ผู้เขียน หัวข้อ: .......การแผ่เมตตา คือ ???  (อ่าน 3649 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nok2009

  • ที่ปรึกษา
  • *****
  • กระทู้: 1672
  • เพศ: ชาย
  • แท้เทียมอาจคล้ายกันจงเชื่อมั่นในตนเอง
    • ดูรายละเอียด
.......การแผ่เมตตา คือ ???
« เมื่อ: 31 ก.ค. 2552, 06:35:57 »
การแผ่เมตตา คือ การคิดบวก พูดบวก มองหาดี

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก
แต่ความจริงหากฝึกให้เป็นนิสัย ก็เป็นเรื่องง่าย
เพราะโดยธรรมชาติแล้ว
เราชอบใคร เราก็อยากไปหาคนนั้น
เรารักใครมาก ก็อยากยกให้เขาหมด
มีอะรก็ให้หมดได้โดยไม่รู้สึกเสียดาย

แม้บางครั้ง เขาไม่อยากได้
เรายังอุตส่าห์ยัดเยียดให้เลย ถ้าพอใจ ภูมิใจ
พอเขาไม่รับ ก็อาจเสียใจลึกๆ
หาว่าไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ ไม่ยินดีตอนรับ
จากรักก็พาล จะกลายเป็นร้ายไปได้

มาถึงคนที่เราเกลียดชัง
เรื่องจะแบ่งใจให้ไม่มีอยู่แล้ว
เรื่องง่ายก็มักเป็นเรื่องยากเสมอ
จึงจำเป็นต้องหาวิธีแผ่เมตตาที่แยบคาย

โดยธรรมชาติมนุษย์ เกลียดชังใคร
แม้แต่เงา เราก็ไม่อยากเห็น มีอะไร ก็ไม่อยากให้
เราไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนๆ นั้น
ต้องการเดินคนละเส้นทาง ห่างได้ยิ่งดี

แต่เขาลืมคิดไปว่า ทางอารมณ์เราหนีตัวเองไม่ได้
ยิ่งเดินหนีก็ยิ่งวิ่งตาม
อารมณ์โกรธเกลียด ก็มักจะวิ่งตามขนาบเราไป
บางทีก็วิ่งข้ามภพข้ามชาติไปกับเรา
ก่อเหตุร้ายไม่สิ้นสุด
ยุติพยาบาทในชาตินี้ให้ได้
แผ่เมตตาให้ อโหสิกรรมกันให้ได้ในชาตินี้

จะมีใครคิดบ้างว่า
ศัตรูบางคน ตั้งความปรารถนาขอไปเกิดเป็นลูกของเราก็มี
เพื่อจะได้เผาผลาญจิตใจของเราให้ถึงที่สุด
เช่น ลูกบางคนเกิดมา เพื่อผลาญทรัพย์สินสมบัติของพ่อแม่
ทำให้พ่อแม่เกิดทุกข์ สอนไม่ได้ บอกไม่ฟัง
ทำให้พ่อแม่นอนเป็นทุกข์ กินไม่ได้
ไม่เคยมีความภูมิใจในลูก มีแต่ความกลัดกลุ้มใจ

บางคนพ่อแม่ถึงขนาดตัดขาดจากความเป็นพ่อแม่ลูกกันก็มี
สิ่งเหล่านี้ เราต้องมองให้ออก
และหาวิธีแก้ต้นเหตุที่ระบบความคิดของเราให้ได้


แต่ช่างน่าแปลกเหลือเกินที่คนเราชังใครมากๆ
มักจะต้องได้เกี่ยวข้องกับคนนั้น
ไม่อยากเห็นหน้าใคร ก็มักจะได้เห็นเขาอยู่บ่อยๆ
ยิ่งเกลียดยิ่งได้อยู่ใกล้
ถึงขนาดบางคนต้องมาอยู่เป็นคู่ชีวิตก็มี
กรรมเวรมีจริง ผลของการอาฆาตพยาบาท ให้ผลร้ายขนาดนี้

อะไรทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
พลังงานความคิดที่เรา ไม่ยอมปลดปล่อยอารมณ์ออกไปนั้นเอง เป็นเหตุ
สังเกตดูให้ดีจะเห็นว่า เราคิดเกลียดเมื่อใด
ก็เท่ากับเราทาสีลงบนผ้า ที่สีกำลังจะเลือนหายไป

เราคิดโกรธเมื่อใด
เท่ากับเราตอกย้ำให้เกิดความคมชัดทางความรู้สึกขึ้นมาอีกเท่านั้น
เป็นการเติมมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม
ที่มีต่อคนๆ นั้น ให้คงเหลืออยู่ตลอดเวลา
ทั้งๆ ที่ใกล้จะเลือนหายไปแล้ว

คนเราชอบพูดถึงคนที่เราเกลียด
เมื่อพูดบ่อยๆ อารมณ์นั้นก็จะฝังแน่นในใจ
แม้ไม่ปรารถนาจะเก็บความไม่ดีของคนนั้นไว้
เขาหารู้ไม่ว่า นั่นคือ การนำขยะที่เน่าเหม็นมาเก็บไว้ในใจตัวเอง

ในที่สุด ใจเราก็เต็มไปด้วยอารมณ์เกลียด
อารมณ์เน่าเฟะอยู่ในใจเรา
พึงจำไว้ว่า คนที่เราเกลียดชังหรือโกรธแค้น

หยุดพูด...ก็หยุดคิด
หยุดคิด...ก็เลือนหาย

เพียงแต่เราอดใจไม่ได้ มักย้ำคิด ย้ำทำ ย้ำพูด
สติเราไม่พอกับความรุนแรงของอารมณ์
การยับยั้งชั่งใจไม่เข้มแข็ง
จึงต้องเหยียบย่ำทำกรรมในใจตัวเอง


ขอให้สังเกตดูให้ดี เรื่องนิดเดียวสามารถบานปลาย
ได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว
บางทีเราพูดนิดเดียว แต่คนฟังนำไปขยายต่ออีกสิบ
พูด ๒ ครั้ง ก็นำไปขยายต่ออีกนับไม่ถ้วน
ความเกลียดชัง อาจเริ่มต้นจากจุดนิดเดียว

แต่กลายเป็นเชื้อไวรัสมากมาย
เพราะคำพูดของเรา เพราะปากของเราเอง
เพราะเห็นแก่ความสนุกปาก

การปรับทุกข์ในบางครั้ง
ก็ไม่ต่างอะไรกับการเติมเชื้อเพลิงความทุกข์ ให้ตัวเอง
เติมเชื้อแห่งความอาฆาตพยาบาท ลงไปในจิตใจเราเอง


ในทางพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงสอน
ให้เราแผ่เมตตาด้วยการใช้คำว่า

?สัพเพ สัตตา แปลว่า สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง?

คำนี้มีนัยที่สำคัญมาก
นั่นคือ ทรงสอนให้เราแผ่เมตตาให้ถึงศัตรูได้ โดยไม่รู้สึกติดขัด

การแผ่เมตตาให้คนที่เราเกลียดทำได้ยาก
แต่จำเป็นยิ่งกว่าแผ่เมตตาให้คนที่เรารัก
เพราะปัญหาอยู่ที่ความรู้สึกเป็นศัตรู มิใช่ความรู้สึกรัก
ยิ่งเกลียดมากยิ่งต้องใช้พลังจิตสูง
แต่ถ้าทำได้แล้ว ก็สบายใจไปตลอดชีวิต

อาจจะยากเพียงครั้งแรกครั้งเดียว...ครั้งต่อไปก็ง่าย
ยิ่งเราได้ปฏิบัติเป็นประจำจนเคยชิน...ของยากก็เป็นของง่าย
ทุกอย่างก็ถือเป็นปกติ ไม่มีอุปสรรคขัดข้อง
และความรู้สึกเป็นศัตรูหรือโกรธเกลียด อาฆาตพยาบาท...ก็จะหมดไป
ก็จะเลือนหายไปจากใจเรา...กระทั่งหมดสิ้น

ในที่สุด คนที่เคยเป็นศัตรูเราก็จะกลับกลายเป็นมิตร...ไม่ช้าก็เร็ว
การก่อเวรข้ามภพข้ามชาติกัน...ก็จะหมดไป
ทุกชีวิตก็จะปลอดจากภัยเวรในสงสารวัฏ
เกิดภพใดชาติใด ก็จะพบแต่คนดี
มีคนอุ้มชูช่วยเหลือ จะทำให้มีครอบครัวดี มีลูกดี
มีรูปสมบัติ มีสติปัญญาดี
เพราะทุกอย่างเริ่มต้นที่ ?ทำใจดี? ให้ได้ในวันนี้

ที่มา : ศาลาธรรม

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: .......การแผ่เมตตา คือ ???
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 01 ส.ค. 2552, 10:29:59 »
ขอบคุณท่านนกครับ
หยุดพูด...ก็หยุดคิด
หยุดคิด...ก็เลือนหาย

ถึงวันนี้เพิ่งเริ่มเข้าใจว่าชีวิต...ไม่ได้ซับซ้อนและยุ่งยาก....ถ้าเรามีสติและปัญญา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ส.ค. 2552, 10:32:03 โดย derbyrock »

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

TUM

  • บุคคลทั่วไป
ตอบ: .......การแผ่เมตตา คือ ???
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 02 ส.ค. 2552, 09:50:50 »
มนุษย์ คนไหนที่คิดจะปฏิบัติธรรม ย้อมทำได้

ออฟไลน์ ก้านยาว

  • เพราะชีวิตขาดหวานไม่ได้
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 82
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: .......การแผ่เมตตา คือ ???
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 02 ส.ค. 2552, 08:03:10 »
สาธุ สาธุ สาธุ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
[shake]ชีวิตนี้บางทีก็น้อย คิดไปทำไม ชีวิตนี้บางวันก็เยอะ ถือเป็นกำไร
ชีวิตเราก็เท่านี้ ความสุขที่หัวใจต้องการสุดท้ายมันอยู่ไม่ไกล
ค้นลงไปข้างในจิตใจ ใครๆ ก็พบมัน
[/shake]

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: .......การแผ่เมตตา คือ ???
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 02 ส.ค. 2552, 09:10:17 »
ในที่สุด คนที่เคยเป็นศัตรูเราก็จะกลับกลายเป็นมิตร...ไม่ช้าก็เร็ว
การก่อเวรข้ามภพข้ามชาติกัน...ก็จะหมดไป
ทุกชีวิตก็จะปลอดจากภัยเวรในสงสารวัฏ
เกิดภพใดชาติใด ก็จะพบแต่คนดี
มีคนอุ้มชูช่วยเหลือ จะทำให้มีครอบครัวดี มีลูกดี
มีรูปสมบัติ มีสติปัญญาดี
เพราะทุกอย่างเริ่มต้นที่ ?ทำใจดี? ให้ได้ในวันนี้




....หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นนะครับ...

...สาธุ...

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕