แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - อภิรัตน์

หน้า: [1]
1
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ที่ผ่านมาตั้งใจไปที่วัดเพื่อกราบขอพรจากหลวงพ่อต้อยและไปทำบุญที่วัด  :054: ดีใจที่ได้เห็นหลวงพ่อจับเข็มสักให้ลูกศิษย์อีกครั้ง เข้าไปก็มองท่านด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ดูท่านแข็งแรงขึ้นมากครับ สีหน้าท่านดูสดชื่นและอารมณ์ดีเหมือนเดิม หลังจากหยุดสักไปนาน เพราะไปวัดบ่อยๆก็มีแต่เข้าไปกราบหลวงปู่เปิ่น ไปทำบุญแต่ไม่ได้เข้าไปสัก เพราะคนเยอะทุกเสาร์อาทิตย์ วันนี้เลยยกพาน 1 พานหลวงพ่อท่านเมตตาลงอักขระให้ เชื่อมระหว่างงบน้ำอ้อยทั้งสอง กับยันต์แปดทิศให้ครับ ขอบอก สะดุ้งทุกเข็มเลย (ไม่ได้สักนานแล้วครับ) :009: ก่อนกลับ ก็ทำบุญกุฏิใหญ่บูชารูปหลวงปู่เปิ่น กับพระบูชานั่งเสือปี 47 กลับบ้าน ก็ไปลาหลวงพ่อต้อยท่านกลับบ้าน ท่านเมตตาปิดทองและอธิฐานจิตให้ และให้พรให้ก้าวหน้าในอาชีพการงานแล้ววันหลังค่อยมาใหม่นะวันนี้คนเยอะ  ได้ยินแล้วแทบน้ำตาซึมเลยครับ
สุดท้าย ฝากศิษย์พี่ศิษย์น้องที่ช่วยกันบอกต่อๆกันในเรื่องการแต่งกายของสาวๆที่เข้าไปกราบพระอาจารย์ท่านนะครับไม่ว่าจะไปสักยันต์หรือไปทำบุญ ขอให้ช่วยแต่งกายให้เหมาะสมกันซักหน่อย ตอนนั่งรอสักอยู่แฟนผมบอกว่าขนาดผู้หญิงด้วยกันมองเห็นแล้วยังอายแทนเลยครับ (ไม่ขอบรรยาย :075:)
รูปบูชาหลวงปู่เปิ่นครับ หลวงพ่อต้อยเมตาปิดทองให้  :054:

พระบูชานั่งเสือปี 47

ใต้ฐานครับ


 หากการบอกกล่าวเรื่องการแต่งกายทำให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องหลายๆท่านไม่พอใจ ต้องขอภัยมา ณ ที่นี้นะครับ

2
พุทธคุณครอบจักรวาลสมชื่อเลยครับ  :001:  (ฝากไว้ให้เพื่อนๆพี่ๆดูครับ)






 


3
อยากเอาไปเข้ากรอบให้ภรรยาครับ เป็นของขวัญวันเกิดเค้า รบกวนเพื่อนๆพี่ๆให้ข้อมูลด้วยครับ  :001:
สร้างโรงพยาบาล






นั่งซุ้มมหาเศรษฐี








ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ




4
สวัสดีครับพี่น้องชาวกระดานสนทนาวัดบางพระทุกท่าน
ก่อนอื่นต้องขออภัยหากรูปภาพไม่ชัด และไม่ได้มีเจตนาอื่นใดๆ นอกจากเห็นว่ามีความสวยงามและแปลกตา
เป็นของศาสนาพุทธเราเหมือนกันนะครับ ว่างจากงานมีโอกาสก็ฝากให้ชมผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ  :077:
เป็นวัดในเมือง นารา ใกล้ๆ จังหวัดโอซาก้าครับ
ที่ทางขึ้นครับ ในรูปประมาณ 14 องศาครับ หนาวสำหรับคนไทยอย่างผมครับ


ประตูวิหารครับ เสาไม้หนึ่งต้นก็สามคนโอบครับใหญ่มากครับ

นี่ก็รูปวิหาร มองจากไกลๆใหญ่มากครับ



ภายในมีพระพุทธรูปใหญ่มากครับ อายุก็สองร้อยกว่าปีแล้วครับ



นี่รูปปั้นเทพเจ้าครับสูงใหญ่มากครับ



รูปสลักที่ฐานบัวสวยงามมากครับ เล่าเรื่องสวรรค์ทั้ง 16 ชั้นครับ



มุมเช่าบูชาวัตถุมงคลของที่นี่ก็มีครับ (คิดถึงกุฏิใหญ่ที่วัดบางพระ)



 อุ่นใจเสมอกับล๊อกเก็ตหลวงปู่เปิ่นครับ เสาร์ห้ารุ่นประสบการณ์ของผมเลยครับ ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำคล้องคอติดตัวตลอด มีวันนี้ก็บารมีหลวงปู่กับครูบาอาจารย์วัดบางพระช่วยส่งเสริมครับ สาธุ  :054: :054: :054:
   

เกร็ดความรู้เพิ่มเติมนะครับ
ที่ญี่ปุ่นศาสนาที่คนนับถือมากที่สุดอันดับหนึ่งคือศาสนาชินโต นับถือ ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำและ ธรรมชาติ เชื่อว่ามีเทพเจ้าสถิตอยู่ประมาณนั้นครับ
อันดับสองคือศาสนาพุทธครับ
อันดับสามคือศาสนาคริสต์ครับ
อันดับสี่คือศาสนาอื่นๆ ครับ (คนญี่ปุ่นหนึ่งคนอาจนับถือมากกว่าหนึ่งศาสนาครับถือเป็นเรื่องธรรมดา)
ที่นี่ไม่มีวันหยุดทางศาสนาครับ
ปล. คิดถึงบ้าน คิดถึงวัดบางพระ คิดถึงพระอาจารย์ทุกท่านครับ ขอบคุณครับ













5
เอาเหรียญ 2541 มาเทียบ แท้ กับ ที่ทำล้อพิมพ์ให้ชม เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันกับมือใหม่ (เหมือนผม)
ขอบคุณรูปเหรียญ 2541 แท้สีทองทางขวา จากกระดานสนทนาวัดบางพระนะครับ ( จำไม่ได้แล้วว่าของท่านใด ต้องขออภัยครับ  :054: )
และเหรียญ ทำล้อพิมพ์ ทางซ้าย ( ของผมเอง  :075: เจอที่ระยองครับ )



ผิดพลาดหรือไม่เหมาะสมประการใดขออภัยด้วยนะครับ  :054:

6
ขอขอบพระคุณเรื่องเล่าจาก นายอุทัย มีกาหลง ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
เอามาให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อ่านกันครับ  :001:
ทหารไทยไม่ว่ายุคสมัยไหน เมื่อคราวออกรบมักจะหา “ของดี” พกติดตัวไปด้วย นายอุทัย มีกาหลง ใช้ชีวิตอยู่กลางสนามรบในสงครามเวียดนามช่วงปี ๒๕๑๓-๒๕๑๔ เมื่อรอดปลอดภัยกลับมาก็เข้าทำงานในองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจนปัจจุบัน

“ทหารเป็นเหมือนรั้วบ้าน ไม่ว่าในยุคไหน ศึกสงครามเกิดขึ้นตลอด ตอนไปรบในสงครามเวียดนาม ทหารไทยทุกคนจะมีพระเครื่องแขวนคอไปด้วย ตอนผมไปก็มีสมเด็จพระพุทธชินราชองค์หนึ่ง พระพุทธโสธรองค์หนึ่ง และเหรียญหลวงพ่อเต๋ คงทอง ซึ่งเป็นพระที่ผมนับถือมาก และแม่ก็ยังฉีกชายผ้าถุงให้เอาไปด้วย ท่านว่า ให้เอากลับมาคืนด้วย คล้ายๆ กับว่า เป็นความเชื่อมั่นว่าเราจะไม่ตาย ต้องเอากลับมาคืน ก็รู้สึกตื้นตันใจมาก คิดถึงแม่ตลอด

“อยู่กลางสนามรบ เราไม่รู้ว่าจะถูกลูกกระสุนหรือไม่ เมื่อไร นอนตรงโน้นก็ตูม นอนตรงนี้ก็ตูม ลูกระเบิดมันลงมา รอดไปได้วันๆ ก็นึกว่า อืม เรารอดเพราะคุณพระคุณเจ้าช่วย ไม่ได้ท่องหรอกชินบัญชร เพราะว่ายาวเหลือเกิน ผมเอาพระแขวนคอ อาราธนาคุณพระให้คุ้มครอง ชายผ้าถุงแม่ก็เก็บไว้ในกระเป๋า พกติดตัวไว้ตลอด บางคนก็มีผ้ายันต์ ได้จากอาจารย์ที่นับถือ เป็นผ้ายันต์สีแดง มีลายอักขระขอมโบราณ ถ้าเป็นเสื้อยันต์ก็สวมไว้ ผ้ายันต์ก็ผูกแขนหรือเก็บใส่กระเป๋า ตะกรุดก็เอาแขวนไว้ที่เอว บางคนห้อยพระเป็นพวงเต็มคอเลย ๒๐-๓๐ องค์ อย่างหนักเลย ยังคุยกับเขาเลยว่า นี่เพื่อน ถ้ารอดตายจะรู้ไหมว่าองค์ไหนช่วย แต่ก็นั่นแหละ พกไปแล้วมันอบอุ่นใจว่า ไม่ตาย ไม่เป็นไร เราทำงานเพื่อประเทศชาติ ทำความดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องคุ้มครอง แต่หลายคนที่พกพระก็ตายได้ เขาเรียกว่า หมดบุญ

“พื้นที่ที่อันตรายมากๆ มีพวกเวียดกงมากๆ เรียกว่า พื้นที่ดุ ทหารอเมริกันไม่ไปกันหรอก จะให้ทหารไทยไป ฝรั่งเห็นทหารไทยไปรบทีไรมันไม่ตาย ไม่ค่อยจะบาดเจ็บ แต่ของเขาไปทีไรก็เจอแจ็กพ็อตทุกที แต่ทหารไทยลุยถั่วไป เรียบร้อย ไม่เป็นไรหรอก สูญเสียบ้างเล็กน้อย ไม่ถึงกับตาย แคล้วคลาด จริงๆ นะเรื่องนี้ คล้ายๆ ว่าจิตใจเราเชื่อมั่นว่าคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองเรา เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจริงๆ ตอนที่ผมไป ผมเชื่อมั่นว่าคุณพระต้องคุ้มครอง ไม่เป็นไรนะ แต่ต้องทำความดีด้วย พระถึงจะคุ้มครองเราจริง

“ทหารอเมริกันก็มานิยมพระเครื่องตามเราเยอะเลย เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ตอนกินข้าว ตอนพักผ่อนอยู่ในเต็นท์ ทหารไทยถอดเสื้อออกมา พระเต็มคอเลย บางคนเสื้อยันต์แดง แถมมีกระเป๋าเต็มตัว ในกระเป๋าก็มีพระอีก ฝรั่งเลยขอเช่าไปบ้าง เขาก็กลัวเหมือนกัน อยากมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้มั่นใจว่าจะปลอดภัย มีสิ่งที่คุ้มครองตัวเขาได้ บางคนรักชอบกันก็ให้ด้วยน้ำใจ แต่ทหารไทยบางคนก็ลูกเล่นแพรวพราวเหมือนกัน บางคนเอาพระที่ไม่ได้ปลุกเสกให้ไป พระที่ไปกวาดมาจากท่าพระจันทร์บ้าง ไอ้กันมันไม่รู้หรอกว่าพระดีหรือไม่ดี ขอให้มีพระแขวนคอก็แล้วกัน อุ่นใจละ ระหว่างพักรบก็ยังเอาพระมาดูกันเลย ยังว่า เฮ้ย เอาพระปลอมมาแขวนนี่

“พระเครื่องเป็นของขวัญอย่างหนึ่งที่มีค่ามาก ทั้งปกปักรักษาและเตือนใจให้เราทำความดี ทหารไทยที่นับถือศาสนาพุทธ พกพระไปทุกคน นี่แหละเป็นกำลังใจที่แท้จริงของทหารไทย”.
ที่มา.สารคดี.คอม

ปล.ผมมีชายผ้าถุงแม่ที่ใส่ตอนคลอดผมอยู่โชคดีที่แม่เก็บไว้ให้ หายากแล้วครับสมัยนี้เพราะคลอดแบบสมัยใหม่กัน


7
เหรียญนี้เป็นเหรียญแจกผู้ร่วมทำบุญช่วงปี 52 ใช่หรือเปล่าครับ?
เห็นสวยดีแต่ไม่แน่ใจ





ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ  :054:

8
เหรียญรุ่นใจเป็นประธาน เป็นเหรียญที่คุณแม่ผมท่านให้มาครับ ชอบเป็นการสวนตัวเห็นแล้วคิดถึงหลวงตา คิดถึงบ้านเกิด ( อุดรธานี )
ฝากเพื่อนๆดูกันเป็นเหรียญที่สวยอีกเหรียญครับ
ด้านหน้า

ด้านหลัง


ขออภัยด้วยนะครับถ้าภาพไม่ชัด
 

9
พกติดกระเป๋าเสื้อทำงานทุกวัน ประสบการณ์(กับตัวเอง ) ด้าน เมตตา บารมีดีมากๆครับ  :015:



 

10
พอดีเมื่อวานมีเพื่อนส่งเมลล์มาให้

อยากให้เพื่อนๆได้อ่านกัน

อ่านไปหลังๆแล้วขนลุกมาก

ถ้าเคยอ่านแล้วขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
.....

เครดิต - จากใครซักคน -*-

พอดีเมื่อวานไปถวายเทียนพรรษา
ที่วัดหลวงพ่อโอภาษีครับ

 
คิดว่าเพื่อนๆที่อยู่แถวพระราม2 คงรู้จักกันทุกคน
เข้าเรื่องเลยนะครับ
ผมก็ไปกับที่บ้านรวม 5 คน เข้าไปถึงกุฎิที่พ่อผมบอกว่า
เป็นพี่ชายของเจ้าอาวาส
เป็นหลวงพ่อ อายุราวๆ 70 ตาซ้ายเสียอ่ะครับ

เห็นบอกว่าองค์นี้เก่งมากก็เข้าไปถวายเทียนพรรษา
พร้อมๆกับอีกหลายๆคน ที่มาหาหลวงพ่อเช่นกัน
พอถวายเทียนเสร็จหลวงพ่อท่านก็เล่าว่าท่านนิมิต(ฝัน)ว่า

ท่านได้ไปนรกครับไปเจอเท้าเทพสุวรรณ(ยมฑูต)
ท่านก็เล่าว่า ท่านถามสุวรรณว่าท่านตายแล้วเหรอ?

สุวรรณบอกว่าท่านยังไม่ตายแต่จะพาไปเที่ยว
แล้วเค้าก็พาหลวงพ่อเดินไป เดินไปเรื่อยๆ
จนถึงระยะหนึ่ง หลวงพ่อหยุดเดิน สุวรรณที่เดินนำ
ก็เดินกลับมาครับ แล้วถามว่า หยุดทำไม?

ท่านก็ตอบว่า เดินตั้งนานแล้วในนรกไม่เห็นมีอะไรเลย
ระหว่างนั้นท่านก็บรรยายบรรยกาศของนรกว่า
นรกมีไฟเพลิงสีส้มแดง แต่ไม่มีควัน แล้วก็ไม่ร้อน
ที่ท่านไม่ร้อนเพราะท่านมีบุญดีอยู่
แล้วสุวรรณก็ถามต่อครับว่า อยากเห็นอะไรละ?
ท่านตอบว่า อยากเห็นต้นงิ้ว และกะทะทองแดง
สุวรรณบอกว่าไม่มีหรอก มนุษย์อุปโหลกขึ้นมาเองทั้งนั้น
ในนี้มีแต่ไฟโลกัณฑ์ เดินไปอีกหน่อยแล้วจะรู้เอง
ท่านก็ได้เดินต่อไป สิ่งที่ท่านเห็นก็คือ เหวที่มีไฟแดงฉาน
อยู่ข้างล่าง
สุวรรณบอกว่า ใครทำกรรมชั่วมากก็จะอยู่ข้างล่างสุด
ทำกรรมชั่วน้อยก็จะอยู่ข้างบน ซึ่งข้างล่างจะร้อนกว่าข้างบน
คราวนี้เดินต่อไปเรื่อยๆ ท่านก็เห็นทางสามแพร่ง
มีน้ำกันอยู่ จึงได้ถามสุวรรณว่านี้คืออะไร
สุวรรณตอบว่านี่คือทางไปนรก สวรรค์ โลกมนุษย์
ซึ่งมีคนยืนในช่องทางไปโลกเยอะมากๆ
มีบางคนแอบซุกเพื่อหลบน้ำที่จะต้องผ่าน
ท่านจึงถามว่าน้ำนี่คืออะไร
สุวรรณตอบว่าน้ำนี่ใช้ชะล้างจิตใจ ให้ลืมอดีต
แล้วไปเกิดใหม่ คนที่หลบหลีกน้ำนี้ไปได้จะต้องเป็นทุกข์
(ที่เข้าใจคือระลึกชาติได้)

แล้วท่านก็เล่าว่า พวก สส.ที่มันได้ดีเพราะมันกินบุญเก่า
เหมือนปลูกต้นแอปเปิ้ลไว้ ตัวเองปลูกตัวเองก็ได้กิน
เมื่อต้นแอปเปิ้ลหมดก็อดกิน ก็เหมือนกับพวก สส.
ที่กินบุญเก่าอยู่ เราไม่สามารถไปทำอะไรเค้าได้ ต้องรอ
ให้เค้าหมดบุญไปเอง

หลวงพ่อท่านก็ถามสุวรรณต่อว่าวิญญาณมนุษย์
ไปเกิดก็เยอะ แล้ววิญญาณที่ยังอยู่ที่โลกก็เยอะ
ทำไมไม่จับมาให้หมด สุวรรณก็ตอบว่า
จับมาไม่ได้เพราะเค้ายังไม่หมดอายุขัย ร่างกายคนเรา
มี สังขาร (ร่างกาย) และจิตวิญญาณ เมื่อละสังขารแล้ว
แต่ยังไม่ละจิตวิญญาณ คือยังไม่ถึงที่ตาย เช่นพวก
ฆ่าตัวตาย หรือถูกรถชนตาย วิญญานก็จะต้องวนเวียนอยู่
ในโลกไปจนกว่าจะถึงเวลาที่ละวิญญาณแล้ว
ถึงจะไปรับมาได้ ท่านจึงถามต่อว่า

พ่อหลวงจะมีอายุยืนยาวไหม?
สุวรรณตอบว่า ท่านสิ้นอายุขัยแล้วแต่มีคนต่ออายุขัยให้ท่าน
ซึ่งก็คือพี่สาวของท่านเอง

 
แล้วประเทศไทยละจะเป็นอย่างไรต่อไป?
สุวรรณตอบว่า บอกไม่ได้
แล้วหลวงพ่อก็เดินต่อไปอีก
คราวนี้ไปเจอแอ่งน้ำลักษณะเหมือนเขื่อน
ซึ่งมองไปที่กำแพงกั้นน้ำ สิ่งที่ท่านเห็นคือ
ม้าตัวผอมเซียว ซึ่งมี พระเจ้าตาก และ พระปิยะมหาราช ยื่นขวาง
ลำน้ำอยู่
ท่านบอกว่า ที่เห็นอยู่คือกษัตริย์เก่าๆ
ช่วยไม่ให้กรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วม
จริงๆกรุงเทพฯต้องถูกน้ำท่วมไปนานแล้ว
แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ม้าจะหมดแรง
จากความหนาวของน้ำ
และการอดอาหารมานาน

หลวงพ่อท่านพูดจบ
น้ำตาท่านก็ไหลออกมา

แล้วบอกให้ทุกคนที่ได้รับฟัง
เรื่องราวของท่านว่า เป็นนิมิตของท่าน
จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ เพราะท่านก็ยังคิดว่า
เป็นความฝันของท่าน...

แต่ท่านก็กำชับกับทุกๆคนเอาไว้ว่า
เวลาไปที่วงเวียนใหญ่ หรือพระบรมรูปทรงม้า
หรือที่ไหนก็แล้วแต่ที่มี พระบรมรูป
ให้กราบไหว้โดยนำ หญ้าที่ม้ากิน
ล้างให้สะอาดไปถวายด้วย
เพื่อให้ม้ามีกำลังยืนต่อไปได้

ผมก็คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไปจริงๆ
เพราะคนส่วนมากเวลาไปไหว้
ก็จะนำแต่ดอกไม้ไปไหว้เท่านั้น

สิ่งหนึ่งที่ผมคิดคือมันแปลกมากที่อยู่ๆ
เข้าไปถวายเทียนแล้วท่านก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
ในเมื่อมีโอกาสได้รับรู้ก็ควรเผยแพร่
แก่ทุกๆคนครับ

ก็อยากจะฝากเพื่อนๆ แต่อันนี้
สุดแล้วแต่ความเชื่อครับ

11
ผมมีอาการแปลกๆกับยันต์ที่ พระอาจารย์นัน และหลวงพี่หนึ่ง ท่านสักให้มา 2 ถึง 3 วันแล้ว
หรือ เพราะใกล้วันงานบุญหลวงปู่ สิ้นเดือนนี้ เพราะตอนใกล้จะไหว้ครูที่ผ่านมาก็เป็น
เกิดอาการ ร้อนๆ ตึงๆบอกไม่ถูก ถามเพื่อนๆพี่ๆครับ ตอนนี้ มีอะไรแปลกๆกันหรืิอเปล่า
หรือ จิตผมมันปรุงแต่งไปเอง  :075:

12
การปลุกเสก...
คือการกระทำให้สิ่งที่เป็นวัตถุที่กำหนดไว้ให้มีคุณค่าขึ้นมา เช่น การปลุกเสกพระเครื่อง
การปลุกเสกพระเครื่อง เดิมทีเดียวพระเครื่องเป็นวัตถุผสมด้วย ดิน หรือโลหะ หรือธาตุ หรือกระดูกคนตาย หรือสิ่งอื่น และตัวทำแข็ง ทำเหลว ตัวยึดติด อาจเป็นเป็นน้ำมันเหลวแห้งได้ดีเมื่อรมด้วยควันไฟ มีอาทิเช่น ตั่งออิ้วที่มีกลิ่นหอม ยางไม้รมบาตรมาจากประเทศจีนมีราคาแพง หรือนำมันชนิดอื่น หรือการทำด้วยปูนพลาสเตอร์ (ปูนปารีส) ชนิดแห้งไว หรือหล่อด้วย ธาตแข็งชนิดอื่น เช่น ทองคำ ทองเหลือง ทองแดง ตะกั่ว ทองขาว เหล็ก อื่น ๆ หรือด้วยพืชวัตุ สัตว์วัตถุ ธาตุวัตถุต่าง ๆ แล้วนำมาปลุกเสก ๆ เรียกเป็นภาษาราชการว่า ทำพิธีกรรม


การปลุกเสกแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ พิธีทางราชการ และพิธีไม่ใช่ราชการ
ที่ทราบกันดีคือการพุทธาภิเษก หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าการปลุกเสกพระเครื่องรางของขลัง
ของมงคล ตามพิธีกรรมที่สิบทอดกันมา หรือทำให้สิ่งธรรมมีชีวิตทางไสยวิทยาขึ้นมา
จนเสร๋จพิธี ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ เมื่อเสร็จตามขั้นตอน แบบที่ คติชนวิทยา หรือภูมิปัญญาชาวบ้าน
จะยอมรับว่าสิ่งนั้นศักดิ์สิทธ์ได้ด้วยพิธีกรรมเหล่านี้แล้ว จะปรากฏออกมาในท้องตลาด หรือในสังคม เช่นพระเครื่อง วัตถุมงคล รุ่นต่าง ๆ จากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ดั่งที่ทราบกันว่า บางชนิดเมื่อเสร็จพิธี แล้ว สามารถใช้ป้องกันตัว หรือพกพาติดตัวเป็นมงคลอื่น ๆ เช่นยิงรันฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาด กันผี บำรุงขวัญ เป็นเสน่ห์ เป็นมงคล เมตตามหานิยม ค้าขายดี


การปลุกเสก มี 2 ชนิด
ชนิดใช้นักบวชปลุกเสก  และใช้คนที่ไม่ใช่นักบวชปลุกเสก
การปลุกเสกยังแยกออกไปอีกเช่น การปลุกเสกด้วยน้ำธรรมดาเพื่อเสกให้เป็นน้ำมนตร์ เพื่อรดปัองปัดรังควาญเสนียดจัญไร เป็นต้นให้ผู้ป่วย  ทำให้รักษากายใจได้ มันเป็นเรื่องจิตบำบัดชนิดหนึ่ง
การปลุกเสกอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นของชาวบ้าน ที่เรียกว่า การเล่นของ เช่นคนธรรมดา อยากจะปลุกพระเครื่อง เขาจะนั่งสมาธิ บริกรรมคาถาในสูตรของเขา มีมือกำพระเครื่องไว้ในอุ้งมือแน่น แล้วภาวนา หลับตาอย่างมีสมาธิแน่วแน่ตามสูตร จนพระเครื่องหรือสิ่งของที่ปลุกเสกนั้นขึ้น คนที่ทำคือคนที่ปลุกเสกจะมีอาการเต้นสั่นบ้างบางครั้ง และตามปกติคนที่ทำพิธีจะใสชุดขาว เว้นอาหารเนื้อสัตว์ก่อนทำ เป็นตามที่กำหนดไว้ หรือเป็นโยคีหนึ่งระยะ และยังมีอีกหลายวิธีตามแต่ละสำนึกสิบทอดกันมา


การปลุกเสกแบบสมถฌานกรรมฐาน
เป็นกำลังหลักการคือพระเกจิผู้ปลุกเสก ต้องสำเร็จฌานระดับจตุถฌาน หรือฌาน 4 ขึ้นไป การปลุกเสกเริ่มจากการตั้งสมาธิจากสมาธิขั้นกลางจนได้สมาธิระดับจตุถฌาน หรือฌาน 4 หรือสูงกว่านั้น แล้วก็คลายสมาธิลงมาในสมาธิขั้นกลางแล้วก็อธิษฐานจิต หรือว่ามนต์คาถาจึงทำให้วัตถุศักดิ์สิทธิ์ได้


ซึ่งการปลุกเสกแบบสมถฌานกรรมฐาน มี 5 วิธี ขึ้นกับพระเกจิว่าชำนาญแบบใด
1.วิธีการสวดอัดประจุคาถา การเสกว่าคาถาบทสวดต่างๆ เช่น บทสวดเจ็ดตำนาน คาถาชินบัญชร  เป็นการอาราธนาบารมีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือเทวดา หรือพรหมมาช่วย แต่ว่าคาถาบางอย่างก็จะว่าแต่เฉพาะบางจุด เรียกว่าคาถาพุทธาคม ซึ่งสมาธิขั้นฌาน 4 เป็นต้นไปจะว่ากล่าวคาถาพุทธาคมบทใดก็บังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น
ส่วนคาถาไสยศาสตร์นั้นความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอยู่กับบทมนต์คาถาทุกอักขระที่ประจุ เคล็ดวิชาขั้นตอนพิธีการ และแรงวิญญาณของครูบาอาจารย์ผนวกรวมกัน หากผู้เสกที่เป็นพระเกจิ หรือฆราวาสเป็นผู้มีวิชาอาคมมาก และสร้างถูกต้องตามตำรา และได้รับการครอบครูบาอาจารย์ถ่ายทอดวิชามาอย่างถูกขั้นตอน วัตถุมงคลย่อมมีพลังสูงมากปลุกเสก


2.วิธีการอธิษฐานจิต สามารถทำได้สองแบบ แบบแรก คือ การอธิษฐานจิตอ้างถึงการอาราธนา
บารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสาวก ทั้งหมด พรหมหรือเทวดาชั้นฟ้าทั้งหมดขออนุเคราะห์ท่านมาช่วยช่วยดลบันดาลให้พระเครื่องสร้างขึ้นนี้สูงสุดด้วยพระพุทธานุภาพ และกฤตยานุภาพ ส่วนแบบที่สองอธิษฐานอ้างถึงบุญญาบารมีคุณงามความดี ความมีศรัทธาพระบวรพุทธศาสนา และผลบุญกุศลที่ตั้งมั่นอยู่ในการประกอบแต่กรรมดี ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติของตัวพระเกจิหรือฆราวาสของตัวผู้ปลุกเสกเอง ได้ช่วยดลบันดาลให้พระเครื่องสร้างขึ้นนี้สูงสุดด้วยพระพุทธานุภาพ และกฤตยานุภาพ คุ้มครองให้คลาดแคล้วผองภัยพิบัติ อำนวยความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ที่ได้นำไปสักการบูชา โดยมีหลักการ เริ่มจากการเข้าสมาธิให้เข้าถึงจตุถฌานเรียกอีกอย่างว่าฌาน 4 จนกระทั่งอารมณ์จิตเป็นแก้วทั้งหมด เป็นแก้วประกายพฤกษ์ทั้งหมดแล้วจึงเข้าสมาธิใหม่ จัดเป็นโลกุตตรญาณ แล้วก็อธิษฐานจิต


3.วิธีเจริญกัมมัฏฐานเดินอารมณ์กัมมัฏฐานเพ่งกระแสจิต  ไปยังวัตถุมงคล
ถ้าให้เป็นเมตตาระหว่างนั่งเราก็กำหนดอารมณ์ที่สงบนิ่ง เยือกเย็น ในการเจริญกัมมัฏฐาน
แต่ถ้าต้องการให้อยู่ยงคงกระพัน ก็ใช้อารมณ์ที่แข็งกร้าว เหี้ยมโหด ในการเจริญกัมมัฏฐาน หรือการเพ่งกสิณไฟในการปลุกเสกให้เกิดพลัง


4. วิธีทิพยจักขุญาณ  ถ้าพระเข้าขั้นที่เรียกว่าได้ทิพยจักษุญาณ โดยมากเขาไม่ทำเอง
ปัจเจกพุทธเจ้าบ้าง พระอริยสงฆ์บ้าง เทวดาชั้นฟ้าบ้าง พรหมบ้าง อันนี้ก็สบายดี แต่หากว่าทำเองไม่ช้ามันก็เจ๊ง ตัวเองยังคุ้มครองตัวเองไม่ค่อยได้ คนทำมันก็ตายนี่ แล้วมันจะไปคุ้มครองความตายของใครเขาได้ นี่ว่ากันตามธรรมดานะ การเสกพระเสกเจ้า หรือเสกผ้ายันต์ เสกอะไรต่ออะไรพวกนี้ ถ้าเราเอาตัวของเราออกเสีย เราไม่เข้าไปยุ่ง แต่อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยสาวกทั้งหมด พรหมหรือเทวดาทั้งหมดท่านมาช่วย ท่านทำประเดี๋ยวเดียว ๒-๓ นาทีมันก็เสร็จ ดีกว่าเราทำ ๑,๐๐๐ ปี
ขอขอบคุณข้อมูล องค์ความรู้เรื่องการปลุกเสกจาก อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม มา ณ ที่นี้  :054:

13
รบกวนเพื่อนๆพี่ในเว็บบางพระเราช่วยดูเหรียญ นี้ให้หน่อยครับ ว่าดีไหม
จะเลือกมาเข้ากรอบเลยถามพี่ๆ พอดีได้มาแบบไม่มีราคาค่างวด อันใด  :054: รบกวนด้วยครับ ความรู้ด้านนี้ยังน้อย  :001: .


รบกวนอีกเหรียญครับ


รูปถ่ายอาจจะไม่ชัดเพราะลงรูปครั้งแรก ครับ
และขอบคุณสำหรับทุกคำแนะเป็นวิทยาทานครับผม  :054:

14
ส่วนตัวผมเองดีขึ้นมาก ทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัว และสุขภาพจิต  :016:

15
วันที่ 27 นี้ไหว้ครู 09.39 น.ออกจากบ้านกันกี่โมงครับ  :002:

16
สวัสดีครับ วันนี้พึ่งเข้าไปกราบขอเป็นศิษย์วัดบางพระและไปทำบุญมาครับ อิ่มอกอิ่มใจมากๆ
สงสัยอยู่เรื่องนึงครับ ฝากถามพี่ๆผู้รู้หน่อยนะครับ
จากที่ศึกษากระทู้เก่าๆมา การไปสักครั้งแรกจะต้องลงยันต์ครูเก้ายอดก่อน ถึงจะไปอย่างอื่นได้ตามแต่ที่พระอาจารย์ท่านเมตตา ตั้งใจจะจบที่ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์
วันนี้ตั้งใจจะไปขอสักหมึกเป็นครั้งแรก จึงแจ้งพระอาจารย์ว่าขอสักหมึกเลยนะครับ
พระอาจารย์ท่านยิ้มแล้วตอบว่า สักน้ำมันดีกว่านะ เราก็สงสัย?? ลงหมึกเลยนะครับ ท่านก็ยิ้มตอบมาอีกครั้งว่าสักหมึกดีกว่านะ ก็เลยหยุดถาม ตอบครับเลย
เพราะต้องแล้วแต่ท่านจะเมตตา ก็ลงให้ที่กลางหลัง ครั้งแรกนี่ซึ้งเลยครับ  :054: แต่ก็อยากได้สิ่งดีๆติดไว้กับตัว
พอรู้สึกเจ็บก็สวดคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ในใจ ไม่นานก็เสร็จ แต่ก็สงสัยว่าพระอาจารย์ให้อะไรมา
ให้คนที่ไปยกพานครูดูให้ เค้าบอกน่าจะเป็นมหาอุด พระอาจารย์ได้ยินก็ยิ้มถามว่าสงสัยอะไรเหรอ
ผมก็ตอบไปว่า อยากรู้ว่าพระอาจารย์ให้อะไรมาครับ
พระอาจารย์ท่านตอบว่ามีอยู่หลายชื่อ บางที่ก็เรียกพุทธซ้อน บางที่ก็เรียกพระเจ้าห้าพระองค์
แค่นั้นแหละครับพี่ๆ อึ้งๆๆเลยครับเหมือนท่านรู้เมตตาดีใจมากๆครับ หายเหนื่อยหายเจ็บเลย ขับรถไปจากศรีราชา ให้คุณแม่นั่งไปทำบุญเป็นเพื่อนด้วยครับ
ที่อยากถามพี่ๆคือถ้าเราลงน้ำมันแล้ว สักหมึกทับจะเป็นไรไหม ท่านจะเมตตาสักให้หรือเปล่า
เพราะต้องเข้าไปกราบท่านบ่อยๆแน่ๆครับ ถามพี่ๆที่พอจะรู้นะครับ
สุดท้ายขอบคุณพี่ๆในนี้ที่ชี้ทางให้ผมได้พบอาจารย์ดีๆ เป็นที่ยึดเหนี่ยว ตั้งใจทำงานหาเลี้ยงครอบครัวครับ ขอบคุณ  :054: :054:

หน้า: [1]