ผู้เขียน หัวข้อ: สักการะพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ที่ “วัดเทวราชกุญชร” กรุงเทพมหานคร  (อ่าน 13738 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ธรรมะรักโข

  • มีสติ...กำหนดรู้...อยู่ที่จิต
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 749
  • เพศ: ชาย
  • ผู้รักษาธรรม
    • ดูรายละเอียด

พระอุโบสถวัดเทวราชกุญชร


สักการะพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ที่ “วัดเทวราชกุญชร”

เวลาที่นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาผ่านที่ท่าน้ำเทเวศร์ทีไร สายตาก็จะมองไปเจอสิ่งก่อสร้างภายในวัดแห่งหนึ่ง ดูท่าว่าจะเป็นศาลาหรือวิหารของวัด มองเห็นหน้าบันเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณเห็นได้ชัด และที่ท่าน้ำของวัดนี้ก็มักจะมีคนมาปล่อยหอยปล่อยปลาหรือมาให้อาหารปลาอยู่บ่อยๆ

มารู้ทีหลังว่าวัดนี้คือ “วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร” พระอารามหลวงในย่านเทเวศร์ จึงตั้งใจไว้ว่าจะต้องเข้าไปไหว้พระและชมสิ่งต่างๆ ภายในวัดให้ได้สักวันหนึ่ง

หลังจากสบโอกาสเหมาะในวันที่อากาศดี ก็ได้มากราบพระที่วัดเทวราชกุญชรนี้จนได้ และก็ได้รู้ประวัติของวัดนี้ว่าเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เดิมมีชื่อว่า วัดสมอแครง คู่กับ วัดสมอราย หรือวัดราชาธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก คำว่า “สมอแครง” นั้น น่าจะมาจากคำว่าถมอแครง เป็นภาษาเขมร แปลว่าหินแกร่ง แต่เรียกเพี้ยนกันต่อมาเป็นวัดสมอแครง



พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ด้านหลังเป็นอาคารไม้สักทอง


จนมาเปลี่ยนชื่ออีกครั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อพระองค์ทรงรับวัดสมอแครงนี้เป็นพระอารามหลวง และพระราชทานชื่อวัดให้ใหม่ว่า “วัดเทวราชกุญชร” โดยนำชื่อมาจากพระนามเดิมของ กรมพระพิทักษ์เทเวศร์ ต้นสกุล กุญชร ณ อยุธยา พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ผู้ที่ทรงเป็นคนบูรณปฏิสังขรณ์วัด

ตามชื่อของวัดเทวราชกุญชรนั้น หากแปลให้ตรงตัวก็คือช้างของเทวดา หรือหมายถึงพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณนั่นเอง ดังนั้นตราสัญลักษณ์ของวัดเทวราชกุญชรซึ่งเขียนขึ้นโดยกรมศิลปากรนั้นจึงเป็นภาพพระอินทร์ทรงประทับบนช้างเอราวัณ พระอินทร์ทรงถือวชิราวุธซึ่งเป็นอาวุธประจำพระองค์ มีฉัตรสีขาว 7 ชั้น อยู่ด้านซ้ายและขวาประทับนั่งอยู่บนช้างเอราวัณ

และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางวัดเทวราชกุญชรก็ได้จัดทำประติมากรรมหล่อสัมฤทธิ์เป็น รูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ของวัดเทวราชกุญชร เพื่อมาประดิษฐานไว้ที่วัดให้ประชาชนได้สักการะกัน แต่ก่อนที่จะไปไหว้พระอินทร์ ก็ตามเรามาไหว้พระและชมสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจภายในวัดกันก่อนดีกว่า



พระพุทธเทวราชปฏิมากร พระประธานภายในพระอุโบสถ


สถานที่แรกที่ฉันมุ่งตรงไปก็คือ พระอุโบสถ ของวัดเทวราชกุญชร ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โดยมีรูปทรงคล้ายกับพระอุโบสถวัดพระแก้ว และเข้าไปกราบพระประธานภายในพระอุโบสถของวัด ซึ่งมี “พระพุทธเทวราชปฏิมากร” พระพุทธรูปปางมารวิชัยนั่งสง่าเป็นพระประธานอยู่ด้านใน ซึ่งนามของพระพุทธรูปนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นผู้พระราชทานให้

และสิ่งที่น่าสนใจภายในพระอุโบสถที่จะขอแนะนำให้ได้เดินชมกันก็คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังของวัด ที่ด้านบนเหนือช่องหน้าต่างเขียนเป็นภาพเทวดาชุมนุมกันขณะที่พระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ส่วนสิ่งที่น่าสนใจก็อยู่ที่จิตรกรรมฝาผนังส่วนล่างลงมาระหว่างช่องหน้าต่าง ซึ่งวาดเป็น รูปพระภิกษุกำลังปลงอสุภกรรมฐาน หรือเจริญกรรมฐานด้วยการเพ่งมองศพ เพื่อให้เห็นว่าคนเราที่ดูสวยสดงดงามยามมีชีวิตนั้น พอตายลงก็กลายเป็นซากศพ เป็นของน่าเกลียดโสโครก โดยการเจริญกรรมฐานประเภทนี้จะเป็นการระงับอารมณ์ใคร่และกามารมณ์ ก็เป็นภาพจิตรกรรมที่แปลกแตกต่างจากวัดอื่นๆ ไม่น้อย


เข้าไปกราบพระในมณฑปจตุรมุขกันได้ 


ออกจากพระอุโบสถมาแล้ว อย่าลืมไปกราบพระใน มณฑปจตุรมุข มณฑปที่สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2536 แทนที่พระอุโบสถหลังเก่าที่ทรุดโทรมมากแล้ว ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อดำ” พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งด้านตรงข้ามพระประธานก็ยังมี หุ่นขี้ผึ้งรูปจำลองพระอริยมุนี (ศรี ฐิตพโล) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 9 ซึ่งเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของบรรดาลูกศิษย์เป็นอย่างมาก จึงได้ร่วมกันสร้างหุ่นขี้ผึ้งจำลองรูปของท่านขึ้นมาให้ได้สักการะกัน

กราบพระเรียบร้อยแล้วคราวนี้เราจะไปสักการะพระอินทร์กัน รูปหล่อของพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณนี้ได้มีการขนย้ายและบวงสรวงกันมาตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งก็มีประชาชนมากมายมาร่วมขบวนแห่ และได้ไปชมการนำพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณขึ้นประดิษฐานบนแท่น

และสำหรับผู้ที่ต้องการมากราบสักการะพระอินทร์นั้น ทางวัดก็ได้เตรียมเครื่องบูชาทิพย์ไว้ให้บริการ เพราะไม่อนุญาตให้บูชาด้วยพวงมาลัย ดอกไม้ หรือจุดธูปเทียนปิดทองแต่อย่างใด และเครื่องบูชาทิพย์ที่ว่านั้นก็ประกอบไปด้วยผ้าปกกระพอง ผ้าเยียรบับ พู่จามรี สายประโคน และดอกไม้ทิพย์ พร้อมธูปเทียน ทอง เงิน นาก



ภาพจิตรกรรมฝาผนังภิกษุปลงอสุภะ


รูปหล่อของพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ นี้ตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารไม้สักทองที่กำลังก่อสร้างเพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์ของวัด โดยอาคารไม้สักทองนี้แต่เดิมเคยเป็นบ้านไม้สักทองหลังใหญ่อยู่ที่จังหวัดแพร่ ก่อนจะถูกขายและนำมาไว้ที่นาวิน ปาร์ค ที่รังสิต จังหวัดปทุมธานี และจากนั้น ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน และท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน ก็ได้ถวายบ้านสักทองหลังนี้ให้แก่วัดเทวราชกุญชร เพื่อสร้างเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้สักทองให้เป็นแหล่งเรียนรู้และอนุรักษ์ เป็นศูนย์เผยแพร่ความรู้ทางด้านพระพุทธศาสนา และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อปี พ.ศ.2549 และทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ในปี พ.ศ.2550 ด้วย

ที่วัดเทวราชฯ ยังไม่หมดสิ่งที่น่าสนใจแต่เพียงเท่านี้ เพราะเมื่อเดินชมไปรอบๆ ก็ได้เห็นอาคารหลายหลังใกล้ๆ กับอาคารไม้สักทอง ซึ่งเป็นอาคารทรงปั้นหยาหลังคามุงกระเบื้องว่าว ดูแล้วได้บรรยากาศของอาคารสมัยเก่า อาคารทรงปั้นหยาชั้นเดียวทาด้วยสีเหลืองสดใสนั้นเป็น โรงเรียนพระปริยัติธรรม ส่วน อาคารเทวราชธรรมศาลา นั้นก็คือศาลาการเปรียญ เป็นอาคาร 2 ชั้น ศิลปะทรงไทยตรีมุข มีบันไดทางขึ้นสองทางทั้งซ้ายและขวา ด้านบนมีพระพุทธรัตนโกสินทร์มหาวชิราลงกรณ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระราชทานให้ไว้



กุฏิเทวราชกุญชร กุฏิเจ้าอาวาส


ส่วน กุฏิเทวราชกุญชร นั้น ก็เป็นกุฏิของเจ้าอาวาส เป็นอาคารทรงปั้นหยาสองชั้นสวยงามเช่นกัน และถัดจากจากกุฏิเทวราชกุญชรคือ เรือนเทวราชธรรมสภา อาคารทรงตรีมุขสองชั้นที่ได้รับอิทธิพลจากทางตะวันตก ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานเลขานุการของวัด ซึ่งสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ในวัดนี้ถูกบูรณะขึ้นมาจนสะอาดเรียบร้อยสวยงามอย่างที่เห็นทุกวันนี้ก็ในช่วงปี พ.ศ.2544 ที่ พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต) มาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดนี้นั่นเอง

และนี่ก็เป็นอีกวัดหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่อยากจะแนะนำให้คนที่ชอบเข้าวัดเข้าวาได้มากราบไหว้สักการะพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และชมความงดงามของสิ่งก่อสร้างภายในวัดกัน

 

พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต) เจ้าอาวาส



วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ 90 ถนนศรีอยุธยา แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 หากมาจากทางเทเวศร์เมื่อถึงแยกสี่เสาเทเวศร์ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างหอสมุด วัดจะอยู่ตรงสุดซอย มีรถประจำทางสาย 3, 9, 16, 19, 30, 32, 33, 43, 64, 65, 110 ผ่าน 



ขอขอบคุณที่มา...โดย ผู้จัดการออนไลน์
 

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณมากครับ เป็นพระอารามที่สวยงามมาก เป็นต้นแบบของการดูแลรักษาความสะอาดและ บรรยกาศทางภูมิทัศน์

ของเก่า ของใหม่ ผสมผสานกันลงตัว น่าเข้าไปกราบไหว้สักการะ จริงๆ

ช่วงนี้ พระอินทร์ทีราชประสงค์ คงไปไม่ไหว 

เ้ข้าวัดดีกว่า สบายใจ   :050: :050: :095: :095:

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณพี่ธรรมมะรักโขมากนะครับ สำหรับข้อมูลดีๆ
น่าไปจังเลยครับ   :015:

ออฟไลน์ phongsak_ng

  • *ที่เกิด/เดียวกัน*ที่อยู่/แตกต่างกัน*ที่ไป/ไม่รู้*
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 335
  • เพศ: ชาย
  • ชีวิตก็แค่-เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-เสื่อมคลาย-ดับศูนย์
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
 :054: ขอขอบพระคุณ..
       
            :053: :053: ที่ได้แจ้งให้รับทราบรับรู้ถึงข้อมูลของวัดเพื่อการแวะเวียนไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณท่านธรรมะรักโข มากครับสำหรับประวัติและรายละเอียดวัดเทวราชกุญชร :001:

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ mew2

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 357
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ขอตายไปพร้อมกับคำว่าสักยันต์

ออฟไลน์ เด็กลาดพร้าว

  • ตติยะ
  • ***
  • กระทู้: 52
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
พระประธานองค์เก่าที่วัดสมอแครง อยู่ที่วัดบึงทองหลางครับ

ชื่อหลวงพ่อพรศรีเวสสุวัน ครับผม