กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 07 ส.ค. 2553, 07:36:53

หัวข้อ: รอยทางและรอยธรรม...๖ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 07 ส.ค. 2553, 07:36:53
ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
 ๗ สิงหาคม ๒๕๕๓
........รอยทาง.......
                        ฝนยังตกอยู่ออกบิณฑบาตรต้องใช้ร่ม ทางเดินบนคันนาลื่นกว่าปกติ
ต้องใช้สติในการเดินบิณฑบาตรมากขึ้น ศรัทธาของญาติโยมเริ่มเพิ่มขึ้น เพราะเสร็จจาก
การปักดำทำนาแล้ว ทำกิจวัตรของสงฆ์ในภาคเช้าเสร็จแล้ว ชวนพระไปช่วยกันเชื่อมเหล็ก
ยกเหล็ก เพื่อต่อรถพ่วงที่จะใช้บรรทุกเรือแข่ง อีกส่วนก็ไปช่วยกันซ่อมเตียงไม้ไผ่ที่ชำรุด
ช่วยกันทำงานภายในวัด จนกระทั่งบ่ายสามกว่าๆ ฝนตกลงมา เลยหยุดทำงานพักผ่อนกัน
รอเวลาทำกิจของสงฆ์ในภาคค่ำต่อไป ซึ่งได้ปรึกษากันใหม่ ว่าควรจะทำวัตร สวดมนต์เย็น
เร็วขึ้น จากเวลา ๑๙.๐๐ น. มาเป็นเวลา ๑๘.๓๐ น. เพื่อความสะดวกในการกลับกุฏิที่พัก
ซึ่งได้ตกลงกันตามนั้น ทำกิจวัตรของสงฆ์ในภาคค่ำเสร็จแล้ว กลับที่พักค้นหาข้อมูลเรื่อง
คำศัพท์ โดยการเปิดพจนานุกรมนั่งอ่านคำศัพท์ภาษาไทยเพื่อให้คุ้นตา ซึ่งจะทำให้เกิด
ความผิดพลาดน้อยที่สุดในการใช้ภาษาไทย จนถึงเวลาห้่าทุ่มกว่า จึงพักผ่อนนอนเจริญ
ภาวนา กำหนดดูกายจนหลับไป
........รอยธรรม.......
                           การทำงานที่ใช้แรงงานร่่วมกับคนหมู่มากนั้น ต้องควบคุมอารมณ์
ความรู้สึกให้มากกว่าปกติ เพราะอาจจะเกิดกระทบกระทั่งกันได้ทางอารมณ์ ถ้าขาดสติ
ดั่งคำครูที่ได้กล่าวไว้ว่า " อยู่คนเดียวให้ระวังจิต  อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา " นั้นเป็นสิ่งที่
ควรจดจำและควรปฏิบัติตาม เพื่อความอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เพราะความเหนื่อย ความหิว
ความร้อน ทุกขเวทนาทางกายนั้น ทำให้กิเลสที่ซ่อนอยู่ในจิต ผุดขึ้นมาได้ง่ายถ้าเราเผลอสติ
ทำให้ระลึกถึงอานิสงส์ของการเดินธุดงค์ การเดินธุดงค์นั้นเป็นการฝึกสติ ฝึกความอดทน
ฝึกการควบคุมอารมณ์ ที่ดีมาก เพราะในเวลาที่เราเดินธุดงค์นั้น ต้องแบกสัมภาระอยู่บนบ่า
มีความเหนื่อยเมื่อยล้า จากอากาศที่ร้อน สัมภาระที่หนัก ความหิวกระหาย ที่เกิดขึ้นในระหว่าง
การเดินธุดงค์ ความเห็นแก่ตัวจะเกิดขึ้น ความขี้เกียจจะตามมา อัตตาความเอาแต่ใจตนเองเพิ่มขึ้น
ซึ่งถ้าไม่ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกให้ดีแล้ว กิเลสทั้งหลายก็จะแสดงออกมา จากการที่เคยผ่านการ
เดินธุดงค์มามากนั้น ทำให้หมู่คณะเพื่อนสหธรรมิกทุกรูป เข้าใจในเรื่องนี้ดี เพราะได้พูดคุยกันสมัยที่เดิน
ธุดงค์ร่วมกันมาก่อนแล้ว จึงทำให้ทุกท่านควบคุมอารมณ์กันได้ในเวลาที่ทำงานร่วมกัน มากน้อยตามกำลัง
สติของแต่ละท่าน นี่คืออานิสงส์แห่งการเดินธุดงค์ที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเหล่าสมณะชายโขง
.......รอยกวี......
                      เหนื่อยนัก  อยากพักผ่อน    เอนกายนอน   แนบพื้นดิน
                      สููดดม   ซึ่งไอกลิ่น            ของผืนดิน      ที่เกิดมา
                      เดียวดาย ใต้ฟ้ากว้าง          บนเส้นทาง     แสวงหา
                      ก้าวผ่าน  กาลเวลา            ผ่านร้อยป่า      และภูดอย
                      ฝึกตน    และฝึกจิต           เพื่อหมู่มิตร      ที่รอคอย
                      ฝันไว้    ใช่เลื่อนลอย         จิตไม่ถอย       ซึ่งศรัทธา
                      เรียนรู้    ปริยัติ                 ปฏิบัติ           ภาวนา
                      สติ     และปัญญา             เพื่อค้นหา      สัจจธรรม
                          น้อมใจ  มาดูจิต            ดูความคิด     และกฏกรรม
                     สิ่งที่ ควรกระทำ                 เป็นประจำ      สืบกันมา
                     รู้ธรรม และเห็นธรรม             ถ้าไม่ทำ       ก็ไร้ค่า
                     ความรู้  ในตำรา                 ต้องนำมา    ใช้ได้จริง
                     นำธรรม  มาประยุกค์            ใช้กับทุก     สรรพสิ่ง
                     ในโลก  แห่งความจริง          ไม่หยุดนิ่ง   มีเปลี่ยนแปลง
                          ทุกสิ่ง  ล้วนเคลื่อนไหว    เหมือนใบไม้  ที่กวัดแกว่ง
                      โดนลม ที่พัดแรง               กิ่งไม้แห้ง    ย่อมร่วงลง
                      ชีวิต   ก็เหมือนกัน             เมื่อถึงวัน     ไม่มั่นคง
                      ชีวิต   ย่อมดับลง               จึงฝึกปลง    ก่อนจะตาย
                      ชีวิต   ที่เหลืออยู่               ควรจะรู้       ซึ่งความหมาย
                      เตรียมตน ก่อนจะตาย          ยังไม่สาย    ที่จะทำ
                               ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
                                   ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                                        รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๗ สิงหาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๗.๓๗ น. ณ ศาลาน้อย ริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
                     
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๖ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 07 ส.ค. 2553, 09:55:27
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ  :054:

กราบขอบพระคุณสำหรับเรื่องราว รอยทาง รอยธรรม รอยกวี คำสอน   :054:

อยู่คนเดียวให้ระวังจิต  อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา   :054:

ศิษย์ขอนอบน้อมใว้เป็นแนวทางต่อไป   :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๖ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: ~เสน่ห์ack01~ ที่ 07 ส.ค. 2553, 10:11:01
" อยู่คนเดียวให้ระวังจิต  อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา "


กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณที่เมตตาชี้แนะครับ
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๖ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: berm ที่ 07 ส.ค. 2553, 11:29:10
 :054: :054: :054:กราบขอบคุณพระอาจารย์ครับ...ที่บริษัทฯก็กำลังมีปัญหาพอได้อ่านเรื่องราวของพระอาจารย์..เลยต้องคิดใหม่เลยทำให้จิตใจเย็นขึ้นมา....ผมจะน้อมนำคติคำสอนของพระอาจารย์ครับ :: :054: :054: :054:
หัวข้อ: ตอบ: รอยทางและรอยธรรม...๖ ส.ค..๕๓
เริ่มหัวข้อโดย: derbyrock ที่ 08 ส.ค. 2553, 08:34:21
รู้ธรรม และเห็นธรรม    ถ้าไม่ทำ  ก็ไร้ค่า
ความรู้  ในตำรา         ต้องนำมา ใช้ได้จริง
นำธรรม  มาประยุกค์   ใช้กับทุก     สรรพสิ่ง
ในโลก  แห่งความจริง ไม่หยุดนิ่ง   มีเปลี่ยนแปลง

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ กราบขอบพระคุณที่ย้ำสอนครับ