ผู้เขียน หัวข้อ: พระครูเกษมธรรมนันท์ (แช่ม ฐานุสฺสโก)ตำบลดอนยายหอม  (อ่าน 4050 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลูกผู้ชายตัวจริง

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 741
  • เพศ: ชาย
  • กูจะกลับมากู้แผ่นดิน ให้พ้นภัยศัตรู
    • MSN Messenger - namo159@HOTMAIL.COM
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
พระครูเกษมธรรมนันท์ (แช่ม ฐานุสฺสโก)
วัดดอนยายหอม
ตำบลดอนยายหอม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

ชื่อเดิม :
  แช่ม อินทนชิตจุ้ย
 
ชาตะ
 วันพุธที่ ๖ มีนาคม ๒๔๔๙ ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเมีย ที่บ้านหมู่ที่ ๑ ตำบลดอนยายหอม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรคนที่ ๓ ของนายเนียม และนางอ่ำ อินทนชิตจุ้ย
 
อุปสมบท :
 ที่อุโบสถวัดดอนยายหอม ในวันศุกร์ที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ โดยมีพระครูอุตตรการบดี (สุข) วัดห้วยจรเข้ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูทักษิณานุกิจ (เงิน) วัดดอนยายหอม เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระครูวินัยธร (ใย) วัดบางช้างใต้ เป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า "ฐานุสฺสโก"
 
การศึกษา :
 ในด้านพระปริยัติธรรม หลวงพ่อแช่ม สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ จากนั้นได้หันมาศึกษาด้านการปฎิบัติ โดยได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน และพระเวทวิทยาคมต่างๆจากหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม และพระครูอุตตรการบดี (สุข) วัดห้วยจรเข้
 
สมณศักดิ์ :   
 - ปี พ.ศ. ๒๕๐๖   เป็นพระครูฐานานุกรมของพระราชธรรมาภรณ์ (เงิน) ในตำแหน่งพระครูปลัดแช่ม
 
 
 - ปี พ.ศ. ๒๕๑๒   เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนา ที่ พระครูเกษมธรรมานันท์
 
 
 - ปี พ.ศ. ๒๕๑๖   เป็นพระอุปัชฌาย์
 
 
 - ปี พ.ศ. ๒๕๒๐   เป็นเจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม
 
 
 - ปี พ.ศ. ๒๕๒๔   ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอก วิปัสสนา พัดพุฒตาลขาว ในราชทินนามเดิม
 
ผลงานด้านการพัฒนา :
 สมัยที่หลวงพ่อเงินยังมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อแช่มเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง สำคัญของหลวงพ่อเงินในการพัฒนาสร้างสรรค์สาธารณประโยชน์ต่างๆ มากมาย เมื่อหลวงพ่อเงินมรณภาพไปในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ หลวงพ่อแช่ม ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงพ่อเงินต่อไป
 
 
 ๑. การบูรณปฎิสังขรณ์เสนาสนะ กุฎิสงฆ์ และถาวรวัตถุต่างๆในวัดดอนยายหอม
 
 
 ๒. เป็นประธานอุปถัมภ์ในการสร้างวัดตะแบกโพรงสามัคคีธรรมที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
 
 
 ๓. สร้างโรงเรียนหลวงพ่อแช่มอุปถัมภ์ (ฉิมเกตุ อ่อนอุทิศ) ที่ตำบลคลองจินดา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
 
 
 ๔. สร้างตึกคนไข้ ๔ ชั้น ที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
 
 
 ๕. จัดหาทุนสร้างหอประชุมอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
 
ชื่อเสียงกิตติคุณ :
 เชื่อกันว่าหลวงพ่อแช่มสำเร็จเตโชกสิณตั้งแต่พรรษายังน้อย บางคนเชื่อว่าท่านสำเร็จฌานอภิญญามีพลังจิตเข้มขลัง ปรากฏการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก็คือ สามารถอธิษฐานจิตปลุกเสกจนน้ำมนต์เทไม่ออก วัตถุมงคลต่างๆที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก มีพุทธคุณครบเครื่องทุกๆด้าน แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือ เมตตามหานิยม ปัจจุบันวัตถุมงคลชุดสำคัญๆของท่านเริ่มเป็นที่นิยมและสะสมกันมากขึ้น นอกจากพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆแล้ว น้ำพระพุทธมนต์ แป้งเจิม มงคลสวมคอ การผูกหุ่นพยนต์ และสาริกาลิ้นทอง เป็นวิชาเฉพาะตัวที่หลวงพ่อทำได้ขลังยิ่งนัก
 
มรณภาพ :
 วันพฤหัสบดีที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ รวมสิริมายุได้ ๘๗ ปี พรรษา ๖๗
 

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
เจอบทความปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อเลยนำมาให้อ่านกันครับ

อริยเมตตาแห่งดอนยายหอม หลวงพ่อแช่ม ฐานุสสฺโก



โดย....อำพล  เจน
 
         นักเลง 2 ชีวิต ละแวกภาษีเจริญ
       นักเลงเบิ้ม และนักเลงไก่
         
         ชื่อเบิ้มและไก่บนถนนสายที่ปูด้วยมีดและปืน ให้ถามไถ่คนแถวนั้นเป็นที่
รู้จักหมด
         คนทั้งสองโลดแล่นอยู่บนถนนดุ โดยมีทั้งความรุ่งเรืองและตกต่ำ คงไม่
ต้องบอกว่าเขาทั้งสองคนเป็นนักเลงประเภทไหน คุมบ่อน คุมซอย หรือเป็นมือปืนอาชีพรึเปล่าดีกว่า แต่ว่าวันตกอับแห่งชีวิตนักเลงก็มีมาถึง วันเข้าตาจน สุดตรอก ไม่มีที่จะถอย ห้วงทุกข์สุดขีดที่คนทั้งสองร่วงดิ่งลงสุดกู่ ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าคืออะไร มันเป็นทุกข์อันยิ่งใหญ่ที่นักเลงทุกคนล้วนเคยประสบ
       
       ทุกข์อันนั้นแหละที่ทำให้นักเลงเบิ้มและนักเลงไก่นึกถึงพระ นึกถึงวัด นึกถึงบุญกุศลที่ตนเองไม่มีหรือมีน้อย
 
       ทว่าการนึกถึงพระนั้นก็เป็นการนึกที่ไม่ออก นึกไม่เห็นว่าพระมีอยู่ที่ไหน
พระรูปใดจะแก้ทุกข์ให้ได้ ที่นึกออกคือนึกเห็นแต่ ?อาจารย์เบิ้ม? เพื่อนสนิท คนชื่อเดียวกัน แต่ไม่มีอะไรเหมือนกัน
 
      อาจารย์เบิ้มเคร่งธรรม นักเลงเบิ้ม และไก่เคร่งปืน
       
      สวนทางกันอย่างนี้
 
       อาจารย์เบิ้มรับทุกข์ที่คนทั้งสองระบายใส่เสียเต็มปรี่และสนองปรารถนาคน
ทั้งสองโดยยินดีในฐานเพื่อน คิดถึงพระที่จะช่วยคลี่คลายทุกข์ให้สหายผู้อมทุกข์ ถ้าหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ยังไม่สิ้น ก็แค่เดินข้ามคลองไป แต่ท่านผู้เป็นอาจารย์ก็สิ้นไปแล้ว
 
       ?ไปดอนยายหอม? อาจารย์เบิ้มบอก ?วัดดอนยายหอมมีหลวงพ่อแช่มอยู่ทั้งคน?

 

       วัดดอนยายหอม ประมาณปี 2531 หลวงพ่อแช่ม หรือพระครูเกษมธรรมนันท์ มีอายุได้ 82 ปี แข็งแรง บึกบึน หน้าแดง ล่ำใหญ่กว่าทุกวันนี้ ซึ่งมีอาพาธ เหน็ดเหนื่อย และผอมลงอย่างเป็นตรงกันข้าม
      ท่านนั่งบนตั่งหน้าห้องพักในกุฏิใหญ่ เป็นที่เดิมที่ท่านนั่งรับคนผู้มีศรัทธา
มากราบโดยไม่เคยเปลี่ยน ท่านมองดูนักเลงเบิ้มและไก่ที่คลานเข้ามากราบแล้วร้องอวยพรแปลกประหลาดว่า

       ?ยมฑูตทั้ง 4 รักษา?
 
       แปลกไปจากที่เคยอวยพรใครต่อใครว่า พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา

        อวยพรพิสดารแล้วก็หันไปร้องสั่งลูกศิษย์ให้เอาตะกรุดโทนมาเร็ว ๆ เอามา
คาดใส่เอวให้คนทั้งสองด้วยมือท่านเอง

       ?อย่าถอดนะ?  ท่านสำทับลงไปอีก
 
       รดน้ำมนต์ให้อีกหนึ่งชุด รดแล้วก็สั่งนักเลงเบิ้มและนักเลงไก่ให้ไปเอารูป
หล่อบูชาของหลวงพ่อเงินคนละองค์ คนทั้งสองนอกจากจะเอารูปหล่อบูชาหลวงพ่อเงินแล้ว ยังพ่วงรูปหล่อบูชาของหลวงพ่อแช่มมาด้วยอีกคนละองค์ และนำมาวางตรงหน้าท่าน เพื่อท่านจะได้เจิมแป้งอธิษฐานจิตเป็นพิเศษอีกครั้ง ท่านเห็นแล้วก็กล่าวว่า
       
       ?นี่รูปหลวงพ่อเงิน อาจารย์ฉัน ท่านเสียอายุ 87 นี่รูปฉัน หลวงพ่อแช่ม อายุ 82  เอาไปไว้ที่บ้าน อย่าวางสูงกว่าพระพุทธรูปนะ?
 
       งวดนั้นหวยออกทั้งบ่นและล่าง 87 และ 82 นักเลงเบิ้มถูกทั้งบนล่าง เต็งโต๊ดเบ็ดเสร็จเป็นเงิน 2 แสนกว่าบาท นักเลงไก่ถูกเท่าไหร่ไม่ทราบชัด คนทั้งสองย้อนกลับไปดอนยายหอมอีกครั้งหนึ่ง ถวายเงินหลวงพ่อแช่ม 2 หมื่นบาท
       
       หลังจากกลับออกจากวัดครั้งนั้น คนทั้งสองไม่มีวันกลับไปอีกเลย
       นักเลงเบิ้มป่วยตาย
       นักเลงไก่เป็นอัมพาต
 
       อาจารย์เบิ้มบอกกับผมว่า ?ชะตาคนทั้งสองล่อแหลมต่อการตายโหง หลวงพ่อท่านช่วยได้แค่นี้ นั่นเพราะยมฑูตทั้ง 4 รักษา เป็นคำอวยพรบอกใบ้ให้ทราบถึงวาระแห่งกรรมของเขาทั้งสองคน
 
      4 ปีต่อมา
      ผม คุณกมล เอกุมโนชัย และคุณสุวิทย์ เกิดพงษ์บุญโชติ เดินทางไปกราบ
หลวงพ่อแช่มด้วยกันในวันที่ 10 กรกฎาคม 2535 เพื่อจุดประสงค์ 2 อย่างคือ เพื่อขออนุญาตสร้าง ?เหรียญหยดน้ำมนต์มงคล? ของหลวงพ่อแช่ม สำหรับแจกแก่ผู้อ่านหนังสือศักดิ์สิทธิ์ และเพื่อถวายพระเครื่องจำนวน 300 กว่าองค์ ที่ผมรับธุระจากเพื่อนผู้มีจิตศรัทธาสร้างถวายนำไปถวายแทน
 
      ระหว่างเดินทาง คุณสุวิทย์ แสดงความประหลาดใจแก่ผมคำหนึ่งว่า
     ?คุณอำพลอยู่ไกลถึงอุบลฯ แต่คุณมากราบพระถึงนครปฐม?

       ผมอยากบอกว่า หลวงพ่อแช่ม คือพระในดวงใจอีกรูปหนึ่งของผม ใครไป
กราบท่านแล้วจะรักและเคารพท่านทุกคน ผมเชื่อเช่นนั้นและเห็นท่านเป็น ?อริยเมตตา? อย่างแท้จริงอีกรูปหนึ่ง ที่ยากจะพบเห็นได้ง่ายในทศวรรษนี้
 
      ท่านเป็นพระเถระที่เข้าพบง่ายที่สุด ไม่มีทศกัณฐ์หรือปีเตอร์กันเป็นบริวาร ไม่มีความพิเศษให้กับใคร ทุกคนเสมอกันหมด ไม่มีชั้นวรรณะเมื่ออยู่ต่อหน้าท่าน ไม่มีนายพล เศรษฐี หรือคนเข็ญใจอยู่ตรงหน้าท่าน
      ตรงนั้นคือสถานที่เดียวที่ผมเห็นความเสมอภาคของมนุษยชน
 
      ใครไม่เชื่อ ให้ไปพิสูจน์ความจริง
 
      ทำไมผมรักและเคารพหลวงพ่อแช่ม ผมไม่สามารถจะตอบให้ถึงใจได้
 
      ความเงียบงันอ้ำอึ้งจึงเป็นคำตอบสำหรับคำถามเชิงปรารภของคุณสุวิทย์
     
      ระหว่างเดินทางไปวัดดอนยายหอม ผมเล่าเรื่องนักเลงเบิ้มและนักเลงไก่ให้
คุณกมลและคุณสุวิทย์ฟังด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหลาย ๆ เรื่องที่ได้เล่าไป ไม่ได้หวังว่าจะเล่าเพื่ออะไร เป็นไปเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น
 
      เราได้กราบหลวงพ่อแช่มง่าย ๆ ไม่มีพิธีการเยิ่นเย้อ เพียงถอดรองเท้าไว้
หน้าประตูกุฏิก็ถึงตัวท่านทันที และไม่มีสิทธิพิเศษ หรือเป็นอะไรที่ดูพิเศษกว่าใครเมื่ออยู่ต่อหน้าท่าน
        เราก้าวเข้าไปสู่แดนแห่งความเสมอภาค
       ?โชคดี โชคดี?
 
      อวยพรก่อนแล้วสะบัดแส้น้ำมนต์ใส่ศีรษะพวกเรา คำทุกคำของท่านล้วนแต่
เป็นไปในทางเมตตา ปรารถนาจะให้ทุกคนอยู่เย็นเป็นสุขเสมอกัน คำร้ายน้อยหนึ่งจากปากท่านไม่เคยมีใครได้ยิน

       เราได้เสพพลังเมตตาที่แผ่ให้จนอิ่มใจพอแล้ว จึงได้ทำจุดประสงค์ที่ตั้งใจให้บรรลุและบรรลุโดยง่ายทุกประการ

        หนังสือศักดิ์สิทธิ์จะมี ?เหรียญหยดน้ำมนต์มงคล? ของหลวงพ่อแช่มแจก
เป็นที่ระลึกในไม่ช้านี้
 
       ขณะนั้นมีสตรีวัยประมาณ 50 ปี เข้ามากราบท่านด้วยสีหน้าอมทุกข์ และ
กราบเรียนท่านว่าถูกโกงเงินไป 8-9 แสนบาท และขอให้ท่านช่วยบันดาลให้ผู้คดโกงนำเงินมาคืน
       หลวงพ่อก็เฉยอยู่
 
       เธออ้อนวอนร้องขอความกรุณาให้ท่านช่วย เงินนับล้านเป็นทุกข์อันยิ่งใหญ่
ของเธอ แต่ไม่มีใครเข้าใจได้ดีกว่าตัวหลวงพ่อเองว่าทำไมท่านจึงเฉยอยู่ นั่นอาจหมาย ความว่าท่านช่วยไม่ได้ หรือไม่มีหวังจะได้เงินคืนท่านจึงเฉยก็ไม่รู้
       
      ที่สุดท่านปรารภว่า
      ?เรามันโง่เอง อย่าว่าแต่โยมเลย ฉันเป็นพระยังล่อนเหลือแต่กระดูก เขามาบอกว่าจะเอาพระไปก่อน แล้วจะนำเงินมาถวาย 2 หมื่น ก็หายเข้ากลีบเมฆ นี่มันเป็นเวรของเราที่ทำให้เราต้องไปเชื่อเขา?
 
       ความทุกข์มากมายกอดกำดวงใจเธอจนหมดสิ้น ไม่มีที่เหลือพอจะทำความ เข้าใจในธรรมะง่ายๆ ที่หลวงพ่อปลอบ เธอจึงคงยืนกรานให้หลวงพ่อช่วยต่อไปไม่ หยุดยั้ง ท่านก็ปลอบประโลมด้วยคำพูดที่เปี่ยมเมตตา ยากจะถ่ายทอดให้เห็นซึ้งได้ เหมือนพ่อปลอบใจลูกว่างั้น
       พอดีมีใครคนหนึ่งบูชารูปหล่อหลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อแช่ม แล้วยกมา
ถวายให้ท่านเจิมแป้ง ท่านเห็นก็เอะอะว่า
       ?นี่หลวงพ่อเงิน คิดถึงท่าน ระลึกถึงท่านแล้วเงินไหลมาเทมา นี่รูปฉันหลวงพ่อแช่ม มีแต่แช่มชื่นเบิกบาน หลวงพ่อเงินท่านเสียอายุ 87 ฉัน 86 ยังรู้สึกว่าหนุ่มปร๋ออยู่เลย ต่อไปจะเป็นฉันแล้วก็จะเท่ากัน?
 
       ท่านเจิมแป้งให้แล้วก็คว้าแส้น้ำมนต์สะบัดรดใส่หญิงผู้เต็มไปด้วยความทุกข์ ใบหน้าท่านอมยิ้มและกล่าวด้วยว่า
       ?โดนเขาโกงเงินเลยไปฟ้องปู่ ฟ้องปู่?
 
        อีกครู่หนึ่งมีผู้บูชาพระเครื่องของท่านมาถวายท่านเจิมแป้ง ท่านกล่าวว่า
        ?พระเครื่องฉันหมากัดไม่เข้า ปืนยิงไม่เป็นไร? ใบหน้าของท่านมีรอยยิ้มและกล่าวต่อไปอีกว่า ?หมากัดเราก็ไม่เข้าไป ปืนก็อย่าใส่ลูก ใส่แต่แก๊ป?
        วันนี้หลวงพ่ออารมณ์ดีเป็นพิเศษ
         และใครจะเชื่อได้ว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
 
        งวดวันที่ 1 สิงหาคม ตัวล่างออก 87 ผมซื้อล็อตเตอรี่ 86 ไม่ถูก
        งวดวันที่ 16 สิงหาคม ผมคิดถึงคำว่าที่ ?ต่อไปฉัน? ผมตาม 86 อีก 2 คู่ เลยได้เงินมาเป็นค่าขนมจังเบอร์
 
        ใครก็อย่าแจ้นไปหาท่านเพราะเรื่องหวยเลย เพราะว่าท่านไม่ใช่พระใบ้หวย  ที่ถูกนั้นเป็นวาสนาของแต่ละคนเอง
        แหม...แต่ว่าท่านให้แม่นเหมือนจับวางจริง ๆ
       คนถูกก็มีวาสนาน้อย ๆ แค่นั้น....
 .............................................................................
 :-*