ผู้เขียน หัวข้อ: พระจุฬามณีเจดีย์ วัดคีรีวงศ์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์  (อ่าน 14722 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ธรรมะรักโข

  • มีสติ...กำหนดรู้...อยู่ที่จิต
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 749
  • เพศ: ชาย
  • ผู้รักษาธรรม
    • ดูรายละเอียด


พระจุฬามณีเจดีย์   ตั้งอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์  วัดคีรีวงศ์ กลางใจเมืองนครสวรรค์ เมื่อเดินทางถึงเมืองนครสวรรค์แล้ว จะมองเห็นพระจุฬามณีเจดีย์ งามสง่า 
            พระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณพระราชพรหมาจารย์ (หลวงพ่อมหาบุญรอด)  เจ้าอาวาสวัดคีรีวงศ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์   ได้ริเริ่มสร้าง พระจุฬามณีเจดีย์   เมื่อปีพุทธศักราช  ๒๕๒๔ โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง  ประมาณ  ๓๕ ล้านบาท  ซึ่งขณะนี้ได้ก่อสร้างไปแล้วประมาณ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ 

                        โดยมีวัตถุประสงค์โดยย่อ ๘ ประการ

                        (๑) เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา

                        (๒) เพื่อยกย่องเชิดชูพระพุทธศาสนา

                        (๓) เพื่อประกาศเกียรติคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

                        (๔) เพื่อสนองคุณพระพุทธศาสนา

                        (๕) เพื่อปลูกศรัทธาประชาชนให้เข้าวัด สร้าง กุศล ปฏิบัติธรรม

                        (๖) เพื่อช่วยรักษาวัดคีรีวงศ์ พระพุทธศาสนา และประเทศชาติ  ให้เจริญมั่นคง

                        (๗) เพื่อช่วยอุปถัมภ์การศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม การเผยแผ่ธรรมของวัดคีรีวงศ์

                        (๘) เพื่อเป็นศรีสง่าของจังหวัดนครสวรรค์ และประเทศชาติ





           เป็นพระมหาเจดีย์ที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรตระการตายอดสูงเสียดฟ้าระปุยเมฆ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ วัดคีรีวงศ์ คือพระจุฬามณีเจดีย์ พระจุฬามณีเจดีย์สร้างขึ้นตรงฐานเจดีย์เก่าซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ ๑๙ ปลายกรุงสุโขทัย ประมาณ ๖๐๐ ปีมาแล้ว

           ลักษณะของพระจุฬามณีเจดีย์สร้างเป็นฐาน ๔ เหลี่ยม หมายถึงมหาสติปัฏฐาน ๔ ซึ่งหมายถึง การเอาสติเป็นที่ตั้ง กำหนดเอาสติเป็นใหญ่ในการบำเพ็ญกรรมฐานโดยพิจารณาฐาน ๔ คือ กาย เวทนาจิต ธรรม เป็นอารมณ์ ให้สติจดจ่ออยู่กับฐานอารมณ์นั้น ๆ ไม่ให้พลั้งเผลอ ส่วนความสูง ๔ ชั้นหมายถึง อริยสัจ ๔ คือทุกข์ ความไม่สบายกายไม่สบายใจ สมุทัย คือสาเหตุทำให้เกิดทุกข์ นิโรธคือการดับทุกข์ และมรรค คือหนทางและแนวทางสำหรับดับทุกข์
            พระเจดีย์มี ๙ องค์ คือ องค์ใหญ่อยู่ชั้นบน มีพระเจดีย์เล็ก เป็นบริวาร ๘ องค์ รวมเป็น ๙ องค์ มีความหมาย เปรียบด้วยโลกุตรธรรม ๙ คือ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ โดย ๔ องค์ชั้นล่างเปรียบด้วยมรรค ๔ และ ๔ องค์ ชั้นบน เปรียบด้วยผล ๔
            ส่วน องค์กลาง เปรียบด้วยพระนิพพาน แสดงว่า พระจุฬามณีเจดีย์สร้างขึ้นมาด้วยลักษณะที่อิงอยู่กับแนวคิดในทางธรรมแห่งพุทธศาสนาโดยละเอียดอ่อนและแยบยลแฝง ไว้ด้วยความคิดอันหลักแหลมลึกซึ้ง ปล้องไฉนของพระเจดีย์ที่มองเห็นเป็นปล้องๆ นั้นมีอยู่ ๒๗ ปล้อง เปรียบด้วยสุคติภูมิ ๒๗ ชั้น คือมนุษย์ ๑ ชั้น สวรรค์ ๖ ชั้น รูปพรหม ๑๖ ชั้น อรูปพรหม ๔ ชั้น รวมเป็น ๒๗ ชั้น
             ส่วนรูปสูงสุดของพระเจดีย์ที่มีลักษณะกลมนั้น เปรียบด้วยพระนิพพาน คือความดับสิ้นเชิงแห่งกองทุกข์ ส่วนที่คอระฆังมีลักษณะรูประฆัง เปรียบด้วยระฆังที่มีไว้สำหรับตี ประกาศให้คนทำความดี หรือประกาศเชิญชวนให้ชาวพุทธมาสร้างกุศล และปฏิบัติธรรม เมื่อมองเห็นพระเจดีย์ที่ตระหง่านและแสนจะเพริศแพร้วอลังการแล้วจะก่อให้เกิดความปีติซาบซ่านใจ โน้มน้าวใจให้อยากขึ้นไปไหว้ เพื่อความปลาบปลื้มปีติใจ และสร้างบุญบารมี เพื่อจะได้ไปสู่สุคติภูมิ โดยผู้ปรารถนาจะไปกราบไหว้นมัสการพระเจดีย์
มีถนนลาดยาง เพื่อความสะดวกในการคมนาคม ให้รถขึ้นไปถึงได้
                  ที่พระเจดีย์ได้นามว่า พระจุฬามณีเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพราะเขาลูกนี้ชื่อเขาดาวดึงส์ เหตุเพราะอยู่ตรงถนนดาวดึงส์และอยู่ที่เมืองนครสวรรค์ โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) คือพระพิมลธรรมในเวลาต่อมาแห่งวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ท่านได้ตั้งชื่อให้ และแนะนำให้สร้างพระจุฬามณีไว้บนยอดเขา อนึ่งในหนังสือพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด “คำวัด”โดยพระเดชพระคุณท่านพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ มหาบัณฑิต) ได้สาธยายถึง“จุฬามณี” ว่าเป็นชื่อ พระเจดีย์สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เรียกว่า “พระจุฬามณีเจดีย์” ซึ่งแปลว่าพระเจดีย์ที่สร้างด้วยแก้วมณีเป็นที่บรรจุพระเกศธาตุจุฬามณี เป็นพระเจดีย์ที่บรรจุพระเกศธาตุ (มวยผม) และพระทาฐธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ข้างขวาของพระพุทธเจ้า
 




              จุฬามณีมีตำนานว่า เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ เสด็จออกบวชมาถึงฝั่งแม่น้ำอโนมา ทรงตัดพระเกศาแล้วทรงขว้างไปในอากาศ พระอินทร์ทรงรับไว้ด้วยผอบแก้ว แล้วนำไปบรรจุไว้ในพระจุฬามณีเจดีย์ และหลังจากถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เมื่อเสด็จปรินิพานแล้ว มีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุกันโดยโทณพราหมณ์ พระอินทร์ได้นำพระทาฐธาตุข้างขวาที่โทณพราหมณ์ซ่อนไว้ในผ้าโพกศีรษะใส่ผอบทองไปบรรจุไว้ในพระจุฬามณีเจดีย์ด้วย
               พระจุฬามณีเจดีย์บนเขาดาวดึงส์วัดคีรีวงศ์  จึงเหมือนว่าเป็นพระเจดีย์ที่สถิตบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ดังกล่าว ไม่เพียงแต่ความวิจิตรอลังการและลึกล้ำด้วยความหมายในการสร้างพระจุฬามณีเจดีย์เท่านั้น
                แต่ภายในองค์พระเจดีย์ชั้น ๔ ยังประดิษฐาน พระพุทธรูปจำลองที่สำคัญในประเทศไทย ไว้ให้สักการะบูชา ๔ องค์ คือ พระพุทธรูปมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ประดิษฐานอยู่ทางทิศใต้พระพุทธชินราชจำลอง ประดิษฐานอยู่ทางทิศเหนือ พระพุทธโสธรจำลอง อยู่ด้านทิศตะวันออก พระพุทธรูป หลวงพ่อวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม อยู่ทางทิศตะวันตก นอกจากนั้นภายในโดมพระเจดีย์ได้มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติไว้ให้ชมด้วย
             ที่เป็นมงคลพิเศษสุดคือ ภายในโดมพระจุฬามณีเจดีย์ทางวัดได้ประกอบพิธีบรรจุ
พระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖
                 การประกอบพิธีสักการะบูชากราบไหว้พระจุฬามณีเจดีย์ ทางวัดได้จัดขึ้นตรงกับวันงานตรุษจีนที่มีการแห่มังกรของชาวจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นงานเทศกาลประจำปีที่ยิ่งใหญ่มากในระดับจังหวัด หรือแทบจะกล่าวได้ว่าในระดับประเทศ ส่วนด้านนอกเจดีย์ ชั้นบนมีพระพุทธรูปปางประทานพร ขนาดหน้าตัก๖๐ นิ้ว ๔ องค์ ไว้กราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล เปรียบด้วยจตุรพิธพรชัย ๔ ประการ คืออายุ วรรณะ สุขะ และพละ อันเป็นมงคลแห่งชีวิตที่มีความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ ด้าน
                 เพราะพระจุฬามณีเจดีย์ตั้งตระหง่านสูงระเมฆ บนเขาดาวดึงส์ เมื่อผู้ใดมีโอกาสขึ้นไปถึงฐานพระเจดีย์ชั้น ๔ จะมองเห็นภูมิทัศน์อันงดงามของเมืองนครสวรรค์ในระยะไกลประมาณ ๑๐ กิโลเมตร
               ถ้ามองไปทางทิศตะวันออกจะมองเห็นเขากบ บึงบอระเพ็ด และตลาดปากน้ำโพ หากมองไปทางทิศใต้ จะเห็นอุทยานสวรรค์  ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ และเขาจอมคีรีนาคพรต หันไปทางทิศตะวันตก จะเห็นภูเขาน้อยใหญ่  ทอดตัวตระหง่านอยู่เป็นช่วง ๆ โดยมีภูเขาหลวงเป็นฉากกั้น ยามพระอาทิตย์อัสดงจะเป็นภาพที่งดงามชวนให้เคลิบเคลิ้มหลงใหลในภาพที่ธรรมชาติตกแต่งขึ้น

               หากมองไปทางทิศเหนือจะเห็นแม่น้ำปิง และทิวทัศน์ทางน้ำที่มาบรรจบกัน คือแม่น้ำปิงกับแม่น้ำน่าน ที่ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ว่ากันว่า โดยความเป็นจริงแล้ว แม่น้ำที่ไหลมาบรรจบกันที่ปากน้ำโพ มีเพียง ๒ สายเท่านั้น คือแม่น้ำปิง กับแม่น้ำน่าน ส่วนแม่น้ำยมไหลผ่านจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดพิจิตร มาบรรจบกับแม่น้ำน่าน ที่ตำบลเกยไชย อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ แม่น้ำวัง ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำปิงที่อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก ตั้งแต่จังหวัดตาก กำแพงเพชร เรียกแม่น้ำสายนี้ว่า แม่น้ำปิง แม่น้ำน่านก็เช่นกัน ตั้งแต่อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร ชุมแสง มาถึงปากน้ำโพ นครสวรรค์ เรียกแม่น้ำสายนี้ว่า แม่น้ำน่าน เหตุที่เรียกเช่นนั้น เพราะต้นน้ำเกิดที่จังหวัดน่าน
               ขึ้นไปถึงเขาดาวดึงส์ และพระจุฬามณีเจดีย์ ที่วัดคีรีวงศ์ และมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามรอบทิศต่าง ๆ ของจังหวัดนครสวรรค์ แล้วทางทิศตะวันตกอีกส่วนหนึ่งจะเห็นพระพุทธชินสีห์ สูงเด่นตระหง่านอย่างน่าเลื่อมใสศรัทธา พร้อมกับได้ชมได้เห็นทิวทัศน์ และภูเขาต่าง ๆ ที่เป็นลูก ๆ และเป็นทิวแถว เช่นเขาหลวง เป็นต้น
               จะเห็นได้ว่า บนวัดคีรีวงศ์และพระจุฬามณีเจดีย์ นอกจากจะให้ความร่วมเย็น ปีติ ดื่มด่ำในสภาพของแดนพุทธศาสนาแล้ว อีกด้านหนึ่งของพระจุฬามณีเจดีย์นั้น ภายในฐานพระจุฬามณีเจดีย์ที่ชั้นที่ ๒ แล้วชั้นที่ ๓ ยังเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางต่าง ๆ และพระพุทธรูปประจำ ๑๒ ราศี เพื่อกราบไหว้บูชา

                เป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่เกิดในราศีต่าง ๆ เพื่อให้ได้กราบไหว้ และขอพรตามอัธยาศัยของแต่ละผู้คน เพื่อหวังให้เกิดความผาสุกร่มเย็น และความเจริญก้าวหน้าของผู้คนในแต่ละราศี การสร้างและพัฒนาวัดคีรีวงศ์ และสร้างศาสนสถานต่าง ๆ ขึ้นภายในวัด ตลอดทั้งการสร้างพระจุฬามณีเจดีย์ที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์ และมีความหมายลึกซึ้งทางด้านสถาปัตยกรรม และปรัชญาทางศาสนา โดยพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระวิกรมมุนี และศรัทธาญาติโยมนั้น
               แสดงให้เห็นถึงบารมีธรรมอันสูงเด่นของท่านเจ้าคุณพระราชพรหมาจารย์ เจ้าอาวาสวัดคีรีวงศ์ ที่ญาติโยมมีศรัทธาต่อการมุ่งมั่นของท่านในการที่จะจรรโลง และประกาศความยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาให้ประจักษ์แก่สายตาคนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ญาติโยม ผู้มีจิตศรัทธาในพุทธศาสนาและท่านเจ้าคุณพระวิกรมมุนี จึงได้ร่วมพลังศรัทธาร่วมมือกับท่านสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ยิ่งใหญ่ทางศาสนาให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นความสำเร็จอันน่าภูมิใจของพุทธศาสนิกชน ไม่เพียงแต่จะเป็น
เกียรติและสร้างชื่อเสียงให้แก่พุทธศาสนาและชาวจังหวัดนครสวรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นเกียรติประวัติและชื่อเสียงของประเทศไทย ที่เป็นเมืองแห่งพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงของโลกอีกด้วย








 












 อนึ่งทางวัดได้ทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๘
 โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ
 กรรมการมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๐
 
คำนมัสการพระจุฬามณีเจดีย์
                       ท่องนะโมฯ ๓ จบก่อน
   ตาวะติงสายะ ปุรัมเมเกสะจุฬามะณี สะรีระ
  ปัพพะตาปูชิตา สัพพะเทวา นังตัง สิระสาธาตุ
  อุตตะมังอะหัง วันทามิ สัพพะทา

 


ขอขอบพระคุณที่มาของภาพและข้อมูลจาก
http://www.kiriwong.net/TAVO/T41.htm
http://www.kiriwong.net/TAVO/kv902.htm

ออฟไลน์ ๗๗๗

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 448
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
สวยงามมากๆเลยครับ :016: :053: :053: :053: :015:

ออฟไลน์ yout

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณครับ................. :090: :090: :114: :090: :090:..............

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณพี่ธรรมมะรักโขมากครับ สำหรับข้อมูลดีๆ

ออฟไลน์ tom2007

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 462
  • เพศ: ชาย
  • ออแอ อออา เมตตา พุทโธ
    • MSN Messenger - autotom2007@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
สวยงามมากครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีอีกแล้ว
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ  สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว

ออฟไลน์ Szy72Uthenthawai

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 61
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
สวยงามมากๆครับ :015:

ออฟไลน์ mew2

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 357
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
สวยมากครับ
ขอตายไปพร้อมกับคำว่าสักยันต์