ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๓
หลักออกพรรษาก็ถึงฤดูเก็บเกี่ยว ปีนี้เป็นโชคดีของชาวบ้านแถบนี้ ที่นาข้าวได้ผลผลิตดี
ไม่โดนน้ำท่วมหรือเพลี้ยลง ส่งผลให้ได้รับผลเต็มที่ ข้าวก็ได้ราคาดี ชาวนายิ้มออก มีเงินพอจะใช้จ่าย
เพราะอาชีพหลักของชาวบ้านก็คือการทำนา การประมงในลำน้ำโขงและมีส่วนหนึ่งที่ออกไปขายแรงงาน
หลังสิ้นฤดูกาลทำนา จังหวัดมุกดาหารปี้นี้ปลอดภัยจากน้ำท่วม เพราะเป็นพื้นที่สูงและตั้งอยู่อีสานกลาง
จึงไม่ค่อยจะมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมมากนัก จะมีบ้างแต่ก็ไม่ท่วมขัง ไม่เกิน ๕ ชั่วโมงก็ระบายลงแม่น้ำโขง
ช่วงเวลานี้จะญาติโยมลงมาวัดน้อย เพราะว่าต้องออกไปเกี่ยวข้่าวกัน ซึ่งข้าวจะสุกพร้อมๆกันเกือบทุกนา
ทำให้บางครั้งขาดแรงงาน เกี่ยวข้าวกันไม่ทัน ต้องจ้างคนลาวมาช่วยเกี่ยวข้าว คือวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่
รอบๆวัด ปีไหนข้าวดีชาวบ้านก็มีความสุข ไม่เป็นหนี้เป็นสิน พออยู่พอกิน มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส.ที่กู้มาลงทุน
งานบุญกฐิน งานบุญผ้าป่าก็มีกำลังทรัพย์กำลังศรัทธาที่จะมาร่วมบุญกัน นั่งดูท้องนาหน้าวัด ดูโยมเขาเกี่ยว
ข้าวกัน จึงเขียนรำพันบรรยายมาเป็นบทกวี....
ท้องทุ่งนายามหน้าเกี่ยว
เหลืองอร่าม งามตา ยามหน้าเกี่ยว
ข้าวรอเคียว เกี่ยวรวง ก่อนร่วงหล่น
เสียงตะโกน รวมพลัง กำลังพล
ช่วยกันขน ช่วยกันเกี่ยว เรียวรวงงาม
เมื่อสิ้นฝน ลมหนาว เข้ามาสู่
เป็นฤดู เก็บเกี่ยว เหลืองอร่าม
ข้าวในนา ได้เวลา กำหนดยาม
เป็นไปตาม วิถี ชาวนาไทย
ข้าวรอลาน งานรอคน ผลผลิต
คือชีวิต ชาวนา รอฟ้าใหม่
ข้าวได้ผล ราคาดี มีกำไร
ต่างหน้าใส มีสุข กันทุกคน
เสียงเฮฮา ดังแว่วมา จากนาข้าว
คนหนุ่มสาว ร่วมแรง ทุกแห่งหน
ช่วยกันเกี่ยว ช่วยกันมัด จัดแบ่งคน
ช่วยกันขน ช่วยกันทำ ตามกำลัง
ข้าวสู่ลาน รอการ ตีนวดข้าว
คนหนุ่มสาว ร่วมแรง แต่งความหวัง
ขนข้าวเปลือก ตากในลาน ตามกำลัง
รวมพลัง ลงแขก แยกกันทำ
เก็บข้าวแห้ง ขึ้นยุ้งฉาง รอวันขาย
ด้วยใจหมาย รอราคา มาหนุนค้ำ
มีกำไร คุ้มค่า ที่ได้ทำ
บุญหนุนนำ ปีนี้ มีราคา
ขายข้าวแล้ว ใช้หนี้ ธอกอสอ
ไม่ต้องรอ ใช้หนี้ ในปีหน้า
เพราะปีนี้ ขายดี มีราคา
คนทำนา มีสุข กันทุกคน
คือวิถี ชีวิต ชาวนาไทย
ที่ฝากไว้ กับเวลา กับฟ้าฝน
คือวิถี ชีวิต ของคนจน
ที่ต้องทน หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน....
..............................
แด่ชาวนาไทยผู้ปลุูกข้าวให้เรากิน ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๐๘.๑๗ น./๒๗ ต.ค. ๕๓