แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - chaowalit407

หน้า: [1]
1
คำว่า "จริต" ในที่นี้หมายถึงสภาวะจิตของคนตามธรรมชาติ
จากการแบ่งจริตมนุษย์เป็น ๖ ประเภทใหญ่ๆ เรามาดูกันว่าคุณติดในจริตแบบไหนบ้าง??

แนวคิดเกี่ยวกับประเภทของจริตมนุษย์ในหนังสือเล่มนี้มีรากฐานมาจาก " คัมภีร์วิสุทธิมรรค "

ซึ่งผู้ประพันธ์ คือ พระพุทธโฆษาจารย์

ในคัมภีร์ดังกล่าวได้อธิบายถึงสภาวะจิตหรือนิสัยมนุษย์ว่ามีอยู่ด้วยกัน ๖ ประเภท ได้แก่
1.ราคะจริต
คือ สภาวะจิตที่หลงติดในรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัสจนเป็นอารมณ์
2.โทสะจริต
หรือ สภาวะจิตที่โกรธง่าย ฉุนเฉียวง่าย เพียงพูดผิดสักคำ ได้เห็นดีกัน
3.โมหะจริต
หรือ จิตที่มักอยู่ในสภาพง่วงเหงาหาวนอนหรือซึมเศร้าเป็นอาจิณ
4.วิตกจริต
หรือ สภาวะจิตที่กังวล สับสนและวุ่นวายฟุ้งซ่านแทบทุกลมหายใจ
5.ศรัทธาจริต
คือ สภาวะจิตที่มีปรัชญาหรือหลักการของตัวเอง และพยายามผลักดันให้ตัวเองและผู้อื่นบรรลุถึงจุดหมายนั้น
6.พุทธิจริต
คือ สภาวะจิตที่เน้นการใช้ปัญญาในการไตร่ตรอง คิดหาเหตุหาผลมาแก้ปัญหาต่างๆในชีวิต
ทั้งชีวิตส่วนตัว ชีวิตการทำงาน รวมทั้ง มีความสนใจ เรื่องการยกระดับและพัฒนาจิตวิญญาณ
 
ราคะจริต

ลักษณะ
บุคลิกดี มีมาด น้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะ ติดในความสวย ความงาม ความหอมความไพเราะ

ความอร่อย ไม่ชอบคิด แต่ช่างจินตนาการเพ้อฝัน

จุดแข็ง
มีความประณีตอ่อนไหว และละเอียดอ่อน ช่างสังเกตุเก็บข้อมูลเก่ง
มีบุคลิกหน้าตาเป็นที่ชอบและชื่นชมของทุกคนที่เห็น วาจาไพเราะ เข้าได้กับทุกคน
เก่งในการประสานงาน การประชาสัมพันธ์และงานที่ต้องใช้บุคลิกภาพ
จุดอ่อน
ไม่มีสมาธิ ทำงานใหญ่ได้ยาก ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่มีความเป็นผู้นำ
ขี้เกรงใจคน ขาดหลักการ มุ่งแต่บำรุงบำเรอผัสสะทั้ง 5 ของตัวเอง คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
ชอบพูดคำหวานแต่อาจไม่จริง อารมณ์รุนแรงช่างอิจฉา ริษยา ชอบปรุงแต่ง

วิธีแก้ไข้
พิจารณาโทษของจิตที่ขาดสมาธิ ฝึกพลังจิตให้มีสมาธิเข้มแข็ง หาเป้าหมายที่แน่ชัดในชีวิต
พิจารณาสิ่งปฏิกูลต่างๆของร่างกายมนุษย์เพื่อลดการติดในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
โทสะจริต
ลักษณะ
จิตขุ่นเคือง โกรธง่าย คาดหวังว่าโลกต้องเป็นอย่างที่ตัวเองคิด พูดตรงไปตรงมา
ชอบชี้ถูกชี้ผิด เจ้าระเบียบ เคร่งกฎเกณฑ์ แต่งตัวประณีต สะอาดสะอ้าน เดินเร็ว ตรงแน่ว

จุดแข็ง
อุทิศตัวทุ่มเทให้กับการงาน มีระเบียบวินัยสูง ตรงเวลา วิเคราะห์เก่ง
มองอะไรตรงไปตรงมา มีความจริงใจต่อผู้อื่นสามารถพึ่งพาได้ พูดคำไหนคำนั้น ไม่ค่อยโลภ

จุดอ่อน
จิตขุ่นมัว ร้อนรุ่ม ไม่มีความเมตตา ไม่เป็นที่น่าคบค้าสมาคมของคนอื่น และไม่มีบารมี
ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ สร้างวจีกรรมเป็นประจำ มีโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย

วิธีแก้ไข้
สังเกตดูอารมณ์ตัวเองเป็นประจำ เจริญเมตตาให้มากๆ คิดก่อนพูดนานๆ และพูดทีละคำ
ฟังทีละเสียง อย่าไปจริงจังกับโลกมากนัก เปิดใจกว้างรับความคิดใหม่ๆ
พิจารณาโทษของความโกรธต่อความเสื่อมโทรมของร่างกาย
.
โมหะจริต

ลักษณะ
ง่วงๆ ซึมๆ เบื่อๆ เซ็งๆ ดวงตาดูเศร้าๆ ซึ้งๆ พูดจาเบาๆ นุ่มนวลอ่อนโยน ยิ้มง่าย อารมณ์ไม่ค่อยเสีย ไม่ค่อยโกรธใคร
ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบทำตัวเป็นจุดเด่น เดินแบบขาดจุดมุ้งหมาย ไร้ความมั่นคง

จุดแข็ง
ไม่ฟุ้งซ่าน เข้าใจอะไรได้ง่ายและชัดเจน มีความรู้สึก มักตัดสินใจอะไรได้ถูกต้อง
ทำงานเก่ง โดยเฉพาะงานประจำ ไม่ค่อยทุกข์หรือเครียดมากนัก เป็นคนดี เป็นเพื่อนที่น่าคบ ไม่ทำร้ายใคร

จุดอ่อน
ไม่มีความมั่นใจ มองตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริงโทษตัวเองเสมอ หมกมุ่นแต่เรื่องตัวเองไม่สนใจคนอื่น
ไม่จัดระบบความคิด ทำให้เสมือนไม่มีความรู้ ไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่ชอบเป็นจุดเด่น
สมาธิอ่อนและสั้นเบื่อง่าย อารมณ์อ่อนไหวง่ายใจน้อย

วิธีแก้ไข้
ตั้งเป้าหมายชีวิตให้ชัดเจน ฝึกสมาธิสร้างพลังจิตให้เข้มแข็ง ให้จิตออกจากอารมณ์
โดยจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย หรือเล่นกีฬา
แสวงหาความรู้ และต้องจัดระบบความรู้ความคิด
สร้างความแปลกใหม่ให้กับชีวิต อย่าทำอะไรซ้ำซาก.
 
วิตกจริต
ลักษณะ
พูดเป็นน้ำไหลไฟดับ ความคิดพวยพุ่ง ฟุ้งซ่านอยู่ในโลกความคิด ไม่ใช่โลกความจริง
มองโลกในแง่ร้ายว่าคนอื่นจะเอาเปรียบกลั่นแกล้งเรา หน้าจะบึ้ง ไม่ค่อยยิ้ม เจ้ากี้เจ้าการ
อัตตาสูงคิดว่าตัวเองเก่ง อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง ผัดวันประกันพรุ่ง

จุดแข็ง
เป็นนักคิดระดับเยี่ยมยอด มองอะไรทะลุปรุโปร่งหลายชั้น เป็นนักพูดที่เก่ง จูงใจคน
เป็นผู้นำหลายวงการ ละเอียดรอบคอบ เจาะลึกในรายละเอียด เห็นความผิดเล็กความผิดน้อยที่คนอื่นไม่เห็น

จุดอ่อน
มองจุดเล็กลืมภาพใหญ่ เปลี่ยนแปลงความคิดตลอดเวลา จุดยืนกลับไปกลับมา
ไม่รักษาสัญญา มีแต่ความคิด ไม่มีความรู้สึก ไม่มี วิจารณญาณ ลังแล มักตัดสินใจผิดพลาด
มักทะเลาวิวาท ทำร้ายจิตใจ เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น มีความทุกข์ เพราะเห็นแต่ปัญหา แต่หาทางแก้ไม่ได้

วิธีแก้ไข้
เลือกความคิด อย่าให้ความคิดลากไป ฝึกสมาธิแบบอานาปานัสสติ เพื่อสงบสติ อารมณ์ เลิกอกุศลจิต คลายจากฟุ้งซ่าน
สร้างวินัย ต้องสร้างกรอบเวลา ฝึกมองภาพรวม คิดให้ครบวงจร หัดมองโลกในแง่ดี พัฒนาสมองด้านขวา
 
ศรัทธาจริต
ลักษณะ
ยึดมั่นอย่างแรงกล้าในบุคคล หลักการหรือความเชื่อถือและความศรัทธา
คิดว่าตัวเองเป็นคนดี น่าศรัทธา ประเสริฐ กว่าคนอื่น เป็นคนจริงจัง พูดมีหลักการ

จุดแข็ง
มีพลังจิตสูงและเข้มแข็งพร้อมที่จะเสียสละเพื่อผู้อื่น
ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองและสังคมไปสู่สภาพที่ดีกว่าเดิม
มีพลังขับเคลื่อนมหาศาล มีลักษณะความเป็นผู้นำ

จุดอ่อน
หู่เบา ความเชื่ออยู่เหนือเหตุผล ถูกหลอกได้ง่าย ยิ่งศรัทธามาก ปัญญายิ่งลดน้อยลง
จิตใจคับแคบ ไม่ยอมรับความคิดที่แตกต่าง ไม่ประนีประนอม มองโลกเป็นขาวและดำ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตนคิดว่าถูกต้อง สามารถทำได้ทุกอย่างแม้แต่ใช้ความรุ่นแรง

วิธีแก้ไข้
นึกถึงกาลามสูตร ใช้หลักเหตุผลพิจารณาเหนือความเชื่อ ใช้ปัญญานำทาง และใช้ศรัทธาขับเคลื่อน
เปิดใจกว้างรับความคิดใหม่ๆ ลดความยึดมั่นในตัวบุคคลหรืออุดมการณ์ ลดความยึดมั่นในตัวตน
พุทธิจริต
ลักษณะ
คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผล มองเรื่องต่างๆ ตามสภาพความเป็นจริงไม่ปรุงแต่ง
พร้อมรับความคิดที่แตกต่างไปจากของตนเอง
ใฝ่เรียนรู้ ช่างสังเกตุ มีความเมตตาไม่เอาเปรียบคน หน้าตาผ่องใส ตาเป็นประกาย ไม่ทุกข์

จุดแข็ง
สามารถเห็นเหตุเห็นผลได้ชัดเจน และรู้วิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างถูกต้อง
อัตตาต่ำ เปิดใจรับข้อเท็จจริง จิตอยู่ในปัจจุบัน ไม่จมปลักในอดีต
และไม่กังวลในสิ่งที่จะเกิดในอนาคต พัฒนาปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ เป็นกัลยาณมิตร
จุดอ่อน
มีความเฉื่อยไม่ต้องการพัฒนาจิตวิญญาณ ชีวิตราบรื่นมาตลอด หากต้องเผชิญพลังด้านลบ อาจเอาตัวไม่รอด
ไม่มีความเป็นผู้นำ จิตไม่มีพลังพอที่จะดึงดูดคนให้คล้อยตาม

วิธีแก้ไข้
ถามตัวเองว่าพอใจแล้วหรือกับสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบัน
เพิ่มพลังสติสมาธิ พัฒนาจิตใจให้มีพลังขับเคลื่อนที่แรงขึ้น เพิ่มความเมตา พยายามทำให้ประโยชน์ให้กับสังคมมากขึ้น

2
เป็น Forward mail น่ะครับ จากวัดปัญญานันทาราม

พระท่านนำเรื่องนี้มาแฉพร้อมสอนอีกครั้ง
ให้ทุกคนได้รู้เท่าทันและพึงกระทำสิ่งใดด้วยปัญญาอย่างแท้จริง
มีกล้องอยู่ก็พยายามถ่ายมาแต่ก็ไม่ค่อยชัดและถ่ายไม่ทันบ้างเพราะ
กล้องมันเจ๊งนิดนึงและ
ถ่ายติดๆกันไม่ได้ แต่ก็น่าจะพอเอามาเล่าสู่ให้เห็นคร่าวๆได้นะ

เรื่องมันก็เกี่ยวกับ "สังฆทาน" และ "ถังสังฆทาน"
พระท่านนำถังสังฆทานมาให้ดูพร้อมกับแกะให้เห็นกันจะๆ

เอาเบาะๆก่อนที่ทุกคนพอจะเดาได้อยู่แล้วก็คือถังมันไม่ได้เต็มหรอก
มีแค่ของที่เอาแปะไว้ให้เห็นรอบๆกับด้านบน นอกนั้นก็กลวงหรือไม่ก็
เอากระดาษยัดแทน


ต่อมาก็ของข้างในแต่ละอย่าง
มันจะมีพวกกล่องชากับอะไรอีกอย่างจำไม่ได้โทษที
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรที่สำคัญคือในกล่องนั้น!!!
อันที่เป็นชามันมีซองชาสี่เหลี่ยมเล็กๆอยู่ไม่กี่ซอง! 3ซองอะไรประมาณนี้ได้
บางอันก็ว่างเปล่า! แปลว่าไม่มีอะไรเลย!!
พระท่านบอกดูซิๆ ซื้อกันมาทำไมเนี่ย

ต่อไปกล่องธูปเทียน


มันมีอยู่ไม่กี่อันอีกแล้วคะท่าน!
กว่าจะนำไปใช้จริงได้ต้องรวมเท่าไหร่กันนี่


ต่อไปอันนี้ ข้าว

พระท่านบอกว่าข้าวก็มีอยู่นิดเดียว
เมื่อไหร่จะรวมกันจนสามารถหุงเลี้ยงพระหรือคนได้จริงๆ
อีกนาน... แล้วก็นี่ แปรงสีฟัน...

พระท่านบอกว่า
ดูซิแปรงเข้าไปได้ยังไง ฟันหลุดแน่ๆ!!
มันแข็งมาก...
และสุดท้าย เด็ดสุด
จีวร ผ้าอาบน้ำพระ(ถ้าเรียกผิดก็ขออภัยค่ะ)

มันผืนเท่าเนี๊ยะ!!!
ห่มยังไม่มิดเลย!!!!
พระท่านบอกว่าใช้นุ่งอาบไม่ได้ แต่ใช้มาผูกตาแล้วอาบก็พอได้อยู่555

สรุปแล้วใช้ประโยชน์จริงไม่ได้!

ประการฉะนี้แล......
ที่เอามาแฉนี่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ทุกคนเลิกซื้อถังสังฆทานถวายพระนะ
เพียงแต่จะบอกเพื่อให้ได้รู้เท่าทัน
และลองใช้ปัญญาคิดดูว่า สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร
สิ่งใดเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง

สำหรับบางคนอาจคิดว่าบางแห่งวัดก็ใช้เป็นสังฆทานเวียนแล้วนำเงิน
ที่ได้จากการขายไปซื้อของเครื่องใช้ที่จำเป็น นั่นก็ไม่ได้ผิดอะไรไม่มีปัญหา
มันก็เป็นวิธีการ เป็นสัญลักษณ์

แต่ที่จะบอกจริงๆ พระท่านสอนทิ้งท้ายว่า
"สังฆทาน"
หมายถึงการทำทานที่เป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก
ไม่ได้หมายถึงถังสังฆทาน มันไม่จำเป็นต้องเป็นถังสังฆทาน
แต่การที่เราซื้ออะไรที่จะเป็นประโยชน์ใช้ได้จริงไปถวายวัด
เช่น อาจซื้อน้ำยาล้างจานแบบขวดใหญ่ๆไปถวาย
ถุงดำถุงขยะ แฟ๊บกล่องใหญ่ หรือซื้อข้าวซักถุง ไม้กวาดซักด้าม ฯลฯ
เหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก ล้วนเป็นสังฆทานทั้งสิ้น
อาจใช้วิธีถามที่วัดว่า ขาดเหลืออะไรยังไง เราก็จะได้ถวายสิ่งที่จะเกิดประโยชน์
และถูกนำไปใช้จริง เท่านี้ก็ได้บุญหลายๆแล้ว

ถ้าเรารู้จักดำเนินชีวิตอย่างมีสติปัญญา ไม่ไปยึดติดกับรูปแบบ
หรือสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และการทำความดีอย่างแท้จริง
เรื่องเหล่านี้เอาไปประยุกต์กับชีวิตประจำวันอื่นๆได้
จะได้ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นสุข รู้เท่าทัน และหลั่นล้าต่อไป (อันสุดท้ายนี่อะไร!!!)

จริงๆเรื่องราวที่น่าสนใจของวัดปัญญาฯยังมีอีกเพียบเลย
โอกาสหน้าจะเอามาเล่าสู่กันฟังอีก
เพราะวัดปัญญานันทาราม เป็นวัดที่เปี่ยมไปด้วย"ปัญญา"จริงๆ!

3
ผมไปมาสองครั้งแล้วครับ อยากจะลองให้พี่ๆ เพือนๆ น้องๆ มีเวลาว่างลองไปปฎิบัติสักครั้งหนึ่งในชีวิต ครับ
โครงการปฏิบัติธรรมประจำปี ๒๕๕๒
สำนักปฏิบัติธรรมประจำกรุงเทพมหานคร แห่งที่ ๑๖
วัดบรมสถล (วัดดอน)
ติดต่อสอบถามรายละเอียด
การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ได้ที่ :
สำนักงานวัดบรมสถล (วัดดอน) แขวงยานนาวา
เขตสาทร กรุงเทพฯ ๑๐๑๒๐
โทรศัพท์ ๐๒-๒๑๑-๕๑๔๙ มือถือ ๐๘๑-๕๕๕-๔๐๐๙
www.watdon.net
www.watdon.co.cc
เดินทางโดย :
เรือด่วนท่าเรือสาทร , รถไฟฟ้า BTS สถานีตากสิน
รถประจำทางสาย ๑,๑๕,๑๗,๓๕,๗๕,๑๖๓,๕๐๔,๕๔๔,๕๔๗


ระเบียบการปฏิบัติธรรม
•   ผู้ เข้าอบรมต้องแจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่ของสำนัก ณ สำนักงานวิปัสสนา และลงทะเบียนในแบบฟอร์มที่กำหนดให้ โดยแสดงบัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการหรือสำเนาทะเบียนบ้าน
•   ผู้เข้าอบรมต้องไม่วิกลจริต ไม่เป็นโรคติดต่อที่สังคมรังเกียจ และไม่เป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษทุกชนิด
•   ผู้เข้าอบรมต้องนำโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดฝากไว้กับเจ้าหน้าที่
•   ผู้เข้าอบรมเมื่อเข้าปฏิบัติแล้ว กรุณางดการพบปะ, พูดคุย หรือติดต่อสื่อสารใด ๆ ทั้งสิ้น จนกว่าจะออกจากสำนัก
•   ผู้ เข้าอบรมต้องปฏิบัติเต็มเวลาที่กำหนด โดยมีสติกำหนดรู้การเคลื่อนไหวและความเป็นไปของรูปนาม  คือกายใจโดยละเอียด นับตั้งแต่ตื่นนอนถึงเข้านอนและหลับไป
•   ผู้เข้าอบรมต้องแต่งกายให้สะอาด สุภาพ เรียบร้อย ด้วยชุดขาว
•   ผู้เข้าอบรมต้องดูแลรักษาความสะอาดอาคารพักและห้องน้ำ ก่อนกลับบ้านต้องนำเครื่องนอนทุกชิ้นส่งคืนเจ้าหน้าที่
•   ผู้เข้าอบรมต้องหมั่นระวังและรักษาศีลของตนเองให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ
•   งดรับรองญาติ - มิตร ในสถานที่ปฏิบัติธรรม เพราะจะทำให้เกิดเสียงรบกวนขณะปฏิบัติธรรมกับส่วนรวมได้
•   ห้ามการเคลื่อนย้าย ของใช้ที่จำเป็นที่มีอยู่ในเสนาสนะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
•   ห้ามออกนอกบริเวณวัด ในระหว่างการปฏิบัติธรรมโดยเด็ดขาด
•   กรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบของทางสำนักได้ ทางสำนักจะพิจารณาโดยการตักเตือน หรือให้ออกจากสำนักเพื่อความเป็นระเบียบ

สิ่งของที่ต้องจัดเตรียมมา / ไม่ต้องนำมา
•   เสื้อผ้าชุดขาว ไม่บางหรือรัดรูปเกินไป
งดใส่กางเกงหรือกระโปรงสั้น
•   ของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่,แปรงสีฟัน,ยาสีฟัน,ยาสระผม และ ยารักษาโรค
•   งดนำเครื่องประดับหรือสิ่งของมีค่าติดตัวมาด้วย หากสูญหายทางสำนักจะไม่รับผิดชอบ
•   งดนำโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนเครื่องมือสื่อสารใดๆ มาใช้ภายในสำนัก
•   งดนำหนังสือหรือตำราใด ๆ มาอ่านในระหว่างการปฏิบัติธรรม

4
ได้มีโอกาศแวะไป ลำปางครับ เลย พอมีเวลาว่าง เลยแวะกราบ หลวงพี่ญา วัดนางเหลียว จ.ลำปางครับ ท่านใจดีให้มา 1 ลายครับ ท่านบอกว่าเป็นยันต์ครู ผมก้อจำชื่อไม่ได้ ครับ จังหวะนั้น เจ็บมาก นึกอะไรไม่ออก


หน้า: [1]