1
รวมสมาชิก (มิตรไมตรี) / รอดตายราวปาฏิหารย์กับวัตถุมงคลหลวงพ่อสืบ วัดสิงห์, คอหักแต่ไม่ตาย รายที่๒
« เมื่อ: 25 ต.ค. 2554, 10:03:12 »
สวัสดีครับ
เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นกับตัวผมที่เป็นผู้เขียนไปแล้วรอบหนึ่ง(รถคันสีดำพังยับ หาดูได้ตามเว๊ปไซด์ต่างๆ)
แต่คราวนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นประสบการณ์ตรงจากเพื่อนในกลุ่มลูกศิษย์คนสนิท
ของหลวงพ่อสืบ วัดสิงห์ จ.นครปฐม ที่ภายหลังจากพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจนเริ่มเดินได้แต่พูดยังไม่ถนัด
แล้วได้พากันมากราบและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองให้หลวงพ่อสืบฟังที่กุฏิ
เครดิตรูปภาพและเรื่องเล่าจากพี่ติ่ง เพื่อนผู้พาเจ้าของประสบการณ์มา และเป็นผู้เล่าให้ฟัง ...
เหตุเกิดขึ้นประมาณ ๐๖.๐๐ น.(เช้า)ขณะขับรถเดินทางกลับจากทำงานเกี่ยวกับOrganizeเพื่อกลับที่พัก
จนมาถึงบริเวณวงเวียนพระรามที่ ๕ จ.นนทบุรี(สถานที่เกิดเหตุ)ได้มีรถขับมาตัดหน้ากระทันหัน
ทำให้รถของเพื่อนพี่ติ่งที่ขับมาด้วยความเร็วสูงประมาณ ๑๓๐ กม/ชม.ต้องหักหลบแต่เนื่องจากมาเร็ว
จึงเสียหลักเอารถไม่อยู่ทำให้หมุนคว้าง ไปฟาดกับเสาไฟจนขาดไป ๑ ต้นและพลิกคว่ำกระเด็นข้ามเกาะ
ไปหลายตลบ ซึ่งใครที่เห็นสภาพนั้นก็คิดว่าไม่รอด จนกระทั่งรถมูลนิธิที่ตามหลังมาพอดีได้ทำการช่วยเหลือ
และนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที เมื่อแพทย์ทำการตรวจอย่างละเอียดพบว่า
กระดูกต้นคอข้อที่ ๒ หัก และไหปลาร้าหักทั้งสองข้างแต่ไม่พบบาดแผลภายนอก
เพื่อนพี่ติ่งยังเล่าเสริมให้ฟังอีกว่า ตอนนั้นเข็มขัดนิรภัยก็ไม่ได้คาดซึ่งถ้าคาดอาจจะคอขาดไปแล้ว
เพราะหมอนรองคอของเบาะคนขับกระเด็นหายไปเลยและโชคดีมากๆที่ถังแก๊สที่อยู่ท้าย
ด้านหลังรถไม่ระเบิดไม่งั้นก็คงไม่รอด และเพื่อนพี่ติ่งก็ได้นำ สิงห์กะลาแกะและตะกรุดดอกเล็ก
ที่ใส่ไว้กับพวงกุญแจรถให้หลวงพ่อสืบท่านดูพร้อมบอกว่าผมนำไปใส่พวงกุญแจรถไว้ตามที่
เคยได้รับคำแนะนำ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกรถยับทั้งคันเหลือเพียงตรงประตูที่ไม่เป็นไร ส่วนที่เหลือไม่สามารถ
ขายซากได้ต้องขายเป็นเศษเหล็กอย่างเดียว
ถ้ารวมประสบการณ์เกียวกับเรื่องรถก็นับครั้งไม่ถ้วนที่มีคนมาเล่าให้ฟัง
แต่ถ้าคอหักแล้วไม่ตาย นับว่าเป็นรายที่ ๒ ...
ขอบคุณครับ
เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นกับตัวผมที่เป็นผู้เขียนไปแล้วรอบหนึ่ง(รถคันสีดำพังยับ หาดูได้ตามเว๊ปไซด์ต่างๆ)
แต่คราวนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นประสบการณ์ตรงจากเพื่อนในกลุ่มลูกศิษย์คนสนิท
ของหลวงพ่อสืบ วัดสิงห์ จ.นครปฐม ที่ภายหลังจากพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจนเริ่มเดินได้แต่พูดยังไม่ถนัด
แล้วได้พากันมากราบและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองให้หลวงพ่อสืบฟังที่กุฏิ
เครดิตรูปภาพและเรื่องเล่าจากพี่ติ่ง เพื่อนผู้พาเจ้าของประสบการณ์มา และเป็นผู้เล่าให้ฟัง ...
เหตุเกิดขึ้นประมาณ ๐๖.๐๐ น.(เช้า)ขณะขับรถเดินทางกลับจากทำงานเกี่ยวกับOrganizeเพื่อกลับที่พัก
จนมาถึงบริเวณวงเวียนพระรามที่ ๕ จ.นนทบุรี(สถานที่เกิดเหตุ)ได้มีรถขับมาตัดหน้ากระทันหัน
ทำให้รถของเพื่อนพี่ติ่งที่ขับมาด้วยความเร็วสูงประมาณ ๑๓๐ กม/ชม.ต้องหักหลบแต่เนื่องจากมาเร็ว
จึงเสียหลักเอารถไม่อยู่ทำให้หมุนคว้าง ไปฟาดกับเสาไฟจนขาดไป ๑ ต้นและพลิกคว่ำกระเด็นข้ามเกาะ
ไปหลายตลบ ซึ่งใครที่เห็นสภาพนั้นก็คิดว่าไม่รอด จนกระทั่งรถมูลนิธิที่ตามหลังมาพอดีได้ทำการช่วยเหลือ
และนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที เมื่อแพทย์ทำการตรวจอย่างละเอียดพบว่า
กระดูกต้นคอข้อที่ ๒ หัก และไหปลาร้าหักทั้งสองข้างแต่ไม่พบบาดแผลภายนอก
เพื่อนพี่ติ่งยังเล่าเสริมให้ฟังอีกว่า ตอนนั้นเข็มขัดนิรภัยก็ไม่ได้คาดซึ่งถ้าคาดอาจจะคอขาดไปแล้ว
เพราะหมอนรองคอของเบาะคนขับกระเด็นหายไปเลยและโชคดีมากๆที่ถังแก๊สที่อยู่ท้าย
ด้านหลังรถไม่ระเบิดไม่งั้นก็คงไม่รอด และเพื่อนพี่ติ่งก็ได้นำ สิงห์กะลาแกะและตะกรุดดอกเล็ก
ที่ใส่ไว้กับพวงกุญแจรถให้หลวงพ่อสืบท่านดูพร้อมบอกว่าผมนำไปใส่พวงกุญแจรถไว้ตามที่
เคยได้รับคำแนะนำ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกรถยับทั้งคันเหลือเพียงตรงประตูที่ไม่เป็นไร ส่วนที่เหลือไม่สามารถ
ขายซากได้ต้องขายเป็นเศษเหล็กอย่างเดียว
ถ้ารวมประสบการณ์เกียวกับเรื่องรถก็นับครั้งไม่ถ้วนที่มีคนมาเล่าให้ฟัง
แต่ถ้าคอหักแล้วไม่ตาย นับว่าเป็นรายที่ ๒ ...
ขอบคุณครับ