อ้อนวอนไปเถอะพระก็ช่วยไม่ได้
บางพวกบางคนไปหลงอธิษฐาน สวดมนต์ อ้อนวอนให้พระช่วย
ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาอ้อนวอน อ้อนวอนให้คุ้มครองอย่างนั้น
อ้อนวอนให้คุ้มครองอย่างนี้ ให้ช่วยค้าขายดีอย่างนั้นอย่างนี้ มีที่ไหน
ปี ๆ หนึ่งมักจะมีคนมาถามอาตมาว่า หลวงพ่อมีของดีอะไรที่ทำให้ช่วยให้ขายของดีได้บ้าง
อาตมาต้องบอกว่า...
แหม...ทุกวันนี้อาตมาก็ต้องเคี่ยวเข็ญให้เด็ก ๆ ที่อยู่ที่วัดกับอาตมาเขาหัดขายของเลย
ต้องแนะเขา สอนเขา เราไม่มีที่ขายก็ต้องทุรนทุรายแสวงหาที่ขายดี ๆ ได้
สถานที่ตามบริษัทห้างร้านก็ขายได้ มันไม่ใช่ว่าขายได้เพราะมีของ
อาตมาไม่เคยมีของดีเลย อย่างพวกนางกวักหรือของเมตตามหานิยมอะไรอย่างนั้น ไม่ทำเลย
แต่เด็ก ๆ เขาก็ไปขายของ วันหนึ่ง ๆ ได้สี่หมื่น ห้าหมื่น ก็มี
บางวันได้ถึงเจ็ดแปดหมื่นก็เคยได้
บางวันสี่ห้าพันก็มีสรุปมันต้องดูที่ทำเล ดูคน ดูตลาด ของที่เราไปขาย
ไอ้ที่ขายได้ไม่ใช่เพราะว่ามีเครื่องรางของขลังดี
เดี๋ยวนี้มันมีถึงขนาดทำ พระชูชก มาขายกันแล้ว
เขาอ้างสรรพคุณว่า พระชูชก ใครบูชาจะได้ลาภ มีเสน่ห์ มีเมียสาว
คนมันช่างคิดอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้ ก็เลยมี พระชูชก รุ่นชูชกเป็นพระงกออกมา
คนเรามักไปชอบยึดติดกับอะไรทำนองนี้ ก็เลยทำให้วงการพระเครื่องเขารวยกันพอสมควร
แล้วพวกนี้ไม่ต้องเสียภาษีด้วย อันที่จริงรัฐน่าจะเก็บภาษี แล้วก็เอาเงินมาทำอย่างอื่น
เพราะคนพวกนี้ก็ร่ำรวยบนความไม่ค่อยฉลาดสักเท่าไร
ที่มา
http://www.tamdee.net/sarakhun/data/read0f4c.html?No=527