สำหรับมวลสาร "พระเนื้อผง" ที่นำมาสร้างวัตถุมงคลของวัดเขาราหูทุกรุ่น ทางวัดจะรวบรวมเองทั้งหมด โดยมีผู้ที่เคารพนับถือ พ่อท่าน หากมีว่านหรือไม้มงคล กาฝากหรืออะไรที่เข้าตำรา นำมาสร้างวัตถุมงคลได้ ก็จะนำมาถวาย จดจำชื่อไม่หมด โดยเฉพาะรูปพระผงของ หลวงพ่อพัวที่ชำรุดในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ โดยหลวงพ่อพัวเก็บสะสมไว้ค่อนชีวิต ที่ท่านเดินทางธุดงค์ไปทั่ว จะผสมอยู่ทุกรุ่น และที่สำคัญอย่างมากก็คือ ผงลบ หรือผลพุทธคุณ ที่พ่อท่านเป็นผู้เขียนเองทั้งหมด โดยไม่เคยเอามวลสารจากสำนักอื่นมาผสม
สำหรับชนวนที่นำมาสร้าง "เนื้อโลหะ" ทุกรุ่นก็นำเอาชนวนเก่าสมัยที่หลวงพ่อพัวสร้างรูปหล่อบูชาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ผสมอยู่ทุกรุ่น โดยเฉพาะที่สำคัญคือพ่อท่าน จะจารแผ่นยันต์เป็นจำนวนมาก หลวมรวมกับชนวนหลวงพ่อพัวทุกรุ่น โดยไม่เอาชนวนจากสำนักอื่นมาผสม
สำหรับสีที่สร้าง มีด้วยกัน ๔ สี แต่เป็นสีจากมวลสารธรรมชาติทั้งสิ้น อย่างเช่น
๑.สีดำ.....จะใช้ผง มวลสารหลักคือ ผงว่าน ๑๐๘ ไม้มงคลทุกชนิดที่มีอยู่ ผสมด้วยถ่านไม้เทพทาโร และไม้มงคลมากมาย จำไม่หมด โดยเฉพาะถ่านไม้เคี่ยม ซึ่งเป็นไม้ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี และดินกากยายักษ์ และรูปหลวงพ่อพัวที่ชำรุด (ไม่ใช่มหาว่านดำ)
๒.สีขาว.....จะใช้ไม้แก้วที่มีมากบนเขาราหู มาผสม กับชนวนหลักคือไม้มงคลและว่าน ๑๐๘ ร่วมด้วยพระชำรุดของหลวงพ่อพัว (ไม่ใช่มหาว่านขาว)
๓.สีแดง.....สีนี้จะยุ่งยากมาก เพราะนำเอาแก่นจันทร์แดงหอมตายพราย โดยจะขึ้นอยู่อยู่หน้าผาสูงมากบนเขาราหู เอายากมาก และไม่มีใครรู้ด้วยว่าจันทร์แดง กว่าจะมีแก่นต้องใช้เวลากี่ร้อยปี เพราะเป็นไม้เนื้ออ่อนตระกูลต้นเตย และที่ไปหาเก็บมา ก็ไม่รู้ว่าตาย อยู่ตรงนั้นกี่ร้อยปี ขนาดว่าผู้ที่ไปหามาให้ มีความศรัทธาพ่อท่านมาก ก็ยังต้องขอค่าเดินขึ้นเขากิโลกรัม ละ ๒๘๐ บาท แต่หากจะคิดให้ดี ก็ตีราคาเป็นเงินไม่ได้ เพราะหายากมากกว่าทองคำเสียอีก (ไม่ใช่มหาว่านแดง)
๔.สีหลักของวัดเขาราหู.....สีธรรมชาติโดยไม่ได้นำเอาชนวนของ ๓ สีข้างบนมาผสม ทั้งหมดนี้คือที่มาของพระพุทธปาฏิหาริย์ (ทุกองค์จะมีชนวนพระเก่าชำรุด หลวงพ่อพัว ผสมอยู่ทุกองค์)