิณไฟ ก็จะมีความเป็นประกายพรึกทั้งองค์กสิณ มีการส่องสว่างจากจาภายในออกมาภายนอก ๒ ใน ๓ ส่วน ผิวนอกเงาวาวมากขึ้น
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๔ กลาง
............ฌาณที่ ๔ ละเอียด ภาพกสิณไฟ จะเป็นแก้วโปร่งใสมาก เทียบกับการมองด้วยสายตาสามารถมองผ่านมีความใส ๔ ส่วนใน ๔ ส่วนภายในองค์กสิณไฟ ก็จะมีความเป็นประกายพรึกทั้งองค์กสิณ มีการส่องสว่างจากจาภายในออกมาภายนอก ๓ ใน ๓ ส่วนผิวนอกเงาวาวมาก
............ประดุจโหลแก้วผิวบางทรงกลม ใส่เพชรเจียรนัยแล้วเม็ดเล็ก เท่าเม็ดทราย ที่สามารถเรืองแสงสว่างใสได้ ใส่ไว้จนเต็มองค์กสิณนั้นเอง
- อารมณ์ฌานในอานาปานสติ มักอยู่ที่ ฌาณที่ ๔ ละเอียด
............เมื่อท่านสามารถที่จะทรงอารมณ์ฌาณในอานาปานสติ + กสิณ ...จนมมีความคล่องตัวตามลำดับฌาณ ลำดับกสิณแล้ว ควรที่จะเข้าสลับฌาณ สลับกสิณ จนคล่องตัว
............จากนั้นก็นำผลของฌาณในอนาปานสติ+กสิน มาเป็นกำลังในวิปัสสนาญาณ จนเกิดปัญญาว่า กสิณถึงจะเป็นสิ่งดีในฝ่ายกุศล แต่ก็หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ มีความเกิดในเบื้องต้น เปลี่ยนแปรงในทามกลาง ในที่สุดก็เสื่อมสลายไป เป็นธรรมดา
............กายสังขารของเราก็เช่นกันหาความเที่ยงแท้แน่นอนมิได้ ดังความเปลี่ยนแปรงของกสิน ก็ความทุกข์ทั้งหลายที่เป็นส่วนหนึ่งให้เราต้องเกิดทุกข์ได้แก่
๑) รูปราคา....เห็นรูป แล้วตั้งอุปทานว่า รูปนั้นเป็นของเรา มีในเรา จึงเป็นทุกข์
๒) อรูปราคา...ไม่มีของจริงให้เห็นรูป แต่ยึดติดในการปรุงแต่งว่าเป็นรูปในใจ หรือนิมิต แล้วตั้งอุปทานว่า อรูปนั้นเป็นของเรา มีในเรา จึงเป็นทุกข์
............ดังนี้หารเรายังคงยึดติดทั้ง รูป ทั้งอรูป ย่อมก่อให้เกิดภพชาติ ด้วยหวังต้องการใน ความเป็น รูป และ อรูปว่าเป็นของเรา
............เราย่อมเวียนตายเวียนเกินในภพภูมิทั้งสี่ ได้แก่ อบายภูมิ มนุษยโลก เทวะโลก พรหมโลก อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะขอเพียงเพื่อ อยู่เพื่อ อาศัยทั้งรูปทั้งอรูป ชั่วคราว เมื่อหมดหน้าที่ของการเป็นมนุษย์ในชาตินี้ เมื่อใดขอไป “ พระนิพพาน “ เมื่อนั้น 
“””””””””””””””””””””””””””””””””””
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก เวปไซต์แพนทาวน์ดอทคอมนะครับ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจได้ไม่มากก็น้อยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 ต.ค. 2552, 12:28:58 โดย gottkung »
เราเป็นศิษย์คิดมีครูดูก่อนเถิด อย่าละเมิดคำครูที่พร่ำสอน
ปุถุชนคนธรรมดาพึงสังวรณ์ ครูท่านสอนมอบสิ่งดีแก่เราๆ

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ว่าด้วยเรื่องของเตโชกสิน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 03 ต.ค. 2552, 03:41:10 »
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะครับ ถ้าจะศึกษาจริงๆ ควรมีครูอาจารย์หรือผู้ที่จำนาญในการเพ่งกสินอยู่ด้วย ...  :114:

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
ตอบ: ว่าด้วยเรื่องของเตโชกสิน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 03 ต.ค. 2552, 09:28:31 »
อ่านและศึกษาประดับความรู้ได้ แต่ถ้าจะปฏิบัติจริงนั้นต้องมีครูบาอาจารย์ช่วยคุมการปฏิบัติ
เพราะเป็นการฝึกจิตเชิงพลังาน มีโอกาศที่จะหลงอารมณ์ได้ง่าย เพราะอาศัยรูปนิมิตเป็นอารมณ์
เป็นรูปฌาน...และเป็นการฝึกเรื่องธาตุ...ฉะนั้นต้องรู้จักการปรับธาตุ ปรุงธาตุ แต่งธาตุให้ได้ก่อน
จึงจะฝึกกสินในหมวดธาตุได้ หรือต้องเป็นผู้ที่มีของเก่าจากอดีตชาติที่เคยได้มาแล้ว จึงจะทำได้
ด้วยตนเอง...เพราะมีเป็นจำนวนมากที่ฝึกกสินด้วยตนเองแล้วหลงอารมณ์เพี้ยนไป...ในตำรากับของจริงนั้น มันแตกต่างกัน มันมีข้อปลีกย่อยอีกมากมาย...จึงขอเตือนไว้ด้วยความปรารถนาดี...
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ว่าด้วยเรื่องของเตโชกสิน
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 03 ต.ค. 2552, 10:17:15 »
อ่านและศึกษาประดับความรู้ได้ แต่ถ้าจะปฏิบัติจริงนั้นต้องมีครูบาอาจารย์ช่วยคุมการปฏิบัติ
เพราะเป็นการฝึกจิตเชิงพลังาน มีโอกาศที่จะหลงอารมณ์ได้ง่าย เพราะอาศัยรูปนิมิตเป็นอารมณ์
เป็นรูปฌาน...และเป็นการฝึกเรื่องธาตุ...ฉะนั้นต้องรู้จักการปรับธาตุ ปรุงธาตุ แต่งธาตุให้ได้ก่อน
จึงจะฝึกกสินในหมวดธาตุได้ หรือต้องเป็นผู้ที่มีของเก่าจากอดีตชาติที่เคยได้มาแล้ว จึงจะทำได้
ด้วยตนเอง...เพราะมีเป็นจำนวนมากที่ฝึกกสินด้วยตนเองแล้วหลงอารมณ์เพี้ยนไป...ในตำรากับของจริงนั้น มันแตกต่างกัน มันมีข้อปลีกย่อยอีกมากมาย...จึงขอเตือนไว้ด้วยความปรารถนาดี...

กราบมนัสการและขอบพระคุณพระอาจารย์มากครับ...

ขอบคุณเพื่อนก๊อตด้วยครับสำหรับข้อมูล

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: ว่าด้วยเรื่องของเตโชกสิน
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 03 ต.ค. 2552, 10:29:24 »
ขอบคุณก๊อตสำหรับข้อมูลดีๆน่ะครับ
กราบนมัสการขอบพระคุณพระอาจารย์ครับ

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ว่าด้วยเรื่องของเตโชกสิน
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 03 ต.ค. 2552, 02:58:49 »
กราบนมัสการขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาตักเตือนครับ....

...จากที่ได้เคยศึกษา มีคนเสียสติมาเยอะแล้วจริงๆครับ...


...เรียนกสิณต้องมีครูบาอาจารย์ควบคุมครับ...

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ PeAwPeed

  • I'm not MosT girls I'm Smile. I'm an angel in disguise. I'm angry. I'm a devil inside.
  • ผู้ดูแล
  • *****
  • กระทู้: 1574
  • เพศ: หญิง
  • Stay happy all...=^.*=
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ว่าด้วยเรื่องของเตโชกสิน
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 04 ต.ค. 2552, 02:32:24 »
กราบนมัสการขอบพระคุณพระอาจารย์ค่ะ :054:

ขอบคุณ ท่านก๊อต ที่นำมาให้อ่านด้วยนะคะ  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ต.ค. 2552, 02:34:23 โดย เปรี้ยวปี้ด »
What can I say it all started with a simple hello
Now look at us we’ve come a long way from just a simple

ออฟไลน์ Jesus

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 109
  • เพศ: ชาย
  • ผมเป็นคนเดินช้าเเต่ผมไม่เคยเดินถอยหลัง
    • MSN Messenger - judas_66@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: ว่าด้วยเรื่องของเตโชกสิน
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 04 ต.ค. 2552, 01:24:08 »
ขอบคุณมากครับ
I AM GRAPHIC DESIGNER