กระดานสนทนาวัดบางพระ

หมวด ธรรมะ และ นอกเหตุ เหนือผล => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ, กฎแห่งกรรม และ ประสบการณ์วิญญาณ => สนทนาภาษาผู้ประพฤติ => ข้อความที่เริ่มโดย: รวี สัจจะ... ที่ 24 ก.ย. 2554, 05:30:17

หัวข้อ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๓ กย. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: รวี สัจจะ... ที่ 24 ก.ย. 2554, 05:30:17
คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๓ กย. ๕๔...
ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
เสาร์ที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
        ฝนตกหนักตั้งแต่เช้า ออกไปตรวจดูรางน้ำตามจุดต่างๆที่รองรับน้ำฝน
เพราะว่าอาศรมนั้นตั้งอยู่บนเขา ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ ต้องเก็บกักน้ำฝนไว้
เพื่อใช้เป็นน้ำอาบและใช้ในการซักล้าง ซึ่งได้จัดเตรียมถังเก็บกักน้ำไว้แล้ว
จะเก็บกักน้ำสำรองไว้ใช้ได้ประมาณ ๑๕,๐๐๐ ลิตร ฝนตกลงมาในครั้งนี้
ทำให้ได้ปริมาณน้ำตามที่ต้องการ ได้น้ำเต็มเกือบทุกจุดที่รองรับน้ำไว้
เก็บตัวอยู่ในที่พักเกือบทั้งวัน ฟังธรรมบรรยายของครูบาอาจารย์ที่ได้บันทึกไว้
เขียนบทความ บทกวี ตอนที่อารมณ์ธรรมนั้นเกิด เพลิดเพลินอยู่ในวิหารธรรม......
            " ภายนอกเคลื่อนไหว  ภายในสงบนิ่ง "  สงบนิ่งนั้นหมายถึงการไม่หวั่นไหว
ไปตามกระแสโลกทั้งหลาย ไม่ยินดียินร้าย กับสิ่งที่ประสพพบเห็น วางใจให้เป็นกลาง
มองทุกอย่างด้วยเหตุและผล ซึ่งอยู่บนหลักธรรม แล้วนำมาประยุกค์ใช้ให้เหมาะสม
กับสถานการณ์  อย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านได้กล่าวสอนไว้ว่า " ให้ทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง
 " คือว่างจากกิเลส ตัณหาและอัตตา พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นธรรมะ สอดคล้องกัน
ทั้งในทางโลกและทางธรรม นำมาใช้และปฏิบัติได้จริงกับชีวิตประจำวัน ใช้ได้กับทุกเรื่องราว
 อยู่บนพื้นฐานของความพอดี พอเพียง ไม่เป็นภัยต่อชีวิต ไม่เป็นพิษกับผู้อื่นไม่ฝ่าฝืนศีลธรรม
ประเพณีอันดีงาม เป็นไปโดยชอบและประกอบด้วยกุศล นั่นคือแนวทางของการปฏิบัติธรรม
ที่นำมาประยุกค์ใช้กับชีวิตประจำวัน ที่ต้องมีความสัมพันธ์ ต้องพบปะกับผู้คนมากมาย
ต่างจิตต่างใจต่างปัญหา ซึ่งไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ จึงต้องฝึกทำใจให้อยู่เหนือปัญหา
 ฝึกจิตนั้นให้ว่างจากกิเลส ตัณหาและอัตตา ฝึกพิจารณาปรับเข้าหาหลักธรรมทั้งหลาย
เพื่อให้ชีวิตนั้นก้าวเดินไป พร้อมกันได้ ทั้งทางโลกและทางธรรม........
          " มีสติแนบอยู่กับตัวรู้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน พิจารณาลมหายใจเป็นพระไตรลักษณ์
พิจารณากายคตานุสติ คือพิจารณาร่างกายของเราเอง ให้มันชัดแจ้ง ทั้งกายภายนอก
และกายภายใน เมื่อเราเห็นกายและจิตของเราแล้ว เราก็จะเห็นและเข้าใจในกายและจิต
ของผู้อื่นเช่นกัน " ทำความรู้ความเข้าในกายและจิตของตน ค้นให้เจอซิ่งกิเลสตัณหาอัตตา
ที่มีอยู่ในจิตของตนให้เจอ รู้เห็นและเข้าใจ โดยการคิดพิจารณาถึงคุณถึงโทษ ถึงประโยชน์
และไม่ใช่ประโยชน์ของสิ่งเหล่านั้น เป็นไปเพื่อความจางคลายแห่งกิเลสตัณหาอัตตาอุปทาน
ด้วยการใช้จิตพิจารณาในธรรมทั้งหลาย ซึ่งเป็นปัจจุบันธรรม คือสิ่งที่กำลังเห็นและเป็นอยู่
รับรู้ได้ด้วยจิต โดยการคิดและพิจารณาเข้าหาหลักธรรมทั้งหลาย.......
                      เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
                            รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๒๔ กันยายน ๒๕๕๔ เวลา ๐๕.๒๕ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๓ กย. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: yout ที่ 24 ก.ย. 2554, 05:58:13
ขอกราบนมัสการพระอาจารย์ครับ............. :090: :090: :114: :090: :090:........
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๓ กย. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: saken6009 ที่ 24 ก.ย. 2554, 06:35:28
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ :054: :054:
                                     
ให้ทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง คือว่างจากกิเลส ตัณหาและอัตตา พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นธรรมะ
                                                                                                                                         
ขอบพระคุณ ท่านพระอาจารย์ สำหรับคำสอนดีๆ ที่นำมาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้อ่านครับ
                                                                                                                                                       
(ขออนุญาตเข้ามาอ่าน เพื่อเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ) :033: :033:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๓ กย. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: tom2007 ที่ 24 ก.ย. 2554, 11:15:22
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๓ กย. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: ~@เสน่ห์เอ็ม@~ ที่ 24 ก.ย. 2554, 12:50:59
กราบมนัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณสำหรับคำสอน ครับ  :054:
หัวข้อ: ตอบ: คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านไป ๒๓ กย. ๕๔...
เริ่มหัวข้อโดย: boomee ที่ 24 ก.ย. 2554, 07:14:26
กรายนมัสการครับพระอาจารย์  :002: