ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนเชิญช่วยไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อโอภาสีกันหน่อยครับ พระอาจารย์ของหลวงพ่อเปิ่น  (อ่าน 11344 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ พัน ร. มทบ.๑๑

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 476
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
:089:ช่วยเข้าไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อโอภาสีกันหน่อยครับหลวงพ่อโอภาษีพระอาจารย์ของหลวงพ่อเปิ่นวัดหลวงพ่อโอภาษีกำลังจัดสร้างพระอุโบสถที่สร้างยังไม่เสร็จด้วยครับและอย่าลืมได้ไปไหว้สรีระของหลวงพ่อโอภาสีด้วยครับ

วัดหลวงพ่อโอภาษี บางมด กทม.  :089:
ที่อยู่ ซ.สุขสวัสดิ์26แขวงบางปะกอก เขตราษฎบูรณะ กทม

http://www.uamulet.com/boardDetail.aspx?bid=4&qid=27437
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ส.ค. 2551, 01:51:20 โดย BODY GLOVE »

ออฟไลน์ นายตะกรุด

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 605
  • เพศ: ชาย
  • ความรู้ไม่ได้ทำให้คนสูงขึ้น งั้นเรามาดื่มนมกันเถอะ
    • MSN Messenger - pinto55555@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ข้อมูลที่อยู่ผิดหรือเปล่าครับๆๆๆ  :005:   :005:   :005:
ศิษย์เจ้าคุณนรรัตรราชมานิต

ออฟไลน์ พัน ร. มทบ.๑๑

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 476
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
:017:เรียนสมาชิกทุกท่านที่จะเข้าไปทำบุญวัดหลวงพ่อโอภาสีสามารถเข้าตรงหน้าปากซ.สุขสวัสดิ์26แขวงบางปะกอก เขตราษฎบูรณะ กทม ได้ครับจะมีรถสองแถวเข้าวัดโดยตรงหน้าปากซ.สุขสวัสดิ์26ได้ด้วยครับวัดหลวงพ่อโอภาสีและสามารถเข้าได้อีกทางถนนเส้นถนนพระราม2 บางมดได้อีกนะครับสาธุ :017:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ส.ค. 2551, 01:51:58 โดย BODY GLOVE »


ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)

ออฟไลน์ ~เสน่ห์โจรสลัด~

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 7913
  • เพศ: ชาย
  • " ถ้ามุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งคุณจะเป็นที่หนึ่ง "
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ berth1999

  • แม้จะล้มก็จะคลานไปให้ถึงที่หวัง
  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 1265
  • เพศ: ชาย
  • เจอกันไม่ต้องหลบ จะขอเลี่ยงหลบไปเอง
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
นั่งรถเมล์ รถร้อนฟรี รถแอร์เสียตังค์ สาย 75 หัวลำโพง-บางรัก-ถนนตก-บุคคโล-โกบ๊อ-ดาวคนอง-บางปะแก้ว-บางปะกอก-กม.9-สวนธนฯ-วัดพุทธบูชา.......... สุดสายเดินนิดนึงออกกำลังกายถึงหน้าวัดครับท่าน
ขากลับออกมาทางถนนพระราม2 แว๊ะเข้าวัดยายร่ม กราบขอพรหลวงพ่อพุ่ม เขาว่าขลังนัก ครับท่าน หรือจะกลับทาง สุขสวัสดิ์ซ.26 ก็แว๊ะวัดโพธิ์ทอง อยู่ใกล้กัน อาจารย์วรา ท่านก็เก่ง ครับ

ออฟไลน์ •••--สายัณ--•••

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1322
  • อัครมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ ทุกภพชาติ
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ โยคี

  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 1361
  • เพศ: ชาย
  • เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
    • ดูรายละเอียด
เรื่องนี้ ได้เคยลงไปแล้ว เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว มีผู้ลบกระทู้ออก เพราะเห็นว่าไม่สำคัญ
เรื่อง เล่าอภินิหาร หลวงพ่อโอภาสี http://www.larntum.in.th/cgi-bin/kratoo.pl/005654.htm
เนื้อความ :

คัดจากหนังสือคุณทองทิว สุวรรณทัต

บรรดาเกจิอาจารย์ทั้งหลายซึ่งมีอภินิหารหรือคุณธรรมอันวิเศษที่มรณภาพไปแล้วนั้น  ถ้าใครเอ่ยถึง หลวงพ่อโอภาสี ก็คงจะอดอัศจรรย์ในคุณวิเศษอันสืบเนื่องจากผลการปฏิบัติของท่านไม่ได้  และด้วยเหตุนี้จึงมีผู้อ่านหลายท่านขอให้ผู้เขียนนำประวัติของท่านมาเล่าสู่ให้ฟังกันบ้าง

ระหว่างปี 2484-2485  ผู้เขียนยังเรียนหนังสืออยู่จำได้ว่าผู้คนทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียงพากันไปชุมนุมที่หน้าวัดบวรนิเวศวรวิหาร  นับแต่ถนนหน้าวัดบวรฯไปจนจรดตลาดบางลำภูมีคนเข้าแถวเต็มไปหมด  ได้ความภายหลังว่ามารอหลวงพ่อโอภาสี  แจกพระเครื่องที่ท่านทำพิธีปลุกเสก
ในครั้งนั้น  ชื่อเสียงของ หลวงพ่อโอภาสี  โด่งดังไปทั่งสารทิศ  เพราะพิธีกรรมของท่านแปลกพิสดารเกินกว่าคนธรรมดาจะกระทำได้  กล่าวคือ  ท่านขนเอาสมบัติพัสถานในกุฏิของท่าน ไม่ว่าจะเป็นตู้โต๊ะ หนังสือตำรา  ถ้วยโถโอชามอันเป็นของเก่าแก่มีราคา  ตลอดจนกองธนบัตรที่มีคนมาถวาย  มากองสุม ณ บริเวณสนามหญ้า  แล้วจุดไฟเผาท่ามกลางความตกตะลึงของพระภิกษุสามเณร  และผู้คนที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง  พอไฟมอดลงแล้วท่านก็เดินหายไปในกุฏิเพื่อสวดมนต์ภาวนาของท่านต่อไป
การประกอบพิธีกรรมอันประหลาดของท่านซึ่งมีติดต่อกันหลายครั้งในสมัยนั้น  ทำให้วัดบวรนิเวศวรวิหารพลุกพล่านไปด้วยผู้คนเป็นประวัติการณ์  จึงเป็นเหตุให้หลวงพ่อโอภาสีต้องออกจาวัดบวรฯในเวลาต่อมา  และในที่สุดท่านก็ไปอยู่ที่อาศรม ณ ตำบลบางมด
เรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์ของพระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีความรู้ในพระธรรม พระวินัย จนสอบได้เปรียบแปดประโยคท่านนี้  ผู้เขียนได้พยายามรวบรวมเรื่องราวของท่านจากหนังสือบางเล่ม  และจากท่านผู้รู้บางท่าน  พอได้ใจความมาเสนอดังต่อไปนี้
หลวงพ่อโอภาสี หรือ พระมหาชวน โอภาสี (ป.8)เกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อ พ.ศ.2441 เรียนหนังสือจบขั้นมัธยมปีที่ 6 แล้วบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดโพธิ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช  สอบได้นักธรรมโทจึงเดินทางมาศึกษาบาลีควบคู่ไปกับนักธรรมเอก ณ วัดบวรนิเวศวรวิหาร  กรุงเทพฯ  จนสอบได้เปรียญ 8 ประโยค จากนั้นได้หันมาปฏิบัติตามลำพัง  เป็นสำคัญกระทั่งในวันหนึ่งท่านได้ประกาศว่า
"มหาชวนนั้นตายไปแล้ว  บัดนี้เหลือแต่โอภาสีผู้ปรารถนาในความหมดสิ้นจากอาสวะทั้งหลาย"
ท่านเจ้าคุณราชธรรมนิเทศ  เคยเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า
"มีสิ่งที่น่าประหลาดอยู่เรื่องหนึ่ง ที่เกี่ยวกับหลวงพ่อโอภาสีเห็นเขาพูดกันว่า  เมื่อครั้งท่านยังเป็นพระมหาชวนนั้นที่แก้มซีกขวาของท่านยังไม่มีไฝฝ้า  แต่ครั้นมาเป็นหลวงพ่อโอภาสีกลับมีปานดำขึ้นที่แก้มจนเห็นได้ชัด  ไม่ทราบว่าปานนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร  เพราะคนเรามักจะมีปานหรือไฝก็มีกันแต่เล็กแต่น้อย  นี่ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว  อายุตอนนั้นประมาณ 40 ทำไมปานเกิดขึ้นมาได้ก็ไม่ทราบ"
เกี่ยวกับเรื่องอภินิหารของหลวงพ่อโอภาสีนั้นดูจะมีหลายประการ  โดยเฉพาะได้แก่การมีหูทิพย์ ตาทิพย์ และวาจาสิทธิ์ ท่านกล่าวคำใดออกมาไม่ใคร่จะพลาดจากคำนั้น  ซึ่งอาจจะสืบจากผลการปฏิบัติอย่างแรงกล้าของท่านก็เป็นได้
มีเรื่องเล่าว่า  เคยมีสุภาพสตรีสูงอายุท่านหนึ่ง  มีความศรัทธาหลวงพ่อโอภาสีเหลือเกิน  ถึงแก่ปรารถกับญาติพี่น้องที่บ้านว่า อยากได้เส้นผมของหลวงพ่อไว้บูชา  ครั้นต่อมาสุภาพสตรีท่านนั้นไปนมัสการหลวงพ่อ  พอก้มลงกราบ  ยังไม่ทันจะกล่าวอะไรหลวงพ่อก็ยกมือจับเส้นผมของท่าน  พร้อมกับบอกว่า
"ผมของอาตมาสั้นออกอย่างนี้  จะตัดไปให้โยมได้อย่างไร"
สุภาพสตรีท่านนั้นถึงแก่นั่งตกตะลึงพูดไม่ออก
ครั้งหนึ่งได้มีสุภาพสตรีผู้สูงด้วยอำนาจวาสนาท่านหนึ่งพาบริวารไปนมัสการหลวงพ่อที่สวนส้มบางมด  ได้สนทนาปราศรัยกับท่านเป็นอันดี  ชั่วครู่หลวงพ่อเหลือบไปเห็นแหวนเพชรในนิ้วมือของสุภาพสตรีท่านนั้น  เปล่งประกายสุกสกาวจึงถามว่า
"ถ้าอาตมาจะขอแหวนวงนี้จากคุณโยม  จะเสียดายไหม"
สุภาพสตรีท่านนั้นถอดแหวนออกจากนิ้วนางประเคนท่านแทนคำตอบทันที  ท่ามกลางความชื่มชมของบริวาร  หลวงพ่อรับไว้  หยิบพลิกดูไปมาแล้วหันไปหยิบค้อนที่อยู่ข้างหลัง  วางแหวนเพชรที่ไม่รู้ว่ากี่กะรัตลงบนพื้นแล้วตอกด้วยค้อนบัดนี้!
สุภาพสตรีท่านนั้นเกือบเป็นลม
หลวงพ่อโอภาสีมองหน้าพลางเปรยออกมาว่า
"ของดีๆอย่างนี้  จะสูญได้อย่างไร"
สุภาพสตรีผู้นั้นหมดกำลังใจจะสนทนาต่อ  อ้อมแอ้มๆออกมาสอง-สามประโยค  ก็นมัสการลากลับไม่เหลียวหลัง
ปรากฏว่าเย็นวันนั้น  หลังจากอาบน้ำชำระกายเรียบร้อยแล้ว เปิดโถแป้งออกมา  ตั้งใจจะหยิบแป้งขึ้นมาผัด  กลับเห็นแหวนเพชรวงที่หลวงพ่อโอภาสีทุบจนแตกกระจายเป็นเสื่ยงๆวางอยู่ในนั้นชัดแจ้ง...เป็นวงแหวนสมบูรณ์เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน!
อีกคราวหนึ่ง  คุณหลวงประเสริฐรัฐวิจารณ์ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ขององค์การท่าเรือฯ  ผู้รู้จักคุ้นเคยกับหลวงพ่อมาช้านาน  ได้เข้าไปนมัสการและสนทนาด้วย  จนได้เวลาพอสมควรจะลากลับหลวงพ่อกลับบอกว่าประเดี๋ยวก่อน  แล้วท่านก็ลุกเข้าไปในอาศรมถือธนบัตรใบละ 100 จำนวนสองใบมายื่นให้คุณหลวงพลางบอกว่า "เก็บไว้ให้ดี เป็นเงินก้นถุง"
คุณหลวงก้มลงกราบรับไว้ด้วยความปิติยินดี  แต่เมื่อกลับมาบ้านแล้ว  ท่านนึกไปถึงเพื่อนคนหนึ่งซึ่งไปรับราชการอยู่ที่กรุงวอชิงตัน  อเมริกาในขณะนั้น  เพราะเพื่อนผู้นี้เคยปรารถกับท่านว่าอยากได้เงินก้นถุงของหลวงพ่อโอภาสีมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสจะได้กับเขา  คุณหลวงประเสริฐคิดถึงเพื่อนผุ้นั้นก็อยากจะสละเงินก้นถุงที่ตนได้มาให้แก่เพื่อนไปก่อน  ด้วยคิดว่าท่านอยู่ใกล้กับหลวงพ่อ  วันหน้าคงจะมีโอกาสขอได้ใหม่  ท่านจึงจัดแจงจดหมายเลขธนบัตรเอาไว้  แล้วส่งเงินนั้นไปให้เพื่อนที่วอชิงตันทันที
ต่อมาอีกสามสี่วัน  คุณหลวงไปนมัสการหลวงพ่ออีกครั้ง  พอหลวงพ่อเห็นหน้าท่านก็หยิบธนบัตรใบละ 100 สองใบส่งให้คุณหลวง  พลางหัวเราะบอกว่า
"ไม่ต้องตกใจดอกคุณหลวง  เขาไปเที่ยววอชิงตันมา!"
ก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพเพียงไม่กี่วัน  พุทธสมาคมแห่งประเทศอินเดียได้นิมนต์ให้หลวงพ่อเดินทางไปร่วมประชุมสงฆ์ทั่วโลก  หลวงพ่อรับนิมนต์  ทั้งได้ส่งสานุศิษย์ผู้ติดตามอันได้แก่ นายสนิท วชิรสาร กับ นายยี.อี.เอิร์ด  เดินทางล่วงหน้าไปก่อนหนึ่งสัปดาห์  ส่วนหลวงพ่อจะเดินทางไปโดยลำพังในวันที่ 31 ตุลาคม 2498
หลวงพ่อบ๋าวเอิง  ทราบข่าวว่า หลวงพ่อโอภาสีจะไปอินเดียก็จะขอติดตามไปด้วย  แต่หลวงพ่อบอกว่า
"ขณะนี้ท่านมีธุระมาก  อย่าเพิ่งไปดีกว่า  และอาตมาไปครั้งนี้ก็ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตเหมือนคนอื่นเขา  จึงให้ร่วมไปไม่ได้"
ภายหลังจาก นายสนิท วชิรสาร กับ นาย ยี.อี.เอิร์ดเดินทางไปถึงอินเดีย  ได้พำนักอยู่ในพุทธวิหารแห่งหนึ่ง  ซึ่งทางพุทธสมาคมอินเดียจัดไว้รับรอง   ครั้นเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 31 ตุลาคม 2498 นายยี.อี.เอิร์ด  ได้เห็นภาพของหลวงพ่อโอภาสีลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะ  ใบหน้าของท่านอิ่มเอิบสดใส  ภาพนั้นปรากฏเพียงชั่วครู่ก็เลือนหายไป
ครั้นตกบ่ายได้มีคนเข้ามาบอกแก่คนทั้งสองว่า  มีพระแก่รูปหนึ่งรอพบอยู่ข้างนอก  จึงรีบชวนกันออกไป  กลับพบหลวงพ่อโอภาสียืนรออยู่! ท่านบอกว่า
"ฉันมาตามคำพูด  ไม่มีอะไรมาห้ามฉันได้  อย่าแปลกใจเลย"
ศิษย์ทั้งสองดีอกดีใจ  รีบพาหลวงพ่อเข้าไปยังพุทธวิหารพลางขอตัวเพื่อไปเอาของในห้องพักของตน  เตรียมจะนำหลวงพ่อออกชมบ้านเมืองอินเดีย  แต่ในขณะนั้นเอง  มีบุรุษไปรษณีย์นำโทรเลขมาส่ง  คนทั้งสองเปิดโทรเลขอ่านดูแล้วต้องยืนตัวแข็งเพราะข้อความมีว่า "หลวงพ่อโอภาสีมรณภาพเช้าวันที่ 31 ตุลาคม 2498 กลับด่วน"
ปัจจุบันศพของหลวงพ่อโอภาสียังคงอยู่ในอาศรมบางมดเชิญผู้มีจิตศรัทธาไปนมัสการได้

อิติ สุคคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ  ฐิตคุโณ อาจาริโย จะมหาเถโร
มหาลาโภ สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะนัง ภะวันตุเม

ออฟไลน์ big tod

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 792
  • เพศ: ชาย
  • ...เทพพฤหัส...
    • ดูรายละเอียด

ออฟไลน์ ปุญฺญานุสฺสติ(สิบทัศน์)

  • *โปรดระวัง - สีลัพพตปรามาส, ๗ เดือน ๑๙ วันจะเก็บแต่ความทรงจำที่ดีๆไว้, ตถตา (เช่นนั้นเอง).
  • ...
  • *****
  • กระทู้: 6436
  • เพศ: ชาย
  • ผู้สอนคือผู้ลวง? ผู้เรียนคือผู้หัดที่จะลวง?
    • ดูรายละเอียด
    • เฟสบุ๊ควัดบางพระ (หลวงพ่อเปิ่น)
ขอบคุณครับที่นำมาให้ได้อ่านกัน :015: