แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - โจ้ กาฬสินธุ์

หน้า: [1]
1
ภาพทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในงาน พิธีไหว้ครูหลวงพ่อปิ่น สายอีสาน โดย อ.บุญมี พุ่มทิพย์ และ อ.อ๊อด ผ้าขาว จ.กาฬสินธุ์
ในวัน อาทิตย์ ที่ 21 มีนาคม 2553 ปีนี้ ลูกศิษย์เยอะมากๆ และอีอย่างปีนี้เป็นปีแรกที่จัดงานไหว้ครู ที่อาศรม อ.อ๊อด ผ้าขาว
ซึ่งต่างจากทุกปีที่ผ่านมาที่เคยจัดงานไหว้ครูที่อาศรม อ.บุญมี












































ชมต่อ >>> http://www.e-sarnsakyan.com/webboard/index.php?topic=1304.0

[youtube=425,350]OCxOvHCk0_g[/youtube]

ชมต่อ >>> http://www.e-sarnsakyan.com/webboard/index.php?topic=1306.0

เครดิตเว็บ  www.e-sarnsakyan.com

2
ก่อนอื่นขออนุญาติทางทีมงาน ประกาศข่าวงานไหว้ครูใหญ่หลวงพ่อเปิ่น สายอีสาน นะครับ




<<= ขอเชิญชวน เชิญพุทธศาสนิกชน และศิษย์ยานุศิษย์ทุกๆท่าน =>>

เข้าร่วมงานพิธีไหว้ครูใหญ่หลวงพ่อเปิ่น สายอีสาน เจ้าพิธีโดย อาจารย์บุญมี พุ่มทิพย์
ที่บ้านเลขที่ 277 หมู่ 15 บ้านไผ่ทอง ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ในวันที่ 21-22 มีนาคม 255
กำหนดงาน
วันที่ 21 มีนาคม 2550
เวลา 16.00 น. ทำบุญ สวดมนต์เย็น
วันที่ 22 มีนาคม 2552
เวลา 07.00 น. ทำบุญตักบาตร สวดมนต์ ถวายภัตตาหารพระสงฆ์
เวลา 09.99 น. เริ่มพิธีไหว้ครูใหญ่หลวงพ่อเปิ่น

*** สำหรับท่านใดที่อยู่ไกล คิดว่ามาเข้าร่วมพิธีไม่ทันในเวลา 09.99 น.
สามารถเดินทางมาก่อนกำหนดได้ ทางอาศรมมีที่พักจัดเตรียมไว้ให้ลูกศิษย์ที่เดินทางมาไกล

***ในวันงาน อาจารย์ยังคง สักย์ยันต์ ให้กับลูกศิษย์เหมือนเดิม***
 
แผนที่เส้นทาง ไปงานบ้านเลขที่ 277 หมู่ 15 บ้านไผ่ทอง ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์



3
ได้มาครับ จิ้งจก 2 หาง รุ่นนี้แรงมากๆเลยครับ สรรพคุณไม่ต้องบอกก็รู้นะครับ

รุ่นนี้บอกได้เลยว่าหลวงพ่อเปิ่นสร้างและปลุกเสกเองเลย สุดยอดมากเลย

แต่สร้างปีไหนนั้นผมก็จำไม่ได้ จำได้แต่ว่าสร้างเมื่อปี 25....5 ลงท้ายนี้แหละ

ใครทราบก็บอกด้วยนะครับ ว่าสร้างปีไหนยังงัย ครับ




4
เป็นวันที่มีความสุขอีกวันหนึ่ง วันนั้นไปกันตั้งแต่เช้าเลย เดินทางจาก กาฬสินธุ์ ไปนอนพักที่กรุงเทพ แล้วเดินทางจาก กรุงเทพฯ ไปอ่างทอง ยอดผ้าป่าครั้งนี้ มียอดรวมทั้งสิ้น 50,009 บาท ครับ บรรยากาศก็ชมภาพไปเรื่อยๆนะครับ





ปล. สำหรับใครที่พลาดโอกาศในครั้งนี้ ก็ไม่ต้องผิดหวัง วันที่ 9 พฤศจิกายน 2551

ยังมีอีกครั้งหนึ่งงานคือ ทอดกฐิน ณ วัดนรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง







5
ขุนแผนเคลือบ องค์นี้ สุดยอดมากเลย ผมได้มาโดยบังเอิญเพราะตัวเองชอบขุนแผนอยู่แล้ว ไม่นึกเลยว่าจะเป็นพระกรุ วัดบ้านกลิ้ง แต่จะใช่หรือไม่นั้นก็ต้อง ถามเซียนพระกันแล้วล่ะ

ช่วยดูให้ทีแล้วกันนะครับว่าเป็นยังงัยบ้างพระองค์นี้ครับ จะใช่อย่างที่ฮือหากันหรือไม่ครับ ก็นำมาให้ชื่นชมกัน

ใครรู้บ้างว่า วงการเซียนพระ ตอนนี้เช่ากันกี่บาทแล้วครับ




     





มูลเหตุและความเป็นมาของ"พระขุนแผนเคลือบ" กรุวัดใหญ่ชัยมงคล แตกกรุครั้งใหม่ที่วัดบ้านกลิ้ง หมู่ ๒ ต.บางประแดง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

มีหลักฐานจากโบราณสถานภายในวัดระบุว่า วัดบ้านกลิ้ง สร้างในปี ๒๑๔๓ ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เดิมทีเป็นวัดที่มีสภาพกึ่งร้าง เนื่องจากมีประชากรในหมู่บ้านประมาณ ๑๐๐ คนเท่านั้น (ปี ๒๕๐๒)

แต่เดิมมีเรือนไม้โบราณแห่งหนึ่งซึ่งเดิมอยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา สันนิษฐานว่า เป็นตำหนักของเจ้านายท่านใดท่านหนึ่ง  สร้างขึ้นในราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๒ (สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช)   

ต่อมาได้มีการรื้อเรือนไม้หลังนี้ไปปลูกไว้ที่วัดบ้านกลิ้ง อยู่ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่าง จ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน  เรือนไม้นี้มีอยู่  ๒ หลัง คือ หอไตร เป็นห้องมีระเบียงรอบ และหอเขียน เป็นศาลาไม้ มีฝา ๓ ด้าน ทุกฝามีภาพลายรดน้ำประกอบเต็มทุกฝา

หลายปีต่อมาอาคารทรุดโทรมลงมาก ชาวบ้านจึงได้รื้อ แล้วรวมเอาไม้ปลูกขึ้นใหม่ เป็นหลังเดียว แต่เนื่องจากภาพลายรดน้ำจางไปมากแล้ว การประกอบจึงไม่ได้เรียงตามลำดับเนื้อเรื่อง 

เมื่อต้นปี๒๕๐๒ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต (เสด็จในกรมฯ) ซึ่งเป็นพระนัดดา (หลาน) ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๕ และ สมเด็จพระนางเจ้าสุขมาลมารศรีพระอัครราชเทวีทรงทราบว่า 

ที่วัดเล็กๆซึ่งเกือบจะร้างอยู่แล้วแห่งนี้  มีเรือนโบราณเก่าแก่อยู่หลังหนึ่ง ที่ชำรุดทรุดโทรมมาก  ไม่มีผู้ใดบูรณะรักษาเลย  แต่มีสิ่งสวยงามมาก พระองค์จึงทรงทำผาติกรรม ไถ่ถอนย้ายมาไว้ที่ วังสวนผักกาดและทรงให้มีการบูรณะพระประธานที่วัด ซึ่งชาวบ้านเรียกขานกันว่า หลวงพ่อขาว ระบุปีไว้ที่ฐานขององค์หลวงพ่อขาวว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๑๔๓ สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ทั้งทรงให้สร้างศาลาสวดมนต์และศาลาท่าน้ำ ถวาย วัดบ้านกลิ้งเป็นการทดแทนพร้อมกับบริจาคเงินสำหรับการซ่อมแซมตัวอาคารและภาพลายรดน้ำเป็นจำนวนมาก เสด็จในกรมฯ ประทานหอเขียนเป็นของขวัญแก่ "คุณท่านฦ" เมื่ออายุครบ๕๐ ปี ในวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๐๒ และเชิญชาวบ้านกลิ้งมาทั้งหมด ซึ่งขณะนั้นมีอยู่ประมาณ ๑๐๐ คน เพื่อให้มาชมหอเขียนที่ย้ายมาจากวัดบ้านกลิ้ง และได้ปลูกสร้างใหม่นี้ (ปัจจุบันสามารถชมได้ที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด)

นอกจากการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ในปี ๒๕๐๒ แล้ว เสด็จในกรมฯ ได้ทรงสร้างขุมทรัพย์ไว้ในฐานชุกชี ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่คือ หลวงพ่อขาว ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง  มีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ อีก ๗ องค์ เรียงรายอยู่โดยรอบ 

โดยไม่มีใครในสมัยนั้นคาดคิดถึงมาก่อนว่า การบูรณะซ่อมแซมในสมัยนั้น พระสงฆ์และชาวบ้านได้นำ พระเครื่องที่มีอยู่ส่วนนำมาเก็บรักษาไว้ในวัด  ซึ่งมีพระพุทธรูปสมัยอยุธยาจำนวนมาก พระโคนสมอ พระขุนไกร แม้แต่พระแผงใบขนุนก็มี 

นอกจากนี้ยังมี พระขุนแผนเคลือบที่สมัยนั้นค่านิยมในการแลกเปลี่ยนเป็นเงินทองยังไม่มีค่ามากมายอะไรนัก  ชาวบ้านได้นำ พระขุนแผนเคลือบมาบรรจุไว้ในฐานชุกชี รวมไปถึงใต้ฐานพระองค์เล็กๆ  ที่ประดิษฐานอยู่รายรอบพระประธานองค์ใหญ่  กลายเป็น ขุมทรัพย์ที่มีค่ามหาศาล ทิ้งไว้ให้ลูกหลานในทุกวันนี้

การบูรณะในเวลานั้นรวมถึงครั้งต่อๆ มา เป็นการบูรณะโดยชาวบ้านวัดบ้านกลิ้งเอง มีการโบกปูนทับ ทาสีใหม่ จากการสังเกตพระพุทธรูปปูนปั้นคราวแตกกรุ  พบว่ามีการเคลือบปูนปิดอยู่หลายชั้น
เมื่อวันที่๒ กันยายน ๒๕๕๐ มีการขุดพบ  พระขุนแผนเคลือบ ได้ที่บริเวณฐานชุกชีของพระองค์เล็ก ที่เป็นองค์บริวารองค์หนึ่ง (จากรูปองค์ขวามือสุดของเรา) พร้อมกับ พระขุนไกรอีก๒ องค์ 

เวลานั้นยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นพระอะไร  จึงมีการนำพระที่ขุดได้มาแจกจ่ายกันในหมู่พระสงฆ์ และกรรมการวัด 

ต่อมามีพระสงฆ์วัดโปรดสัตว์รูปหนึ่ง (อยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดบ้านกลิ้ง) ได้นำพระที่ขุดได้ไปให้เซียนพระพิจารณาดู  โดยบอกว่าเป็นพระมรดกตกทอด  มีอยู่ด้วยกันหลายองค์ แต่ยังไม่ได้แบ่งปันกันระหว่างพี่น้อง 

เซียนพระบอกว่าเป็น พระขุนแผนเคลือบกรุวัดใหญ่ชัยมงคล  เช่าหากันแพงมากเป็นเงินแสนเงินนล้านขึ้นไป 

เมื่อได้รับทราบความจริงว่าเป็นพระที่มีค่ามหาศาล เช่าหากันหลักล้าน  ทำให้เกิดการเจรจาซื้อขายกันในหมู่พระสงฆ์ และกรรมการวัดด้วยกัน  รวมถึงมีเซียนพระท้องถิ่นเข้ามามีส่วนในการขุดพระออกมาจำหน่าย หลายต่อหลายองค์ ทำให้มีพระหลุดไปจากวัดในช่วงแรกนั้นจำนวนหนึ่ง

จนข่าวแพร่กันไปปากต่อปากถึงมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้น  ทำให้ปิดข่าวกันไม่อยู่  จึงมีการขุดค้นอย่างไม่เป็นทางการ ในวันที่ ๔ กันยายน โดยความยินยอมของเจ้าอาวาส และกรรมการวัด   

ต่อเมื่อวันที่๖ กันยายน  คณะกรรมการวัด ได้ลงมติให้มีการนำพระที่เหลือทั้งหมด ออกจำหน่ายรวม ๑๐ องค์ โดยมีการตั้งมูลค่าไว้สูงถึง ๑๐ ล้านบาท  ถึงกระนั้นก็มีเซียนพระทั้งในท้องถิ่น และจากรุงเทพฯ ไปซื้อพระทั้งหมดทันที

หากจะนับรวมพระขุนแผนเคลือบที่มีการจำหน่ายอย่างลับๆจนถึงการซื้อขายอย่างเปิดเผย คาดว่ามีพระทั้งหมดจำนวน ๒๘ องค์ ในจำนวนนี้เป็นพระแตกหักเกินกว่า ๑๐ องค์ เป็นความเสียหายเนื่องจากการขุดค้นโดยเร่งรีบ และผิดวิธีการขุดพระทั้งสิ้น

จากหลักฐานทั้งหมด ที่ได้จากทางวัด  พอจะประมาณที่มาของ พระขุนแผนเคลือบกรุใหม่นี้ได้ว่าเป็นพระที่ชาวบ้านวัดบ้านกลิ้ง ซึ่งมีประมาณ ๑๐๐ คน ซึ่งเป็นหมู่บ้านของช่างฝีมือ (พิจารณาจากคำบอกเล่า และเรื่องของการบูรณะเรือนไม้ประวัติศาสตร์)  ได้เดินทางไปช่วยบูรณะ วัดใหญ่ชัยมงคล ในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา และเป็นต้นกำเนิดของ  พระขุนแผนเคลือบ เมื่อเสร็จงานก็ได้นำ พระขุนแผนเคลือบติดไม้ติดมือมากลับมาบ้าน บางคนก็ได้นำองค์พระมาลงรักปิดทอง   ต่อมาเมื่อปี๒๕๐๒ มีการบูรณะพระประธานที่วัดบ้านกลิ้ง  ชาวบ้านก็ได้นำพระขุนแผนเคลือบที่ได้มานั้น บรรจุไว้ที่ฐานพระหลวงพ่อขาวเอาไว้ด้วย

พระขุนแผนเคลือบ ที่ขุดพบในฐานชุกชีพระหลวงพ่อขาว เมื่อค้นคว้าโดยละเอียดแล้ว  ปรากฏว่าได้มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระนัดดา (หลาน) ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช  อีกทั้งเรือนไทย ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของโลก ก็ยังสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ มหาราช อีกด้วย   

การขุดพบพระขุนแผนเคลือบวัดใหญ่ชัยมงคล กรุใหม่จากวัดบ้านกลิ้ง ในครั้งนี้ ได้สร้างสีสัน ให้กับวงการพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง  จนมีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง


ขอขอบพระคุณ
จ.ส.ต.ทวี วงษ์สิทธิ์
 
คม-ชัด-ลึก



สาธุ...อนุโมทนา

6
เป็นภาพเก่าหลวงปู่หิ่ม  ที่ระลึกในงานศพ พระอุปัชฌายะหิ่ม อินทโชโต

เจ้าคณะตำบล วัดบางพระ อำเภอนครชัยศรี นครปฐม ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๖

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

7
เป็นภาพที่ อาจารย์อ๊อด เก็บไว้นานมาก มีท่านใดที่ทราบบ้างลองเข้ามาโพสกันดูหน่อยว่าจะทายถูกกันหรือเปล่า

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

8
เป็นภาพ สมัยที่ตาบุญมี ยังบวชอยู่ที่วัดบางพระ แล้วเป็นวันที่มีพิธีเททองหล่อพระกริ่ง หลายปีที่ผ่านมา

อาจารย์มนตรี พุ่มทิพย์ ศิษย์หลวงพ่อเปิ่น สายอีสาน

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

9
อาจารย์มนตรี พุ่มทิพย์ (อ.อ๊อด) ศิษย์ก้นกุฏิ ที่พูดกันว่าใกล้ชิดหลวงพ่อเปิ่นมาก สมัยที่หลวงพ่อเปิ่นยังอยู่

 และอาจารย์บุญมี พุ่มทิพย์ (บิดา อ.อ๊อด) ศิษย์เอกหลวงพ่อเปิ่นโดยตรง

ในปีนี้ อ.อ๊อด นำทีมเองเลยจากกาฬสินธุ์ เพื่อเข้าร่วมพิธีไหว้ครูปี 51ที่ วัดบางพระ

นับว่าเป็นบุญตามากปีนี้ที่อ.อ๊อดเข้าร่วมพิธีด้วยและ ของขึ้น ไม่เคยเห็นอาจารย์ของขึ้นเลย

อาจารย์ อ๊อด บอกว่าตั้งแต่เดินทางมาในวันที่ 21 มี.ค. 51 รู้สึกว่าปีนี้แรงมากของจะขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 แล้ว

แต่ก็เก็บไว้ก่อน เมื่อถึงวันที่ 22 อาจารย์อ๊อดก็ปล่อยเต็มที่ อาจารย์กล่าวว่า หลวงปู่เปิ่น ดีใจที่มาปีนี้ (อ.อ๊อด เข้าชาญ แล้วเล่าให้ฟัง) ก็เลยทำให้ อ.อ๊อด? ของขึ้น

ตลอดงานเลย นับว่าปีนี้แรงมากๆที่วัดบางพระ และลูกศิษย์ทุกๆท่านที่เข้าร่วมพิธี ผมก็รู้สึกว่าปีนี้คนเยอะมากกว่าทุกปีและแรงมากจริงๆ

ในปีนี้ที่ไป ยังไปไม่ทั่ววัดเลยเพราะคนเยอะมากเวลาก็มีน้อยต้องรีบกลับ ปีหน้า 52 คงจะได้ไปเข้าร่วมพิธีที่วัดบางพระ อีกแน่

ก็ขอบุญบารมีหลวงปู่ สาธุ....สำหรับที่กาฬสินธุ์ จะทำพิธีไหว้ครู ในวันที 29-30 มีนาคม 2551 ที่สำนักอาศรม อาจารย์บุญมี พุ่มทิพย์

แล้วจะนำภาพพิธีไหว้ครูที่กาฬสินธุ์มาให้ชมกันนะครับ




[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

10
อาจารย์ บุญมี พุ่มทิพย์ และ อาจารย์ มนตรี พุ่มทิพย์ (อ.อ๊อด)  สำนักอาศรม อยู่ที่จ.กาฬสินธุ์ สายหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ

ประวัติและความเป็นมาคร่าวๆ

      หลวงพ่อเปิ่นเดินทางธุดงมากาฬสินธุ์ในปี พ.ศ. 2510 อ.บุญมี พุ่มทิพย์ ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับหลวงพ่อเปิ่น หลังจากนั้นหลวงพ่อเปิ่นก็ธุดงกลับมาที่กาฬสินธุ์ทุกปี และได้มาพักที่บ้านอ.บุญมี ในแต่ละครั้งที่มาได้มาพักอาศัยอยู่กับ อ.บุญมีนานถึง 7 วัน และได้สอนวิชาอาคมให้กับ อ.บุญมี พุ่มทิพย์จนได้วิชา เชี่ยวชาญอาคมและมีลูกศิษย์เพิ่มมากขึ้นจึงได้มีการจัดพิธีไหว้ครูที่จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นประจำทุกปีจนเป็นที่ไว้วางใจของหลวงพ่อเปิ่นจึงได้มอบหมาย ให้อ.บุญมีจัดพิธีไหว้ครูด้วยตนเองในครั้งแรกนั้นคือ ปี พ.ศ.2524
      ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนถึงปีพ.ศ. 2534 อ.บุญมีจีงมีลูกศิษย์สายภาคอีสานที่จังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียง ส่วนอาจารย์มนตรี พุ่มทิพย์ (อ. อ๊อด) ลูกชายอาจารย์บุญมี พุ่มทิพย์ ก็ได้มอบเป็นลูกบุญธรรมให้กับหลวงพ่อเปิ่นตั้งแต่อายุ 12 ขวบ ลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่นสายจังหวัดกาฬสินธุ์ และใกล้เคียง หลังจากนั้นก็ได้ทำผ่าป่าไปวัดโคกเข่มา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ในทุกๆปีจนกระทั่งได้มาอยู่ที่วัดบางพระสือสัมพันธ์กันศรัทธาหลวงพ่อเปิ่นจนมาถึงปัจจุบัน สำหรับอาจารย์อ๊อดได้สืบทอดวิชามาจากอาจารย์บุญมี จนได้สำเร็จวิชาและเชี่ยวชาญในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นวิชาทางด้านโหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ อาจารย์อ๊อดจึงได้มีโอกาสครอบเศียรกับหลวงพ่อเปิ่นโดยตรงและยังคงได้ปฏิบัติ ดูแล หลวงพ่อเปิ่นอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังได้รับการอบรมสั่งสอนในหลักวิชาตำราหนังสือใบข่อยต้นฉบับหลวพ่อเปิ่นจึงได้เชี่ยวชาญในวิชาที่ได้ร่ำเรียน เมือสำเร็จวิชาในด้านโหราศาสตร์แล้วต่อมาจึงได้จับเข็มสักต์ยันช่วยอาจารย์บุญมี พุ่มทิพย์ จนกระทั่งมีลูกศิษย์มากมายจนไปถึงมาเลเชีย และได้ตั้งสำนักอยู่ที่ประเทศมาเลเชีย ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2543 

11
ขออนุญาติทางเว็บประกาศข่าวสารหน่อยนะครับ

แจ้งข่าวตอนนี้เว็บไซต์ อ.บุญมี และ อ.อ๊อด เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อเปิ่นโดยแท้

สำหรับหลายๆท่านที่ยังไม่ทราบข้อมูลสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.e-sarnsakyan.com  อีสานสักยันต์


12
http://kamankwes.igetweb.com 
อาจารย์บุญมี พุ่มทิพย์ และ อาจารย์มนตรี พุ่มทิพย์ (อ.อ๊อด) สายภาคอีสาน
ศิษย์หลวงพ่อเปิ่นแท้ๆๆ สำนักท่านอยู่ที่กาฬสินธุ์ ได้ร่วมทำพิธีไหว้ครูขึ้นที่ข้างสนามกีฬากลางจ.กาฬสินธุ์
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีลูกศิษย์เข้าร่วมพิธีมากมาย

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

หน้า: [1]