ผู้เขียน หัวข้อ: สั่งฟันสมภารหมิ่นเบื้องสูงแจกแบงก์ฤาษีเชือดอวดอิทธิฤทธิ์จตุคาม  (อ่าน 2849 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลูกผู้ชายตัวจริง

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 741
  • เพศ: ชาย
  • กูจะกลับมากู้แผ่นดิน ให้พ้นภัยศัตรู
    • MSN Messenger - namo159@HOTMAIL.COM
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ผอ.สำนักพุทธฯ โวยแบงก์พันใส่รูปฤาษีโปรโมทจตุคามฯ ชี้ผิดหนักเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงแถมละเมิด พ.ร.บ.ธนบัตร ด้านเจ้าอาวาสรับรู้เท่าไม่ถึงการณ์สั่งให้ยุติการแจก พร้อมตามเก็บคืนแบงก์ฉาวแล้ว พร้อมเดินหน้ารวบรวมข้อมูลพระสงฆ์เจ้าพิธีปลุกเสกจตุคามฯ คล้ายอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ ชี้ขัดต่อประกาศคณะสงฆ์และ มส.
ความคืบหน้ากรณีวัดแม่ตะไคร้ กิ่ง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ โดยพระใบฎีกาเทียนชัย สุภทฺโท เจ้าอาวาสโปรโมทการจัดสร้างจตุคามรามเทพ รุ่น "พระมหาโพธิสัตว์ประทานพรอุดมทรัพย์" ด้วยการนำแบงก์ฤาษีที่พิมพ์เลียนแบบธนบัตรจริงใบละ 1,000 บาท โดยนำรูปฤาษีมาพิมพ์แทนพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแจกให้ชาวบ้านที่มาร่วมงานปลุกเสกจตุคามฯ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงนั้น
ล่าสุด นายจำลอง กิตติศรี ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความไม่สบายใจให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการกระทำที่ค่อนข้างหมิ่นเหม่ต่อเบื้องสูง และยังผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยธนบัตรที่ไปจัดทำสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะคล้ายธนบัตรจริง อย่างไรก็ตาม หลังตรวจสอบข้อเท็จจริงกับพระใบฎีกาเทียนชัย สุภทฺโท แล้ว
พระใบฎีกาเทียนชัย สุภทฺโท ได้กล่าวยอมรับว่ากระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คือมีผู้นำแบงก์ฤาษีมาให้ โดยที่ทางวัดไม่ได้เป็นผู้พิมพ์ขึ้นมาเอง ซึ่งตรงกับการตรวจสอบของสำนักพุทธฯ พบว่าพระท่านไม่ได้มีเจตนาที่จะนำธนบัตรแจกจ่ายเพื่อแลกเปลี่ยนแทนเงินทอง แต่เป็นการมอบให้ในฐานะที่เป็นวัตถุมงคล จึงได้ประสานเจ้าที่ตำรวจแล้วว่าอย่าดำเนินคดีกับทางวัด และได้ขอให้ทางวัดยุติการแจกแบงก์ฤาษีรวมทั้งให้มีการเรียกเก็บคืนจากญาติโยมที่ได้แจกจ่ายกลับคืนมา
นายจำลอง กล่าวอีกว่า นอกจากการเรียกเก็บคืนแล้ว สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามสืบสวนไปยังแหล่งที่มาของการผลิตแบงก์เลียนแบบดังกล่าว เนื่องจากหมิ่นเหม่ต่อเบื้องสูงหากพบว่ามีการนำออกมาแจกจ่ายที่ใดอีกจะแจ้งความให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินคดีทันที
ส่วนรูปแบบของการโปรโมทจตุคามฯ ซึ่งปัจจุบันหลายวัดมีการแข่งขันหาจุดเด่นมาส่งเสริมการเช่าบูชาหลายรูปแบบเพื่อดึงความสนใจให้ประชาชนเข้ามาเช่าบูชานั้น มองว่าเป็นสิทธิที่วัดและผู้จัดสร้างต่างๆ สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องไม่ทำให้เสื่อมเสียต่อสถาบันและพาดพิงผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย หากดำเนินการโดยไม่กระทบในสิ่งที่กล่าวมาดังกล่าว สำนักงานพระพุทธศาสนาก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เนื่องจากเป็นสิทธิเสรีภาพที่สามารถจะทำได้
ส่วนกรณีมีพระสงฆ์ในหลายจังหวัดไปเป็นเจ้าพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพ บางรูปกระทำพิธีโดยรำดาบ บางรูปใช้อาวุธแทงร่างกายคล้ายกับอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ ส่งผลให้มีกระแสเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และคณะสงฆ์ออกมาดูแลในเรื่องนี้ เพราะมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ไม่ใช่สิ่งที่พระสงฆ์ควรกระทำ
นายกนก แสนประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา รักษาการ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การที่พระสงฆ์ไปเป็นเจ้าพิธีปลุกเสกจาตุคามรามเทพโดยมีการแสดงคล้ายอวดอ้างอิทธิฤทธิ์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ขณะนี้ พศ.กำลังรวบรวมข้อมูลพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งที่มีปรากฏข่าวคราวอยู่ตามสื่อต่างๆ ประมาณ 2-3 รูป เพื่อเสนอให้เจ้าคณะผู้ปกครองเป็นผู้พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวควรพิจารณาลงโทษในขั้นไหน อย่างไร
นายกนก กล่าวอีกว่า การกระทำของพระสงฆ์ที่ไปปลุกเสกจตุคามฯ แล้วมีพฤติกรรมคล้ายกับอวดอ้างอิทธิฤทธิ์นั้น ขัดต่อประกาศคณะสงฆ์และขัดต่อมติมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งตามประกาศคณะสงฆ์ 2 ฉบับทั้งประกาศในปี 2469 และในปี 2496 ห้ามมิให้พระสงฆ์ทดลองของขลังถือว่าไม่เอื้อต่อพระธรรมวินัย เป็นเหตุให้บุคคลอื่นพิสูจน์ได้ยาก จะต้องแจ้งให้เจ้าคณะผู้ปกครองพิจารณาและรายงานต่อคณะสงฆ์ รวมถึงมีประกาศ มส.ห้ามไม่ให้พระสงฆ์อวดอ้างอิทธิฤทธิ์ อภินิหาร จะต้องประพฤติตนสำรวมอยู่ในหลักพระธรรมวินัย ซึ่งการพิจารณาลงโทษพระสงฆ์ที่ประพฤติตนขัดต่อหลักพระธรรมวินัยนั้น พศ.ไม่มีอำนาจดำเนินการ แต่เป็นอำนาจของเจ้าคณะผู้ปกครองจะพิจารณาลงโทษว่าอยู่ในขั้นไหน อย่างไร โดยการลงโทษนั้นมีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือนไปจนถึงโทษสูงสุดให้สึกออกจากการเป็นพระสงฆ์
"ก่อนหน้านี้ พศ.เคยส่งหนังสือไปถึงเจ้าคณะผู้ปกครองให้ช่วยดูแลให้พระสงฆ์ประพฤติตนอยู่ในหลักพระธรรมวินัย เชื่อว่าเจ้าคณะผู้ปกครองท่านคงเห็นข่าวที่ออกมาและเรียกพระสงฆ์ที่กระทำไม่เหมาะสมไปพิจารณาลงโทษบ้างแล้ว เช่น ตักเตือน แต่ พศ.ก็จะรวบรวมข้อมูลและเสนอเรื่องไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองให้พิจารณาลงโทษ เพราะการกระทำดังกล่าวนอกจากขัดต่อหลักพระธรรมวินัยแล้ว ยังสร้างความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์ ทำให้ถูกสังคมตำหนิด้วย" นายกนก กล่าว
นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า พระสงฆ์ที่ไปปลุกเสกจตุคามฯ แล้วกระทำคล้ายกับอวดอ้างอิทธิฤทธิ์นั้น เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเพราะขัดต่อประกาศคณะสงฆ์และประกาศ มส.ที่ห้ามไม่ให้พระสงฆ์อวดอ้างอิทธิฤทธิ์ อภินิหาร ซึ่ง พศ.ไม่มีอำนาจไปพิจารณาลงโทษและไปก้าวล่วงไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจของเจ้าคณะผู้ปกครองพิจารณาว่าลงโทษขั้นไหน อย่างไร ขณะนี้ พศ.กำลังรวบรวมข้อมูลและจะเสนอต่อเจ้าคณะผู้ปกครองต่อไป
"สิ่งที่พระสงฆ์บางรูปกระทำไม่เหมาะสมในการปลุกเสกจตุคามฯ สร้างความไม่สบายใจให้แก่ พศ.เช่นกัน เพราะไม่ให้เกิดเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีก แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าคณะผู้ปกครองว่าท่านจะพิจารณาและลงโทษอย่างไร เชื่อว่าเจ้าคณะผู้ปกครองท่านก็คงกำลังจับตาดูอยู่เช่นกัน ส่วนจะส่งหนังสือถึงเจ้าคณะผู้ปกครองให้ช่วยดูแลความประพฤติของพระสงฆ์ให้อยู่ในพระธรรมวินัยอีกรอบหรือไม่นั้น จะต้องหารือกับคณะสงฆ์ก่อน" นางจุฬารัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกระแสท้าวจุตุคามรามเทพเป็นที่นิยมในหมู่นักเล่นพระและประชาชนทั่วไป ได้มีการจัดสร้างเหรียญจตุคามฯ หลากหลายรุ่น และในพิธีปลุกเสกมักจะมีการแสดงอภินิหารต่างๆ นานา อย่างเช่นเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าใน จ.สิงห์บุรี มีพิธีพุทธาเทวาภิเษก ท้าวจตุคามรามเทพ รุ่น "ชีวิตรุ่งโรจน์" โดยมีนายประภาศ บุญยินดี ผู้ว่าฯ สิงห์บุรี เป็นประธาน ทั้งนี้มีพระครูสังฆรักษ์ปรานพ หรือหลวงหนุ่ย แห่งวัดคอหงส์ อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นเจ้าพิธี และเป็นประธานจุดเทียนชัย พร้อมพระเกจิอาจารย์ทั้งใน จ.สิงห์บุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมในพิธีปลุกเสก โดยภายหลังเริ่มทำพิธี หลวงหนุ่ยเริ่มพิธีบวงสรวง หลังจากนั้นร่างกายเริ่มเกร็งคล้ายเข้าทรงก่อนที่จะหยิบกริชยาวประมาณ 5 นิ้วออกมา แล้วใช้กริชแทงที่ใบหน้าตัวเองและกรีดไปทั่วทั้งใบหน้าและหัว สร้างความหวาดเสียวให้แก่ญาติโยมผู้มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่การปลุกเสกจตุคามรามเทพ รุ่น "เจ้าราชันเหนือ" หน้าพระวิหารหลวงวัดมหาวัน ต.ในเมือง อ.เมือง ลำพูน ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต 1 ก็เช่นเดียวกัน ขณะทำพิธีปลุกเสกได้แสดงอภินิหารเอามีดเชือดคอผู้มาร่วมงานในพิธีเป็นการทดสอบด้วย
http://www.komchadluek.net/2007/07/3...news_id=129065


ออฟไลน์ nookerclub36

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 122
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - nookerclub_16@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • เด็กน้อยแห่งหมู่บ้านคาถาอาคม :)
    • อีเมล
ความเชื่อส่วนบุคคล แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะของขึ้นถึงเพียงนี้ เหอๆๆๆ :o
ขณะนี้กำลังศรัทธาพ่อขุนแผน ใครมีเยอะจะแบ่งให้ ก็จะขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
ขอตั้งสัตย์ปฏิญาณแก่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย พระเครื่องแลเครื่องรางของขลังทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้มา จะดีหรือไม่ดีข้าพเจ้าก็จะขอรักษาเท่าชีวิต หากมีผู้ใดมาขอนำไปบูชา� อยากได้ขอให้บอกให้ได้ก็จะให้ (แต้ถ้าเป็นขุนแผนป๋มไม่ยอม~~~)

ออฟไลน์ โยคี

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 1361
  • เพศ: ชาย
  • เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
    • ดูรายละเอียด
เมื่อเกิดเรื่อง ขึ้นอย่างนี้ ต่อไป วัดต่างๆทั่วประเทศ ห้ามทำแบงค์ขวัญถุงแจกจ่าย เป็นสิริมงคลต่อไป
และ ถ้าจะเอาผิด ย้อนหลัง แทบจะทุกเกจิอาจารย์ในประเทศไทย ล้วนทำแบงค์ขวัญถุงออกแจกจ่ายทั้งนั้น
เรื่อง ที่เกิดขึ้น ล้วนแต่สื่อสารมวลชน เอามาตีแผ่ สร้างความแตกแยกสามัคคีกัน ในหมู่ประชาชน
ในกรณีอวดฤทธิ์ ถ้าขัดประกาศคณะสงฆ์/เถรสมาคม   ก็เสร็จแน่ หลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง หลวงพ่อทวีศักดิ์ วัดศรีนวล
หลวงพ่อแป๊ะ วัดสว่างอารมณ์ หลวงหนุ่ย วัดคอหงษ์ เป็นต้น
พระสงฆ์ เท่าที่แยกออกมาได้ มี 4 ประเภท คือ
1. พระพูด (เทศน์) พูดอย่างเดียวให้คนเชื่อ ให้คนศัทธา เช่น พระพยอม
2. พระสร้าง  พระพวกนี้ ระดมปัจจัยมาเพื่อสร้าง ถาวรวัตถุ โดยการบอกบุญเรียไร หรือ จัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อหารายได
3. พระเสก  พระประเภทนี้ มีวิชาอาคม สร้าง สัก เสก เลขยันต์ ต่างๆ แล้วก็นำรายได้เข้าวัด สร้างถาวรวัตถุต่างๆ คงไม่ต้องยกตัวอย่างพระเกจิรูปใด
4. พระปฎิบัติ พระประเภทนี้ อบรมสั่งสอน ให้ประพฤติ ปฎิบัติธรรม นั่งสมาธิ เพื่อหวังความหลุดพ้น พูดน้อย สร้างน้อย แต่ก็พอเสกบ้าง

จะมีพระประเภทแรก บางรูป เที่ยวพูดว่าประเภทอื่นไม่ดี สร้างวัตถุมงคล ให้คนหลงงมงาย ไม่มีปํญญา และอีกหลายอย่าง (คิดเอาเอง)
แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนแต่จะนำให้คนเข้าวัด เพื่อสร้างความดี ไม่มากก็น้อย แล้วแต่บุญกุศล
ดังพระพุทธเจ้า ได้แยก บุคคลไว้เหมื่อน บัว 4 เหล่า
บางคนชอบพระพูด ไม่ชอบวัตถุมงคล ให้ไปวัดสวนแก้ว หรือ สวนโมกข์
บางคนชอบสร้าง ก็นำปัจจัยไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร ล้วแต่ศัทธา
บางคนชอบพระสักเสกเลขย์ยันต์  ชอบวัตถุมงคล ก็ทำบุญตามศัทธา
บางคนชอบปฎิบัติธรรม นั้งสมาธิ ก็ไปนั้งสมาธิ ในวัดที่สงบ

จบแล้ว
อิติ สุคคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ  ฐิตคุโณ อาจาริโย จะมหาเถโร
มหาลาโภ สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะนัง ภะวันตุเม

ออฟไลน์ ๛พุทธานุภาพ๛

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 220
  • " ชีวิตไม่มีคงกะพัน ความดีเท่านั้นจึงอยู่คงดี "
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
การหมิ่น หรือไม่นั้น ต้องดูที่ เจตนา หากเจตนาดี ผมเขื่อ ในหลวง พระองค์ท่าน ต้องทรง สนับสนุน อย่างแน่นอน ผิดแต่ พวกสื่อมวลชล บางกลุ่ม บางประเภท ที่นำเสนอข่าว ที่สร้างความแตกแยกในสังคม ทุกวันนี้ปัญหาต่างๆ ก็ล้วนหนักพออยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ของแบบนี้ มันแล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล  สังคมทุกวันนี้ไร้ที่พิ่ง เป็นการดีแล้ว ที่คนในสังคม หันเข้าหา วัด เข้าหาธรรม วัตถุมงคล เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้คนยึดมั่นในความดี ไม่กล้าทำชั่ว .... เป็นอุทาธรณ์ สอนใจ ให้นึกถึงพุทธองค์
"บุญอยู่กับคนทำ  กรรมอยู่กับคนก่อ"

ออฟไลน์ เต้

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 115
  • เพศ: ชาย
  • บารมีหลวงปู่ไปล่ วัดกำแพง
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ `ตาเอส`วัดสิงห์

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 230
  • เพศ: ชาย
  • วันนี้คือวันดี แต่พรุ่งนี้ต้องดีกว่า
    • MSN Messenger - gongjone01@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • ฟังเพลงกันนะครับ
    • อีเมล
เมืองไทย
 

เหรีญนจอบ2 สวยจัง โค๊ดไรหรอครับ เราชอบโค๊ด ๒ หางกระรอก อ่าครับ
ตอนนี้ไร้รัก แต่อยู่กับธรรมะ สบายใจ


ที่เราจะรักใครซักคนไม่ใช่เรื่องยาก แต่!! การที่จะให้ใครซักคนมารักเราสิเรื่อ